Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya |
๗. มหาจตฺตารีสกสุตฺตํ
7. Mahācattārīsakasuttaṃ
๑๓๖. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติฯ ‘‘ภทเนฺต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจโสฺสสุํฯ ภควา เอตทโวจ – ‘‘อริยํ โว, ภิกฺขเว, สมฺมาสมาธิํ เทเสสฺสามิ สอุปนิสํ สปริกฺขารํฯ ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจโสฺสสุํฯ ภควา เอตทโวจ –
136. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Tatra kho bhagavā bhikkhū āmantesi – ‘‘bhikkhavo’’ti. ‘‘Bhadante’’ti te bhikkhū bhagavato paccassosuṃ. Bhagavā etadavoca – ‘‘ariyaṃ vo, bhikkhave, sammāsamādhiṃ desessāmi saupanisaṃ saparikkhāraṃ. Taṃ suṇātha, sādhukaṃ manasi karotha; bhāsissāmī’’ti. ‘‘Evaṃ, bhante’’ti kho te bhikkhū bhagavato paccassosuṃ. Bhagavā etadavoca –
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, อริโย สมฺมาสมาธิ สอุปนิโส สปริกฺขาโร? เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฎฺฐิ, สมฺมาสงฺกโปฺป, สมฺมาวาจา, สมฺมากมฺมโนฺต, สมฺมาอาชีโว, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติ; ยา โข, ภิกฺขเว, อิเมหิ สตฺตหเงฺคหิ จิตฺตสฺส เอกคฺคตา ปริกฺขตา – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อริโย สมฺมาสมาธิ สอุปนิโส อิติปิ, สปริกฺขาโร อิติปิฯ ตตฺร, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฎฺฐิ ปุพฺพงฺคมา โหติฯ กถญฺจ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฎฺฐิ ปุพฺพงฺคมา โหติ? มิจฺฉาทิฎฺฐิํ ‘มิจฺฉาทิฎฺฐี’ติ ปชานาติ, สมฺมาทิฎฺฐิํ ‘สมฺมาทิฎฺฐี’ติ ปชานาติ – สาสฺส โหติ สมฺมาทิฎฺฐิฯ
‘‘Katamo ca, bhikkhave, ariyo sammāsamādhi saupaniso saparikkhāro? Seyyathidaṃ – sammādiṭṭhi, sammāsaṅkappo, sammāvācā, sammākammanto, sammāājīvo, sammāvāyāmo, sammāsati; yā kho, bhikkhave, imehi sattahaṅgehi cittassa ekaggatā parikkhatā – ayaṃ vuccati, bhikkhave, ariyo sammāsamādhi saupaniso itipi, saparikkhāro itipi. Tatra, bhikkhave, sammādiṭṭhi pubbaṅgamā hoti. Kathañca, bhikkhave, sammādiṭṭhi pubbaṅgamā hoti? Micchādiṭṭhiṃ ‘micchādiṭṭhī’ti pajānāti, sammādiṭṭhiṃ ‘sammādiṭṭhī’ti pajānāti – sāssa hoti sammādiṭṭhi.
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, มิจฺฉาทิฎฺฐิ? ‘นตฺถิ ทินฺนํ, นตฺถิ ยิฎฺฐํ, นตฺถิ หุตํ, นตฺถิ สุกตทุกฺกฎานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, นตฺถิ อยํ โลโก, นตฺถิ ปโร โลโก, นตฺถิ มาตา, นตฺถิ ปิตา, นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, นตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฎิปนฺนา เย อิมญฺจ โลกํ ปรญฺจ โลกํ สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ – อยํ, ภิกฺขเว, มิจฺฉาทิฎฺฐิฯ
‘‘Katamā ca, bhikkhave, micchādiṭṭhi? ‘Natthi dinnaṃ, natthi yiṭṭhaṃ, natthi hutaṃ, natthi sukatadukkaṭānaṃ kammānaṃ phalaṃ vipāko, natthi ayaṃ loko, natthi paro loko, natthi mātā, natthi pitā, natthi sattā opapātikā, natthi loke samaṇabrāhmaṇā sammaggatā sammāpaṭipannā ye imañca lokaṃ parañca lokaṃ sayaṃ abhiññā sacchikatvā pavedentī’ti – ayaṃ, bhikkhave, micchādiṭṭhi.
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฎฺฐิ? สมฺมาทิฎฺฐิํปหํ 1, ภิกฺขเว, ทฺวายํ 2 วทามิ – อตฺถิ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฎฺฐิ สาสวา ปุญฺญภาคิยา อุปธิเวปกฺกา; อตฺถิ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฎฺฐิ อริยา อนาสวา โลกุตฺตรา มคฺคงฺคาฯ กตมา จ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฎฺฐิ สาสวา ปุญฺญภาคิยา อุปธิเวปกฺกา ? ‘อตฺถิ ทินฺนํ, อตฺถิ ยิฎฺฐํ, อตฺถิ หุตํ, อตฺถิ สุกตทุกฺกฎานํ กมฺมานํ ผลํ วิปาโก, อตฺถิ อยํ โลโก, อตฺถิ ปโร โลโก, อตฺถิ มาตา, อตฺถิ ปิตา, อตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา, อตฺถิ โลเก สมณพฺราหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฎิปนฺนา เย อิมญฺจ โลกํ ปรญฺจ โลกํ สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนฺตี’ติ – อยํ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฎฺฐิ สาสวา ปุญฺญภาคิยา อุปธิเวปกฺกาฯ
‘‘Katamā ca, bhikkhave, sammādiṭṭhi? Sammādiṭṭhiṃpahaṃ 3, bhikkhave, dvāyaṃ 4 vadāmi – atthi, bhikkhave, sammādiṭṭhi sāsavā puññabhāgiyā upadhivepakkā; atthi, bhikkhave, sammādiṭṭhi ariyā anāsavā lokuttarā maggaṅgā. Katamā ca, bhikkhave, sammādiṭṭhi sāsavā puññabhāgiyā upadhivepakkā ? ‘Atthi dinnaṃ, atthi yiṭṭhaṃ, atthi hutaṃ, atthi sukatadukkaṭānaṃ kammānaṃ phalaṃ vipāko, atthi ayaṃ loko, atthi paro loko, atthi mātā, atthi pitā, atthi sattā opapātikā, atthi loke samaṇabrāhmaṇā sammaggatā sammāpaṭipannā ye imañca lokaṃ parañca lokaṃ sayaṃ abhiññā sacchikatvā pavedentī’ti – ayaṃ, bhikkhave, sammādiṭṭhi sāsavā puññabhāgiyā upadhivepakkā.
‘‘กตมา จ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฎฺฐิ อริยา อนาสวา โลกุตฺตรา มคฺคงฺคา? ยา โข, ภิกฺขเว, อริยจิตฺตสฺส อนาสวจิตฺตสฺส อริยมคฺคสมงฺคิโน อริยมคฺคํ ภาวยโต ปญฺญา ปญฺญินฺทฺริยํ ปญฺญาพลํ ธมฺมวิจยสโมฺพชฺฌโงฺค สมฺมาทิฎฺฐิ มคฺคงฺคํ 5 – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฎฺฐิ อริยา อนาสวา โลกุตฺตรา มคฺคงฺคาฯ โส มิจฺฉาทิฎฺฐิยา ปหานาย วายมติ, สมฺมาทิฎฺฐิยา, อุปสมฺปทาย, สฺวาสฺส 6 โหติ สมฺมาวายาโมฯ โส สโต มิจฺฉาทิฎฺฐิํ ปชหติ, สโต สมฺมาทิฎฺฐิํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, สาสฺส 7 โหติ สมฺมาสติฯ อิติยิเม 8 ตโย ธมฺมา สมฺมาทิฎฺฐิํ อนุปริธาวนฺติ อนุปริวตฺตนฺติ, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฎฺฐิ, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติฯ
‘‘Katamā ca, bhikkhave, sammādiṭṭhi ariyā anāsavā lokuttarā maggaṅgā? Yā kho, bhikkhave, ariyacittassa anāsavacittassa ariyamaggasamaṅgino ariyamaggaṃ bhāvayato paññā paññindriyaṃ paññābalaṃ dhammavicayasambojjhaṅgo sammādiṭṭhi maggaṅgaṃ 9 – ayaṃ vuccati, bhikkhave, sammādiṭṭhi ariyā anāsavā lokuttarā maggaṅgā. So micchādiṭṭhiyā pahānāya vāyamati, sammādiṭṭhiyā, upasampadāya, svāssa 10 hoti sammāvāyāmo. So sato micchādiṭṭhiṃ pajahati, sato sammādiṭṭhiṃ upasampajja viharati, sāssa 11 hoti sammāsati. Itiyime 12 tayo dhammā sammādiṭṭhiṃ anuparidhāvanti anuparivattanti, seyyathidaṃ – sammādiṭṭhi, sammāvāyāmo, sammāsati.
๑๓๗. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฎฺฐิ ปุพฺพงฺคมา โหติฯ กถญฺจ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฎฺฐิ ปุพฺพงฺคมา โหติ? มิจฺฉาสงฺกปฺปํ ‘มิจฺฉาสงฺกโปฺป’ติ ปชานาติ, สมฺมาสงฺกปฺปํ ‘สมฺมาสงฺกโปฺป’ติ ปชานาติ, สาสฺส โหติ สมฺมาทิฎฺฐิ ฯ
137. ‘‘Tatra, bhikkhave, sammādiṭṭhi pubbaṅgamā hoti. Kathañca, bhikkhave, sammādiṭṭhi pubbaṅgamā hoti? Micchāsaṅkappaṃ ‘micchāsaṅkappo’ti pajānāti, sammāsaṅkappaṃ ‘sammāsaṅkappo’ti pajānāti, sāssa hoti sammādiṭṭhi .
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, มิจฺฉาสงฺกโปฺป? กามสงฺกโปฺป, พฺยาปาทสงฺกโปฺป, วิหิํสาสงฺกโปฺป – อยํ, ภิกฺขเว, มิจฺฉาสงฺกโปฺปฯ
‘‘Katamo ca, bhikkhave, micchāsaṅkappo? Kāmasaṅkappo, byāpādasaṅkappo, vihiṃsāsaṅkappo – ayaṃ, bhikkhave, micchāsaṅkappo.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, สมฺมาสงฺกโปฺป? สมฺมาสงฺกปฺปํปหํ, ภิกฺขเว, ทฺวายํ วทามิ – อตฺถิ, ภิกฺขเว, สมฺมาสงฺกโปฺป สาสโว ปุญฺญภาคิโย อุปธิเวปโกฺก; อตฺถิ, ภิกฺขเว, สมฺมาสงฺกโปฺป อริโย อนาสโว โลกุตฺตโร มคฺคโงฺคฯ กตโม จ, ภิกฺขเว, สมฺมาสงฺกโปฺป สาสโว ปุญฺญภาคิโย อุปธิเวปโกฺก? เนกฺขมฺมสงฺกโปฺป, อพฺยาปาทสงฺกโปฺป, อวิหิํสาสงฺกโปฺป – ‘อยํ, ภิกฺขเว, สมฺมาสงฺกโปฺป สาสโว ปุญฺญภาคิโย อุปธิเวปโกฺก’’’ฯ
‘‘Katamo ca, bhikkhave, sammāsaṅkappo? Sammāsaṅkappaṃpahaṃ, bhikkhave, dvāyaṃ vadāmi – atthi, bhikkhave, sammāsaṅkappo sāsavo puññabhāgiyo upadhivepakko; atthi, bhikkhave, sammāsaṅkappo ariyo anāsavo lokuttaro maggaṅgo. Katamo ca, bhikkhave, sammāsaṅkappo sāsavo puññabhāgiyo upadhivepakko? Nekkhammasaṅkappo, abyāpādasaṅkappo, avihiṃsāsaṅkappo – ‘ayaṃ, bhikkhave, sammāsaṅkappo sāsavo puññabhāgiyo upadhivepakko’’’.
‘‘กตโม จ, ภิกฺขเว, สมฺมาสงฺกโปฺป อริโย อนาสโว โลกุตฺตโร มคฺคโงฺค? โย โข, ภิกฺขเว, อริยจิตฺตสฺส อนาสวจิตฺตสฺส อริยมคฺคสมงฺคิโน อริยมคฺคํ ภาวยโต ตโกฺก วิตโกฺก สงฺกโปฺป อปฺปนา พฺยปฺปนา เจตโส อภินิโรปนา วจีสงฺขาโร – อยํ, ภิกฺขเว, สมฺมาสงฺกโปฺป อริโย อนาสโว โลกุตฺตโร มคฺคโงฺคฯ โส มิจฺฉาสงฺกปฺปสฺส ปหานาย วายมติ, สมฺมาสงฺกปฺปสฺส อุปสมฺปทาย, สฺวาสฺส โหติ สมฺมาวายาโมฯ โส สโต มิจฺฉาสงฺกปฺปํ ปชหติ, สโต สมฺมาสงฺกปฺปํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; สาสฺส โหติ สมฺมาสติฯ อิติยิเม ตโย ธมฺมา สมฺมาสงฺกปฺปํ อนุปริธาวนฺติ อนุปริวตฺตนฺติ, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฎฺฐิ, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติฯ
‘‘Katamo ca, bhikkhave, sammāsaṅkappo ariyo anāsavo lokuttaro maggaṅgo? Yo kho, bhikkhave, ariyacittassa anāsavacittassa ariyamaggasamaṅgino ariyamaggaṃ bhāvayato takko vitakko saṅkappo appanā byappanā cetaso abhiniropanā vacīsaṅkhāro – ayaṃ, bhikkhave, sammāsaṅkappo ariyo anāsavo lokuttaro maggaṅgo. So micchāsaṅkappassa pahānāya vāyamati, sammāsaṅkappassa upasampadāya, svāssa hoti sammāvāyāmo. So sato micchāsaṅkappaṃ pajahati, sato sammāsaṅkappaṃ upasampajja viharati; sāssa hoti sammāsati. Itiyime tayo dhammā sammāsaṅkappaṃ anuparidhāvanti anuparivattanti, seyyathidaṃ – sammādiṭṭhi, sammāvāyāmo, sammāsati.
๑๓๘. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฎฺฐิ ปุพฺพงฺคมา โหติฯ กถญฺจ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฎฺฐิ ปุพฺพงฺคมา โหติ? มิจฺฉาวาจํ ‘มิจฺฉาวาจา’ติ ปชานาติ, สมฺมาวาจํ ‘สมฺมาวาจา’ติ ปชานาติ; สาสฺส โหติ สมฺมาทิฎฺฐิฯ กตมา จ, ภิกฺขเว, มิจฺฉาวาจา? มุสาวาโท, ปิสุณา วาจา, ผรุสา วาจา, สมฺผปฺปลาโป – อยํ, ภิกฺขเว, มิจฺฉาวาจาฯ กตมา จ, ภิกฺขเว, สมฺมาวาจา? สมฺมาวาจํปหํ, ภิกฺขเว, ทฺวายํ วทามิ – อตฺถิ, ภิกฺขเว, สมฺมาวาจา สาสวา ปุญฺญภาคิยา อุปธิเวปกฺกา; อตฺถิ, ภิกฺขเว , สมฺมาวาจา อริยา อนาสวา โลกุตฺตรา มคฺคงฺคาฯ กตมา จ, ภิกฺขเว, สมฺมาวาจา สาสวา ปุญฺญภาคิยา อุปธิเวปกฺกา? มุสาวาทา เวรมณี, ปิสุณาย วาจาย เวรมณี, ผรุสาย วาจาย เวรมณี, สมฺผปฺปลาปา เวรมณี – อยํ, ภิกฺขเว, สมฺมาวาจา สาสวา ปุญฺญภาคิยา อุปธิเวปกฺกาฯ กตมา จ, ภิกฺขเว, สมฺมาวาจา อริยา อนาสวา โลกุตฺตรา มคฺคงฺคา? ยา โข, ภิกฺขเว, อริยจิตฺตสฺส อนาสวจิตฺตสฺส อริยมคฺคสมงฺคิโน อริยมคฺคํ ภาวยโต จตูหิ วจีทุจฺจริเตหิ อารติ วิรติ ปฎิวิรติ เวรมณี – อยํ, ภิกฺขเว, สมฺมาวาจา อริยา อนาสวา โลกุตฺตรา มคฺคงฺคาฯ โส มิจฺฉาวาจาย ปหานาย วายมติ, สมฺมาวาจาย อุปสมฺปทาย; สฺวาสฺส โหติ สมฺมาวายาโมฯ โส สโต มิจฺฉาวาจํ ปชหติ, สโต สมฺมาวาจํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; สาสฺส โหติ สมฺมาสติฯ อิติยิเม ตโย ธมฺมา สมฺมาวาจํ อนุปริธาวนฺติ อนุปริวตฺตนฺติ, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฎฺฐิ, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติฯ
138. ‘‘Tatra, bhikkhave, sammādiṭṭhi pubbaṅgamā hoti. Kathañca, bhikkhave, sammādiṭṭhi pubbaṅgamā hoti? Micchāvācaṃ ‘micchāvācā’ti pajānāti, sammāvācaṃ ‘sammāvācā’ti pajānāti; sāssa hoti sammādiṭṭhi. Katamā ca, bhikkhave, micchāvācā? Musāvādo, pisuṇā vācā, pharusā vācā, samphappalāpo – ayaṃ, bhikkhave, micchāvācā. Katamā ca, bhikkhave, sammāvācā? Sammāvācaṃpahaṃ, bhikkhave, dvāyaṃ vadāmi – atthi, bhikkhave, sammāvācā sāsavā puññabhāgiyā upadhivepakkā; atthi, bhikkhave , sammāvācā ariyā anāsavā lokuttarā maggaṅgā. Katamā ca, bhikkhave, sammāvācā sāsavā puññabhāgiyā upadhivepakkā? Musāvādā veramaṇī, pisuṇāya vācāya veramaṇī, pharusāya vācāya veramaṇī, samphappalāpā veramaṇī – ayaṃ, bhikkhave, sammāvācā sāsavā puññabhāgiyā upadhivepakkā. Katamā ca, bhikkhave, sammāvācā ariyā anāsavā lokuttarā maggaṅgā? Yā kho, bhikkhave, ariyacittassa anāsavacittassa ariyamaggasamaṅgino ariyamaggaṃ bhāvayato catūhi vacīduccaritehi ārati virati paṭivirati veramaṇī – ayaṃ, bhikkhave, sammāvācā ariyā anāsavā lokuttarā maggaṅgā. So micchāvācāya pahānāya vāyamati, sammāvācāya upasampadāya; svāssa hoti sammāvāyāmo. So sato micchāvācaṃ pajahati, sato sammāvācaṃ upasampajja viharati; sāssa hoti sammāsati. Itiyime tayo dhammā sammāvācaṃ anuparidhāvanti anuparivattanti, seyyathidaṃ – sammādiṭṭhi, sammāvāyāmo, sammāsati.
๑๓๙. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฎฺฐิ ปุพฺพงฺคมา โหติฯ กถญฺจ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฎฺฐิ ปุพฺพงฺคมา โหติ? มิจฺฉากมฺมนฺตํ ‘มิจฺฉากมฺมโนฺต’ติ ปชานาติ, สมฺมากมฺมนฺตํ ‘สมฺมากมฺมโนฺต’ติ ปชานาติ ; สาสฺส โหติ สมฺมาทิฎฺฐิฯ กตโม จ, ภิกฺขเว, มิจฺฉากมฺมโนฺต? ปาณาติปาโต, อทินฺนาทานํ, กาเมสุมิจฺฉาจาโร – อยํ, ภิกฺขเว, มิจฺฉากมฺมโนฺตฯ กตโม จ, ภิกฺขเว, สมฺมากมฺมโนฺต? สมฺมากมฺมนฺตํปหํ, ภิกฺขเว , ทฺวายํ วทามิ – อตฺถิ, ภิกฺขเว, สมฺมากมฺมโนฺต สาสโว ปุญฺญภาคิโย อุปธิเวปโกฺก; อตฺถิ, ภิกฺขเว, สมฺมากมฺมโนฺต อริโย อนาสโว โลกุตฺตโร มคฺคโงฺคฯ กตโม จ, ภิกฺขเว, สมฺมากมฺมโนฺต สาสโว ปุญฺญภาคิโย อุปธิเวปโกฺก? ปาณาติปาตา เวรมณี, อทินฺนาทานา เวรมณี, กาเมสุมิจฺฉาจารา เวรมณี – อยํ, ภิกฺขเว, สมฺมากมฺมโนฺต สาสโว ปุญฺญภาคิโย อุปธิเวปโกฺกฯ กตโม จ, ภิกฺขเว, สมฺมากมฺมโนฺต อริโย อนาสโว โลกุตฺตโร มคฺคโงฺค? ยา โข, ภิกฺขเว, อริยจิตฺตสฺส อนาสวจิตฺตสฺส อริยมคฺคสมงฺคิโน อริยมคฺคํ ภาวยโต ตีหิ กายทุจฺจริเตหิ อารติ วิรติ ปฎิวิรติ เวรมณี – อยํ, ภิกฺขเว, สมฺมากมฺมโนฺต อริโย อนาสโว โลกุตฺตโร มคฺคโงฺคฯ โส มิจฺฉากมฺมนฺตสฺส ปหานาย วายมติ, สมฺมากมฺมนฺตสฺส อุปสมฺปทาย; สฺวาสฺส โหติ สมฺมาวายาโมฯ โส สโต มิจฺฉากมฺมนฺตํ ปชหติ, สโต สมฺมากมฺมนฺตํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; สาสฺส โหติ สมฺมาสติฯ อิติยิเม ตโย ธมฺมา สมฺมากมฺมนฺตํ อนุปริธาวนฺติ อนุปริวตฺตนฺติ, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฎฺฐิ, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติฯ
139. ‘‘Tatra, bhikkhave, sammādiṭṭhi pubbaṅgamā hoti. Kathañca, bhikkhave, sammādiṭṭhi pubbaṅgamā hoti? Micchākammantaṃ ‘micchākammanto’ti pajānāti, sammākammantaṃ ‘sammākammanto’ti pajānāti ; sāssa hoti sammādiṭṭhi. Katamo ca, bhikkhave, micchākammanto? Pāṇātipāto, adinnādānaṃ, kāmesumicchācāro – ayaṃ, bhikkhave, micchākammanto. Katamo ca, bhikkhave, sammākammanto? Sammākammantaṃpahaṃ, bhikkhave , dvāyaṃ vadāmi – atthi, bhikkhave, sammākammanto sāsavo puññabhāgiyo upadhivepakko; atthi, bhikkhave, sammākammanto ariyo anāsavo lokuttaro maggaṅgo. Katamo ca, bhikkhave, sammākammanto sāsavo puññabhāgiyo upadhivepakko? Pāṇātipātā veramaṇī, adinnādānā veramaṇī, kāmesumicchācārā veramaṇī – ayaṃ, bhikkhave, sammākammanto sāsavo puññabhāgiyo upadhivepakko. Katamo ca, bhikkhave, sammākammanto ariyo anāsavo lokuttaro maggaṅgo? Yā kho, bhikkhave, ariyacittassa anāsavacittassa ariyamaggasamaṅgino ariyamaggaṃ bhāvayato tīhi kāyaduccaritehi ārati virati paṭivirati veramaṇī – ayaṃ, bhikkhave, sammākammanto ariyo anāsavo lokuttaro maggaṅgo. So micchākammantassa pahānāya vāyamati, sammākammantassa upasampadāya; svāssa hoti sammāvāyāmo. So sato micchākammantaṃ pajahati, sato sammākammantaṃ upasampajja viharati; sāssa hoti sammāsati. Itiyime tayo dhammā sammākammantaṃ anuparidhāvanti anuparivattanti, seyyathidaṃ – sammādiṭṭhi, sammāvāyāmo, sammāsati.
๑๔๐. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฎฺฐิ ปุพฺพงฺคมา โหติฯ กถญฺจ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฎฺฐิ ปุพฺพงฺคมา โหติ? มิจฺฉาอาชีวํ ‘มิจฺฉาอาชีโว’ติ ปชานาติ, สมฺมาอาชีวํ ‘สมฺมาอาชีโว’ติ ปชานาติ; สาสฺส โหติ สมฺมาทิฎฺฐิฯ กตโม จ, ภิกฺขเว, มิจฺฉาอาชีโว? กุหนา, ลปนา, เนมิตฺติกตา, นิเปฺปสิกตา, ลาเภน ลาภํ นิชิคีสนตา 13 – อยํ, ภิกฺขเว, มิจฺฉาอาชีโวฯ กตโม จ, ภิกฺขเว, สมฺมาอาชีโว? สมฺมาอาชีวํปหํ, ภิกฺขเว , ทฺวายํ วทามิ – อตฺถิ, ภิกฺขเว, สมฺมาอาชีโว สาสโว ปุญฺญภาคิโย อุปธิเวปโกฺก; อตฺถิ, ภิกฺขเว, สมฺมาอาชีโว อริโย อนาสโว โลกุตฺตโร มคฺคโงฺคฯ กตโม จ, ภิกฺขเว, สมฺมาอาชีโว สาสโว ปุญฺญภาคิโย อุปธิเวปโกฺก? อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก มิจฺฉาอาชีวํ ปหาย สมฺมาอาชีเวน ชีวิกํ กเปฺปติ – อยํ, ภิกฺขเว, สมฺมาอาชีโว สาสโว ปุญฺญภาคิโย อุปธิเวปโกฺกฯ กตโม จ, ภิกฺขเว, สมฺมาอาชีโว อริโย อนาสโว โลกุตฺตโร มคฺคโงฺค? ยา โข, ภิกฺขเว, อริยจิตฺตสฺส อนาสวจิตฺตสฺส อริยมคฺคสมงฺคิโน อริยมคฺคํ ภาวยโต มิจฺฉาอาชีวา อารติ วิรติ ปฎิวิรติ เวรมณี – อยํ, ภิกฺขเว, สมฺมาอาชีโว อริโย อนาสโว โลกุตฺตโร มคฺคโงฺคฯ โส มิจฺฉาอาชีวสฺส ปหานาย วายมติ, สมฺมาอาชีวสฺส อุปสมฺปทาย ; สฺวาสฺส โหติ สมฺมาวายาโมฯ โส สโต มิจฺฉาอาชีวํ ปชหติ, สโต สมฺมาอาชีวํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ; สาสฺส โหติ สมฺมาสติฯ อิติยิเม ตโย ธมฺมา สมฺมาอาชีวํ อนุปริธาวนฺติ อนุปริวตฺตนฺติ, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฎฺฐิ, สมฺมาวายาโม, สมฺมาสติฯ
140. ‘‘Tatra, bhikkhave, sammādiṭṭhi pubbaṅgamā hoti. Kathañca, bhikkhave, sammādiṭṭhi pubbaṅgamā hoti? Micchāājīvaṃ ‘micchāājīvo’ti pajānāti, sammāājīvaṃ ‘sammāājīvo’ti pajānāti; sāssa hoti sammādiṭṭhi. Katamo ca, bhikkhave, micchāājīvo? Kuhanā, lapanā, nemittikatā, nippesikatā, lābhena lābhaṃ nijigīsanatā 14 – ayaṃ, bhikkhave, micchāājīvo. Katamo ca, bhikkhave, sammāājīvo? Sammāājīvaṃpahaṃ, bhikkhave , dvāyaṃ vadāmi – atthi, bhikkhave, sammāājīvo sāsavo puññabhāgiyo upadhivepakko; atthi, bhikkhave, sammāājīvo ariyo anāsavo lokuttaro maggaṅgo. Katamo ca, bhikkhave, sammāājīvo sāsavo puññabhāgiyo upadhivepakko? Idha, bhikkhave, ariyasāvako micchāājīvaṃ pahāya sammāājīvena jīvikaṃ kappeti – ayaṃ, bhikkhave, sammāājīvo sāsavo puññabhāgiyo upadhivepakko. Katamo ca, bhikkhave, sammāājīvo ariyo anāsavo lokuttaro maggaṅgo? Yā kho, bhikkhave, ariyacittassa anāsavacittassa ariyamaggasamaṅgino ariyamaggaṃ bhāvayato micchāājīvā ārati virati paṭivirati veramaṇī – ayaṃ, bhikkhave, sammāājīvo ariyo anāsavo lokuttaro maggaṅgo. So micchāājīvassa pahānāya vāyamati, sammāājīvassa upasampadāya ; svāssa hoti sammāvāyāmo. So sato micchāājīvaṃ pajahati, sato sammāājīvaṃ upasampajja viharati; sāssa hoti sammāsati. Itiyime tayo dhammā sammāājīvaṃ anuparidhāvanti anuparivattanti, seyyathidaṃ – sammādiṭṭhi, sammāvāyāmo, sammāsati.
๑๔๑. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฎฺฐิ ปุพฺพงฺคมา โหติฯ กถญฺจ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฎฺฐิ ปุพฺพงฺคมา โหติ? สมฺมาทิฎฺฐิสฺส , ภิกฺขเว, สมฺมาสงฺกโปฺป ปโหติ, สมฺมาสงฺกปฺปสฺส สมฺมาวาจา ปโหติ, สมฺมาวาจสฺส สมฺมากมฺมโนฺต ปโหติ, สมฺมากมฺมนฺตสฺส สมฺมาอาชีโว ปโหติ, สมฺมาอาชีวสฺส สมฺมาวายาโม ปโหติ, สมฺมาวายามสฺส สมฺมาสติ ปโหติ, สมฺมาสติสฺส สมฺมาสมาธิ ปโหติ, สมฺมาสมาธิสฺส สมฺมาญาณํ ปโหติ, สมฺมาญาณสฺส สมฺมาวิมุตฺติ ปโหติฯ อิติ โข, ภิกฺขเว, อฎฺฐงฺคสมนฺนาคโต เสโกฺข 15, ทสงฺคสมนฺนาคโต อรหา โหติฯ (ตตฺรปิ สมฺมาญาเณน อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา วิคตา ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺติ)ฯ
141. ‘‘Tatra, bhikkhave, sammādiṭṭhi pubbaṅgamā hoti. Kathañca, bhikkhave, sammādiṭṭhi pubbaṅgamā hoti? Sammādiṭṭhissa , bhikkhave, sammāsaṅkappo pahoti, sammāsaṅkappassa sammāvācā pahoti, sammāvācassa sammākammanto pahoti, sammākammantassa sammāājīvo pahoti, sammāājīvassa sammāvāyāmo pahoti, sammāvāyāmassa sammāsati pahoti, sammāsatissa sammāsamādhi pahoti, sammāsamādhissa sammāñāṇaṃ pahoti, sammāñāṇassa sammāvimutti pahoti. Iti kho, bhikkhave, aṭṭhaṅgasamannāgato sekkho 16, dasaṅgasamannāgato arahā hoti. (Tatrapi sammāñāṇena aneke pāpakā akusalā dhammā vigatā bhāvanāpāripūriṃ gacchanti).
๑๔๒. ‘‘ตตฺร, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฎฺฐิ ปุพฺพงฺคมา โหติฯ กถญฺจ, ภิกฺขเว, สมฺมาทิฎฺฐิ ปุพฺพงฺคมา โหติ? สมฺมาทิฎฺฐิสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาทิฎฺฐิ นิชฺชิณฺณา โหติฯ เย จ มิจฺฉาทิฎฺฐิปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติฯ สมฺมาทิฎฺฐิปจฺจยา อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺติฯ สมฺมาสงฺกปฺปสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาสงฺกโปฺป นิชฺชิโณฺณ โหติ…เป.… สมฺมาวาจสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาวาจา นิชฺชิณฺณา โหติ… สมฺมากมฺมนฺตสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉากมฺมโนฺต นิชฺชิโณฺณ โหติ… สมฺมาอาชีวสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาอาชีโว นิชฺชิโณฺณ โหติ… สมฺมาวายามสฺส , ภิกฺขเว , มิจฺฉาวายาโม นิชฺชิโณฺณ โหติ… สมฺมาสติสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาสติ นิชฺชิณฺณา โหติ… สมฺมาสมาธิสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาสมาธิ นิชฺชิโณฺณ โหติ… สมฺมาญาณสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาญาณํ นิชฺชิณฺณํ โหติ… สมฺมาวิมุตฺตสฺส, ภิกฺขเว, มิจฺฉาวิมุตฺติ นิชฺชิณฺณา โหติฯ เย จ มิจฺฉาวิมุตฺติปจฺจยา อเนเก ปาปกา อกุสลา ธมฺมา สมฺภวนฺติ เต จสฺส นิชฺชิณฺณา โหนฺติฯ สมฺมาวิมุตฺติปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉนฺติฯ
142. ‘‘Tatra, bhikkhave, sammādiṭṭhi pubbaṅgamā hoti. Kathañca, bhikkhave, sammādiṭṭhi pubbaṅgamā hoti? Sammādiṭṭhissa, bhikkhave, micchādiṭṭhi nijjiṇṇā hoti. Ye ca micchādiṭṭhipaccayā aneke pāpakā akusalā dhammā sambhavanti te cassa nijjiṇṇā honti. Sammādiṭṭhipaccayā aneke kusalā dhammā bhāvanāpāripūriṃ gacchanti. Sammāsaṅkappassa, bhikkhave, micchāsaṅkappo nijjiṇṇo hoti…pe… sammāvācassa, bhikkhave, micchāvācā nijjiṇṇā hoti… sammākammantassa, bhikkhave, micchākammanto nijjiṇṇo hoti… sammāājīvassa, bhikkhave, micchāājīvo nijjiṇṇo hoti… sammāvāyāmassa , bhikkhave , micchāvāyāmo nijjiṇṇo hoti… sammāsatissa, bhikkhave, micchāsati nijjiṇṇā hoti… sammāsamādhissa, bhikkhave, micchāsamādhi nijjiṇṇo hoti… sammāñāṇassa, bhikkhave, micchāñāṇaṃ nijjiṇṇaṃ hoti… sammāvimuttassa, bhikkhave, micchāvimutti nijjiṇṇā hoti. Ye ca micchāvimuttipaccayā aneke pāpakā akusalā dhammā sambhavanti te cassa nijjiṇṇā honti. Sammāvimuttipaccayā ca aneke kusalā dhammā bhāvanāpāripūriṃ gacchanti.
‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, วีสติ กุสลปกฺขา, วีสติ อกุสลปกฺขา – มหาจตฺตารีสโก ธมฺมปริยาโย ปวตฺติโต อปฺปฎิวตฺติโย สมเณน วา พฺราหฺมเณน วา เทเวน วา มาเรน วา พฺรหฺมุนา วา เกนจิ วา โลกสฺมิํฯ
‘‘Iti kho, bhikkhave, vīsati kusalapakkhā, vīsati akusalapakkhā – mahācattārīsako dhammapariyāyo pavattito appaṭivattiyo samaṇena vā brāhmaṇena vā devena vā mārena vā brahmunā vā kenaci vā lokasmiṃ.
๑๔๓. ‘‘โย หิ โกจิ, ภิกฺขเว, สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อิมํ มหาจตฺตารีสกํ ธมฺมปริยายํ ครหิตพฺพํ ปฎิโกฺกสิตพฺพํ มเญฺญยฺย ตสฺส ทิเฎฺฐว ธเมฺม ทสสหธมฺมิกา วาทานุวาทา คารยฺหํ ฐานํ อาคจฺฉนฺติ – สมฺมาทิฎฺฐิํ เจ ภวํ ครหติ, เย จ มิจฺฉาทิฎฺฐี สมณพฺราหฺมณา เต โภโต ปุชฺชา, เต โภโต ปาสํสา; สมฺมาสงฺกปฺปํ เจ ภวํ ครหติ , เย จ มิจฺฉาสงฺกปฺปา สมณพฺราหฺมณา เต โภโต ปุชฺชา, เต โภโต ปาสํสา; สมฺมาวาจํ เจ ภวํ ครหติ…เป.… สมฺมากมฺมนฺตํ เจ ภวํ ครหติ… สมฺมาอาชีวํ เจ ภวํ ครหติ… สมฺมาวายามํ เจ ภวํ ครหติ… สมฺมาสติํ เจ ภวํ ครหติ… สมฺมาสมาธิํ เจ ภวํ ครหติ… สมฺมาญาณํ เจ ภวํ ครหติ … สมฺมาวิมุตฺติํ เจ ภวํ ครหติ, เย จ มิจฺฉาวิมุตฺตี สมณพฺราหฺมณา เต โภโต ปุชฺชา, เต โภโต ปาสํสาฯ โย โกจิ, ภิกฺขเว, สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อิมํ มหาจตฺตารีสกํ ธมฺมปริยายํ ครหิตพฺพํ ปฎิโกฺกสิตพฺพํ มเญฺญยฺย ตสฺส ทิเฎฺฐว ธเมฺม อิเม ทสสหธมฺมิกา วาทานุวาทา คารยฺหํ ฐานํ อาคจฺฉนฺติฯ เยปิ เต, ภิกฺขเว, อเหสุํ โอกฺกลา วสฺสภญฺญา 17 อเหตุวาทา อกิริยวาทา นตฺถิกวาทา เตปิ มหาจตฺตารีสกํ ธมฺมปริยายํ น ครหิตพฺพํ นปฎิโกฺกสิตพฺพํ อมญฺญิํสุ 18ฯ ตํ กิสฺส เหตุ? นินฺทาพฺยาโรสอุปารมฺภภยา’’ติฯ
143. ‘‘Yo hi koci, bhikkhave, samaṇo vā brāhmaṇo vā imaṃ mahācattārīsakaṃ dhammapariyāyaṃ garahitabbaṃ paṭikkositabbaṃ maññeyya tassa diṭṭheva dhamme dasasahadhammikā vādānuvādā gārayhaṃ ṭhānaṃ āgacchanti – sammādiṭṭhiṃ ce bhavaṃ garahati, ye ca micchādiṭṭhī samaṇabrāhmaṇā te bhoto pujjā, te bhoto pāsaṃsā; sammāsaṅkappaṃ ce bhavaṃ garahati , ye ca micchāsaṅkappā samaṇabrāhmaṇā te bhoto pujjā, te bhoto pāsaṃsā; sammāvācaṃ ce bhavaṃ garahati…pe… sammākammantaṃ ce bhavaṃ garahati… sammāājīvaṃ ce bhavaṃ garahati… sammāvāyāmaṃ ce bhavaṃ garahati… sammāsatiṃ ce bhavaṃ garahati… sammāsamādhiṃ ce bhavaṃ garahati… sammāñāṇaṃ ce bhavaṃ garahati … sammāvimuttiṃ ce bhavaṃ garahati, ye ca micchāvimuttī samaṇabrāhmaṇā te bhoto pujjā, te bhoto pāsaṃsā. Yo koci, bhikkhave, samaṇo vā brāhmaṇo vā imaṃ mahācattārīsakaṃ dhammapariyāyaṃ garahitabbaṃ paṭikkositabbaṃ maññeyya tassa diṭṭheva dhamme ime dasasahadhammikā vādānuvādā gārayhaṃ ṭhānaṃ āgacchanti. Yepi te, bhikkhave, ahesuṃ okkalā vassabhaññā 19 ahetuvādā akiriyavādā natthikavādā tepi mahācattārīsakaṃ dhammapariyāyaṃ na garahitabbaṃ napaṭikkositabbaṃ amaññiṃsu 20. Taṃ kissa hetu? Nindābyārosaupārambhabhayā’’ti.
อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติฯ
Idamavoca bhagavā. Attamanā te bhikkhū bhagavato bhāsitaṃ abhinandunti.
มหาจตฺตารีสกสุตฺตํ นิฎฺฐิตํ สตฺตมํฯ
Mahācattārīsakasuttaṃ niṭṭhitaṃ sattamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) / ๗. มหาจตฺตารีสกสุตฺตวณฺณนา • 7. Mahācattārīsakasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) / ๗. มหาจตฺตารีสกสุตฺตวณฺณนา • 7. Mahācattārīsakasuttavaṇṇanā