Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มชฺฌิมนิกาย • Majjhimanikāya

    ๓. มหาเวทลฺลสุตฺตํ

    3. Mahāvedallasuttaṃ

    ๔๔๙. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ อถ โข อายสฺมา มหาโกฎฺฐิโก สายนฺหสมยํ ปฎิสลฺลานา วุฎฺฐิโต เยนายสฺมา สาริปุโตฺต เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา สาริปุเตฺตน สทฺธิํ สโมฺมทิฯ สโมฺมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อายสฺมา มหาโกฎฺฐิโก อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ เอตทโวจ –

    449. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Atha kho āyasmā mahākoṭṭhiko sāyanhasamayaṃ paṭisallānā vuṭṭhito yenāyasmā sāriputto tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmatā sāriputtena saddhiṃ sammodi. Sammodanīyaṃ kathaṃ sāraṇīyaṃ vītisāretvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho āyasmā mahākoṭṭhiko āyasmantaṃ sāriputtaṃ etadavoca –

    ‘‘‘ทุปฺปโญฺญ ทุปฺปโญฺญ’ติ, อาวุโส, วุจฺจติฯ กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส, ทุปฺปโญฺญติ วุจฺจตี’’ติ?

    ‘‘‘Duppañño duppañño’ti, āvuso, vuccati. Kittāvatā nu kho, āvuso, duppaññoti vuccatī’’ti?

    ‘‘‘นปฺปชานาติ นปฺปชานาตี’ติ โข, อาวุโส, ตสฺมา ทุปฺปโญฺญติ วุจฺจติฯ

    ‘‘‘Nappajānāti nappajānātī’ti kho, āvuso, tasmā duppaññoti vuccati.

    ‘‘กิญฺจ นปฺปชานาติ? ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ นปฺปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ นปฺปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ นปฺปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา’ติ นปฺปชานาติฯ ‘นปฺปชานาติ นปฺปชานาตี’ติ โข, อาวุโส, ตสฺมา ทุปฺปโญฺญติ วุจฺจตี’’ติฯ

    ‘‘Kiñca nappajānāti? ‘Idaṃ dukkha’nti nappajānāti, ‘ayaṃ dukkhasamudayo’ti nappajānāti, ‘ayaṃ dukkhanirodho’ti nappajānāti, ‘ayaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā’ti nappajānāti. ‘Nappajānāti nappajānātī’ti kho, āvuso, tasmā duppaññoti vuccatī’’ti.

    ‘‘‘สาธาวุโส’ติ โข อายสฺมา มหาโกฎฺฐิโก อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อายสฺมนฺตํ สาริปุตฺตํ อุตฺตริํ ปญฺหํ อปุจฺฉิ –

    ‘‘‘Sādhāvuso’ti kho āyasmā mahākoṭṭhiko āyasmato sāriputtassa bhāsitaṃ abhinanditvā anumoditvā āyasmantaṃ sāriputtaṃ uttariṃ pañhaṃ apucchi –

    ‘‘‘ปญฺญวา ปญฺญวา’ติ, อาวุโส, วุจฺจติฯ กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส, ปญฺญวาติ วุจฺจตี’’ติ?

    ‘‘‘Paññavā paññavā’ti, āvuso, vuccati. Kittāvatā nu kho, āvuso, paññavāti vuccatī’’ti?

    ‘‘‘ปชานาติ ปชานาตี’ติ โข, อาวุโส, ตสฺมา ปญฺญวาติ วุจฺจติฯ

    ‘‘‘Pajānāti pajānātī’ti kho, āvuso, tasmā paññavāti vuccati.

    ‘‘กิญฺจ ปชานาติ? ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฎิปทา’ติ ปชานาติฯ ‘ปชานาติ ปชานาตี’ติ โข, อาวุโส, ตสฺมา ปญฺญวาติ วุจฺจตี’’ติฯ

    ‘‘Kiñca pajānāti? ‘Idaṃ dukkha’nti pajānāti, ‘ayaṃ dukkhasamudayo’ti pajānāti, ‘ayaṃ dukkhanirodho’ti pajānāti, ‘ayaṃ dukkhanirodhagāminī paṭipadā’ti pajānāti. ‘Pajānāti pajānātī’ti kho, āvuso, tasmā paññavāti vuccatī’’ti.

    ‘‘‘วิญฺญาณํ วิญฺญาณ’นฺติ, อาวุโส, วุจฺจติฯ กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส, วิญฺญาณนฺติ วุจฺจตี’’ติ?

    ‘‘‘Viññāṇaṃ viññāṇa’nti, āvuso, vuccati. Kittāvatā nu kho, āvuso, viññāṇanti vuccatī’’ti?

    ‘‘‘วิชานาติ วิชานาตี’ติ โข, อาวุโส, ตสฺมา วิญฺญาณนฺติ วุจฺจติฯ

    ‘‘‘Vijānāti vijānātī’ti kho, āvuso, tasmā viññāṇanti vuccati.

    ‘‘กิญฺจ วิชานาติ? สุขนฺติปิ วิชานาติ, ทุกฺขนฺติปิ วิชานาติ, อทุกฺขมสุขนฺติปิ วิชานาติฯ ‘วิชานาติ วิชานาตี’ติ โข, อาวุโส, ตสฺมา วิญฺญาณนฺติ วุจฺจตี’’ติฯ

    ‘‘Kiñca vijānāti? Sukhantipi vijānāti, dukkhantipi vijānāti, adukkhamasukhantipi vijānāti. ‘Vijānāti vijānātī’ti kho, āvuso, tasmā viññāṇanti vuccatī’’ti.

    ‘‘ยา จาวุโส, ปญฺญา ยญฺจ วิญฺญาณํ – อิเม ธมฺมา สํสฎฺฐา อุทาหุ วิสํสฎฺฐา? ลพฺภา จ ปนิเมสํ ธมฺมานํ วินิพฺภุชิตฺวา 1 วินิพฺภุชิตฺวา นานากรณํ ปญฺญาเปตุ’’นฺติ? ‘‘ยา จาวุโส, ปญฺญา ยญฺจ วิญฺญาณํ – อิเม ธมฺมา สํสฎฺฐา, โน วิสํสฎฺฐาฯ น จ ลพฺภา อิเมสํ ธมฺมานํ วินิพฺภุชิตฺวา วินิพฺภุชิตฺวา นานากรณํ ปญฺญาเปตุํฯ ยํ หาวุโส 2, ปชานาติ ตํ วิชานาติ, ยํ วิชานาติ ตํ ปชานาติฯ ตสฺมา อิเม ธมฺมา สํสฎฺฐา, โน วิสํสฎฺฐาฯ น จ ลพฺภา อิเมสํ ธมฺมานํ วินิพฺภุชิตฺวา วินิพฺภุชิตฺวา นานากรณํ ปญฺญาเปตุ’’นฺติฯ

    ‘‘Yā cāvuso, paññā yañca viññāṇaṃ – ime dhammā saṃsaṭṭhā udāhu visaṃsaṭṭhā? Labbhā ca panimesaṃ dhammānaṃ vinibbhujitvā 3 vinibbhujitvā nānākaraṇaṃ paññāpetu’’nti? ‘‘Yā cāvuso, paññā yañca viññāṇaṃ – ime dhammā saṃsaṭṭhā, no visaṃsaṭṭhā. Na ca labbhā imesaṃ dhammānaṃ vinibbhujitvā vinibbhujitvā nānākaraṇaṃ paññāpetuṃ. Yaṃ hāvuso 4, pajānāti taṃ vijānāti, yaṃ vijānāti taṃ pajānāti. Tasmā ime dhammā saṃsaṭṭhā, no visaṃsaṭṭhā. Na ca labbhā imesaṃ dhammānaṃ vinibbhujitvā vinibbhujitvā nānākaraṇaṃ paññāpetu’’nti.

