Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวิภงฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvibhaṅga-aṭṭhakathā

    มหาโมคฺคลฺลานสฺสสีหนาทกถา

    Mahāmoggallānassasīhanādakathā

    ๑๗. อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโนติอาทีสุ อายสฺมาติ ปิยวจนเมตํ, ครุคารวสปฺปติสฺสาธิวจนเมตํฯ มหาโมคฺคลฺลาโนติ มหา จ โส คุณมหนฺตตาย โมคฺคลฺลาโน จ โคเตฺตนาติ มหาโมคฺคลฺลาโนฯ เอตทโวจาติ เอตํ อโวจฯ อิทานิ วตฺตพฺพํ ‘‘เอตรหิ ภเนฺต’’ติอาทิวจนํ ทเสฺสติฯ กสฺมา อโวจ? เถโร กิร ปพฺพชิตฺวา สตฺตเม ทิวเส สาวกปารมิญาณสฺส มตฺถกํ ปโตฺต, สตฺถาราปิ มหิทฺธิกตาย เอตทเคฺค ฐปิโตฯ โส ตํ อตฺตโน มหิทฺธิกตํ นิสฺสาย จิเนฺตสิ – ‘‘อยํ เวรญฺชา ทุพฺภิกฺขา, ภิกฺขู จ กิลมนฺติ, ยํนูนาหํ ปถวิํ ปริวเตฺตตฺวา ภิกฺขู ปปฺปฎโกชํ โภเชยฺย’’นฺติฯ อถสฺส เอตทโหสิ – ‘‘สเจ ปนาหํ ภควโต สนฺติเก วิหรโนฺต ภควนฺตํ อยาจิตฺวา เอวํ กเรยฺยํ, น เมตํ อสฺส ปติรูปํ; ยุคคฺคาโห วิย ภควตา สทฺธิํ กโต ภเวยฺยา’’ติฯ ตสฺมา ยาจิตุกาโม อาคนฺตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจฯ

    17.Atha kho āyasmā mahāmoggallānotiādīsu āyasmāti piyavacanametaṃ, garugāravasappatissādhivacanametaṃ. Mahāmoggallānoti mahā ca so guṇamahantatāya moggallāno ca gottenāti mahāmoggallāno. Etadavocāti etaṃ avoca. Idāni vattabbaṃ ‘‘etarahi bhante’’tiādivacanaṃ dasseti. Kasmā avoca? Thero kira pabbajitvā sattame divase sāvakapāramiñāṇassa matthakaṃ patto, satthārāpi mahiddhikatāya etadagge ṭhapito. So taṃ attano mahiddhikataṃ nissāya cintesi – ‘‘ayaṃ verañjā dubbhikkhā, bhikkhū ca kilamanti, yaṃnūnāhaṃ pathaviṃ parivattetvā bhikkhū pappaṭakojaṃ bhojeyya’’nti. Athassa etadahosi – ‘‘sace panāhaṃ bhagavato santike viharanto bhagavantaṃ ayācitvā evaṃ kareyyaṃ, na metaṃ assa patirūpaṃ; yugaggāho viya bhagavatā saddhiṃ kato bhaveyyā’’ti. Tasmā yācitukāmo āgantvā bhagavantaṃ etadavoca.

    เหฎฺฐิมตลํ สมฺปนฺนนฺติ ปถวิยา กิร เหฎฺฐิมตเล ปถวิมโณฺฑ ปถโวโช ปถวิ-ปปฺปฎโก อตฺถิ, ตํ สนฺธาย วทติฯ ตตฺถ สมฺปนฺนนฺติ มธุรํ, สาทุรสนฺติ อโตฺถฯ ยเถว หิ ‘‘ตตฺรสฺส รุโกฺข สมฺปนฺนผโล จ อุปปนฺนผโล จา’’ติ (ม. นิ. ๒.๔๘) เอตฺถ มธุรผโลติ อโตฺถ; เอวมิธาปิ สมฺปนฺนนฺติ มธุรํ สาทุรสนฺติ เวทิตพฺพํฯ เสยฺยถาปิ ขุทฺทมธุํ อนีฬกนฺติ อิทํ ปนสฺส มธุรตาย โอปมฺมนิทสฺสนตฺถํ วุตฺตํฯ ขุทฺทมธุนฺติ ขุทฺทกมกฺขิกาหิ กตมธุฯ อนีฬกนฺติ นิมฺมกฺขิกํ นิมฺมกฺขิกณฺฑกํ ปริสุทฺธํฯ เอตํ กิร มธุ สพฺพมธูหิ อคฺคญฺจ เสฎฺฐญฺจ สุรสญฺจ โอชวนฺตญฺจฯ เตนาห – ‘‘เสยฺยถาปิ ขุทฺทมธุํ อนีฬกํ เอวมสฺสาท’’นฺติฯ

    Heṭṭhimatalaṃ sampannanti pathaviyā kira heṭṭhimatale pathavimaṇḍo pathavojo pathavi-pappaṭako atthi, taṃ sandhāya vadati. Tattha sampannanti madhuraṃ, sādurasanti attho. Yatheva hi ‘‘tatrassa rukkho sampannaphalo ca upapannaphalo cā’’ti (ma. ni. 2.48) ettha madhuraphaloti attho; evamidhāpi sampannanti madhuraṃ sādurasanti veditabbaṃ. Seyyathāpi khuddamadhuṃ anīḷakanti idaṃ panassa madhuratāya opammanidassanatthaṃ vuttaṃ. Khuddamadhunti khuddakamakkhikāhi katamadhu. Anīḷakanti nimmakkhikaṃ nimmakkhikaṇḍakaṃ parisuddhaṃ. Etaṃ kira madhu sabbamadhūhi aggañca seṭṭhañca surasañca ojavantañca. Tenāha – ‘‘seyyathāpi khuddamadhuṃ anīḷakaṃ evamassāda’’nti.

    สาธาหํ , ภเนฺตติ สาธุ อหํ, ภเนฺตฯ เอตฺถ สาธูติ อายาจนวจนเมตํฯ ปถวิปริวตฺตนํ อายาจโนฺต หิ เถโร ภควนฺตํ เอวมาหฯ ปริวเตฺตยฺยนฺติ อุกฺกุเชฺชยฺยํ, เหฎฺฐิมตลํ อุปริมํ กเรยฺยํฯ กสฺมา? เอวญฺหิ กเต สุเขน ภิกฺขู ปปฺปฎโกชํ ปถวิมณฺฑํ ปริภุญฺชิสฺสนฺตีติฯ อถ ภควา อนนุญฺญาตุกาโมปิ เถรํ สีหนาทํ นทาเปตุํ ปุจฺฉิ – ‘‘เย ปน เต, โมคฺคลฺลาน, ปถวินิสฺสิตา ปาณา เต กถํ กริสฺสสี’’ติฯ เย ปถวินิสฺสิตา คามนิคมาทีสุ ปาณา, เต ปถวิยา ปริวตฺติยมานาย อากาเส สณฺฐาตุํ อสโกฺกเนฺต กถํ กริสฺสสิ, กตฺถ ฐเปสฺสสีติ? อถ เถโร ภควตา เอตทเคฺค ฐปิตภาวานุรูปํ อตฺตโน อิทฺธานุภาวํ ปกาเสโนฺต ‘‘เอกาหํ, ภเนฺต’’ติอาทิมาหฯ ตสฺสโตฺถ – เอกํ อหํ ภเนฺต หตฺถํ ยถา อยํ มหาปถวี เอวํ อภินิมฺมินิสฺสามิ, ปถวิสทิสํ กริสฺสามิฯ เอวํ กตฺวา เย ปถวินิสฺสิตา ปาณา เต เอกสฺมิํ หตฺถตเล ฐิเต ปาเณ ตโต ทุติยหตฺถตเล สงฺกาเมโนฺต วิย ตตฺถ สงฺกาเมสฺสามีติฯ

    Sādhāhaṃ, bhanteti sādhu ahaṃ, bhante. Ettha sādhūti āyācanavacanametaṃ. Pathaviparivattanaṃ āyācanto hi thero bhagavantaṃ evamāha. Parivatteyyanti ukkujjeyyaṃ, heṭṭhimatalaṃ uparimaṃ kareyyaṃ. Kasmā? Evañhi kate sukhena bhikkhū pappaṭakojaṃ pathavimaṇḍaṃ paribhuñjissantīti. Atha bhagavā ananuññātukāmopi theraṃ sīhanādaṃ nadāpetuṃ pucchi – ‘‘ye pana te, moggallāna, pathavinissitā pāṇā te kathaṃ karissasī’’ti. Ye pathavinissitā gāmanigamādīsu pāṇā, te pathaviyā parivattiyamānāya ākāse saṇṭhātuṃ asakkonte kathaṃ karissasi, kattha ṭhapessasīti? Atha thero bhagavatā etadagge ṭhapitabhāvānurūpaṃ attano iddhānubhāvaṃ pakāsento ‘‘ekāhaṃ, bhante’’tiādimāha. Tassattho – ekaṃ ahaṃ bhante hatthaṃ yathā ayaṃ mahāpathavī evaṃ abhinimminissāmi, pathavisadisaṃ karissāmi. Evaṃ katvā ye pathavinissitā pāṇā te ekasmiṃ hatthatale ṭhite pāṇe tato dutiyahatthatale saṅkāmento viya tattha saṅkāmessāmīti.

    อถสฺส ภควา อายาจนํ ปฎิกฺขิปโนฺต ‘‘อลํ โมคฺคลฺลานา’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ อลนฺติ ปฎิเกฺขปวจนํฯ วิปลฺลาสมฺปิ สตฺตา ปฎิลเภยฺยุนฺติ วิปรีตคฺคาหมฺปิ สตฺตา สมฺปาปุเณยฺยุํฯ กถํ? อยํ นุ โข ปถวี , อุทาหุ น อยนฺติฯ อถ วา อมฺหากํ นุ โข อยํ คาโม, อุทาหุ อเญฺญส’’นฺติฯ เอวํ นิคมชนปทเขตฺตารามาทีสุฯ น วา เอส วิปลฺลาโส, อจิเนฺตโยฺย หิ อิทฺธิมโต อิทฺธิวิสโยฯ เอวํ ปน วิปลฺลาสํ ปฎิลเภยฺยุํ – อิทํ ทุพฺภิกฺขํ นาม น อิทานิเยว โหติ, อนาคเตปิ ภวิสฺสติฯ ตทา ภิกฺขู ตาทิสํ อิทฺธิมนฺตํ สพฺรหฺมจาริํ กุโต ลภิสฺสนฺติ? เต โสตาปนฺน-สกทาคามิ-อนาคามิ-สุกฺขวิปสฺสก-ฌานลาภิ-ปฎิสมฺภิทาปฺปตฺตขีณาสวาปิ สมานา อิทฺธิพลาภาวา ปรกุลานิ ปิณฺฑาย อุปสงฺกมิสฺสนฺติฯ ตตฺร มนุสฺสานํ เอวํ ภวิสฺสติ – ‘‘พุทฺธกาเล ภิกฺขู สิกฺขาสุ ปริปูรการิโน อเหสุํฯ เต คุเณ นิพฺพเตฺตตฺวา ทุพฺภิกฺขกาเล ปถวิํ ปริวเตฺตตฺวา ปปฺปฎโกชํ ปริภุญฺชิํสุฯ อิทานิ ปน สิกฺขาย ปริปูรการิโน นตฺถิฯ ยทิ สิยุํ, ตเถว กเรยฺยุํฯ น อมฺหากํ ยํ กิญฺจิ ปกฺกํ วา อามํ วา ขาทิตุํ ทเทยฺยุ’’นฺติฯ เอวํ เตสุเยว อริยปุคฺคเลสุ ‘‘นตฺถิ อริยปุคฺคลา’’ติ อิมํ วิปลฺลาสํ ปฎิลเภยฺยุํฯ วิปลฺลาสวเสน จ อริเย ครหนฺตา อุปวทนฺตา อปายุปคา ภเวยฺยุํฯ ตสฺมา มา เต รุจฺจิ ปถวิํ ปริวเตฺตตุนฺติฯ

    Athassa bhagavā āyācanaṃ paṭikkhipanto ‘‘alaṃ moggallānā’’tiādimāha. Tattha alanti paṭikkhepavacanaṃ. Vipallāsampi sattā paṭilabheyyunti viparītaggāhampi sattā sampāpuṇeyyuṃ. Kathaṃ? Ayaṃ nu kho pathavī , udāhu na ayanti. Atha vā amhākaṃ nu kho ayaṃ gāmo, udāhu aññesa’’nti. Evaṃ nigamajanapadakhettārāmādīsu. Na vā esa vipallāso, acinteyyo hi iddhimato iddhivisayo. Evaṃ pana vipallāsaṃ paṭilabheyyuṃ – idaṃ dubbhikkhaṃ nāma na idāniyeva hoti, anāgatepi bhavissati. Tadā bhikkhū tādisaṃ iddhimantaṃ sabrahmacāriṃ kuto labhissanti? Te sotāpanna-sakadāgāmi-anāgāmi-sukkhavipassaka-jhānalābhi-paṭisambhidāppattakhīṇāsavāpi samānā iddhibalābhāvā parakulāni piṇḍāya upasaṅkamissanti. Tatra manussānaṃ evaṃ bhavissati – ‘‘buddhakāle bhikkhū sikkhāsu paripūrakārino ahesuṃ. Te guṇe nibbattetvā dubbhikkhakāle pathaviṃ parivattetvā pappaṭakojaṃ paribhuñjiṃsu. Idāni pana sikkhāya paripūrakārino natthi. Yadi siyuṃ, tatheva kareyyuṃ. Na amhākaṃ yaṃ kiñci pakkaṃ vā āmaṃ vā khādituṃ dadeyyu’’nti. Evaṃ tesuyeva ariyapuggalesu ‘‘natthi ariyapuggalā’’ti imaṃ vipallāsaṃ paṭilabheyyuṃ. Vipallāsavasena ca ariye garahantā upavadantā apāyupagā bhaveyyuṃ. Tasmā mā te rucci pathaviṃ parivattetunti.

    อถ เถโร อิมํ ยาจนํ อลภมาโน อญฺญํ ยาจโนฺต ‘‘สาธุ, ภเนฺต’’ติอาทิมาหฯ ตมฺปิสฺส ภควา ปฎิกฺขิปโนฺต ‘‘อลํ โมคฺคลฺลานา’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ กิญฺจาปิ น วุตฺตํ ‘‘วิปลฺลาสมฺปิ สตฺตา ปฎิลเภยฺยุ’’นฺติ, อถ โข ปุเพฺพ วุตฺตนเยเนว คเหตพฺพํ; อโตฺถปิ จสฺส วุตฺตสทิสเมว เวทิตโพฺพฯ ยทิ ปน ภควา อนุชาเนยฺย, เถโร กิํ กเรยฺยาติ? มหาสมุทฺทํ เอเกน ปทวีติหาเรน อติกฺกมิตพฺพํ มาติกามตฺตํ อธิฎฺฐหิตฺวา นเฬรุปุจิมนฺทโต อุตฺตรกุรุอภิมุขํ มคฺคํ นีหริตฺวา อุตฺตรกุรุํ คมนาคมนสมฺปเนฺน ฐาเน กตฺวา ทเสฺสยฺย, ยถา ภิกฺขู โคจรคามํ วิย ยถาสุขํ ปิณฺฑาย ปวิสิตฺวา นิกฺขเมยฺยุนฺติฯ

    Atha thero imaṃ yācanaṃ alabhamāno aññaṃ yācanto ‘‘sādhu, bhante’’tiādimāha. Tampissa bhagavā paṭikkhipanto ‘‘alaṃmoggallānā’’tiādimāha. Tattha kiñcāpi na vuttaṃ ‘‘vipallāsampi sattā paṭilabheyyu’’nti, atha kho pubbe vuttanayeneva gahetabbaṃ; atthopi cassa vuttasadisameva veditabbo. Yadi pana bhagavā anujāneyya, thero kiṃ kareyyāti? Mahāsamuddaṃ ekena padavītihārena atikkamitabbaṃ mātikāmattaṃ adhiṭṭhahitvā naḷerupucimandato uttarakuruabhimukhaṃ maggaṃ nīharitvā uttarakuruṃ gamanāgamanasampanne ṭhāne katvā dasseyya, yathā bhikkhū gocaragāmaṃ viya yathāsukhaṃ piṇḍāya pavisitvā nikkhameyyunti.

    นิฎฺฐิตา มหาโมคฺคลฺลานสฺส สีหนาทกถาฯ

    Niṭṭhitā mahāmoggallānassa sīhanādakathā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวิภงฺค • Mahāvibhaṅga / เวรญฺชกณฺฑํ • Verañjakaṇḍaṃ

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / มหาโมคฺคลฺลานสฺส สีหนาทกถา • Mahāmoggallānassa sīhanādakathā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / อุปาสกตฺตปฎิเวทนากถาวณฺณนา • Upāsakattapaṭivedanākathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / อุปาสกตฺตปฎิเวทนากถาวณฺณนา • Upāsakattapaṭivedanākathāvaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact