Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi |
๕๓๔. มหาหํสชาตกํ (๒)
534. Mahāhaṃsajātakaṃ (2)
๘๙.
89.
‘‘เอเต หํสา ปกฺกมนฺติ, วกฺกงฺคา ภยเมริตา;
‘‘Ete haṃsā pakkamanti, vakkaṅgā bhayameritā;
หริตฺตจ เหมวณฺณ, กามํ สุมุข ปกฺกมฯ
Harittaca hemavaṇṇa, kāmaṃ sumukha pakkama.
๙๐.
90.
‘‘โอหาย มํ ญาติคณา, เอกํ ปาสวสํ คตํ;
‘‘Ohāya maṃ ñātigaṇā, ekaṃ pāsavasaṃ gataṃ;
อนเปกฺขมานา คจฺฉนฺติ, กิํ เอโก อวหียสิฯ
Anapekkhamānā gacchanti, kiṃ eko avahīyasi.
๙๑.
91.
‘‘ปเตว ปตตํ เสฎฺฐ, นตฺถิ พเทฺธ สหายตา;
‘‘Pateva patataṃ seṭṭha, natthi baddhe sahāyatā;
มา อนีฆาย หาเปสิ, กามํ สุมุข ปกฺกม’’ฯ
Mā anīghāya hāpesi, kāmaṃ sumukha pakkama’’.
๙๒.
92.
ชีวิตํ มรณํ วา เม, ตยา สทฺธิํ ภวิสฺสติฯ
Jīvitaṃ maraṇaṃ vā me, tayā saddhiṃ bhavissati.
๙๓.
93.
‘‘นาหํ ทุกฺขปเรโตปิ, ธตรฎฺฐ ตุวํ ชเห;
‘‘Nāhaṃ dukkhaparetopi, dhataraṭṭha tuvaṃ jahe;
น มํ อนริยสํยุเตฺต, กเมฺม โยเชตุมรหสิฯ
Na maṃ anariyasaṃyutte, kamme yojetumarahasi.
๙๔.
94.
ญาโต เสนาปติ ตฺยาหํ, หํสานํ ปวรุตฺตมฯ
Ñāto senāpati tyāhaṃ, haṃsānaṃ pavaruttama.
๙๕.
95.
ตํ หิตฺวา ปตตํ เสฎฺฐ, กิํ เต วกฺขามิโต คโต;
Taṃ hitvā patataṃ seṭṭha, kiṃ te vakkhāmito gato;
๙๖.
96.
‘‘เอโส หิ ธโมฺม สุมุข, ยํ ตฺวํ อริยปเถ ฐิโต;
‘‘Eso hi dhammo sumukha, yaṃ tvaṃ ariyapathe ṭhito;
โย ภตฺตารํ สขารํ มํ, น ปริจฺจตฺตุมุสฺสเหฯ
Yo bhattāraṃ sakhāraṃ maṃ, na pariccattumussahe.
๙๗.
97.
‘‘ตญฺหิ เม เปกฺขมานสฺส, ภยํ นเตฺวว ชายติ;
‘‘Tañhi me pekkhamānassa, bhayaṃ natveva jāyati;
อธิคจฺฉสิ ตฺวํ มยฺหํ, เอวํ ภูตสฺส ชีวิตํ’’ฯ
Adhigacchasi tvaṃ mayhaṃ, evaṃ bhūtassa jīvitaṃ’’.
๙๘.
98.
‘‘อิเจฺจวํ 11 มนฺตยนฺตานํ, อริยานํ อริยวุตฺตินํ;
‘‘Iccevaṃ 12 mantayantānaṃ, ariyānaṃ ariyavuttinaṃ;
๙๙.
99.
๑๐๐.
100.
‘‘มา ภายิ ปตตํ เสฎฺฐ, น หิ ภายนฺติ ตาทิสา;
‘‘Mā bhāyi patataṃ seṭṭha, na hi bhāyanti tādisā;
อหํ โยคํ ปยุญฺชิสฺสํ, ยุตฺตํ ธมฺมูปสํหิตํ;
Ahaṃ yogaṃ payuñjissaṃ, yuttaṃ dhammūpasaṃhitaṃ;
๑๐๑.
101.
‘‘ตสฺส ตํ วจนํ สุตฺวา, สุมุขสฺส สุภาสิตํ;
‘‘Tassa taṃ vacanaṃ sutvā, sumukhassa subhāsitaṃ;
ปหฎฺฐโลโม เนสาโท, อญฺชลิสฺส ปณามยิฯ
Pahaṭṭhalomo nesādo, añjalissa paṇāmayi.
๑๐๒.
102.
‘‘น เม สุตํ วา ทิฎฺฐํ วา, ภาสโนฺต มานุสิํ ทิโช;
‘‘Na me sutaṃ vā diṭṭhaṃ vā, bhāsanto mānusiṃ dijo;
๑๐๓.
103.
‘‘กินฺนุ ตายํ ทิโช โหติ, มุโตฺต พทฺธํ อุปาสสิ;
‘‘Kinnu tāyaṃ dijo hoti, mutto baddhaṃ upāsasi;
โอหาย สกุณา ยนฺติ, กิํ เอโก อวหียสิ’’ฯ
Ohāya sakuṇā yanti, kiṃ eko avahīyasi’’.
๑๐๔.
104.
‘‘ราชา เม โส ทิชามิตฺต, เสนาปจฺจสฺส การยิํ;
‘‘Rājā me so dijāmitta, senāpaccassa kārayiṃ;
ตมาปเท ปริจฺจตฺตุํ, นุสฺสเห วิหคาธิปํฯ
Tamāpade pariccattuṃ, nussahe vihagādhipaṃ.
๑๐๕.
105.
‘‘มหาคณาย ภตฺตา เม, มา เอโก พฺยสนํ อคา;
‘‘Mahāgaṇāya bhattā me, mā eko byasanaṃ agā;
ตถา ตํ สมฺม เนสาท, ภตฺตายํ อภิโต รเม’’ฯ
Tathā taṃ samma nesāda, bhattāyaṃ abhito rame’’.
๑๐๖.
106.
‘‘อริยวตฺตสิ วกฺกงฺค, โย ปิณฺฑมปจายสิ;
‘‘Ariyavattasi vakkaṅga, yo piṇḍamapacāyasi;
๑๐๗.
107.
‘‘สเจ อตฺตปฺปโยเคน, โอหิโต หํสปกฺขินํ;
‘‘Sace attappayogena, ohito haṃsapakkhinaṃ;
ปฎิคณฺหาม เต สมฺม, เอตํ อภยทกฺขิณํฯ
Paṭigaṇhāma te samma, etaṃ abhayadakkhiṇaṃ.
๑๐๘.
108.
‘‘โน เจ อตฺตปฺปโยเคน, โอหิโต หํสปกฺขินํ;
‘‘No ce attappayogena, ohito haṃsapakkhinaṃ;
อนิสฺสโร มุญฺจมเมฺห, เถยฺยํ กยิราสิ ลุทฺทก’’ฯ
Anissaro muñcamamhe, theyyaṃ kayirāsi luddaka’’.
๑๐๙.
109.
๑๑๐.
110.
‘‘อิเจฺจวํ วุโตฺต เนสาโท, เหมวเณฺณ หริตฺตเจ;
‘‘Iccevaṃ vutto nesādo, hemavaṇṇe harittace;
๑๑๑.
111.
‘‘เต ปญฺชรคเต ปกฺขี, อุโภ ภสฺสรวณฺณิเน;
‘‘Te pañjaragate pakkhī, ubho bhassaravaṇṇine;
สุมุขํ ธตรฎฺฐญฺจ, ลุโทฺท อาทาย ปกฺกมิ’’ฯ
Sumukhaṃ dhataraṭṭhañca, luddo ādāya pakkami’’.
๑๑๒.
112.
‘‘หรียมาโน ธตรโฎฺฐ, สุมุขํ เอตทพฺรวิ;
‘‘Harīyamāno dhataraṭṭho, sumukhaṃ etadabravi;
พาฬฺหํ ภายามิ สุมุข, สามาย ลกฺขณูรุยา;
Bāḷhaṃ bhāyāmi sumukha, sāmāya lakkhaṇūruyā;
อสฺมากํ วธมญฺญาย, อถตฺตานํ วธิสฺสติฯ
Asmākaṃ vadhamaññāya, athattānaṃ vadhissati.
๑๑๓.
113.
‘‘ปากหํสา จ สุมุข, สุเหมา เหมสุตฺตจา;
‘‘Pākahaṃsā ca sumukha, suhemā hemasuttacā;
โกญฺจี สมุทฺทตีเรว, กปณา นูน รุจฺฉติ’’ฯ
Koñcī samuddatīreva, kapaṇā nūna rucchati’’.
๑๑๔.
114.
‘‘เอวํ มหโนฺต โลกสฺส, อปฺปเมโยฺย มหาคณี;
‘‘Evaṃ mahanto lokassa, appameyyo mahāgaṇī;
เอกิตฺถิมนุโสเจยฺย, นยิทํ ปญฺญวตามิวฯ
Ekitthimanusoceyya, nayidaṃ paññavatāmiva.
๑๑๕.
115.
‘‘วาโตว คนฺธมาเทติ, อุภยํ เฉกปาปกํ;
‘‘Vātova gandhamādeti, ubhayaṃ chekapāpakaṃ;
พาโล อามกปกฺกํว, โลโล อโนฺธว อามิสํฯ
Bālo āmakapakkaṃva, lolo andhova āmisaṃ.
๑๑๖.
116.
กิจฺจากิจฺจํ น ชานาสิ, สมฺปโตฺต กาลปริยายํฯ
Kiccākiccaṃ na jānāsi, sampatto kālapariyāyaṃ.
๑๑๗.
117.
‘‘อฑฺฒุมฺมโตฺต อุทีเรสิ, โย เสยฺยา มญฺญสิตฺถิโย;
‘‘Aḍḍhummatto udīresi, yo seyyā maññasitthiyo;
พหุสาธารณา เหตา, โสณฺฑานํว สุราฆรํฯ
Bahusādhāraṇā hetā, soṇḍānaṃva surāgharaṃ.
๑๑๘.
118.
‘‘มายา เจสา มรีจี จ, โสโก โรโค จุปทฺทโว;
‘‘Māyā cesā marīcī ca, soko rogo cupaddavo;
ตาสุ โย วิสฺสเส โปโส, โส นเรสุ นราธโม’’ฯ
Tāsu yo vissase poso, so naresu narādhamo’’.
๑๑๙.
119.
‘‘ยํ วุเทฺธหิ อุปญฺญาตํ, โก ตํ นินฺทิตุมรหติ;
‘‘Yaṃ vuddhehi upaññātaṃ, ko taṃ ninditumarahati;
มหาภูติตฺถิโย นาม, โลกสฺมิํ อุทปชฺชิสุํฯ
Mahābhūtitthiyo nāma, lokasmiṃ udapajjisuṃ.
๑๒๐.
120.
‘‘ขิฑฺฑา ปณิหิตา ตฺยาสุ, รติ ตฺยาสุ ปติฎฺฐิตา;
‘‘Khiḍḍā paṇihitā tyāsu, rati tyāsu patiṭṭhitā;
พีชานิ ตฺยาสุ รูหนฺติ, ยทิทํ สตฺตา ปชายเร;
Bījāni tyāsu rūhanti, yadidaṃ sattā pajāyare;
๑๒๑.
121.
‘‘ตฺวเมว นโญฺญ สุมุข, ถีนํ อเตฺถสุ ยุญฺชสิ;
‘‘Tvameva nañño sumukha, thīnaṃ atthesu yuñjasi;
ตสฺส ตฺยชฺช ภเย ชาเต, ภีเตน ชายเต มติฯ
Tassa tyajja bhaye jāte, bhītena jāyate mati.
๑๒๒.
122.
‘‘สโพฺพ หิ สํสยํ ปโตฺต, ภยํ ภีรุ ติติกฺขติ;
‘‘Sabbo hi saṃsayaṃ patto, bhayaṃ bhīru titikkhati;
๑๒๓.
123.
‘‘เอตทตฺถาย ราชาโน, สูรมิจฺฉนฺติ มนฺตินํ;
‘‘Etadatthāya rājāno, sūramicchanti mantinaṃ;
ปฎิพาหติ ยํ สูโร, อาปทํ อตฺตปริยายํฯ
Paṭibāhati yaṃ sūro, āpadaṃ attapariyāyaṃ.
๑๒๔.
124.
‘‘มา โน อชฺช วิกนฺติํสุ, รโญฺญ สูทา มหานเส;
‘‘Mā no ajja vikantiṃsu, rañño sūdā mahānase;
ตถา หิ วโณฺณ ปตฺตานํ, ผลํ เวฬุํว ตํ วธิฯ
Tathā hi vaṇṇo pattānaṃ, phalaṃ veḷuṃva taṃ vadhi.
๑๒๕.
125.
โสปชฺช สํสยํ ปโตฺต, อตฺถํ คณฺหาหิ มา มุขํ’’ฯ
Sopajja saṃsayaṃ patto, atthaṃ gaṇhāhi mā mukhaṃ’’.
๑๒๖.
126.
ตว ปริยาปทาเนน, มม ปาเณสนํ จร’’ฯ
Tava pariyāpadānena, mama pāṇesanaṃ cara’’.
๑๒๗.
127.
‘‘มา ภายิ ปตตํ เสฎฺฐ, น หิ ภายนฺติ ตาทิสา;
‘‘Mā bhāyi patataṃ seṭṭha, na hi bhāyanti tādisā;
มม ปริยาปทาเนน, ขิปฺปํ ปาสา ปโมกฺขสิ’’ฯ
Mama pariyāpadānena, khippaṃ pāsā pamokkhasi’’.
๑๒๘.
128.
ปฎิเวเทถ มํ รโญฺญ, ธตรฎฺฐายมาคโต’’ฯ
Paṭivedetha maṃ rañño, dhataraṭṭhāyamāgato’’.
๑๒๙.
129.
ขลุ สํยมโน ราชา, อมเจฺจ อชฺฌภาสถฯ
Khalu saṃyamano rājā, amacce ajjhabhāsatha.
๑๓๐.
130.
‘‘เทถ ลุทฺทสฺส วตฺถานิ, อนฺนํ ปานญฺจ โภชนํ;
‘‘Detha luddassa vatthāni, annaṃ pānañca bhojanaṃ;
กามํ กโร หิรญฺญสฺส, ยาวโนฺต เอส อิจฺฉติ’’ฯ
Kāmaṃ karo hiraññassa, yāvanto esa icchati’’.
๑๓๑.
131.
‘‘ทิสฺวา ลุทฺทํ ปสนฺนตฺตํ, กาสิราชา ตทพฺรวิ;
‘‘Disvā luddaṃ pasannattaṃ, kāsirājā tadabravi;
๑๓๒.
132.
‘‘กถํ รุจิมชฺฌคตํ, ปาสหโตฺถ อุปาคมิ;
‘‘Kathaṃ rucimajjhagataṃ, pāsahattho upāgami;
โอกิณฺณํ ญาติสเงฺฆหิ, นิมฺมชฺฌิมํ 59 กถํ คหิ’’ฯ
Okiṇṇaṃ ñātisaṅghehi, nimmajjhimaṃ 60 kathaṃ gahi’’.
๑๓๓.
133.
ปทเมตสฺส อเนฺวสํ, อปฺปมโตฺต ฆฎสฺสิโตฯ
Padametassa anvesaṃ, appamatto ghaṭassito.
๑๓๔.
134.
‘‘อถสฺส ปทมทฺทกฺขิํ, จรโต อทเนสนํ;
‘‘Athassa padamaddakkhiṃ, carato adanesanaṃ;
๑๓๕.
135.
‘‘ลุทฺท เทฺว อิเม สกุณา, อถ เอโกติ ภาสสิ;
‘‘Ludda dve ime sakuṇā, atha ekoti bhāsasi;
๑๓๖.
136.
‘‘ยสฺส โลหิตกา ตาลา, ตปนียนิภา สุภา;
‘‘Yassa lohitakā tālā, tapanīyanibhā subhā;
อุรํ สํหจฺจ ติฎฺฐนฺติ, โส เม พนฺธํ อุปาคมิฯ
Uraṃ saṃhacca tiṭṭhanti, so me bandhaṃ upāgami.
๑๓๗.
137.
‘‘อถายํ ภสฺสโร ปกฺขี, อพโทฺธ พทฺธมาตุรํ;
‘‘Athāyaṃ bhassaro pakkhī, abaddho baddhamāturaṃ;
อริยํ พฺรุวาโน อฎฺฐาสิ, จชโนฺต มานุสิํ คิรํ’’ฯ
Ariyaṃ bruvāno aṭṭhāsi, cajanto mānusiṃ giraṃ’’.
๑๓๘.
138.
อทุ เม ปริสํ ปโตฺต, ภยา ภีโต น ภาสสิ’’ฯ
Adu me parisaṃ patto, bhayā bhīto na bhāsasi’’.
๑๓๙.
139.
‘‘นาหํ กาสิปติ ภีโต, โอคยฺห ปริสํ ตว;
‘‘Nāhaṃ kāsipati bhīto, ogayha parisaṃ tava;
นาหํ ภยา น ภาสิสฺสํ, วากฺยํ อตฺถมฺหิ ตาทิเส’’ฯ
Nāhaṃ bhayā na bhāsissaṃ, vākyaṃ atthamhi tādise’’.
๑๔๐.
140.
‘‘น เต อภิสรํ ปเสฺส, น รเถ นปิ ปตฺติเก;
‘‘Na te abhisaraṃ passe, na rathe napi pattike;
นาสฺส จมฺมํ ว กีฎํ วา, วมฺมิเต จ ธนุคฺคเหฯ
Nāssa cammaṃ va kīṭaṃ vā, vammite ca dhanuggahe.
๑๔๑.
141.
‘‘น หิรญฺญํ สุวณฺณํ วา, นครํ วา สุมาปิตํ;
‘‘Na hiraññaṃ suvaṇṇaṃ vā, nagaraṃ vā sumāpitaṃ;
โอกิณฺณปริขํ ทุคฺคํ, ทฬฺหมฎฺฎาลโกฎฺฐกํ;
Okiṇṇaparikhaṃ duggaṃ, daḷhamaṭṭālakoṭṭhakaṃ;
ยตฺถ ปวิโฎฺฐ สุมุข, ภายิตพฺพํ น ภายสิ’’ฯ
Yattha paviṭṭho sumukha, bhāyitabbaṃ na bhāyasi’’.
๑๔๒.
142.
‘‘น เม อภิสเรนโตฺถ, นคเรน ธเนน วา;
‘‘Na me abhisarenattho, nagarena dhanena vā;
อปเถน ปถํ ยาม, อนฺตลิเกฺขจรา มยํฯ
Apathena pathaṃ yāma, antalikkhecarā mayaṃ.
๑๔๓.
143.
ภาเสมตฺถวติํ วาจํ, สเจฺจ จสฺส ปติฎฺฐิโตฯ
Bhāsematthavatiṃ vācaṃ, sacce cassa patiṭṭhito.
๑๔๔.
144.
‘‘กิญฺจ ตุยฺหํ อสจฺจสฺส, อนริยสฺส กริสฺสติ;
‘‘Kiñca tuyhaṃ asaccassa, anariyassa karissati;
มุสาวาทิสฺส ลุทฺทสฺส, ภณิตมฺปิ สุภาสิตํ’’ฯ
Musāvādissa luddassa, bhaṇitampi subhāsitaṃ’’.
๑๔๕.
145.
อภยญฺจ ตยา ฆุฎฺฐํ, อิมาโย ทสธา ทิสาฯ
Abhayañca tayā ghuṭṭhaṃ, imāyo dasadhā disā.
๑๔๖.
146.
‘‘โอคยฺห เต โปกฺขรณิํ, วิปฺปสโนฺนทกํ สุจิํ;
‘‘Ogayha te pokkharaṇiṃ, vippasannodakaṃ suciṃ;
ปหูตํ จาทนํ ตตฺถ, อหิํสา เจตฺถ ปกฺขินํฯ
Pahūtaṃ cādanaṃ tattha, ahiṃsā cettha pakkhinaṃ.
๑๔๗.
147.
‘‘อิทํ สุตฺวาน นิโคฺฆสํ, อาคตมฺห ตวนฺติเก;
‘‘Idaṃ sutvāna nigghosaṃ, āgatamha tavantike;
เต เต พนฺธสฺม ปาเสน, เอตํ เต ภาสิตํ มุสาฯ
Te te bandhasma pāsena, etaṃ te bhāsitaṃ musā.
๑๔๘.
148.
‘‘มุสาวาทํ ปุรกฺขตฺวา, อิจฺฉาโลภญฺจ ปาปกํ;
‘‘Musāvādaṃ purakkhatvā, icchālobhañca pāpakaṃ;
อุโภ สนฺธิมติกฺกมฺม, อสาตํ อุปปชฺชติ’’ฯ
Ubho sandhimatikkamma, asātaṃ upapajjati’’.
๑๔๙.
149.
‘‘นาปรชฺฌาม สุมุข, นปิ โลภาว มคฺคหิํ;
‘‘Nāparajjhāma sumukha, napi lobhāva maggahiṃ;
สุตา จ ปณฺฑิตาตฺยตฺถ, นิปุณา อตฺถจินฺตกาฯ
Sutā ca paṇḍitātyattha, nipuṇā atthacintakā.
๑๕๐.
150.
ตถา ตํ สมฺม เนสาโท, วุโตฺต สุมุข มคฺคหิ’’ฯ
Tathā taṃ samma nesādo, vutto sumukha maggahi’’.
๑๕๑.
151.
ภาเสมตฺถวติํ วาจํ, สมฺปตฺตา กาลปริยายํฯ
Bhāsematthavatiṃ vācaṃ, sampattā kālapariyāyaṃ.
๑๕๒.
152.
‘‘โย มิเคน มิคํ หนฺติ, ปกฺขิํ วา ปน ปกฺขินา;
‘‘Yo migena migaṃ hanti, pakkhiṃ vā pana pakkhinā;
๑๕๓.
153.
อุโภ โส ธํสเต โลกา, อิธ เจว ปรตฺถ จฯ
Ubho so dhaṃsate lokā, idha ceva parattha ca.
๑๕๔.
154.
วายเมเถว กิเจฺจสุ, สํวเร วิวรานิ จฯ
Vāyametheva kiccesu, saṃvare vivarāni ca.
๑๕๕.
155.
‘‘เย วุทฺธา อพฺภติกฺกนฺตา 89, สมฺปตฺตา กาลปริยายํ;
‘‘Ye vuddhā abbhatikkantā 90, sampattā kālapariyāyaṃ;
๑๕๖.
156.
‘‘อิทํ สุตฺวา กาสิปติ, ธมฺมมตฺตนิ ปาลย;
‘‘Idaṃ sutvā kāsipati, dhammamattani pālaya;
ธตรฎฺฐญฺจ มุญฺจาหิ, หํสานํ ปวรุตฺตมํ’’ฯ
Dhataraṭṭhañca muñcāhi, haṃsānaṃ pavaruttamaṃ’’.
๑๕๗.
157.
‘‘อาหรนฺตุทกํ ปชฺชํ, อาสนญฺจ มหารหํ;
‘‘Āharantudakaṃ pajjaṃ, āsanañca mahārahaṃ;
ปญฺชรโต ปโมกฺขามิ, ธตรฎฺฐํ ยสสฺสินํฯ
Pañjarato pamokkhāmi, dhataraṭṭhaṃ yasassinaṃ.
๑๕๘.
158.
‘‘ตญฺจ เสนาปติํ ธีรํ, นิปุณํ อตฺถจินฺตกํ;
‘‘Tañca senāpatiṃ dhīraṃ, nipuṇaṃ atthacintakaṃ;
๑๕๙.
159.
‘‘เอทิโส โข อรหติ, ปิณฺฑมสฺนาตุ ภตฺตุโน;
‘‘Ediso kho arahati, piṇḍamasnātu bhattuno;
ยถายํ สุมุโข รโญฺญ, ปาณสาธารโณ สขา’’ฯ
Yathāyaṃ sumukho rañño, pāṇasādhāraṇo sakhā’’.
๑๖๐.
160.
‘‘ปีฐญฺจ สพฺพโสวณฺณํ, อฎฺฐปาทํ มโนรมํ;
‘‘Pīṭhañca sabbasovaṇṇaṃ, aṭṭhapādaṃ manoramaṃ;
๑๖๑.
161.
‘‘โกจฺฉญฺจ สพฺพโสวณฺณํ, เวยฺยคฺฆปริสิพฺพิตํ;
‘‘Kocchañca sabbasovaṇṇaṃ, veyyagghaparisibbitaṃ;
๑๖๒.
162.
‘‘เตสํ กญฺจนปเตฺตหิ, ปุถู อาทาย กาสิโย;
‘‘Tesaṃ kañcanapattehi, puthū ādāya kāsiyo;
หํสานํ อภิหาเรสุํ, อคฺครโญฺญ ปวาสิตํ’’ฯ
Haṃsānaṃ abhihāresuṃ, aggarañño pavāsitaṃ’’.
๑๖๓.
163.
‘‘ทิสฺวา อภิหฎํ อคฺคํ, กาสิราเชน เปสิตํ;
‘‘Disvā abhihaṭaṃ aggaṃ, kāsirājena pesitaṃ;
กุสโล ขตฺตธมฺมานํ, ตโต ปุจฺฉิ อนนฺตราฯ
Kusalo khattadhammānaṃ, tato pucchi anantarā.
๑๖๔.
164.
‘‘กจฺจินฺนุ โภโต กุสลํ, กจฺจิ โภโต อนามยํ;
‘‘Kaccinnu bhoto kusalaṃ, kacci bhoto anāmayaṃ;
กจฺจิ รฎฺฐมิทํ ผีตํ, ธเมฺมน มนุสาสสิ’’ฯ
Kacci raṭṭhamidaṃ phītaṃ, dhammena manusāsasi’’.
๑๖๕.
165.
‘‘กุสลเญฺจว เม หํส, อโถ หํส อนามยํ;
‘‘Kusalañceva me haṃsa, atho haṃsa anāmayaṃ;
อโถ รฎฺฐมิทํ ผีตํ, ธเมฺมนํ มนุสาสหํฯ
Atho raṭṭhamidaṃ phītaṃ, dhammenaṃ manusāsahaṃ.
๑๖๖.
166.
‘‘กจฺจิ โภโต อมเจฺจสุ, โทโส โกจิ น วิชฺชติ;
‘‘Kacci bhoto amaccesu, doso koci na vijjati;
กจฺจิ จ เต ตวเตฺถสุ, นาวกงฺขนฺติ ชีวิตํ’’ฯ
Kacci ca te tavatthesu, nāvakaṅkhanti jīvitaṃ’’.
๑๖๗.
167.
‘‘อโถปิ เม อมเจฺจสุ, โทโส โกจิ น วิชฺชติ;
‘‘Athopi me amaccesu, doso koci na vijjati;
อโถปิ เต มมเตฺถสุ, นาวกงฺขนฺติ ชีวิตํ’’ฯ
Athopi te mamatthesu, nāvakaṅkhanti jīvitaṃ’’.
๑๖๘.
168.
‘‘กจฺจิ เต สาทิสี ภริยา, อสฺสวา ปิยภาณินี;
‘‘Kacci te sādisī bhariyā, assavā piyabhāṇinī;
ปุตฺตรูปยสูเปตา, ตว ฉนฺทวสานุคา’’ฯ
Puttarūpayasūpetā, tava chandavasānugā’’.
๑๖๙.
169.
‘‘อโถ เม สาทิสี ภริยา, อสฺสวา ปิยภาณินี;
‘‘Atho me sādisī bhariyā, assavā piyabhāṇinī;
ปุตฺตรูปยสูเปตา, มม ฉนฺทวสานุคา’’ฯ
Puttarūpayasūpetā, mama chandavasānugā’’.
๑๗๐.
170.
‘‘กจฺจิ รฎฺฐํ อนุปฺปีฬํ, อกุโตจิอุปทฺทวํ;
‘‘Kacci raṭṭhaṃ anuppīḷaṃ, akutociupaddavaṃ;
อสาหเสน ธเมฺมน, สเมน มนุสาสสิ’’ฯ
Asāhasena dhammena, samena manusāsasi’’.
๑๗๑.
171.
‘‘อโถ รฎฺฐํ อนุปฺปีฬํ, อกุโตจิอุปทฺทวํ;
‘‘Atho raṭṭhaṃ anuppīḷaṃ, akutociupaddavaṃ;
อสาหเสน ธเมฺมน, สเมน มนุสาสหํ’’ฯ
Asāhasena dhammena, samena manusāsahaṃ’’.
๑๗๒.
172.
‘‘กจฺจิ สโนฺต อปจิตา, อสโนฺต ปริวชฺชิตา;
‘‘Kacci santo apacitā, asanto parivajjitā;
๑๗๓.
173.
‘‘สโนฺต จ เม อปจิตา, อสโนฺต ปริวชฺชิตา;
‘‘Santo ca me apacitā, asanto parivajjitā;
ธมฺมเมวานุวตฺตามิ, อธโมฺม เม นิรงฺกโต’’ฯ
Dhammamevānuvattāmi, adhammo me niraṅkato’’.
๑๗๔.
174.
๑๗๕.
175.
๑๗๖.
176.
‘‘ทานํ สีลํ ปริจฺจาคํ, อชฺชวํ มทฺทวํ ตปํ;
‘‘Dānaṃ sīlaṃ pariccāgaṃ, ajjavaṃ maddavaṃ tapaṃ;
๑๗๗.
177.
‘‘อิเจฺจเต กุสเล ธเมฺม, ฐิเต ปสฺสามิ อตฺตนิ;
‘‘Iccete kusale dhamme, ṭhite passāmi attani;
ตโต เม ชายเต ปีติ, โสมนสฺสญฺจนปฺปกํฯ
Tato me jāyate pīti, somanassañcanappakaṃ.
๑๗๘.
178.
ภาวโทสมนญฺญาย, อสฺมากายํ วิหงฺคโมฯ
Bhāvadosamanaññāya, asmākāyaṃ vihaṅgamo.
๑๗๙.
179.
‘‘โส กุโทฺธ ผรุสํ วาจํ, นิจฺฉาเรสิ อโยนิโส;
‘‘So kuddho pharusaṃ vācaṃ, nicchāresi ayoniso;
๑๘๐.
180.
‘‘อตฺถิ เม ตํ อติสารํ, เวเคน มนุชาธิป;
‘‘Atthi me taṃ atisāraṃ, vegena manujādhipa;
ธตรเฎฺฐ จ พทฺธสฺมิํ, ทุกฺขํ เม วิปุลํ อหุฯ
Dhataraṭṭhe ca baddhasmiṃ, dukkhaṃ me vipulaṃ ahu.
๑๘๑.
181.
‘‘ตฺวํ โน ปิตาว ปุตฺตานํ, ภูตานํ ธรณีริว;
‘‘Tvaṃ no pitāva puttānaṃ, bhūtānaṃ dharaṇīriva;
อสฺมากํ อธิปนฺนานํ, ขมสฺสุ ราชกุญฺชร’’ฯ
Asmākaṃ adhipannānaṃ, khamassu rājakuñjara’’.
๑๘๒.
182.
ขิลํ ปภินฺทสิ ปกฺขิ, อุชุโกสิ วิหงฺคม’’ฯ
Khilaṃ pabhindasi pakkhi, ujukosi vihaṅgama’’.
๑๘๓.
183.
‘‘ยํ กิญฺจิ รตนํ อตฺถิ, กาสิราช นิเวสเน;
‘‘Yaṃ kiñci ratanaṃ atthi, kāsirāja nivesane;
รชตํ ชาตรูปญฺจ, มุตฺตา เวฬุริยา พหูฯ
Rajataṃ jātarūpañca, muttā veḷuriyā bahū.
๑๘๔.
184.
‘‘มณโย สงฺขมุตฺตญฺจ, วตฺถกํ หริจนฺทนํ;
‘‘Maṇayo saṅkhamuttañca, vatthakaṃ haricandanaṃ;
อชินํ ทนฺตภณฺฑญฺจ, โลหํ กาฬายสํ พหุํ;
Ajinaṃ dantabhaṇḍañca, lohaṃ kāḷāyasaṃ bahuṃ;
เอตํ ททามิ โว วิตฺตํ, อิสฺสริยํ 119 วิสฺสชามิ โว’’ฯ
Etaṃ dadāmi vo vittaṃ, issariyaṃ 120 vissajāmi vo’’.
๑๘๕.
185.
‘‘อทฺธา อปจิตา ตฺยมฺหา, สกฺกตา จ รเถสภ;
‘‘Addhā apacitā tyamhā, sakkatā ca rathesabha;
ธเมฺมสุ วตฺตมานานํ, ตฺวํ โน อาจริโย ภวฯ
Dhammesu vattamānānaṃ, tvaṃ no ācariyo bhava.
๑๘๖.
186.
‘‘อาจริย สมนุญฺญาตา, ตยา อนุมตา มยํ;
‘‘Ācariya samanuññātā, tayā anumatā mayaṃ;
๑๘๗.
187.
‘‘สพฺพรตฺติํ จินฺตยิตฺวา, มนฺตยิตฺวา ยถาตถํ;
‘‘Sabbarattiṃ cintayitvā, mantayitvā yathātathaṃ;
กาสิราชา อนุญฺญาสิ, หํสานํ ปวรุตฺตมํ’’ฯ
Kāsirājā anuññāsi, haṃsānaṃ pavaruttamaṃ’’.
๑๘๘.
188.
๑๘๙.
189.
‘‘เต อโรเค อนุปฺปเตฺต, ทิสฺวาน ปรเม ทิเช;
‘‘Te aroge anuppatte, disvāna parame dije;
เกกาติ มกรุํ หํสา, ปุถุสโทฺท อชายถฯ
Kekāti makaruṃ haṃsā, puthusaddo ajāyatha.
๑๙๐.
190.
‘‘เต ปตีตา ปมุเตฺตน, ภตฺตุนา ภตฺตุคารวา;
‘‘Te patītā pamuttena, bhattunā bhattugāravā;
สมนฺตา ปริกิริํสุ, อณฺฑชา ลทฺธปจฺจยา’’ฯ
Samantā parikiriṃsu, aṇḍajā laddhapaccayā’’.
๑๙๑.
191.
‘‘เอวํ มิตฺตวตํ อตฺถา, สเพฺพ โหนฺติ ปทกฺขิณา;
‘‘Evaṃ mittavataṃ atthā, sabbe honti padakkhiṇā;
หํสา ยถา ธตรฎฺฐา, ญาติสงฺฆํ อุปาคมุ’’นฺติฯ
Haṃsā yathā dhataraṭṭhā, ñātisaṅghaṃ upāgamu’’nti.
มหาหํสชาตกํ ทุติยํฯ
Mahāhaṃsajātakaṃ dutiyaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā / [๕๓๔] ๒. มหาหํสชาตกวณฺณนา • [534] 2. Mahāhaṃsajātakavaṇṇanā