Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อุทาน-อฎฺฐกถา • Udāna-aṭṭhakathā |
๕. มหาโมคฺคลฺลานสุตฺตวณฺณนา
5. Mahāmoggallānasuttavaṇṇanā
๒๕. ปญฺจเม กายคตาย สติยาติ กายานุปสฺสนาวเสน กาเย คตาย กายารมฺมณาย สติยา, อิตฺถมฺภูตลกฺขเณ อิทํ กรณวจนํ ฯ อชฺฌตฺตนฺติ อิธ อชฺฌตฺตํ นาม นิยกชฺฌตฺตํ, ตสฺมา อตฺตนิ อตฺตสนฺตาเนติ อโตฺถฯ อถ วา ยสฺมา กมฺมฎฺฐานภูโต เกสาทิโก ทฺวตฺติํสโกฎฺฐาสสมุทาโย อิธ กาโยติ อธิเปฺปโต, ตสฺมา อชฺฌตฺตนฺติ ปทสฺส โคจรชฺฌตฺตนฺติ อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ สูปฎฺฐิตายาติ นิยกชฺฌตฺตภูเต โคจรชฺฌตฺตภูเต วา กาเย สุฎฺฐุ อุปฎฺฐิตายฯ กา ปนายํ สติ, ยา ‘‘อชฺฌตฺตํ สูปฎฺฐิตา’’ติ วุตฺตา? ยฺวายํ ภควตา ‘‘อตฺถิ อิมสฺมิํ กาเย เกสา โลมา’’ติอาทินา (ที. นิ. ๒.๓๗๗; ม. นิ. ๑.๑๑๐; ขุ. ปา. ๓.ทฺวตฺติํสาการ) อชฺฌตฺตเกสาทิโก ทฺวตฺติํสากาโร กาโย วุโตฺต, ตตฺถ ยา ปฎิกูลมนสิการํ ปวเตฺตนฺตสฺส อุปจารปฺปนาวเสน กาเย อุปฎฺฐิตา สติ, สา ‘‘กายคตา สตี’’ติ วุจฺจติฯ ยถา จายํ, เอวํ อานาปานจตุอิริยาปถสติสมฺปชญฺญานํ วเสน อุทฺธุมาตกวินีลกาทิวเสน จ มนสิการํ ปวเตฺตนฺตสฺส ยถารหํ อุปจารปฺปนาวเสน กาเย อุปฎฺฐิตา สติ ‘‘กายคตา สตี’’ติ วุจฺจติฯ อิธ ปน อชฺฌตฺตํ กายคตา สติ ปถวีอาทิกา จตโสฺส ธาตุโย สสมฺภารสเงฺขปาทีสุ จตูสุ เยน เกนจิ เอเกนากาเรน ววตฺถเปตฺวา เตสํ อนิจฺจาทิลกฺขณสลฺลกฺขณวเสน อุปฎฺฐิตา วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา สติ ‘‘กายคตา สตี’’ติ อธิเปฺปตาฯ เถโร ปน ตถา วิปสฺสิตฺวา อตฺตโน ผลสมาปตฺติเมว สมาปชฺชิตฺวา นิสีทิฯ อิธาปิ คาถาย เอวํ อิมสฺส อตฺถสฺส วิญฺญาตพฺพตา ‘‘น จายํ นิสชฺชา’’ติอาทินา วุตฺตนยานุสาเรน โยเชตพฺพาฯ
25. Pañcame kāyagatāya satiyāti kāyānupassanāvasena kāye gatāya kāyārammaṇāya satiyā, itthambhūtalakkhaṇe idaṃ karaṇavacanaṃ . Ajjhattanti idha ajjhattaṃ nāma niyakajjhattaṃ, tasmā attani attasantāneti attho. Atha vā yasmā kammaṭṭhānabhūto kesādiko dvattiṃsakoṭṭhāsasamudāyo idha kāyoti adhippeto, tasmā ajjhattanti padassa gocarajjhattanti attho veditabbo. Sūpaṭṭhitāyāti niyakajjhattabhūte gocarajjhattabhūte vā kāye suṭṭhu upaṭṭhitāya. Kā panāyaṃ sati, yā ‘‘ajjhattaṃ sūpaṭṭhitā’’ti vuttā? Yvāyaṃ bhagavatā ‘‘atthi imasmiṃ kāye kesā lomā’’tiādinā (dī. ni. 2.377; ma. ni. 1.110; khu. pā. 3.dvattiṃsākāra) ajjhattakesādiko dvattiṃsākāro kāyo vutto, tattha yā paṭikūlamanasikāraṃ pavattentassa upacārappanāvasena kāye upaṭṭhitā sati, sā ‘‘kāyagatā satī’’ti vuccati. Yathā cāyaṃ, evaṃ ānāpānacatuiriyāpathasatisampajaññānaṃ vasena uddhumātakavinīlakādivasena ca manasikāraṃ pavattentassa yathārahaṃ upacārappanāvasena kāye upaṭṭhitā sati ‘‘kāyagatā satī’’ti vuccati. Idha pana ajjhattaṃ kāyagatā sati pathavīādikā catasso dhātuyo sasambhārasaṅkhepādīsu catūsu yena kenaci ekenākārena vavatthapetvā tesaṃ aniccādilakkhaṇasallakkhaṇavasena upaṭṭhitā vipassanāsampayuttā sati ‘‘kāyagatā satī’’ti adhippetā. Thero pana tathā vipassitvā attano phalasamāpattimeva samāpajjitvā nisīdi. Idhāpi gāthāya evaṃ imassa atthassa viññātabbatā ‘‘na cāyaṃ nisajjā’’tiādinā vuttanayānusārena yojetabbā.
เอตมตฺถนฺติ เอตํ เถรสฺส จตุธาตุววตฺถานมุเขน กายานุปสฺสนาสติปฎฺฐาเนน วิปสฺสนํ โอคาเหตฺวา ผลสมาปตฺติสมาปชฺชนสงฺขาตํ อตฺถํ วิทิตฺวาฯ อิมํ อุทานนฺติ อิมํ สติปฎฺฐานภาวนาย นิพฺพานาธิคมทีปกํ อุทานํ อุทาเนสิฯ
Etamatthanti etaṃ therassa catudhātuvavatthānamukhena kāyānupassanāsatipaṭṭhānena vipassanaṃ ogāhetvā phalasamāpattisamāpajjanasaṅkhātaṃ atthaṃ viditvā. Imaṃ udānanti imaṃ satipaṭṭhānabhāvanāya nibbānādhigamadīpakaṃ udānaṃ udānesi.
ตตฺถ สติ กายคตา อุปฎฺฐิตาติ ปุเพฺพ วุตฺตลกฺขณา สติ สทฺธาปุพฺพงฺคมานํ สมาธิวีริยปญฺญานํ ยถาสกํ กิจฺจนิปฺผาทเนน สหายภาวํ อาปนฺนตฺตา ปหีนปฺปฎิปกฺขา ตโต เอว ติกฺขวิสทภูตา จ ยถาวุตฺตกายสํวรณวเสน เอกตฺถสโมสรณวเสน จ อวิปรีตสภาวํ สลฺลเกฺขนฺตี อุปคนฺตฺวา ฐิตา โหติ, เอเตน กายสงฺขาตานํ จตุนฺนํ ธาตูนํ ตนฺนิสฺสิตานญฺจ อุปาทารูปานํ สลฺลกฺขณวเสน, ปจฺจเย ววตฺถเปตฺวา ตโต ปรํ เตสํ อนิจฺจาทิลกฺขณสลฺลกฺขณวเสน จ ปวตฺตํ ญาณปรมฺปราคตํ สติํ ทเสฺสติ, สติสีเสน วา ตํสมฺปยุตฺตํ ปริญฺญาตฺตยปริยาปนฺนญาณปรมฺปรเมว ทเสฺสติฯ ฉสุ ผสฺสายตเนสุ สํวุโตติ ยถาวุตฺตาย กาเย อุปฎฺฐิตาย สติยา สมนฺนาคโต จกฺขาทีสุ ผสฺสสฺส การณภูเตสุ ฉสุ ทฺวาเรสุ กายานุปสฺสนาย อภาวิตาย อุปฺปชฺชนารหานํ อภิชฺฌาทีนํ ตสฺสา ภาวิตตฺตา ญาณปฺปวตฺติํ ปฎิเวเธโนฺต เต ปิทหโนฺต ‘‘ตตฺถ สํวุโต’’ติ วุจฺจติ, เอเตน ญาณสํวรํ ทเสฺสติฯ
Tattha sati kāyagatā upaṭṭhitāti pubbe vuttalakkhaṇā sati saddhāpubbaṅgamānaṃ samādhivīriyapaññānaṃ yathāsakaṃ kiccanipphādanena sahāyabhāvaṃ āpannattā pahīnappaṭipakkhā tato eva tikkhavisadabhūtā ca yathāvuttakāyasaṃvaraṇavasena ekatthasamosaraṇavasena ca aviparītasabhāvaṃ sallakkhentī upagantvā ṭhitā hoti, etena kāyasaṅkhātānaṃ catunnaṃ dhātūnaṃ tannissitānañca upādārūpānaṃ sallakkhaṇavasena, paccaye vavatthapetvā tato paraṃ tesaṃ aniccādilakkhaṇasallakkhaṇavasena ca pavattaṃ ñāṇaparamparāgataṃ satiṃ dasseti, satisīsena vā taṃsampayuttaṃ pariññāttayapariyāpannañāṇaparamparameva dasseti. Chasu phassāyatanesu saṃvutoti yathāvuttāya kāye upaṭṭhitāya satiyā samannāgato cakkhādīsu phassassa kāraṇabhūtesu chasu dvāresu kāyānupassanāya abhāvitāya uppajjanārahānaṃ abhijjhādīnaṃ tassā bhāvitattā ñāṇappavattiṃ paṭivedhento te pidahanto ‘‘tattha saṃvuto’’ti vuccati, etena ñāṇasaṃvaraṃ dasseti.
สตตํ ภิกฺขุ สมาหิโตติ โส ภิกฺขุ เอวํ อุปฎฺฐิตสฺสติ สพฺพตฺถ จ สํวุโต ปุถุตฺตารมฺมเณ จิตฺตํ อวิสฺสเชฺชตฺวา อนิจฺจาทิวเสน สมฺมสโนฺต วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา ญาเณ ติเกฺข สูเร วหเนฺต วิปสฺสนาสมาธินา ตาว สตตํ นิรนฺตรํ สมาหิโต อนุโลมญาณานนฺตรํ โคตฺรภุญาโณทยโต ปฎฺฐายฯ ชญฺญา นิพฺพานมตฺตโนติ อเญฺญสํ ปุถุชฺชนานํ สุปินเนฺตปิ อโคจรภาวโต, อริยานํ ปน ตสฺส ตเสฺสว อาเวณิกตฺตา อตฺตสทิสตฺตา จ ‘‘อตฺตา’’ติ ลทฺธโวหารสฺส มคฺคผลญาณสฺส สาติสยวิสยภาวโต เอกนฺตสุขาวหํ นิพฺพานํ อสงฺขตธาตุ ‘‘อตฺตโน’’ติ วุตฺตํ, ตํ นิพฺพานํ ชญฺญา ชาเนยฺย, มคฺคผลญาเณหิ ปฎิวิเชฺฌยฺย, สจฺฉิกเรยฺยาติ อโตฺถฯ เอเตน อริยานํ นิพฺพาเน อธิมุตฺตตํ ทเสฺสติฯ อริยา หิ อธิจิตฺตปฺปวตฺติกาเลปิ เอกเนฺตเนว นิพฺพาเน นินฺนโปณปพฺภารภาเวน วิหรนฺติฯ เอตฺถ จ ยสฺส สติ กายคตา อุปฎฺฐิตา, โส ภิกฺขุ ฉสุ ผสฺสายตเนสุ สํวุโต, ตโต เอว สตตํ สมาหิโต อตฺตปจฺจกฺขกรเณน นิพฺพานํ อตฺตโน ชาเนยฺยาติ เอวํ คาถาปทานํ สมฺพโนฺธ เวทิตโพฺพฯ เอวํ กายานุปสฺสนาสติปฎฺฐานมุเขน ยาว อรหตฺตา เอกสฺส ภิกฺขุโน นิยฺยานมคฺคํ ทเสฺสติ ธมฺมราชาฯ
Satataṃ bhikkhu samāhitoti so bhikkhu evaṃ upaṭṭhitassati sabbattha ca saṃvuto puthuttārammaṇe cittaṃ avissajjetvā aniccādivasena sammasanto vipassanaṃ ussukkāpetvā ñāṇe tikkhe sūre vahante vipassanāsamādhinā tāva satataṃ nirantaraṃ samāhito anulomañāṇānantaraṃ gotrabhuñāṇodayato paṭṭhāya. Jaññā nibbānamattanoti aññesaṃ puthujjanānaṃ supinantepi agocarabhāvato, ariyānaṃ pana tassa tasseva āveṇikattā attasadisattā ca ‘‘attā’’ti laddhavohārassa maggaphalañāṇassa sātisayavisayabhāvato ekantasukhāvahaṃ nibbānaṃ asaṅkhatadhātu ‘‘attano’’ti vuttaṃ, taṃ nibbānaṃ jaññā jāneyya, maggaphalañāṇehi paṭivijjheyya, sacchikareyyāti attho. Etena ariyānaṃ nibbāne adhimuttataṃ dasseti. Ariyā hi adhicittappavattikālepi ekanteneva nibbāne ninnapoṇapabbhārabhāvena viharanti. Ettha ca yassa sati kāyagatā upaṭṭhitā, so bhikkhu chasu phassāyatanesu saṃvuto, tato eva satataṃ samāhito attapaccakkhakaraṇena nibbānaṃ attano jāneyyāti evaṃ gāthāpadānaṃ sambandho veditabbo. Evaṃ kāyānupassanāsatipaṭṭhānamukhena yāva arahattā ekassa bhikkhuno niyyānamaggaṃ dasseti dhammarājā.
อปโร นโย – สติ กายคตา อุปฎฺฐิตาติ เอเตน กายานุปสฺสนาสติปฎฺฐานํ ทเสฺสติฯ ฉสุ ผสฺสายตเนสุ สํวุโตติ ผโสฺส อายตนํ การณํ เอเตสนฺติ ผสฺสายตนานิ, เตสุ ผสฺสายตเนสุฯ ผสฺสเหตุเกสุ ผสฺสปจฺจยา นิพฺพเตฺตสุ ฉสุ จกฺขุสมฺผสฺสชาทิเวทยิเตสุ ตณฺหาทีนํ อปฺปวตฺติยา สํวุโต, เอเตน เวทนานุปสฺสนาสติปฎฺฐานํ ทเสฺสติฯ สตตํ ภิกฺขุ สมาหิโตติ สตตํ นิจฺจกาลํ นิรนฺตรํ วิเกฺขปาภาวโต สมาหิโต ภิกฺขุฯ โส จายํ อวิเกฺขโป สพฺพโส สติปฎฺฐานภาวนาย มตฺถกปฺปตฺตาย โหติฯ สมฺมสโนฺต หิ อตีตาทิเภทภิเนฺนสุ ปญฺจุปาทานกฺขเนฺธสุ อนวเสสโตว ปริคฺคเหตฺวา สมฺมสตีติฯ เอเตน เสสสติปฎฺฐาเน ทเสฺสติฯ ชญฺญา นิพฺพานมตฺตโนติ เอวํ จตุสติปฎฺฐานภาวนํ มตฺถกํ ปาเปตฺวา ฐิโต ภินฺนกิเลโส ภิกฺขุ อตฺตโน กิเลสนิพฺพานํ ปจฺจเวกฺขณญาเณน สยเมว ชาเนยฺยาติ อโตฺถฯ
Aparo nayo – sati kāyagatā upaṭṭhitāti etena kāyānupassanāsatipaṭṭhānaṃ dasseti. Chasu phassāyatanesu saṃvutoti phasso āyatanaṃ kāraṇaṃ etesanti phassāyatanāni, tesu phassāyatanesu. Phassahetukesu phassapaccayā nibbattesu chasu cakkhusamphassajādivedayitesu taṇhādīnaṃ appavattiyā saṃvuto, etena vedanānupassanāsatipaṭṭhānaṃ dasseti. Satataṃ bhikkhu samāhitoti satataṃ niccakālaṃ nirantaraṃ vikkhepābhāvato samāhito bhikkhu. So cāyaṃ avikkhepo sabbaso satipaṭṭhānabhāvanāya matthakappattāya hoti. Sammasanto hi atītādibhedabhinnesu pañcupādānakkhandhesu anavasesatova pariggahetvā sammasatīti. Etena sesasatipaṭṭhāne dasseti. Jaññā nibbānamattanoti evaṃ catusatipaṭṭhānabhāvanaṃ matthakaṃ pāpetvā ṭhito bhinnakileso bhikkhu attano kilesanibbānaṃ paccavekkhaṇañāṇena sayameva jāneyyāti attho.
อถ วา สติ กายคตา อุปฎฺฐิตาติ อตฺตโน ปเรสญฺจ กายสฺส ยถาสภาวปริญฺญาทีปเนน เถรสฺส สติเวปุลฺลปฺปตฺติ ทีปิตาฯ ฉสุ ผสฺสายตเนสุ สํวุโตติ จกฺขาทีสุ ฉสุ ทฺวาเรสุ อจฺจนฺตสํวรทีปเนน สตตวิหาริวเสน เถรสฺส สมฺปชญฺญปฺปกาสินี ปญฺญาเวปุลฺลปฺปตฺติ ทีปิตาฯ สตตํ ภิกฺขุ สมาหิโตติ สมาปตฺติพหุลตาทสฺสเนน นวานุปุพฺพวิหารสมาปตฺติโย ทสฺสิตาฯ เอวํภูโต ปน ภิกฺขุ ชญฺญา นิพฺพานมตฺตโนติ กตกิจฺจตฺตา อุตฺตริ กรณียาภาวโต เกวลํ อตฺตโน อนุปาทิเสสนิพฺพานเมว ชาเนยฺย จิเนฺตยฺย, อญฺญมฺปิ ตสฺส จิเนฺตตพฺพํ นตฺถีติ อธิปฺปาโยฯ
Atha vā sati kāyagatā upaṭṭhitāti attano paresañca kāyassa yathāsabhāvapariññādīpanena therassa sativepullappatti dīpitā. Chasu phassāyatanesu saṃvutoti cakkhādīsu chasu dvāresu accantasaṃvaradīpanena satatavihārivasena therassa sampajaññappakāsinī paññāvepullappatti dīpitā. Satataṃ bhikkhu samāhitoti samāpattibahulatādassanena navānupubbavihārasamāpattiyo dassitā. Evaṃbhūto pana bhikkhu jaññā nibbānamattanoti katakiccattā uttari karaṇīyābhāvato kevalaṃ attano anupādisesanibbānameva jāneyya cinteyya, aññampi tassa cintetabbaṃ natthīti adhippāyo.
ปญฺจมสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Pañcamasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / อุทานปาฬิ • Udānapāḷi / ๕. มหาโมคฺคลฺลานสุตฺตํ • 5. Mahāmoggallānasuttaṃ