Tipiṭaka / Tipiṭaka (English) / Dīgha Nikāya, English translation

    ทีฆ นิกาย ๘

    Long Discourses 8

    มหาสีหนาทสุตฺต

    The Lion’s Roar to the Naked Ascetic Kassapa

    เอวํ เม สุตํ—เอกํ สมยํ ภควา อุรุญฺญายํ วิหรติ กณฺณกตฺถเล มิคทาเยฯ

    So I have heard. At one time the Buddha was staying near Ujuñña, in the deer park at Kaṇṇakatthala.

    อถ โข อเจโล กสฺสโป เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธึ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐาสิฯ เอกมนฺตํ ฐิโต โข อเจโล กสฺสโป ภควนฺตํ เอตทโวจ:

    Then the naked ascetic Kassapa went up to the Buddha and exchanged greetings with him. When the greetings and polite conversation were over, he stood to one side, and said to the Buddha:

    “สุตํ เมตํ, โภ โคตม: ‘สมโณ โคตโม สพฺพํ ตปํ ครหติ, สพฺพํ ตปสฺสึ ลูขาชีวึ เอกํเสน อุปกฺโกสติ อุปวทตี'ติฯ เย เต, โภ โคตม, เอวมาหํสุ: ‘สมโณ โคตโม สพฺพํ ตปํ ครหติ, สพฺพํ ตปสฺสึ ลูขาชีวึ เอกํเสน อุปกฺโกสติ อุปวทตี'ติ, กจฺจิ เต โภโต โคตมสฺส วุตฺตวาทิโน, น จ ภวนฺตํ โคตมํ อภูเตน อพฺภาจิกฺขนฺติ, ธมฺมสฺส จานุธมฺมํ พฺยากโรนฺติ, น จ โกจิ สหธมฺมิโก วาทานุวาโท คารยฺหํ ฐานํ อาคจฺฉติ? อนพฺภกฺขาตุกามา หิ มยํ ภวนฺตํ โคตมนฺ”ติฯ

    “Master Gotama, I have heard the following: ‘The ascetic Gotama criticizes all fervent mortification. He categorically condemns and denounces all fervent mortifiers who live rough.’ Do those who say this repeat what the Buddha has said, and not misrepresent him with an untruth? Is their explanation in line with the teaching? Are there any legitimate grounds for rebuke and criticism? For we don’t want to misrepresent Master Gotama.”

    “เย เต, กสฺสป, เอวมาหํสุ: ‘สมโณ โคตโม สพฺพํ ตปํ ครหติ, สพฺพํ ตปสฺสึ ลูขาชีวึ เอกํเสน อุปกฺโกสติ อุปวทตี'ติ, น เม เต วุตฺตวาทิโน, อพฺภาจิกฺขนฺติ จ ปน มํ เต อสตา อภูเตนฯ อิธาหํ, กสฺสป, เอกจฺจํ ตปสฺสึ ลูขาชีวึ ปสฺสามิ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนํฯ อิธ ปนาหํ, กสฺสป, เอกจฺจํ ตปสฺสึ ลูขาชีวึ ปสฺสามิ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนํฯ

    “Kassapa, those who say this do not repeat what I have said. They misrepresent me with what is false, baseless, and untrue. With clairvoyance that is purified and superhuman, I see some fervent mortifier who lives rough reborn in a place of loss, a bad place, the underworld, hell. But I see another fervent mortifier who lives rough reborn in a good place, a heavenly realm.

    อิธาหํ, กสฺสป, เอกจฺจํ ตปสฺสึ อปฺปทุกฺขวิหารึ ปสฺสามิ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคตึ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนํฯ อิธ ปนาหํ, กสฺสป, เอกจฺจํ ตปสฺสึ อปฺปทุกฺขวิหารึ ปสฺสามิ ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคตึ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนํฯ โยหํ, กสฺสป, อิเมสํ ตปสฺสีนํ เอวํ อาคติญฺจ คติญฺจ จุติญฺจ อุปปตฺติญฺจ ยถาภูตํ ปชานามิ, โสหํ กึ สพฺพํ ตปํ ครหิสฺสามิ, สพฺพํ วา ตปสฺสึ ลูขาชีวึ เอกํเสน อุปกฺโกสิสฺสามิ อุปวทิสฺสามิ?

    I see some fervent mortifier who takes it easy reborn in a place of loss. But I see another fervent mortifier who takes it easy reborn in a good place, a heavenly realm. Since I truly understand the coming and going, passing away and rebirth of these fervent mortifiers in this way, how could I criticize all forms of mortification, or categorically condemn and denounce those fervent mortifiers who live rough?

    สนฺติ, กสฺสป, เอเก สมณพฺราหฺมณา ปณฺฑิตา นิปุณา กตปรปฺปวาทา วาลเวธิรูปาฯ เต ภินฺทนฺตา มญฺเญ จรนฺติ ปญฺญาคเตน ทิฏฺฐิคตานิฯ เตหิปิ เม สทฺธึ เอกจฺเจสุ ฐาเนสุ สเมติ, เอกจฺเจสุ ฐาเนสุ น สเมติฯ ยํ เต เอกจฺจํ วทนฺติ ‘สาธู'ติ, มยมฺปิ ตํ เอกจฺจํ วเทม ‘สาธู'ติฯ ยํ เต เอกจฺจํ วทนฺติ ‘น สาธู'ติ, มยมฺปิ ตํ เอกจฺจํ วเทม ‘น สาธู'ติฯ ยํ เต เอกจฺจํ วทนฺติ ‘สาธู'ติ, มยํ ตํ เอกจฺจํ วเทม ‘น สาธู'ติฯ ยํ เต เอกจฺจํ วทนฺติ ‘น สาธู'ติ, มยํ ตํ เอกจฺจํ วเทม ‘สาธู'ติฯ

    There are some clever ascetics and brahmins who are subtle, accomplished in the doctrines of others, hair-splitters. You’d think they live to demolish convictions with their intellect. They agree with me in some matters and disagree in others. Some of the things that they applaud, I also applaud. Some of the things that they don’t applaud, I also don’t applaud. But some of the things that they applaud, I don’t applaud. And some of the things that they don’t applaud, I do applaud.

    ยํ มยํ เอกจฺจํ วเทม ‘สาธู'ติ, ปเรปิ ตํ เอกจฺจํ วทนฺติ ‘สาธู'ติฯ ยํ มยํ เอกจฺจํ วเทม ‘น สาธู'ติ, ปเรปิ ตํ เอกจฺจํ วทนฺติ ‘น สาธู'ติฯ ยํ มยํ เอกจฺจํ วเทม ‘น สาธู'ติ, ปเร ตํ เอกจฺจํ วทนฺติ ‘สาธู'ติฯ ยํ มยํ เอกจฺจํ วเทม ‘สาธู'ติ, ปเร ตํ เอกจฺจํ วทนฺติ ‘น สาธู'ติฯ

    Some of the things that I applaud, others also applaud. Some of the things that I don’t applaud, they also don’t applaud. But some of the things that I don’t applaud, others do applaud. And some of the things that I do applaud, others don’t applaud.

    ๑ฯ สมนุยุญฺชาปนกถา

    1. Examination

    ตฺยาหํ อุปสงฺกมิตฺวา เอวํ วทามิ: ‘เยสุ โน, อาวุโส, ฐาเนสุ น สเมติ, ติฏฺฐนฺตุ ตานิ ฐานานิฯ เยสุ ฐาเนสุ สเมติ, ตตฺถ วิญฺญู สมนุยุญฺชนฺตํ สมนุคาหนฺตํ สมนุภาสนฺตํ สตฺถารา วา สตฺถารํ สงฺเฆน วา สงฺฆํ:

    I go up to them and say: ‘Let us leave aside those matters on which we disagree. But there are some matters on which we agree. Regarding these, sensible people, pursuing, pressing, and grilling, would compare teacher with teacher or community with community:

    “เย อิเมสํ ภวตํ ธมฺมา อกุสลา อกุสลสงฺขาตา, สาวชฺชา สาวชฺชสงฺขาตา, อเสวิตพฺพา อเสวิตพฺพสงฺขาตา, น อลมริยา น อลมริยสงฺขาตา, กณฺหา กณฺหสงฺขาตาฯ โก อิเม ธมฺเม อนวเสสํ ปหาย วตฺตติ, สมโณ วา โคตโม, ปเร วา ปน โภนฺโต คณาจริยา”ติ?

