Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā)

    ๓. มหาวจฺฉสุตฺตวณฺณนา

    3. Mahāvacchasuttavaṇṇanā

    ๑๙๓. เอวํ เม สุตนฺติ มหาวจฺฉสุตฺตํฯ ตตฺถ สหกถีติ สทฺธิํวาโท, พหุํ มยา ตุเมฺหหิ สทฺธิํ กถิตปุพฺพนฺติ กถํ สาเรติ เมตฺติํ ฆเฎติฯ ปุริมานิ หิ เทฺว สุตฺตานิ เอตเสฺสว กถิตานิ, สํยุตฺตเก อพฺยากตสํยุตฺตํ (สํ. นิ. ๔.๔๑๖ อาทโย) นาม เอตเสฺสว กถิตํ – ‘‘กิํ นุ โข, โภ โคตม, สสฺสโต โลโก อิทเมว สจฺจํ โมฆมญฺญนฺติ อพฺยากตเมต’’นฺติ เอวํ เอกุตฺตรนิกาเยปิ อิมินา สทฺธิํ กถิตํ อตฺถิเยวฯ ตสฺมา เอวมาหฯ สมฺมาสมฺพุโทฺธปิ ตสฺส อาคตาคตสฺส สงฺคหํ กตฺวา โอกาสมกาสิเยวฯ กสฺมา? อยญฺหิ สสฺสตทิฎฺฐิโก, สสฺสตทิฎฺฐิกา จ สีฆํ ลทฺธิํ น วิสฺสเชฺชนฺติ, วสาเตลมกฺขิตปิโลติกา วิย จิเรน สุชฺฌนฺติฯ ปสฺสติ จ ภควา – ‘‘อยํ ปริพฺพาชโก กาเล คจฺฉเนฺต คจฺฉเนฺต ลทฺธิํ วิสฺสเชฺชตฺวา มม สนฺติเก ปพฺพชิตฺวา ฉ อภิญฺญาโย สจฺฉิกตฺวา อภิญฺญาตสาวโก ภวิสฺสตี’’ติฯ ตสฺมา ตสฺส อาคตาคตสฺส สงฺคหํ กตฺวา โอกาสมกาสิเยวฯ อิทํ ปนสฺส ปจฺฉิมคมนํฯ โส หิ อิมสฺมิํ สุเตฺต ตรณํ วา โหตุ อตรณํ วา, ยฎฺฐิํ โอตริตฺวา อุทเก ปตมาโน วิย สมณสฺส โคตมสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา ปพฺพชิสฺสามีติ สนฺนิฎฺฐานํ กตฺวา อาคโตฯ ตสฺมา ธมฺมเทสนํ ยาจโนฺต สาธุ เม ภวํ โคตโมติอาทิมาหฯ ตสฺส ภควา มูลวเสน สํขิตฺตเทสนํ, กมฺมปถวเสน วิตฺถารเทสนํ เทเสสิฯ มูลวเสน เจตฺถ อติสํขิตฺตา เทสนา, กมฺมปถวเสน สํขิตฺตา วิตฺถารสทิสาฯ พุทฺธานํ ปน นิปฺปริยาเยน วิตฺถารเทสนา นาม นตฺถิฯ จตุวีสติสมนฺตปฎฺฐานมฺปิ หิ สตฺตปกรเณ อภิธมฺมปิฎเก จ สพฺพํ สํขิตฺตเมวฯ ตสฺมา มูลวเสนาปิ กมฺมปถวเสนาปิ สํขิตฺตเมว เทเสสีติ เวทิตโพฺพฯ

    193.Evaṃme sutanti mahāvacchasuttaṃ. Tattha sahakathīti saddhiṃvādo, bahuṃ mayā tumhehi saddhiṃ kathitapubbanti kathaṃ sāreti mettiṃ ghaṭeti. Purimāni hi dve suttāni etasseva kathitāni, saṃyuttake abyākatasaṃyuttaṃ (saṃ. ni. 4.416 ādayo) nāma etasseva kathitaṃ – ‘‘kiṃ nu kho, bho gotama, sassato loko idameva saccaṃ moghamaññanti abyākatameta’’nti evaṃ ekuttaranikāyepi iminā saddhiṃ kathitaṃ atthiyeva. Tasmā evamāha. Sammāsambuddhopi tassa āgatāgatassa saṅgahaṃ katvā okāsamakāsiyeva. Kasmā? Ayañhi sassatadiṭṭhiko, sassatadiṭṭhikā ca sīghaṃ laddhiṃ na vissajjenti, vasātelamakkhitapilotikā viya cirena sujjhanti. Passati ca bhagavā – ‘‘ayaṃ paribbājako kāle gacchante gacchante laddhiṃ vissajjetvā mama santike pabbajitvā cha abhiññāyo sacchikatvā abhiññātasāvako bhavissatī’’ti. Tasmā tassa āgatāgatassa saṅgahaṃ katvā okāsamakāsiyeva. Idaṃ panassa pacchimagamanaṃ. So hi imasmiṃ sutte taraṇaṃ vā hotu ataraṇaṃ vā, yaṭṭhiṃ otaritvā udake patamāno viya samaṇassa gotamassa santikaṃ gantvā pabbajissāmīti sanniṭṭhānaṃ katvā āgato. Tasmā dhammadesanaṃ yācanto sādhu me bhavaṃ gotamotiādimāha. Tassa bhagavā mūlavasena saṃkhittadesanaṃ, kammapathavasena vitthāradesanaṃ desesi. Mūlavasena cettha atisaṃkhittā desanā, kammapathavasena saṃkhittā vitthārasadisā. Buddhānaṃ pana nippariyāyena vitthāradesanā nāma natthi. Catuvīsatisamantapaṭṭhānampi hi sattapakaraṇe abhidhammapiṭake ca sabbaṃ saṃkhittameva. Tasmā mūlavasenāpi kammapathavasenāpi saṃkhittameva desesīti veditabbo.

    ๑๙๔. ตตฺถ ปาณาติปาตา เวรมณี กุสลนฺติอาทีสุ ปฎิปาฎิยา สตฺตธมฺมา กามาวจรา, อนภิชฺฌาทโย ตโย จตุภูมิกาปิ วฎฺฎนฺติฯ

    194. Tattha pāṇātipātā veramaṇī kusalantiādīsu paṭipāṭiyā sattadhammā kāmāvacarā, anabhijjhādayo tayo catubhūmikāpi vaṭṭanti.

    ยโต โข, วจฺฉ, ภิกฺขุโนติ กิญฺจาปิ อนิยเมตฺวา วุตฺตํ, ยถา ปน ชีวกสุเตฺต จ จงฺกีสุเตฺต จ, เอวํ อิมสฺมิํ สุเตฺต จ อตฺตานเมว สนฺธาเยตํ ภควตา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ

    Yatokho, vaccha, bhikkhunoti kiñcāpi aniyametvā vuttaṃ, yathā pana jīvakasutte ca caṅkīsutte ca, evaṃ imasmiṃ sutte ca attānameva sandhāyetaṃ bhagavatā vuttanti veditabbaṃ.

    ๑๙๕. อตฺถิ ปนาติ กิํ ปุจฺฉามีติ ปุจฺฉติ? อยํ กิรสฺส ลทฺธิ – ‘‘ตสฺมิํ ตสฺมิํ สาสเน สตฺถาว อรหา โหติ, สาวโก ปน อรหตฺตํ ปตฺตุํ สมโตฺถ นตฺถิฯ สมโณ จ โคตโม ‘ยโต โข, วจฺฉ, ภิกฺขุโน’ติ เอกํ ภิกฺขุํ กเถโนฺต วิย กเถติ, อตฺถิ นุ โข สมณสฺส โคตมสฺส สาวโก อรหตฺตปฺปโตฺต’’ติฯ เอตมตฺถํ ปุจฺฉิสฺสามีติ ปุจฺฉติฯ ตตฺถ ติฎฺฐตูติ ภวํ ตาว โคตโม ติฎฺฐตุ, ภวญฺหิ โลเก ปากโฎ อรหาติ อโตฺถฯ ตสฺมิํ พฺยากเต อุตฺตริ ภิกฺขุนีอาทีนํ วเสน ปญฺหํ ปุจฺฉิ, ภควาปิสฺส พฺยากาสิฯ

    195.Atthipanāti kiṃ pucchāmīti pucchati? Ayaṃ kirassa laddhi – ‘‘tasmiṃ tasmiṃ sāsane satthāva arahā hoti, sāvako pana arahattaṃ pattuṃ samattho natthi. Samaṇo ca gotamo ‘yato kho, vaccha, bhikkhuno’ti ekaṃ bhikkhuṃ kathento viya katheti, atthi nu kho samaṇassa gotamassa sāvako arahattappatto’’ti. Etamatthaṃ pucchissāmīti pucchati. Tattha tiṭṭhatūti bhavaṃ tāva gotamo tiṭṭhatu, bhavañhi loke pākaṭo arahāti attho. Tasmiṃ byākate uttari bhikkhunīādīnaṃ vasena pañhaṃ pucchi, bhagavāpissa byākāsi.

    ๑๙๖. อาราธโกติ สมฺปาทโก ปริปูรโกฯ

    196.Ārādhakoti sampādako paripūrako.

    ๑๙๗. เสขาย วิชฺชาย ปตฺตพฺพนฺติ เหฎฺฐิมผลตฺตยํ ปตฺตพฺพํฯ ตํ สพฺพํ มยา อนุปฺปตฺตนฺติ วทติฯ วิตณฺฑวาที ปนาห – ‘‘กตเม ธมฺมา เสกฺขา? จตฺตาโร มคฺคา อปริยาปนฺนา เหฎฺฐิมานิ จ ตีณิ สามญฺญผลานี’’ติ (ธ. ส. ๑๐๒๓) วจนโต อรหตฺตมโคฺคปิ อเนน ปโตฺตเยวฯ ผลํ ปน อปตฺตํ, ตสฺส ปตฺติยา อุตฺตริ โยคํ กถาเปตีติฯ โส เอวํ สญฺญาเปตโพฺพ –

    197.Sekhāya vijjāya pattabbanti heṭṭhimaphalattayaṃ pattabbaṃ. Taṃ sabbaṃ mayā anuppattanti vadati. Vitaṇḍavādī panāha – ‘‘katame dhammā sekkhā? Cattāro maggā apariyāpannā heṭṭhimāni ca tīṇi sāmaññaphalānī’’ti (dha. sa. 1023) vacanato arahattamaggopi anena pattoyeva. Phalaṃ pana apattaṃ, tassa pattiyā uttari yogaṃ kathāpetīti. So evaṃ saññāpetabbo –

    ‘‘โย เว กิเลสานิ ปหาย ปญฺจ,

    ‘‘Yo ve kilesāni pahāya pañca,

    ปริปุณฺณเสโข อปริหานธโมฺม;

    Paripuṇṇasekho aparihānadhammo;

    เจโตวสิปฺปโตฺต สมาหิตินฺทฺริโย,

    Cetovasippatto samāhitindriyo,

    ส เว ฐิตโตฺตติ นโร ปวุจฺจตี’’ติฯ (อ. นิ. ๔.๕);

    Sa ve ṭhitattoti naro pavuccatī’’ti. (a. ni. 4.5);

    อนาคามิปุคฺคโล หิ เอกนฺตปริปุณฺณเสโขฯ ตํ สนฺธาย ‘‘เสขาย วิชฺชาย ปตฺตพฺพ’’นฺติ อาหฯ มคฺคสฺส ปน เอกจิตฺตกฺขณิกตฺตา ตตฺถ ฐิตสฺส ปุจฺฉา นาม นตฺถิฯ อิมินา สุเตฺตน มโคฺคปิ พหุจิตฺตกฺขณิโก โหตูติ เจฯ เอตํ น พุทฺธวจนํ, วุตฺตคาถาย จ อโตฺถ วิรุชฺฌติฯ ตสฺมา อนาคามิผเล ฐตฺวา อรหตฺตมคฺคสฺส วิปสฺสนํ กถาเปตีติ เวทิตโพฺพฯ ยสฺมา ปนสฺส น เกวลํ สุทฺธอรหตฺตเสฺสว อุปนิสฺสโย, ฉนฺนมฺปิ อภิญฺญานํ อุปนิสฺสโย อตฺถิ, ตสฺมา ภควา – ‘‘เอวมยํ สมเถ กมฺมํ กตฺวา ปญฺจ อภิญฺญา นิพฺพเตฺตสฺสติ , วิปสฺสนาย กมฺมํ กตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิสฺสติฯ เอวํ ฉฬภิโญฺญ มหาสาวโก ภวิสฺสตี’’ติ วิปสฺสนามตฺตํ อกเถตฺวา สมถวิปสฺสนา อาจิกฺขิฯ

    Anāgāmipuggalo hi ekantaparipuṇṇasekho. Taṃ sandhāya ‘‘sekhāya vijjāya pattabba’’nti āha. Maggassa pana ekacittakkhaṇikattā tattha ṭhitassa pucchā nāma natthi. Iminā suttena maggopi bahucittakkhaṇiko hotūti ce. Etaṃ na buddhavacanaṃ, vuttagāthāya ca attho virujjhati. Tasmā anāgāmiphale ṭhatvā arahattamaggassa vipassanaṃ kathāpetīti veditabbo. Yasmā panassa na kevalaṃ suddhaarahattasseva upanissayo, channampi abhiññānaṃ upanissayo atthi, tasmā bhagavā – ‘‘evamayaṃ samathe kammaṃ katvā pañca abhiññā nibbattessati , vipassanāya kammaṃ katvā arahattaṃ pāpuṇissati. Evaṃ chaḷabhiñño mahāsāvako bhavissatī’’ti vipassanāmattaṃ akathetvā samathavipassanā ācikkhi.

    ๑๙๘. สติ สติอายตเนติ สติ สติการเณฯ กิเญฺจตฺถ การณํ? อภิญฺญา วา อภิญฺญาปาทกชฺฌานํ วา อวสาเน ปน อรหตฺตํ วา การณํ อรหตฺตสฺส วิปสฺสนา วาติ เวทิตพฺพํฯ

    198.Satisatiāyataneti sati satikāraṇe. Kiñcettha kāraṇaṃ? Abhiññā vā abhiññāpādakajjhānaṃ vā avasāne pana arahattaṃ vā kāraṇaṃ arahattassa vipassanā vāti veditabbaṃ.

    ๒๐๐. ปริจิโณฺณ เม ภควาติ สตฺต หิ เสขา ภควนฺตํ ปริจรนฺติ นาม, ขีณาสเวน ภควา ปริจิโณฺณ โหติฯ อิติ สเงฺขเปน อรหตฺตํ พฺยากโรโนฺต เถโร เอวมาหฯ เต ปน ภิกฺขู ตมตฺถํ น ชานิํสุ, อชานนฺตาว ตสฺส วจนํ สมฺปฎิจฺฉิตฺวาฯ ภควโต อาโรเจสุํฯ เทวตาติ เตสํ คุณานํ ลาภี เทวตาฯ เสสํ สพฺพตฺถ อุตฺตานเมวาติฯ

    200.Pariciṇṇo me bhagavāti satta hi sekhā bhagavantaṃ paricaranti nāma, khīṇāsavena bhagavā pariciṇṇo hoti. Iti saṅkhepena arahattaṃ byākaronto thero evamāha. Te pana bhikkhū tamatthaṃ na jāniṃsu, ajānantāva tassa vacanaṃ sampaṭicchitvā. Bhagavato ārocesuṃ. Devatāti tesaṃ guṇānaṃ lābhī devatā. Sesaṃ sabbattha uttānamevāti.

    ปปญฺจสูทนิยา มชฺฌิมนิกายฎฺฐกถาย

    Papañcasūdaniyā majjhimanikāyaṭṭhakathāya

    มหาวจฺฉสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Mahāvacchasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya / ๓. มหาวจฺฉสุตฺตํ • 3. Mahāvacchasuttaṃ

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) / ๓. มหาวจฺฉสุตฺตวณฺณนา • 3. Mahāvacchasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact