Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā)

    ๘-๑๐. มหาทิฎฺฐิสุตฺตาทิวณฺณนา

    8-10. Mahādiṭṭhisuttādivaṇṇanā

    ๒๑๓-๒๑๕. อกตาติ สเมน วา วิสเมน วา เกนจิ เหตุนา น กตา เอวฯ เกนจิ กตํ กรณํ วิธานํ นตฺถิ เอเตสนฺติ อกตวิธานาฯ ปททฺวเยนปิ โลเก เกนจิ เหตุปจฺจเยน เนสํ อภินิพฺพตฺติตาภาวํ ทเสฺสติฯ อิทฺธิยาปิ น นิมฺมิตาติ กสฺสจิ อิทฺธิมโต เทวสฺส พฺรหฺมุโน วา อิทฺธิยาปิ น นิมฺมิตาฯ อนิมฺมิตาติ วา กสฺสจิ อนิมฺมาปกาฯ อชนกาติ เอเตน ปถวีกายาทีนํ รูปาทิชนกภาวํ ปฎิกฺขิปติฯ รูปสทฺทาทโย หิ ปถวีกายาทีหิ อปฺปฎิพทฺธวุตฺติกาติ ตสฺส ลทฺธิฯ ยถา ปพฺพตกูฎํ เกนจิ อนิพฺพตฺติตํ กสฺสจิ จ อนิพฺพตฺตกํ, เอวเมเตปีติ อาห ‘‘กูฎฎฺฐา’’ติฯ ยมิทํ ‘‘พีชาทิโต องฺกุราทิ ชายตี’’ติ วุจฺจติ, ตญฺจ วิชฺชมานเมว ตโต นิกฺขมติ, นาวิชฺชมานํ, อญฺญถา ยโต กุโตจิ ยสฺส กสฺสจิ อุปฺปตฺติ สิยาติ อธิปฺปาโยฯ ฐิตาติ นิพฺพิการภาเวน ฐิตาฯ น จลนฺตีติ น วิการํ อาปชฺชนฺติฯ วิการาภาเวน หิ เตสํ สตฺตนฺนํ กายานํ เอสิกฎฺฐายิฎฺฐิตตาฯ อนิญฺชนญฺจ อตฺตโน ปกติยา อวฎฺฐานเมวฯ เตนาห ‘‘น วิปริณมนฺตี’’ติฯ อวิปริณามธมฺมตฺตา เอว จ เน อญฺญมญฺญํ น พฺยาพาเธนฺติฯ สติ หิ วิการํ อาปาเทตพฺพตาย พฺยาพาธกตาปิ สิยา, ตถา อนุคฺคเหตพฺพตาย อนุคฺคาหกตาติ ตทภาวํ ทเสฺสตุํ ปาฬิยํ ‘‘นาล’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ ปถวี เอว กาเยกเทสตฺตา ปถวิกาโยฯ ชีวสตฺตมานํ กายานํ นิจฺจตาย นิพฺพิการาภาวโต น หนฺตพฺพตา, น ฆาเฎตพฺพตา จาติ เนว โกจิ หนฺตา ฆาเตตา วาฯ เตนาห ‘‘สตฺตนฺนเนฺตฺววา’’ติอาทิฯ ยทิ โกจิ หนฺตา นตฺถิ, กถํ สตฺถปฺปหาโรติ อาห ‘‘ยถา มุคฺคราสิอาทีสู’’ติอาทิฯ เกวลํ สญฺญามตฺตเมว โหติ, น ฆาตนาทิ, ปรมตฺถโต สตฺตนฺนเนฺตฺวว กายานํ อวิโกปนียภาวโตติ อธิปฺปาโยฯ

    213-215.Akatāti samena vā visamena vā kenaci hetunā na katā eva. Kenaci kataṃ karaṇaṃ vidhānaṃ natthi etesanti akatavidhānā. Padadvayenapi loke kenaci hetupaccayena nesaṃ abhinibbattitābhāvaṃ dasseti. Iddhiyāpi na nimmitāti kassaci iddhimato devassa brahmuno vā iddhiyāpi na nimmitā. Animmitāti vā kassaci animmāpakā. Ajanakāti etena pathavīkāyādīnaṃ rūpādijanakabhāvaṃ paṭikkhipati. Rūpasaddādayo hi pathavīkāyādīhi appaṭibaddhavuttikāti tassa laddhi. Yathā pabbatakūṭaṃ kenaci anibbattitaṃ kassaci ca anibbattakaṃ, evametepīti āha ‘‘kūṭaṭṭhā’’ti. Yamidaṃ ‘‘bījādito aṅkurādi jāyatī’’ti vuccati, tañca vijjamānameva tato nikkhamati, nāvijjamānaṃ, aññathā yato kutoci yassa kassaci uppatti siyāti adhippāyo. Ṭhitāti nibbikārabhāvena ṭhitā. Na calantīti na vikāraṃ āpajjanti. Vikārābhāvena hi tesaṃ sattannaṃ kāyānaṃ esikaṭṭhāyiṭṭhitatā. Aniñjanañca attano pakatiyā avaṭṭhānameva. Tenāha ‘‘na vipariṇamantī’’ti. Avipariṇāmadhammattā eva ca ne aññamaññaṃ na byābādhenti. Sati hi vikāraṃ āpādetabbatāya byābādhakatāpi siyā, tathā anuggahetabbatāya anuggāhakatāti tadabhāvaṃ dassetuṃ pāḷiyaṃ ‘‘nāla’’ntiādi vuttaṃ. Pathavī eva kāyekadesattā pathavikāyo. Jīvasattamānaṃ kāyānaṃ niccatāya nibbikārābhāvato na hantabbatā, na ghāṭetabbatā cāti neva koci hantā ghātetā vā. Tenāha ‘‘sattannantvevā’’tiādi. Yadi koci hantā natthi, kathaṃ satthappahāroti āha ‘‘yathā muggarāsiādīsū’’tiādi. Kevalaṃ saññāmattameva hoti, na ghātanādi, paramatthato sattannantveva kāyānaṃ avikopanīyabhāvatoti adhippāyo.

    ปมุขโยนีนนฺติ มนุสฺสติรจฺฉานาทีสุ ขตฺติยพฺราหฺมณาทิสีหพฺยคฺฆาทิวเสน ปธานโยนีนํฯ สฎฺฐิสตานิ ฉสหสฺสานิฯ ‘‘ปญฺจ จ กมฺมุโน สตานี’’ติ ปทสฺส อตฺถทสฺสนํ ‘‘ปญฺจ กมฺมสตานิ จา’’ติ ฯ เอเสว นโยติ อิมินา ‘‘เกวลํ ตกฺกมเตฺตน นิรตฺถกทิฎฺฐิํ ทีเปตี’’ติ อิมเมว อตฺถํ อติทิสติฯ เอตฺถ จ ตกฺกมตฺตเกนาติ อิมินา ยสฺมา ตกฺกิกา นิรงฺกุสตาย ปริกปฺปนสฺส ยํ กิญฺจิ อตฺตโน ปริกปฺปิตํ สารโต มญฺญมานา ตเถว อภินิวิสฺส ตกฺกทิฎฺฐิคาหํ คณฺหนฺติ, ตสฺมา น เตสํ ทิฎฺฐิวตฺถูสุ วิญฺญูหิ วิจารณา กาตพฺพาติ ทเสฺสติฯ เกจีติ อุตฺตรวิหารวาสิโนฯ เต หิ ‘‘ปญฺจ กมฺมานีติ จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายา, อิมานิ ปญฺจินฺทฺริยานิ ‘ปญฺจ กมฺมานีติ ปญฺญาเปนฺตี’’ติ วทนฺติฯ กมฺมนฺติ ลทฺธีติ โอฬาริกภาวโต ปริปุณฺณกมฺมนฺติ ลทฺธิฯ มโนกมฺมํ อโนฬาริกตฺตา อุปฑฺฒกมฺมนฺติ ลทฺธีติ โยชนาฯ ‘‘ทฺวาสฎฺฐิปฎิปทา’’ติ วตฺตเพฺพ สภาวนิรุตฺติํ อชานนฺตา ‘‘ทฺวฎฺฐิปฎิปทา’’ติ วทนฺติฯ เอกสฺมิํ กเปฺปติ เอกสฺมิํ มหากเปฺปฯ ตตฺถาปิ จ วิวฎฺฎฎฺฐายิสญฺญิเต เอกสฺมิํ อสเงฺขฺยยฺยกเปฺป

    Pamukhayonīnanti manussatiracchānādīsu khattiyabrāhmaṇādisīhabyagghādivasena padhānayonīnaṃ. Saṭṭhisatāni chasahassāni. ‘‘Pañca ca kammuno satānī’’ti padassa atthadassanaṃ ‘‘pañca kammasatāni cā’’ti . Eseva nayoti iminā ‘‘kevalaṃ takkamattena niratthakadiṭṭhiṃ dīpetī’’ti imameva atthaṃ atidisati. Ettha ca takkamattakenāti iminā yasmā takkikā niraṅkusatāya parikappanassa yaṃ kiñci attano parikappitaṃ sārato maññamānā tatheva abhinivissa takkadiṭṭhigāhaṃ gaṇhanti, tasmā na tesaṃ diṭṭhivatthūsu viññūhi vicāraṇā kātabbāti dasseti. Kecīti uttaravihāravāsino. Te hi ‘‘pañca kammānīti cakkhusotaghānajivhākāyā, imāni pañcindriyāni ‘pañca kammānīti paññāpentī’’ti vadanti. Kammanti laddhīti oḷārikabhāvato paripuṇṇakammanti laddhi. Manokammaṃ anoḷārikattā upaḍḍhakammanti laddhīti yojanā. ‘‘Dvāsaṭṭhipaṭipadā’’ti vattabbe sabhāvaniruttiṃ ajānantā ‘‘dvaṭṭhipaṭipadā’’ti vadanti. Ekasmiṃ kappeti ekasmiṃ mahākappe. Tatthāpi ca vivaṭṭaṭṭhāyisaññite ekasmiṃ asaṅkhyeyyakappe.

    อุรเพฺภ หนนฺตีติ โอรพฺภิกาฯ เอวํ สูกริกาทโย เวทิตพฺพาฯ ลุทฺทาติ อเญฺญปิ เย เกจิ มาควิกเนสาทาทโย, เต ปาปกมฺมปสุตตาย กณฺหาภิชาตีติ วทนฺติฯ ภิกฺขูติ พุทฺธสาสเน ภิกฺขูฯ เต กิร ‘‘สจฺฉนฺทราคา ปริภุญฺชนฺตี’’ติ อธิปฺปาเยน จตูสุ ปจฺจเยสุ กณฺฎเก ปกฺขิปิตฺวา ขาทนฺตีติ วทนฺติฯ กสฺมาติ เจ? ยสฺมา เต ปณีตปณีเต ปจฺจเย ปฎิเสวนฺตีติ ตสฺส มิจฺฉาคาโหฯ ญายลเทฺธปิ ปจฺจเย ปริภุญฺชมานา อาชีวกสมยสฺส วิโลมคาหิตาย ปจฺจเยสุ กณฺฎเก ปกฺขิปิตฺวา ขาทนฺติ นามาติ วทนฺตีติ อปเรฯ เอเก ปพฺพชิตา, เย วิเสสโต อตฺตกิลมถานุโยคมนุยุตฺตาฯ ตถา หิ เต กณฺฎเก วตฺตนฺตา วิย โหนฺตีติ กณฺฎกวุตฺติกาติ วุตฺตาฯ ฐตฺวา ภุญฺชนนหานปฎิเกฺขปาทิวตสมาโยเคน ปณฺฑรตราฯ อเจลกสาวกาติ อาชีวกสาวเก วทติฯ เต กิร อาชีวกสมเย อาชีวกลทฺธิยา ทฬฺหคาหิตาย นิคเณฺฐหิปิ ปณฺฑรตราฯ นนฺทาทโย กิร ตถารูปํ อาชีวกปฎิปตฺติํ อุกฺกํสํ ปาเปตฺวา ฐิตา, ตสฺมา นิคเณฺฐหิ อาชีวกสาวเกหิ จ ปณฺฑรตรา วุตฺตาฯ ปรมสุกฺกาภิชาตีติ อยํ เตสํ ลทฺธิฯ

    Urabbhe hanantīti orabbhikā. Evaṃ sūkarikādayo veditabbā. Luddāti aññepi ye keci māgavikanesādādayo, te pāpakammapasutatāya kaṇhābhijātīti vadanti. Bhikkhūti buddhasāsane bhikkhū. Te kira ‘‘sacchandarāgā paribhuñjantī’’ti adhippāyena catūsu paccayesu kaṇṭake pakkhipitvā khādantīti vadanti. Kasmāti ce? Yasmā te paṇītapaṇīte paccaye paṭisevantīti tassa micchāgāho. Ñāyaladdhepi paccaye paribhuñjamānā ājīvakasamayassa vilomagāhitāya paccayesu kaṇṭake pakkhipitvā khādanti nāmāti vadantīti apare. Eke pabbajitā, ye visesato attakilamathānuyogamanuyuttā. Tathā hi te kaṇṭake vattantā viya hontīti kaṇṭakavuttikāti vuttā. Ṭhatvā bhuñjananahānapaṭikkhepādivatasamāyogena paṇḍaratarā. Acelakasāvakāti ājīvakasāvake vadati. Te kira ājīvakasamaye ājīvakaladdhiyā daḷhagāhitāya nigaṇṭhehipi paṇḍaratarā. Nandādayo kira tathārūpaṃ ājīvakapaṭipattiṃ ukkaṃsaṃ pāpetvā ṭhitā, tasmā nigaṇṭhehi ājīvakasāvakehi ca paṇḍaratarā vuttā. Paramasukkābhijātīti ayaṃ tesaṃ laddhi.

    ปุริสภูมิโยติ ปธานปุคฺคเลน นิเทฺทโสฯ อิตฺถีนเมฺปตา ภูมิโย อิจฺฉเนฺตวฯ ภิกฺขุ จ ปนฺนโกติอาทิ เตสํ ปาฬิ เอวฯ ตตฺถ ปนฺนโกติ ภิกฺขาย วิจรณโก, เตสํ วา ปฎิปตฺติยา ปฎิปนฺนโกฯ ชิโนติ ชิโณฺณ ชราวเสน หีนธาตุโก, อตฺตโน วา ปฎิปตฺติยา ปฎิปเกฺข ชินิตฺวา ฐิโตฯ โส กิร ตถาภูโต ธมฺมมฺปิ กสฺสจิ น กเถติฯ เตนาห ‘‘น กิญฺจิ อาหา’’ติฯ นิฎฺฐุหนาทิวิปฺปกาเร เกนจิ กเตปิ ขมนวเสน น กิญฺจิ วทตีติ วทนฺติฯ อลาภินฺติ ‘‘โส น กุมฺภิมุขา ปฎิคฺคณฺหาตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๓๙๔) นเยน วุตฺตอลาภเหตุสมาโยเคน อลาภิํฯ ตโต เอว ชิฆจฺฉาทุพฺพลฺยปเรตตาย สยนปรายณํ สมณํ ปนฺนภูมีติ วทนฺติ

    Purisabhūmiyoti padhānapuggalena niddeso. Itthīnampetā bhūmiyo icchanteva. Bhikkhu ca pannakotiādi tesaṃ pāḷi eva. Tattha pannakoti bhikkhāya vicaraṇako, tesaṃ vā paṭipattiyā paṭipannako. Jinoti jiṇṇo jarāvasena hīnadhātuko, attano vā paṭipattiyā paṭipakkhe jinitvā ṭhito. So kira tathābhūto dhammampi kassaci na katheti. Tenāha ‘‘na kiñci āhā’’ti. Niṭṭhuhanādivippakāre kenaci katepi khamanavasena na kiñci vadatīti vadanti. Alābhinti ‘‘so na kumbhimukhā paṭiggaṇhātī’’tiādinā (dī. ni. 1.394) nayena vuttaalābhahetusamāyogena alābhiṃ. Tato eva jighacchādubbalyaparetatāya sayanaparāyaṇaṃ samaṇaṃ pannabhūmīti vadanti.

    อาชีววุตฺติสตานีติ สตฺตานํ อาชีวภูตานิ ชีวิกาวุตฺติสตานิฯ ปสุคฺคหเณน เอฬกชาติ คหิตา, มิคคฺคหเณน รุรุควยาทิสพฺพมิคชาติฯ พหู เทวาติ จาตุมหาราชิกาทิพฺรหฺมกายิกาทิวเสน เตสํ อนฺตรเภทวเสน พหู เทวาฯ ตตฺถ จาตุมหาราชิกานํ เอกเจฺจ อนฺตรเภทา มหาสมยสุตฺตวเสน (ที. นิ. ๒.๓๓๑ อาทโย) ทีเปตพฺพาฯ มนุสฺสาปิ อนนฺตาติ ทีปเทสกุลวํสาชีวาทิวิภาเคน มนุสฺสาปิ อนนฺตเภทาฯ ปิสาจา เอว เปสาจา, เต มหนฺตมหนฺตา อชครเปตาทโยฯ ฉทฺทนฺตทหมนฺทากินิโย กุฬีรมุจลินฺทนาเมน วทนฺติฯ

    Ājīvavuttisatānīti sattānaṃ ājīvabhūtāni jīvikāvuttisatāni. Pasuggahaṇena eḷakajāti gahitā, migaggahaṇena rurugavayādisabbamigajāti. Bahū devāti cātumahārājikādibrahmakāyikādivasena tesaṃ antarabhedavasena bahū devā. Tattha cātumahārājikānaṃ ekacce antarabhedā mahāsamayasuttavasena (dī. ni. 2.331 ādayo) dīpetabbā. Manussāpi anantāti dīpadesakulavaṃsājīvādivibhāgena manussāpi anantabhedā. Pisācā eva pesācā, te mahantamahantā ajagarapetādayo. Chaddantadahamandākiniyo kuḷīramucalindanāmena vadanti.

    ปวุฎาติ สพฺพคณฺฐิกาฯ ปณฺฑิโตปิ…เป.… อุทฺธํ น คจฺฉติฯ กสฺมา? สตฺตานํ สํสรณกาลสฺส นิยตภาวโตฯ

    Pavuṭāti sabbagaṇṭhikā. Paṇḍitopi…pe… uddhaṃ na gacchati. Kasmā? Sattānaṃ saṃsaraṇakālassa niyatabhāvato.

    อปริปกฺกํ สํสรณนิมิตฺตํ สีลาทินา ปริปาเจติ นาม สีฆํเยว วิสุทฺธิปฺปตฺติยาฯ ปริปกฺกํ กมฺมํ ผุสฺส ผุสฺส ปตฺวา ปตฺวา กาเล ปริปกฺกภาวาปาทเนน พฺยนฺตี กโรติ นามฯ สุตฺตคุเฬติ สุตฺตวฎฺฎิยํฯ นิเพฺพฐิยมานเมว ปเลตีติ อุปมาย สตฺตานํ สํสาโร อนุกฺกเมน ขียเตว, น ตสฺส วฑฺฒีติ ทเสฺสติ ปริจฺฉินฺนรูปตฺตาฯ นิเพฺพฐิยมานเมว สุตฺตคุฬํ คจฺฉตีติ วุจฺจติฯ ตญฺจ โข สุตฺตปมาเณน, สุเตฺต ปน อสติ กุโต คจฺฉติ สุตฺตคุฬํฯ เตนาห – ‘‘สุเตฺต ขีเณ น คจฺฉตี’’ติฯ ตเตฺถว ติฎฺฐติ สุตฺตปริยนฺตนฺติ อธิปฺปาโยฯ กาลวเสนาติ อตฺตนิ เวเฐตฺวา ฐิตํ สุขทุกฺขํ ยถาวุตฺตสฺส กาลสฺส วเสน นิเพฺพฐิยมาโน พาโล จ ปณฺฑิโต จ ปเลติ คจฺฉติ, นาติกฺกมติ สํสารํฯ

    Aparipakkaṃ saṃsaraṇanimittaṃ sīlādinā paripāceti nāma sīghaṃyeva visuddhippattiyā. Paripakkaṃ kammaṃ phussa phussa patvā patvā kāle paripakkabhāvāpādanena byantī karoti nāma. Suttaguḷeti suttavaṭṭiyaṃ. Nibbeṭhiyamānameva paletīti upamāya sattānaṃ saṃsāro anukkamena khīyateva, na tassa vaḍḍhīti dasseti paricchinnarūpattā. Nibbeṭhiyamānameva suttaguḷaṃ gacchatīti vuccati. Tañca kho suttapamāṇena, sutte pana asati kuto gacchati suttaguḷaṃ. Tenāha – ‘‘sutte khīṇe na gacchatī’’ti. Tattheva tiṭṭhati suttapariyantanti adhippāyo. Kālavasenāti attani veṭhetvā ṭhitaṃ sukhadukkhaṃ yathāvuttassa kālassa vasena nibbeṭhiyamāno bālo ca paṇḍito ca paleti gacchati, nātikkamati saṃsāraṃ.

    มหาทิฎฺฐิสุตฺตาทิวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Mahādiṭṭhisuttādivaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๘-๑๐. มหาทิฎฺฐิสุตฺตาทิวณฺณนา • 8-10. Mahādiṭṭhisuttādivaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact