Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā)

    ๙. มหาปุณฺณมสุตฺตวณฺณนา

    9. Mahāpuṇṇamasuttavaṇṇanā

    ๘๕. ตสฺมิํ อหูติ ตสฺมิํ อหนีติ อาห ‘‘ตสฺมิํ ทิวเส’’ติฯ อนสเนนาติ สพฺพโส อาหารสฺส อภุญฺชเนน สาสนิกสีเลน พาหิรกอนสเนน อุเปตา หุตฺวาติ โยชนาฯ วา-สเทฺทน ขีรปานมธุสายนาทิวิธิํ สงฺคณฺหาติฯ อุเปจฺจ วสิตพฺพโต อุโปสโถ, ปาติโมกฺขุเทฺทโสฯ อุเปเตน สมนฺนาคเตน หุตฺวา วสิตพฺพโต สนฺตาเน วาเสตพฺพโต อุโปสโถ, สีลํฯ อนสนาทิธมฺมาทิํ วา อุเปจฺจ วสนํ อุปวาโส อุโปสโถฯ ตถารูเป หตฺถิชาติวิเสเส อุโปสโถติ สมญฺญามตฺตนฺติ อาห – ‘‘อุโปสโถ นาม นาคราชาติอาทีสุ ปญฺญตฺตี’’ติฯ วุตฺตนเยน อุปวสนฺติ เอตฺถาติ อุโปสโถ, ทิวโสฯ โส ปเนส อุโปสโถฯ มาสปุณฺณตายาติ มาสสฺส ปูริตภาเวนฯ สมฺปุณฺณาติ สพฺพโส ปุณฺณาฯ ตาย หิ รตฺติยา วเสน มาโส อนวเสสโต ปุโณฺณ โหติฯ มาสทฺธมาสาทิเภทํ กาลํ มาติ มินโนฺต วิย โหตีติ จ ‘‘มา’’อิติ จโนฺท วุจฺจติฯ เอตฺถาติ เอติสฺสา รตฺติยาฯ ปุโณฺณ ปริปุณฺณกโล ชาโตติ ปุณฺณมาฯ ตญฺหิ จนฺทปาริปูริยา มาสปาริปูริยา เอวมาหฯ เอเตน ตสฺส อุโปสถภาวํ ทเสฺสติฯ

    85.Tasmiṃahūti tasmiṃ ahanīti āha ‘‘tasmiṃ divase’’ti. Anasanenāti sabbaso āhārassa abhuñjanena sāsanikasīlena bāhirakaanasanena upetā hutvāti yojanā. -saddena khīrapānamadhusāyanādividhiṃ saṅgaṇhāti. Upecca vasitabbato uposatho, pātimokkhuddeso. Upetena samannāgatena hutvā vasitabbato santāne vāsetabbato uposatho, sīlaṃ. Anasanādidhammādiṃ vā upecca vasanaṃ upavāso uposatho. Tathārūpe hatthijātivisese uposathoti samaññāmattanti āha – ‘‘uposatho nāma nāgarājātiādīsu paññattī’’ti. Vuttanayena upavasanti etthāti uposatho, divaso. So panesa uposatho. Māsapuṇṇatāyāti māsassa pūritabhāvena. Sampuṇṇāti sabbaso puṇṇā. Tāya hi rattiyā vasena māso anavasesato puṇṇo hoti. Māsaddhamāsādibhedaṃ kālaṃ māti minanto viya hotīti ca ‘‘mā’’iti cando vuccati. Etthāti etissā rattiyā. Puṇṇo paripuṇṇakalo jātoti puṇṇamā. Tañhi candapāripūriyā māsapāripūriyā evamāha. Etena tassa uposathabhāvaṃ dasseti.

    ทิสฺสติ ผลํ สนฺทิสฺสตีติ เทโส, เหตูติ อาห ‘‘เทสนฺติ การณ’’นฺติฯ สพฺพํ กเถนฺติ สพฺพํ อตฺตนา ปริคฺคหิตปฺปการํ กเถนฺติฯ กเถตุํ น สโกฺกนฺติ อวิสยตฺตาฯ ปาสาทปริเวเณติ ปาสาทสฺส ปุรโต วิวฎงฺคเณฯ เหฎฺฐา วุตฺตนเยนาติ เสขสุเตฺต (ม. นิ. อฎฺฐ. ๒.๒๒) วุตฺตนเยน วิตฺถาเรตพฺพํฯ

    Dissati phalaṃ sandissatīti deso, hetūti āha ‘‘desanti kāraṇa’’nti. Sabbaṃ kathenti sabbaṃ attanā pariggahitappakāraṃ kathenti. Kathetuṃ na sakkonti avisayattā. Pāsādapariveṇeti pāsādassa purato vivaṭaṅgaṇe. Heṭṭhā vuttanayenāti sekhasutte (ma. ni. aṭṭha. 2.22) vuttanayena vitthāretabbaṃ.

    ๘๖. อิเม นุ โขติ เอตฺถ นูติ สํสยโชตโนติ อาห – ‘‘วิมติปุจฺฉา วิย กถิตา’’ติฯ ชานเนฺตนาติอาทิ ปุจฺฉาวตฺตทสฺสนปรํ ทฎฺฐพฺพํ, น ปุจฺฉกสฺส สตฺถุ อตฺตโน อชานนภาวทีปนปรํฯ ชานาติ หิ ภควาฯ อชานเนฺตน วิย หุตฺวา ปุจฺฉิเตฯ ยถาภูตสภาวํ ชานโนฺต วิย ปุจฺฉติ โกหเญฺญ ฐตฺวาฯ เตนาห – ‘‘เถโร เอวรูปํ วจนํ กิํ กริสฺสตี’’ติ การณสฺส สุปฺปหีนตฺตาติ อธิปฺปาโยฯ

    86.Ime nu khoti ettha nūti saṃsayajotanoti āha – ‘‘vimatipucchā viya kathitā’’ti. Jānantenātiādi pucchāvattadassanaparaṃ daṭṭhabbaṃ, na pucchakassa satthu attano ajānanabhāvadīpanaparaṃ. Jānāti hi bhagavā. Ajānantena viya hutvā pucchite. Yathābhūtasabhāvaṃ jānanto viya pucchati kohaññe ṭhatvā. Tenāha – ‘‘thero evarūpaṃ vacanaṃ kiṃ karissatī’’ti kāraṇassa suppahīnattāti adhippāyo.

    ฉนฺทมูลกาติ ตณฺหาฉนฺทมูลกาฯ ตณฺหา หิ ทุกฺขสมุทโยฯ กุสลสโญฺญ วา ถิรวิสทนิปุณสโญฺญ วา, กุสลสงฺขาโร วา ติขิณถิรวิสทสงฺขาโร วา; สุวิสุทฺธวิปุโลทารวิญฺญาโณ วาติ อิมมตฺถํ ‘‘สญฺญาทีสุปิ เอเสว นโย’’ติ อิมินา อติทิสติฯ กสฺมา ปเนตฺถ อนาคตกาลวเสเนว เทสนา อาคตาติ อาห ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิฯ

    Chandamūlakāti taṇhāchandamūlakā. Taṇhā hi dukkhasamudayo. Kusalasañño vā thiravisadanipuṇasañño vā, kusalasaṅkhāro vā tikhiṇathiravisadasaṅkhāro vā; suvisuddhavipulodāraviññāṇo vāti imamatthaṃ ‘‘saññādīsupi eseva nayo’’ti iminā atidisati. Kasmā panettha anāgatakālavaseneva desanā āgatāti āha ‘‘yasmā panā’’tiādi.

    ขนฺธานํ ขนฺธปณฺณตฺตีติ ขนฺธสทฺทาภิเธยฺยานํ รุปฺปนานุภวนสญฺชานนาภิสงฺขรวิชานนสภาวานํ อตฺถานํ ‘‘ขโนฺธ’’ติ อยํ สมญฺญาฯ กิตฺตเกนาติ กิํปริมาเณน อเตฺถน, ราสตฺถภาคตฺถาทีสุ กีทิเสนาติ อธิปฺปาโยฯ

    Khandhānaṃ khandhapaṇṇattīti khandhasaddābhidheyyānaṃ ruppanānubhavanasañjānanābhisaṅkharavijānanasabhāvānaṃ atthānaṃ ‘‘khandho’’ti ayaṃ samaññā. Kittakenāti kiṃparimāṇena atthena, rāsatthabhāgatthādīsu kīdisenāti adhippāyo.

    เหตุเหตูติ เหตุปจฺจยภูโต เหตุฯ โย หิ โลภาทีนํ สหชาตธเมฺมสุ มูลเฎฺฐนุปการกภาโว นิปฺปริยาเยน เหตุโตฺถ; โส ปถวีอาทีสุปิ ปจฺจยภาวมเตฺตน เหตุปริยายทสฺสนโต ทุติเยน เหตุ-สเทฺทน วิเสเสตฺวา วุโตฺต ‘‘เหตุเหตู’’ติฯ อวิชฺชา ปุญฺญาภิสงฺขาราทีนํ สาธารณปจฺจยตฺตา สาธารณเหตุ, ‘‘อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ กมฺมสมาทานานํ ฐานโส เหตุโส วิปาก’’นฺติ เอตฺถ วิชฺชมาเนสุปิ อเญฺญสุ ปจฺจเยสุ อิฎฺฐานิฎฺฐวิปากนิยามกตฺตา กมฺมํ ตสฺส ปธานการณนฺติ อาห – ‘‘กุสลากุสลํ อตฺตโน อตฺตโน วิปากทาเน อุตฺตมเหตู’’ติฯ ‘‘มหาภูตา เหตู’’ติ อยเมวโตฺถ ‘‘มหาภูตา ปจฺจโย’’ติ อิมินาปิ วุโตฺตติ เหตุสทฺทปจฺจยสทฺทานํ สมานตฺถตฺตา ปจฺจโย เอว เหตุ ปจฺจยเหตุ, โย จ รูปกฺขนฺธสฺส เหตุ, โส เอว ตสฺส ปญฺญาปนาย ปจฺจโยติ วุโตฺตติ อาห – ‘‘อิธ ปจฺจยเหตุ อธิเปฺปโต’’ติฯ ยทเคฺคน ปจฺจยธโมฺม อตฺตโน ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส อุปฺปาทาย ฐิติยา จ ปจฺจโย, ตทเคฺคน ตสฺส ภาวโต สมญฺญาโต ปญฺญาปนายปิ โส ปจฺจโยติ วตฺตพฺพตํ อรหตีติฯ ปาฬิยํ อวิภาเคน วุตฺตมตฺถํ วิภาเคน ทเสฺสตุํ, ‘‘ตตฺถ ปถวีธาตู’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ ปญฺญาปนายาติ สเหตุอเหตุกนฺติอาทิอากาเรหิ โพธนาย ฯ ตํ ปน สโพฺพธนํ ญาเณน ทสฺสนํ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ทสฺสนตฺถายา’’ติฯ

    Hetuhetūti hetupaccayabhūto hetu. Yo hi lobhādīnaṃ sahajātadhammesu mūlaṭṭhenupakārakabhāvo nippariyāyena hetuttho; so pathavīādīsupi paccayabhāvamattena hetupariyāyadassanato dutiyena hetu-saddena visesetvā vutto ‘‘hetuhetū’’ti. Avijjā puññābhisaṅkhārādīnaṃ sādhāraṇapaccayattā sādhāraṇahetu, ‘‘atītānāgatapaccuppannānaṃ kammasamādānānaṃ ṭhānaso hetuso vipāka’’nti ettha vijjamānesupi aññesu paccayesu iṭṭhāniṭṭhavipākaniyāmakattā kammaṃ tassa padhānakāraṇanti āha – ‘‘kusalākusalaṃ attano attano vipākadāne uttamahetū’’ti. ‘‘Mahābhūtā hetū’’ti ayamevattho ‘‘mahābhūtā paccayo’’ti imināpi vuttoti hetusaddapaccayasaddānaṃ samānatthattā paccayo eva hetu paccayahetu, yo ca rūpakkhandhassa hetu, so eva tassa paññāpanāya paccayoti vuttoti āha – ‘‘idha paccayahetu adhippeto’’ti. Yadaggena paccayadhammo attano paccayuppannassa uppādāya ṭhitiyā ca paccayo, tadaggena tassa bhāvato samaññāto paññāpanāyapi so paccayoti vattabbataṃ arahatīti. Pāḷiyaṃ avibhāgena vuttamatthaṃ vibhāgena dassetuṃ, ‘‘tattha pathavīdhātū’’tiādi vuttaṃ. Tattha paññāpanāyāti sahetuahetukantiādiākārehi bodhanāya . Taṃ pana sabbodhanaṃ ñāṇena dassanaṃ hotīti vuttaṃ ‘‘dassanatthāyā’’ti.

    ผโสฺสติ ผสฺสสมงฺคีภาโวฯ โส เจตฺถ สกิจฺจนิปฺผาทนสมตฺถสฺส ผสฺสสฺส นิพฺพตฺติฯ นิพฺพโตฺต หิ ผโสฺส ตถารูปาย เวทนาย ปจฺจโย โหตีติฯ เอตทตฺถเมเวตฺถ ภควตา ปุคฺคลาธิฎฺฐานา เทสนา กตา, ตสฺมา ปจฺจุปฺปนฺนาตีตกาลวเสน ทฺวิกาลิโก ผสฺสสโทฺท เวทิตโพฺพฯ ผเสฺส สติ เวเทติ ผสฺสปจฺจยา เวทนาอิเจฺจว วุตฺตํ โหติฯ เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโยฯ ยเถว หิ เวทนาย เอวํ สญฺญาย สงฺขารานมฺปิ ผโสฺส วิเสสปจฺจโย ตสฺมิํ อสติ อภาวโตฯ เจตนาคฺคหเณน อายูหนานุรูปตาย ตปฺปธานตฺตา สงฺขารกฺขนฺธธมฺมา คหิตาฯ ตถา หิ สุตฺตนฺตภาชนีเย สงฺขารกฺขนฺธภาชนีเย (วิภ. ๒๑, ๒๒) จ ‘‘จกฺขุสมฺผสฺสชา เจตนา’’ติอาทินา เจตนาว นิทฺทิฎฺฐาฯ วิญฺญาณกฺขนฺธสฺสาติ เอตฺถ เอกสฺมิํ ภเว อาทิภูตวิญฺญาณสฺส นามรูปปจฺจยตํ ทเสฺสตุํ, ‘‘ปฎิสนฺธิวิญฺญาเณน ตาวา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถ คพฺภเสยฺยกสฺส สภาวกสฺส รูปปวตฺติํ สนฺธาย ‘‘อุปริมปริเจฺฉเทนา’’ติ วุตฺตํ สมติํสโต อุปริ ปฎิสนฺธิกฺขเณ ตสฺส รูปานํ อสมฺภวโตฯ อิทานิ ปวตฺติวิญฺญาณสฺส นามรูปปจฺจยํ ทฺวารวเสน ทเสฺสตุํ, ‘‘จกฺขุทฺวาเร’’ติอาทิ วุตฺตํฯ นนุ จ วิญฺญาณสฺสปิ ผโสฺส ปจฺจโย, กสฺมา ตโย เอว ขนฺธา ผสฺสปจฺจยา วุตฺตาติ? สจฺจเมตํ, ยถา ปน วิญฺญาณสหิโต ผโสฺส เวทนาทีนํ ปจฺจโย, น เอวํ วิญฺญาณสฺสฯ เตนาห ภควา – ‘‘ติณฺณํ สงฺคติ ผโสฺส’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๐๔; ม. นิ. ๓.๔๒๑, ๔๒๕, ๔๒๖; สํ. นิ. ๒.๔๔, ๔๕; ๒.๔.๖๐) ผโสฺส วิย นามรูปํ วิญฺญาณสฺส วิเสสปจฺจโย ยถา นามรูปปจฺจยาปิ วิญฺญาณนฺติฯ ตสฺมา อิมํ วิเสสํ ทเสฺสตุํ นามรูปเสฺสว วิญฺญาณปจฺจยตา วุตฺตา, น ผสฺสสฺสฯ

    Phassoti phassasamaṅgībhāvo. So cettha sakiccanipphādanasamatthassa phassassa nibbatti. Nibbatto hi phasso tathārūpāya vedanāya paccayo hotīti. Etadatthamevettha bhagavatā puggalādhiṭṭhānā desanā katā, tasmā paccuppannātītakālavasena dvikāliko phassasaddo veditabbo. Phasse sati vedeti phassapaccayā vedanāicceva vuttaṃ hoti. Sesapadadvayepi eseva nayo. Yatheva hi vedanāya evaṃ saññāya saṅkhārānampi phasso visesapaccayo tasmiṃ asati abhāvato. Cetanāggahaṇena āyūhanānurūpatāya tappadhānattā saṅkhārakkhandhadhammā gahitā. Tathā hi suttantabhājanīye saṅkhārakkhandhabhājanīye (vibha. 21, 22) ca ‘‘cakkhusamphassajā cetanā’’tiādinā cetanāva niddiṭṭhā. Viññāṇakkhandhassāti ettha ekasmiṃ bhave ādibhūtaviññāṇassa nāmarūpapaccayataṃ dassetuṃ, ‘‘paṭisandhiviññāṇena tāvā’’tiādi vuttaṃ. Tattha gabbhaseyyakassa sabhāvakassa rūpapavattiṃ sandhāya ‘‘uparimaparicchedenā’’ti vuttaṃ samatiṃsato upari paṭisandhikkhaṇe tassa rūpānaṃ asambhavato. Idāni pavattiviññāṇassa nāmarūpapaccayaṃ dvāravasena dassetuṃ, ‘‘cakkhudvāre’’tiādi vuttaṃ. Nanu ca viññāṇassapi phasso paccayo, kasmā tayo eva khandhā phassapaccayā vuttāti? Saccametaṃ, yathā pana viññāṇasahito phasso vedanādīnaṃ paccayo, na evaṃ viññāṇassa. Tenāha bhagavā – ‘‘tiṇṇaṃ saṅgati phasso’’ti (ma. ni. 1.204; ma. ni. 3.421, 425, 426; saṃ. ni. 2.44, 45; 2.4.60) phasso viya nāmarūpaṃ viññāṇassa visesapaccayo yathā nāmarūpapaccayāpi viññāṇanti. Tasmā imaṃ visesaṃ dassetuṃ nāmarūpasseva viññāṇapaccayatā vuttā, na phassassa.

    ๘๗. ยาว สกฺกายทิฎฺฐิ สมุปฺปชฺชติ, ตาว วฎฺฎสฺส ปริยโนฺต นเตฺถวาติ อปฺปหีนสกฺกายทิฎฺฐิโก วเฎฺฎ ปริพฺภมตีติ อาห – ‘‘กถํ ปน, ภเนฺตติ วฎฺฎํ ปุจฺฉโนฺต’’ติฯ ยถา จ สกฺกายทิฎฺฐิโชตนา วฎฺฎปุจฺฉา, เอวํ ตเพฺภทนโชตนา วิวฎฺฎปุจฺฉาติ อาห – ‘‘สกฺกายทิฎฺฐิ น โหตีติ วิวฎฺฎํ ปุจฺฉโนฺต’’ติฯ

    87. Yāva sakkāyadiṭṭhi samuppajjati, tāva vaṭṭassa pariyanto natthevāti appahīnasakkāyadiṭṭhiko vaṭṭe paribbhamatīti āha – ‘‘kathaṃ pana, bhanteti vaṭṭaṃ pucchanto’’ti. Yathā ca sakkāyadiṭṭhijotanā vaṭṭapucchā, evaṃ tabbhedanajotanā vivaṭṭapucchāti āha – ‘‘sakkāyadiṭṭhi na hotīti vivaṭṭaṃ pucchanto’’ti.

    ๘๘. อยํ รูเป อสฺสาโทติ ยาถาวโต ทสฺสนํ ปริญฺญาภิสมโย, ทุกฺขสจฺจปริยาปนฺนญฺจ รูปนฺติ อาห – ‘‘อิมินา ปริญฺญาปฎิเวโธ เจว ทุกฺขสจฺจญฺจ กถิต’’นฺติฯ ‘‘ยํ รูปํ อนิจฺจ’’นฺติอาทิวจนโต อนิจฺจาทิภาโว ตตฺถ อาทีนโว, โส จสฺส ปจฺจยาธีนวุตฺติตาย ปจฺจโย สมุทยสจฺจนฺติ สมุทยปฺปหาเนน อาทีนวสมติกฺกโมติ อาทีนวคฺคหเณน สิทฺธมตฺถมาห – ‘‘ปหานปฎิเวโธ เจว สมุทยสจฺจญฺจา’’ติฯ สพฺพสงฺขตนิสฺสรณํ นิพฺพานญฺจ สจฺฉิกิริยาภิสมยวเสน ปฎิวิชฺฌิตพฺพนฺติ อาห – ‘‘อิมินา สจฺฉิกิริยาปฎิเวโธ เจว นิโรธสจฺจญฺจา’’ติฯ อิเมสุ ตีสุ ฐาเนสูติ ยถาวุเตฺตสุ ทุกฺขาทีสุ ตีสุ อภิสมยฎฺฐาเนสุฯ เย สมฺมาทิฎฺฐิอาทโย ธมฺมาติ เย อริยมคฺคสญฺญิตา สมฺมาทิฎฺฐิอาทโย อฎฺฐ, สตฺต วา ธมฺมาฯ ภาวนาปฎิเวโธ มคฺคสจฺจนฺติ ภาวนาภิสมยวเสน ปวตฺตํ มคฺคสจฺจํฯ เสสปเทสุปีติ, ‘‘อยํ เวทนาย อสฺสาโท’’ติอาทิปเทสุปิฯ

    88.Ayaṃrūpe assādoti yāthāvato dassanaṃ pariññābhisamayo, dukkhasaccapariyāpannañca rūpanti āha – ‘‘iminā pariññāpaṭivedho ceva dukkhasaccañca kathita’’nti. ‘‘Yaṃ rūpaṃ anicca’’ntiādivacanato aniccādibhāvo tattha ādīnavo, so cassa paccayādhīnavuttitāya paccayo samudayasaccanti samudayappahānena ādīnavasamatikkamoti ādīnavaggahaṇena siddhamatthamāha – ‘‘pahānapaṭivedho ceva samudayasaccañcā’’ti. Sabbasaṅkhatanissaraṇaṃ nibbānañca sacchikiriyābhisamayavasena paṭivijjhitabbanti āha – ‘‘iminā sacchikiriyāpaṭivedho ceva nirodhasaccañcā’’ti. Imesu tīsu ṭhānesūti yathāvuttesu dukkhādīsu tīsu abhisamayaṭṭhānesu. Ye sammādiṭṭhiādayo dhammāti ye ariyamaggasaññitā sammādiṭṭhiādayo aṭṭha, satta vā dhammā. Bhāvanāpaṭivedho maggasaccanti bhāvanābhisamayavasena pavattaṃ maggasaccaṃ. Sesapadesupīti, ‘‘ayaṃ vedanāya assādo’’tiādipadesupi.

    ๘๙. อิมสฺมินฺติ อาสนฺนปจฺจกฺขตาย สกอตฺตภาโว คหิโต, ตเทว อชฺฌตฺตา ขนฺธาติ ตปฺปฎิโยคิตาย, ‘‘พหิทฺธาติ ปรสฺส สวิญฺญาณเก กาเย’’ติ วุตฺตํฯ สพฺพนิมิเตฺตสูติ สเพฺพสุ รูปนิมิตฺตาทีสุปิ ฯ ตานิ ปน อินฺทฺริยพทฺธานิปิ อนินฺทฺริยพทฺธานิปิ ตํสภาวานีติ อาห ‘‘อนินฺทฺริยพทฺธมฺปิ สงฺคณฺหาตี’’ติฯ วิญฺญาณคฺคหเณเนเวตฺถ เวทนาทโยปิ คหิตา อวินาภาวโตติ, ‘‘สวิญฺญาณเก กาเย’’ติ วุตฺตํฯ ‘‘กาโย’’ติ วา ขนฺธสมูโหติ อโตฺถฯ

    89.Imasminti āsannapaccakkhatāya sakaattabhāvo gahito, tadeva ajjhattā khandhāti tappaṭiyogitāya, ‘‘bahiddhāti parassa saviññāṇake kāye’’ti vuttaṃ. Sabbanimittesūti sabbesu rūpanimittādīsupi . Tāni pana indriyabaddhānipi anindriyabaddhānipi taṃsabhāvānīti āha ‘‘anindriyabaddhampi saṅgaṇhātī’’ti. Viññāṇaggahaṇenevettha vedanādayopi gahitā avinābhāvatoti, ‘‘saviññāṇake kāye’’ti vuttaṃ. ‘‘Kāyo’’ti vā khandhasamūhoti attho.

    ๙๐. อนตฺตนิ ฐตฺวาติ อตฺตรหิเต อนตฺตสภาเว ขนฺธโกฎฺฐาเส ฐตฺวา ตํ อาธารํ กตฺวา กตานิ กมฺมานิฯ กตรสฺมิํ อตฺตนิ ฐตฺวาติ กีทิเส อตฺตนิ นิสฺสยวิปากํ ทสฺสนฺติ วิปจฺจิสฺสนฺติฯ เอเตน การกเวทกรหิตตฺตา อตฺตปกฺขกมฺมกานิ น ยุชฺชนฺตีติ ทเสฺสติ, ขนฺธานํ ขณิกตฺตา จ กตนาสอกตพฺภาคมโทโส จ อาปชฺชตีติฯ

    90.Anattani ṭhatvāti attarahite anattasabhāve khandhakoṭṭhāse ṭhatvā taṃ ādhāraṃ katvā katāni kammāni. Katarasmiṃ attani ṭhatvāti kīdise attani nissayavipākaṃ dassanti vipaccissanti. Etena kārakavedakarahitattā attapakkhakammakāni na yujjantīti dasseti, khandhānaṃ khaṇikattā ca katanāsaakatabbhāgamadoso ca āpajjatīti.

    ตตฺรายํ (อิติวุ. อฎฺฐ. ๗๔; สารตฺถ. ฎี. ๑.๕) โจทนาโสธนาวิธิ – ปาณาติปาตวเสน ตาว กมฺมปถสมฺพนฺธวิภาวนา, ขเณ ขเณ หิ นิรุชฺฌนสภาเวสุ สงฺขาเรสุ โก หนฺติ, โก วา หญฺญติ, ยทิ จิตฺตเจตสิกสนฺตาโน, โส อรูปตฺตา น เฉทนเภทนาทิวเสน วิโกปนสมโตฺถ, นปิ วิโกปนีโยฯ อถ รูปสนฺตาโน, โส อเจตนตฺตา กฎฺฐกลิงฺครูปโมติ น ตตฺถ เฉทนาทินา ปาณาติปาตาปุญฺญํ ปสวติ ยถา มตสรีเรฯ ปโยโคปิ ปาณาติปาตสฺส ปหรณปฺปหาราทิโก อตีเตสุ วา สงฺขาเรสุ ภเวยฺย, อนาคเตสุ, ปจฺจุปฺปเนฺนสุ วา, ตตฺถ น ตาว อตีตานาคเตสุ สมฺภวติ เตสํ อภาวโต, ปจฺจุปฺปเนฺนสุ จ สงฺขารานํ ขณิกตฺตา สรเสเนว นิรุชฺฌนสภาวตาย วินาสาภิมุเขสุ นิปฺปโยชโน ปโยโค สิยา, วินาสสฺส จ การณรหิตตฺตา น ปหรณปฺปหาราทิปฺปโยคเหตุกํ มรณํ, นิรีหกตาย จ สงฺขารานํ กสฺส โส ปโยโค? ขณิกตฺตา วธาธิปฺปายสมกาลภิชฺชนกสฺส กิริยาปริโยสานกาลานวฎฺฐานโต กสฺส ปาณาติปาตกมฺมพโทฺธติ?

    Tatrāyaṃ (itivu. aṭṭha. 74; sārattha. ṭī. 1.5) codanāsodhanāvidhi – pāṇātipātavasena tāva kammapathasambandhavibhāvanā, khaṇe khaṇe hi nirujjhanasabhāvesu saṅkhāresu ko hanti, ko vā haññati, yadi cittacetasikasantāno, so arūpattā na chedanabhedanādivasena vikopanasamattho, napi vikopanīyo. Atha rūpasantāno, so acetanattā kaṭṭhakaliṅgarūpamoti na tattha chedanādinā pāṇātipātāpuññaṃ pasavati yathā matasarīre. Payogopi pāṇātipātassa paharaṇappahārādiko atītesu vā saṅkhāresu bhaveyya, anāgatesu, paccuppannesu vā, tattha na tāva atītānāgatesu sambhavati tesaṃ abhāvato, paccuppannesu ca saṅkhārānaṃ khaṇikattā saraseneva nirujjhanasabhāvatāya vināsābhimukhesu nippayojano payogo siyā, vināsassa ca kāraṇarahitattā na paharaṇappahārādippayogahetukaṃ maraṇaṃ, nirīhakatāya ca saṅkhārānaṃ kassa so payogo? Khaṇikattā vadhādhippāyasamakālabhijjanakassa kiriyāpariyosānakālānavaṭṭhānato kassa pāṇātipātakammabaddhoti?

    วุจฺจเตยถาวุตฺตวธกเจตนาสหิโต สงฺขารปุโญฺช สตฺตสงฺขาโต หนฺติฯ เตน ปวตฺติตวธปฺปโยคนิมิตฺตํ อปคตอุสฺมาวิญฺญาณชีวิตินฺทฺริโย มตโวหารปวตฺตินิพนฺธโน ยถาวุตฺตวปฺปโยคกรเณ อุปฺปชฺชนารโห รูปารูปธมฺมสมูโห หญฺญติ, เกวโล วา จิตฺตเจตสิกสนฺตาโนฯ วธปฺปโยคาวิสยภาเวปิ ตสฺส ปญฺจโวการภเว รูปสนฺตานาธีนวุตฺติตาย รูปสนฺตาเน ปเรน ปโยชิตชีวิตินฺทฺริยุปเจฺฉทกปโยควเสน ตนฺนิพฺพตฺติตวิพนฺธกวิสทิรูปุปฺปตฺติยา วิคเต วิเจฺฉโท โหตีติ น ปาณาติปาตสฺส อสมฺภโว; นาปิ อเหตุโก ปาณาติปาโต, น จ ปโยโค นิปฺปโยชโน ปจฺจุปฺปเนฺนสุ สงฺขาเรสุ กตปฺปโยควเสน ตทนนฺตรํ อุปฺปชฺชนารหสฺส สงฺขารกลาปสฺส ตถา อนุปฺปตฺติโตฯ ขณิกานํ สงฺขารานํ ขณิกมรณสฺส อิธ มรณภาเวน อนธิเปฺปตตฺตา สนฺตติมรณสฺส จ ยถาวุตฺตนเยน สเหตุกภาวโต น อเหตุกํ มรณํ ; น จ กตฺตุรหิโต ปาณาติปาตปฺปโยโค นิรีหเกสุปิ สงฺขาเรสุ สนฺนิหิตตามเตฺตน อุปการเกสุ อตฺตโน อตฺตโน อนุรูปผลุปฺปาทเน นิยเตสุ การเณสุ กตฺตุโวหารสิทฺธิโต ยถา – ‘‘ปทีโป ปกาเสติ, นิสากโร จนฺทิมา’’ติฯ น จ เกวลสฺส วจาธิปฺปายสหภุโน จิตฺตเจตสิกกลาปสฺส ปาณาติปาโต อิจฺฉิโต สนฺตานวเสน อวฎฺฐิตเสฺสว ปฎิชานนโต; สนฺตานวเสน ปวตฺตมานานญฺจ ปทีปาทีนํ อตฺถกิริยสิทฺธิ ทิสฺสตีติ อเตฺถว ปาณาติปาเตน กมฺมุนา พโทฺธ; ตโต เอว ยสฺมิํ สนฺตาเน ปาณาติปาตเจตนา ปวตฺตา; ตเตฺถว สนฺตาเน ปจฺจยนฺตรสมวาเยน ภวนฺตเร นิรยาทีสุ ตสฺสา ผลปฺปวตฺตีติ นเตฺถว กตวินาโส อกตพฺภาคโม จฯ อิมินา นเยน อทินฺนาทานาทีนญฺจ วเสน ยถารหํ กมฺมปถสมฺพนฺธวิภาวนา เวทิตพฺพาติฯ

    Vuccateyathāvuttavadhakacetanāsahito saṅkhārapuñjo sattasaṅkhāto hanti. Tena pavattitavadhappayoganimittaṃ apagatausmāviññāṇajīvitindriyo matavohārapavattinibandhano yathāvuttavappayogakaraṇe uppajjanāraho rūpārūpadhammasamūho haññati, kevalo vā cittacetasikasantāno. Vadhappayogāvisayabhāvepi tassa pañcavokārabhave rūpasantānādhīnavuttitāya rūpasantāne parena payojitajīvitindriyupacchedakapayogavasena tannibbattitavibandhakavisadirūpuppattiyā vigate vicchedo hotīti na pāṇātipātassa asambhavo; nāpi ahetuko pāṇātipāto, na ca payogo nippayojano paccuppannesu saṅkhāresu katappayogavasena tadanantaraṃ uppajjanārahassa saṅkhārakalāpassa tathā anuppattito. Khaṇikānaṃ saṅkhārānaṃ khaṇikamaraṇassa idha maraṇabhāvena anadhippetattā santatimaraṇassa ca yathāvuttanayena sahetukabhāvato na ahetukaṃ maraṇaṃ ; na ca katturahito pāṇātipātappayogo nirīhakesupi saṅkhāresu sannihitatāmattena upakārakesu attano attano anurūpaphaluppādane niyatesu kāraṇesu kattuvohārasiddhito yathā – ‘‘padīpo pakāseti, nisākaro candimā’’ti. Na ca kevalassa vacādhippāyasahabhuno cittacetasikakalāpassa pāṇātipāto icchito santānavasena avaṭṭhitasseva paṭijānanato; santānavasena pavattamānānañca padīpādīnaṃ atthakiriyasiddhi dissatīti attheva pāṇātipātena kammunā baddho; tato eva yasmiṃ santāne pāṇātipātacetanā pavattā; tattheva santāne paccayantarasamavāyena bhavantare nirayādīsu tassā phalappavattīti nattheva katavināso akatabbhāgamo ca. Iminā nayena adinnādānādīnañca vasena yathārahaṃ kammapathasambandhavibhāvanā veditabbāti.

    สโพฺพ ทิฎฺฐิคฺคาโห ตณฺหาวสคตเสฺสว โหตีติ อาห ‘‘ตณฺหาธิปเตเยฺยนา’’ติฯ เตสุ เตสุ ธเมฺมสูติ มยา เทสิยมานทสฺสนธเมฺมสุฯ ปกติกมฺมฎฺฐานนฺติ ตสฺส เถรสฺส สนฺติเก คเหตฺวา ปริหริยมานกมฺมฎฺฐานํฯ อญฺญํ นวกมฺมฎฺฐานนฺติ ภควโต เทสนานุสาเรน คหิตํ อญฺญํ นวํ กมฺมฎฺฐานํฯ เสสํ สุวิเญฺญยฺยเมวฯ

    Sabbo diṭṭhiggāho taṇhāvasagatasseva hotīti āha ‘‘taṇhādhipateyyenā’’ti. Tesu tesu dhammesūti mayā desiyamānadassanadhammesu. Pakatikammaṭṭhānanti tassa therassa santike gahetvā parihariyamānakammaṭṭhānaṃ. Aññaṃ navakammaṭṭhānanti bhagavato desanānusārena gahitaṃ aññaṃ navaṃ kammaṭṭhānaṃ. Sesaṃ suviññeyyameva.

    มหาปุณฺณมสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตาฯ

    Mahāpuṇṇamasuttavaṇṇanāya līnatthappakāsanā samattā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya / ๙. มหาปุณฺณมสุตฺตํ • 9. Mahāpuṇṇamasuttaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) / ๙. มหาปุณฺณมสุตฺตวณฺณนา • 9. Mahāpuṇṇamasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact