Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๓. มหาโกฎฺฐิกสุตฺตํ
3. Mahākoṭṭhikasuttaṃ
๑๗๓. อถ โข อายสฺมา มหาโกฎฺฐิโก เยนายสฺมา สาริปุโตฺต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา สาริปุเตฺตน สทฺธิํ สโมฺมทิฯ สโมฺมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อายสฺมา มหาโกฎฺฐิโก อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ –
173. Atha kho āyasmā mahākoṭṭhiko yenāyasmā sāriputto tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmatā sāriputtena saddhiṃ sammodi. Sammodanīyaṃ kathaṃ sāraṇīyaṃ vītisāretvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho āyasmā mahākoṭṭhiko āyasmantaṃ sāriputtaṃ etadavoca –
‘‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถญฺญํ กิญฺจี’’ติ?
‘‘Channaṃ, āvuso, phassāyatanānaṃ asesavirāganirodhā atthaññaṃ kiñcī’’ti?
‘‘มา เหวํ, อาวุโส’’ฯ
‘‘Mā hevaṃ, āvuso’’.
‘‘ฉนฺนํ , อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา นตฺถญฺญํ กิญฺจี’’ติ?
‘‘Channaṃ , āvuso, phassāyatanānaṃ asesavirāganirodhā natthaññaṃ kiñcī’’ti?
‘‘มา เหวํ, อาวุโส’’ฯ
‘‘Mā hevaṃ, āvuso’’.
‘‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถิ จ นตฺถิ จ อญฺญํ กิญฺจี’’ติ?
‘‘Channaṃ, āvuso, phassāyatanānaṃ asesavirāganirodhā atthi ca natthi ca aññaṃ kiñcī’’ti?
‘‘มา เหวํ, อาวุโส’’ฯ
‘‘Mā hevaṃ, āvuso’’.
‘‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา เนวตฺถิ โน นตฺถญฺญํ กิญฺจี’’ติ?
‘‘Channaṃ, āvuso, phassāyatanānaṃ asesavirāganirodhā nevatthi no natthaññaṃ kiñcī’’ti?
‘‘มา เหวํ, อาวุโส’’ฯ
‘‘Mā hevaṃ, āvuso’’.
‘‘‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถญฺญํ กิญฺจี’ติ, อิติ ปุโฎฺฐ สมาโน ‘มา เหวํ, อาวุโส’ติ วเทสิฯ ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา นตฺถญฺญํ กิญฺจี’ติ, อิติ ปุโฎฺฐ สมาโน – ‘มา เหวํ, อาวุโส’ติ วเทสิฯ ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถิ จ นตฺถิ จ อญฺญํ กิญฺจี’ติ, อิติ ปุโฎฺฐ สมาโน – ‘มา เหวํ, อาวุโส’ติ วเทสิฯ ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา เนวตฺถิ โน นตฺถญฺญํ กิญฺจี’ติ, อิติ ปุโฎฺฐ สมาโน – ‘มา เหวํ, อาวุโส’ติ วเทสิฯ ยถา กถํ ปน, อาวุโส, อิมสฺส ภาสิตสฺส อโตฺถ ทฎฺฐโพฺพ’’ติ?
‘‘‘Channaṃ, āvuso, phassāyatanānaṃ asesavirāganirodhā atthaññaṃ kiñcī’ti, iti puṭṭho samāno ‘mā hevaṃ, āvuso’ti vadesi. ‘Channaṃ, āvuso, phassāyatanānaṃ asesavirāganirodhā natthaññaṃ kiñcī’ti, iti puṭṭho samāno – ‘mā hevaṃ, āvuso’ti vadesi. ‘Channaṃ, āvuso, phassāyatanānaṃ asesavirāganirodhā atthi ca natthi ca aññaṃ kiñcī’ti, iti puṭṭho samāno – ‘mā hevaṃ, āvuso’ti vadesi. ‘Channaṃ, āvuso, phassāyatanānaṃ asesavirāganirodhā nevatthi no natthaññaṃ kiñcī’ti, iti puṭṭho samāno – ‘mā hevaṃ, āvuso’ti vadesi. Yathā kathaṃ pana, āvuso, imassa bhāsitassa attho daṭṭhabbo’’ti?
‘‘‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถญฺญํ กิญฺจี’ติ, อิติ วทํ อปฺปปญฺจํ ปปเญฺจติฯ ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา นตฺถญฺญํ กิญฺจี’ติ, อิติ วทํ อปฺปปญฺจํ ปปเญฺจติฯ ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา อตฺถิ จ นตฺถิ จ อญฺญํ กิญฺจี’ติ, อิติ วทํ อปฺปปญฺจํ ปปเญฺจติฯ ‘ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา เนวตฺถิ โน นตฺถญฺญํ กิญฺจี’ติ, อิติ วทํ อปฺปปญฺจํ ปปเญฺจติฯ ยาวตา, อาวุโส, ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ คติ ตาวตา ปปญฺจสฺส คติ; ยาวตา ปปญฺจสฺส คติ ตาวตา ฉนฺนํ ผสฺสายตนานํ คติฯ ฉนฺนํ, อาวุโส, ผสฺสายตนานํ อเสสวิราคนิโรธา ปปญฺจนิโรโธ ปปญฺจวูปสโม’’ติฯ ตติยํฯ
‘‘‘Channaṃ, āvuso, phassāyatanānaṃ asesavirāganirodhā atthaññaṃ kiñcī’ti, iti vadaṃ appapañcaṃ papañceti. ‘Channaṃ, āvuso, phassāyatanānaṃ asesavirāganirodhā natthaññaṃ kiñcī’ti, iti vadaṃ appapañcaṃ papañceti. ‘Channaṃ, āvuso, phassāyatanānaṃ asesavirāganirodhā atthi ca natthi ca aññaṃ kiñcī’ti, iti vadaṃ appapañcaṃ papañceti. ‘Channaṃ, āvuso, phassāyatanānaṃ asesavirāganirodhā nevatthi no natthaññaṃ kiñcī’ti, iti vadaṃ appapañcaṃ papañceti. Yāvatā, āvuso, channaṃ phassāyatanānaṃ gati tāvatā papañcassa gati; yāvatā papañcassa gati tāvatā channaṃ phassāyatanānaṃ gati. Channaṃ, āvuso, phassāyatanānaṃ asesavirāganirodhā papañcanirodho papañcavūpasamo’’ti. Tatiyaṃ.
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๓. มหาโกฎฺฐิกสุตฺตวณฺณนา • 3. Mahākoṭṭhikasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๓-๔. มหาโกฎฺฐิกสุตฺตาทิวณฺณนา • 3-4. Mahākoṭṭhikasuttādivaṇṇanā