Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya

    ๘. มหาทิฎฺฐิสุตฺตํ

    8. Mahādiṭṭhisuttaṃ

    ๒๑๓. สาวตฺถินิทานํฯ ‘‘กิสฺมิํ นุ โข, ภิกฺขเว, สติ, กิํ อุปาทาย, กิํ อภินิวิสฺส เอวํ ทิฎฺฐิ อุปฺปชฺชติ – ‘สตฺติเม กายา อกฎา, อกฎวิธา, อนิมฺมิตา, อนิมฺมาตา, วญฺฌา, กูฎฎฺฐา, เอสิกฎฺฐายิฎฺฐิตา; เต น อิญฺชนฺติ, น วิปริณมนฺติ 1, น อญฺญมญฺญํ พฺยาพาเธนฺติ; นาลํ อญฺญมญฺญสฺส สุขาย วา ทุกฺขาย วา สุขทุกฺขาย วาฯ กตเม สตฺต? ปถวีกาโย, อาโปกาโย, เตโชกาโย, วาโยกาโย, สุเข, ทุเกฺข, ชีเว สตฺตเมฯ อิเม สตฺต 2 กายา อกฎา, อกฎวิธา, อนิมฺมิตา, อนิมฺมาตา, วญฺฌา, กูฎฎฺฐา เอสิกฎฺฐายิฎฺฐิตา; เต น อิญฺชนฺติ, น วิปริณมนฺติ, น อญฺญมญฺญํ พฺยาพาเธนฺติ; นาลํ อญฺญมญฺญสฺส สุขาย วา ทุกฺขาย วา สุขทุกฺขาย วาฯ โยปิ ติเณฺหน สเตฺถน สีสํ ฉินฺทติ, น โสปิ กญฺจิ 3 ชีวิตา โวโรเปติ; สตฺตนฺนํเตฺวว กายานมนฺตเรน สตฺถํ วิวรมนุปวิสติ 4ฯ จุทฺทส โข ปนิมานิ โยนิปมุขสตสหสฺสานิ สฎฺฐิ จ สตานิ ฉ จ สตานิ ปญฺจ จ กมฺมุโน สตานิ ปญฺจ จ กมฺมานิ, ตีณิ จ กมฺมานิ , กเมฺม จ อฑฺฒกเมฺม จ ทฺวฎฺฐิปฎิปทา, ทฺวฎฺฐนฺตรกปฺปา, ฉฬาภิชาติโย, อฎฺฐปุริสภูมิโย, เอกูนปญฺญาส อาชีวกสเต, เอกูนปญฺญาส ปริพฺพาชกสเต, เอกูนปญฺญาส นาควาสสเต, วีเส อินฺทฺริยสเต, ติํเส นิรยสเต, ฉตฺติํสรโชธาตุโย, สตฺต สญฺญีคพฺภา, สตฺต อสญฺญีคพฺภา, สตฺต นิคณฺฐิคพฺภา, สตฺต เทวา , สตฺต มานุสา, สตฺต เปสาจา, สตฺต สรา, สตฺต ปวุฎา 5, สตฺต ปปาตา, สตฺต จ ปปาตสตานิ, สตฺต สุปินา, สตฺต สุปินสตานิ, จุลฺลาสีติ มหากปฺปิโน 6 สตสหสฺสานิ, ยานิ พาเล จ ปณฺฑิเต จ สนฺธาวิตฺวา สํสริตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กริสฺสนฺติฯ ตตฺถ นตฺถิ อิมินาหํ สีเลน วา วเตน วา ตเปน วา พฺรหฺมจริเยน วา อปริปกฺกํ วา กมฺมํ ปริปาเจสฺสามิ; ปริปกฺกํ วา กมฺมํ ผุสฺส ผุสฺส พฺยนฺตีกริสฺสามีติ เหวํ นตฺถิ โทณมิเต สุขทุเกฺข ปริยนฺตกเต สํสาเร, นตฺถิ หายนวฑฺฒเน, นตฺถิ อุกฺกํสาวกํเสฯ เสยฺยถาปิ นาม สุตฺตคุเฬ ขิเตฺต นิเพฺพฐิยมานเมว ปเลติ; เอวเมว พาเล จ ปณฺฑิเต จ นิเพฺพฐิยมานา สุขทุกฺขํ ปเลนฺตี’’’ติ?

    213. Sāvatthinidānaṃ. ‘‘Kismiṃ nu kho, bhikkhave, sati, kiṃ upādāya, kiṃ abhinivissa evaṃ diṭṭhi uppajjati – ‘sattime kāyā akaṭā, akaṭavidhā, animmitā, animmātā, vañjhā, kūṭaṭṭhā, esikaṭṭhāyiṭṭhitā; te na iñjanti, na vipariṇamanti 7, na aññamaññaṃ byābādhenti; nālaṃ aññamaññassa sukhāya vā dukkhāya vā sukhadukkhāya vā. Katame satta? Pathavīkāyo, āpokāyo, tejokāyo, vāyokāyo, sukhe, dukkhe, jīve sattame. Ime satta 8 kāyā akaṭā, akaṭavidhā, animmitā, animmātā, vañjhā, kūṭaṭṭhā esikaṭṭhāyiṭṭhitā; te na iñjanti, na vipariṇamanti, na aññamaññaṃ byābādhenti; nālaṃ aññamaññassa sukhāya vā dukkhāya vā sukhadukkhāya vā. Yopi tiṇhena satthena sīsaṃ chindati, na sopi kañci 9 jīvitā voropeti; sattannaṃtveva kāyānamantarena satthaṃ vivaramanupavisati 10. Cuddasa kho panimāni yonipamukhasatasahassāni saṭṭhi ca satāni cha ca satāni pañca ca kammuno satāni pañca ca kammāni, tīṇi ca kammāni , kamme ca aḍḍhakamme ca dvaṭṭhipaṭipadā, dvaṭṭhantarakappā, chaḷābhijātiyo, aṭṭhapurisabhūmiyo, ekūnapaññāsa ājīvakasate, ekūnapaññāsa paribbājakasate, ekūnapaññāsa nāgavāsasate, vīse indriyasate, tiṃse nirayasate, chattiṃsarajodhātuyo, satta saññīgabbhā, satta asaññīgabbhā, satta nigaṇṭhigabbhā, satta devā , satta mānusā, satta pesācā, satta sarā, satta pavuṭā 11, satta papātā, satta ca papātasatāni, satta supinā, satta supinasatāni, cullāsīti mahākappino 12 satasahassāni, yāni bāle ca paṇḍite ca sandhāvitvā saṃsaritvā dukkhassantaṃ karissanti. Tattha natthi imināhaṃ sīlena vā vatena vā tapena vā brahmacariyena vā aparipakkaṃ vā kammaṃ paripācessāmi; paripakkaṃ vā kammaṃ phussa phussa byantīkarissāmīti hevaṃ natthi doṇamite sukhadukkhe pariyantakate saṃsāre, natthi hāyanavaḍḍhane, natthi ukkaṃsāvakaṃse. Seyyathāpi nāma suttaguḷe khitte nibbeṭhiyamānameva paleti; evameva bāle ca paṇḍite ca nibbeṭhiyamānā sukhadukkhaṃ palentī’’’ti?

    ภควํมูลกา โน, ภเนฺต, ธมฺมา…เป.… ‘‘รูเป โข, ภิกฺขเว, สติ, รูปํ อุปาทาย, รูปํ อภินิวิสฺส เอวํ ทิฎฺฐิ อุปฺปชฺชติ – ‘สตฺติเม กายา อกฎา, อกฎวิธา…เป.… สุขทุกฺขํ ปเลนฺตี’ติฯ เวทนาย สติ…เป.… สญฺญาย สติ… สงฺขาเรสุ สติ… วิญฺญาเณ สติ, วิญฺญาณํ อุปาทาย, วิญฺญาณํ อภินิวิสฺส เอวํ ทิฎฺฐิ อุปฺปชฺชติ – ‘สตฺติเม กายา อกฎา, อกฎวิธา…เป.… สุขทุกฺขํ ปเลนฺตี’’’ติฯ ‘‘ตํ กิํ มญฺญถ, ภิกฺขเว, รูปํ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภเนฺต’’…เป.… ‘‘ยํ ปนานิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, อปิ นุ ตํ อนุปาทาย เอวํ ทิฎฺฐิ อุปฺปเชฺชยฺย – ‘สตฺติเม กายา อกฎา อกฎวิธา…เป.… สุขทุกฺขํ ปเลนฺตี’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภเนฺต’’ฯ ‘‘ยมฺปิทํ ทิฎฺฐํ สุตํ มุตํ วิญฺญาตํ ปตฺตํ ปริเยสิตํ อนุวิจริตํ มนสา ตมฺปิ นิจฺจํ วา อนิจฺจํ วา’’ติ? ‘‘อนิจฺจํ, ภเนฺต…เป.… อปิ นุ ตํ อนุปาทาย เอวํ ทิฎฺฐิ อุปฺปเชฺชยฺย – ‘สตฺติเม กายา อกฎา อกฎวิธา…เป.… นิเพฺพฐิยมานา สุขทุกฺขํ ปเลนฺตี’’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภเนฺต’’ฯ

    Bhagavaṃmūlakā no, bhante, dhammā…pe… ‘‘rūpe kho, bhikkhave, sati, rūpaṃ upādāya, rūpaṃ abhinivissa evaṃ diṭṭhi uppajjati – ‘sattime kāyā akaṭā, akaṭavidhā…pe… sukhadukkhaṃ palentī’ti. Vedanāya sati…pe… saññāya sati… saṅkhāresu sati… viññāṇe sati, viññāṇaṃ upādāya, viññāṇaṃ abhinivissa evaṃ diṭṭhi uppajjati – ‘sattime kāyā akaṭā, akaṭavidhā…pe… sukhadukkhaṃ palentī’’’ti. ‘‘Taṃ kiṃ maññatha, bhikkhave, rūpaṃ niccaṃ vā aniccaṃ vā’’ti? ‘‘Aniccaṃ, bhante’’…pe… ‘‘yaṃ panāniccaṃ dukkhaṃ vipariṇāmadhammaṃ, api nu taṃ anupādāya evaṃ diṭṭhi uppajjeyya – ‘sattime kāyā akaṭā akaṭavidhā…pe… sukhadukkhaṃ palentī’’’ti? ‘‘No hetaṃ, bhante’’. ‘‘Yampidaṃ diṭṭhaṃ sutaṃ mutaṃ viññātaṃ pattaṃ pariyesitaṃ anuvicaritaṃ manasā tampi niccaṃ vā aniccaṃ vā’’ti? ‘‘Aniccaṃ, bhante…pe… api nu taṃ anupādāya evaṃ diṭṭhi uppajjeyya – ‘sattime kāyā akaṭā akaṭavidhā…pe… nibbeṭhiyamānā sukhadukkhaṃ palentī’’’ti? ‘‘No hetaṃ, bhante’’.

    ‘‘ยโต โข, ภิกฺขเว, อริยสาวกสฺส อิเมสุ จ ฐาเนสุ กงฺขา ปหีนา โหติ, ทุเกฺขปิสฺส กงฺขา ปหีนา โหติ…เป.… ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฎิปทายปิสฺส กงฺขา ปหีนา โหติ – อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก โสตาปโนฺน อวินิปาตธโมฺม นิยโต สโมฺพธิปรายโน’’ติฯ อฎฺฐมํฯ

    ‘‘Yato kho, bhikkhave, ariyasāvakassa imesu ca ṭhānesu kaṅkhā pahīnā hoti, dukkhepissa kaṅkhā pahīnā hoti…pe… dukkhanirodhagāminiyā paṭipadāyapissa kaṅkhā pahīnā hoti – ayaṃ vuccati, bhikkhave, ariyasāvako sotāpanno avinipātadhammo niyato sambodhiparāyano’’ti. Aṭṭhamaṃ.







    Footnotes:
    1. น วิปริณาเมนฺติ (ปี. ก.)
    2. ชีเวฯ สตฺติเม (พหูสุ)
    3. น โกจิ กญฺจิ (สี. สฺยา. กํ.), น โกจิ ตํ (ปี. ก.)
    4. วิวรมนุปตติ (กตฺถจิ) ทีฆมชฺฌิเมสุปิ
    5. สปุฎา (ก.), ปวุธา (ปี.)
    6. มหากปฺปุโน (สี. ปี.)
    7. na vipariṇāmenti (pī. ka.)
    8. jīve. sattime (bahūsu)
    9. na koci kañci (sī. syā. kaṃ.), na koci taṃ (pī. ka.)
    10. vivaramanupatati (katthaci) dīghamajjhimesupi
    11. sapuṭā (ka.), pavudhā (pī.)
    12. mahākappuno (sī. pī.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๘-๑๐. มหาทิฎฺฐิสุตฺตาทิวณฺณนา • 8-10. Mahādiṭṭhisuttādivaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๘-๑๐. มหาทิฎฺฐิสุตฺตาทิวณฺณนา • 8-10. Mahādiṭṭhisuttādivaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact