Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi |
๕๓๙. มหาชนกชาตกํ (๒)
539. Mahājanakajātakaṃ (2)
๑๒๓.
123.
‘‘โกยํ มเชฺฌ สมุทฺทสฺมิํ, อปสฺสํ ตีรมายุเห;
‘‘Koyaṃ majjhe samuddasmiṃ, apassaṃ tīramāyuhe;
๑๒๔.
124.
‘‘นิสมฺม วตฺตํ โลกสฺส, วายามสฺส จ เทวเต;
‘‘Nisamma vattaṃ lokassa, vāyāmassa ca devate;
ตสฺมา มเชฺฌ สมุทฺทสฺมิํ, อปสฺสํ ตีรมายุเห’’ฯ
Tasmā majjhe samuddasmiṃ, apassaṃ tīramāyuhe’’.
๑๒๕.
125.
‘‘คมฺภีเร อปฺปเมยฺยสฺมิํ, ตีรํ ยสฺส น ทิสฺสติ;
‘‘Gambhīre appameyyasmiṃ, tīraṃ yassa na dissati;
โมโฆ เต ปุริสวายาโม, อปฺปตฺวาว มริสฺสสิ’’ฯ
Mogho te purisavāyāmo, appatvāva marissasi’’.
๑๒๖.
126.
กรํ ปุริสกิจฺจานิ, น จ ปจฺฉานุตปฺปติ’’ฯ
Karaṃ purisakiccāni, na ca pacchānutappati’’.
๑๒๗.
127.
‘‘อปารเณยฺยํ ยํ กมฺมํ, อผลํ กิลมถุทฺทยํ;
‘‘Apāraṇeyyaṃ yaṃ kammaṃ, aphalaṃ kilamathuddayaṃ;
๑๒๘.
128.
‘‘อปารเณยฺยมจฺจนฺตํ , โย วิทิตฺวาน เทวเต;
‘‘Apāraṇeyyamaccantaṃ , yo viditvāna devate;
น รเกฺข อตฺตโน ปาณํ, ชญฺญา โส ยทิ หาปเยฯ
Na rakkhe attano pāṇaṃ, jaññā so yadi hāpaye.
๑๒๙.
129.
‘‘อธิปฺปายผลํ เอเก, อสฺมิํ โลกสฺมิ เทวเต;
‘‘Adhippāyaphalaṃ eke, asmiṃ lokasmi devate;
ปโยชยนฺติ กมฺมานิ, ตานิ อิชฺฌนฺติ วา น วาฯ
Payojayanti kammāni, tāni ijjhanti vā na vā.
๑๓๐.
130.
‘‘สนฺทิฎฺฐิกํ กมฺมผลํ, นนุ ปสฺสสิ เทวเต;
‘‘Sandiṭṭhikaṃ kammaphalaṃ, nanu passasi devate;
สนฺนา อเญฺญ ตรามหํ, ตญฺจ ปสฺสามิ สนฺติเกฯ
Sannā aññe tarāmahaṃ, tañca passāmi santike.
๑๓๑.
131.
‘‘โส อหํ วายมิสฺสามิ, ยถาสตฺติ ยถาพลํ;
‘‘So ahaṃ vāyamissāmi, yathāsatti yathābalaṃ;
๑๓๒.
132.
‘‘โย ตฺวํ เอวํ คเต โอเฆ, อปฺปเมเยฺย มหณฺณเว;
‘‘Yo tvaṃ evaṃ gate oghe, appameyye mahaṇṇave;
ธมฺมวายามสมฺปโนฺน, กมฺมุนา นาวสีทสิ;
Dhammavāyāmasampanno, kammunā nāvasīdasi;
โส ตฺวํ ตเตฺถว คจฺฉาหิ, ยตฺถ เต นิรโต มโน’’ฯ
So tvaṃ tattheva gacchāhi, yattha te nirato mano’’.
๑๓๓.
133.
ปสฺสามิ โวหํ อตฺตานํ, ยถา อิจฺฉิํ ตถา อหุฯ
Passāmi vohaṃ attānaṃ, yathā icchiṃ tathā ahu.
๑๓๔.
134.
‘‘อาสีเสเถว ปุริโส, น นิพฺพิเนฺทยฺย ปณฺฑิโต;
‘‘Āsīsetheva puriso, na nibbindeyya paṇḍito;
ปสฺสามิ โวหํ อตฺตานํ, อุทกา ถลมุพฺภตํฯ
Passāmi vohaṃ attānaṃ, udakā thalamubbhataṃ.
๑๓๕.
135.
‘‘วายเมเถว ปุริโส, น นิพฺพิเนฺทยฺย ปณฺฑิโต;
‘‘Vāyametheva puriso, na nibbindeyya paṇḍito;
ปสฺสามิ โวหํ อตฺตานํ, ยถา อิจฺฉิํ ตถา อหุฯ
Passāmi vohaṃ attānaṃ, yathā icchiṃ tathā ahu.
๑๓๖.
136.
‘‘วายเมเถว ปุริโส, น นิพฺพิเนฺทยฺย ปณฺฑิโต;
‘‘Vāyametheva puriso, na nibbindeyya paṇḍito;
ปสฺสามิ โวหํ อตฺตานํ, อุทกา ถลมุพฺภตํฯ
Passāmi vohaṃ attānaṃ, udakā thalamubbhataṃ.
๑๓๗.
137.
‘‘ทุกฺขูปนีโตปิ นโร สปโญฺญ, อาสํ น ฉิเนฺทยฺย สุขาคมาย;
‘‘Dukkhūpanītopi naro sapañño, āsaṃ na chindeyya sukhāgamāya;
พหู หิ ผสฺสา อหิตา หิตา จ, อวิตกฺกิตา มจฺจุมุปพฺพชนฺติ 11ฯ
Bahū hi phassā ahitā hitā ca, avitakkitā maccumupabbajanti 12.
๑๓๘.
138.
‘‘อจินฺติตมฺปิ ภวติ, จินฺติตมฺปิ วินสฺสติ;
‘‘Acintitampi bhavati, cintitampi vinassati;
น หิ จินฺตามยา โภคา, อิตฺถิยา ปุริสสฺส วา’’ฯ
Na hi cintāmayā bhogā, itthiyā purisassa vā’’.
๑๓๙.
139.
๑๔๐.
140.
มูโคว ตุณฺหิมาสีโน, น อตฺถมนุสาสติ’’ฯ
Mūgova tuṇhimāsīno, na atthamanusāsati’’.
๑๔๑.
141.
๑๔๒.
142.
‘‘อติกฺกนฺตวนถา ธีรา, นโม เตสํ มเหสินํ;
‘‘Atikkantavanathā dhīrā, namo tesaṃ mahesinaṃ;
เย อุสฺสุกมฺหิ โลกมฺหิ, วิหรนฺติ มนุสฺสุกาฯ
Ye ussukamhi lokamhi, viharanti manussukā.
๑๔๓.
143.
๑๔๔.
144.
๑๔๕.
145.
‘‘กทาหํ มิถิลํ ผีตํ, วิสาลํ สพฺพโตปภํ;
‘‘Kadāhaṃ mithilaṃ phītaṃ, visālaṃ sabbatopabhaṃ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๔๖.
146.
‘‘กทาหํ มิถิลํ ผีตํ, พหุปาการโตรณํ;
‘‘Kadāhaṃ mithilaṃ phītaṃ, bahupākāratoraṇaṃ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๔๗.
147.
‘‘กทาหํ มิถิลํ ผีตํ, ทฬฺหมฎฺฎาลโกฎฺฐกํ;
‘‘Kadāhaṃ mithilaṃ phītaṃ, daḷhamaṭṭālakoṭṭhakaṃ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๔๘.
148.
‘‘กทาหํ มิถิลํ ผีตํ, สุวิภตฺตํ มหาปถํ;
‘‘Kadāhaṃ mithilaṃ phītaṃ, suvibhattaṃ mahāpathaṃ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๔๙.
149.
‘‘กทาหํ มิถิลํ ผีตํ, สุวิภตฺตนฺตราปณํ;
‘‘Kadāhaṃ mithilaṃ phītaṃ, suvibhattantarāpaṇaṃ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๕๐.
150.
‘‘กทาหํ มิถิลํ ผีตํ, ควสฺสรถปีฬิตํ;
‘‘Kadāhaṃ mithilaṃ phītaṃ, gavassarathapīḷitaṃ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๕๑.
151.
‘‘กทาหํ มิถิลํ ผีตํ, อารามวนมาลินิํ;
‘‘Kadāhaṃ mithilaṃ phītaṃ, ārāmavanamāliniṃ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๕๒.
152.
‘‘กทาหํ มิถิลํ ผีตํ, อุยฺยานวนมาลินิํ;
‘‘Kadāhaṃ mithilaṃ phītaṃ, uyyānavanamāliniṃ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๕๓.
153.
‘‘กทาหํ มิถิลํ ผีตํ, ปาสาทวนมาลินิํ;
‘‘Kadāhaṃ mithilaṃ phītaṃ, pāsādavanamāliniṃ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๕๔.
154.
‘‘กทาหํ มิถิลํ ผีตํ, ติปุรํ ราชพนฺธุนิํ;
‘‘Kadāhaṃ mithilaṃ phītaṃ, tipuraṃ rājabandhuniṃ;
มาปิตํ โสมนเสฺสน, เวเทเหน ยสสฺสินา;
Māpitaṃ somanassena, vedehena yasassinā;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๕๕.
155.
‘‘กทาหํ เวเทเห ผีเต, นิจิเต ธมฺมรกฺขิเต;
‘‘Kadāhaṃ vedehe phīte, nicite dhammarakkhite;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๕๖.
156.
‘‘กทาหํ เวเทเห ผีเต, อเชเยฺย ธมฺมรกฺขิเต;
‘‘Kadāhaṃ vedehe phīte, ajeyye dhammarakkhite;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๕๗.
157.
‘‘กทาหํ อเนฺตปุรํ 33 รมฺมํ, วิภตฺตํ ภาคโส มิตํ;
‘‘Kadāhaṃ antepuraṃ 34 rammaṃ, vibhattaṃ bhāgaso mitaṃ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๕๘.
158.
‘‘กทาหํ อเนฺตปุรํ รมฺมํ, สุธามตฺติกเลปนํ;
‘‘Kadāhaṃ antepuraṃ rammaṃ, sudhāmattikalepanaṃ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๕๙.
159.
‘‘กทาหํ อเนฺตปุรํ รมฺมํ, สุจิคนฺธํ มโนรมํ;
‘‘Kadāhaṃ antepuraṃ rammaṃ, sucigandhaṃ manoramaṃ;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๖๐.
160.
‘‘กทาหํ กูฎาคาเร จ, วิภเตฺต ภาคโส มิเต;
‘‘Kadāhaṃ kūṭāgāre ca, vibhatte bhāgaso mite;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๖๑.
161.
‘‘กทาหํ กูฎาคาเร จ, สุธามตฺติกเลปเน;
‘‘Kadāhaṃ kūṭāgāre ca, sudhāmattikalepane;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๖๒.
162.
‘‘กทาหํ กูฎาคาเร จ, สุจิคเนฺธ มโนรเม;
‘‘Kadāhaṃ kūṭāgāre ca, sucigandhe manorame;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๖๓.
163.
‘‘กทาหํ กูฎาคาเร จ, ลิเตฺต จนฺทนโผสิเต;
‘‘Kadāhaṃ kūṭāgāre ca, litte candanaphosite;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๖๔.
164.
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๖๕.
165.
๑๖๖.
166.
‘‘กทาหํ กปฺปาสโกเสยฺยํ, โขมโกฎุมฺพรานิ จ;
‘‘Kadāhaṃ kappāsakoseyyaṃ, khomakoṭumbarāni ca;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๖๗.
167.
มนฺทาลเกหิ สญฺฉนฺนา, ปทุมุปฺปลเกหิ จ;
Mandālakehi sañchannā, padumuppalakehi ca;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๖๘.
168.
‘‘กทาหํ หตฺถิคุเมฺพ จ, สพฺพาลงฺการภูสิเต;
‘‘Kadāhaṃ hatthigumbe ca, sabbālaṅkārabhūsite;
สุวณฺณกเจฺฉ มาตเงฺค, เหมกปฺปนวาสเสฯ
Suvaṇṇakacche mātaṅge, hemakappanavāsase.
๑๖๙.
169.
‘‘อารูเฬฺห คามณีเยหิ, โตมรงฺกุสปาณิภิ;
‘‘Ārūḷhe gāmaṇīyehi, tomaraṅkusapāṇibhi;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๗๐.
170.
‘‘กทาหํ อสฺสคุเมฺพ จ, สพฺพาลงฺการภูสิเต;
‘‘Kadāhaṃ assagumbe ca, sabbālaṅkārabhūsite;
อาชานีเยว ชาติยา, สินฺธเว สีฆวาหเนฯ
Ājānīyeva jātiyā, sindhave sīghavāhane.
๑๗๑.
171.
‘‘อารูเฬฺห คามณีเยหิ, อิลฺลิยาจาปธาริภิ;
‘‘Ārūḷhe gāmaṇīyehi, illiyācāpadhāribhi;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๗๒.
172.
‘‘กทาหํ รถเสนิโย, สนฺนเทฺธ อุสฺสิตทฺธเช;
‘‘Kadāhaṃ rathaseniyo, sannaddhe ussitaddhaje;
ทีเป อโถปิ เวยฺยเคฺฆ, สพฺพาลงฺการภูสิเตฯ
Dīpe athopi veyyagghe, sabbālaṅkārabhūsite.
๑๗๓.
173.
‘‘อารูเฬฺห คามณีเยหิ, จาปหเตฺถหิ วมฺมิภิ;
‘‘Ārūḷhe gāmaṇīyehi, cāpahatthehi vammibhi;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๗๔.
174.
‘‘กทาหํ โสวณฺณรเถ, สนฺนเทฺธ อุสฺสิตทฺธเช;
‘‘Kadāhaṃ sovaṇṇarathe, sannaddhe ussitaddhaje;
ทีเป อโถปิ เวยฺยเคฺฆ, สพฺพาลงฺการภูสิเตฯ
Dīpe athopi veyyagghe, sabbālaṅkārabhūsite.
๑๗๕.
175.
‘‘อารูเฬฺห คามณีเยหิ, จาปหเตฺถหิ วมฺมิภิ;
‘‘Ārūḷhe gāmaṇīyehi, cāpahatthehi vammibhi;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๗๖.
176.
‘‘กทาหํ สชฺฌุรเถ จ, สนฺนเทฺธ อุสฺสิตทฺธเช;
‘‘Kadāhaṃ sajjhurathe ca, sannaddhe ussitaddhaje;
ทีเป อโถปิ เวยฺยเคฺฆ, สพฺพาลงฺการภูสิเตฯ
Dīpe athopi veyyagghe, sabbālaṅkārabhūsite.
๑๗๗.
177.
‘‘อารูเฬฺห คามณีเยหิ, จาปหเตฺถหิ วมฺมิภิ;
‘‘Ārūḷhe gāmaṇīyehi, cāpahatthehi vammibhi;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๗๘.
178.
‘‘กทาหํ อสฺสรเถ จ, สนฺนเทฺธ อุสฺสิตทฺธเช;
‘‘Kadāhaṃ assarathe ca, sannaddhe ussitaddhaje;
ทีเป อโถปิ เวยฺยเคฺฆ, สพฺพาลงฺการภูสิเตฯ
Dīpe athopi veyyagghe, sabbālaṅkārabhūsite.
๑๗๙.
179.
‘‘อารูเฬฺห คามณีเยหิ, จาปหเตฺถหิ วมฺมิภิ;
‘‘Ārūḷhe gāmaṇīyehi, cāpahatthehi vammibhi;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๘๐.
180.
‘‘กทาหํ โอฎฺฐรเถ จ, สนฺนเทฺธ อุสฺสิตทฺธเช;
‘‘Kadāhaṃ oṭṭharathe ca, sannaddhe ussitaddhaje;
ทีเป อโถปิ เวยฺยเคฺฆ, สพฺพาลงฺการภูสิเตฯ
Dīpe athopi veyyagghe, sabbālaṅkārabhūsite.
๑๘๑.
181.
‘‘อารูเฬฺห คามณีเยหิ, จาปหเตฺถหิ วมฺมิภิ;
‘‘Ārūḷhe gāmaṇīyehi, cāpahatthehi vammibhi;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๘๒.
182.
‘‘กทาหํ โคณรเถ จ, สนฺนเทฺธ อุสฺสิตทฺธเช;
‘‘Kadāhaṃ goṇarathe ca, sannaddhe ussitaddhaje;
ทีเป อโถปิ เวยฺยเคฺฆ, สพฺพาลงฺการภูสิเตฯ
Dīpe athopi veyyagghe, sabbālaṅkārabhūsite.
๑๘๓.
183.
‘‘อารูเฬฺห คามณีเยหิ, จาปหเตฺถหิ วมฺมิภิ;
‘‘Ārūḷhe gāmaṇīyehi, cāpahatthehi vammibhi;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๘๔.
184.
‘‘กทาหํ อชรเถ จ, สนฺนเทฺธ อุสฺสิตทฺธเช;
‘‘Kadāhaṃ ajarathe ca, sannaddhe ussitaddhaje;
ทีเป อโถปิ เวยฺยเคฺฆ, สพฺพาลงฺการภูสิเตฯ
Dīpe athopi veyyagghe, sabbālaṅkārabhūsite.
๑๘๕.
185.
‘‘อารูเฬฺห คามณีเยหิ, จาปหเตฺถหิ วมฺมิภิ;
‘‘Ārūḷhe gāmaṇīyehi, cāpahatthehi vammibhi;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๘๖.
186.
‘‘กทาหํ เมณฺฑรเถ จ, สนฺนเทฺธ อุสฺสิตทฺธเช;
‘‘Kadāhaṃ meṇḍarathe ca, sannaddhe ussitaddhaje;
ทีเป อโถปิ เวยฺยเคฺฆ, สพฺพาลงฺการภูสิเตฯ
Dīpe athopi veyyagghe, sabbālaṅkārabhūsite.
๑๘๗.
187.
‘‘อารูเฬฺห คามณีเยหิ, จาปหเตฺถหิ วมฺมิภิ;
‘‘Ārūḷhe gāmaṇīyehi, cāpahatthehi vammibhi;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๘๘.
188.
‘‘กทาหํ มิครเถ จ, สนฺนเทฺธ อุสฺสิตทฺธเช;
‘‘Kadāhaṃ migarathe ca, sannaddhe ussitaddhaje;
ทีเป อโถปิ เวยฺยเคฺฆ, สพฺพาลงฺการภูสิเตฯ
Dīpe athopi veyyagghe, sabbālaṅkārabhūsite.
๑๘๙.
189.
‘‘อารูเฬฺห คามณีเยหิ, จาปหเตฺถหิ วมฺมิภิ;
‘‘Ārūḷhe gāmaṇīyehi, cāpahatthehi vammibhi;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๙๐.
190.
‘‘กทาหํ หตฺถาโรเห จ, สพฺพาลงฺการภูสิเต;
‘‘Kadāhaṃ hatthārohe ca, sabbālaṅkārabhūsite;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๙๑.
191.
‘‘กทาหํ อสฺสาโรเห จ, สพฺพาลงฺการภูสิเต;
‘‘Kadāhaṃ assārohe ca, sabbālaṅkārabhūsite;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๙๒.
192.
‘‘กทาหํ รถาโรเห จ, สพฺพาลงฺการภูสิเต;
‘‘Kadāhaṃ rathārohe ca, sabbālaṅkārabhūsite;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๙๓.
193.
นีลวมฺมธเร สูเร, จาปหเตฺถ กลาปิเน;
Nīlavammadhare sūre, cāpahatthe kalāpine;
๑๙๔.
194.
‘‘กทาหํ ราชปุเตฺต จ, สพฺพาลงฺการภูสิเต;
‘‘Kadāhaṃ rājaputte ca, sabbālaṅkārabhūsite;
จิตฺรวมฺมธเร สูเร, กญฺจนาเวฬธาริเน;
Citravammadhare sūre, kañcanāveḷadhārine;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๙๕.
195.
หริจนฺทนลิตฺตเงฺค, กาสิกุตฺตมธาริเน;
Haricandanalittaṅge, kāsikuttamadhārine;
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๙๖.
196.
๑๙๗.
197.
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๙๘.
198.
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๑๙๙.
199.
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๒๐๐.
200.
ปหาย ปพฺพชิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Pahāya pabbajissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๒๐๑.
201.
‘‘กทาสฺสุ มํ หตฺถิคุมฺพา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;
‘‘Kadāssu maṃ hatthigumbā, sabbālaṅkārabhūsitā;
สุวณฺณกจฺฉา มาตงฺคา, เหมกปฺปนวาสสาฯ
Suvaṇṇakacchā mātaṅgā, hemakappanavāsasā.
๒๐๒.
202.
‘‘อารูฬฺหา คามณีเยหิ, โตมรงฺกุสปาณิภิ;
‘‘Ārūḷhā gāmaṇīyehi, tomaraṅkusapāṇibhi;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Yantaṃ maṃ nānuyissanti, taṃ kudāssu bhavissati.
๒๐๓.
203.
‘‘กทาสฺสุ มํ อสฺสคุมฺพา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;
‘‘Kadāssu maṃ assagumbā, sabbālaṅkārabhūsitā;
อาชานียาว ชาติยา, สินฺธวา สีฆวาหนาฯ
Ājānīyāva jātiyā, sindhavā sīghavāhanā.
๒๐๔.
204.
‘‘อารูฬฺหา คามณีเยหิ, อิลฺลิยาจาปธาริภิ;
‘‘Ārūḷhā gāmaṇīyehi, illiyācāpadhāribhi;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Yantaṃ maṃ nānuyissanti, taṃ kudāssu bhavissati.
๒๐๕.
205.
‘‘กทาสฺสุ มํ รถเสนี, สนฺนทฺธา อุสฺสิตทฺธชา;
‘‘Kadāssu maṃ rathasenī, sannaddhā ussitaddhajā;
ทีปา อโถปิ เวยฺยคฺฆา, สพฺพาลงฺการภูสิตาฯ
Dīpā athopi veyyagghā, sabbālaṅkārabhūsitā.
๒๐๖.
206.
‘‘อารูฬฺหา คามณีเยหิ, จาปหเตฺถหิ วมฺมิภิ;
‘‘Ārūḷhā gāmaṇīyehi, cāpahatthehi vammibhi;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Yantaṃ maṃ nānuyissanti, taṃ kudāssu bhavissati.
๒๐๗.
207.
‘‘กทาสฺสุ มํ โสณฺณรถา 69, สนฺนทฺธา อุสฺสิตทฺธชา;
‘‘Kadāssu maṃ soṇṇarathā 70, sannaddhā ussitaddhajā;
ทีปา อโถปิ เวยฺยคฺฆา, สพฺพาลงฺการภูสิตาฯ
Dīpā athopi veyyagghā, sabbālaṅkārabhūsitā.
๒๐๘.
208.
‘‘อารูฬฺหา คามณีเยหิ, จาปหเตฺถหิ วมฺมิภิ;
‘‘Ārūḷhā gāmaṇīyehi, cāpahatthehi vammibhi;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Yantaṃ maṃ nānuyissanti, taṃ kudāssu bhavissati.
๒๐๙.
209.
‘‘กทาสฺสุ มํ สชฺฌุรถา, สนฺนทฺธา อุสฺสิตทฺธชา;
‘‘Kadāssu maṃ sajjhurathā, sannaddhā ussitaddhajā;
ทีปา อโถปิ เวยฺยคฺฆา, สพฺพาลงฺการภูสิตาฯ
Dīpā athopi veyyagghā, sabbālaṅkārabhūsitā.
๒๑๐.
210.
‘‘อารูฬฺหา คามณีเยหิ, จาปหเตฺถหิ วมฺมิภิ;
‘‘Ārūḷhā gāmaṇīyehi, cāpahatthehi vammibhi;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Yantaṃ maṃ nānuyissanti, taṃ kudāssu bhavissati.
๒๑๑.
211.
‘‘กทาสฺสุ มํ อสฺสรถา, สนฺนทฺธา อุสฺสิตทฺธชา;
‘‘Kadāssu maṃ assarathā, sannaddhā ussitaddhajā;
ทีปา อโถปิ เวยฺยคฺฆา, สพฺพาลงฺการภูสิตาฯ
Dīpā athopi veyyagghā, sabbālaṅkārabhūsitā.
๒๑๒.
212.
‘‘อารูฬฺหา คามณีเยหิ, จาปหเตฺถหิ วมฺมิภิ;
‘‘Ārūḷhā gāmaṇīyehi, cāpahatthehi vammibhi;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Yantaṃ maṃ nānuyissanti, taṃ kudāssu bhavissati.
๒๑๓.
213.
‘‘กทาสฺสุ มํ โอฎฺฐรถา, สนฺนทฺธา อุสฺสิตทฺธชา;
‘‘Kadāssu maṃ oṭṭharathā, sannaddhā ussitaddhajā;
ทีปา อโถปิ เวยฺยคฺฆา, สพฺพาลงฺการภูสิตาฯ
Dīpā athopi veyyagghā, sabbālaṅkārabhūsitā.
๒๑๔.
214.
‘‘อารูฬฺหา คามณีเยหิ, จาปหเตฺถหิ วมฺมิภิ;
‘‘Ārūḷhā gāmaṇīyehi, cāpahatthehi vammibhi;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Yantaṃ maṃ nānuyissanti, taṃ kudāssu bhavissati.
๒๑๕.
215.
‘‘กทาสฺสุ มํ โคณรถา, สนฺนทฺธา อุสฺสิตทฺธชา;
‘‘Kadāssu maṃ goṇarathā, sannaddhā ussitaddhajā;
ทีปา อโถปิ เวยฺยคฺฆา, สพฺพาลงฺการภูสิตาฯ
Dīpā athopi veyyagghā, sabbālaṅkārabhūsitā.
๒๑๖.
216.
‘‘อารูฬฺหา คามณีเยหิ, จาปหเตฺถหิ วมฺมิภิ;
‘‘Ārūḷhā gāmaṇīyehi, cāpahatthehi vammibhi;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Yantaṃ maṃ nānuyissanti, taṃ kudāssu bhavissati.
๒๑๗.
217.
‘‘กทาสฺสุ มํ อชรถา, สนฺนทฺธา อุสฺสิตทฺธชา;
‘‘Kadāssu maṃ ajarathā, sannaddhā ussitaddhajā;
ทีปา อโถปิ เวยฺยคฺฆา, สพฺพาลงฺการภูสิตาฯ
Dīpā athopi veyyagghā, sabbālaṅkārabhūsitā.
๒๑๘.
218.
‘‘อารูฬฺหา คามณีเยหิ, จาปหเตฺถหิ วมฺมิภิ;
‘‘Ārūḷhā gāmaṇīyehi, cāpahatthehi vammibhi;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Yantaṃ maṃ nānuyissanti, taṃ kudāssu bhavissati.
๒๑๙.
219.
‘‘กทาสฺสุ มํ เมณฺฑรถา, สนฺนทฺธา อุสฺสิตทฺธชา;
‘‘Kadāssu maṃ meṇḍarathā, sannaddhā ussitaddhajā;
ทีปา อโถปิ เวยฺยคฺฆา, สพฺพาลงฺการภูสิตาฯ
Dīpā athopi veyyagghā, sabbālaṅkārabhūsitā.
๒๒๐.
220.
‘‘อารูฬฺหา คามณีเยหิ, จาปหเตฺถหิ วมฺมิภิ;
‘‘Ārūḷhā gāmaṇīyehi, cāpahatthehi vammibhi;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Yantaṃ maṃ nānuyissanti, taṃ kudāssu bhavissati.
๒๒๑.
221.
‘‘กทาสฺสุ มํ มิครถา, สนฺนทฺธา อุสฺสิตทฺธชา;
‘‘Kadāssu maṃ migarathā, sannaddhā ussitaddhajā;
ทีปา อโถปิ เวยฺยคฺฆา, สพฺพาลงฺการภูสิตาฯ
Dīpā athopi veyyagghā, sabbālaṅkārabhūsitā.
๒๒๒.
222.
‘‘อารูฬฺหา คามณีเยหิ, จาปหเตฺถหิ วมฺมิภิ;
‘‘Ārūḷhā gāmaṇīyehi, cāpahatthehi vammibhi;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Yantaṃ maṃ nānuyissanti, taṃ kudāssu bhavissati.
๒๒๓.
223.
‘‘กทาสฺสุ มํ หตฺถาโรหา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;
‘‘Kadāssu maṃ hatthārohā, sabbālaṅkārabhūsitā;
นีลวมฺมธรา สูรา, โตมรงฺกุสปาณิโน;
Nīlavammadharā sūrā, tomaraṅkusapāṇino;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Yantaṃ maṃ nānuyissanti, taṃ kudāssu bhavissati.
๒๒๔.
224.
‘‘กทาสฺสุ มํ อสฺสาโรหา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;
‘‘Kadāssu maṃ assārohā, sabbālaṅkārabhūsitā;
นีลวมฺมธรา สูรา, อิลฺลิยาจาปธาริโน;
Nīlavammadharā sūrā, illiyācāpadhārino;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Yantaṃ maṃ nānuyissanti, taṃ kudāssu bhavissati.
๒๒๕.
225.
‘‘กทาสฺสุ มํ รถาโรหา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;
‘‘Kadāssu maṃ rathārohā, sabbālaṅkārabhūsitā;
นีลวมฺมธรา สูรา, จาปหตฺถา กลาปิโน;
Nīlavammadharā sūrā, cāpahatthā kalāpino;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Yantaṃ maṃ nānuyissanti, taṃ kudāssu bhavissati.
๒๒๖.
226.
‘‘กทาสฺสุ มํ ธนุคฺคหา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;
‘‘Kadāssu maṃ dhanuggahā, sabbālaṅkārabhūsitā;
นีลวมฺมธรา สูรา, จาปหตฺถา กลาปิโน;
Nīlavammadharā sūrā, cāpahatthā kalāpino;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Yantaṃ maṃ nānuyissanti, taṃ kudāssu bhavissati.
๒๒๗.
227.
‘‘กทาสฺสุ มํ ราชปุตฺตา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;
‘‘Kadāssu maṃ rājaputtā, sabbālaṅkārabhūsitā;
จิตฺรวมฺมธรา สูรา, กญฺจนาเวฬธาริโน;
Citravammadharā sūrā, kañcanāveḷadhārino;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Yantaṃ maṃ nānuyissanti, taṃ kudāssu bhavissati.
๒๒๘.
228.
‘‘กทาสฺสุ มํ อริยคณา, วตวนฺตา อลงฺกตา;
‘‘Kadāssu maṃ ariyagaṇā, vatavantā alaṅkatā;
หริจนฺทนลิตฺตงฺคา, กาสิกุตฺตมธาริโน;
Haricandanalittaṅgā, kāsikuttamadhārino;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Yantaṃ maṃ nānuyissanti, taṃ kudāssu bhavissati.
๒๒๙.
229.
‘‘กทาสฺสุ มํ อมจฺจคณา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;
‘‘Kadāssu maṃ amaccagaṇā, sabbālaṅkārabhūsitā;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Yantaṃ maṃ nānuyissanti, taṃ kudāssu bhavissati.
๒๓๐.
230.
‘‘กทาสฺสุ มํ สตฺตสตา ภริยา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;
‘‘Kadāssu maṃ sattasatā bhariyā, sabbālaṅkārabhūsitā;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Yantaṃ maṃ nānuyissanti, taṃ kudāssu bhavissati.
๒๓๑.
231.
‘‘กทาสฺสุ มํ สตฺตสตา ภริยา, สุสญฺญา ตนุมชฺฌิมา;
‘‘Kadāssu maṃ sattasatā bhariyā, susaññā tanumajjhimā;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Yantaṃ maṃ nānuyissanti, taṃ kudāssu bhavissati.
๒๓๒.
232.
‘‘กทาสฺสุ มํ สตฺตสตา ภริยา, อสฺสวา ปิยภาณินี;
‘‘Kadāssu maṃ sattasatā bhariyā, assavā piyabhāṇinī;
ยนฺตํ มํ นานุยิสฺสนฺติ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Yantaṃ maṃ nānuyissanti, taṃ kudāssu bhavissati.
๒๓๓.
233.
‘‘กทาหํ ปตฺตํ คเหตฺวาน, มุโณฺฑ สงฺฆาฎิปารุโต;
‘‘Kadāhaṃ pattaṃ gahetvāna, muṇḍo saṅghāṭipāruto;
ปิณฺฑิกาย จริสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Piṇḍikāya carissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๒๓๔.
234.
สงฺฆาฎิํ ธารยิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Saṅghāṭiṃ dhārayissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๒๓๕.
235.
ปิณฺฑิกาย จริสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Piṇḍikāya carissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๒๓๖.
236.
‘‘กทาหํ สพฺพตฺถ คนฺตฺวา 77, รุกฺขา รุกฺขํ วนา วนํ;
‘‘Kadāhaṃ sabbattha gantvā 78, rukkhā rukkhaṃ vanā vanaṃ;
อนเปโกฺข คมิสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Anapekkho gamissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๒๓๗.
237.
‘‘กทาหํ คิริทุเคฺคสุ, ปหีนภยเภรโว;
‘‘Kadāhaṃ giriduggesu, pahīnabhayabheravo;
๒๓๘.
238.
จิตฺตํ อุชุํ กริสฺสามิ, ตํ กุทาสฺสุ ภวิสฺสติฯ
Cittaṃ ujuṃ karissāmi, taṃ kudāssu bhavissati.
๒๓๙.
239.
‘‘กทาหํ รถกาโรว, ปริกนฺตํ อุปาหนํ;
‘‘Kadāhaṃ rathakārova, parikantaṃ upāhanaṃ;
๒๔๐.
240.
‘‘ตา จ สตฺตสตา ภริยา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;
‘‘Tā ca sattasatā bhariyā, sabbālaṅkārabhūsitā;
พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, กสฺมา โน วิชหิสฺสสิฯ
Bāhā paggayha pakkanduṃ, kasmā no vijahissasi.
๒๔๑.
241.
‘‘ตา จ สตฺตสตา ภริยา, สุสญฺญา ตนุมชฺฌิมา;
‘‘Tā ca sattasatā bhariyā, susaññā tanumajjhimā;
พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, กสฺมา โน วิชหิสฺสสิฯ
Bāhā paggayha pakkanduṃ, kasmā no vijahissasi.
๒๔๒.
242.
‘‘ตา จ สตฺตสตา ภริยา, อสฺสวา ปิยภาณินี;
‘‘Tā ca sattasatā bhariyā, assavā piyabhāṇinī;
พาหา ปคฺคยฺห ปกฺกนฺทุํ, กสฺมา โน วิชหิสฺสสิฯ
Bāhā paggayha pakkanduṃ, kasmā no vijahissasi.
๒๔๓.
243.
‘‘ตา จ สตฺตสตา ภริยา, สพฺพาลงฺการภูสิตา;
‘‘Tā ca sattasatā bhariyā, sabbālaṅkārabhūsitā;
๒๔๔.
244.
‘‘ตา จ สตฺตสตา ภริยา, สุสญฺญา ตนุมชฺฌิมา;
‘‘Tā ca sattasatā bhariyā, susaññā tanumajjhimā;
หิตฺวา สมฺปทฺทวี ราชา, ปพฺพชฺชาย ปุรกฺขโตฯ
Hitvā sampaddavī rājā, pabbajjāya purakkhato.
๒๔๕.
245.
‘‘ตา จ สตฺตสตา ภริยา, อสฺสวา ปิยภาณินี;
‘‘Tā ca sattasatā bhariyā, assavā piyabhāṇinī;
หิตฺวา สมฺปทฺทวี ราชา, ปพฺพชฺชาย ปุรกฺขโต’’ฯ
Hitvā sampaddavī rājā, pabbajjāya purakkhato’’.
๒๔๖.
246.
‘‘หิตฺวา สตปลํ กํสํ, โสวณฺณํ สตราชิกํ;
‘‘Hitvā satapalaṃ kaṃsaṃ, sovaṇṇaṃ satarājikaṃ;
อคฺคหี มตฺติกํ ปตฺตํ, ตํ ทุติยาภิเสจนํ’’ฯ
Aggahī mattikaṃ pattaṃ, taṃ dutiyābhisecanaṃ’’.
๒๔๗.
247.
รชตํ ชาตรูปญฺจ, มุตฺตา เวฬุริยา พหูฯ
Rajataṃ jātarūpañca, muttā veḷuriyā bahū.
๒๔๘.
248.
‘‘มณโย สงฺขมุตฺตา จ, วตฺถิกํ หริจนฺทนํ;
‘‘Maṇayo saṅkhamuttā ca, vatthikaṃ haricandanaṃ;
อชินํ ทณฺฑภณฺฑญฺจ, โลหํ กาฬายสํ พหู;
Ajinaṃ daṇḍabhaṇḍañca, lohaṃ kāḷāyasaṃ bahū;
๒๔๙.
249.
‘‘สุสุขํ วต ชีวาม, เยสํ โน นตฺถิ กิญฺจนํ;
‘‘Susukhaṃ vata jīvāma, yesaṃ no natthi kiñcanaṃ;
มิถิลาย ทยฺหมานาย, น เม กิญฺจิ อทยฺหถ’’ฯ
Mithilāya dayhamānāya, na me kiñci adayhatha’’.
๒๕๐.
250.
‘‘อฎวิโย สมุปฺปนฺนา, รฎฺฐํ วิทฺธํสยนฺติ ตํ;
‘‘Aṭaviyo samuppannā, raṭṭhaṃ viddhaṃsayanti taṃ;
เอหิ ราช นิวตฺตสฺสุ, มา รฎฺฐํ วินสา อิทํ’’ฯ
Ehi rāja nivattassu, mā raṭṭhaṃ vinasā idaṃ’’.
๒๕๑.
251.
‘‘สุสุขํ วต ชีวาม, เยสํ โน นตฺถิ กิญฺจนํ;
‘‘Susukhaṃ vata jīvāma, yesaṃ no natthi kiñcanaṃ;
๒๕๒.
252.
‘‘สุสุขํ วต ชีวาม, เยสํ โน นตฺถิ กิญฺจนํ;
‘‘Susukhaṃ vata jīvāma, yesaṃ no natthi kiñcanaṃ;
ปีติภกฺขา ภวิสฺสาม, เทวา อาภสฺสรา ยถา’’ฯ
Pītibhakkhā bhavissāma, devā ābhassarā yathā’’.
๒๕๓.
253.
๒๕๔.
254.
‘‘มมํ โอหาย คจฺฉนฺตํ, เอเตฺถโส อภิสโฎ ชโน;
‘‘Mamaṃ ohāya gacchantaṃ, ettheso abhisaṭo jano;
สีมาติกฺกมนํ ยนฺตํ, มุนิโมนสฺส ปตฺติยา;
Sīmātikkamanaṃ yantaṃ, munimonassa pattiyā;
มิสฺสํ นนฺทีหิ คจฺฉนฺตํ, กิํ ชานมนุปุจฺฉสิ’’ฯ
Missaṃ nandīhi gacchantaṃ, kiṃ jānamanupucchasi’’.
๒๕๕.
255.
๒๕๖.
256.
‘‘โก นุ เม ปริปนฺถสฺส, มมํ เอวํวิหาริโน;
‘‘Ko nu me paripanthassa, mamaṃ evaṃvihārino;
โย เนว ทิเฎฺฐ นาทิเฎฺฐ, กามานมภิปตฺถเย’’ฯ
Yo neva diṭṭhe nādiṭṭhe, kāmānamabhipatthaye’’.
๒๕๗.
257.
‘‘นิทฺทา ตนฺที วิชมฺภิตา, อรตี ภตฺตสมฺมโท;
‘‘Niddā tandī vijambhitā, aratī bhattasammado;
อาวสนฺติ สรีรฎฺฐา, พหู หิ ปริปนฺถโย’’ฯ
Āvasanti sarīraṭṭhā, bahū hi paripanthayo’’.
๒๕๘.
258.
พฺราหฺมณ เตว 103 ปุจฺฉามิ, โก นุ ตฺวมสิ มาริส’’ฯ
Brāhmaṇa teva 104 pucchāmi, ko nu tvamasi mārisa’’.
๒๕๙.
259.
โภโต สกาสมาคจฺฉิํ, สาธุ สพฺภิ สมาคโมฯ
Bhoto sakāsamāgacchiṃ, sādhu sabbhi samāgamo.
๒๖๐.
260.
‘‘ตสฺส เต สโพฺพ อานโนฺท, วิหาโร อุปวตฺตตุ;
‘‘Tassa te sabbo ānando, vihāro upavattatu;
๒๖๑.
261.
กมฺมํ วิชฺชญฺจ ธมฺมญฺจ, สกฺกตฺวาน ปริพฺพช’’ฯ
Kammaṃ vijjañca dhammañca, sakkatvāna paribbaja’’.
๒๖๒.
262.
‘‘พหู หตฺถี จ อเสฺส จ, นคเร ชนปทานิ จ;
‘‘Bahū hatthī ca asse ca, nagare janapadāni ca;
๒๖๓.
263.
‘‘กจฺจิ นุ เต ชานปทา, มิตฺตามจฺจา จ ญาตกา;
‘‘Kacci nu te jānapadā, mittāmaccā ca ñātakā;
ทุพฺภิมกํสุ ชนก, กสฺมา เต ตํ อรุจฺจถ’’ฯ
Dubbhimakaṃsu janaka, kasmā te taṃ aruccatha’’.
๒๖๔.
264.
อธเมฺมน ชิเน ญาติํ, น จาปิ ญาตโย มมํฯ
Adhammena jine ñātiṃ, na cāpi ñātayo mamaṃ.
๒๖๕.
265.
‘‘ทิสฺวาน โลกวตฺตนฺตํ, ขชฺชนฺตํ กทฺทมีกตํ;
‘‘Disvāna lokavattantaṃ, khajjantaṃ kaddamīkataṃ;
หญฺญเร พชฺฌเร เจตฺถ, ยตฺถ สโนฺน 115 ปุถุชฺชโน;
Haññare bajjhare cettha, yattha sanno 116 puthujjano;
เอตาหํ อุปมํ กตฺวา, ภิกฺขโกสฺมิ มิคาชิน’’ฯ
Etāhaṃ upamaṃ katvā, bhikkhakosmi migājina’’.
๒๖๖.
266.
‘‘โก นุ เต ภควา สตฺถา, กเสฺสตํ วจนํ สุจิ;
‘‘Ko nu te bhagavā satthā, kassetaṃ vacanaṃ suci;
น หิ กปฺปํ วา วิชฺชํ วา, ปจฺจกฺขาย รเถสภ;
Na hi kappaṃ vā vijjaṃ vā, paccakkhāya rathesabha;
สมณํ อาหุ วตฺตนฺตํ, ยถา ทุกฺขสฺสติกฺกโม’’ฯ
Samaṇaṃ āhu vattantaṃ, yathā dukkhassatikkamo’’.
๒๖๗.
267.
‘‘น มิคาชิน ชาตุเจฺฉ, อหํ กญฺจิ กุทาจนํ;
‘‘Na migājina jātucche, ahaṃ kañci kudācanaṃ;
สมณํ พฺราหฺมณํ วาปิ, สกฺกตฺวา อนุปาวิสิํ’’ฯ
Samaṇaṃ brāhmaṇaṃ vāpi, sakkatvā anupāvisiṃ’’.
๒๖๘.
268.
‘‘มหตา จานุภาเวน, คจฺฉโนฺต สิริยา ชลํ;
‘‘Mahatā cānubhāvena, gacchanto siriyā jalaṃ;
คียมาเนสุ คีเตสุ, วชฺชมาเนสุ วคฺคุสุฯ
Gīyamānesu gītesu, vajjamānesu vaggusu.
๒๖๙.
269.
ส มิคาชิน มทฺทกฺขิํ, ผลิํ 119 อมฺพํ ติโรจฺฉทํ;
Sa migājina maddakkhiṃ, phaliṃ 120 ambaṃ tirocchadaṃ;
๒๗๐.
270.
‘‘โส โขหํ ตํ สิริํ หิตฺวา, โอโรหิตฺวา มิคาชิน;
‘‘So khohaṃ taṃ siriṃ hitvā, orohitvā migājina;
มูลํ อมฺพสฺสุปาคจฺฉิํ, ผลิโน นิปฺผลสฺส จฯ
Mūlaṃ ambassupāgacchiṃ, phalino nipphalassa ca.
๒๗๑.
271.
‘‘ผลิํ 123 อมฺพํ หตํ ทิสฺวา, วิทฺธํสฺตํ วินฬีกตํ;
‘‘Phaliṃ 124 ambaṃ hataṃ disvā, viddhaṃstaṃ vinaḷīkataṃ;
๒๗๒.
272.
อมิตฺตา โน วธิสฺสนฺติ, ยถา อโมฺพ ผลี หโตฯ
Amittā no vadhissanti, yathā ambo phalī hato.
๒๗๓.
273.
‘‘อชินมฺหิ หญฺญเต ทีปิ, นาโค ทเนฺตหิ หญฺญเต;
‘‘Ajinamhi haññate dīpi, nāgo dantehi haññate;
ธนมฺหิ ธนิโน หนฺติ, อนิเกตมสนฺถวํ;
Dhanamhi dhanino hanti, aniketamasanthavaṃ;
ผลี อโมฺพ อผโล จ, เต สตฺถาโร อุโภ มม’’ฯ
Phalī ambo aphalo ca, te satthāro ubho mama’’.
๒๗๔.
274.
‘‘สโพฺพ ชโน ปพฺยาธิโต, ราชา ปพฺพชิโต อิติ;
‘‘Sabbo jano pabyādhito, rājā pabbajito iti;
หตฺถาโรหา อนีกฎฺฐา, รถิกา ปตฺติการกาฯ
Hatthārohā anīkaṭṭhā, rathikā pattikārakā.
๒๗๕.
275.
‘‘อสฺสาสยิตฺวา ชนตํ, ฐปยิตฺวา ปฎิจฺฉทํ;
‘‘Assāsayitvā janataṃ, ṭhapayitvā paṭicchadaṃ;
ปุตฺตํ รเชฺช ฐเปตฺวาน, อถ ปจฺฉา ปพฺพชิสฺสสิ’’ฯ
Puttaṃ rajje ṭhapetvāna, atha pacchā pabbajissasi’’.
๒๗๖.
276.
‘‘จตฺตา มยา ชานปทา, มิตฺตามจฺจา จ ญาตกา;
‘‘Cattā mayā jānapadā, mittāmaccā ca ñātakā;
สนฺติ ปุตฺตา วิเทหานํ, ทีฆาวุ รฎฺฐวฑฺฒโน;
Santi puttā videhānaṃ, dīghāvu raṭṭhavaḍḍhano;
เต รชฺชํ การยิสฺสนฺติ, มิถิลายํ ปชาปติ’’ฯ
Te rajjaṃ kārayissanti, mithilāyaṃ pajāpati’’.
๒๗๗.
277.
‘‘เอหิ ตํ อนุสิกฺขามิ, ยํ วากฺยํ มม รุจฺจติ;
‘‘Ehi taṃ anusikkhāmi, yaṃ vākyaṃ mama ruccati;
๒๗๘.
278.
‘‘ปรทินฺนเกน ปรนิฎฺฐิเตน, ปิเณฺฑน ยาเปหิ ส ธีรธโมฺม’’ฯ
‘‘Paradinnakena paraniṭṭhitena, piṇḍena yāpehi sa dhīradhammo’’.
๒๗๙.
279.
‘‘โยปิ จตุเตฺถ ภตฺตกาเล น ภุเญฺช, อชุฎฺฐมารีว 133 ขุทาย มิเยฺย;
‘‘Yopi catutthe bhattakāle na bhuñje, ajuṭṭhamārīva 134 khudāya miyye;
น เตฺวว ปิณฺฑํ ลุฬิตํ อนริยํ, กุลปุตฺตรูโป สปฺปุริโส น เสเว;
Na tveva piṇḍaṃ luḷitaṃ anariyaṃ, kulaputtarūpo sappuriso na seve;
ตยิทํ น สาธุ ตยิทํ น สุฎฺฐุ, สุนขุจฺฉิฎฺฐกํ ชนก ภุญฺชเส ตุวํ’’ฯ
Tayidaṃ na sādhu tayidaṃ na suṭṭhu, sunakhucchiṭṭhakaṃ janaka bhuñjase tuvaṃ’’.
๒๘๐.
280.
‘‘น จาปิ เม สีวลิ โส อภโกฺข, ยํ โหติ จตฺตํ คิหิโน สุนสฺส วา;
‘‘Na cāpi me sīvali so abhakkho, yaṃ hoti cattaṃ gihino sunassa vā;
เย เกจิ โภคา อิธ ธมฺมลทฺธา, สโพฺพ โส ภโกฺข อนวโยติ 135 วุโตฺต’’ฯ
Ye keci bhogā idha dhammaladdhā, sabbo so bhakkho anavayoti 136 vutto’’.
๒๘๑.
281.
‘‘กุมาริเก อุปเสนิเย, นิจฺจํ นิคฺคฬมณฺฑิเต;
‘‘Kumārike upaseniye, niccaṃ niggaḷamaṇḍite;
กสฺมา เต เอโก ภุโช ชนติ, เอโก เต น ชนตี ภุโช’’ฯ
Kasmā te eko bhujo janati, eko te na janatī bhujo’’.
๒๘๒.
282.
๒๘๓.
283.
‘‘อิมสฺมิํ เม สมณ หเตฺถ, ปฎิมุโกฺก เอกนีวโร 141;
‘‘Imasmiṃ me samaṇa hatthe, paṭimukko ekanīvaro 142;
โส อทุติโย น ชนติ, มุนิภูโตว ติฎฺฐติฯ
So adutiyo na janati, munibhūtova tiṭṭhati.
๒๘๔.
284.
ตสฺส เต สคฺคกามสฺส, เอกตฺตมุปโรจตํ’’ฯ
Tassa te saggakāmassa, ekattamuparocataṃ’’.
๒๘๕.
285.
๒๘๖.
286.
‘‘อยํ เทฺวธาปโถ ภเทฺท, อนุจิโณฺณ ปถาวิหิ;
‘‘Ayaṃ dvedhāpatho bhadde, anuciṇṇo pathāvihi;
เตสํ ตฺวํ เอกํ คณฺหาหิ, อหเมกํ ปุนาปรํฯ
Tesaṃ tvaṃ ekaṃ gaṇhāhi, ahamekaṃ punāparaṃ.
๒๘๗.
287.
‘‘อิมเมว กถยนฺตา, ถูณํ นครุปาคมุํฯ
‘‘Imameva kathayantā, thūṇaṃ nagarupāgamuṃ.
๒๘๘.
288.
‘‘โกฎฺฐเก อุสุการสฺส, ภตฺตกาเล อุปฎฺฐิเต;
‘‘Koṭṭhake usukārassa, bhattakāle upaṭṭhite;
เอกญฺจ จกฺขุํ นิคฺคยฺห, ชิมฺหเมเกน เปกฺขติ’’ฯ
Ekañca cakkhuṃ niggayha, jimhamekena pekkhati’’.
๒๘๙.
289.
‘‘เอวํ โน สาธุ ปสฺสสิ, อุสุการ สุโณหิ เม;
‘‘Evaṃ no sādhu passasi, usukāra suṇohi me;
ยเทกํ จกฺขุํ นิคฺคยฺห, ชิมฺหเมเกน เปกฺขสิ’’ฯ
Yadekaṃ cakkhuṃ niggayha, jimhamekena pekkhasi’’.
๒๙๐.
290.
‘‘ทฺวีหิ สมณ จกฺขูหิ, วิสาลํ วิย ขายติ;
‘‘Dvīhi samaṇa cakkhūhi, visālaṃ viya khāyati;
๒๙๑.
291.
‘‘เอกญฺจ จกฺขุํ นิคฺคยฺห, ชิมฺหเมเกน เปกฺขโต;
‘‘Ekañca cakkhuṃ niggayha, jimhamekena pekkhato;
สมฺปตฺวา ปรมํ ลิงฺคํ, อุชุภาวาย กปฺปติฯ
Sampatvā paramaṃ liṅgaṃ, ujubhāvāya kappati.
๒๙๒.
292.
ตสฺส เต สคฺคกามสฺส, เอกตฺตมุปโรจตํ’’ฯ
Tassa te saggakāmassa, ekattamuparocataṃ’’.
๒๙๓.
293.
เปสิยา มํ ครหิโตฺถ, ทุติยเสฺสว สา คติฯ
Pesiyā maṃ garahittho, dutiyasseva sā gati.
๒๙๔.
294.
‘‘อยํ เทฺวธาปโถ ภเทฺท, อนุจิโณฺณ ปถาวิหิ;
‘‘Ayaṃ dvedhāpatho bhadde, anuciṇṇo pathāvihi;
เตสํ ตฺวํ เอกํ คณฺหาหิ, อหเมกํ ปุนาปรํฯ
Tesaṃ tvaṃ ekaṃ gaṇhāhi, ahamekaṃ punāparaṃ.
๒๙๕.
295.
‘‘มาวจ มํ ตฺวํ ปติ เมติ, นาหํ ภริยาติ วา ปุน’’;
‘‘Māvaca maṃ tvaṃ pati meti, nāhaṃ bhariyāti vā puna’’;
‘‘มุญฺชาเวสิกา ปวาฬฺหา, เอกา วิหร สีวลี’’ติฯ
‘‘Muñjāvesikā pavāḷhā, ekā vihara sīvalī’’ti.
มหาชนกชาตกํ ทุติยํฯ
Mahājanakajātakaṃ dutiyaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā / [๕๓๙] ๒. มหาชนกชาตกวณฺณนา • [539] 2. Mahājanakajātakavaṇṇanā