Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi

    ๑๕๘. มหากจฺจานสฺส ปญฺจวรปริทสฺสนา

    158. Mahākaccānassa pañcavaraparidassanā

    อถ โข อายสฺมโต โสณสฺส วสฺสํวุฎฺฐสฺส รโหคตสฺส ปฎิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตโกฺก อุทปาทิ – ‘‘สุโตเยว โข เม โส ภควา เอทิโส จ เอทิโส จาติ, น จ มยา สมฺมุขา ทิโฎฺฐ, คเจฺฉยฺยาหํ ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ, สเจ มํ อุปชฺฌาโย อนุชาเนยฺยา’’ติฯ อถ โข อายสฺมา โสโณ สายนฺหสมยํ ปฎิสลฺลานา วุฎฺฐิโต เยนายสฺมา มหากจฺจาโน เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อายสฺมา โสโณ อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ เอตทโวจ – ‘‘อิธ มยฺหํ, ภเนฺต, รโหคตสฺส ปฎิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตโกฺก อุทปาทิ – ‘สุโต เยว โข เม โส ภควา เอทิโส จ เอทิโส จาติ, น จ มยา สมฺมุขา ทิโฎฺฐ, คเจฺฉยฺยาหํ ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ, สเจ มํ อุปชฺฌาโย อนุชาเนยฺยา’ติ; คเจฺฉยฺยาหํ, ภเนฺต, ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํ, สเจ มํ อุปชฺฌาโย อนุชานาตี’’ติฯ ‘‘สาธุ สาธุ, โสณฯ คจฺฉ ตฺวํ, โสณ, ตํ ภควนฺตํ ทสฺสนาย อรหนฺตํ สมฺมาสมฺพุทฺธํฯ ทกฺขิสฺสสิ ตฺวํ, โสณ, ตํ ภควนฺตํ ปาสาทิกํ ปสาทนียํ สนฺตินฺทฺริยํ สนฺตมานสํ อุตฺตมทมถสมถํ อมนุปฺปตฺตํ ทนฺตํ คุตฺตํ ยตินฺทฺริยํ นาคํฯ เตน หิ ตฺวํ, โสณ, มม วจเนน ภควโต ปาเท สิรสา วนฺท – ‘อุปชฺฌาโย เม, ภเนฺต, อายสฺมา มหากจฺจาโน ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทตี’’’ติฯ เอวญฺจ วเทหิ – ‘‘อวนฺติทกฺขิณาปโถ, ภเนฺต, อปฺปภิกฺขุโก, ติณฺณํ เม วสฺสานํ อจฺจเยน กิเจฺฉน กสิเรน ตโต ตโต ทสวคฺคํ ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา อุปสมฺปทํ อลตฺถํ; อเปฺปว นาม ภควา อวนฺติทกฺขิณาปเถ อปฺปตเรน คเณน อุปสมฺปทํ อนุชาเนยฺยฯ อวนฺติทกฺขิณาปเถ, ภเนฺต, กณฺหุตฺตรา ภูมิ ขรา โคกณฺฎกหตา; อเปฺปว นาม ภควา อวนฺติทกฺขิณาปเถ คุณงฺคุณูปาหนํ อนุชาเนยฺยฯ อวนฺติทกฺขิณาปเถ, ภเนฺต, นหานครุกา มนุสฺสา อุทกสุทฺธิกา; อเปฺปว นาม ภควา อวนฺติทกฺขิณาปเถ ธุวนหานํ อนุชาเนยฺยฯ อวนฺติทกฺขิณาปเถ, ภเนฺต, จมฺมานิ อตฺถรณานิ, เอฬกจมฺมํ อชจมฺมํ มิคจมฺมํฯ เสยฺยถาปิ, ภเนฺต, มชฺฌิเมสุ ชนปเทสุ เอรคู โมรคู มชฺชารู 1 ชนฺตู, เอวเมว โข, ภเนฺต, อวนฺติทกฺขิณาปเถ จมฺมานิ อตฺถรณานิ, เอฬกจมฺมํ อชจมฺมํ มิคจมฺมํ; อเปฺปว นาม ภควา อวนฺติทกฺขิณาปเถ จมฺมานิ อตฺถรณานิ อนุชาเนยฺย, เอฬกจมฺมํ อชจมฺมํ มิคจมฺมํฯ เอตรหิ, ภเนฺต, มนุสฺสา นิสฺสีมคตานํ ภิกฺขูนํ จีวรํ เทนฺติ – ‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส เทมา’’’ติฯ เต อาคนฺตฺวา อาโรเจนฺติ – ‘อิตฺถนฺนาเมหิ เต, อาวุโส, มนุเสฺสหิ จีวรํ ทินฺน’นฺติ เต กุกฺกุจฺจายนฺตา น สาทิยนฺติ – ‘มา โน นิสฺสคฺคิยํ อโหสี’ติ; อเปฺปว นาม ภควา จีวเร ปริยายํ อาจิเกฺขยฺยา’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ โข อายสฺมา โสโณ อายสฺมโต มหากจฺจานสฺส ปฎิสฺสุตฺวา อุฎฺฐายาสนา อายสฺมนฺตํ มหากจฺจานํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เสนาสนํ สํสาเมตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน สาวตฺถิ เตน ปกฺกามิฯ อนุปุเพฺพน เยน สาวตฺถิ เชตวนํ อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราโม เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามเนฺตสิ – ‘‘อิมสฺส, อานนฺท, อาคนฺตุกสฺส ภิกฺขุโน เสนาสนํ ปญฺญาเปหี’’ติฯ อถ โข อายสฺมา อานโนฺท – ‘‘ยสฺส โข มํ ภควา อาณาเปติ, ‘อิมสฺส, อานนฺท, อาคนฺตุกสฺส ภิกฺขุโน เสนาสนํ ปญฺญาเปหี’ติ, อิจฺฉติ ภควา เตน ภิกฺขุนา สทฺธิํ เอกวิหาเร วตฺถุํ, อิจฺฉติ ภควา อายสฺมตา โสเณน สทฺธิํ เอกวิหาเร วตฺถุ’’นฺติ – ยสฺมิํ วิหาเร ภควา วิหรติ ตสฺมิํ วิหาเร อายสฺมโต โสณสฺส เสนาสนํ ปญฺญาเปสิฯ

    Atha kho āyasmato soṇassa vassaṃvuṭṭhassa rahogatassa paṭisallīnassa evaṃ cetaso parivitakko udapādi – ‘‘sutoyeva kho me so bhagavā ediso ca ediso cāti, na ca mayā sammukhā diṭṭho, gaccheyyāhaṃ taṃ bhagavantaṃ dassanāya arahantaṃ sammāsambuddhaṃ, sace maṃ upajjhāyo anujāneyyā’’ti. Atha kho āyasmā soṇo sāyanhasamayaṃ paṭisallānā vuṭṭhito yenāyasmā mahākaccāno tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā āyasmantaṃ mahākaccānaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho āyasmā soṇo āyasmantaṃ mahākaccānaṃ etadavoca – ‘‘idha mayhaṃ, bhante, rahogatassa paṭisallīnassa evaṃ cetaso parivitakko udapādi – ‘suto yeva kho me so bhagavā ediso ca ediso cāti, na ca mayā sammukhā diṭṭho, gaccheyyāhaṃ taṃ bhagavantaṃ dassanāya arahantaṃ sammāsambuddhaṃ, sace maṃ upajjhāyo anujāneyyā’ti; gaccheyyāhaṃ, bhante, taṃ bhagavantaṃ dassanāya arahantaṃ sammāsambuddhaṃ, sace maṃ upajjhāyo anujānātī’’ti. ‘‘Sādhu sādhu, soṇa. Gaccha tvaṃ, soṇa, taṃ bhagavantaṃ dassanāya arahantaṃ sammāsambuddhaṃ. Dakkhissasi tvaṃ, soṇa, taṃ bhagavantaṃ pāsādikaṃ pasādanīyaṃ santindriyaṃ santamānasaṃ uttamadamathasamathaṃ amanuppattaṃ dantaṃ guttaṃ yatindriyaṃ nāgaṃ. Tena hi tvaṃ, soṇa, mama vacanena bhagavato pāde sirasā vanda – ‘upajjhāyo me, bhante, āyasmā mahākaccāno bhagavato pāde sirasā vandatī’’’ti. Evañca vadehi – ‘‘avantidakkhiṇāpatho, bhante, appabhikkhuko, tiṇṇaṃ me vassānaṃ accayena kicchena kasirena tato tato dasavaggaṃ bhikkhusaṅghaṃ sannipātāpetvā upasampadaṃ alatthaṃ; appeva nāma bhagavā avantidakkhiṇāpathe appatarena gaṇena upasampadaṃ anujāneyya. Avantidakkhiṇāpathe, bhante, kaṇhuttarā bhūmi kharā gokaṇṭakahatā; appeva nāma bhagavā avantidakkhiṇāpathe guṇaṅguṇūpāhanaṃ anujāneyya. Avantidakkhiṇāpathe, bhante, nahānagarukā manussā udakasuddhikā; appeva nāma bhagavā avantidakkhiṇāpathe dhuvanahānaṃ anujāneyya. Avantidakkhiṇāpathe, bhante, cammāni attharaṇāni, eḷakacammaṃ ajacammaṃ migacammaṃ. Seyyathāpi, bhante, majjhimesu janapadesu eragū moragū majjārū 2 jantū, evameva kho, bhante, avantidakkhiṇāpathe cammāni attharaṇāni, eḷakacammaṃ ajacammaṃ migacammaṃ; appeva nāma bhagavā avantidakkhiṇāpathe cammāni attharaṇāni anujāneyya, eḷakacammaṃ ajacammaṃ migacammaṃ. Etarahi, bhante, manussā nissīmagatānaṃ bhikkhūnaṃ cīvaraṃ denti – ‘imaṃ cīvaraṃ itthannāmassa demā’’’ti. Te āgantvā ārocenti – ‘itthannāmehi te, āvuso, manussehi cīvaraṃ dinna’nti te kukkuccāyantā na sādiyanti – ‘mā no nissaggiyaṃ ahosī’ti; appeva nāma bhagavā cīvare pariyāyaṃ ācikkheyyā’’ti. ‘‘Evaṃ, bhante’’ti kho āyasmā soṇo āyasmato mahākaccānassa paṭissutvā uṭṭhāyāsanā āyasmantaṃ mahākaccānaṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā senāsanaṃ saṃsāmetvā pattacīvaramādāya yena sāvatthi tena pakkāmi. Anupubbena yena sāvatthi jetavanaṃ anāthapiṇḍikassa ārāmo yena bhagavā tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Atha kho bhagavā āyasmantaṃ ānandaṃ āmantesi – ‘‘imassa, ānanda, āgantukassa bhikkhuno senāsanaṃ paññāpehī’’ti. Atha kho āyasmā ānando – ‘‘yassa kho maṃ bhagavā āṇāpeti, ‘imassa, ānanda, āgantukassa bhikkhuno senāsanaṃ paññāpehī’ti, icchati bhagavā tena bhikkhunā saddhiṃ ekavihāre vatthuṃ, icchati bhagavā āyasmatā soṇena saddhiṃ ekavihāre vatthu’’nti – yasmiṃ vihāre bhagavā viharati tasmiṃ vihāre āyasmato soṇassa senāsanaṃ paññāpesi.

    ๒๕๘. อถ โข ภควา พหุเทว รตฺติํ อโชฺฌกาเส วีตินาเมตฺวา วิหารํ ปาวิสิฯ อายสฺมาปิ โข โสโณ พหุเทว รตฺติํ อโชฺฌกาเส วีตินาเมตฺวา วิหารํ ปาวิสิฯ อถ โข ภควา รตฺติยา ปจฺจูสสมยํ ปจฺจุฎฺฐาย อายสฺมนฺตํ โสณํ อเชฺฌสิ – ‘‘ปฎิภาตุ ตํ, ภิกฺขุ, ธโมฺม ภาสิตุ’’นฺติฯ ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ โข อายสฺมา โสโณ ภควโต ปฎิสฺสุณิตฺวา สพฺพาเนว อฎฺฐกวคฺคิกานิ สเรน อภาสิฯ อถ โข ภควา อายสฺมโต โสณสฺส สรภญฺญปริโยสาเน อพฺภานุโมทิ – ‘‘สาธุ, สาธุ, ภิกฺขุฯ สุคฺคหิตานิ โข เต, ภิกฺขุ, อฎฺฐกวคฺคิกานิ , สุมนสิกตานิ สูปธาริตานิฯ กลฺยาณิยาปิ วาจาย สมนฺนาคโต, วิสฺสฎฺฐาย, อเนลคลาย 3, อตฺถสฺส วิญฺญาปนิยาฯ กติวโสฺสสิ ตฺวํ, ภิกฺขู’’ติ? ‘‘เอกวโสฺสหํ, ภควา’’ติฯ ‘‘กิสฺส ปน ตฺวํ, ภิกฺขุ, เอวํ จิรํ อกาสี’’ติ? ‘‘จิรํ ทิโฎฺฐ เม, ภเนฺต, กาเมสุ อาทีนโว, อปิ จ สมฺพาธา ฆราวาสา พหุกิจฺจา พหุกรณียา’’ติฯ อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

    258. Atha kho bhagavā bahudeva rattiṃ ajjhokāse vītināmetvā vihāraṃ pāvisi. Āyasmāpi kho soṇo bahudeva rattiṃ ajjhokāse vītināmetvā vihāraṃ pāvisi. Atha kho bhagavā rattiyā paccūsasamayaṃ paccuṭṭhāya āyasmantaṃ soṇaṃ ajjhesi – ‘‘paṭibhātu taṃ, bhikkhu, dhammo bhāsitu’’nti. ‘‘Evaṃ, bhante’’ti kho āyasmā soṇo bhagavato paṭissuṇitvā sabbāneva aṭṭhakavaggikāni sarena abhāsi. Atha kho bhagavā āyasmato soṇassa sarabhaññapariyosāne abbhānumodi – ‘‘sādhu, sādhu, bhikkhu. Suggahitāni kho te, bhikkhu, aṭṭhakavaggikāni , sumanasikatāni sūpadhāritāni. Kalyāṇiyāpi vācāya samannāgato, vissaṭṭhāya, anelagalāya 4, atthassa viññāpaniyā. Kativassosi tvaṃ, bhikkhū’’ti? ‘‘Ekavassohaṃ, bhagavā’’ti. ‘‘Kissa pana tvaṃ, bhikkhu, evaṃ ciraṃ akāsī’’ti? ‘‘Ciraṃ diṭṭho me, bhante, kāmesu ādīnavo, api ca sambādhā gharāvāsā bahukiccā bahukaraṇīyā’’ti. Atha kho bhagavā etamatthaṃ viditvā tāyaṃ velāyaṃ imaṃ udānaṃ udānesi –

    5 ‘‘ทิสฺวา อาทีนวํ โลเก, ญตฺวา ธมฺมํ นิรูปธิํ;

    6 ‘‘Disvā ādīnavaṃ loke, ñatvā dhammaṃ nirūpadhiṃ;

    อริโย น รมตี ปาเป, ปาเป น รมตี สุจี’’ติฯ

    Ariyo na ramatī pāpe, pāpe na ramatī sucī’’ti.

    อถ โข อายสฺมา โสโณ – ปฎิสโมฺมทติ โข มํ ภควา, อยํ ขฺวสฺส กาโล ยํ เม อุปชฺฌาโย ปริทสฺสีติ – อุฎฺฐายาสนา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อุปชฺฌาโย เม, ภเนฺต, อายสฺมา มหากจฺจาโน ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทติ, เอวญฺจ วเทติ อวนฺติทกฺขิณาปโถ, ภเนฺต, อปฺปภิกฺขุโกฯ ติณฺณํ เม วสฺสานํ อจฺจเยน กิเจฺฉน กสิเรน ตโต ตโต ทสวคฺคํ ภิกฺขุสงฺฆํ สนฺนิปาตาเปตฺวา อุปสมฺปทํ อลตฺถํ, อเปฺปว นาม ภควา อวนฺติทกฺขิณาปเถ อปฺปตเรน คเณน อุปสมฺปทํ อนุชาเนยฺยฯ อวนฺติทกฺขิณาปเถ, ภเนฺต, กณฺหุตฺตรา ภูมิ ขรา โคกณฺฎกหตา; อเปฺปว นาม ภควา อวนฺติทกฺขิณาปเถ คุณงฺคุณูปาหนํ อนุชาเนยฺยฯ อวนฺติทกฺขิณาปเถ, ภเนฺต, นหานครุกา มนุสฺสา อุทกสุทฺธิกา, อเปฺปว นาม ภควา อวนฺติทกฺขิณาปเถ ธุวนหานํ อนุชาเนยฺยฯ อวนฺติทกฺขิณาปเถ, ภเนฺต, จมฺมานิ อตฺถรณานิ, เอฬกจมฺมํ อชจมฺมํ มิคจมฺมํฯ เสยฺยถาปิ, ภเนฺต, มชฺฌิเมสุ ชนปเทสุ เอรคู โมรคู มชฺชารู ชนฺตู , เอวเมว โข, ภเนฺต, อวนฺติทกฺขิณาปเถ จมฺมานิ อตฺถรณานิ, เอฬกจมฺมํ อชจมฺมํ มิคจมฺมํ; อเปฺปว นาม ภควา อวนฺติทกฺขิณาปเถ จมฺมานิ อตฺถรณานิ อนุชาเนยฺย, เอฬกจมฺมํ อชจมฺมํ มิคจมฺมํฯ เอตรหิ, ภเนฺต, มนุสฺสา นิสฺสีมคตานํ ภิกฺขูนํ จีวรํ เทนฺติ – ‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส เทมา’ติฯ เต อาคนฺตฺวา อาโรเจนฺติ – ‘อิตฺถนฺนาเมหิ เต, อาวุโส, มนุเสฺสหิ จีวรํ ทินฺน’นฺติฯ เต กุกฺกุจฺจายนฺตา น สาทิยนฺติ – ‘มา โน นิสฺสคฺคิยํ อโหสี’ติ; อเปฺปว นาม ภควา จีวเร ปริยายํ อาจิเกฺขยฺยา’’ติฯ

    Atha kho āyasmā soṇo – paṭisammodati kho maṃ bhagavā, ayaṃ khvassa kālo yaṃ me upajjhāyo paridassīti – uṭṭhāyāsanā ekaṃsaṃ uttarāsaṅgaṃ karitvā bhagavato pādesu sirasā nipatitvā bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘upajjhāyo me, bhante, āyasmā mahākaccāno bhagavato pāde sirasā vandati, evañca vadeti avantidakkhiṇāpatho, bhante, appabhikkhuko. Tiṇṇaṃ me vassānaṃ accayena kicchena kasirena tato tato dasavaggaṃ bhikkhusaṅghaṃ sannipātāpetvā upasampadaṃ alatthaṃ, appeva nāma bhagavā avantidakkhiṇāpathe appatarena gaṇena upasampadaṃ anujāneyya. Avantidakkhiṇāpathe, bhante, kaṇhuttarā bhūmi kharā gokaṇṭakahatā; appeva nāma bhagavā avantidakkhiṇāpathe guṇaṅguṇūpāhanaṃ anujāneyya. Avantidakkhiṇāpathe, bhante, nahānagarukā manussā udakasuddhikā, appeva nāma bhagavā avantidakkhiṇāpathe dhuvanahānaṃ anujāneyya. Avantidakkhiṇāpathe, bhante, cammāni attharaṇāni, eḷakacammaṃ ajacammaṃ migacammaṃ. Seyyathāpi, bhante, majjhimesu janapadesu eragū moragū majjārū jantū , evameva kho, bhante, avantidakkhiṇāpathe cammāni attharaṇāni, eḷakacammaṃ ajacammaṃ migacammaṃ; appeva nāma bhagavā avantidakkhiṇāpathe cammāni attharaṇāni anujāneyya, eḷakacammaṃ ajacammaṃ migacammaṃ. Etarahi, bhante, manussā nissīmagatānaṃ bhikkhūnaṃ cīvaraṃ denti – ‘imaṃ cīvaraṃ itthannāmassa demā’ti. Te āgantvā ārocenti – ‘itthannāmehi te, āvuso, manussehi cīvaraṃ dinna’nti. Te kukkuccāyantā na sādiyanti – ‘mā no nissaggiyaṃ ahosī’ti; appeva nāma bhagavā cīvare pariyāyaṃ ācikkheyyā’’ti.

    ๒๕๙. อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อวนฺติทกฺขิณาปโถ, ภิกฺขเว, อปฺปภิกฺขุโกฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ วินยธรปญฺจเมน คเณน อุปสมฺปทํฯ ตตฺริเม ปจฺจนฺติมา ชนปทา – ปุรตฺถิมาย ทิสาย คชงฺคลํ 7 นาม นิคโม, ตสฺส ปเรน มหาสาลา, ตโต ปรา ปจฺจนฺติมา ชนปทา, โอรโต มเชฺฌ; ปุรตฺถิมทกฺขิณาย ทิสาย สลฺลวตี 8 นาม นที, ตโต ปรา ปจฺจนฺติมา ชนปทา, โอรโต มเชฺฌ; ทกฺขิณาย ทิสาย เสตกณฺณิกํ นาม นิคโม, ตโต ปรา ปจฺจนฺติมา ชนปทา, โอรโต มเชฺฌ; ปจฺฉิมาย ทิสาย ถูณํ นาม พฺราหฺมณคาโม, ตโต ปรา ปจฺจนฺติมา ชนปทา, โอรโต มเชฺฌ; อุตฺตราย ทิสาย อุสีรทฺธโช นาม ปพฺพโต, ตโต ปรา ปจฺจนฺติมา ชนปทา, โอรโต มเชฺฌ ฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เอวรูเปสุ ปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ วินยธรปญฺจเมน คเณน อุปสมฺปทํฯ อวนฺติทกฺขิณาปเถ, ภิกฺขเว, กณฺหุตฺตรา ภูมิ ขรา โคกณฺฎกหตาฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ คุณงฺคุณูปาหนํฯ อวนฺติทกฺขิณาปเถ, ภิกฺขเว, นหานครุกา มนุสฺสา อุทกสุทฺธิกาฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ ธุวนหานํฯ อวนฺติทกฺขิณาปเถ, ภิกฺขเว, จมฺมานิ อตฺถรณานิ, เอฬกจมฺมํ อชจมฺมํ มิคจมฺมํฯ เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มชฺฌิเมสุ ชนปเทสุ เอรคู โมรคู มชฺชารู ชนฺตู, เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อวนฺติทกฺขิณาปเถ จมฺมานิ อตฺถรณานิ, เอฬกจมฺมํ อชจมฺมํ มิคจมฺมํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สพฺพปจฺจนฺติเมสุ ชนปเทสุ จมฺมานิ อตฺถรณานิ, เอฬกจมฺมํ อชจมฺมํ มิคจมฺมํฯ อิธ ปน, ภิกฺขเว, มนุสฺสา นิสฺสีมคตานํ ภิกฺขูนํ จีวรํ เทนฺติ – ‘อิมํ จีวรํ อิตฺถนฺนามสฺส เทมา’ติฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สาทิตุํ, น ตาว ตํ คณนูปคํ ยาว น หตฺถํ คจฺฉตี’’ติฯ

