Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi

    ๕๓๗. มหาสุตโสมชาตกํ (๕)

    537. Mahāsutasomajātakaṃ (5)

    ๓๗๑.

    371.

    ‘‘กสฺมา ตุวํ รสก เอทิสานิ, กโรสิ กมฺมานิ สุทารุณานิ;

    ‘‘Kasmā tuvaṃ rasaka edisāni, karosi kammāni sudāruṇāni;

    หนาสิ อิตฺถี ปุริเส จ มูโฬฺห, มํสสฺส เหตุ อทุ 1 ธนสฺส การณา’’ฯ

    Hanāsi itthī purise ca mūḷho, maṃsassa hetu adu 2 dhanassa kāraṇā’’.

    ๓๗๒.

    372.

    ‘‘นํ อตฺตเหตู น ธนสฺส การณา, น ปุตฺตทารสฺส สหายญาตินํ;

    ‘‘Naṃ attahetū na dhanassa kāraṇā, na puttadārassa sahāyañātinaṃ;

    ภตฺตา จ เม ภควา ภูมิปาโล, โส ขาทติ มํสํ ภทเนฺตทิสํ’’ฯ

    Bhattā ca me bhagavā bhūmipālo, so khādati maṃsaṃ bhadantedisaṃ’’.

    ๓๗๓.

    373.

    ‘‘สเจ ตุวํ ภตฺตุรเตฺถ ปยุโตฺต, กโรสิ กมฺมานิ สุทารุณานิ;

    ‘‘Sace tuvaṃ bhatturatthe payutto, karosi kammāni sudāruṇāni;

    ปาโตว อเนฺตปุรํ ปาปุณิตฺวา, ลเปยฺยาสิ เม ราชิโน สมฺมุเข ตํ’’ฯ

    Pātova antepuraṃ pāpuṇitvā, lapeyyāsi me rājino sammukhe taṃ’’.

    ๓๗๔.

    374.

    ‘‘ตถา กริสฺสามิ อหํ ภทเนฺต, ยถา ตุวํ 3 ภาสสิ กาฬหตฺถิ;

    ‘‘Tathā karissāmi ahaṃ bhadante, yathā tuvaṃ 4 bhāsasi kāḷahatthi;

    ปาโตว อเนฺตปุรํ ปาปุณิตฺวา, วกฺขามิ เต ราชิโน สมฺมุเข ตํ’’ฯ

    Pātova antepuraṃ pāpuṇitvā, vakkhāmi te rājino sammukhe taṃ’’.

    ๓๗๕.

    375.

    ตโต รตฺยา วิวสาเน 5, สูริยุคฺคมนํ ปติ;

    Tato ratyā vivasāne 6, sūriyuggamanaṃ pati;

    กาโฬ รสกมาทาย, ราชานํ อุปสงฺกมิ;

    Kāḷo rasakamādāya, rājānaṃ upasaṅkami;

    อุปสงฺกมฺม 7 ราชานํ, อิทํ วจนมพฺรวิฯ

    Upasaṅkamma 8 rājānaṃ, idaṃ vacanamabravi.

    ๓๗๖.

    376.

    ‘‘สจฺจํ กิร มหาราช, รสโก เปสิโต ตยา;

    ‘‘Saccaṃ kira mahārāja, rasako pesito tayā;

    หนติ อิตฺถิปุริเส, ตุวํ มํสานิ ขาทสิ’’ฯ

    Hanati itthipurise, tuvaṃ maṃsāni khādasi’’.

    ๓๗๗.

    377.

    ‘‘เอวเมว ตถา กาฬ, รสโก เปสิโต มยา;

    ‘‘Evameva tathā kāḷa, rasako pesito mayā;

    มม อตฺถํ กโรนฺตสฺส, กิเมตํ ปริภาสสิ’’ฯ

    Mama atthaṃ karontassa, kimetaṃ paribhāsasi’’.

    ๓๗๘.

    378.

    ‘‘อานโนฺท สพฺพมจฺฉานํ, ขาทิตฺวา รสคิทฺธิมา;

    ‘‘Ānando sabbamacchānaṃ, khāditvā rasagiddhimā;

    ปริกฺขีณาย ปริสาย, อตฺตานํ ขาทิยา มโตฯ

    Parikkhīṇāya parisāya, attānaṃ khādiyā mato.

    ๓๗๙.

    379.

    ‘‘เอวํ ปมโตฺต รสคารเว รโตฺต 9, พาโล ยที อายติ นาวพุชฺฌติ;

    ‘‘Evaṃ pamatto rasagārave ratto 10, bālo yadī āyati nāvabujjhati;

    วิธมฺม ปุเตฺต จชิ 11 ญาตเก จ, ปริวตฺติย อตฺตานเญฺญว 12 ขาทติฯ

    Vidhamma putte caji 13 ñātake ca, parivattiya attānaññeva 14 khādati.

    ๓๘๐.

    380.

    ‘‘อิทํ เต สุตฺวาน วิเคตุ 15 ฉโนฺท, มา ภกฺขยี 16 ราช มนุสฺสมํสํ;

    ‘‘Idaṃ te sutvāna vigetu 17 chando, mā bhakkhayī 18 rāja manussamaṃsaṃ;

    มา ตฺวํ อิมํ เกวลํ วาริโชว, ทฺวิปทาธิป 19 สุญฺญมกาสิ รฎฺฐํ’’ฯ

    Mā tvaṃ imaṃ kevalaṃ vārijova, dvipadādhipa 20 suññamakāsi raṭṭhaṃ’’.

    ๓๘๑.

    381.

    ‘‘สุชาโต นาม นาเมน, โอรโส ตสฺส อตฺรโช 21;

    ‘‘Sujāto nāma nāmena, oraso tassa atrajo 22;

    ชมฺพุเปสิมลทฺธาน, มโต โส ตสฺส สงฺขเยฯ

    Jambupesimaladdhāna, mato so tassa saṅkhaye.

    ๓๘๒.

    382.

    ‘‘เอวเมว อหํ กาฬ, ภุตฺวา ภกฺขํ รสุตฺตมํ;

    ‘‘Evameva ahaṃ kāḷa, bhutvā bhakkhaṃ rasuttamaṃ;

    อลทฺธา มานุสํ มํสํ, มเญฺญ หิสฺสามิ 23 ชีวิตํ’’ฯ

    Aladdhā mānusaṃ maṃsaṃ, maññe hissāmi 24 jīvitaṃ’’.

    ๓๘๓.

    383.

    ‘‘มาณว อภิรูโปสิ, กุเล ชาโตสิ โสตฺถิเย;

    ‘‘Māṇava abhirūposi, kule jātosi sotthiye;

    น ตฺวํ อรหสิ ตาต, อภกฺขํ ภกฺขเยตเว’’ฯ

    Na tvaṃ arahasi tāta, abhakkhaṃ bhakkhayetave’’.

    ๓๘๔.

    384.

    ‘‘รสานํ อญฺญตรํ เอตํ, กสฺมา 25 มํ ตฺวํ นิวารเย;

    ‘‘Rasānaṃ aññataraṃ etaṃ, kasmā 26 maṃ tvaṃ nivāraye;

    โสหํ ตตฺถ คมิสฺสามิ, ยตฺถ ลจฺฉามิ เอทิสํฯ

    Sohaṃ tattha gamissāmi, yattha lacchāmi edisaṃ.

    ๓๘๕.

    385.

    ‘‘โสวาหํ นิปฺปติสฺสามิ, น เต วจฺฉามิ สนฺติเก;

    ‘‘Sovāhaṃ nippatissāmi, na te vacchāmi santike;

    ยสฺส เม ทสฺสเนน ตฺวํ, นาภินนฺทสิ พฺราหฺมณ’’ฯ

    Yassa me dassanena tvaṃ, nābhinandasi brāhmaṇa’’.

    ๓๘๖.

    386.

    ‘‘อทฺธา อเญฺญปิ ทายาเท, ปุเตฺต ลจฺฉาม มาณว;

    ‘‘Addhā aññepi dāyāde, putte lacchāma māṇava;

    ตฺวญฺจ ชมฺม วินสฺสสฺสุ, ยตฺถ ปตฺตํ น ตํ สุเณ’’ฯ

    Tvañca jamma vinassassu, yattha pattaṃ na taṃ suṇe’’.

    ๓๘๗.

    387.

    ‘‘เอวเมว ตุวํ ราช, ทฺวิปทินฺท สุโณหิ เม;

    ‘‘Evameva tuvaṃ rāja, dvipadinda suṇohi me;

    ปพฺพาเชสฺสนฺติ ตํ รฎฺฐา, โสณฺฑํ มาณวกํ ยถา’’ฯ

    Pabbājessanti taṃ raṭṭhā, soṇḍaṃ māṇavakaṃ yathā’’.

    ๓๘๘.

    388.

    ‘‘สุชาโต นาม นาเมน, ภาวิตตฺตาน สาวโก;

    ‘‘Sujāto nāma nāmena, bhāvitattāna sāvako;

    อจฺฉรํ กามยโนฺตว, น โส ภุญฺชิ น โส ปิวิฯ

    Accharaṃ kāmayantova, na so bhuñji na so pivi.

    ๓๘๙.

    389.

    ‘‘กุสเคฺคนุทกมาทาย 27, สมุเทฺท อุทกํ มิเน;

    ‘‘Kusaggenudakamādāya 28, samudde udakaṃ mine;

    เอวํ มานุสกา กามา, ทิพฺพกามาน สนฺติเกฯ

    Evaṃ mānusakā kāmā, dibbakāmāna santike.

    ๓๙๐.

    390.

    ‘‘เอวเมว อหํ กาฬ, ภุตฺวา ภกฺขํ รสุตฺตมํ;

    ‘‘Evameva ahaṃ kāḷa, bhutvā bhakkhaṃ rasuttamaṃ;

    อลทฺธา มานุสํ มํสํ, มเญฺญ หิสฺสามิ ชีวิตํ’’ฯ

    Aladdhā mānusaṃ maṃsaṃ, maññe hissāmi jīvitaṃ’’.

    ๓๙๑.

    391.

    ‘‘ยถาปิ เต ธตรฎฺฐา, หํสา เวหายสงฺคมา;

    ‘‘Yathāpi te dhataraṭṭhā, haṃsā vehāyasaṅgamā;

    อภุตฺตปริโภเคน 29, สเพฺพ อพฺภตฺถตํ คตาฯ

    Abhuttaparibhogena 30, sabbe abbhatthataṃ gatā.

    ๓๙๒.

    392.

    ‘‘เอวเมว ตุวํ ราช, ทฺวิปทินฺท สุโณหิ เม;

    ‘‘Evameva tuvaṃ rāja, dvipadinda suṇohi me;

    อภกฺขํ ราช ภเกฺขสิ, ตสฺมา ปพฺพาชยนฺติ ตํ’’ฯ

    Abhakkhaṃ rāja bhakkhesi, tasmā pabbājayanti taṃ’’.

    ๓๙๓.

    393.

    ‘‘ติฎฺฐาหีติ มยา วุโตฺต, โส ตฺวํ คจฺฉสิ ปมฺมุโข 31;

    ‘‘Tiṭṭhāhīti mayā vutto, so tvaṃ gacchasi pammukho 32;

    อฎฺฐิโต ตฺวํ ฐิโตมฺหีติ, ลปสิ พฺรหฺมจารินิ;

    Aṭṭhito tvaṃ ṭhitomhīti, lapasi brahmacārini;

    อิทํ เต สมณายุตฺตํ, อสิญฺจ เม มญฺญสิ กงฺกปตฺตํ’’ 33

    Idaṃ te samaṇāyuttaṃ, asiñca me maññasi kaṅkapattaṃ’’ 34.

    ๓๙๔.

    394.

    ‘‘ฐิโตหมสฺมี สธเมฺมสุ ราช, น นามโคตฺตํ ปริวตฺตยามิ;

    ‘‘Ṭhitohamasmī sadhammesu rāja, na nāmagottaṃ parivattayāmi;

    โจรญฺจ โลเก อฐิตํ วทนฺติ, อาปายิกํ เนรยิกํ อิโต จุตํฯ

    Corañca loke aṭhitaṃ vadanti, āpāyikaṃ nerayikaṃ ito cutaṃ.

    ๓๙๕.

    395.

    ‘‘สเจ ตฺวํ สทฺทหสิ 35 ราช, สุตํ คณฺหาหิ ขตฺติย 36;

    ‘‘Sace tvaṃ saddahasi 37 rāja, sutaṃ gaṇhāhi khattiya 38;

    เตน ยญฺญํ ยชิตฺวาน, เอวํ สคฺคํ คมิสฺสสิ’’ฯ

    Tena yaññaṃ yajitvāna, evaṃ saggaṃ gamissasi’’.

    ๓๙๖.

    396.

    ‘‘กิสฺมิํ นุ รเฎฺฐ ตว ชาติภูมิ 39, อถ เกน อเตฺถน อิธานุปโตฺต;

    ‘‘Kismiṃ nu raṭṭhe tava jātibhūmi 40, atha kena atthena idhānupatto;

    อกฺขาหิ เม พฺราหฺมณ เอตมตฺถํ, กิมิจฺฉสี เทมิ ตยชฺช ปตฺถิตํ’’ฯ

    Akkhāhi me brāhmaṇa etamatthaṃ, kimicchasī demi tayajja patthitaṃ’’.

    ๓๙๗.

    397.

    ‘‘คาถา จตโสฺส ธรณีมหิสฺสร, สุคมฺภิรตฺถา วรสาครูปมา;

    ‘‘Gāthā catasso dharaṇīmahissara, sugambhiratthā varasāgarūpamā;

    ตเวว อตฺถาย อิธาคโตสฺมิ, สุโณหิ คาถา ปรมตฺถสํหิตา’’ฯ

    Taveva atthāya idhāgatosmi, suṇohi gāthā paramatthasaṃhitā’’.

    ๓๙๘.

    398.

    ‘‘น เว รุทนฺติ มติมโนฺต สปญฺญา, พหุสฺสุตา เย พหุฎฺฐานจินฺติโน;

    ‘‘Na ve rudanti matimanto sapaññā, bahussutā ye bahuṭṭhānacintino;

    ทีปญฺหิ เอตํ ปรมํ นรานํ, ยํ ปณฺฑิตา โสกนุทา ภวนฺติฯ

    Dīpañhi etaṃ paramaṃ narānaṃ, yaṃ paṇḍitā sokanudā bhavanti.

    ๓๙๙.

    399.

    ‘‘อตฺตานํ ญาตี อุทาหุ 41 ปุตฺตทารํ, ธญฺญํ ธนํ รชตํ ชาตรูปํ;

    ‘‘Attānaṃ ñātī udāhu 42 puttadāraṃ, dhaññaṃ dhanaṃ rajataṃ jātarūpaṃ;

    กิเมว ตฺวํ 43 สุตโสมานุตเปฺป, โกรพฺยเสฎฺฐ วจนํ สุโณม เตตํ’ฯ

    Kimeva tvaṃ 44 sutasomānutappe, korabyaseṭṭha vacanaṃ suṇoma tetaṃ’.

    ๔๐๐.

    400.

    ‘‘เนวาหมตฺตานมนุตฺถุนามิ, น ปุตฺตทารํ น ธนํ น รฎฺฐํ;

    ‘‘Nevāhamattānamanutthunāmi, na puttadāraṃ na dhanaṃ na raṭṭhaṃ;

    สตญฺจ ธโมฺม จริโต ปุราโณ, ตํ สงฺกรํ 45 พฺราหฺมณสฺสานุตเปฺปฯ

    Satañca dhammo carito purāṇo, taṃ saṅkaraṃ 46 brāhmaṇassānutappe.

    ๔๐๑.

    401.

    ‘‘กโต มยา สงฺกโร พฺราหฺมเณน, รเฎฺฐ สเก อิสฺสริเย ฐิเตน;

    ‘‘Kato mayā saṅkaro brāhmaṇena, raṭṭhe sake issariye ṭhitena;

    ตํ สงฺกรํ พฺราหฺมณสปฺปทาย, สจฺจานุรกฺขี ปุนราวชิสฺสํ’’ฯ

    Taṃ saṅkaraṃ brāhmaṇasappadāya, saccānurakkhī punarāvajissaṃ’’.

    ๔๐๒.

    402.

    ‘‘เนวาหเมตํ อภิสทฺทหามิ, สุขี นโร มจฺจุมุขา ปมุโตฺต;

    ‘‘Nevāhametaṃ abhisaddahāmi, sukhī naro maccumukhā pamutto;

    อมิตฺตหตฺถํ ปุนราวเชยฺย, โกรพฺยเสฎฺฐ น หิ มํ อุเปสิฯ

    Amittahatthaṃ punarāvajeyya, korabyaseṭṭha na hi maṃ upesi.

    ๔๐๓.

    403.

    ‘‘มุโตฺต ตุวํ โปริสาทสฺส หตฺถา, คนฺตฺวา สกํ มนฺทิรํ กามกามี;

    ‘‘Mutto tuvaṃ porisādassa hatthā, gantvā sakaṃ mandiraṃ kāmakāmī;

    มธุรํ ปิยํ ชีวิตํ ลทฺธ ราช, กุโต ตุวํ เอหิสิ เม สกาสํ’’ฯ

    Madhuraṃ piyaṃ jīvitaṃ laddha rāja, kuto tuvaṃ ehisi me sakāsaṃ’’.

    ๔๐๔.

    404.

    ‘‘มตํ วเรยฺย ปริสุทฺธสีโล, น ชีวิตํ 47 ครหิโต ปาปธโมฺม;

    ‘‘Mataṃ vareyya parisuddhasīlo, na jīvitaṃ 48 garahito pāpadhammo;

    น หิ ตํ นรํ ตายติ 49 ทุคฺคตีหิ, ยสฺสาปิ เหตุ อลิกํ ภเณยฺยฯ

    Na hi taṃ naraṃ tāyati 50 duggatīhi, yassāpi hetu alikaṃ bhaṇeyya.

    ๔๐๕.

    405.

    ‘‘สเจปิ วาโต คิริมาวเหยฺย, จโนฺท จ สูริโย จ ฉมา ปเตยฺยุํ;

    ‘‘Sacepi vāto girimāvaheyya, cando ca sūriyo ca chamā pateyyuṃ;

    สพฺพา จ นโชฺช ปฎิโสตํ วเชยฺยุํ, น เตฺววหํ ราช มุสา ภเณยฺยํฯ

    Sabbā ca najjo paṭisotaṃ vajeyyuṃ, na tvevahaṃ rāja musā bhaṇeyyaṃ.

    ๔๐๖.

    406.

    51 ‘‘นภํ ผเลยฺย อุทธีปิ สุเสฺส, สํวฎฺฎเย ภูตธรา วสุนฺธรา;

    52 ‘‘Nabhaṃ phaleyya udadhīpi susse, saṃvaṭṭaye bhūtadharā vasundharā;

    สิลุจฺจโย เมรุ สมูลมุปฺปเต, น เตฺววหํ ราช มุสา ภเณยฺยํ’’ 53

    Siluccayo meru samūlamuppate, na tvevahaṃ rāja musā bhaṇeyyaṃ’’ 54.

    ๔๐๗.

    407.

    ‘‘อสิญฺจ สตฺติญฺจ ปรามสามิ, สปถมฺปิ เต สมฺม อหํ กโรมิ;

    ‘‘Asiñca sattiñca parāmasāmi, sapathampi te samma ahaṃ karomi;

    ตยา ปมุโตฺต อนโณ ภวิตฺวา, สจฺจานุรกฺขี ปุนราวชิสฺสํ’’ฯ

    Tayā pamutto anaṇo bhavitvā, saccānurakkhī punarāvajissaṃ’’.

    ๔๐๘.

    408.

    ‘‘โย เต กโต สงฺกโร พฺราหฺมเณน, รเฎฺฐ สเก อิสฺสริเย ฐิเตน;

    ‘‘Yo te kato saṅkaro brāhmaṇena, raṭṭhe sake issariye ṭhitena;

    ตํ สงฺกรํ พฺราหฺมณสปฺปทาย, สจฺจานุรกฺขี ปุนราวชสฺสุ’’ฯ

    Taṃ saṅkaraṃ brāhmaṇasappadāya, saccānurakkhī punarāvajassu’’.

    ๔๐๙.

    409.

    ‘‘โย เม กโต สงฺกโร พฺราหฺมเณน, รเฎฺฐ สเก อิสฺสริเย ฐิเตน;

    ‘‘Yo me kato saṅkaro brāhmaṇena, raṭṭhe sake issariye ṭhitena;

    ตํ สงฺกรํ พฺราหฺมณสปฺปทาย, สจฺจานุรกฺขี ปุนราวชิสฺสํ’’ฯ

    Taṃ saṅkaraṃ brāhmaṇasappadāya, saccānurakkhī punarāvajissaṃ’’.

    ๔๑๐.

    410.

    ‘‘มุโตฺต จ โส โปริสาทสฺส หตฺถา, คนฺตฺวาน ตํ พฺราหฺมณํ เอตทโวจ;

    ‘‘Mutto ca so porisādassa hatthā, gantvāna taṃ brāhmaṇaṃ etadavoca;

    สุโณม 55 คาถาโย สตารหาโย, ยา เม สุตา อสฺสุ หิตาย พฺรเหฺม’’ฯ

    Suṇoma 56 gāthāyo satārahāyo, yā me sutā assu hitāya brahme’’.

    ๔๑๑.

    411.

    ‘‘สกิเทว สุตโสม, สพฺภิ โหติ 57 สมาคโม;

    ‘‘Sakideva sutasoma, sabbhi hoti 58 samāgamo;

    สา นํ สงฺคติ ปาเลติ, นาสพฺภิ พหุสงฺคโมฯ

    Sā naṃ saṅgati pāleti, nāsabbhi bahusaṅgamo.

    ๔๑๒.

    412.

    ‘‘สพฺภิเรว สมาเสถ, สพฺภิ กุเพฺพถ สนฺถวํ;

    ‘‘Sabbhireva samāsetha, sabbhi kubbetha santhavaṃ;

    สตํ สทฺธมฺมมญฺญาย, เสโยฺย โหติ น ปาปิโยฯ

    Sataṃ saddhammamaññāya, seyyo hoti na pāpiyo.

    ๔๑๓.

    413.

    ‘‘ชีรนฺติ เว ราชรถา สุจิตฺตา, อโถ สรีรมฺปิ ชรํ อุเปติ;

    ‘‘Jīranti ve rājarathā sucittā, atho sarīrampi jaraṃ upeti;

    สตญฺจ ธโมฺม น ชรํ อุเปติ, สโนฺต หเว สพฺภิ ปเวทยนฺติฯ

    Satañca dhammo na jaraṃ upeti, santo have sabbhi pavedayanti.

    ๔๑๔.

    414.

    ‘‘นภญฺจํ ทูเร ปถวี จ ทูเร, ปารํ สมุทฺทสฺส ตทาหุ ทูเร;

    ‘‘Nabhañcaṃ dūre pathavī ca dūre, pāraṃ samuddassa tadāhu dūre;

    ตโต หเว ทูรตรํ วทนฺติ, สตญฺจ ธโมฺม 59 อสตญฺจ ราช’’ฯ

    Tato have dūrataraṃ vadanti, satañca dhammo 60 asatañca rāja’’.

    ๔๑๕.

    415.

    ‘‘สหสฺสิยา 61 อิมา คาถา, นหิมา 62 คาถา สตารหา;

    ‘‘Sahassiyā 63 imā gāthā, nahimā 64 gāthā satārahā;

    จตฺตาริ ตฺวํ สหสฺสานิ, ขิปฺปํ คณฺหาหิ พฺราหฺมณ’’ฯ

    Cattāri tvaṃ sahassāni, khippaṃ gaṇhāhi brāhmaṇa’’.

    ๔๑๖.

    416.

    ‘‘อาสีติยา นาวุติยา 65 จ คาถา, สตารหา จาปิ ภเวยฺย 66 คาถา;

    ‘‘Āsītiyā nāvutiyā 67 ca gāthā, satārahā cāpi bhaveyya 68 gāthā;

    ปจฺจตฺตเมว สุตโสม ชานหิ, สหสฺสิยา นาม กา อตฺถิ 69 คาถา’’ฯ

    Paccattameva sutasoma jānahi, sahassiyā nāma kā atthi 70 gāthā’’.

    ๔๑๗.

    417.

    ‘‘อิจฺฉามิ โวหํ สุตวุทฺธิมตฺตโน, สโนฺตติ มํ 71 สปฺปุริสา ภเชยฺยุํ;

    ‘‘Icchāmi vohaṃ sutavuddhimattano, santoti maṃ 72 sappurisā bhajeyyuṃ;

    อหํ สวนฺตีหิ มโหทธีว, น หิ ตาต ตปฺปามิ สุภาสิเตนฯ

    Ahaṃ savantīhi mahodadhīva, na hi tāta tappāmi subhāsitena.

    ๔๑๘.

    418.

    ‘‘อคฺคิ ยถา ติณกฎฺฐํ ทหโนฺต, น ตปฺปตี สาคโรว 73 นทีหิ;

    ‘‘Aggi yathā tiṇakaṭṭhaṃ dahanto, na tappatī sāgarova 74 nadīhi;

    เอวมฺปิ เต ปณฺฑิตา ราชเสฎฺฐ, สุตฺวา น ตปฺปนฺติ สุภาสิเตนฯ

    Evampi te paṇḍitā rājaseṭṭha, sutvā na tappanti subhāsitena.

    ๔๑๙.

    419.

    ‘‘สกสฺส ทาสสฺส ยทา สุโณมิ, คาถํ อหํ อตฺถวติํ 75 ชนินฺท;

    ‘‘Sakassa dāsassa yadā suṇomi, gāthaṃ ahaṃ atthavatiṃ 76 janinda;

    ตเมว สกฺกจฺจ นิสามยามิ, น หิ ตาต ธเมฺมสุ มมตฺถิ ติตฺติ’’ฯ

    Tameva sakkacca nisāmayāmi, na hi tāta dhammesu mamatthi titti’’.

    ๔๒๐.

    420.

    ‘‘อิทํ เต รฎฺฐํ สธนํ สโยคฺคํ, สกายุรํ สพฺพกามูปปนฺนํ;

    ‘‘Idaṃ te raṭṭhaṃ sadhanaṃ sayoggaṃ, sakāyuraṃ sabbakāmūpapannaṃ;

    กิํ กามเหตุ ปริภาสสิมํ 77, คจฺฉามหํ โปริสาทสฺส ญเตฺต’’ 78

    Kiṃ kāmahetu paribhāsasimaṃ 79, gacchāmahaṃ porisādassa ñatte’’ 80.

    ๔๒๑.

    421.

    ‘‘อตฺตานุรกฺขาย ภวนฺติ เหเต, หตฺถาโรหา รถิกา ปตฺติกา จ;

    ‘‘Attānurakkhāya bhavanti hete, hatthārohā rathikā pattikā ca;

    อสฺสารุหา 81 เย จ ธนุคฺคหาเส, เสนํ ปยุญฺชาม หนาม สตฺตุํ’’ฯ

    Assāruhā 82 ye ca dhanuggahāse, senaṃ payuñjāma hanāma sattuṃ’’.

    ๔๒๒.

    422.

    ‘‘สุทุกฺกรํ โปริสาโท อกาสิ, ชีวํ คเหตฺวาน อวสฺสชี มํ;

    ‘‘Sudukkaraṃ porisādo akāsi, jīvaṃ gahetvāna avassajī maṃ;

    ตํ ตาทิสํ ปุพฺพกิจฺจํ สรโนฺต, ทุเพฺภ อหํ ตสฺส กถํ ชนินฺท’’ฯ

    Taṃ tādisaṃ pubbakiccaṃ saranto, dubbhe ahaṃ tassa kathaṃ janinda’’.

    ๔๒๓.

    423.

    ‘‘วนฺทิตฺวา โส ปิตรํ มาตรญฺจ, อนุสาเสตฺวา เนคมญฺจ พลญฺจ;

    ‘‘Vanditvā so pitaraṃ mātarañca, anusāsetvā negamañca balañca;

    สจฺจวาที สจฺจานุรกฺขมาโน, อคมาสิ โส ยตฺถ โปริสาโท’’ฯ

    Saccavādī saccānurakkhamāno, agamāsi so yattha porisādo’’.

    ๔๒๔.

    424.

    ‘‘กโต มยา สงฺกโร พฺราหฺมเณน, รเฎฺฐ สเก อิสฺสริเย ฐิเตน;

    ‘‘Kato mayā saṅkaro brāhmaṇena, raṭṭhe sake issariye ṭhitena;

    ตํ สงฺกรํ พฺราหฺมณสปฺปทาย, สจฺจานุรกฺขี ปุนราคโตสฺมิ;

    Taṃ saṅkaraṃ brāhmaṇasappadāya, saccānurakkhī punarāgatosmi;

    ยชสฺสุ ยญฺญํ ขาท มํ โปริสาท’’ฯ

    Yajassu yaññaṃ khāda maṃ porisāda’’.

    ๔๒๕.

    425.

    ‘‘น หายเต ขาทิตํ 83 มยฺหํ ปจฺฉา, จิตกา อยํ ตาว สธูมิกาว 84;

    ‘‘Na hāyate khāditaṃ 85 mayhaṃ pacchā, citakā ayaṃ tāva sadhūmikāva 86;

    นิทฺธูมเก ปจิตํ สาธุปกฺกํ, สุโณม 87 คาถาโย สตารหาโย’’ฯ

    Niddhūmake pacitaṃ sādhupakkaṃ, suṇoma 88 gāthāyo satārahāyo’’.

    ๔๒๖.

    426.

    ‘‘อธมฺมิโก ตฺวํ โปริสาทกาสิ 89, รฎฺฐา จ ภโฎฺฐ อุทรสฺส เหตุ;

    ‘‘Adhammiko tvaṃ porisādakāsi 90, raṭṭhā ca bhaṭṭho udarassa hetu;

    ธมฺมญฺจิมา อภิวทนฺติ คาถา, ธโมฺม จ อธโมฺม จ กุหิํ สเมติฯ

    Dhammañcimā abhivadanti gāthā, dhammo ca adhammo ca kuhiṃ sameti.

    ๔๒๗.

    427.

    ‘‘อธมฺมิกสฺส ลุทฺทสฺส, นิจฺจํ โลหิตปาณิโน;

    ‘‘Adhammikassa luddassa, niccaṃ lohitapāṇino;

    นตฺถิ สจฺจํ กุโต ธโมฺม, กิํ สุเตน กริสฺสสิ’’ฯ

    Natthi saccaṃ kuto dhammo, kiṃ sutena karissasi’’.

    ๔๒๘.

    428.

    ‘‘โย มํสเหตุ มิควํ จเรยฺย, โย วา หเน ปุริสมตฺตเหตุ;

    ‘‘Yo maṃsahetu migavaṃ careyya, yo vā hane purisamattahetu;

    อุโภปิ เต เปจฺจ สมา ภวนฺติ, กสฺมา โน 91 อธมฺมิกํ พฺรูสิ มํ ตฺวํ’’ฯ

    Ubhopi te pecca samā bhavanti, kasmā no 92 adhammikaṃ brūsi maṃ tvaṃ’’.

    ๔๒๙.

    429.

    ‘‘ปญฺจ ปญฺจนขา ภกฺขา, ขตฺติเยน ปชานตา;

    ‘‘Pañca pañcanakhā bhakkhā, khattiyena pajānatā;

    อภกฺขํ ราช ภเกฺขสิ, ตสฺมา อธมฺมิโก ตุวํ’’ฯ

    Abhakkhaṃ rāja bhakkhesi, tasmā adhammiko tuvaṃ’’.

    ๔๓๐.

    430.

    ‘‘มุโตฺต ตุวํ โปริสาทสฺส หตฺถา, คนฺตฺวา สกํ มนฺทิรํ กามกามี;

    ‘‘Mutto tuvaṃ porisādassa hatthā, gantvā sakaṃ mandiraṃ kāmakāmī;

    อมิตฺตหตฺถํ ปุนราคโตสิ, น ขตฺตธเมฺม กุสโลสิ ราช’’ฯ

    Amittahatthaṃ punarāgatosi, na khattadhamme kusalosi rāja’’.

    ๔๓๑.

    431.

    ‘‘เย ขตฺตธเมฺม กุสลา ภวนฺติ, ปาเยน เต เนรยิกา ภวนฺติ;

    ‘‘Ye khattadhamme kusalā bhavanti, pāyena te nerayikā bhavanti;

    ตสฺมา อหํ ขตฺตธมฺมํ ปหาย, สจฺจานุรกฺขี ปุนราคโตสฺมิ;

    Tasmā ahaṃ khattadhammaṃ pahāya, saccānurakkhī punarāgatosmi;

    ยชสฺสุ ยญฺญํ ขาท มํ โปริสาท’’ฯ

    Yajassu yaññaṃ khāda maṃ porisāda’’.

    ๔๓๒.

    432.

    ‘‘ปาสาทวาสา ปถวีควสฺสา, กามิตฺถิโย กาสิกจนฺทนญฺจ;

    ‘‘Pāsādavāsā pathavīgavassā, kāmitthiyo kāsikacandanañca;

    สพฺพํ ตหิํ ลภสิ 93 สามิตาย, สเจฺจน กิํ ปสฺสสิ อานิสํสํ’’ฯ

    Sabbaṃ tahiṃ labhasi 94 sāmitāya, saccena kiṃ passasi ānisaṃsaṃ’’.

    ๔๓๓.

    433.

    ‘‘เย เกจิเม อตฺถิ รสา ปถพฺยา, สจฺจํ เตสํ สาธุตรํ รสานํ;

    ‘‘Ye kecime atthi rasā pathabyā, saccaṃ tesaṃ sādhutaraṃ rasānaṃ;

    สเจฺจ ฐิตา สมณพฺราหฺมณา จ, ตรนฺติ ชาติมรณสฺส ปารํ’’ฯ

    Sacce ṭhitā samaṇabrāhmaṇā ca, taranti jātimaraṇassa pāraṃ’’.

    ๔๓๔.

    434.

    ‘‘มุโตฺต ตุวํ โปริสาทสฺส หตฺถา, คนฺตฺวา สกํ มนฺทิรํ กามกามี;

    ‘‘Mutto tuvaṃ porisādassa hatthā, gantvā sakaṃ mandiraṃ kāmakāmī;

    อมิตฺตหตฺถํ ปุนราคโตสิ, น หิ นูน เต มรณภยํ ชนินฺท;

    Amittahatthaṃ punarāgatosi, na hi nūna te maraṇabhayaṃ janinda;

    อลีนจิโตฺต อสิ 95 สจฺจวาที’’ฯ

    Alīnacitto asi 96 saccavādī’’.

    ๔๓๕.

    435.

    ‘‘กตา เม กลฺยาณา อเนกรูปา, ยญฺญา ยิฎฺฐา เย วิปุลา ปสตฺถา;

    ‘‘Katā me kalyāṇā anekarūpā, yaññā yiṭṭhā ye vipulā pasatthā;

    วิโสธิโต ปรโลกสฺส มโคฺค, ธเมฺม ฐิโต โก มรณสฺส ภาเยฯ

    Visodhito paralokassa maggo, dhamme ṭhito ko maraṇassa bhāye.

    ๔๓๖.

    436.

    ‘‘กตา เม กลฺยาณา อเนกรูปา, ยญฺญา ยิฎฺฐา เย วิปุลา ปสตฺถา;

    ‘‘Katā me kalyāṇā anekarūpā, yaññā yiṭṭhā ye vipulā pasatthā;

    อนานุตปฺปํ ปรโลกํ คมิสฺสํ, ยชสฺสุ ยญฺญํ อท 97 มํ โปริสาทฯ

    Anānutappaṃ paralokaṃ gamissaṃ, yajassu yaññaṃ ada 98 maṃ porisāda.

    ๔๓๗.

    437.

    ‘‘ปิตา จ มาตา จ อุปฎฺฐิตา เม, ธเมฺมน เม อิสฺสริยํ ปสตฺถํ;

    ‘‘Pitā ca mātā ca upaṭṭhitā me, dhammena me issariyaṃ pasatthaṃ;

    วิโสธิโต ปรโลกสฺส มโคฺค, ธเมฺม ฐิโต โก มรณสฺส ภาเยฯ

    Visodhito paralokassa maggo, dhamme ṭhito ko maraṇassa bhāye.

    ๔๓๘.

    438.

    ‘‘ปิตา จ มาตา จ อุปฎฺฐิตา เม, ธเมฺมน เม อิสฺสริยํ ปสตฺถํ;

    ‘‘Pitā ca mātā ca upaṭṭhitā me, dhammena me issariyaṃ pasatthaṃ;

    อนานุตปฺปํ ปรโลกํ คมิสฺสํ, ยชสฺสุ ยญฺญํ อท มํ โปริสาทฯ

    Anānutappaṃ paralokaṃ gamissaṃ, yajassu yaññaṃ ada maṃ porisāda.

    ๔๓๙.

    439.

    ‘‘ญาตีสุ มิเตฺตสุ กตา เม การา 99, ธเมฺมน เม อิสฺสริยํ ปสตฺถํ;

    ‘‘Ñātīsu mittesu katā me kārā 100, dhammena me issariyaṃ pasatthaṃ;

    วิโสธิโต ปรโลกสฺส มโคฺค, ธเมฺม ฐิโต โก มรณสฺส ภาเยฯ

    Visodhito paralokassa maggo, dhamme ṭhito ko maraṇassa bhāye.

    ๔๔๐.

    440.

    ‘‘ญาตีสุํ มิเตฺตสุ กตา เม การา, ธเมฺมน เม อิสฺสริยํ ปสตฺถํ;

    ‘‘Ñātīsuṃ mittesu katā me kārā, dhammena me issariyaṃ pasatthaṃ;

    อนานุตปฺปํ ปรโลกํ คมิสฺสํ, ยชสฺสุ ยญฺญํ อท มํ โปริสาทฯ

    Anānutappaṃ paralokaṃ gamissaṃ, yajassu yaññaṃ ada maṃ porisāda.

    ๔๔๑.

    441.

    ‘‘ทินฺนํ เม ทานํ พหุธา พหูนํ, สนฺตปฺปิตา สมณพฺราหฺมณา จ;

    ‘‘Dinnaṃ me dānaṃ bahudhā bahūnaṃ, santappitā samaṇabrāhmaṇā ca;

    วิโสธิโต ปรโลกสฺส มโคฺค, ธเมฺม ฐิโต โก มรณสฺส ภาเยฯ

    Visodhito paralokassa maggo, dhamme ṭhito ko maraṇassa bhāye.

    ๔๔๒.

    442.

    ‘‘ทินฺนํ เม ทานํ พหุธา พหูนํ, สนฺตปฺปิตา สมณพฺราหฺมณา จ;

    ‘‘Dinnaṃ me dānaṃ bahudhā bahūnaṃ, santappitā samaṇabrāhmaṇā ca;

    อนานุตปฺปํ ปรโลกํ คมิสฺสํ, ยชสฺสุ ยญฺญํ อท มํ โปริสาท’’ฯ

    Anānutappaṃ paralokaṃ gamissaṃ, yajassu yaññaṃ ada maṃ porisāda’’.

    ๔๔๓.

    443.

    ‘‘วิสํ ปชานํ ปุริโส อเทยฺย, อาสีวิสํ ชลิตมุคฺคเตชํ;

    ‘‘Visaṃ pajānaṃ puriso adeyya, āsīvisaṃ jalitamuggatejaṃ;

    มุทฺธาปิ ตสฺส วิผเลยฺย 101 สตฺตธา, โย ตาทิสํ สจฺจวาทิํ อเทยฺย’’ฯ

    Muddhāpi tassa viphaleyya 102 sattadhā, yo tādisaṃ saccavādiṃ adeyya’’.

    ๔๔๔.

    444.

    ‘‘สุตฺวา ธมฺมํ วิชานนฺติ, นรา กลฺยาณปาปกํ;

    ‘‘Sutvā dhammaṃ vijānanti, narā kalyāṇapāpakaṃ;

    อปิ คาถา สุณิตฺวาน, ธเมฺม เม รมเต 103 มโน’’ฯ

    Api gāthā suṇitvāna, dhamme me ramate 104 mano’’.

    ๔๔๕.

    445.

    ‘‘สกิเทว มหาราช 105, สพฺภิ โหติ สมาคโม;

    ‘‘Sakideva mahārāja 106, sabbhi hoti samāgamo;

    สา นํ สงฺคติ ปาเลติ, นาสพฺภิ พหุสงฺคโมฯ

    Sā naṃ saṅgati pāleti, nāsabbhi bahusaṅgamo.

    ๔๔๖.

    446.

    ‘‘สพฺภิเรว สมาเสถ, สพฺภิ กุเพฺพถ สนฺถวํ;

    ‘‘Sabbhireva samāsetha, sabbhi kubbetha santhavaṃ;

    สตํ สทฺธมฺมมญฺญาย, เสโยฺย โหติ น ปาปิโยฯ

    Sataṃ saddhammamaññāya, seyyo hoti na pāpiyo.

    ๔๔๗.

    447.

    ‘‘ชีรนฺติ เว ราชรถา สุจิตฺตา, อโถ สรีรมฺปิ ชรํ อุเปติ;

    ‘‘Jīranti ve rājarathā sucittā, atho sarīrampi jaraṃ upeti;

    สตญฺจ ธโมฺม น ชรํ อุเปติ, สโนฺต หเว สพฺภิ ปเวทยนฺติฯ

    Satañca dhammo na jaraṃ upeti, santo have sabbhi pavedayanti.

    ๔๔๘.

    448.

    ‘‘นภญฺจํ ทูเร ปถวี จ ทูเร, ปารํ สมุทฺทสฺส ตทาหุ ทูเร;

    ‘‘Nabhañcaṃ dūre pathavī ca dūre, pāraṃ samuddassa tadāhu dūre;

    ตโต หเว ทูรตรํ วทนฺติ, สตญฺจ ธโมฺม 107 อสตญฺจ ราช’’ฯ

    Tato have dūrataraṃ vadanti, satañca dhammo 108 asatañca rāja’’.

    ๔๔๙.

    449.

    ‘‘คาถา อิมา อตฺถวตี สุพฺยญฺชนา, สุภาสิตา ตุยฺห ชนินฺท สุตฺวา;

    ‘‘Gāthā imā atthavatī subyañjanā, subhāsitā tuyha janinda sutvā;

    อานนฺทิ วิโตฺต สุมโน ปตีโต, จตฺตาริ เต สมฺม วเร ททามิ’’ฯ

    Ānandi vitto sumano patīto, cattāri te samma vare dadāmi’’.

    ๔๕๐.

    450.

    ‘‘โย นตฺตโน มรณํ พุชฺฌสิ ตุวํ 109, หิตาหิตํ วินิปาตญฺจ สคฺคํ;

    ‘‘Yo nattano maraṇaṃ bujjhasi tuvaṃ 110, hitāhitaṃ vinipātañca saggaṃ;

    คิโทฺธ รเส ทุจฺจริเต นิวิโฎฺฐ, กิํ ตฺวํ วรํ ทสฺสสิ ปาปธมฺมฯ

    Giddho rase duccarite niviṭṭho, kiṃ tvaṃ varaṃ dassasi pāpadhamma.

    ๔๕๑.

    451.

    ‘‘อหญฺจ ตํ เทหิ วรนฺติ วชฺชํ, ตฺวญฺจาปิ ทตฺวาน อวากเรยฺย;

    ‘‘Ahañca taṃ dehi varanti vajjaṃ, tvañcāpi datvāna avākareyya;

    สนฺทิฎฺฐิกํ กลหมิมํ วิวาทํ, โก ปณฺฑิโต ชานมุปพฺพเชยฺย’’ฯ

    Sandiṭṭhikaṃ kalahamimaṃ vivādaṃ, ko paṇḍito jānamupabbajeyya’’.

    ๔๕๒.

    452.

    ‘‘น ตํ วรํ อรหติ ชนฺตุ ทาตุํ, ยํ วาปิ ทตฺวาน อวากเรยฺย;

    ‘‘Na taṃ varaṃ arahati jantu dātuṃ, yaṃ vāpi datvāna avākareyya;

    วรสฺสุ สมฺม อวิกมฺปมาโน, ปาณํ จชิตฺวานปิ ทสฺสเมว’’ฯ

    Varassu samma avikampamāno, pāṇaṃ cajitvānapi dassameva’’.

    ๔๕๓.

    453.

    ‘‘อริยสฺส อริเยน สเมติ สขฺยํ 111, ปญฺญสฺส ปญฺญาณวตา สเมติ;

    ‘‘Ariyassa ariyena sameti sakhyaṃ 112, paññassa paññāṇavatā sameti;

    ปเสฺสยฺย ตํ วสฺสสตํ อโรคํ 113, เอตํ วรานํ ปฐมํ วรามิ’’ฯ

    Passeyya taṃ vassasataṃ arogaṃ 114, etaṃ varānaṃ paṭhamaṃ varāmi’’.

    ๔๕๔.

    454.

    ‘‘อริยสฺส อริเยน สเมติ สขฺยํ, ปญฺญสฺส ปญฺญาณวตา สเมติ;

    ‘‘Ariyassa ariyena sameti sakhyaṃ, paññassa paññāṇavatā sameti;

    ปสฺสาสิ มํ วสฺสสตํ อโรคํ, เอตํ วรานํ ปฐมํ ททามิ’’ฯ

    Passāsi maṃ vassasataṃ arogaṃ, etaṃ varānaṃ paṭhamaṃ dadāmi’’.

    ๔๕๕.

    455.

    ‘‘เย ขตฺติยาเส อิธ ภูมิปาลา, มุทฺธาภิสิตฺตา กตนามเธยฺยา;

    ‘‘Ye khattiyāse idha bhūmipālā, muddhābhisittā katanāmadheyyā;

    น ตาทิเส ภูมิปตี อเทสิ, เอตํ วรานํ ทุติยํ วรามิ’’ฯ

    Na tādise bhūmipatī adesi, etaṃ varānaṃ dutiyaṃ varāmi’’.

    ๔๕๖.

    456.

    ‘‘เย ขตฺติยาเส อิธ ภูมิปาลา, มุทฺธาภิสิตฺตา กตนามเธยฺยา;

    ‘‘Ye khattiyāse idha bhūmipālā, muddhābhisittā katanāmadheyyā;

    น ตาทิเส ภูมิปตี อเทมิ, เอตํ วรานํ ทุติยํ ททามิ’’ฯ

    Na tādise bhūmipatī ademi, etaṃ varānaṃ dutiyaṃ dadāmi’’.

    ๔๕๗.

    457.

    ‘‘ปโรสตํ ขตฺติยา เต คหิตา, ตลาวุตา อสฺสุมุขา รุทนฺตา;

    ‘‘Parosataṃ khattiyā te gahitā, talāvutā assumukhā rudantā;

    สเก เต รเฎฺฐ ปฎิปาทยาหิ, เอตํ วรานํ ตติยํ วรามิ’’ฯ

    Sake te raṭṭhe paṭipādayāhi, etaṃ varānaṃ tatiyaṃ varāmi’’.

    ๔๕๘.

    458.

    ‘‘ปโรสตํ ขตฺติยา เม คหิตา, ตลาวุตา อสฺสุมุขา รุทนฺตา;

    ‘‘Parosataṃ khattiyā me gahitā, talāvutā assumukhā rudantā;

    สเก เต รเฎฺฐ ปฎิปาทยามิ 115, เอตํ วรานํ ตติยํ ททามิ’’ฯ

    Sake te raṭṭhe paṭipādayāmi 116, etaṃ varānaṃ tatiyaṃ dadāmi’’.

    ๔๕๙.

    459.

    ‘‘ฉิทฺทํ เต รฎฺฐํ พฺยถิตา 117 ภยา หิ, ปุถู นรา เลณมนุปฺปวิฎฺฐา;

    ‘‘Chiddaṃ te raṭṭhaṃ byathitā 118 bhayā hi, puthū narā leṇamanuppaviṭṭhā;

    มนุสฺสมํสํ วิรเมหิ 119 ราช, เอตํ วรานํ จตุตฺถํ วรามิ’’ฯ

    Manussamaṃsaṃ viramehi 120 rāja, etaṃ varānaṃ catutthaṃ varāmi’’.

    ๔๖๐.

    460.

    ‘‘อทฺธา หิ โส ภโกฺข มม 121 มนาโป, เอตสฺส เหตุมฺหิ 122 วนํ ปวิโฎฺฐ;

    ‘‘Addhā hi so bhakkho mama 123 manāpo, etassa hetumhi 124 vanaṃ paviṭṭho;

    โสหํ กถํ เอโตฺต อุปารเมยฺยํ, อญฺญํ วรานํ จตุตฺถํ วรสฺสุ’’ฯ

    Sohaṃ kathaṃ etto upārameyyaṃ, aññaṃ varānaṃ catutthaṃ varassu’’.

    ๔๖๑.

    461.

    ‘‘นํ เว ปิยํ เมติ ชนินฺท ตาทิโส, อตฺตํ นิรํกจฺจ 125 ปิยานิ เสวติ;

    ‘‘Naṃ ve piyaṃ meti janinda tādiso, attaṃ niraṃkacca 126 piyāni sevati;

    อตฺตาว เสโยฺย ปรมา จ 127 เสโยฺย, ลพฺภา ปิยา โอจิตเตฺถน 128 ปจฺฉา’’ฯ

    Attāva seyyo paramā ca 129 seyyo, labbhā piyā ocitatthena 130 pacchā’’.

    ๔๖๒.

    462.

    ‘‘ปิยํ เม มานุสํ มํสํ, สุตโสม วิชานหิ;

    ‘‘Piyaṃ me mānusaṃ maṃsaṃ, sutasoma vijānahi;

    นมฺหิ สกฺกา 131 นิวาเรตุํ, อญฺญํ 132 วรํ สมฺม วรสฺสุ’’ฯ

    Namhi sakkā 133 nivāretuṃ, aññaṃ 134 varaṃ samma varassu’’.

    ๔๖๓.

    463.

    ‘‘โย เว ปิยํ เมติ ปิยานุรกฺขี 135, อตฺตํ นิรํกจฺจ ปิยานิ เสวติ;

    ‘‘Yo ve piyaṃ meti piyānurakkhī 136, attaṃ niraṃkacca piyāni sevati;

    โสโณฺฑว ปิตฺวา วิสมิสฺสปานํ 137, เตเนว โส โหติ ทุกฺขี ปรตฺถฯ

    Soṇḍova pitvā visamissapānaṃ 138, teneva so hoti dukkhī parattha.

    ๔๖๔.

    464.

    ‘‘โย จีธ สงฺขาย ปิยานิ หิตฺวา, กิเจฺฉนปิ เสวติ อริยธเมฺม 139;

    ‘‘Yo cīdha saṅkhāya piyāni hitvā, kicchenapi sevati ariyadhamme 140;

    ทุกฺขิโตว ปิตฺวาน ยโถสธานิ, เตเนว โส โหติ สุขี ปรตฺถ’’ฯ

    Dukkhitova pitvāna yathosadhāni, teneva so hoti sukhī parattha’’.

    ๔๖๕.

    465.

    ‘‘โอหายหํ ปิตรํ มาตรญฺจ, มนาปิเย กามคุเณ จ 141 ปญฺจ;

    ‘‘Ohāyahaṃ pitaraṃ mātarañca, manāpiye kāmaguṇe ca 142 pañca;

    เอตสฺส เหตุมฺหิ วนํ ปวิโฎฺฐ, ตํ เต วรํ กินฺติ มหํ ททามิ’’ฯ

    Etassa hetumhi vanaṃ paviṭṭho, taṃ te varaṃ kinti mahaṃ dadāmi’’.

    ๔๖๖.

    466.

    ‘‘น ปณฺฑิตา ทิคุณมาหุ วากฺยํ, สจฺจปฺปฎิญฺญาว ภวนฺติ สโนฺต;

    ‘‘Na paṇḍitā diguṇamāhu vākyaṃ, saccappaṭiññāva bhavanti santo;

    วรสฺสุ สมฺม อิติ มํ อโวจ, อิจฺจพฺรวี ตฺวํ น หิ เต สเมติ’’ฯ

    Varassu samma iti maṃ avoca, iccabravī tvaṃ na hi te sameti’’.

    ๔๖๗.

    467.

    ‘‘อปุญฺญลาภํ อยสํ อกิตฺติํ, ปาปํ พหุํ ทุจฺจริตํ กิเลสํ;

    ‘‘Apuññalābhaṃ ayasaṃ akittiṃ, pāpaṃ bahuṃ duccaritaṃ kilesaṃ;

    มนุสฺสมํสสฺส กเต 143 อุปาคา, ตํ เต วรํ กินฺติ มหํ ทเทยฺยํฯ

    Manussamaṃsassa kate 144 upāgā, taṃ te varaṃ kinti mahaṃ dadeyyaṃ.

    ๔๖๘.

    468.

    ‘‘นํ ตํ วรํ อรหติ ชนฺตุ ทาตุํ, ยํ วาปิ ทตฺวาน อวากเรยฺย;

    ‘‘Naṃ taṃ varaṃ arahati jantu dātuṃ, yaṃ vāpi datvāna avākareyya;

    วรสฺสุ สมฺม อวิกมฺปมาโน, ปาณํ จชิตฺวานปิ ทสฺสเมว’’ฯ

    Varassu samma avikampamāno, pāṇaṃ cajitvānapi dassameva’’.

    ๔๖๙.

    469.

    ‘‘ปาณํ จชนฺติ สโนฺต นาปิ ธมฺมํ, สจฺจปฺปฎิญฺญาว ภวนฺติ สโนฺต;

    ‘‘Pāṇaṃ cajanti santo nāpi dhammaṃ, saccappaṭiññāva bhavanti santo;

    ทตฺวา วรํ ขิปฺปมวากโรหิ, เอเตน สมฺปชฺช สุราชเสฎฺฐฯ

    Datvā varaṃ khippamavākarohi, etena sampajja surājaseṭṭha.

    ๔๗๐.

    470.

    ‘‘จเช ธนํ 145 องฺควรสฺส เหตุ 146, องฺคํ จเช ชีวิตํ รกฺขมาโน;

    ‘‘Caje dhanaṃ 147 aṅgavarassa hetu 148, aṅgaṃ caje jīvitaṃ rakkhamāno;

    องฺคํ ธนํ ชีวิตญฺจาปิ สพฺพํ, จเช นโร ธมฺมมนุสฺสรโนฺต’’ฯ

    Aṅgaṃ dhanaṃ jīvitañcāpi sabbaṃ, caje naro dhammamanussaranto’’.

    ๔๗๑.

    471.

    ‘‘ยสฺมา หิ ธมฺมํ ปุริโส วิชญฺญา, เย จสฺส กงฺขํ วินยนฺติ สโนฺต;

    ‘‘Yasmā hi dhammaṃ puriso vijaññā, ye cassa kaṅkhaṃ vinayanti santo;

    ตํ หิสฺส ทีปญฺจ ปรายณญฺจ, น เตน มิตฺติํ ชิรเยถ 149 ปโญฺญฯ

    Taṃ hissa dīpañca parāyaṇañca, na tena mittiṃ jirayetha 150 pañño.

    ๔๗๒.

    472.

    ‘‘อทฺธา หิ โส ภโกฺข มม มนาโป, เอตสฺส เหตุมฺหิ วนํ ปวิโฎฺฐ;

    ‘‘Addhā hi so bhakkho mama manāpo, etassa hetumhi vanaṃ paviṭṭho;

    สเจ จ มํ ยาจสิ เอตมตฺถํ, เอตมฺปิ เต สมฺม วรํ ททามิฯ

    Sace ca maṃ yācasi etamatthaṃ, etampi te samma varaṃ dadāmi.

    ๔๗๓.

    473.

    ‘‘สตฺถา จ เม โหสิ สขา จ เมสิ, วจนมฺปิ เต สมฺม อหํ อกาสิํ;

    ‘‘Satthā ca me hosi sakhā ca mesi, vacanampi te samma ahaṃ akāsiṃ;

    ตุวมฺปิ 151 เม สมฺม กโรหิ วากฺยํ, อุโภปิ คนฺตฺวาน ปโมจยาม’’ฯ

    Tuvampi 152 me samma karohi vākyaṃ, ubhopi gantvāna pamocayāma’’.

    ๔๗๔.

    474.

    ‘‘สตฺถา จ เต โหมิ สขา จ ตฺยมฺหิ, วจนมฺปิ เม สมฺม ตุวํ อกาสิ;

    ‘‘Satthā ca te homi sakhā ca tyamhi, vacanampi me samma tuvaṃ akāsi;

    อหมฺปิ เต สมฺม กโรมิ วากฺยํ, อุโภปิ คนฺตฺวาน ปโมจยาม’’ฯ

    Ahampi te samma karomi vākyaṃ, ubhopi gantvāna pamocayāma’’.

    ๔๗๕.

    475.

    ‘‘กมฺมาสปาเทนํ วิเหฐิตตฺถ 153, ตลาวุตา อสฺสุมุขา รุทนฺตา;

    ‘‘Kammāsapādenaṃ viheṭhitattha 154, talāvutā assumukhā rudantā;

    น ชาตุ ทุเพฺภถ อิมสฺส รโญฺญ, สจฺจปฺปฎิญฺญํ เม ปฎิสฺสุณาถ’’ฯ

    Na jātu dubbhetha imassa rañño, saccappaṭiññaṃ me paṭissuṇātha’’.

    ๔๗๖.

    476.

    ‘‘กมฺมาสปาเทน วิเหฐิตมฺหา, ตลาวุตา อสฺสุมุขา รุทนฺตา;

    ‘‘Kammāsapādena viheṭhitamhā, talāvutā assumukhā rudantā;

    น ชาตุ ทุเพฺภม อิมสฺส รโญฺญ, สจฺจปฺปฎิญฺญํ เต ปฎิสฺสุณาม’’ฯ

    Na jātu dubbhema imassa rañño, saccappaṭiññaṃ te paṭissuṇāma’’.

    ๔๗๗.

    477.

    ‘‘ยถา ปิตา วา อถ วาปิ มาตา, อนุกมฺปกา อตฺถกามา ปชานํ;

    ‘‘Yathā pitā vā atha vāpi mātā, anukampakā atthakāmā pajānaṃ;

    เอวเมว โว 155 โหตุ อยญฺจ ราชา, ตุเมฺห จ โว โหถ ยเถว ปุตฺตา’’ฯ

    Evameva vo 156 hotu ayañca rājā, tumhe ca vo hotha yatheva puttā’’.

    ๔๗๘.

    478.

    ‘‘ยถา ปิตา วา อถ วาปิ มาตา, อนุกมฺปกา อตฺถกามา ปชานํ;

    ‘‘Yathā pitā vā atha vāpi mātā, anukampakā atthakāmā pajānaṃ;

    เอวเมว โน โหตุ 157 อยญฺจ ราชา, มยมฺปิ เหสฺสาม ยเถว 158 ปุตฺตา’’ฯ

    Evameva no hotu 159 ayañca rājā, mayampi hessāma yatheva 160 puttā’’.

    ๔๗๙.

    479.

    ‘‘จตุปฺปทํ สกุณญฺจาปิ มํสํ, สูเทหิ รนฺธํ สุกตํ สุนิฎฺฐิตํ;

    ‘‘Catuppadaṃ sakuṇañcāpi maṃsaṃ, sūdehi randhaṃ sukataṃ suniṭṭhitaṃ;

    สุธํว อิโนฺท ปริภุญฺชิยาน, หิตฺวา กเถโก รมสี อรเญฺญฯ

    Sudhaṃva indo paribhuñjiyāna, hitvā katheko ramasī araññe.

    ๔๘๐.

    480.

    ‘‘ตา ขตฺติยา วลฺลิวิลากมชฺฌา, อลงฺกตา สมฺปริวารยิตฺวา;

    ‘‘Tā khattiyā vallivilākamajjhā, alaṅkatā samparivārayitvā;

    อินฺทํว เทเวสุ ปโมทยิํสุ, หิตฺวา กเถโก รมสี อรเญฺญฯ

    Indaṃva devesu pamodayiṃsu, hitvā katheko ramasī araññe.

    ๔๘๑.

    481.

    ‘‘ตมฺพูปธาเน พหุโคณกมฺหิ, สุภมฺหิ 161 สพฺพสฺสยนมฺหิ สเงฺค 162;

    ‘‘Tambūpadhāne bahugoṇakamhi, subhamhi 163 sabbassayanamhi saṅge 164;

    เสยฺยสฺส 165 มชฺฌมฺหิ สุขํ สยิตฺวา, หิตฺวา กเถโก รมสี อรเญฺญฯ

    Seyyassa 166 majjhamhi sukhaṃ sayitvā, hitvā katheko ramasī araññe.

    ๔๘๒.

    482.

    ‘‘ปาณิสฺสรํ กุมฺภถูณํ นิสีเถ, อโถปิ เว นิปฺปุริสมฺปิ ตูริยํ;

    ‘‘Pāṇissaraṃ kumbhathūṇaṃ nisīthe, athopi ve nippurisampi tūriyaṃ;

    พหุํ สุคีตญฺจ สุวาทิตญฺจ, หิตฺวา กเถโก รมสี อรเญฺญฯ

    Bahuṃ sugītañca suvāditañca, hitvā katheko ramasī araññe.

    ๔๘๓.

    483.

    ‘‘อุยฺยานสมฺปนฺนํ ปหูตมาลฺยํ, มิคาชินูเปตปุรํ 167 สุรมฺมํ;

    ‘‘Uyyānasampannaṃ pahūtamālyaṃ, migājinūpetapuraṃ 168 surammaṃ;

    หเยหิ นาเคหิ รเถหุเปตํ, หิตฺวา กเถโก รมสี อรเญฺญ’’ฯ

    Hayehi nāgehi rathehupetaṃ, hitvā katheko ramasī araññe’’.

    ๔๘๔.

    484.

    ‘‘กาฬปเกฺข ยถา จโนฺท, หายเตว สุเว สุเว;

    ‘‘Kāḷapakkhe yathā cando, hāyateva suve suve;

    กาฬปกฺขูปโม ราช, อสตํ โหติ สมาคโมฯ

    Kāḷapakkhūpamo rāja, asataṃ hoti samāgamo.

    ๔๘๕.

    485.

    ‘‘ยถาหํ 169 รสกมาคมฺม, สูทํ กาปุริสาธมํ 170;

    ‘‘Yathāhaṃ 171 rasakamāgamma, sūdaṃ kāpurisādhamaṃ 172;

    อกาสิํ ปาปกํ กมฺมํ, เยน คจฺฉามิ ทุคฺคติํฯ

    Akāsiṃ pāpakaṃ kammaṃ, yena gacchāmi duggatiṃ.

    ๔๘๖.

    486.

    ‘‘สุกฺกปเกฺข ยถา จโนฺท, วฑฺฒเตว สุเว สุเว;

    ‘‘Sukkapakkhe yathā cando, vaḍḍhateva suve suve;

    สุกฺกปกฺขูปโม ราช, สตํ โหติ สมาคโมฯ

    Sukkapakkhūpamo rāja, sataṃ hoti samāgamo.

    ๔๘๗.

    487.

    ‘‘ยถาหํ ตุวมาคมฺม, สุตโสม วิชานหิ;

    ‘‘Yathāhaṃ tuvamāgamma, sutasoma vijānahi;

    กาหามิ กุสลํ กมฺมํ, เยน คจฺฉามิ สุคฺคติํฯ

    Kāhāmi kusalaṃ kammaṃ, yena gacchāmi suggatiṃ.

    ๔๘๘.

    488.

    ‘‘ถเล ยถา วาริ ชนินฺท วุฎฺฐํ 173, อนทฺธเนยฺยํ น จิรฎฺฐิตีกํ;

    ‘‘Thale yathā vāri janinda vuṭṭhaṃ 174, anaddhaneyyaṃ na ciraṭṭhitīkaṃ;

    เอวมฺปิ โหติ อสตํ สมาคโม, อนทฺธเนโยฺย อุทกํ ถเลวฯ

    Evampi hoti asataṃ samāgamo, anaddhaneyyo udakaṃ thaleva.

    ๔๘๙.

    489.

    ‘‘สเร ยถา วาริ ชนินฺท วุฎฺฐํ, จิรฎฺฐิตีกํ นรวีรเสฎฺฐ 175;

    ‘‘Sare yathā vāri janinda vuṭṭhaṃ, ciraṭṭhitīkaṃ naravīraseṭṭha 176;

    เอวมฺปิ เว 177 โหติ สตํ สมาคโม, จิรฎฺฐิตีโก 178 อุทกํ สเรวฯ

    Evampi ve 179 hoti sataṃ samāgamo, ciraṭṭhitīko 180 udakaṃ sareva.

    ๔๙๐.

    490.

    ‘‘อพฺยายิโก โหติ สตํ สมาคโม, ยาวมฺปิ ติเฎฺฐยฺย ตเถว โหติ;

    ‘‘Abyāyiko hoti sataṃ samāgamo, yāvampi tiṭṭheyya tatheva hoti;

    ขิปฺปญฺหิ เวติ อสตํ สมาคโม, ตสฺมา สตํ ธโมฺม อสพฺภิ อารกา’’ฯ

    Khippañhi veti asataṃ samāgamo, tasmā sataṃ dhammo asabbhi ārakā’’.

    ๔๙๑.

    491.

    ‘‘น โส ราชา โย 181 อเชยฺยํ ชินาติ, น โส สขา โย สขารํ ชินาติ;

    ‘‘Na so rājā yo 182 ajeyyaṃ jināti, na so sakhā yo sakhāraṃ jināti;

    น สา ภริยา ยา ปติโน น วิเภติ, น เต ปุตฺตา 183 เย น ภรนฺติ ชิณฺณํฯ

    Na sā bhariyā yā patino na vibheti, na te puttā 184 ye na bharanti jiṇṇaṃ.

    ๔๙๒.

    492.

    ‘‘น สา สภา ยตฺถ น สนฺติ สโนฺต, น เต สโนฺต 185 เย น ภณนฺติ ธมฺมํ;

    ‘‘Na sā sabhā yattha na santi santo, na te santo 186 ye na bhaṇanti dhammaṃ;

    ราคญฺจ โทสญฺจ ปหาย โมหํ, ธมฺมํ ภณนฺตาว ภวนฺติ สโนฺตฯ

    Rāgañca dosañca pahāya mohaṃ, dhammaṃ bhaṇantāva bhavanti santo.

    ๔๙๓.

    493.

    ‘‘นาภาสมานํ ชานนฺติ, มิสฺสํ พาเลหิ ปณฺฑิตํ;

    ‘‘Nābhāsamānaṃ jānanti, missaṃ bālehi paṇḍitaṃ;

    ภาสมานญฺจ ชานนฺติ, เทเสนฺตํ อมตํ ปทํฯ

    Bhāsamānañca jānanti, desentaṃ amataṃ padaṃ.

    ๔๙๔.

    494.

    ‘‘ภาสเย โชตเย ธมฺมํ, ปคฺคเณฺห อิสินํ ธชํ;

    ‘‘Bhāsaye jotaye dhammaṃ, paggaṇhe isinaṃ dhajaṃ;

    สุภาสิตทฺธชา อิสโย, ธโมฺม หิ อิสินํ ธโช’’ติฯ

    Subhāsitaddhajā isayo, dhammo hi isinaṃ dhajo’’ti.

    มหาสุตโสมชาตกํ ปญฺจมํฯ

    Mahāsutasomajātakaṃ pañcamaṃ.

    อสีตินิปาตํ นิฎฺฐิตํฯ

    Asītinipātaṃ niṭṭhitaṃ.

    ตสฺสุทฺทานํ –

    Tassuddānaṃ –

    สุมุโข ปน หํสวโร จ มหา, สุธโภชนิโก จ ปโร ปวโร;

    Sumukho pana haṃsavaro ca mahā, sudhabhojaniko ca paro pavaro;

    สกุณาลทิชาธิปติวฺหยโน, สุตโสมวรุตฺตมสวฺหยโนติฯ

    Sakuṇāladijādhipativhayano, sutasomavaruttamasavhayanoti.







    Footnotes:
    1. อาทุ (สี. สฺยา.)
    2. ādu (sī. syā.)
    3. ยเมว ตฺวํ (สี.)
    4. yameva tvaṃ (sī.)
    5. วิวสเน (สี. สฺยา. ปี.)
    6. vivasane (sī. syā. pī.)
    7. อุปสงฺกมิตฺวา (สี. สฺยา. ปี.)
    8. upasaṅkamitvā (sī. syā. pī.)
    9. รโต (สี. สฺยา. ปี.)
    10. rato (sī. syā. pī.)
    11. จชิตฺวา (ก.)
    12. อตฺตานเมว (สี. ปี.)
    13. cajitvā (ka.)
    14. attānameva (sī. pī.)
    15. วิเหตุ (สี. ปี.)
    16. มา ภกฺขสี (สี. ปี.)
    17. vihetu (sī. pī.)
    18. mā bhakkhasī (sī. pī.)
    19. ทิปทาทิป (สี. ปี.) เอวมุปริปิ
    20. dipadādipa (sī. pī.) evamuparipi
    21. ตสฺส โอรส อตฺรโช (สี.), ตสฺส อตฺรช โอรโส (ปี.)
    22. tassa orasa atrajo (sī.), tassa atraja oraso (pī.)
    23. เหสฺสามิ (สี. สฺยา.), หสฺสามิ (ปี.)
    24. hessāmi (sī. syā.), hassāmi (pī.)
    25. ยสฺมา (สี. ปี.)
    26. yasmā (sī. pī.)
    27. กุสเคฺค อุทกมาทาย (สี. ปี.)
    28. kusagge udakamādāya (sī. pī.)
    29. อวุตฺติปริโภเคน (สี. ปี.), อยุตฺตปริโภเคน (สฺยา.)
    30. avuttiparibhogena (sī. pī.), ayuttaparibhogena (syā.)
    31. ปามุโข (ก.)
    32. pāmukho (ka.)
    33. กงฺขปตฺตํ (สฺยา. ก.)
    34. kaṅkhapattaṃ (syā. ka.)
    35. สเจปิ สหสิ (สี. ปี.)
    36. ขตฺติยํ (สฺยา.)
    37. sacepi sahasi (sī. pī.)
    38. khattiyaṃ (syā.)
    39. ชาตภูมิ (สี.)
    40. jātabhūmi (sī.)
    41. อุท (สี. ปี.)
    42. uda (sī. pī.)
    43. กิโม นุ ตฺวํ (สี. ปี.)
    44. kimo nu tvaṃ (sī. pī.)
    45. สงฺครํ (สี. สฺยา. ปี.) เอวมุปริปิ
    46. saṅgaraṃ (sī. syā. pī.) evamuparipi
    47. น หิ ชีวิตํ (สี.)
    48. na hi jīvitaṃ (sī.)
    49. ตายเต (สี. สฺยา. ปี. ก.)
    50. tāyate (sī. syā. pī. ka.)
    51. อยํ คาถา สี. ปี. โปตฺถเกสุ น ทิสฺสติ
    52. ayaṃ gāthā sī. pī. potthakesu na dissati
    53. อยํ คาถา สี. ปี. โปตฺถเกสุ น ทิสฺสติ
    54. ayaṃ gāthā sī. pī. potthakesu na dissati
    55. สุโณมิ (สี. สฺยา.)
    56. suṇomi (sī. syā.)
    57. โหตุ (ปี.)
    58. hotu (pī.)
    59. ธมฺมํ (สี. ปี.)
    60. dhammaṃ (sī. pī.)
    61. สหสฺสิโย (สี. ปี.)
    62. น อิมา, (สี. ปี.) นยิมา (สฺยา.)
    63. sahassiyo (sī. pī.)
    64. na imā, (sī. pī.) nayimā (syā.)
    65. อสีติยา นวุติยา (ปี.)
    66. ภเวยฺยุ (สี. สฺยา. ปี.)
    67. asītiyā navutiyā (pī.)
    68. bhaveyyu (sī. syā. pī.)
    69. สหสฺสิโย นาม อิธตฺถิ (สี.)
    70. sahassiyo nāma idhatthi (sī.)
    71. สโนฺต มมํ (สฺยา.), สโนฺต จ มํ (สี. ปี. ก.)
    72. santo mamaṃ (syā.), santo ca maṃ (sī. pī. ka.)
    73. สาคโร วา (สี. ปี.)
    74. sāgaro vā (sī. pī.)
    75. คาถา อหํ อตฺถวตี (สี. ปี.)
    76. gāthā ahaṃ atthavatī (sī. pī.)
    77. ภาสเส มํ (สี. สฺยา. ปี.)
    78. โปริสาทสฺส กเนฺต (สี. ปี.), โปริสาทสฺสุปเนฺต (ก.)
    79. bhāsase maṃ (sī. syā. pī.)
    80. porisādassa kante (sī. pī.), porisādassupante (ka.)
    81. อสฺสาโรหา (สฺยา. ปี.)
    82. assārohā (syā. pī.)
    83. ขาทิตุํ (สี. สฺยา. ปี.)
    84. สธูมกา จ (สฺยา.)
    85. khādituṃ (sī. syā. pī.)
    86. sadhūmakā ca (syā.)
    87. สุโณมิ (สี.), สุณาม (ปี.)
    88. suṇomi (sī.), suṇāma (pī.)
    89. โปริสาทมกาสิ (ก.)
    90. porisādamakāsi (ka.)
    91. กสฺมา นุ (ก.)
    92. kasmā nu (ka.)
    93. ลพฺภติ (ปี.)
    94. labbhati (pī.)
    95. จ’สิ (สี. สฺยา. ปี.)
    96. ca’si (sī. syā. pī.)
    97. ขาท (สี. สฺยา. ปี.)
    98. khāda (sī. syā. pī.)
    99. กตูปกาโร (สฺยา. ก.)
    100. katūpakāro (syā. ka.)
    101. วิปเตยฺย (สี. ปี.)
    102. vipateyya (sī. pī.)
    103. รมตี (สี. ปี.)
    104. ramatī (sī. pī.)
    105. สุตโสม (สี. ปี.)
    106. sutasoma (sī. pī.)
    107. ธมฺมํ (สี. ปี.)
    108. dhammaṃ (sī. pī.)
    109. พุชฺฌเส ตฺวํ (สี. ปี.), พุชฺฌเส ตุวํ (สฺยา.)
    110. bujjhase tvaṃ (sī. pī.), bujjhase tuvaṃ (syā.)
    111. สกฺขิ (สี. สฺยา. ปี.)
    112. sakkhi (sī. syā. pī.)
    113. อาโรคฺยํ (ก.)
    114. ārogyaṃ (ka.)
    115. สเกน รเฎฺฐน ปฎิปาทยามิ เต (สี.)
    116. sakena raṭṭhena paṭipādayāmi te (sī.)
    117. พฺยถิตํ (สี.), พฺยาธิตํ (ปี.)
    118. byathitaṃ (sī.), byādhitaṃ (pī.)
    119. วิรมาหิ (สฺยา.)
    120. viramāhi (syā.)
    121. มมํ (สี. สฺยา. ปี.)
    122. เหตุมฺปิ (ปี.)
    123. mamaṃ (sī. syā. pī.)
    124. hetumpi (pī.)
    125. นิรํกตฺวา (สี. สฺยา. ปี.)
    126. niraṃkatvā (sī. syā. pī.)
    127. ปรมาว (พหูสุ) ชา. ๑.๖.๘๑ สํสเนฺทตพฺพํ
    128. โอจิตเตฺตน (ก.)
    129. paramāva (bahūsu) jā. 1.6.81 saṃsandetabbaṃ
    130. ocitattena (ka.)
    131. นมฺหิ สโกฺก (สี. ปี.)
    132. อญฺญํ ตุวํ (สี. สฺยา. ปี.)
    133. namhi sakko (sī. pī.)
    134. aññaṃ tuvaṃ (sī. syā. pī.)
    135. ปิยานุกงฺขี (สี. ปี.)
    136. piyānukaṅkhī (sī. pī.)
    137. ปีตฺวน วิสสฺส ถาลํ (สี. ปี.), ปิตฺวา วิสมิสฺสถาลํ (สฺยา. ก.)
    138. pītvana visassa thālaṃ (sī. pī.), pitvā visamissathālaṃ (syā. ka.)
    139. อริยธมฺมํ (สี. ปี.)
    140. ariyadhammaṃ (sī. pī.)
    141. กามคุเณปิ (สฺยา. ก.)
    142. kāmaguṇepi (syā. ka.)
    143. ภโว (สฺยา. ก.)
    144. bhavo (syā. ka.)
    145. ธนํ จเช (สี.)
    146. โย ปน องฺคเหตุ (สี. ปี.)
    147. dhanaṃ caje (sī.)
    148. yo pana aṅgahetu (sī. pī.)
    149. ชรเยถ (สี. ปี.)
    150. jarayetha (sī. pī.)
    151. ตฺวํปิ (สฺยา. ก.)
    152. tvaṃpi (syā. ka.)
    153. วิเหฐิตมฺหา (สฺยา. ก.)
    154. viheṭhitamhā (syā. ka.)
    155. เอวเมว (สี.), เอวมฺปิ โว (สฺยา.)
    156. evameva (sī.), evampi vo (syā.)
    157. เอวมฺปิ โน (สฺยา.)
    158. ตเถว (ปี.)
    159. evampi no (syā.)
    160. tatheva (pī.)
    161. สุจิมฺหิ (สี. ปี.)
    162. สญฺญเต (สี. ปี.), ลงฺคเต (สฺยา.)
    163. sucimhi (sī. pī.)
    164. saññate (sī. pī.), laṅgate (syā.)
    165. สยนสฺส (สี. สฺยา. ปี. ก.)
    166. sayanassa (sī. syā. pī. ka.)
    167. มิคาจิรูเปตปุรํ (สี. ปี.)
    168. migācirūpetapuraṃ (sī. pī.)
    169. ยถา (สี.)
    170. สูทกํ ปุริสาธมํ (สี. ปี.)
    171. yathā (sī.)
    172. sūdakaṃ purisādhamaṃ (sī. pī.)
    173. วฎฺฎํ (สี. ปี.)
    174. vaṭṭaṃ (sī. pī.)
    175. นรวิริยเสฎฺฐ (สี. ปี.)
    176. naraviriyaseṭṭha (sī. pī.)
    177. เอวมฺปิ เม (สฺยา.), เอวมฺปิ เจ (ปี. ก.)
    178. จิรฎฺฐิติกํ (ก.)
    179. evampi me (syā.), evampi ce (pī. ka.)
    180. ciraṭṭhitikaṃ (ka.)
    181. ราชา น โส โย (ก.)
    182. rājā na so yo (ka.)
    183. ปุตฺตา น เต (ก.)
    184. puttā na te (ka.)
    185. สโนฺต น เต (ก.)
    186. santo na te (ka.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā / [๕๓๗] ๕. มหาสุตโสมชาตกวณฺณนา • [537] 5. Mahāsutasomajātakavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact