Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) |
๖. มหาธมฺมสมาทานสุตฺตวณฺณนา
6. Mahādhammasamādānasuttavaṇṇanā
๔๗๓. เอวํ เม สุตฺตนฺติ มหาธมฺมสมาทานสุตฺตํฯ ตตฺถ เอวํกามาติ เอวํอิจฺฉาฯ เอวํฉนฺทาติ เอวํอชฺฌาสยาฯ เอวํอธิปฺปายาติ เอวํลทฺธิกาฯ ตตฺราติ ตสฺมิํ อนิฎฺฐวฑฺฒเน เจว อิฎฺฐปริหาเน จฯ ภควํมูลกาติ ภควา มูลํ เอเตสนฺติ ภควํมูลกาฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – อิเม, ภเนฺต, อมฺหากํ ธมฺมา ปุเพฺพ กสฺสปสมฺมาสมฺพุเทฺธน อุปฺปาทิตา, ตสฺมิํ ปรินิพฺพุเต เอกํ พุทฺธนฺตรํ อโญฺญ สมโณ วา พฺราหฺมโณ วา อิเม ธเมฺม อุปฺปาเทตุํ สมโตฺถ นาม นาโหสิ, ภควตา ปน โน อิเม ธมฺมา อุปฺปาทิตาฯ ภควนฺตญฺหิ นิสฺสาย มยํ อิเม ธเมฺม อาชานาม ปฎิวิชฺฌามาติ เอวํ ภควํมูลกา โน, ภเนฺต, ธมฺมาติฯ ภควํเนตฺติกาติ ภควา หิ ธมฺมานํ เนตา วิเนตา อนุเนตาติฯ ยถาสภาวโต ปาฎิเยกฺกํ ปาฎิเยกฺกํ นามํ คเหตฺวา ทสฺสิตา ธมฺมา ภควํเนตฺติกา นาม โหนฺติฯ ภควํปฎิสรณาติ จตุภูมกา ธมฺมา สพฺพญฺญุตญฺญาณสฺส อาปาถํ อาคจฺฉมานา ภควติ ปฎิสรนฺติ นามาติ ภควํปฎิสรณาฯ ปฎิสรนฺตีติ โอสรนฺติ สโมสรนฺติฯ อปิจ มหาโพธิมเณฺฑ นิสินฺนสฺส ภควโต ปฎิเวธวเสน ผโสฺส อาคจฺฉติ, อหํ ภควา กินฺนาโมติ? ตฺวํ ผุสนเฎฺฐน ผโสฺส นามฯ เวทนา, สญฺญา, สงฺขารา, วิญฺญาณํ อาคจฺฉติฯ อหํ ภควา กินฺนามนฺติ? ตฺวํ วิชานนเฎฺฐน วิญฺญาณํ นามาติ เอวํ จตุภูมกธมฺมานํ ยถาสภาวโต ปาฎิเยกฺกํ ปาฎิเยกฺกํ นามํ คณฺหโนฺต ภควา ธเมฺม ปฎิสรตีติปิ ภควํปฎิสรณาฯ ภควนฺตเญฺญว ปฎิภาตูติ ภควโตเยว เอตสฺส ภาสิตสฺส อโตฺถ อุปฎฺฐาตุ, ตุเมฺหเยว โน กเถตฺวา เทถาติ อโตฺถฯ
473.Evaṃme suttanti mahādhammasamādānasuttaṃ. Tattha evaṃkāmāti evaṃicchā. Evaṃchandāti evaṃajjhāsayā. Evaṃadhippāyāti evaṃladdhikā. Tatrāti tasmiṃ aniṭṭhavaḍḍhane ceva iṭṭhaparihāne ca. Bhagavaṃmūlakāti bhagavā mūlaṃ etesanti bhagavaṃmūlakā. Idaṃ vuttaṃ hoti – ime, bhante, amhākaṃ dhammā pubbe kassapasammāsambuddhena uppāditā, tasmiṃ parinibbute ekaṃ buddhantaraṃ añño samaṇo vā brāhmaṇo vā ime dhamme uppādetuṃ samattho nāma nāhosi, bhagavatā pana no ime dhammā uppāditā. Bhagavantañhi nissāya mayaṃ ime dhamme ājānāma paṭivijjhāmāti evaṃ bhagavaṃmūlakā no, bhante, dhammāti. Bhagavaṃnettikāti bhagavā hi dhammānaṃ netā vinetā anunetāti. Yathāsabhāvato pāṭiyekkaṃ pāṭiyekkaṃ nāmaṃ gahetvā dassitā dhammā bhagavaṃnettikā nāma honti. Bhagavaṃpaṭisaraṇāti catubhūmakā dhammā sabbaññutaññāṇassa āpāthaṃ āgacchamānā bhagavati paṭisaranti nāmāti bhagavaṃpaṭisaraṇā. Paṭisarantīti osaranti samosaranti. Apica mahābodhimaṇḍe nisinnassa bhagavato paṭivedhavasena phasso āgacchati, ahaṃ bhagavā kinnāmoti? Tvaṃ phusanaṭṭhena phasso nāma. Vedanā, saññā, saṅkhārā, viññāṇaṃ āgacchati. Ahaṃ bhagavā kinnāmanti? Tvaṃ vijānanaṭṭhena viññāṇaṃ nāmāti evaṃ catubhūmakadhammānaṃ yathāsabhāvato pāṭiyekkaṃ pāṭiyekkaṃ nāmaṃ gaṇhanto bhagavā dhamme paṭisaratītipi bhagavaṃpaṭisaraṇā. Bhagavantaññeva paṭibhātūti bhagavatoyeva etassa bhāsitassa attho upaṭṭhātu, tumheyeva no kathetvā dethāti attho.
๔๗๔. เสวิตเพฺพติ นิสฺสยิตเพฺพฯ ภชิตเพฺพติ อุปคนฺตเพฺพฯ ยถา ตํ อวิทฺทสุโนติ ยถา อวิทุโน พาลสฺส อนฺธปุถุชฺชนสฺสฯ ยถา ตํ วิทฺทสุโนติ ยถา วิทุโน เมธาวิโน ปณฺฑิตสฺสฯ
474.Sevitabbeti nissayitabbe. Bhajitabbeti upagantabbe. Yathā taṃ aviddasunoti yathā aviduno bālassa andhaputhujjanassa. Yathā taṃ viddasunoti yathā viduno medhāvino paṇḍitassa.
๔๗๕. อตฺถิ, ภิกฺขเว, ธมฺมสมาทานนฺติ ปุริมสุเตฺต อุปฺปฎิปาฎิอากาเรน มาติกา ฐปิตา , อิธ ปน ยถาธมฺมรเสเนว สตฺถา มาติกํ ฐเปสิฯ ตตฺถ ธมฺมสมาทานนฺติ ปาณาติปาตาทีนํ ธมฺมานํ คหณํฯ
475.Atthi, bhikkhave, dhammasamādānanti purimasutte uppaṭipāṭiākārena mātikā ṭhapitā , idha pana yathādhammaraseneva satthā mātikaṃ ṭhapesi. Tattha dhammasamādānanti pāṇātipātādīnaṃ dhammānaṃ gahaṇaṃ.
๔๗๖. อวิชฺชาคโตติ อวิชฺชาย สมนฺนาคโตฯ
476.Avijjāgatoti avijjāya samannāgato.
๔๗๗. วิชฺชาคโตติ วิชฺชาย สมนฺนาคโต ปญฺญวาฯ
477.Vijjāgatoti vijjāya samannāgato paññavā.
๔๗๘. สหาปิ ทุเกฺขนาติ เอตฺถ มิจฺฉาจาโร อภิชฺฌา มิจฺฉาทิฎฺฐีติ อิเม ตาว ตโย ปุพฺพเจตนาย จ อปรเจตนาย จาติ ทฺวินฺนํ เจตนานํ วเสน ทุกฺขเวทนา โหนฺติฯ สนฺนิฎฺฐาปกเจตนา ปน สุขสมฺปยุตฺตา วา อุเปกฺขาสมฺปยุตฺตา วา โหติฯ เสสา ปาณาติปาตาทโย สตฺต ติสฺสนฺนมฺปิ เจตนานํ วเสน ทุกฺขเวทนา โหนฺติฯ อิทํ สนฺธาย วุตฺตํ – ‘‘สหาปิ ทุเกฺขน สหาปิ โทมนเสฺสนา’’ติฯ โทมนสฺสเมว เจตฺถ ทุกฺขนฺติ เวทิตพฺพํฯ ปริเยฎฺฐิํ วา อาปชฺชนฺตสฺส ปุพฺพภาคปรภาเคสุ กายิกํ ทุกฺขมฺปิ วฎฺฎติเยวฯ
478.Sahāpi dukkhenāti ettha micchācāro abhijjhā micchādiṭṭhīti ime tāva tayo pubbacetanāya ca aparacetanāya cāti dvinnaṃ cetanānaṃ vasena dukkhavedanā honti. Sanniṭṭhāpakacetanā pana sukhasampayuttā vā upekkhāsampayuttā vā hoti. Sesā pāṇātipātādayo satta tissannampi cetanānaṃ vasena dukkhavedanā honti. Idaṃ sandhāya vuttaṃ – ‘‘sahāpi dukkhena sahāpi domanassenā’’ti. Domanassameva cettha dukkhanti veditabbaṃ. Pariyeṭṭhiṃ vā āpajjantassa pubbabhāgaparabhāgesu kāyikaṃ dukkhampi vaṭṭatiyeva.
๔๗๙. สหาปิ สุเขนาติ เอตฺถ ปาณาติปาโต ผรุสวาจา พฺยาปาโทติ อิเม ตาว ตโย ปุพฺพเจตนาย จ อปรเจตนาย จาติ ทฺวินฺนํ เจตนานํ วเสน สุขเวทนา โหนฺติฯ สนฺนิฎฺฐาปกเจตนา ปน ทุกฺขสมฺปยุตฺตาว โหติฯ เสสา สตฺต ติสฺสนฺนมฺปิ เจตนานํ วเสน สุขเวทนา โหนฺติเยวฯ สหาปิ โสมนเสฺสนาติ โสมนสฺสเมว เจตฺถ สุขนฺติ เวทิตพฺพํฯ อิฎฺฐโผฎฺฐพฺพสมงฺคิโน วา ปุพฺพภาคปรภาเคสุ กายิกํ สุขมฺปิ วฎฺฎติเยวฯ
479.Sahāpisukhenāti ettha pāṇātipāto pharusavācā byāpādoti ime tāva tayo pubbacetanāya ca aparacetanāya cāti dvinnaṃ cetanānaṃ vasena sukhavedanā honti. Sanniṭṭhāpakacetanā pana dukkhasampayuttāva hoti. Sesā satta tissannampi cetanānaṃ vasena sukhavedanā hontiyeva. Sahāpi somanassenāti somanassameva cettha sukhanti veditabbaṃ. Iṭṭhaphoṭṭhabbasamaṅgino vā pubbabhāgaparabhāgesu kāyikaṃ sukhampi vaṭṭatiyeva.
๔๘๐. ตติยธมฺมสมาทาเน อิเธกโจฺจ มจฺฉพโนฺธ วา โหติ, มาควิโก วา, ปาณุปฆาตํเยว นิสฺสาย ชีวิกํ กเปฺปติฯ ตสฺส ครุฎฺฐานิโย ภิกฺขุ อกามกเสฺสว ปาณาติปาเต อาทีนวํ, ปาณาติปาตวิรติยา จ อานิสํสํ กเถตฺวา สิกฺขาปทํ เทติฯ โส คณฺหโนฺตปิ ทุกฺขิโต โทมนสฺสิโตว หุตฺวา คณฺหาติฯ อปรภาเค กติปาหํ วีตินาเมตฺวา รกฺขิตุํ อสโกฺกโนฺตปิ ทุกฺขิโตว โหติ, ตสฺส ปุพฺพาปรเจตนา ทุกฺขสหคตาว โหนฺติฯ สนฺนิฎฺฐาปกเจตนา ปน สุขสหคตา วา อุเปกฺขาสหคตา วาติ เอวํ สพฺพตฺถ อโตฺถ เวทิตโพฺพ ฯ อิติ ปุพฺพภาคปรภาคเจตนาว สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ – ‘‘สหาปิ ทุเกฺขน สหาปิ โทมนเสฺสนา’’ติฯ โทมนสฺสเมว เจตฺถ ทุกฺขนฺติ เวทิตพฺพํฯ
480. Tatiyadhammasamādāne idhekacco macchabandho vā hoti, māgaviko vā, pāṇupaghātaṃyeva nissāya jīvikaṃ kappeti. Tassa garuṭṭhāniyo bhikkhu akāmakasseva pāṇātipāte ādīnavaṃ, pāṇātipātaviratiyā ca ānisaṃsaṃ kathetvā sikkhāpadaṃ deti. So gaṇhantopi dukkhito domanassitova hutvā gaṇhāti. Aparabhāge katipāhaṃ vītināmetvā rakkhituṃ asakkontopi dukkhitova hoti, tassa pubbāparacetanā dukkhasahagatāva honti. Sanniṭṭhāpakacetanā pana sukhasahagatā vā upekkhāsahagatā vāti evaṃ sabbattha attho veditabbo . Iti pubbabhāgaparabhāgacetanāva sandhāya idaṃ vuttaṃ – ‘‘sahāpi dukkhena sahāpi domanassenā’’ti. Domanassameva cettha dukkhanti veditabbaṃ.
๔๘๑. จตุตฺถธมฺมสมาทาเน ทสสุปิ ปเทสุ ติโสฺสปิ ปุพฺพภาคาปรภาคสนฺนิฎฺฐาปกเจตนา สุขสมฺปยุตฺตา โหนฺติเยว, ตํ สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ – ‘‘สหาปิ สุเขน สหาปิ โสมนเสฺสนา’’ติฯ โสมนสฺสเมว เจตฺถ สุขนฺติ เวทิตพฺพํฯ
481. Catutthadhammasamādāne dasasupi padesu tissopi pubbabhāgāparabhāgasanniṭṭhāpakacetanā sukhasampayuttā hontiyeva, taṃ sandhāya idaṃ vuttaṃ – ‘‘sahāpi sukhena sahāpi somanassenā’’ti. Somanassameva cettha sukhanti veditabbaṃ.
๔๘๒. ติตฺตกาลาพูติ ติตฺตกรสอลาพุฯ วิเสน สํสโฎฺฐติ หลาหลวิเสน สมฺปยุโตฺต มิสฺสิโต ลุฬิโตฯ นจฺฉาเทสฺสตีติ น รุจฺจิสฺสติ น ตุฎฺฐิํ กริสฺสติฯ นิคจฺฉสีติ คมิสฺสสิฯ อปฺปฎิสงฺขาย ปิเวยฺยาติ ตํ อปฺปจฺจเวกฺขิตฺวา ปิเวยฺยฯ
482.Tittakālābūti tittakarasaalābu. Visena saṃsaṭṭhoti halāhalavisena sampayutto missito luḷito. Nacchādessatīti na ruccissati na tuṭṭhiṃ karissati. Nigacchasīti gamissasi. Appaṭisaṅkhāya piveyyāti taṃ appaccavekkhitvā piveyya.
๔๘๓. อาปานียกํโสติ อาปานียสฺส มธุรปานกสฺส ภริตกํโสฯ วณฺณสมฺปโนฺนติ ปานกวณฺณาทีหิ สมฺปนฺนวโณฺณ, กํเส ปกฺขิตฺตปานกวเสน ปานกกํโสปิ เอวํ วุโตฺตฯ ฉาเทสฺสตีติ ตญฺหิ หลาหลวิสํ ยตฺถ ยตฺถ ปกฺขิตฺตํ โหติ, ตสฺส ตเสฺสว รสํ เทติฯ เตน วุตฺตํ ‘‘ฉาเทสฺสตี’’ติฯ
483.Āpānīyakaṃsoti āpānīyassa madhurapānakassa bharitakaṃso. Vaṇṇasampannoti pānakavaṇṇādīhi sampannavaṇṇo, kaṃse pakkhittapānakavasena pānakakaṃsopi evaṃ vutto. Chādessatīti tañhi halāhalavisaṃ yattha yattha pakkhittaṃ hoti, tassa tasseva rasaṃ deti. Tena vuttaṃ ‘‘chādessatī’’ti.
๔๘๔. ปูติมุตฺตนฺติ มุตฺตเมวฯ ยถา หิ มนุสฺสภาโว สุวณฺณวโณฺณ ปูติกาโยเตฺวว, ตทหุชาตาปิ คโลจิลตา ปูติลตาเตฺวว วุจฺจติฯ เอวํ ตงฺขณํ คหิตํ ตรุณมฺปิ มุตฺตํ ปูติมุตฺตเมวฯ นานาเภสเชฺชหีติ หรีตกามลกาทีหิ นาโนสเธหิฯ สุขี อสฺสาติ อโรโค สุวณฺณวโณฺณ สุขี ภเวยฺยฯ
484.Pūtimuttanti muttameva. Yathā hi manussabhāvo suvaṇṇavaṇṇo pūtikāyotveva, tadahujātāpi galocilatā pūtilatātveva vuccati. Evaṃ taṅkhaṇaṃ gahitaṃ taruṇampi muttaṃ pūtimuttameva. Nānābhesajjehīti harītakāmalakādīhi nānosadhehi. Sukhī assāti arogo suvaṇṇavaṇṇo sukhī bhaveyya.
๔๘๕. ทธิ จ มธุ จาติ สุปริสุทฺธํ ทธิ จ สุมธุรํ มธุ จฯ เอกชฺฌํ สํสฎฺฐนฺติ เอกโต กตฺวา มิสฺสิตํ อาลุฬิตํฯ ตสฺส ตนฺติ ตสฺส ตํ จตุมธุรเภสชฺชํ ปิวโต รุเจฺจยฺยฯ อิทญฺจ ยํ ภคนฺทรสํสฎฺฐํ โลหิตํ ปกฺขนฺทติ, น ตสฺส เภสชฺชํ, อาหารํ ถเมฺภตฺวา มคฺคํ อวลญฺชํ กโรติฯ ยํ ปน ปิตฺตสํสฎฺฐํ โลหิตํ, ตเสฺสตํ เภสชฺชํ สีตลกิริยาย ปริยตฺตภูตํฯ
485.Dadhi ca madhu cāti suparisuddhaṃ dadhi ca sumadhuraṃ madhu ca. Ekajjhaṃ saṃsaṭṭhanti ekato katvā missitaṃ āluḷitaṃ. Tassa tanti tassa taṃ catumadhurabhesajjaṃ pivato rucceyya. Idañca yaṃ bhagandarasaṃsaṭṭhaṃ lohitaṃ pakkhandati, na tassa bhesajjaṃ, āhāraṃ thambhetvā maggaṃ avalañjaṃ karoti. Yaṃ pana pittasaṃsaṭṭhaṃ lohitaṃ, tassetaṃ bhesajjaṃ sītalakiriyāya pariyattabhūtaṃ.
๔๘๖. วิเทฺธติ อุพฺพิเทฺธฯ เมฆวิคเมน ทูรีภูเตติ อโตฺถฯ วิคตวลาหเกติ อปคตเมเฆ, เทเวติ อากาเสฯ อากาสคตํ ตมคตนฺติ อากาสคตํ ตมํฯ ปุถุสมณพฺราหฺมณปรปฺปวาเทติ ปุถูนํ สมณพฺราหฺมณสงฺขาตานํ ปเรสํ วาเทฯ อภิวิหจฺจาติ อภิหนฺตฺวาฯ ภาสเต จ ตปเต จ วิโรจเต จาติ สรทกาเล มชฺฌนฺหิกสมเย อาทิโจฺจว โอภาสํ มุญฺจติ ตปติ วิโชฺชตตีติฯ
486.Viddheti ubbiddhe. Meghavigamena dūrībhūteti attho. Vigatavalāhaketi apagatameghe, deveti ākāse. Ākāsagataṃ tamagatanti ākāsagataṃ tamaṃ. Puthusamaṇabrāhmaṇaparappavādeti puthūnaṃ samaṇabrāhmaṇasaṅkhātānaṃ paresaṃ vāde. Abhivihaccāti abhihantvā. Bhāsate ca tapate ca virocate cāti saradakāle majjhanhikasamaye ādiccova obhāsaṃ muñcati tapati vijjotatīti.
อิทํ ปน สุตฺตํ เทวตานํ อติวิย ปิยํ มนาปํฯ ตตฺริทํ วตฺถุ – ทกฺขิณทิสายํ กิร หตฺถิโภคชนปเท สงฺครวิหาโร นาม อตฺถิฯ ตสฺส โภชนสาลทฺวาเร สงฺครรุเกฺข อธิวตฺถา เทวตา รตฺติภาเค เอกสฺส ทหรสฺส สรภญฺญวเสน อิทํ สุตฺตํ โอสาเรนฺตสฺส สุตฺวา สาธุการํ อทาสิฯ ทหโร กิํ เอโสติ อาหฯ อหํ, ภเนฺต, อิมสฺมิํ รุเกฺข อธิวตฺถา เทวตาติฯ กสฺมิํ เทวเต ปสนฺนาสิ, กิํ สเทฺท, อุทาหุ สุเตฺตติ? สโทฺท นาม, ภเนฺต, ยสฺส กสฺสจิ โหติเยว, สุเตฺต ปสนฺนามฺหิฯ สตฺถารา เชตวเน นิสีทิตฺวา กถิตทิวเส จ อชฺช จ เอกพฺยญฺชเนปิ นานํ นตฺถีติฯ อโสฺสสิ ตฺวํ เทวเต สตฺถารา กถิตทิวเสติ? อาม, ภเนฺตฯ กตฺถ ฐิตา อโสฺสสีติ? เชตวนํ, ภเนฺต, คตามฺหิ, มเหสกฺขาสุ ปน เทวตาสุ อาคจฺฉนฺตีสุ ตตฺถ โอกาสํ อลภิตฺวา อิเธว ฐตฺวา อโสฺสสินฺติฯ เอตฺถ ฐิตาย สกฺกา สุตฺถุ สโทฺท โสตุนฺติ? ตฺวํ ปน, ภเนฺต, มยฺหํ สทฺทํ สุณสีติ? อาม เทวเตติฯ ทกฺขิณกณฺณปเสฺส นิสีทิตฺวา กถนกาโล วิย, ภเนฺต, โหตีติฯ กิํ ปน เทวเต สตฺถุ รูปํ ปสฺสสีติ? สตฺถา มเมว โอโลเกตีติ มญฺญมานา สณฺฐาตุํ น สโกฺกมิ, ภเนฺตติฯ วิเสสํ ปน นิพฺพเตฺตตุํ อสกฺขิตฺถ เทวเตติฯ เทวตา ตเตฺถว อนฺตรธายิฯ ตํ ทิวสํ กิเรส เทวปุโตฺต โสตาปตฺติผเล ปติฎฺฐิโตฯ เอวมิทํ สุตฺตํ เทวตานํ ปิยํ มนาปํฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติฯ
Idaṃ pana suttaṃ devatānaṃ ativiya piyaṃ manāpaṃ. Tatridaṃ vatthu – dakkhiṇadisāyaṃ kira hatthibhogajanapade saṅgaravihāro nāma atthi. Tassa bhojanasāladvāre saṅgararukkhe adhivatthā devatā rattibhāge ekassa daharassa sarabhaññavasena idaṃ suttaṃ osārentassa sutvā sādhukāraṃ adāsi. Daharo kiṃ esoti āha. Ahaṃ, bhante, imasmiṃ rukkhe adhivatthā devatāti. Kasmiṃ devate pasannāsi, kiṃ sadde, udāhu sutteti? Saddo nāma, bhante, yassa kassaci hotiyeva, sutte pasannāmhi. Satthārā jetavane nisīditvā kathitadivase ca ajja ca ekabyañjanepi nānaṃ natthīti. Assosi tvaṃ devate satthārā kathitadivaseti? Āma, bhante. Kattha ṭhitā assosīti? Jetavanaṃ, bhante, gatāmhi, mahesakkhāsu pana devatāsu āgacchantīsu tattha okāsaṃ alabhitvā idheva ṭhatvā assosinti. Ettha ṭhitāya sakkā sutthu saddo sotunti? Tvaṃ pana, bhante, mayhaṃ saddaṃ suṇasīti? Āma devateti. Dakkhiṇakaṇṇapasse nisīditvā kathanakālo viya, bhante, hotīti. Kiṃ pana devate satthu rūpaṃ passasīti? Satthā mameva oloketīti maññamānā saṇṭhātuṃ na sakkomi, bhanteti. Visesaṃ pana nibbattetuṃ asakkhittha devateti. Devatā tattheva antaradhāyi. Taṃ divasaṃ kiresa devaputto sotāpattiphale patiṭṭhito. Evamidaṃ suttaṃ devatānaṃ piyaṃ manāpaṃ. Sesaṃ sabbattha uttānatthamevāti.
ปปญฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฎฺฐกถาย
Papañcasūdaniyā majjhimanikāyaṭṭhakathāya
มหาธมฺมสมาทานสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Mahādhammasamādānasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya / ๖. มหาธมฺมสมาทานสุตฺตํ • 6. Mahādhammasamādānasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) / ๖. มหาธมฺมสมาทานสุตฺตวณฺณนา • 6. Mahādhammasamādānasuttavaṇṇanā