    259. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘avantidakkhiṇāpatho, bhikkhave, appabhikkhuko. Anujānāmi, bhikkhave, sabbapaccantimesu janapadesu vinayadharapañcamena gaṇena upasampadaṃ. Tatrime paccantimā janapadā – puratthimāya disāya gajaṅgalaṃ 9 nāma nigamo, tassa parena mahāsālā, tato parā paccantimā janapadā, orato majjhe; puratthimadakkhiṇāya disāya sallavatī 10 nāma nadī, tato parā paccantimā janapadā, orato majjhe; dakkhiṇāya disāya setakaṇṇikaṃ nāma nigamo, tato parā paccantimā janapadā, orato majjhe; pacchimāya disāya thūṇaṃ nāma brāhmaṇagāmo, tato parā paccantimā janapadā, orato majjhe; uttarāya disāya usīraddhajo nāma pabbato, tato parā paccantimā janapadā, orato majjhe . Anujānāmi, bhikkhave, evarūpesu paccantimesu janapadesu vinayadharapañcamena gaṇena upasampadaṃ. Avantidakkhiṇāpathe, bhikkhave, kaṇhuttarā bhūmi kharā gokaṇṭakahatā. Anujānāmi, bhikkhave, sabbapaccantimesu janapadesu guṇaṅguṇūpāhanaṃ. Avantidakkhiṇāpathe, bhikkhave, nahānagarukā manussā udakasuddhikā. Anujānāmi, bhikkhave, sabbapaccantimesu janapadesu dhuvanahānaṃ. Avantidakkhiṇāpathe, bhikkhave, cammāni attharaṇāni, eḷakacammaṃ ajacammaṃ migacammaṃ. Seyyathāpi, bhikkhave, majjhimesu janapadesu eragū moragū majjārū jantū, evameva kho, bhikkhave, avantidakkhiṇāpathe cammāni attharaṇāni, eḷakacammaṃ ajacammaṃ migacammaṃ. Anujānāmi, bhikkhave, sabbapaccantimesu janapadesu cammāni attharaṇāni, eḷakacammaṃ ajacammaṃ migacammaṃ. Idha pana, bhikkhave, manussā nissīmagatānaṃ bhikkhūnaṃ cīvaraṃ denti – ‘imaṃ cīvaraṃ itthannāmassa demā’ti. Anujānāmi, bhikkhave, sādituṃ, na tāva taṃ gaṇanūpagaṃ yāva na hatthaṃ gacchatī’’ti.

    มหากจฺจานสฺส ปญฺจวรปริทสฺสนา นิฎฺฐิตาฯ

    Mahākaccānassa pañcavaraparidassanā niṭṭhitā.

    จมฺมกฺขนฺธโก ปญฺจโมฯ

    Cammakkhandhako pañcamo.







    Footnotes:
    1. มชฺฌารู (ก.)
    2. majjhārū (ka.)
    3. อเนฬคลาย (ก.)
    4. aneḷagalāya (ka.)
    5. อุทา. ๔๖ อุทาเนปิ
    6. udā. 46 udānepi
    7. กชงฺคลํ (สี. สฺยา.)
    8. สลลวตี (สี.)
    9. kajaṅgalaṃ (sī. syā.)
    10. salalavatī (sī.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / สพฺพจมฺมปฎิเกฺขปาทิกถา • Sabbacammapaṭikkhepādikathā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / โสณกุฎิกณฺณวตฺถุกถาวณฺณนา • Soṇakuṭikaṇṇavatthukathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / สพฺพจมฺมปฎิเกฺขปาทิกถาวณฺณนา • Sabbacammapaṭikkhepādikathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / คิหิวิกตานุญฺญาตาทิกถาวณฺณนา • Gihivikatānuññātādikathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๑๕๗. โสณกุฎิกณฺณวตฺถุกถา • 157. Soṇakuṭikaṇṇavatthukathā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact