Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๖. มหากจฺจานสุตฺตํ
6. Mahākaccānasuttaṃ
๒๖. ตตฺร โข อายสฺมา มหากจฺจาโน ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อาวุโส ภิกฺขเว’’ติฯ ‘‘อาวุโส’’ติ โข เต ภิกฺขู อายสฺมโต มหากจฺจานสฺส ปจฺจโสฺสสุํฯ อายสฺมา มหากจฺจาโน เอตทโวจ – ‘‘อจฺฉริยํ, อาวุโส; อพฺภุตํ, อาวุโส! ยาวญฺจิทํ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุเทฺธน สมฺพาเธ โอกาสาธิคโม อนุพุโทฺธ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ ฉ อนุสฺสติฎฺฐานานิฯ
26. Tatra kho āyasmā mahākaccāno bhikkhū āmantesi – ‘‘āvuso bhikkhave’’ti. ‘‘Āvuso’’ti kho te bhikkhū āyasmato mahākaccānassa paccassosuṃ. Āyasmā mahākaccāno etadavoca – ‘‘acchariyaṃ, āvuso; abbhutaṃ, āvuso! Yāvañcidaṃ tena bhagavatā jānatā passatā arahatā sammāsambuddhena sambādhe okāsādhigamo anubuddho sattānaṃ visuddhiyā sokaparidevānaṃ samatikkamāya dukkhadomanassānaṃ atthaṅgamāya ñāyassa adhigamāya nibbānassa sacchikiriyāya, yadidaṃ cha anussatiṭṭhānāni.
‘‘กตมานิ ฉ? อิธาวุโส, อริยสาวโก ตถาคตํ อนุสฺสรติ – ‘อิติปิ โส ภควา …เป.… สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุโทฺธ ภควา’ติฯ ยสฺมิํ, อาวุโส, สมเย อริยสาวโก ตถาคตํ อนุสฺสรติ เนวสฺส ตสฺมิํ สมเย ราคปริยุฎฺฐิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฎฺฐิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฎฺฐิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมิํ สมเย จิตฺตํ โหติ, นิกฺขนฺตํ มุตฺตํ วุฎฺฐิตํ เคธมฺหาฯ ‘เคโธ’ติ โข, อาวุโส, ปญฺจเนฺนตํ กามคุณานํ อธิวจนํฯ ส โข โส, อาวุโส, อริยสาวโก สพฺพโส อากาสสเมน เจตสา วิหรติ วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปเชฺชนฯ อิทมฺปิ โข, อาวุโส, อารมฺมณํ กริตฺวา เอวมิเธกเจฺจ สตฺตา วิสุทฺธิธมฺมา ภวนฺติฯ
‘‘Katamāni cha? Idhāvuso, ariyasāvako tathāgataṃ anussarati – ‘itipi so bhagavā …pe… satthā devamanussānaṃ buddho bhagavā’ti. Yasmiṃ, āvuso, samaye ariyasāvako tathāgataṃ anussarati nevassa tasmiṃ samaye rāgapariyuṭṭhitaṃ cittaṃ hoti, na dosapariyuṭṭhitaṃ cittaṃ hoti, na mohapariyuṭṭhitaṃ cittaṃ hoti; ujugatamevassa tasmiṃ samaye cittaṃ hoti, nikkhantaṃ muttaṃ vuṭṭhitaṃ gedhamhā. ‘Gedho’ti kho, āvuso, pañcannetaṃ kāmaguṇānaṃ adhivacanaṃ. Sa kho so, āvuso, ariyasāvako sabbaso ākāsasamena cetasā viharati vipulena mahaggatena appamāṇena averena abyāpajjena. Idampi kho, āvuso, ārammaṇaṃ karitvā evamidhekacce sattā visuddhidhammā bhavanti.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, อริยสาวโก ธมฺมํ อนุสฺสรติ – ‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธโมฺม…เป.… ปจฺจตฺตํ เวทิตโพฺพ วิญฺญูหี’ติฯ ยสฺมิํ, อาวุโส, สมเย อริยสาวโก ธมฺมํ อนุสฺสรติ เนวสฺส ตสฺมิํ สมเย ราคปริยุฎฺฐิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฎฺฐิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฎฺฐิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมิํ สมเย จิตฺตํ โหติ, นิกฺขนฺตํ มุตฺตํ วุฎฺฐิตํ เคธมฺหาฯ ‘เคโธ’ติ โข, อาวุโส, ปญฺจเนฺนตํ กามคุณานํ อธิวจนํฯ ส โข โส, อาวุโส, อริยสาวโก สพฺพโส อากาสสเมน เจตสา วิหรติ วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปเชฺชน ฯ อิทมฺปิ โข, อาวุโส, อารมฺมณํ กริตฺวา เอวมิเธกเจฺจ สตฺตา วิสุทฺธิธมฺมา ภวนฺติฯ
‘‘Puna caparaṃ, āvuso, ariyasāvako dhammaṃ anussarati – ‘svākkhāto bhagavatā dhammo…pe… paccattaṃ veditabbo viññūhī’ti. Yasmiṃ, āvuso, samaye ariyasāvako dhammaṃ anussarati nevassa tasmiṃ samaye rāgapariyuṭṭhitaṃ cittaṃ hoti, na dosapariyuṭṭhitaṃ cittaṃ hoti, na mohapariyuṭṭhitaṃ cittaṃ hoti; ujugatamevassa tasmiṃ samaye cittaṃ hoti, nikkhantaṃ muttaṃ vuṭṭhitaṃ gedhamhā. ‘Gedho’ti kho, āvuso, pañcannetaṃ kāmaguṇānaṃ adhivacanaṃ. Sa kho so, āvuso, ariyasāvako sabbaso ākāsasamena cetasā viharati vipulena mahaggatena appamāṇena averena abyāpajjena . Idampi kho, āvuso, ārammaṇaṃ karitvā evamidhekacce sattā visuddhidhammā bhavanti.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, อริยสาวโก สงฺฆํ อนุสฺสรติ – ‘สุปฺปฎิปโนฺน ภควโต สาวกสโงฺฆ…เป.… อนุตฺตรํ ปุญฺญเกฺขตฺตํ โลกสฺสา’ติฯ ยสฺมิํ, อาวุโส, สมเย อริยสาวโก สงฺฆํ อนุสฺสรติ เนวสฺส ตสฺมิํ สมเย ราคปริยุฎฺฐิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฎฺฐิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฎฺฐิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมิํ สมเย จิตฺตํ โหติ, นิกฺขนฺตํ มุตฺตํ วุฎฺฐิตํ เคธมฺหาฯ ‘เคโธ’ติ โข, อาวุโส, ปญฺจเนฺนตํ กามคุณานํ อธิวจนํฯ ส โข โส, อาวุโส, อริยสาวโก สพฺพโส อากาสสเมน เจตสา วิหรติ วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปเชฺชนฯ อิทมฺปิ โข, อาวุโส, อารมฺมณํ กริตฺวา เอวมิเธกเจฺจ สตฺตา วิสุทฺธิธมฺมา ภวนฺติฯ
‘‘Puna caparaṃ, āvuso, ariyasāvako saṅghaṃ anussarati – ‘suppaṭipanno bhagavato sāvakasaṅgho…pe… anuttaraṃ puññakkhettaṃ lokassā’ti. Yasmiṃ, āvuso, samaye ariyasāvako saṅghaṃ anussarati nevassa tasmiṃ samaye rāgapariyuṭṭhitaṃ cittaṃ hoti, na dosapariyuṭṭhitaṃ cittaṃ hoti, na mohapariyuṭṭhitaṃ cittaṃ hoti; ujugatamevassa tasmiṃ samaye cittaṃ hoti, nikkhantaṃ muttaṃ vuṭṭhitaṃ gedhamhā. ‘Gedho’ti kho, āvuso, pañcannetaṃ kāmaguṇānaṃ adhivacanaṃ. Sa kho so, āvuso, ariyasāvako sabbaso ākāsasamena cetasā viharati vipulena mahaggatena appamāṇena averena abyāpajjena. Idampi kho, āvuso, ārammaṇaṃ karitvā evamidhekacce sattā visuddhidhammā bhavanti.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, อริยสาวโก อตฺตโน สีลานิ อนุสฺสรติ อขณฺฑานิ…เป.… สมาธิสํวตฺตนิกานิฯ ยสฺมิํ, อาวุโส, สมเย อริยสาวโก อตฺตโน สีลํ อนุสฺสรติ เนวสฺส ตสฺมิํ สมเย ราคปริยุฎฺฐิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฎฺฐิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฎฺฐิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมิํ สมเย จิตฺตํ โหติ, นิกฺขนฺตํ มุตฺตํ วุฎฺฐิตํ เคธมฺหาฯ ‘เคโธ’ติ โข, อาวุโส, ปญฺจเนฺนตํ กามคุณานํ อธิวจนํฯ ส โข โส, อาวุโส, อริยสาวโก สพฺพโส อากาสสเมน เจตสา วิหรติ วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปเชฺชนฯ อิทมฺปิ โข, อาวุโส, อารมฺมณํ กริตฺวา เอวมิเธกเจฺจ สตฺตา วิสุทฺธิธมฺมา ภวนฺติฯ
‘‘Puna caparaṃ, āvuso, ariyasāvako attano sīlāni anussarati akhaṇḍāni…pe… samādhisaṃvattanikāni. Yasmiṃ, āvuso, samaye ariyasāvako attano sīlaṃ anussarati nevassa tasmiṃ samaye rāgapariyuṭṭhitaṃ cittaṃ hoti, na dosapariyuṭṭhitaṃ cittaṃ hoti, na mohapariyuṭṭhitaṃ cittaṃ hoti; ujugatamevassa tasmiṃ samaye cittaṃ hoti, nikkhantaṃ muttaṃ vuṭṭhitaṃ gedhamhā. ‘Gedho’ti kho, āvuso, pañcannetaṃ kāmaguṇānaṃ adhivacanaṃ. Sa kho so, āvuso, ariyasāvako sabbaso ākāsasamena cetasā viharati vipulena mahaggatena appamāṇena averena abyāpajjena. Idampi kho, āvuso, ārammaṇaṃ karitvā evamidhekacce sattā visuddhidhammā bhavanti.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, อริยสาวโก อตฺตโน จาคํ อนุสฺสรติ – ‘ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม…เป.… ยาจโยโค ทานสํวิภาครโต’ติฯ ยสฺมิํ, อาวุโส, สมเย อริยสาวโก อตฺตโน จาคํ อนุสฺสรติ เนวสฺส ตสฺมิํ สมเย ราคปริยุฎฺฐิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฎฺฐิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฎฺฐิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมิํ สมเย จิตฺตํ โหติ, นิกฺขนฺตํ มุตฺตํ วุฎฺฐิตํ เคธมฺหาฯ ‘เคโธ’ติ โข, อาวุโส, ปญฺจเนฺนตํ กามคุณานํ อธิวจนํฯ ส โข โส, อาวุโส, อริยสาวโก สพฺพโส อากาสสเมน เจตสา วิหรติ วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปเชฺชนฯ อิทมฺปิ โข, อาวุโส, อารมฺมณํ กริตฺวา เอวมิเธกเจฺจ สตฺตา วิสุทฺธิธมฺมา ภวนฺติฯ
‘‘Puna caparaṃ, āvuso, ariyasāvako attano cāgaṃ anussarati – ‘lābhā vata me, suladdhaṃ vata me…pe… yācayogo dānasaṃvibhāgarato’ti. Yasmiṃ, āvuso, samaye ariyasāvako attano cāgaṃ anussarati nevassa tasmiṃ samaye rāgapariyuṭṭhitaṃ cittaṃ hoti, na dosapariyuṭṭhitaṃ cittaṃ hoti, na mohapariyuṭṭhitaṃ cittaṃ hoti; ujugatamevassa tasmiṃ samaye cittaṃ hoti, nikkhantaṃ muttaṃ vuṭṭhitaṃ gedhamhā. ‘Gedho’ti kho, āvuso, pañcannetaṃ kāmaguṇānaṃ adhivacanaṃ. Sa kho so, āvuso, ariyasāvako sabbaso ākāsasamena cetasā viharati vipulena mahaggatena appamāṇena averena abyāpajjena. Idampi kho, āvuso, ārammaṇaṃ karitvā evamidhekacce sattā visuddhidhammā bhavanti.
‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, อริยสาวโก เทวตา อนุสฺสรติ – ‘สนฺติ เทวา จาตุมหาราชิกา, สนฺติ เทวา…เป.… ตตุตฺตริฯ ยถารูปาย สทฺธาย สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถ อุปปนฺนา; มยฺหมฺปิ ตถารูปา สทฺธา สํวิชฺชติ ฯ ยถารูเปน สีเลน…เป.… สุเตน… จาเคน… ปญฺญาย สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถ อุปปนฺนา; มยฺหมฺปิ ตถารูปา ปญฺญา สํวิชฺชตี’ติฯ ยสฺมิํ, อาวุโส, สมเย อริยสาวโก อตฺตโน จ ตาสญฺจ เทวตานํ สทฺธญฺจ สีลญฺจ สุตญฺจ จาคญฺจ ปญฺญญฺจ อนุสฺสรติ เนวสฺส ตสฺมิํ สมเย ราคปริยุฎฺฐิตํ จิตฺตํ โหติ , น โทสปริยุฎฺฐิตํ จิตฺตํ โหติ, น โมหปริยุฎฺฐิตํ จิตฺตํ โหติ; อุชุคตเมวสฺส ตสฺมิํ สมเย จิตฺตํ โหติ, นิกฺขนฺตํ มุตฺตํ วุฎฺฐิตํ เคธมฺหาฯ ‘เคโธ’ติ โข, อาวุโส, ปญฺจเนฺนตํ กามคุณานํ อธิวจนํฯ ส โข โส, อาวุโส, อริยสาวโก สพฺพโส อากาสสเมน เจตสา วิหรติ วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาปเชฺชนฯ อิทมฺปิ โข, อาวุโส, อารมฺมณํ กริตฺวา เอวมิเธกเจฺจ สตฺตา วิสุทฺธิธมฺมา ภวนฺติฯ
‘‘Puna caparaṃ, āvuso, ariyasāvako devatā anussarati – ‘santi devā cātumahārājikā, santi devā…pe… tatuttari. Yathārūpāya saddhāya samannāgatā tā devatā ito cutā tattha upapannā; mayhampi tathārūpā saddhā saṃvijjati . Yathārūpena sīlena…pe… sutena… cāgena… paññāya samannāgatā tā devatā ito cutā tattha upapannā; mayhampi tathārūpā paññā saṃvijjatī’ti. Yasmiṃ, āvuso, samaye ariyasāvako attano ca tāsañca devatānaṃ saddhañca sīlañca sutañca cāgañca paññañca anussarati nevassa tasmiṃ samaye rāgapariyuṭṭhitaṃ cittaṃ hoti , na dosapariyuṭṭhitaṃ cittaṃ hoti, na mohapariyuṭṭhitaṃ cittaṃ hoti; ujugatamevassa tasmiṃ samaye cittaṃ hoti, nikkhantaṃ muttaṃ vuṭṭhitaṃ gedhamhā. ‘Gedho’ti kho, āvuso, pañcannetaṃ kāmaguṇānaṃ adhivacanaṃ. Sa kho so, āvuso, ariyasāvako sabbaso ākāsasamena cetasā viharati vipulena mahaggatena appamāṇena averena abyāpajjena. Idampi kho, āvuso, ārammaṇaṃ karitvā evamidhekacce sattā visuddhidhammā bhavanti.
‘‘อจฺฉริยํ , อาวุโส; อพฺภุตํ, อาวุโส! ยาวญฺจิทํ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุเทฺธน สมฺพาเธ โอกาสาธิคโม อนุพุโทฺธ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ ฉ อนุสฺสติฎฺฐานานี’’ติฯ ฉฎฺฐํฯ
‘‘Acchariyaṃ , āvuso; abbhutaṃ, āvuso! Yāvañcidaṃ tena bhagavatā jānatā passatā arahatā sammāsambuddhena sambādhe okāsādhigamo anubuddho sattānaṃ visuddhiyā sokaparidevānaṃ samatikkamāya dukkhadomanassānaṃ atthaṅgamāya ñāyassa adhigamāya nibbānassa sacchikiriyāya, yadidaṃ cha anussatiṭṭhānānī’’ti. Chaṭṭhaṃ.
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๖. มหากจฺจานสุตฺตวณฺณนา • 6. Mahākaccānasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๖. มหากจฺจานสุตฺตวณฺณนา • 6. Mahākaccānasuttavaṇṇanā