Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) |
๗. มหาสฬายตนิกสุตฺตวณฺณนา
7. Mahāsaḷāyatanikasuttavaṇṇanā
๔๒๘. เอวํ เม สุตนฺติ มหาสฬายตนิกสุตฺตํฯ ตตฺถ มหาสฬายตนิกนฺติ มหนฺตานํ ฉนฺนํ อายตนานํ โชตกํ ธมฺมปริยายํฯ
428.Evaṃme sutanti mahāsaḷāyatanikasuttaṃ. Tattha mahāsaḷāyatanikanti mahantānaṃ channaṃ āyatanānaṃ jotakaṃ dhammapariyāyaṃ.
๔๒๙. อชานนฺติ สหวิปสฺสเนน มเคฺคน อชานโนฺตฯ อุปจยํ คจฺฉนฺตีติ วุฑฺฒิํ คจฺฉนฺติ, วสิภาวํ คจฺฉนฺตีติ อโตฺถฯ กายิกาติ ปญฺจทฺวาริกทรถาฯ เจตสิกาติ มโนทฺวาริกทรถาฯ สนฺตาปาทีสุปิ เอเสว นโยฯ
429.Ajānanti sahavipassanena maggena ajānanto. Upacayaṃ gacchantīti vuḍḍhiṃ gacchanti, vasibhāvaṃ gacchantīti attho. Kāyikāti pañcadvārikadarathā. Cetasikāti manodvārikadarathā. Santāpādīsupi eseva nayo.
๔๓๐. กายสุขนฺติ ปญฺจทฺวาริกสุขํฯ เจโตสุขนฺติ มโนทฺวาริกสุขํฯ เอตฺถ จ ปญฺจทฺวาริกชวเนน สมาปชฺชนํ วา วุฎฺฐานํ วา นตฺถิ, อุปฺปนฺนมตฺตกเมว โหติฯ มโนทฺวาริเกน สพฺพํ โหติฯ อยญฺจ มคฺควุฎฺฐานสฺส ปจฺจยภูตา พลววิปสฺสนา, สาปิ มโนทฺวาริเกเนว โหติฯ
430.Kāyasukhanti pañcadvārikasukhaṃ. Cetosukhanti manodvārikasukhaṃ. Ettha ca pañcadvārikajavanena samāpajjanaṃ vā vuṭṭhānaṃ vā natthi, uppannamattakameva hoti. Manodvārikena sabbaṃ hoti. Ayañca maggavuṭṭhānassa paccayabhūtā balavavipassanā, sāpi manodvārikeneva hoti.
๔๓๑. ตถาภูตสฺสาติ กุสลจิตฺตสมฺปยุตฺตเจโตสุขสมงฺคีภูตสฺสฯ ปุเพฺพว โข ปนสฺสาติ อสฺส ภิกฺขุโน วาจากมฺมนฺตาชีวา ปุพฺพสุทฺธิกา นาม อาทิโต ปฎฺฐาย ปริสุทฺธาว โหนฺติฯ ทิฎฺฐิสงฺกปฺปวายามสติสมาธิสงฺขาตานิ ปน ปญฺจงฺคานิ สพฺพตฺถกการาปกงฺคานิ นามฯ เอวํ โลกุตฺตรมโคฺค อฎฺฐงฺคิโก วา สตฺตงฺคิโก วา โหติฯ
431.Tathābhūtassāti kusalacittasampayuttacetosukhasamaṅgībhūtassa. Pubbeva kho panassāti assa bhikkhuno vācākammantājīvā pubbasuddhikā nāma ādito paṭṭhāya parisuddhāva honti. Diṭṭhisaṅkappavāyāmasatisamādhisaṅkhātāni pana pañcaṅgāni sabbatthakakārāpakaṅgāni nāma. Evaṃ lokuttaramaggo aṭṭhaṅgiko vā sattaṅgiko vā hoti.
วิตณฺฑวาที ปน ‘‘ยา ยถาภูตสฺส ทิฎฺฐี’’ติ อิมเมว สุตฺตปเทสํ คเหตฺวา ‘‘โลกุตฺตรมโคฺค ปญฺจงฺคิโก’’ติ วทติฯ โส – ‘‘เอวมสฺสายํ อริโย อฎฺฐงฺคิโก มโคฺค ภาวนาปาริปูริํ คจฺฉตี’’ติ อิมินา อนนฺตรวจเนเนว ปฎิเสธิตโพฺพฯ อุตฺตริ จ เอวํ สญฺญาเปตโพฺพ – โลกุตฺตรมโคฺค ปญฺจงฺคิโก นาม นตฺถิ, อิมานิ ปน ปญฺจ สพฺพตฺถกการาปกงฺคานิ มคฺคกฺขเณ วิรติวเสน ปูเรนฺติฯ ‘‘ยา จตูหิ วจีทุจฺจริเตหิ อารติ วิรตี’’ติ เอวํ วุตฺตวิรตีสุ หิ มิจฺฉาวาจํ ปชหติ, สมฺมาวาจํ ภาเวติ, เอวํ สมฺมาวาจํ ภาเวนฺตสฺส อิมานิ ปญฺจงฺคิกานิ น วินา, สเหว วิรติยา ปูเรนฺติฯ สมฺมากมฺมนฺตาชีเวสุปิ เอเสว นโยฯ อิติ วจีกมฺมาทีนิ อาทิโต ปฎฺฐาย ปริสุทฺธาเนว วฎฺฎนฺติฯ อิมานิ ปน ปญฺจ สพฺพตฺถกการาปกงฺคานิ วิรติวเสน ปริปูเรนฺตีติ ปญฺจงฺคิโก มโคฺค นาม นตฺถิฯ สุภทฺทสุเตฺตปิ (ที. นิ. ๒.๒๑๔) เจตํ วุตฺตํ – ‘‘ยสฺมิํ โข, สุภทฺท, ธมฺมวินเย อริโย อฎฺฐงฺคิโก มโคฺค’’ติฯ อเญฺญสุ จ อเนเกสุ สุตฺตสเตสุ อฎฺฐงฺคิโกว มโคฺค อาคโตติฯ
Vitaṇḍavādī pana ‘‘yā yathābhūtassa diṭṭhī’’ti imameva suttapadesaṃ gahetvā ‘‘lokuttaramaggo pañcaṅgiko’’ti vadati. So – ‘‘evamassāyaṃ ariyo aṭṭhaṅgiko maggo bhāvanāpāripūriṃ gacchatī’’ti iminā anantaravacaneneva paṭisedhitabbo. Uttari ca evaṃ saññāpetabbo – lokuttaramaggo pañcaṅgiko nāma natthi, imāni pana pañca sabbatthakakārāpakaṅgāni maggakkhaṇe virativasena pūrenti. ‘‘Yā catūhi vacīduccaritehi ārati viratī’’ti evaṃ vuttaviratīsu hi micchāvācaṃ pajahati, sammāvācaṃ bhāveti, evaṃ sammāvācaṃ bhāventassa imāni pañcaṅgikāni na vinā, saheva viratiyā pūrenti. Sammākammantājīvesupi eseva nayo. Iti vacīkammādīni ādito paṭṭhāya parisuddhāneva vaṭṭanti. Imāni pana pañca sabbatthakakārāpakaṅgāni virativasena paripūrentīti pañcaṅgiko maggo nāma natthi. Subhaddasuttepi (dī. ni. 2.214) cetaṃ vuttaṃ – ‘‘yasmiṃ kho, subhadda, dhammavinaye ariyo aṭṭhaṅgiko maggo’’ti. Aññesu ca anekesu suttasatesu aṭṭhaṅgikova maggo āgatoti.
๔๓๓. จตฺตาโรปิ สติปฎฺฐานาติ มคฺคสมฺปยุตฺตาว จตฺตาโร สติปฎฺฐานาฯ สมฺมปฺปธานาทีสุปิ เอเสว นโยฯ ยุคนนฺธาติ เอกกฺขณิกยุคนนฺธาฯ เอเตหิ อญฺญสฺมิํ ขเณ สมาปตฺติ, อญฺญสฺมิํ วิปสฺสนาติฯ เอวํ นานาขณิกาปิ โหนฺติ, อริยมเคฺค ปน เอกกฺขณิกาฯ
433.Cattāropi satipaṭṭhānāti maggasampayuttāva cattāro satipaṭṭhānā. Sammappadhānādīsupi eseva nayo. Yuganandhāti ekakkhaṇikayuganandhā. Etehi aññasmiṃ khaṇe samāpatti, aññasmiṃ vipassanāti. Evaṃ nānākhaṇikāpi honti, ariyamagge pana ekakkhaṇikā.
วิชฺชา จ วิมุตฺติ จาติ อรหตฺตมคฺควิชฺชา จ ผลวิมุตฺติ จฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติฯ
Vijjā ca vimutti cāti arahattamaggavijjā ca phalavimutti ca. Sesaṃ sabbattha uttānamevāti.
ปปญฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฎฺฐกถาย
Papañcasūdaniyā majjhimanikāyaṭṭhakathāya
มหาสฬายตนิกสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Mahāsaḷāyatanikasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya / ๗. มหาสฬายตนิกสุตฺตํ • 7. Mahāsaḷāyatanikasuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) / ๗. มหาสฬายตนิกสุตฺตวณฺณนา • 7. Mahāsaḷāyatanikasuttavaṇṇanā