Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā |
มหาสมุเทฺท อฎฺฐจฺฉริยกถาวณฺณนา
Mahāsamudde aṭṭhacchariyakathāvaṇṇanā
๓๘๔. อฎฺฐิเม, ภิกฺขเว, มหาสมุเทฺทติ (อุทา. อฎฺฐ. ๔๕) โก อนุสนฺธิ? ยฺวายํ อปริสุทฺธาย ปริสาย ปาติโมกฺขสฺส อนุเทฺทโส, โส อิมสฺมิํ ธมฺมวินเย อจฺฉริโย อพฺภุโต ธโมฺมติ ตํ อปเรหิ สตฺตหิ อจฺฉริยอพฺภุตธเมฺมหิ สทฺธิํ วิภชิตฺวา ทเสฺสตุกาโม ปฐมํ ตาว เตสํ อุปมาภาเวน มหาสมุเทฺท อจฺฉริยอพฺภุตธเมฺม ทเสฺสโนฺต สตฺถา ‘‘อฎฺฐิเม, ภิกฺขเว, มหาสมุเทฺท’’ติอาทิมาหฯ อสุราติ เทวา วิย น สุรนฺติ น อีสนฺติ น วิโรจนฺตีติ อสุราฯ สุรา นาม เทวา, เตสํ ปฎิปกฺขาติ วา อสุรา, เวปจิตฺติปหาราทาทโยฯ เตสํ ภวนํ สิเนรุสฺส เหฎฺฐาภาเค, เต ตตฺถ ปวิสนฺตา นิกฺขมนฺตา สิเนรุปาเท มณฺฑปาทีนิ นิมฺมินิตฺวา กีฬนฺตาว อภิรมนฺติฯ สา ตตฺถ เตสํ อภิรติ อิเม คุเณ ทิสฺวาติ อาห ‘‘เย ทิสฺวา ทิสฺวา อสุรา มหาสมุเทฺท อภิรมนฺตี’’ติฯ ตตฺถ อภิรมนฺตีติ รติํ วินฺทนฺติ, อนุกฺกณฺฐมานา วสนฺตีติ อโตฺถฯ
384.Aṭṭhime, bhikkhave, mahāsamuddeti (udā. aṭṭha. 45) ko anusandhi? Yvāyaṃ aparisuddhāya parisāya pātimokkhassa anuddeso, so imasmiṃ dhammavinaye acchariyo abbhuto dhammoti taṃ aparehi sattahi acchariyaabbhutadhammehi saddhiṃ vibhajitvā dassetukāmo paṭhamaṃ tāva tesaṃ upamābhāvena mahāsamudde acchariyaabbhutadhamme dassento satthā ‘‘aṭṭhime, bhikkhave, mahāsamudde’’tiādimāha. Asurāti devā viya na suranti na īsanti na virocantīti asurā. Surā nāma devā, tesaṃ paṭipakkhāti vā asurā, vepacittipahārādādayo. Tesaṃ bhavanaṃ sinerussa heṭṭhābhāge, te tattha pavisantā nikkhamantā sinerupāde maṇḍapādīni nimminitvā kīḷantāva abhiramanti. Sā tattha tesaṃ abhirati ime guṇe disvāti āha ‘‘ye disvā disvā asurā mahāsamudde abhiramantī’’ti. Tattha abhiramantīti ratiṃ vindanti, anukkaṇṭhamānā vasantīti attho.
อนุปุพฺพนิโนฺนติอาทีนิ สพฺพานิ อนุปฎิปาฎิยา นินฺนภาวเสฺสว เววจนานิฯ น อายตเกเนว ปปาโตติ นจฺฉินฺนตฎมหาโสโพฺภ วิย อาทิโต เอว ปปาโตฯ โส หิ ตีรเทสโต ปฎฺฐาย เอกงฺคุลทฺวงฺคุลวิทตฺถิรตนยฎฺฐิอุสภอฑฺฒคาวุตคาวุตอฑฺฒโยชนโยชนาทิวเสน คมฺภีโร หุตฺวา คจฺฉโนฺต คจฺฉโนฺต สิเนรุปาทมูเล จตุราสีติโยชนสหสฺสคมฺภีโร หุตฺวา ฐิโตติ ทเสฺสติฯ
Anupubbaninnotiādīni sabbāni anupaṭipāṭiyā ninnabhāvasseva vevacanāni. Na āyatakeneva papātoti nacchinnataṭamahāsobbho viya ādito eva papāto. So hi tīradesato paṭṭhāya ekaṅguladvaṅgulavidatthiratanayaṭṭhiusabhaaḍḍhagāvutagāvutaaḍḍhayojanayojanādivasena gambhīro hutvā gacchanto gacchanto sinerupādamūle caturāsītiyojanasahassagambhīro hutvā ṭhitoti dasseti.
ฐิตธโมฺมติ ฐิตสภาโว อวฎฺฐิตสภาโวฯ กุณเปนาติ เยน เกนจิ หตฺถิอสฺสาทิกเฬวเรนฯ วาเหตีติ หเตฺถน คเหตฺวา วิย วีจิปฺปหาเรเนว ถเล ขิปติฯ คงฺคา ยมุนาติ อโนตตฺตทหสฺส ทกฺขิณมุขโต นิกฺขนฺตนที ปญฺจธารา หุตฺวา ปวตฺตฎฺฐาเน คงฺคาติอาทินา ปญฺจธา สงฺขํ คตาฯ ตตฺถ นที นินฺนคาติอาทิกํ โคตฺตํ, คงฺคา ยมุนาติอาทิกํ นามํฯ สวนฺติโยติ ยา กาจิ สวมานา สนฺทมานา คจฺฉนฺติโย มหานทิโย วา กุนฺนทิโย วาฯ อเปฺปนฺตีติ อลฺลียนฺติ โอสรนฺติฯ ธาราติ วุฎฺฐิธาราฯ ปูรตฺตนฺติ ปุณฺณภาโวฯ มหาสมุทฺทสฺส หิ อยํ ธมฺมตา – ‘‘อิมสฺมิํ กาเล เทโว มโนฺท ชาโต, ชาลกฺขิปาทีนิ อาทาย มจฺฉกจฺฉเป คณฺหิสฺสามี’’ติ วา ‘‘อิมสฺมิํ กาเล อติมหนฺตา วุฎฺฐิ, ลภิสฺสาม นุ โข ปิฎฺฐิปสารณฎฺฐาน’’นฺติ วา น สกฺกา วตฺตุํฯ ปฐมกปฺปิกกาลโต ปฎฺฐาย หิ ตีรํ ภสฺสิตฺวา สิเนรุเมขลํ อาหจฺจ อุทกํ ฐิตํ, ตโต เอกงฺคุลมตฺตมฺปิ อุทกํ เนว เหฎฺฐา โอตรติ, น อุทฺธํ อุตฺตรติฯ เอกรโสติ อสมฺภินฺนรโสฯ
Ṭhitadhammoti ṭhitasabhāvo avaṭṭhitasabhāvo. Kuṇapenāti yena kenaci hatthiassādikaḷevarena. Vāhetīti hatthena gahetvā viya vīcippahāreneva thale khipati. Gaṅgā yamunāti anotattadahassa dakkhiṇamukhato nikkhantanadī pañcadhārā hutvā pavattaṭṭhāne gaṅgātiādinā pañcadhā saṅkhaṃ gatā. Tattha nadī ninnagātiādikaṃ gottaṃ, gaṅgā yamunātiādikaṃ nāmaṃ. Savantiyoti yā kāci savamānā sandamānā gacchantiyo mahānadiyo vā kunnadiyo vā. Appentīti allīyanti osaranti. Dhārāti vuṭṭhidhārā. Pūrattanti puṇṇabhāvo. Mahāsamuddassa hi ayaṃ dhammatā – ‘‘imasmiṃ kāle devo mando jāto, jālakkhipādīni ādāya macchakacchape gaṇhissāmī’’ti vā ‘‘imasmiṃ kāle atimahantā vuṭṭhi, labhissāma nu kho piṭṭhipasāraṇaṭṭhāna’’nti vā na sakkā vattuṃ. Paṭhamakappikakālato paṭṭhāya hi tīraṃ bhassitvā sinerumekhalaṃ āhacca udakaṃ ṭhitaṃ, tato ekaṅgulamattampi udakaṃ neva heṭṭhā otarati, na uddhaṃ uttarati. Ekarasoti asambhinnaraso.
มุตฺตาติ ขุทฺทกมหนฺตวฎฺฎทีฆาทิเภทา อเนกวิธมุตฺตาฯ มณีติ รตฺตนีลาทิเภโท อเนกวิโธ มณิฯ เวฬุริโยติ วํสวณฺณสิรีสปุปฺผวณฺณาทิสณฺฐานโต อเนกวิโธฯ สโงฺขติ ทกฺขิณาวฎฺฎกตุมฺพกุจฺฉิธมนสงฺขาทิเภโท อเนกวิโธฯ สิลาติ เสตกาฬมุคฺควณฺณาทิเภทา อเนกวิธาฯ ปวาฬมฺปิ ขุทฺทกมหนฺตรตฺตฆนรตฺตาทิเภทํ อเนกวิธํฯ โลหิตโก ปทุมราคาทิเภโท อเนกวิโธฯ มสารคลฺลํ กพรมณิฯ จิตฺตผลิกนฺติปิ วทนฺติฯ มหตํ ภูตานนฺติ มหนฺตานํ สตฺตานํฯ ติมิ ติมิงฺคโล ติมิติมิงฺคโลติ ติโสฺส มจฺฉชาติโยฯ ติมิํ คิลนสมโตฺถ ติมิงฺคโล, ติมิญฺจ ติมิงฺคลญฺจ คิลนสมโตฺถ ติมิติมิงฺคโลติ วทนฺติฯ นาคาติ อูมิปิฎฺฐิวาสิโนปิ วิมานฎฺฐกนาคาปิฯ
Muttāti khuddakamahantavaṭṭadīghādibhedā anekavidhamuttā. Maṇīti rattanīlādibhedo anekavidho maṇi. Veḷuriyoti vaṃsavaṇṇasirīsapupphavaṇṇādisaṇṭhānato anekavidho. Saṅkhoti dakkhiṇāvaṭṭakatumbakucchidhamanasaṅkhādibhedo anekavidho. Silāti setakāḷamuggavaṇṇādibhedā anekavidhā. Pavāḷampi khuddakamahantarattaghanarattādibhedaṃ anekavidhaṃ. Lohitako padumarāgādibhedo anekavidho. Masāragallaṃ kabaramaṇi. Cittaphalikantipi vadanti. Mahataṃ bhūtānanti mahantānaṃ sattānaṃ. Timi timiṅgalo timitimiṅgaloti tisso macchajātiyo. Timiṃ gilanasamattho timiṅgalo, timiñca timiṅgalañca gilanasamattho timitimiṅgaloti vadanti. Nāgāti ūmipiṭṭhivāsinopi vimānaṭṭhakanāgāpi.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / จูฬวคฺคปาฬิ • Cūḷavaggapāḷi / ๒. มหาสมุเทฺทอฎฺฐจฺฉริยํ • 2. Mahāsamuddeaṭṭhacchariyaṃ
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / จูฬวคฺค-อฎฺฐกถา • Cūḷavagga-aṭṭhakathā / ปาติโมกฺขุเทฺทสยาจนกถา • Pātimokkhuddesayācanakathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ปาติโมกฺขุเทฺทสยาจนกถาวณฺณนา • Pātimokkhuddesayācanakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ปาติโมกฺขุเทฺทสยาจนกถาวณฺณนา • Pātimokkhuddesayācanakathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๑. ปาติโมกฺขุเทฺทสยาจนกถา • 1. Pātimokkhuddesayācanakathā