Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / กงฺขาวิตรณี-อภินว-ฎีกา • Kaṅkhāvitaraṇī-abhinava-ṭīkā |
๙. มหลฺลกวิหารสิกฺขาปทวณฺณนา
9. Mahallakavihārasikkhāpadavaṇṇanā
ปิฎฺฐสงฺฆาฎสฺสาติ ทฺวารพนฺธสฺสฯ สามนฺตา อฑฺฒเตยฺยหโตฺถ ปเทโสติ ยสฺส (ปาจิ. อฎฺฐ. ๑๓๕) เวมเชฺฌ ทฺวารํ โหติ, อุปริภาเค จ อุจฺจา ภิตฺติ, ตสฺส ตีสุ ทิสาสุ สามนฺตา อฑฺฒเตยฺยหโตฺถ ปเทโสฯ ขุทฺทกสฺส ปน วิหารสฺส ทฺวีสุ ทิสาสุฯ ตตฺราปิ ยํ ภิตฺติํ วิวริยมานํ กวาฎํ อาหนติ, สา อปริปุณฺณูปจาราปิ โหติฯ สเจ ปน ทฺวารสฺส อโธภาเคปิ เลโปกาโส อตฺถิ, ตมฺปิ ลิมฺปิตุํ วฎฺฎติฯ อคฺคฬฎฺฐปนายาติ เอตฺถ อคฺคฬสเทฺทน ตํสมฺพนฺธโต ทฺวารผลกสหิตํ ทฺวารพนฺธนํ อธิเปฺปตํฯ เตนาห ‘‘สกวาฎกสฺสา’’ติอาทิฯ ‘‘นิจฺจลภาวตฺถายา’’ติ อิมินา ตญฺจ โข ฐปนํ อิธ นิจฺจลภาเวนาติ ทเสฺสติฯ โก ปเนตฺถ อธิปฺปาโยติ อาห ‘‘กวาฎญฺหี’’ติอาทิฯ กมฺปตีติ จลติฯ ยาว ทฺวารโกสา อคฺคฬฎฺฐปนาย ปุนปฺปุนํ ลิมฺปิตโพฺพ วา เลปาเปตโพฺพ วาติ อคฺคฬฎฺฐปนตฺถาย ยาว ทฺวารโกสา ปุนปฺปุนํ อตฺตนา ลิมฺปิตโพฺพ วา, ปเรหิ เลปาเปตโพฺพ วาติ อโตฺถฯ
Piṭṭhasaṅghāṭassāti dvārabandhassa. Sāmantā aḍḍhateyyahattho padesoti yassa (pāci. aṭṭha. 135) vemajjhe dvāraṃ hoti, uparibhāge ca uccā bhitti, tassa tīsu disāsu sāmantā aḍḍhateyyahattho padeso. Khuddakassa pana vihārassa dvīsu disāsu. Tatrāpi yaṃ bhittiṃ vivariyamānaṃ kavāṭaṃ āhanati, sā aparipuṇṇūpacārāpi hoti. Sace pana dvārassa adhobhāgepi lepokāso atthi, tampi limpituṃ vaṭṭati. Aggaḷaṭṭhapanāyāti ettha aggaḷasaddena taṃsambandhato dvāraphalakasahitaṃ dvārabandhanaṃ adhippetaṃ. Tenāha ‘‘sakavāṭakassā’’tiādi. ‘‘Niccalabhāvatthāyā’’ti iminā tañca kho ṭhapanaṃ idha niccalabhāvenāti dasseti. Ko panettha adhippāyoti āha ‘‘kavāṭañhī’’tiādi. Kampatīti calati. Yāva dvārakosā aggaḷaṭṭhapanāya punappunaṃ limpitabbo vā lepāpetabbo vāti aggaḷaṭṭhapanatthāya yāva dvārakosā punappunaṃ attanā limpitabbo vā, parehi lepāpetabbo vāti attho.
นนุ จายมโตฺถ เนว มาติกายํ, น ปทภาชเน วุโตฺต, อถ กุโต ทฎฺฐโพฺพติ อาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิฯ กิญฺจาปีติ ยทิปิฯ อฎฺฐุปฺปตฺติยนฺติ สิกฺขาปทสฺส นิทาเนฯ อธิการโตติ อนุวตฺตนโตฯ อาโลกํ สเนฺธติ ปิเธตีติ อาโลกสนฺธิฯ เตนาห ‘‘อาโลกสนฺธีติ วาตปานกวาฎกา วุจฺจนฺตี’’ติฯ ตตฺถ วาตปานกวาฎกาติ วาตปานผลกาฯ อนุญฺญาตปฺปเทสโต ปน อญฺญตฺถ ปุนปฺปุนํ วิลิมฺปิตุํ วา วิลิมฺปาเปตุํ วา น วฎฺฎติฯ ‘‘มตฺติกาย กตฺตพฺพกิจฺจํ นิฎฺฐาเปตฺวา ปุน จตุตฺถเลเป ทิเนฺน ปาจิตฺติย’’นฺติ (สารตฺถ. ฎี. ปาจิตฺติย ๓.๑๓๕) เกจิฯ ‘‘ปุนปฺปุนํ เลปทานสฺส วุตฺตปฺปมาณโต อญฺญตฺถ ปฎิกฺขิตฺตมตฺตํ ฐเปตฺวา ปาจิตฺติยสฺส อวุตฺตตฺตา ทุกฺกฎ’’นฺติ อปเรฯ
Nanu cāyamattho neva mātikāyaṃ, na padabhājane vutto, atha kuto daṭṭhabboti āha ‘‘tatthā’’tiādi. Kiñcāpīti yadipi. Aṭṭhuppattiyanti sikkhāpadassa nidāne. Adhikāratoti anuvattanato. Ālokaṃ sandheti pidhetīti ālokasandhi. Tenāha ‘‘ālokasandhīti vātapānakavāṭakā vuccantī’’ti. Tattha vātapānakavāṭakāti vātapānaphalakā. Anuññātappadesato pana aññattha punappunaṃ vilimpituṃ vā vilimpāpetuṃ vā na vaṭṭati. ‘‘Mattikāya kattabbakiccaṃ niṭṭhāpetvā puna catutthalepe dinne pācittiya’’nti (sārattha. ṭī. pācittiya 3.135) keci. ‘‘Punappunaṃ lepadānassa vuttappamāṇato aññattha paṭikkhittamattaṃ ṭhapetvā pācittiyassa avuttattā dukkaṭa’’nti apare.
อธิฎฺฐาตพฺพนฺติ สํวิธาตพฺพํฯ อปฺปหริเตติ เอตฺถ อปฺปสโทฺท ‘‘อปฺปิโจฺฉ’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๕๒, ๓๓๖; สํ. นิ. ๒.๑๔๘) วิย อภาวโตฺถติ อาห ‘‘อหริเต’’ติฯ สาลิวีหิอาทิ (สารตฺถ. ฎี. ๒.๓๐) ปุพฺพณฺณํ ‘‘ปุรกฺขตํ สสฺสผล’’นฺติ กตฺวา, ตพฺพิปริยายโต มุคฺคมาสาทิ อปรณฺณํฯ วุตฺตนฺติ วปิตํฯ ‘‘ตสฺมิํ ฐตฺวา อธิฎฺฐหโนฺต ทุกฺกฎํ อาปชฺชตี’’ติ อิมินา ยสฺมิํ ปเทเส สมนฺตา วุตฺตปฺปมาเณ ปริเจฺฉเท ปุพฺพณฺณาทีนิ น สนฺติ, ตตฺถ วิหาโร กาเรตโพฺพฯ ยตฺถ ปน สนฺติ, ตตฺถ การาเปตุํ น วฎฺฎตีติ ทเสฺสติฯ ตเถวาติ มุขวฎฺฎิอเนฺตนฯ ตสฺมิํ ฐาตพฺพํ ปตนฺตสฺส วิหารสฺส อปตโนกาสตฺตา, ตสฺส ภิกฺขุโน อุปริ น ปเตยฺยาติ อธิปฺปาโยฯ ยถาปริจฺฉินฺนสฺส ปน โอกาสสฺส อพฺภนฺตรํ วิหารสฺส ปตนฺตสฺส โอกาโส โหตีติ อปฺปหริเตปิ ตสฺมิํ ฐตฺวา อธิฎฺฐาตุํ น ลภติฯ เตนาห ‘‘ตสฺส อโนฺต อหริเตปิ ฐาตุํ น ลภตี’’ติฯ
Adhiṭṭhātabbanti saṃvidhātabbaṃ. Appahariteti ettha appasaddo ‘‘appiccho’’tiādīsu (ma. ni. 1.252, 336; saṃ. ni. 2.148) viya abhāvatthoti āha ‘‘aharite’’ti. Sālivīhiādi (sārattha. ṭī. 2.30) pubbaṇṇaṃ ‘‘purakkhataṃ sassaphala’’nti katvā, tabbipariyāyato muggamāsādi aparaṇṇaṃ. Vuttanti vapitaṃ. ‘‘Tasmiṃ ṭhatvā adhiṭṭhahanto dukkaṭaṃ āpajjatī’’ti iminā yasmiṃ padese samantā vuttappamāṇe paricchede pubbaṇṇādīni na santi, tattha vihāro kāretabbo. Yattha pana santi, tattha kārāpetuṃ na vaṭṭatīti dasseti. Tathevāti mukhavaṭṭiantena. Tasmiṃ ṭhātabbaṃ patantassa vihārassa apatanokāsattā, tassa bhikkhuno upari na pateyyāti adhippāyo. Yathāparicchinnassa pana okāsassa abbhantaraṃ vihārassa patantassa okāso hotīti appaharitepi tasmiṃ ṭhatvā adhiṭṭhātuṃ na labhati. Tenāha ‘‘tassa anto aharitepi ṭhātuṃ na labhatī’’ti.
ตโต เจ อุตฺตรีติ ติณฺณํ มคฺคานํ วา ปริยายานํ วา อุปริ จตุเตฺถ มเคฺค วา ปริยาเย วาติ อโตฺถฯ เตนาห ‘‘มเคฺคน ฉาทิยมาเน’’ติอาทิฯ ตตฺถ มเคฺคน ฉาทิยมาเนติ อปริกฺขิปิตฺวา อุชุกเมว ฉาทิยมาเนฯ ปริยาเยนาติ ปริเกฺขเปนฯ ตตฺถ มเคฺคน ฉาทนํ อิฎฺฐกสิลาสุธาหิ ลพฺภติ, ปริยาเยน ฉาทนํ ติณปเณฺณหีติ อาห ‘‘อิฎฺฐกสิลาสุธาหี’’ติอาทิฯ ตสฺมา ยถา อิจฺฉติ, ตถา เทฺว มเคฺค วา เทฺว ปริยาเย วา อธิฎฺฐหิตฺวา ตติยํ มคฺคํ วา ปริยายํ วา ‘‘เอวํ ฉาเทหี’’ติ อาณาเปตฺวา ปกฺกมิตพฺพํฯ สเจ น ปกฺกมติ, ตุณฺหีภาเวน ฐาตพฺพํฯ สพฺพมฺปิ เจตํ ฉทนํ ฉทนูปริ เวทิตพฺพํฯ อุปรูปริฉโนฺน หิ วิหาโร จิรํ อโนวสฺสโก โหตีติ มญฺญมานา เอวํ ฉาเทนฺติฯ ติณมุฎฺฐิคณนายาติ ติณกรฬคณนายฯ
Tato ce uttarīti tiṇṇaṃ maggānaṃ vā pariyāyānaṃ vā upari catutthe magge vā pariyāye vāti attho. Tenāha ‘‘maggena chādiyamāne’’tiādi. Tattha maggena chādiyamāneti aparikkhipitvā ujukameva chādiyamāne. Pariyāyenāti parikkhepena. Tattha maggena chādanaṃ iṭṭhakasilāsudhāhi labbhati, pariyāyena chādanaṃ tiṇapaṇṇehīti āha ‘‘iṭṭhakasilāsudhāhī’’tiādi. Tasmā yathā icchati, tathā dve magge vā dve pariyāye vā adhiṭṭhahitvā tatiyaṃ maggaṃ vā pariyāyaṃ vā ‘‘evaṃ chādehī’’ti āṇāpetvā pakkamitabbaṃ. Sace na pakkamati, tuṇhībhāvena ṭhātabbaṃ. Sabbampi cetaṃ chadanaṃ chadanūpari veditabbaṃ. Uparūparichanno hi vihāro ciraṃ anovassako hotīti maññamānā evaṃ chādenti. Tiṇamuṭṭhigaṇanāyāti tiṇakaraḷagaṇanāya.
ติกปาจิตฺติยนฺติ อติเรกทฺวตฺติปริยาเย อติเรกสญฺญิเวมติกอูนกสญฺญีนํ วเสน ตีณิ ปาจิตฺติยานิฯ เสตวณฺณาทิกรเณติ เสตวณฺณกาฬวณฺณเครุกปริกมฺมมาลากมฺมลตากมฺมมกรทนฺตกปญฺจปฎิกานํ กรเณฯ เลณคุหาติณกุฎิกาทีสูติ เอตฺถ เลณนฺติ ทฺวารพทฺธํฯ คุหาติ เกวลา ปพฺพตคุหาฯ ติณกุฎิกา ปากฎา เอวฯ
Tikapācittiyanti atirekadvattipariyāye atirekasaññivematikaūnakasaññīnaṃ vasena tīṇi pācittiyāni. Setavaṇṇādikaraṇeti setavaṇṇakāḷavaṇṇagerukaparikammamālākammalatākammamakaradantakapañcapaṭikānaṃ karaṇe. Leṇaguhātiṇakuṭikādīsūti ettha leṇanti dvārabaddhaṃ. Guhāti kevalā pabbataguhā. Tiṇakuṭikā pākaṭā eva.
มหลฺลกวิหารสิกฺขาปทวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Mahallakavihārasikkhāpadavaṇṇanā niṭṭhitā.