    “There are things that are unskillful, blameworthy, not to be cultivated, unworthy of the noble ones, and dark—and are reckoned as such. Who proceeds having totally given these things up: the ascetic Gotama, or the teachers of other communities?”’

    ฐานํ โข ปเนตํ, กสฺสป, วิชฺชติ, ยํ วิญฺญู สมนุยุญฺชนฺตา สมนุคาหนฺตา สมนุภาสนฺตา เอวํ วเทยฺยุํ: ‘เย อิเมสํ ภวตํ ธมฺมา อกุสลา อกุสลสงฺขาตา, สาวชฺชา สาวชฺชสงฺขาตา, อเสวิตพฺพา อเสวิตพฺพสงฺขาตา, น อลมริยา น อลมริยสงฺขาตา, กณฺหา กณฺหสงฺขาตาฯ สมโณ โคตโม อิเม ธมฺเม อนวเสสํ ปหาย วตฺตติ, ยํ วา ปน โภนฺโต ปเร คณาจริยา'ติฯ อิติห, กสฺสป, วิญฺญู สมนุยุญฺชนฺตา สมนุคาหนฺตา สมนุภาสนฺตา อเมฺหว ตตฺถ เยภุเยฺยน ปสํเสยฺยุํฯ

    It’s possible that they might say: ‘The ascetic Gotama proceeds having totally given those unskillful things up, compared with the teachers of other communities.’ And that’s how, when sensible people pursue the matter, they will mostly praise us.

    อปรมฺปิ โน, กสฺสป, วิญฺญู สมนุยุญฺชนฺตํ สมนุคาหนฺตํ สมนุภาสนฺตํ สตฺถารา วา สตฺถารํ สงฺเฆน วา สงฺฆํ: ‘เย อิเมสํ ภวตํ ธมฺมา กุสลา กุสลสงฺขาตา, อนวชฺชา อนวชฺชสงฺขาตา, เสวิตพฺพา เสวิตพฺพสงฺขาตา, อลมริยา อลมริยสงฺขาตา, สุกฺกา สุกฺกสงฺขาตาฯ โก อิเม ธมฺเม อนวเสสํ สมาทาย วตฺตติ, สมโณ วา โคตโม, ปเร วา ปน โภนฺโต คณาจริยา'ติ?

    In addition, sensible people, pursuing, pressing, and grilling, would compare teacher with teacher or community with community: ‘There are things that are skillful, blameless, worth cultivating, worthy of the noble ones, and bright—and are reckoned as such. Who proceeds having totally undertaken these things: the ascetic Gotama, or the teachers of other communities?’

    ฐานํ โข ปเนตํ, กสฺสป, วิชฺชติ, ยํ วิญฺญู สมนุยุญฺชนฺตา สมนุคาหนฺตา สมนุภาสนฺตา เอวํ วเทยฺยุํ: ‘เย อิเมสํ ภวตํ ธมฺมา กุสลา กุสลสงฺขาตา, อนวชฺชา อนวชฺชสงฺขาตา, เสวิตพฺพา เสวิตพฺพสงฺขาตา, อลมริยา อลมริยสงฺขาตา, สุกฺกา สุกฺกสงฺขาตาฯ สมโณ โคตโม อิเม ธมฺเม อนวเสสํ สมาทาย วตฺตติ, ยํ วา ปน โภนฺโต ปเร คณาจริยา'ติฯ อิติห, กสฺสป, วิญฺญู สมนุยุญฺชนฺตา สมนุคาหนฺตา สมนุภาสนฺตา อเมฺหว ตตฺถ เยภุเยฺยน ปสํเสยฺยุํฯ

    It’s possible that they might say: ‘The ascetic Gotama proceeds having totally undertaken these things, compared with the teachers of other communities.’ And that’s how, when sensible people pursue the matter, they will mostly praise us.

    อปรมฺปิ โน, กสฺสป, วิญฺญู สมนุยุญฺชนฺตํ สมนุคาหนฺตํ สมนุภาสนฺตํ สตฺถารา วา สตฺถารํ สงฺเฆน วา สงฺฆํ: ‘เย อิเมสํ ภวตํ ธมฺมา อกุสลา อกุสลสงฺขาตา, สาวชฺชา สาวชฺชสงฺขาตา, อเสวิตพฺพา อเสวิตพฺพสงฺขาตา, น อลมริยา น อลมริยสงฺขาตา, กณฺหา กณฺหสงฺขาตาฯ โก อิเม ธมฺเม อนวเสสํ ปหาย วตฺตติ, โคตมสาวกสงฺโฆ วา, ปเร วา ปน โภนฺโต คณาจริยสาวกสงฺฆา'ติ?

    In addition, sensible people, pursuing, pressing, and grilling, would compare teacher with teacher or community with community: ‘There are things that are unskillful, blameworthy, not to be cultivated, unworthy of the noble ones, and dark—and are reckoned as such. Who proceeds having totally given these things up: the ascetic Gotama’s disciples, or the disciples of other teachers?’

    ฐานํ โข ปเนตํ, กสฺสป, วิชฺชติ, ยํ วิญฺญู สมนุยุญฺชนฺตา สมนุคาหนฺตา สมนุภาสนฺตา เอวํ วเทยฺยุํ: ‘เย อิเมสํ ภวตํ ธมฺมา อกุสลา อกุสลสงฺขาตา, สาวชฺชา สาวชฺชสงฺขาตา, อเสวิตพฺพา อเสวิตพฺพสงฺขาตา, น อลมริยา น อลมริยสงฺขาตา, กณฺหา กณฺหสงฺขาตาฯ โคตมสาวกสงฺโฆ อิเม ธมฺเม อนวเสสํ ปหาย วตฺตติ, ยํ วา ปน โภนฺโต ปเร คณาจริยสาวกสงฺฆา'ติฯ อิติห, กสฺสป, วิญฺญู สมนุยุญฺชนฺตา สมนุคาหนฺตา สมนุภาสนฺตา อเมฺหว ตตฺถ เยภุเยฺยน ปสํเสยฺยุํฯ

    It’s possible that they might say: ‘The ascetic Gotama’s disciples proceed having totally given those unskillful things up, compared with the disciples of other teachers.’ And that’s how, when sensible people pursue the matter, they will mostly praise us.

    อปรมฺปิ โน, กสฺสป, วิญฺญู สมนุยุญฺชนฺตํ สมนุคาหนฺตํ สมนุภาสนฺตํ สตฺถารา วา สตฺถารํ สงฺเฆน วา สงฺฆํฯ ‘เย อิเมสํ ภวตํ ธมฺมา กุสลา กุสลสงฺขาตา, อนวชฺชา อนวชฺชสงฺขาตา, เสวิตพฺพา เสวิตพฺพสงฺขาตา, อลมริยา อลมริยสงฺขาตา, สุกฺกา สุกฺกสงฺขาตาฯ โก อิเม ธมฺเม อนวเสสํ สมาทาย วตฺตติ, โคตมสาวกสงฺโฆ วา, ปเร วา ปน โภนฺโต คณาจริยสาวกสงฺฆา'ติ?

    In addition, sensible people, pursuing, pressing, and grilling, would compare teacher with teacher or community with community: ‘There are things that are skillful, blameless, worth cultivating, worthy of the noble ones, and bright—and are reckoned as such. Who proceeds having totally undertaken these things: the ascetic Gotama’s disciples, or the disciples of other teachers?’

    ฐานํ โข ปเนตํ, กสฺสป, วิชฺชติ, ยํ วิญฺญู สมนุยุญฺชนฺตา สมนุคาหนฺตา สมนุภาสนฺตา เอวํ วเทยฺยุํ: ‘เย อิเมสํ ภวตํ ธมฺมา กุสลา กุสลสงฺขาตา, อนวชฺชา อนวชฺชสงฺขาตา, เสวิตพฺพา เสวิตพฺพสงฺขาตา, อลมริยา อลมริยสงฺขาตา, สุกฺกา สุกฺกสงฺขาตาฯ โคตมสาวกสงฺโฆ อิเม ธมฺเม อนวเสสํ สมาทาย วตฺตติ, ยํ วา ปน โภนฺโต ปเร คณาจริยสาวกสงฺฆา'ติฯ อิติห, กสฺสป, วิญฺญู สมนุยุญฺชนฺตา สมนุคาหนฺตา สมนุภาสนฺตา อเมฺหว ตตฺถ เยภุเยฺยน ปสํเสยฺยุํฯ

    It’s possible that they might say: ‘The ascetic Gotama’s disciples proceed having totally undertaken those skillful things, compared with the disciples of other teachers.’ And that’s how, when sensible people pursue the matter, they will mostly praise us.

    ๒ฯ อริยอฏฺฐงฺคิกมคฺค

    2. The Noble Eightfold Path

    อตฺถิ, กสฺสป, มคฺโค อตฺถิ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺโน สามญฺเญว ญสฺสติ สามํ ทกฺขติ: ‘สมโณว โคตโม กาลวาที ภูตวาที อตฺถวาที ธมฺมวาที วินยวาที'ติฯ กตโม จ, กสฺสป, มคฺโค, กตมา จ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺโน สามญฺเญว ญสฺสติ สามํ ทกฺขติ: ‘สมโณว โคตโม กาลวาที ภูตวาที อตฺถวาที ธมฺมวาที วินยวาที'ติ? อยเมว อริโย อฏฺฐงฺคิโก มคฺโคฯ เสยฺยถิทํ—สมฺมาทิฏฺฐิ สมฺมาสงฺกปฺโป สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺโต สมฺมาอาชีโว สมฺมาวายาโม สมฺมาสติ สมฺมาสมาธิฯ อยํ โข, กสฺสป, มคฺโค, อยํ ปฏิปทา, ยถาปฏิปนฺโน สามญฺเญว ญสฺสติ สามํ ทกฺขติ ‘สมโณว โคตโม กาลวาที ภูตวาที อตฺถวาที ธมฺมวาที วินยวาที'”ติฯ

    There is, Kassapa, a path, there is a practice, practicing in accordance with which you will know and see for yourself: ‘Only the ascetic Gotama’s words are timely, true, and meaningful, in line with the teaching and training.’ And what is that path? It is simply this noble eightfold path, that is: right view, right thought, right speech, right action, right livelihood, right effort, right mindfulness, and right immersion. This is the path, this is the practice, practicing in accordance with which you will know and see for yourself: ‘Only the ascetic Gotama’s words are timely, true, and meaningful, in line with the teaching and training.’”

    ๓ฯ ตโปปกฺกมกถา

    3. The Courses of Fervent Mortification

    เอวํ วุตฺเต, อเจโล กสฺสโป ภควนฺตํ เอตทโวจ:

    When he had spoken, Kassapa said to the Buddha:

    “อิเมปิ โข, อาวุโส โคตม, ตโปปกฺกมา เอเตสํ สมณพฺราหฺมณานํ สามญฺญสงฺขาตา จ พฺรหฺมญฺญสงฺขาตา จฯ อเจลโก โหติ, มุตฺตาจาโร, หตฺถาปเลขโน, นเอหิภทฺทนฺติโก, นติฏฺฐภทฺทนฺติโก, นาภิหฏํ, น อุทฺทิสฺสกตํ, น นิมนฺตนํ สาทิยติฯ โส น กุมฺภิมุขา ปฏิคฺคณฺหาติ, น กโฬปิมุขา ปฏิคฺคณฺหาติ, น เอฬกมนฺตรํ, น ทณฺฑมนฺตรํ, น มุสลมนฺตรํ, น ทฺวินฺนํ ภุญฺชมานานํ, น คพฺภินิยา, น ปายมานาย, น ปุริสนฺตรคตาย, น สงฺกิตฺตีสุ, น ยตฺถ สา อุปฏฺฐิโต โหติ, น ยตฺถ มกฺขิกา สณฺฑสณฺฑจารินี, น มจฺฉํ, น มํสํ, น สุรํ, น เมรยํ, น ถุโสทกํ ปิวติฯ โส เอกาคาริโก วา โหติ เอกาโลปิโก, ทฺวาคาริโก วา โหติ ทฺวาโลปิโก … สตฺตาคาริโก วา โหติ สตฺตาโลปิโก; เอกิสฺสาปิ ทตฺติยา ยาเปติ, ทฺวีหิปิ ทตฺตีหิ ยาเปติ … สตฺตหิปิ ทตฺตีหิ ยาเปติ; เอกาหิกมฺปิ อาหารํ อาหาเรติ, ทฺวีหิกมฺปิ อาหารํ อาหาเรติ … สตฺตาหิกมฺปิ อาหารํ อาหาเรติฯ อิติ เอวรูปํ อทฺธมาสิกมฺปิ ปริยายภตฺตโภชนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติฯ

    “Friend Gotama, those ascetics and brahmins consider these courses of fervent mortification to be what makes someone a true ascetic or brahmin. They go naked, ignoring conventions. They lick their hands, and don’t come or wait when called. They don’t consent to food brought to them, or food prepared on purpose for them, or an invitation for a meal. They don’t receive anything from a pot or bowl; or from someone who keeps sheep, or who has a weapon or a shovel in their home; or where a couple is eating; or where there is a woman who is pregnant, breastfeeding, or who has a man in her home; or where there’s a dog waiting or flies buzzing. They accept no fish or meat or liquor or wine, and drink no beer. They go to just one house for alms, taking just one mouthful, or two houses and two mouthfuls, up to seven houses and seven mouthfuls. They feed on one saucer a day, two saucers a day, up to seven saucers a day. They eat once a day, once every second day, up to once a week, and so on, even up to once a fortnight. They live committed to the practice of eating food at set intervals.

    อิเมปิ โข, อาวุโส โคตม, ตโปปกฺกมา เอเตสํ สมณพฺราหฺมณานํ สามญฺญสงฺขาตา จ พฺรหฺมญฺญสงฺขาตา จฯ สากภกฺโข วา โหติ, สามากภกฺโข วา โหติ, นีวารภกฺโข วา โหติ, ททฺทุลภกฺโข วา โหติ, หฏภกฺโข วา โหติ, กณภกฺโข วา โหติ, อาจามภกฺโข วา โหติ, ปิญฺญากภกฺโข วา โหติ, ติณภกฺโข วา โหติ, โคมยภกฺโข วา โหติ, วนมูลผลาหาโร ยาเปติ ปวตฺตผลโภชีฯ

    Those ascetics and brahmins also consider these courses of fervent mortification to be what makes someone a true ascetic or brahmin. They eat herbs, millet, wild rice, poor rice, water lettuce, rice bran, scum from boiling rice, sesame flour, grass, or cow dung. They survive on forest roots and fruits, or eating fallen fruit.

    อิเมปิ โข, อาวุโส โคตม, ตโปปกฺกมา เอเตสํ สมณพฺราหฺมณานํ สามญฺญสงฺขาตา จ พฺรหฺมญฺญสงฺขาตา จฯ สาณานิปิ ธาเรติ, มสาณานิปิ ธาเรติ, ฉวทุสฺสานิปิ ธาเรติ, ปํสุกูลานิปิ ธาเรติ, ติรีฏานิปิ ธาเรติ, อชินมฺปิ ธาเรติ, อชินกฺขิปมฺปิ ธาเรติ, กุสจีรมฺปิ ธาเรติ, วากจีรมฺปิ ธาเรติ, ผลกจีรมฺปิ ธาเรติ, เกสกมฺพลมฺปิ ธาเรติ, วาฬกมฺพลมฺปิ ธาเรติ, อุลูกปกฺขิกมฺปิ ธาเรติ, เกสมสฺสุโลจโกปิ โหติ เกสมสฺสุโลจนานุโยคมนุยุตฺโต, อุพฺภฏฺฐโกปิ โหติ อาสนปฏิกฺขิตฺโต, อุกฺกุฏิโกปิ โหติ อุกฺกุฏิกปฺปธานมนุยุตฺโต, กณฺฏกาปสฺสยิโกปิ โหติ กณฺฏกาปสฺสเย เสยฺยํ กปฺเปติ, ผลกเสยฺยมฺปิ กปฺเปติ, ถณฺฑิลเสยฺยมฺปิ กปฺเปติ, เอกปสฺสยิโกปิ โหติ รโชชลฺลธโร, อพฺโภกาสิโกปิ โหติ ยถาสนฺถติโก, เวกฏิโกปิ โหติ วิกฏโภชนานุโยคมนุยุตฺโต, อปานโกปิ โหติ อปานกตฺตมนุยุตฺโต, สายตติยกมฺปิ อุทโกโรหนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรตี”ติฯ

    Those ascetics and brahmins also consider these courses of fervent mortification to be what makes someone a true ascetic or brahmin. They wear robes of sunn hemp, mixed hemp, corpse-wrapping cloth, rags, lodh tree bark, antelope hide (whole or in strips), kusa grass, bark, wood-chips, human hair, horse-tail hair, or owls’ wings. They tear out hair and beard, committed to this practice. They constantly stand, refusing seats. They squat, committed to persisting in the squatting position. They lie on a mat of thorns, making a mat of thorns their bed. They make their bed on a plank, or the bare ground. They lie only on one side. They wear dust and dirt. They stay in the open air. They sleep wherever they lay their mat. They eat unnatural things, committed to the practice of eating unnatural foods. They don’t drink, committed to the practice of not drinking liquids. They’re committed to the practice of immersion in water three times a day, including the evening.”

    ๔ฯ ตโปปกฺกมนิรตฺถกถา

    4. The Uselessness of Fervent Mortification

    “อเจลโก เจปิ, กสฺสป, โหติ, มุตฺตาจาโร, หตฺถาปเลขโน …เป… อิติ เอวรูปํ อทฺธมาสิกมฺปิ ปริยายภตฺตโภชนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติฯ ตสฺส จายํ สีลสมฺปทา จิตฺตสมฺปทา ปญฺญาสมฺปทา อภาวิตา โหติ อสจฺฉิกตาฯ อถ โข โส อารกาว สามญฺญา อารกาว พฺรหฺมญฺญาฯ ยโต โข, กสฺสป, ภิกฺขุ อเวรํ อพฺยาปชฺชํ เมตฺตจิตฺตํ ภาเวติ, อาสวานญฺจ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปญฺญาวิมุตฺตึ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยํ วุจฺจติ, กสฺสป, ภิกฺขุ สมโณ อิติปิ พฺราหฺมโณ อิติปิฯ

    “Kassapa, someone may practice all those forms of mortification, but if they haven’t developed and realized any accomplishment in ethics, mind, and wisdom, they are far from being a true ascetic or brahmin. But take a bhikkhu who develops a heart of love, free of enmity and ill will. And they realize the undefiled freedom of heart and freedom by wisdom in this very life, and live having realized it with their own insight due to the ending of defilements. When they achieve this, they’re called a bhikkhu who is a ‘true ascetic’ and also ‘a true brahmin’. …”

    สากภกฺโข เจปิ, กสฺสป, โหติ, สามากภกฺโข …เป… วนมูลผลาหาโร ยาเปติ ปวตฺตผลโภชีฯ ตสฺส จายํ สีลสมฺปทา จิตฺตสมฺปทา ปญฺญาสมฺปทา อภาวิตา โหติ อสจฺฉิกตาฯ อถ โข โส อารกาว สามญฺญา อารกาว พฺรหฺมญฺญาฯ ยโต โข, กสฺสป, ภิกฺขุ อเวรํ อพฺยาปชฺชํ เมตฺตจิตฺตํ ภาเวติ, อาสวานญฺจ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปญฺญาวิมุตฺตึ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยํ วุจฺจติ, กสฺสป, ภิกฺขุ สมโณ อิติปิ พฺราหฺมโณ อิติปิฯ

    สาณานิ เจปิ, กสฺสป, ธาเรติ, มสาณานิปิ ธาเรติ …เป… สายตติยกมฺปิ อุทโกโรหนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติฯ ตสฺส จายํ สีลสมฺปทา จิตฺตสมฺปทา ปญฺญาสมฺปทา อภาวิตา โหติ อสจฺฉิกตาฯ อถ โข โส อารกาว สามญฺญา อารกาว พฺรหฺมญฺญาฯ ยโต โข, กสฺสป, ภิกฺขุ อเวรํ อพฺยาปชฺชํ เมตฺตจิตฺตํ ภาเวติ, อาสวานญฺจ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปญฺญาวิมุตฺตึ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยํ วุจฺจติ, กสฺสป, ภิกฺขุ สมโณ อิติปิ พฺราหฺมโณ อิติปี”ติฯ

    เอวํ วุตฺเต, อเจโล กสฺสโป ภควนฺตํ เอตทโวจ: “ทุกฺกรํ, โภ โคตม, สามญฺญํ ทุกฺกรํ พฺรหฺมญฺญนฺ”ติฯ

    When he had spoken, Kassapa said to the Buddha, “It’s hard, Master Gotama, to be a true ascetic or a true brahmin.”

    “ปกติ โข เอสา, กสฺสป, โลกสฺมึ ‘ทุกฺกรํ สามญฺญํ ทุกฺกรํ พฺรหฺมญฺญนฺ'ติฯ อเจลโก เจปิ, กสฺสป, โหติ, มุตฺตาจาโร, หตฺถาปเลขโน …เป… อิติ เอวรูปํ อทฺธมาสิกมฺปิ ปริยายภตฺตโภชนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติฯ อิมาย จ, กสฺสป, มตฺตาย อิมินา ตโปปกฺกเมน สามญฺญํ วา อภวิสฺส พฺรหฺมญฺญํ วา ทุกฺกรํ สุทุกฺกรํ, เนตํ อภวิสฺส กลฺลํ วจนาย: ‘ทุกฺกรํ สามญฺญํ ทุกฺกรํ พฺรหฺมญฺญนฺ'ติฯ

    “It’s typical, Kassapa, in this world to think that it’s hard to be a true ascetic or brahmin. But someone might practice all those forms of mortification. And if it was only because of just that much, only because of that course of fervent mortification that it was so very hard to be a true ascetic or brahmin, it wouldn’t be appropriate to say that it’s hard to be a true ascetic or brahmin.

    สกฺกา จ ปเนตํ อภวิสฺส กาตุํ คหปตินา วา คหปติปุตฺเตน วา อนฺตมโส กุมฺภทาสิยาปิ: ‘หนฺทาหํ อเจลโก โหมิ, มุตฺตาจาโร, หตฺถาปเลขโน …เป… อิติ เอวรูปํ อทฺธมาสิกมฺปิ ปริยายภตฺตโภชนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรามี'ติฯ

    For it would be quite possible for a householder or a householder’s child—or even the bonded maid who carries the water-jar—to practice all those forms of mortification.

    ยสฺมา จ โข, กสฺสป, อญฺญเตฺรว อิมาย มตฺตาย อญฺญตฺร อิมินา ตโปปกฺกเมน สามญฺญํ วา โหติ พฺรหฺมญฺญํ วา ทุกฺกรํ สุทุกฺกรํ, ตสฺมา เอตํ กลฺลํ วจนาย: ‘ทุกฺกรํ สามญฺญํ ทุกฺกรํ พฺรหฺมญฺญนฺ'ติฯ ยโต โข, กสฺสป, ภิกฺขุ อเวรํ อพฺยาปชฺชํ เมตฺตจิตฺตํ ภาเวติ, อาสวานญฺจ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปญฺญาวิมุตฺตึ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยํ วุจฺจติ, กสฺสป, ภิกฺขุ สมโณ อิติปิ พฺราหฺมโณ อิติปิฯ

    It’s because there’s something other than just that much, something other than that course of fervent mortification that it’s so very hard to be a true ascetic or brahmin. And that’s why it is appropriate to say that it’s hard to be a true ascetic or brahmin. Take a bhikkhu who develops a heart of love, free of enmity and ill will. And they realize the undefiled freedom of heart and freedom by wisdom in this very life, and live having realized it with their own insight due to the ending of defilements. When they achieve this, they’re called a bhikkhu who is a ‘true ascetic’ and also ‘a true brahmin’. …”

    สากภกฺโข เจปิ, กสฺสป, โหติ, สามากภกฺโข …เป… วนมูลผลาหาโร ยาเปติ ปวตฺตผลโภชีฯ อิมาย จ, กสฺสป, มตฺตาย อิมินา ตโปปกฺกเมน สามญฺญํ วา อภวิสฺส พฺรหฺมญฺญํ วา ทุกฺกรํ สุทุกฺกรํ, เนตํ อภวิสฺส กลฺลํ วจนาย: ‘ทุกฺกรํ สามญฺญํ ทุกฺกรํ พฺรหฺมญฺญนฺ'ติฯ

    สกฺกา จ ปเนตํ อภวิสฺส กาตุํ คหปตินา วา คหปติปุตฺเตน วา อนฺตมโส กุมฺภทาสิยาปิ: ‘หนฺทาหํ สากภกฺโข วา โหมิ, สามากภกฺโข วา …เป… วนมูลผลาหาโร ยาเปมิ ปวตฺตผลโภชี'ติฯ

    ยสฺมา จ โข, กสฺสป, อญฺญเตฺรว อิมาย มตฺตาย อญฺญตฺร อิมินา ตโปปกฺกเมน สามญฺญํ วา โหติ พฺรหฺมญฺญํ วา ทุกฺกรํ สุทุกฺกรํ, ตสฺมา เอตํ กลฺลํ วจนาย: ‘ทุกฺกรํ สามญฺญํ ทุกฺกรํ พฺรหฺมญฺญนฺ'ติฯ ยโต โข, กสฺสป, ภิกฺขุ อเวรํ อพฺยาปชฺชํ เมตฺตจิตฺตํ ภาเวติ, อาสวานญฺจ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปญฺญาวิมุตฺตึ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยํ วุจฺจติ, กสฺสป, ภิกฺขุ สมโณ อิติปิ พฺราหฺมโณ อิติปิฯ

    สาณานิ เจปิ, กสฺสป, ธาเรติ, มสาณานิปิ ธาเรติ …เป… สายตติยกมฺปิ อุทโกโรหนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติฯ อิมาย จ, กสฺสป, มตฺตาย อิมินา ตโปปกฺกเมน สามญฺญํ วา อภวิสฺส พฺรหฺมญฺญํ วา ทุกฺกรํ สุทุกฺกรํ, เนตํ อภวิสฺส กลฺลํ วจนาย: ‘ทุกฺกรํ สามญฺญํ ทุกฺกรํ พฺรหฺมญฺญนฺ'ติฯ

    สกฺกา จ ปเนตํ อภวิสฺส กาตุํ คหปตินา วา คหปติปุตฺเตน วา อนฺตมโส กุมฺภทาสิยาปิ: ‘หนฺทาหํ สาณานิปิ ธาเรมิ, มสาณานิปิ ธาเรมิ …เป… สายตติยกมฺปิ อุทโกโรหนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรามี'ติฯ

    ยสฺมา จ โข, กสฺสป, อญฺญเตฺรว อิมาย มตฺตาย อญฺญตฺร อิมินา ตโปปกฺกเมน สามญฺญํ วา โหติ พฺรหฺมญฺญํ วา ทุกฺกรํ สุทุกฺกรํ, ตสฺมา เอตํ กลฺลํ วจนาย: ‘ทุกฺกรํ สามญฺญํ ทุกฺกรํ พฺรหฺมญฺญนฺ'ติฯ ยโต โข, กสฺสป, ภิกฺขุ อเวรํ อพฺยาปชฺชํ เมตฺตจิตฺตํ ภาเวติ, อาสวานญฺจ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปญฺญาวิมุตฺตึ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยํ วุจฺจติ, กสฺสป, ภิกฺขุ สมโณ อิติปิ พฺราหฺมโณ อิติปี”ติฯ

    เอวํ วุตฺเต, อเจโล กสฺสโป ภควนฺตํ เอตทโวจ: “ทุชฺชาโน, โภ โคตม, สมโณ, ทุชฺชาโน พฺราหฺมโณ”ติฯ

    When he had spoken, Kassapa said to the Buddha, “It’s hard, Master Gotama, to know a true ascetic or a true brahmin.”

    “ปกติ โข เอสา, กสฺสป, โลกสฺมึ ‘ทุชฺชาโน สมโณ ทุชฺชาโน พฺราหฺมโณ'ติฯ อเจลโก เจปิ, กสฺสป, โหติ, มุตฺตาจาโร, หตฺถาปเลขโน …เป… อิติ เอวรูปํ อทฺธมาสิกมฺปิ ปริยายภตฺตโภชนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติฯ อิมาย จ, กสฺสป, มตฺตาย อิมินา ตโปปกฺกเมน สมโณ วา อภวิสฺส พฺราหฺมโณ วา ทุชฺชาโน สุทุชฺชาโน, เนตํ อภวิสฺส กลฺลํ วจนาย: ‘ทุชฺชาโน สมโณ ทุชฺชาโน พฺราหฺมโณ'ติฯ

    “It’s typical in this world to think that it’s hard to know a true ascetic or brahmin. But someone might practice all those forms of mortification. And if it was only by just that much, only by that course of fervent mortification that it was so very hard to know a true ascetic or brahmin, it wouldn’t be appropriate to say that it’s hard to know a true ascetic or brahmin.

    สกฺกา จ ปเนโส อภวิสฺส ญาตุํ คหปตินา วา คหปติปุตฺเตน วา อนฺตมโส กุมฺภทาสิยาปิ: ‘อยํ อเจลโก โหติ, มุตฺตาจาโร, หตฺถาปเลขโน …เป… อิติ เอวรูปํ อทฺธมาสิกมฺปิ ปริยายภตฺตโภชนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรตี'ติฯ

    For it would be quite possible for a householder or a householder’s child—or even the bonded maid who carries the water-jar—to know that someone is practicing all those forms of mortification.

    ยสฺมา จ โข, กสฺสป, อญฺญเตฺรว อิมาย มตฺตาย อญฺญตฺร อิมินา ตโปปกฺกเมน สมโณ วา โหติ พฺราหฺมโณ วา ทุชฺชาโน สุทุชฺชาโน, ตสฺมา เอตํ กลฺลํ วจนาย: ‘ทุชฺชาโน สมโณ ทุชฺชาโน พฺราหฺมโณ'ติฯ ยโต โข, กสฺสป, ภิกฺขุ อเวรํ อพฺยาปชฺชํ เมตฺตจิตฺตํ ภาเวติ, อาสวานญฺจ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปญฺญาวิมุตฺตึ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยํ วุจฺจติ, กสฺสป, ภิกฺขุ สมโณ อิติปิ พฺราหฺมโณ อิติปิฯ

    It’s because there’s something other than just that much, something other than that course of fervent mortification that it’s so very hard to know a true ascetic or brahmin. And that’s why it is appropriate to say that it’s hard to know a true ascetic or brahmin. Take a bhikkhu who develops a heart of love, free of enmity and ill will. And they realize the undefiled freedom of heart and freedom by wisdom in this very life, and live having realized it with their own insight due to the ending of defilements. When they achieve this, they’re called a bhikkhu who is a ‘true ascetic’ and also ‘a true brahmin’.”

    สากภกฺโข เจปิ, กสฺสป, โหติ สามากภกฺโข …เป… วนมูลผลาหาโร ยาเปติ ปวตฺตผลโภชีฯ อิมาย จ, กสฺสป, มตฺตาย อิมินา ตโปปกฺกเมน สมโณ วา อภวิสฺส พฺราหฺมโณ วา ทุชฺชาโน สุทุชฺชาโน, เนตํ อภวิสฺส กลฺลํ วจนาย: ‘ทุชฺชาโน สมโณ ทุชฺชาโน พฺราหฺมโณ'ติฯ

    สกฺกา จ ปเนโส อภวิสฺส ญาตุํ คหปตินา วา คหปติปุตฺเตน วา อนฺตมโส กุมฺภทาสิยาปิ: ‘อยํ สากภกฺโข วา โหติ สามากภกฺโข …เป… วนมูลผลาหาโร ยาเปติ ปวตฺตผลโภชี'ติฯ

    ยสฺมา จ โข, กสฺสป, อญฺญเตฺรว อิมาย มตฺตาย อญฺญตฺร อิมินา ตโปปกฺกเมน สมโณ วา โหติ พฺราหฺมโณ วา ทุชฺชาโน สุทุชฺชาโน, ตสฺมา เอตํ กลฺลํ วจนาย: ‘ทุชฺชาโน สมโณ ทุชฺชาโน พฺราหฺมโณ'ติฯ ยโต โข, กสฺสป, ภิกฺขุ อเวรํ อพฺยาปชฺชํ เมตฺตจิตฺตํ ภาเวติ, อาสวานญฺจ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปญฺญาวิมุตฺตึ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยํ วุจฺจติ, กสฺสป, ภิกฺขุ สมโณ อิติปิ พฺราหฺมโณ อิติปิฯ

    สาณานิ เจปิ, กสฺสป, ธาเรติ, มสาณานิปิ ธาเรติ …เป… สายตติยกมฺปิ อุทโกโรหนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรติฯ อิมาย จ, กสฺสป, มตฺตาย อิมินา ตโปปกฺกเมน สมโณ วา อภวิสฺส พฺราหฺมโณ วา ทุชฺชาโน สุทุชฺชาโน, เนตํ อภวิสฺส กลฺลํ วจนาย: ‘ทุชฺชาโน สมโณ ทุชฺชาโน พฺราหฺมโณ'ติฯ

    สกฺกา จ ปเนโส อภวิสฺส ญาตุํ คหปตินา วา คหปติปุตฺเตน วา อนฺตมโส กุมฺภทาสิยาปิ: ‘อยํ สาณานิปิ ธาเรติ, มสาณานิปิ ธาเรติ …เป… สายตติยกมฺปิ อุทโกโรหนานุโยคมนุยุตฺโต วิหรตี'ติฯ

    ยสฺมา จ โข, กสฺสป, อญฺญเตฺรว อิมาย มตฺตาย อญฺญตฺร อิมินา ตโปปกฺกเมน สมโณ วา โหติ พฺราหฺมโณ วา ทุชฺชาโน สุทุชฺชาโน, ตสฺมา เอตํ กลฺลํ วจนาย: ‘ทุชฺชาโน สมโณ ทุชฺชาโน พฺราหฺมโณ'ติฯ ยโต โข, กสฺสป, ภิกฺขุ อเวรํ อพฺยาปชฺชํ เมตฺตจิตฺตํ ภาเวติ, อาสวานญฺจ ขยา อนาสวํ เจโตวิมุตฺตึ ปญฺญาวิมุตฺตึ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยํ วุจฺจติ, กสฺสป, ภิกฺขุ สมโณ อิติปิ พฺราหฺมโณ อิติปี”ติฯ

    ๕ฯ สีลสมาธิปญฺญาสมฺปทา

    5. The Accomplishment of Ethics, Mind, and Wisdom

    เอวํ วุตฺเต, อเจโล กสฺสโป ภควนฺตํ เอตทโวจ: “กตมา ปน สา, โภ โคตม, สีลสมฺปทา, กตมา จิตฺตสมฺปทา, กตมา ปญฺญาสมฺปทา”ติ?

    When he had spoken, Kassapa said to the Buddha, “But Master Gotama, what is that accomplishment in ethics, in mind, and in wisdom?”

    “อิธ, กสฺสป, ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ, สมฺมาสมฺพุทฺโธ …เป… ภยทสฺสาวี สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ, กายกมฺมวจีกมฺเมน สมนฺนาคโต กุสเลน ปริสุทฺธาชีโว สีลสมฺปนฺโน อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร สติสมฺปชญฺเญน สมนฺนาคโต สนฺตุฏฺโฐฯ

    “It’s when a Realized One arises in the world, perfected, a fully awakened Buddha … Seeing danger in the slightest fault, a bhikkhu keeps the rules they’ve undertaken. They act skillfully by body and speech. They’re purified in livelihood and accomplished in ethical conduct. They guard the sense doors, have mindfulness and situational awareness, and are content.

    กถญฺจ, กสฺสป, ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน โหติ? อิธ, กสฺสป, ภิกฺขุ ปาณาติปาตํ ปหาย ปาณาติปาตา ปฏิวิรโต โหติ นิหิตทณฺโฑ นิหิตสตฺโถ ลชฺชี ทยาปนฺโน, สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี วิหรติฯ อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสมฺปทาย …เป…

    And how is a bhikkhu accomplished in ethics? It’s when a bhikkhu gives up killing living creatures. They renounce the rod and the sword. They’re scrupulous and kind, living full of compassion for all living beings. This pertains to their accomplishment in ethics. …

    ยถา วา ปเนเก โภนฺโต สมณพฺราหฺมณา สทฺธาเทยฺยานิ โภชนานิ ภุญฺชิตฺวา เต เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีเวน ชีวิตํ กปฺเปนฺติฯ เสยฺยถิทํ—สนฺติกมฺมํ ปณิธิกมฺมํ …เป… โอสธีนํ ปติโมกฺโข อิติ วา อิติ เอวรูปาย ติรจฺฉานวิชฺชาย มิจฺฉาชีวา ปฏิวิรโต โหติฯ อิทมฺปิสฺส โหติ สีลสมฺปทายฯ

    There are some ascetics and brahmins who, while enjoying food given in faith, still earn a living by low lore, by wrong livelihood. … They refrain from such low lore, such wrong livelihood. This pertains to their accomplishment in ethics.

    ส โข โส, กสฺสป, ภิกฺขุ เอวํ สีลสมฺปนฺโน น กุโตจิ ภยํ สมนุปสฺสติ, ยทิทํ สีลสํวรโตฯ เสยฺยถาปิ, กสฺสป, ราชา ขตฺติโย มุทฺธาวสิตฺโต นิหตปจฺจามิตฺโต น กุโตจิ ภยํ สมนุปสฺสติ, ยทิทํ ปจฺจตฺถิกโต; เอวเมว โข, กสฺสป, ภิกฺขุ เอวํ สีลสมฺปนฺโน น กุโตจิ ภยํ สมนุปสฺสติ, ยทิทํ สีลสํวรโตฯ โส อิมินา อริเยน สีลกฺขนฺเธน สมนฺนาคโต อชฺฌตฺตํ อนวชฺชสุขํ ปฏิสํเวเทติฯ เอวํ โข, กสฺสป, ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน โหติฯ อยํ โข, กสฺสป, สีลสมฺปทา …เป… ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อิทมฺปิสฺส โหติ จิตฺตสมฺปทาย …เป… ทุติยํ ฌานํ … ตติยํ ฌานํ … จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อิทมฺปิสฺส โหติ จิตฺตสมฺปทายฯ อยํ โข, กสฺสป, จิตฺตสมฺปทาฯ

    A bhikkhu thus accomplished in ethics sees no danger in any quarter in regards to their ethical restraint. It’s like a king who has defeated his enemies. He sees no danger from his foes in any quarter. In the same way, a bhikkhu thus accomplished in ethics sees no danger in any quarter in regards to their ethical restraint. When they have this entire spectrum of noble ethics, they experience a blameless happiness inside themselves. That’s how a bhikkhu is accomplished in ethics. This, Kassapa, is that accomplishment in ethics. … They enter and remain in the first jhāna … This pertains to their accomplishment in mind. … They enter and remain in the second jhāna … third jhāna … fourth jhāna. This pertains to their accomplishment in mind. This, Kassapa, is that accomplishment in mind.

    โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต …เป… ญาณทสฺสนาย จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมติ … อิทมฺปิสฺส โหติ ปญฺญาสมฺปทาย …เป… นาปรํ อิตฺถตฺตายาติ ปชานาติฯ อิทมฺปิสฺส โหติ ปญฺญาสมฺปทายฯ อยํ โข, กสฺสป, ปญฺญาสมฺปทาฯ

    When their mind is immersed like this, they extend and project it toward knowledge and vision … This pertains to their accomplishment in wisdom. … They understand: ‘… there is no return to any state of existence.’ This pertains to their accomplishment in wisdom. This, Kassapa, is that accomplishment in wisdom.

    อิมาย จ, กสฺสป, สีลสมฺปทาย จิตฺตสมฺปทาย ปญฺญาสมฺปทาย อญฺญา สีลสมฺปทา จิตฺตสมฺปทา ปญฺญาสมฺปทา อุตฺตริตรา วา ปณีตตรา วา นตฺถิฯ

    And, Kassapa, there is no accomplishment in ethics, mind, and wisdom that is better or finer than this.

    ๖ฯ สีหนาทกถา

    6. The Lion’s Roar

    สนฺติ, กสฺสป, เอเก สมณพฺราหฺมณา สีลวาทาฯ เต อเนกปริยาเยน สีลสฺส วณฺณํ ภาสนฺติฯ ยาวตา, กสฺสป, อริยํ ปรมํ สีลํ, นาหํ ตตฺถ อตฺตโน สมสมํ สมนุปสฺสามิ, กุโต ภิโยฺยฯ อถ โข อหเมว ตตฺถ ภิโยฺย, ยทิทํ อธิสีลํฯ

    There are, Kassapa, some ascetics and brahmins who teach ethics. They praise ethical conduct in many ways. But as far as the highest noble ethics goes, I don’t see anyone who’s my equal, still less my superior. Rather, I am the one who is superior when it comes to the higher ethics.

    สนฺติ, กสฺสป, เอเก สมณพฺราหฺมณา ตโปชิคุจฺฉาวาทาฯ เต อเนกปริยาเยน ตโปชิคุจฺฉาย วณฺณํ ภาสนฺติฯ ยาวตา, กสฺสป, อริยา ปรมา ตโปชิคุจฺฉา, นาหํ ตตฺถ อตฺตโน สมสมํ สมนุปสฺสามิ, กุโต ภิโยฺยฯ อถ โข อหเมว ตตฺถ ภิโยฺย, ยทิทํ อธิเชคุจฺฉํฯ

    There are, Kassapa, some ascetics and brahmins who teach mortification in disgust of sin. They praise fervent mortification in disgust of sin in many ways. But as far as the highest noble fervent mortification in disgust of sin goes, I don’t see anyone who’s my equal, still less my superior. Rather, I am the one who is superior when it comes to the higher disgust of sin.

    สนฺติ, กสฺสป, เอเก สมณพฺราหฺมณา ปญฺญาวาทาฯ เต อเนกปริยาเยน ปญฺญาย วณฺณํ ภาสนฺติฯ ยาวตา, กสฺสป, อริยา ปรมา ปญฺญา, นาหํ ตตฺถ อตฺตโน สมสมํ สมนุปสฺสามิ, กุโต ภิโยฺยฯ อถ โข อหเมว ตตฺถ ภิโยฺย, ยทิทํ อธิปญฺญํฯ

    There are, Kassapa, some ascetics and brahmins who teach wisdom. They praise wisdom in many ways. But as far as the highest noble wisdom goes, I don’t see anyone who’s my equal, still less my superior. Rather, I am the one who is superior when it comes to the higher wisdom.

    สนฺติ, กสฺสป, เอเก สมณพฺราหฺมณา วิมุตฺติวาทาฯ เต อเนกปริยาเยน วิมุตฺติยา วณฺณํ ภาสนฺติฯ ยาวตา, กสฺสป, อริยา ปรมา วิมุตฺติ, นาหํ ตตฺถ อตฺตโน สมสมํ สมนุปสฺสามิ, กุโต ภิโยฺยฯ อถ โข อหเมว ตตฺถ ภิโยฺย, ยทิทํ อธิวิมุตฺติฯ

    There are, Kassapa, some ascetics and brahmins who teach freedom. They praise freedom in many ways. But as far as the highest noble freedom goes, I don’t see anyone who’s my equal, still less my superior. Rather, I am the one who is superior when it comes to the higher freedom.

    ฐานํ โข ปเนตํ, กสฺสป, วิชฺชติ, ยํ อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ: ‘สีหนาทํ โข สมโณ โคตโม นทติ, ตญฺจ โข สุญฺญาคาเร นทติ, โน ปริสาสู'ติฯ เต: ‘มา เหวนฺ'ติสฺสุ วจนียาฯ ‘สีหนาทญฺจ สมโณ โคตโม นทติ, ปริสาสุ จ นทตี'ติ เอวมสฺสุ, กสฺสป, วจนียาฯ

    It’s possible that wanderers of other religions might say: ‘The ascetic Gotama only roars his lion’s roar in an empty hut, not in an assembly.’ They should be told, ‘Not so!’ What should be said is this: ‘The ascetic Gotama roars his lion’s roar, and he roars it in the assemblies.’

    ฐานํ โข ปเนตํ, กสฺสป, วิชฺชติ, ยํ อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ: ‘สีหนาทญฺจ สมโณ โคตโม นทติ, ปริสาสุ จ นทติ, โน จ โข วิสารโท นทตี'ติฯ เต: ‘มา เหวนฺ'ติสฺสุ วจนียาฯ ‘สีหนาทญฺจ สมโณ โคตโม นทติ, ปริสาสุ จ นทติ, วิสารโท จ นทตี'ติ เอวมสฺสุ, กสฺสป, วจนียาฯ

    It’s possible that wanderers of other religions might say: ‘The ascetic Gotama roars his lion’s roar, and he roars it in the assemblies. But he doesn’t roar it boldly.’ They should be told, ‘Not so!’ What should be said is this: ‘The ascetic Gotama roars his lion’s roar, he roars it in the assemblies, and he roars it boldly.’

    ฐานํ โข ปเนตํ, กสฺสป, วิชฺชติ, ยํ อญฺญติตฺถิยา ปริพฺพาชกา เอวํ วเทยฺยุํ: ‘สีหนาทญฺจ สมโณ โคตโม นทติ, ปริสาสุ จ นทติ, วิสารโท จ นทติ, โน จ โข นํ ปญฺหํ ปุจฺฉนฺติ …เป… ปญฺหญฺจ นํ ปุจฺฉนฺติ; โน จ โข เนสํ ปญฺหํ ปุฏฺโฐ พฺยากโรติ …เป… ปญฺหญฺจ เนสํ ปุฏฺโฐ พฺยากโรติ; โน จ โข ปญฺหสฺส เวยฺยากรเณน จิตฺตํ อาราเธติ …เป… ปญฺหสฺส จ เวยฺยากรเณน จิตฺตํ อาราเธติ; โน จ โข โสตพฺพํ มญฺญนฺติ …เป… โสตพฺพญฺจสฺส มญฺญนฺติ; โน จ โข สุตฺวา ปสีทนฺติ …เป… สุตฺวา จสฺส ปสีทนฺติ; โน จ โข ปสนฺนาการํ กโรนฺติ …เป… ปสนฺนาการญฺจ กโรนฺติ; โน จ โข ตถตฺตาย ปฏิปชฺชนฺติ …เป… ตถตฺตาย จ ปฏิปชฺชนฺติ; โน จ โข ปฏิปนฺนา อาราเธนฺตี'ติฯ เต: ‘มา เหวนฺ'ติสฺสุ วจนียาฯ ‘สีหนาทญฺจ สมโณ โคตโม นทติ, ปริสาสุ จ นทติ, วิสารโท จ นทติ, ปญฺหญฺจ นํ ปุจฺฉนฺติ, ปญฺหญฺจ เนสํ ปุฏฺโฐ พฺยากโรติ, ปญฺหสฺส จ เวยฺยากรเณน จิตฺตํ อาราเธติ, โสตพฺพญฺจสฺส มญฺญนฺติ, สุตฺวา จสฺส ปสีทนฺติ, ปสนฺนาการญฺจ กโรนฺติ, ตถตฺตาย จ ปฏิปชฺชนฺติ, ปฏิปนฺนา จ อาราเธนฺตี'ติ เอวมสฺสุ, กสฺสป, วจนียาฯ

    It’s possible that wanderers of other religions might say: ‘The ascetic Gotama roars his lion’s roar, he roars it in the assemblies, and he roars it boldly. But they don’t question him. … Or he doesn’t answer their questions. … Or his answers are not satisfactory. … Or they don’t think him worth listening to. … Or they’re not confident after listening. … Or they don’t show their confidence. … Or they don’t practice accordingly. … Or they don’t succeed in their practice.’ They should be told, ‘Not so!’ What should be said is this: ‘The ascetic Gotama roars his lion’s roar; he roars it in the assemblies; he roars it boldly; they question him; he answers their questions; his answers are satisfactory; they think him worth listening to; they’re confident after listening; they show their confidence; they practice accordingly; and they succeed in their practice.’

    ๗ฯ ติตฺถิยปริวาสกถา

    7. The Probation For One Previously Ordained

    เอกมิทาหํ, กสฺสป, สมยํ ราชคเห วิหรามิ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเตฯ ตตฺร มํ อญฺญตโร ตปพฺรหฺมจารี นิโคฺรโธ นาม อธิเชคุจฺเฉ ปญฺหํ อปุจฺฉิฯ ตสฺสาหํ อธิเชคุจฺเฉ ปญฺหํ ปุฏฺโฐ พฺยากาสึฯ พฺยากเต จ ปน เม อตฺตมโน อโหสิ ปรํ วิย มตฺตายา”ติฯ

    Kassapa, this one time I was staying near Rājagaha, on the Vulture’s Peak Mountain. There a certain celibate Brahmanical student of fervent mortification named Nigrodha asked me about the higher disgust of sin. I answered his question. He was extremely happy with my answer.”

    “โก หิ, ภนฺเต, ภควโต ธมฺมํ สุตฺวา น อตฺตมโน อสฺส ปรํ วิย มตฺตาย? อหมฺปิ หิ, ภนฺเต, ภควโต ธมฺมํ สุตฺวา อตฺตมโน ปรํ วิย มตฺตายฯ อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเต, อภิกฺกนฺตํ, ภนฺเตฯ เสยฺยถาปิ, ภนฺเต, นิกฺกุชฺชิตํ วา อุกฺกุชฺเชยฺย, ปฏิจฺฉนฺนํ วา วิวเรยฺย, มูฬฺหสฺส วา มคฺคํ อาจิกฺเขยฺย, อนฺธกาเร วา เตลปชฺโชตํ ธาเรยฺย: ‘จกฺขุมนฺโต รูปานิ ทกฺขนฺตี'ติ; เอวเมวํ ภควตา อเนกปริยาเยน ธมฺโม ปกาสิโตฯ เอสาหํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉามิ, ธมฺมญฺจ ภิกฺขุสงฺฆญฺจฯ ลเภยฺยาหํ, ภนฺเต, ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, ลเภยฺยํ อุปสมฺปทนฺ”ติฯ

    “Sir, who wouldn’t be extremely happy after hearing the Buddha’s teaching? For I too am extremely happy after hearing the Buddha’s teaching! Excellent, sir! Excellent! As if he were righting the overturned, or revealing the hidden, or pointing out the path to the lost, or lighting a lamp in the dark so people with clear eyes can see what’s there, so too the Buddha has made the teaching clear in many ways. I go for refuge to the Buddha, to the teaching, and to the bhikkhu Saṅgha. Sir, may I receive the going forth, the ordination in the Buddha’s presence?”

    “โย โข, กสฺสป, อญฺญติตฺถิยปุพฺโพ อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อากงฺขติ ปพฺพชฺชํ, อากงฺขติ อุปสมฺปทํ, โส จตฺตาโร มาเส ปริวสติ, จตุนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน อารทฺธจิตฺตา ภิกฺขู ปพฺพาเชนฺติ, อุปสมฺปาเทนฺติ ภิกฺขุภาวายฯ อปิ จ เมตฺถ ปุคฺคลเวมตฺตตา วิทิตา”ติฯ

    “Kassapa, if someone formerly ordained in another sect wishes to take the going forth, the ordination in this teaching and training, they must spend four months on probation. When four months have passed, if the bhikkhus are satisfied, they’ll give the going forth, the ordination into monkhood. However, I have recognized individual differences in this matter.”

    “สเจ, ภนฺเต, อญฺญติตฺถิยปุพฺพา อิมสฺมึ ธมฺมวินเย อากงฺขนฺติ ปพฺพชฺชํ, อากงฺขนฺติ อุปสมฺปทํ, จตฺตาโร มาเส ปริวสนฺติ, จตุนฺนํ มาสานํ อจฺจเยน อารทฺธจิตฺตา ภิกฺขู ปพฺพาเชนฺติ, อุปสมฺปาเทนฺติ ภิกฺขุภาวายฯ อหํ จตฺตาริ วสฺสานิ ปริวสิสฺสามิ, จตุนฺนํ วสฺสานํ อจฺจเยน อารทฺธจิตฺตา ภิกฺขู ปพฺพาเชนฺตุ, อุปสมฺปาเทนฺตุ ภิกฺขุภาวายา”ติฯ

    “Sir, if four months probation are required in such a case, I’ll spend four years on probation. When four years have passed, if the bhikkhus are satisfied, let them give me the going forth, the ordination into monkhood.”

    อลตฺถ โข อเจโล กสฺสโป ภควโต สนฺติเก ปพฺพชฺชํ, อลตฺถ อุปสมฺปทํฯ อจิรูปสมฺปนฺโน โข ปนายสฺมา กสฺสโป เอโก วูปกฏฺโฐ อปฺปมตฺโต อาตาปี ปหิตตฺโต วิหรนฺโต น จิรเสฺสว—ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ, ตทนุตฺตรํ—พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหาสิฯ

    And the naked ascetic Kassapa received the going forth, the ordination in the Buddha’s presence. Not long after his ordination, Venerable Kassapa, living alone, withdrawn, diligent, keen, and resolute, soon realized the supreme end of the spiritual path in this very life. He lived having achieved with his own insight the goal for which gentlemen rightly go forth from the lay life to homelessness.

    “ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา”ติ อพฺภญฺญาสิฯ อญฺญตโร โข ปนายสฺมา กสฺสโป อรหตํ อโหสีติฯ

    He understood: “Rebirth is ended; the spiritual journey has been completed; what had to be done has been done; there is no return to any state of existence.” And Venerable Kassapa became one of the perfected.

    มหาสีหนาทสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ อฏฺฐมํฯ





    The authoritative text of the Dīgha Nikāya is the Pāli text. The English translation is provided as an aid to the study of the original Pāli text. [CREDITS »]


    © 1991-2024 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact