Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) |
๗. มหาจตฺตารีสกสุตฺตวณฺณนา
7. Mahācattārīsakasuttavaṇṇanā
๑๓๖. เอวํ เม สุตนฺติ มหาจตฺตารีสกสุตฺตํฯ ตตฺถ อริยนฺติ นิโทฺทสํ โลกุตฺตรํ, นิโทฺทสญฺหิ ‘‘อริย’’นฺติ วุจฺจติฯ สมฺมาสมาธินฺติ มคฺคสมาธิํฯ สอุปนิสนฺติ สปจฺจยํฯ สปริกฺขารนฺติ สปริวารํฯ
136.Evaṃme sutanti mahācattārīsakasuttaṃ. Tattha ariyanti niddosaṃ lokuttaraṃ, niddosañhi ‘‘ariya’’nti vuccati. Sammāsamādhinti maggasamādhiṃ. Saupanisanti sapaccayaṃ. Saparikkhāranti saparivāraṃ.
ปริกฺขตาติ ปริวาริตาฯ สมฺมาทิฎฺฐิ ปุพฺพงฺคมา โหตีติ ทฺวิธา สมฺมาทิฎฺฐิ ปุพฺพงฺคมา โหติ ปุเรจาริกา วิปสฺสนาสมฺมาทิฎฺฐิ จ มคฺคสมฺมาทิฎฺฐิ จฯ วิปสฺสนาสมฺมาทิฎฺฐิ เตภูมกสงฺขาเร อนิจฺจาทิวเสน ปริวีมํสติ; มคฺคสมฺมาทิฎฺฐิ ปน ปริวีมํสนปริโยสาเน ภูมิลทฺธํ วฎฺฎํ สมุคฺฆาฎยมานา วูปสมยมานา สีตุทกฆฎสหสฺสํ มตฺถเก อาสิญฺจมานา วิย อุปฺปชฺชติฯ ยถา หิ เขตฺตํ กุรุมาโน กสฺสโก ปฐมํ อรเญฺญ รุเกฺข ฉินฺทติ, ปจฺฉา อคฺคิํ เทติ, โส อคฺคิ ปฐมํ ฉิเนฺน รุเกฺข อนวเสเส ฌาเปติ, เอวเมว วิปสฺสนาสมฺมาทิฎฺฐิ ปฐมํ อนิจฺจาทิวเสน สงฺขาเร วีมํสติ, มคฺคสมฺมาทิฎฺฐิ ตาย วีมํสนตฺถํ สงฺขาเร ปุน อปฺปวตฺติวเสน สมุคฺฆาฎยมานา อุปฺปชฺชติ, สา ทุวิธาปิ อิธ อธิเปฺปตาฯ
Parikkhatāti parivāritā. Sammādiṭṭhipubbaṅgamā hotīti dvidhā sammādiṭṭhi pubbaṅgamā hoti purecārikā vipassanāsammādiṭṭhi ca maggasammādiṭṭhi ca. Vipassanāsammādiṭṭhi tebhūmakasaṅkhāre aniccādivasena parivīmaṃsati; maggasammādiṭṭhi pana parivīmaṃsanapariyosāne bhūmiladdhaṃ vaṭṭaṃ samugghāṭayamānā vūpasamayamānā sītudakaghaṭasahassaṃ matthake āsiñcamānā viya uppajjati. Yathā hi khettaṃ kurumāno kassako paṭhamaṃ araññe rukkhe chindati, pacchā aggiṃ deti, so aggi paṭhamaṃ chinne rukkhe anavasese jhāpeti, evameva vipassanāsammādiṭṭhi paṭhamaṃ aniccādivasena saṅkhāre vīmaṃsati, maggasammādiṭṭhi tāya vīmaṃsanatthaṃ saṅkhāre puna appavattivasena samugghāṭayamānā uppajjati, sā duvidhāpi idha adhippetā.
มิจฺฉาทิฎฺฐีติ ปชานาตีติ มิจฺฉาทิฎฺฐิํ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ ลกฺขณปฎิเวเธน อารมฺมณโต ปชานาติ, สมฺมาทิฎฺฐิํ กิจฺจโต อสโมฺมหโต ปชานาติฯ สาสฺส โหติ สมฺมาทิฎฺฐีติ สา เอวํ ปชานนา อสฺส สมฺมาทิฎฺฐิ นาม โหติฯ
Micchādiṭṭhīti pajānātīti micchādiṭṭhiṃ aniccaṃ dukkhaṃ anattāti lakkhaṇapaṭivedhena ārammaṇato pajānāti, sammādiṭṭhiṃ kiccato asammohato pajānāti. Sāssa hoti sammādiṭṭhīti sā evaṃ pajānanā assa sammādiṭṭhi nāma hoti.
ทฺวายํ วทามีติ ทฺวยํ วทามิ, ทุวิธโกฎฺฐาสํ วทามีติ อโตฺถฯ ปุญฺญภาคิยาติ ปุญฺญโกฎฺฐาสภูตาฯ อุปธิเวปกฺกาติ อุปธิสงฺขาตสฺส วิปากสฺส ทายิกาฯ
Dvāyaṃ vadāmīti dvayaṃ vadāmi, duvidhakoṭṭhāsaṃ vadāmīti attho. Puññabhāgiyāti puññakoṭṭhāsabhūtā. Upadhivepakkāti upadhisaṅkhātassa vipākassa dāyikā.
ปญฺญา ปญฺญินฺทฺริยนฺติอาทีสุ วิภชิตฺวา วิภชิตฺวา อมตทฺวารํ ปญฺญเปติ ทเสฺสตีติ ปญฺญาฯ ตสฺมิํ อเตฺถ อินฺทตฺตํ กโรตีติ ปญฺญินฺทฺริยํฯ อวิชฺชาย น กมฺปตีติ ปญฺญาพลํฯ โพชฺฌงฺคปฺปตฺตา หุตฺวา จตุสจฺจธเมฺม วิจินาตีติ ธมฺมวิจยสโมฺพชฺฌโงฺคฯ มคฺคสมฺปตฺติยา ปสฎฺฐา โสภนา ทิฎฺฐีติ สมฺมาทิฎฺฐิฯ อริยมคฺคสฺส องฺคนฺติ มคฺคงฺคํฯ โสติ โส ภิกฺขุฯ ปหานายาติ ปชหนตฺถายฯ อุปสมฺปทายาติ ปฎิลาภตฺถายฯ สมฺมาวายาโมติ นิยฺยานิโก กุสลวายาโมฯ สโตติ สติยา สมนฺนาคโต หุตฺวาฯ อนุปริธาวนฺติ อนุปริวตฺตนฺตีติ สหชาตา จ ปุเรชาตา จ หุตฺวา ปริวาเรนฺติฯ เอตฺถ หิ สมฺมาวายาโม จ สมฺมาสติ จ โลกุตฺตรสมฺมาทิฎฺฐิํ สหชาตา ปริวาเรนฺติ ราชานํ วิย เอกรเถ ฐิตา อสิคฺคาหฉตฺตคฺคาหาฯ วิปสฺสนาสมฺมาทิฎฺฐิ ปน ปุเรชาตา หุตฺวา ปริวาเรติ รถสฺส ปุรโต ปตฺติกาทโย วิยฯ ทุติยปพฺพโต ปฎฺฐาย ปน สมฺมาสงฺกปฺปาทีนํ ตโยปิ สหชาตปริวาราว โหนฺตีติ เวทิตพฺพาฯ
Paññā paññindriyantiādīsu vibhajitvā vibhajitvā amatadvāraṃ paññapeti dassetīti paññā. Tasmiṃ atthe indattaṃ karotīti paññindriyaṃ. Avijjāya na kampatīti paññābalaṃ. Bojjhaṅgappattā hutvā catusaccadhamme vicinātīti dhammavicayasambojjhaṅgo. Maggasampattiyā pasaṭṭhā sobhanā diṭṭhīti sammādiṭṭhi. Ariyamaggassa aṅganti maggaṅgaṃ. Soti so bhikkhu. Pahānāyāti pajahanatthāya. Upasampadāyāti paṭilābhatthāya. Sammāvāyāmoti niyyāniko kusalavāyāmo. Satoti satiyā samannāgato hutvā. Anuparidhāvanti anuparivattantīti sahajātā ca purejātā ca hutvā parivārenti. Ettha hi sammāvāyāmo ca sammāsati ca lokuttarasammādiṭṭhiṃ sahajātā parivārenti rājānaṃ viya ekarathe ṭhitā asiggāhachattaggāhā. Vipassanāsammādiṭṭhi pana purejātā hutvā parivāreti rathassa purato pattikādayo viya. Dutiyapabbato paṭṭhāya pana sammāsaṅkappādīnaṃ tayopi sahajātaparivārāva hontīti veditabbā.
๑๓๗. มิจฺฉาสงฺกโปฺปติ ปชานาตีติ มิจฺฉาสงฺกปฺปํ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตาติ ลกฺขณปฎิเวเธน อารมฺมณโต ปชานาติ สมฺมาสงฺกปฺปํ กิจฺจโต อสโมฺมหโต ปชานาติฯ อิโต อปเรสุ สมฺมาวาจาทีสุปิ เอวเมว โยชนา เวทิตพฺพาฯ กามสงฺกปฺปาทโย เทฺวธาวิตกฺกสุเตฺต (ม. นิ. ๑.๒๐๖) วุตฺตาเยวฯ
137.Micchāsaṅkappoti pajānātīti micchāsaṅkappaṃ aniccaṃ dukkhaṃ anattāti lakkhaṇapaṭivedhena ārammaṇato pajānāti sammāsaṅkappaṃ kiccato asammohato pajānāti. Ito aparesu sammāvācādīsupi evameva yojanā veditabbā. Kāmasaṅkappādayo dvedhāvitakkasutte (ma. ni. 1.206) vuttāyeva.
ตโกฺกติอาทีสุ ตกฺกนวเสน ตโกฺกฯ เสฺวว จ อุปสเคฺคน ปทํ วเฑฺฒตฺวา วิตโกฺกติ วุโตฺต, เสฺวว สงฺกปฺปนวเสน สงฺกโปฺปฯ เอกโคฺค หุตฺวา อารมฺมเณ อเปฺปตีติ อปฺปนา ฯ อุปสเคฺคน ปน ปทํ วเฑฺฒตฺวา พฺยปฺปนาติ วุตฺตํฯ เจตโส อภินิโรปนาติ จิตฺตสฺส อภินิโรปนาฯ วิตกฺกสฺมิญฺหิ สติ วิตโกฺก อารมฺมเณ จิตฺตํ อภินิโรเปติ วิตเกฺก ปน อสติ อตฺตโนเยว ธมฺมตาย จิตฺตํ อารมฺมณํ อภิรุหติ ชาติสมฺปโนฺน อภิญฺญาตปุริโส วิย ราชเคหํฯ อนภิญฺญาตสฺส หิ ปฎิหาเรน วา โทวาริเกน วา อโตฺถ โหติ, อภิญฺญาตํ ชาติสมฺปนฺนํ สเพฺพ ราชราชมหามตฺตา ชานนฺตีติ อตฺตโนว ธมฺมตาย นิกฺขมติ เจว ปวิสติ จ, เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํฯ วาจํ สงฺขโรตีติ วจีสงฺขาโรฯ เอตฺถ จ โลกิยวิตโกฺก วาจํ สงฺขโรติ, น โลกุตฺตโรฯ กิญฺจาปิ น สงฺขโรติ, วจีสงฺขาโรเตฺวว จ ปนสฺส นามํ โหติฯ สมฺมาสงฺกปฺปํ อนุปริธาวนฺตีติ โลกุตฺตรสมฺมาสงฺกปฺปํ ปริวาเรนฺติฯ เอตฺถ จ ตโยปิ เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทโย ปุพฺพภาเค นานาจิเตฺตสุ ลพฺภนฺติ, มคฺคกฺขเณ ปน ติณฺณมฺปิ กามสงฺกปฺปาทีนญฺจ ปทเจฺฉทํ สมุคฺฆาตํ กโรโนฺต มคฺคงฺคํ ปูรยมาโน เอโกว สมฺมาสงฺกโปฺป อุปฺปชฺชิตฺวา เนกฺขมฺมสงฺกปฺปาทิวเสน ตีณิ นามานิ ลภติฯ ปรโต สมฺมาวาจาทีสุปิ เอเสว นโยฯ
Takkotiādīsu takkanavasena takko. Sveva ca upasaggena padaṃ vaḍḍhetvā vitakkoti vutto, sveva saṅkappanavasena saṅkappo. Ekaggo hutvā ārammaṇe appetīti appanā. Upasaggena pana padaṃ vaḍḍhetvā byappanāti vuttaṃ. Cetaso abhiniropanāti cittassa abhiniropanā. Vitakkasmiñhi sati vitakko ārammaṇe cittaṃ abhiniropeti vitakke pana asati attanoyeva dhammatāya cittaṃ ārammaṇaṃ abhiruhati jātisampanno abhiññātapuriso viya rājagehaṃ. Anabhiññātassa hi paṭihārena vā dovārikena vā attho hoti, abhiññātaṃ jātisampannaṃ sabbe rājarājamahāmattā jānantīti attanova dhammatāya nikkhamati ceva pavisati ca, evaṃsampadamidaṃ veditabbaṃ. Vācaṃ saṅkharotīti vacīsaṅkhāro. Ettha ca lokiyavitakko vācaṃ saṅkharoti, na lokuttaro. Kiñcāpi na saṅkharoti, vacīsaṅkhārotveva ca panassa nāmaṃ hoti. Sammāsaṅkappaṃ anuparidhāvantīti lokuttarasammāsaṅkappaṃ parivārenti. Ettha ca tayopi nekkhammasaṅkappādayo pubbabhāge nānācittesu labbhanti, maggakkhaṇe pana tiṇṇampi kāmasaṅkappādīnañca padacchedaṃ samugghātaṃ karonto maggaṅgaṃ pūrayamāno ekova sammāsaṅkappo uppajjitvā nekkhammasaṅkappādivasena tīṇi nāmāni labhati. Parato sammāvācādīsupi eseva nayo.
๑๓๘. มุสาวาทา เวรมณีติอาทีสุ วิรติปิ เจตนาปิ วฎฺฎติฯ อารตีติอาทีสุ วจีทุจฺจริเตหิ อารกา รมตีติ อารติฯ วินา เตหิ รมตีติ วิรติฯ ตโต ตโต ปฎินิวตฺตาว หุตฺวา เตหิ วินา รมตีติ ปฎิวิรติฯ อุปสคฺควเสน วา ปทํ วฑฺฒิตํ, สพฺพมิทํ โอรมนภาวเสฺสว อธิวจนํฯ เวรํ มณติ วินาเสตีติ เวรมณิฯ อิทมฺปิ โอรมนเสฺสว เววจนํฯ
138.Musāvādāveramaṇītiādīsu viratipi cetanāpi vaṭṭati. Āratītiādīsu vacīduccaritehi ārakā ramatīti ārati. Vinā tehi ramatīti virati. Tato tato paṭinivattāva hutvā tehi vinā ramatīti paṭivirati. Upasaggavasena vā padaṃ vaḍḍhitaṃ, sabbamidaṃ oramanabhāvasseva adhivacanaṃ. Veraṃ maṇati vināsetīti veramaṇi. Idampi oramanasseva vevacanaṃ.
๑๓๙. ปาณาติปาตา เวรมณีติอาทีสุปิ เจตนา วิรตีติ อุภยมฺปิ วฎฺฎติเยวฯ
139.Pāṇātipātā veramaṇītiādīsupi cetanā viratīti ubhayampi vaṭṭatiyeva.
๑๔๐. กุหนาติอาทีสุ ติวิเธน กุหนวตฺถุนา โลกํ เอตาย กุหยนฺติ วิมฺหาปยนฺตีติ กุหนาฯ ลาภสกฺการตฺถิกา หุตฺวา เอตาย ลปนฺตีติ ลปนาฯ นิมิตฺตํ สีลเมเตสนฺติ เนมิตฺติกา, เตสํ ภาโว เนมิตฺติกตาฯ นิเปฺปโส สีลเมเตสนฺติ นิเปฺปสิกา, เตสํ ภาโว นิเปฺปสิกตาฯ ลาเภน ลาภํ นิชิคีสนฺติ มคฺคนฺติ ปริเยสนฺตีติ ลาเภน ลาภํ นิชิคีสนา, เตสํ ภาโว ลาเภน ลาภํ นิชิคีสนตาฯ อยเมตฺถ สเงฺขโป, วิตฺถาเรน ปเนตา กุหนาทิกา วิสุทฺธิมเคฺค สีลนิเทฺทเสเยว ปาฬิญฺจ อฎฺฐกถญฺจ อาหริตฺวา ปกาสิตาฯ มิจฺฉาอาชีวสฺส ปหานายาติ เอตฺถ น เกวลํ ปาฬิยํ อาคโตว มิจฺฉาอาชีโว, อาชีวเหตุ ปน ปวตฺติตา ปาณาติปาตาทโย สตฺตกมฺมปถเจตนาปิ มิจฺฉาอาชีโววฯ ตาสํเยว สตฺตนฺนํ เจตนานํ ปทปเจฺฉทํ สมุคฺฆาตํ กุรุมานํ มคฺคงฺคํ ปูรยมานา อุปฺปนฺนา วิรติ สมฺมาอาชีโว นามฯ
140.Kuhanātiādīsu tividhena kuhanavatthunā lokaṃ etāya kuhayanti vimhāpayantīti kuhanā. Lābhasakkāratthikā hutvā etāya lapantīti lapanā. Nimittaṃ sīlametesanti nemittikā, tesaṃ bhāvo nemittikatā. Nippeso sīlametesanti nippesikā, tesaṃ bhāvo nippesikatā. Lābhena lābhaṃ nijigīsanti magganti pariyesantīti lābhena lābhaṃ nijigīsanā, tesaṃ bhāvo lābhena lābhaṃ nijigīsanatā. Ayamettha saṅkhepo, vitthārena panetā kuhanādikā visuddhimagge sīlaniddeseyeva pāḷiñca aṭṭhakathañca āharitvā pakāsitā. Micchāājīvassa pahānāyāti ettha na kevalaṃ pāḷiyaṃ āgatova micchāājīvo, ājīvahetu pana pavattitā pāṇātipātādayo sattakammapathacetanāpi micchāājīvova. Tāsaṃyeva sattannaṃ cetanānaṃ padapacchedaṃ samugghātaṃ kurumānaṃ maggaṅgaṃ pūrayamānā uppannā virati sammāājīvo nāma.
๑๔๑. สมฺมาทิฎฺฐิสฺสาติ มคฺคสมฺมาทิฎฺฐิยํ ฐิตสฺส ปุคฺคลสฺสฯ สมฺมาสงฺกโปฺป ปโหตีติ มคฺคสมฺมาสงฺกโปฺป ปโหติ, ผลสมฺมาทิฎฺฐิสฺสปิ ผลสมฺมาสงฺกโปฺป ปโหตีติ เอวํ สพฺพปเทสุ อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ สมฺมาญาณสฺส สมฺมาวิมุตฺตีติ เอตฺถ ปน มคฺคสมฺมาสมาธิมฺหิ ฐิตสฺส มคฺคปจฺจเวกฺขณํ สมฺมาญาณํ ปโหติ, ผลสมฺมาสมาธิมฺหิ ฐิตสฺส ผลปจฺจเวกฺขณํ สมฺมาญาณํ ปโหติฯ มคฺคปจฺจเวกฺขณสมฺมาญาเณ จ ฐิตสฺส มคฺคสมฺมาวิมุตฺติ ปโหติ, ผลปจฺจเวกฺขณสมฺมาญาเณ ฐิตสฺส ผลสมฺมาวิมุตฺติ ปโหตีติ อโตฺถฯ เอตฺถ จ ฐเปตฺวา อฎฺฐ ผลงฺคานิ สมฺมาญาณํ ปจฺจเวกฺขณํ กตฺวา สมฺมาวิมุตฺติํ ผลํ กาตุํ วฎฺฎตีติ วุตฺตํฯ
141.Sammādiṭṭhissāti maggasammādiṭṭhiyaṃ ṭhitassa puggalassa. Sammāsaṅkappo pahotīti maggasammāsaṅkappo pahoti, phalasammādiṭṭhissapi phalasammāsaṅkappo pahotīti evaṃ sabbapadesu attho veditabbo. Sammāñāṇassasammāvimuttīti ettha pana maggasammāsamādhimhi ṭhitassa maggapaccavekkhaṇaṃ sammāñāṇaṃ pahoti, phalasammāsamādhimhi ṭhitassa phalapaccavekkhaṇaṃ sammāñāṇaṃ pahoti. Maggapaccavekkhaṇasammāñāṇe ca ṭhitassa maggasammāvimutti pahoti, phalapaccavekkhaṇasammāñāṇe ṭhitassa phalasammāvimutti pahotīti attho. Ettha ca ṭhapetvā aṭṭha phalaṅgāni sammāñāṇaṃ paccavekkhaṇaṃ katvā sammāvimuttiṃ phalaṃ kātuṃ vaṭṭatīti vuttaṃ.
๑๔๒. สมฺมาทิฎฺฐิสฺส , ภิกฺขเว, มิจฺฉาทิฎฺฐิ นิชฺชิณฺณา โหตีติอาทีสุ อวเสสนิกายภาณกา ผลํ กถิตนฺติ วทนฺติ, มชฺฌิมภาณกา ปน ทสนฺนํ นิชฺชรวตฺถูนํ อาคตฎฺฐาเน มโคฺค กถิโตติ วทนฺติฯ ตตฺถ ทสฺสนเฎฺฐน สมฺมาทิฎฺฐิ เวทิตพฺพา, วิทิตกรณเฎฺฐน สมฺมาญาณํ, ตทธิมุตฺตเฎฺฐน สมฺมาวิมุตฺติฯ
142.Sammādiṭṭhissa, bhikkhave, micchādiṭṭhi nijjiṇṇā hotītiādīsu avasesanikāyabhāṇakā phalaṃ kathitanti vadanti, majjhimabhāṇakā pana dasannaṃ nijjaravatthūnaṃ āgataṭṭhāne maggo kathitoti vadanti. Tattha dassanaṭṭhena sammādiṭṭhi veditabbā, viditakaraṇaṭṭhena sammāñāṇaṃ, tadadhimuttaṭṭhena sammāvimutti.
วีสติ กุสลปกฺขาติ สมฺมาทิฎฺฐิอาทโย ทส, ‘‘สมฺมาทิฎฺฐิปจฺจยา จ อเนเก กุสลา ธมฺมา’’ติอาทินา นเยน วุตฺตา ทสาติ เอวํ วีสติ กุสลปกฺขา โหนฺติฯ วีสติ อกุสลปกฺขาติ ‘‘มิจฺฉาทิฎฺฐิ นิชฺชิณฺณา โหตี’’ติอาทินา นเยน วุตฺตา มิจฺฉาทิฎฺฐิอาทโย ทส, ‘‘เย จ มิจฺฉาทิฎฺฐิปจฺจยา อเนเก ปาปกา’’ติอาทินา วุตฺตา ทส จาติ เอวํ วีสติ อกุสลปกฺขา เวทิตพฺพาฯ มหาจตฺตารีสโกติ มหาวิปากทาเนน มหนฺตานํ กุสลปกฺขิกานเญฺจว อกุสลปกฺขิกานญฺจ จตฺตารีสาย ธมฺมานํ ปกาสิตตฺตา มหาจตฺตารีสโกติฯ
Vīsati kusalapakkhāti sammādiṭṭhiādayo dasa, ‘‘sammādiṭṭhipaccayā ca aneke kusalā dhammā’’tiādinā nayena vuttā dasāti evaṃ vīsati kusalapakkhā honti. Vīsati akusalapakkhāti ‘‘micchādiṭṭhi nijjiṇṇā hotī’’tiādinā nayena vuttā micchādiṭṭhiādayo dasa, ‘‘ye ca micchādiṭṭhipaccayā aneke pāpakā’’tiādinā vuttā dasa cāti evaṃ vīsati akusalapakkhā veditabbā. Mahācattārīsakoti mahāvipākadānena mahantānaṃ kusalapakkhikānañceva akusalapakkhikānañca cattārīsāya dhammānaṃ pakāsitattā mahācattārīsakoti.
อิมสฺมิญฺจ ปน สุเตฺต ปญฺจ สมฺมาทิฎฺฐิโย กถิตา วิปสฺสนาสมฺมาทิฎฺฐิ กมฺมสฺสกตาสมฺมาทิฎฺฐิ มคฺคสมฺมาทิฎฺฐิ ผลสมฺมาทิฎฺฐิ ปจฺจเวกฺขณาสมฺมาทิฎฺฐีติฯ ตตฺถ ‘‘มิจฺฉาทิฎฺฐิํ มิจฺฉาทิฎฺฐีติ ปชานาตี’’ติอาทินา นเยน วุตฺตา วิปสฺสนาสมฺมาทิฎฺฐิ นามฯ ‘‘อตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทินา นเยน วุตฺตา กมฺมสฺสกตาสมฺมาทิฎฺฐิ นามฯ ‘‘สมฺมาทิฎฺฐิสฺส, ภิกฺขเว, สมฺมาสงฺกโปฺป ปโหตี’’ติ เอตฺถ ปน มคฺคสมฺมาทิฎฺฐิ ผลสมฺมาทิฎฺฐีติ เทฺวปิ กถิตาฯ ‘‘สมฺมาญาณํ ปโหตี’’ติฯ เอตฺถ ปน ปจฺจเวกฺขณาสมฺมาทิฎฺฐิ กถิตาติ เวทิตพฺพาฯ
Imasmiñca pana sutte pañca sammādiṭṭhiyo kathitā vipassanāsammādiṭṭhi kammassakatāsammādiṭṭhi maggasammādiṭṭhi phalasammādiṭṭhi paccavekkhaṇāsammādiṭṭhīti. Tattha ‘‘micchādiṭṭhiṃ micchādiṭṭhīti pajānātī’’tiādinā nayena vuttā vipassanāsammādiṭṭhi nāma. ‘‘Atthi dinna’’ntiādinā nayena vuttā kammassakatāsammādiṭṭhi nāma. ‘‘Sammādiṭṭhissa, bhikkhave, sammāsaṅkappo pahotī’’ti ettha pana maggasammādiṭṭhi phalasammādiṭṭhīti dvepi kathitā. ‘‘Sammāñāṇaṃ pahotī’’ti. Ettha pana paccavekkhaṇāsammādiṭṭhi kathitāti veditabbā.
๑๔๓. สมฺมาทิฎฺฐิํ เจ ภวํ ครหตีติ มิจฺฉาทิฎฺฐิ นามายํ โสภนาติ วทโนฺตปิ สมฺมาทิฎฺฐิ นามายํ น โสภนาติ วทโนฺตปิ สมฺมาทิฎฺฐิํ ครหติ นามฯ โอกฺกลาติ โอกฺกลชนปทวาสิโนฯ วสฺสภญฺญาติ วโสฺส จ ภโญฺญ จาติ เทฺว ชนาฯ อเหตุวาทาติ นตฺถิ เหตุ นตฺถิ ปจฺจโย สตฺตานํ วิสุทฺธิยาติ เอวมาทิวาทิโนฯ อกิริยวาทาติ กโรโต น กรียติ ปาปนฺติ เอวํ กิริยปฎิเกฺขปวาทิโนฯ นตฺถิกวาทาติ นตฺถิ ทินฺนนฺติอาทิวาทิโนฯ เต อิเมสุ ตีสุปิ ทสฺสเนสุ โอกฺกนฺตนิยามา อเหสุํฯ กถํ ปเนเตสุ นิยาโม โหตีติฯ โย หิ เอวรูปํ ลทฺธิํ คเหตฺวา รตฺติฎฺฐานทิวาฎฺฐาเน นิสิโนฺน สชฺฌายติ วีมํสติ, ตสฺส ‘‘นตฺถิ เหตุ นตฺถิ ปจฺจโย กโรโต น กรียติ ปาปํ, นตฺถิ ทินฺนํ, กายสฺส เภทา อุจฺฉิชฺชตี’’ติ ตสฺมิํ อารมฺมเณ มิจฺฉาสติ สนฺติฎฺฐติ, จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, ชวนานิ ชวนฺติฯ ปฐมชวเน สเตกิโจฺฉ โหติ, ตถา ทุติยาทีสุฯ สตฺตเม พุทฺธานมฺปิ อเตกิโจฺฉ อนิวตฺตี อริฎฺฐกณฺฑกสทิโส โหติฯ
143.Sammādiṭṭhiṃce bhavaṃ garahatīti micchādiṭṭhi nāmāyaṃ sobhanāti vadantopi sammādiṭṭhi nāmāyaṃ na sobhanāti vadantopi sammādiṭṭhiṃ garahati nāma. Okkalāti okkalajanapadavāsino. Vassabhaññāti vasso ca bhañño cāti dve janā. Ahetuvādāti natthi hetu natthi paccayo sattānaṃ visuddhiyāti evamādivādino. Akiriyavādāti karoto na karīyati pāpanti evaṃ kiriyapaṭikkhepavādino. Natthikavādāti natthi dinnantiādivādino. Te imesu tīsupi dassanesu okkantaniyāmā ahesuṃ. Kathaṃ panetesu niyāmo hotīti. Yo hi evarūpaṃ laddhiṃ gahetvā rattiṭṭhānadivāṭṭhāne nisinno sajjhāyati vīmaṃsati, tassa ‘‘natthi hetu natthi paccayo karoto na karīyati pāpaṃ, natthi dinnaṃ, kāyassa bhedā ucchijjatī’’ti tasmiṃ ārammaṇe micchāsati santiṭṭhati, cittaṃ ekaggaṃ hoti, javanāni javanti. Paṭhamajavane satekiccho hoti, tathā dutiyādīsu. Sattame buddhānampi atekiccho anivattī ariṭṭhakaṇḍakasadiso hoti.
ตตฺถ โกจิ เอกํ ทสฺสนํ โอกฺกมติ, โกจิ เทฺว, โกจิ ตีณิปิ, นิยตมิจฺฉาทิฎฺฐิโกว โหติ, ปโตฺต สคฺคมคฺคาวรณเญฺจว โมกฺขมคฺคาวรณญฺจฯ อภโพฺพ ตสฺส อตฺตภาวสฺส อนนฺตรํ สคฺคมฺปิ คนฺตุํ, ปเคว โมกฺขํ, วฎฺฎขาณุ นาเมส สโตฺต ปถวีโคปโก, เยภุเยฺยน เอวรูปสฺส ภวโต วุฎฺฐานํ นตฺถิฯ วสฺสภญฺญาปิ เอทิสา อเหสุํฯ นินฺทาพฺยาโรสอุปารมฺภภยาติ อตฺตโน นินฺทาภเยน ฆฎฺฎนภเยน อุปวาทภเยน จาติ อโตฺถฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติฯ
Tattha koci ekaṃ dassanaṃ okkamati, koci dve, koci tīṇipi, niyatamicchādiṭṭhikova hoti, patto saggamaggāvaraṇañceva mokkhamaggāvaraṇañca. Abhabbo tassa attabhāvassa anantaraṃ saggampi gantuṃ, pageva mokkhaṃ, vaṭṭakhāṇu nāmesa satto pathavīgopako, yebhuyyena evarūpassa bhavato vuṭṭhānaṃ natthi. Vassabhaññāpi edisā ahesuṃ. Nindābyārosaupārambhabhayāti attano nindābhayena ghaṭṭanabhayena upavādabhayena cāti attho. Sesaṃ sabbattha uttānamevāti.
ปปญฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฎฺฐกถาย
Papañcasūdaniyā majjhimanikāyaṭṭhakathāya
มหาจตฺตารีสกสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Mahācattārīsakasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya / ๗. มหาจตฺตารีสกสุตฺตํ • 7. Mahācattārīsakasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) / ๗. มหาจตฺตารีสกสุตฺตวณฺณนา • 7. Mahācattārīsakasuttavaṇṇanā