    ‘‘ยา จาวุโส, ปญฺญา ยญฺจ วิญฺญาณํ – อิเมสํ ธมฺมานํ สํสฎฺฐานํ โน วิสํสฎฺฐานํ กิํ นานากรณ’’นฺติ? ‘‘ยา จาวุโส, ปญฺญา ยญฺจ วิญฺญาณํ – อิเมสํ ธมฺมานํ สํสฎฺฐานํ โน วิสํสฎฺฐานํ ปญฺญา ภาเวตพฺพา, วิญฺญาณํ ปริเญฺญยฺยํฯ อิทํ เนสํ นานากรณ’’นฺติฯ

    ‘‘Yā cāvuso, paññā yañca viññāṇaṃ – imesaṃ dhammānaṃ saṃsaṭṭhānaṃ no visaṃsaṭṭhānaṃ kiṃ nānākaraṇa’’nti? ‘‘Yā cāvuso, paññā yañca viññāṇaṃ – imesaṃ dhammānaṃ saṃsaṭṭhānaṃ no visaṃsaṭṭhānaṃ paññā bhāvetabbā, viññāṇaṃ pariññeyyaṃ. Idaṃ nesaṃ nānākaraṇa’’nti.

    ๔๕๐. ‘‘‘เวทนา เวทนา’ติ, อาวุโส, วุจฺจติฯ กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส , เวทนาติ วุจฺจตี’’ติ?

    450. ‘‘‘Vedanā vedanā’ti, āvuso, vuccati. Kittāvatā nu kho, āvuso , vedanāti vuccatī’’ti?

    ‘‘‘เวเทติ เวเทตี’ติ โข, อาวุโส, ตสฺมา เวทนาติ วุจฺจติฯ

    ‘‘‘Vedeti vedetī’ti kho, āvuso, tasmā vedanāti vuccati.

    ‘‘กิญฺจ เวเทติ? สุขมฺปิ เวเทติ, ทุกฺขมฺปิ เวเทติ, อทุกฺขมสุขมฺปิ เวเทติฯ ‘เวเทติ เวเทตี’ติ โข, อาวุโส, ตสฺมา เวทนาติ วุจฺจตี’’ติฯ

    ‘‘Kiñca vedeti? Sukhampi vedeti, dukkhampi vedeti, adukkhamasukhampi vedeti. ‘Vedeti vedetī’ti kho, āvuso, tasmā vedanāti vuccatī’’ti.

    ‘‘‘สญฺญา สญฺญา’ติ, อาวุโส, วุจฺจติฯ กิตฺตาวตา นุ โข, อาวุโส, สญฺญาติ วุจฺจตี’’ติ?

    ‘‘‘Saññā saññā’ti, āvuso, vuccati. Kittāvatā nu kho, āvuso, saññāti vuccatī’’ti?

    ‘‘‘สญฺชานาติ สญฺชานาตี’ติ โข, อาวุโส, ตสฺมา สญฺญาติ วุจฺจติฯ

    ‘‘‘Sañjānāti sañjānātī’ti kho, āvuso, tasmā saññāti vuccati.

    ‘‘กิญฺจ สญฺชานาติ? นีลกมฺปิ สญฺชานาติ, ปีตกมฺปิ สญฺชานาติ, โลหิตกมฺปิ สญฺชานาติ, โอทาตมฺปิ สญฺชานาติฯ ‘สญฺชานาติ สญฺชานาตี’ติ โข, อาวุโส, ตสฺมา สญฺญาติ วุจฺจตี’’ติฯ

    ‘‘Kiñca sañjānāti? Nīlakampi sañjānāti, pītakampi sañjānāti, lohitakampi sañjānāti, odātampi sañjānāti. ‘Sañjānāti sañjānātī’ti kho, āvuso, tasmā saññāti vuccatī’’ti.

    ‘‘ยา จาวุโส, เวทนา ยา จ สญฺญา ยญฺจ วิญฺญาณํ – อิเม ธมฺมา สํสฎฺฐา อุทาหุ วิสํสฎฺฐา? ลพฺภา จ ปนิเมสํ ธมฺมานํ วินิพฺภุชิตฺวา วินิพฺภุชิตฺวา นานากรณํ ปญฺญาเปตุ’’นฺติ? ‘‘ยา จาวุโส, เวทนา ยา จ สญฺญา ยญฺจ วิญฺญาณํ – อิเม ธมฺมา สํสฎฺฐา, โน วิสํสฎฺฐาฯ น จ ลพฺภา อิเมสํ ธมฺมานํ วินิพฺภุชิตฺวา วินิพฺภุชิตฺวา นานากรณํ ปญฺญาเปตุํฯ ยํ หาวุโส 5, เวเทติ ตํ สญฺชานาติ, ยํ สญฺชานาติ ตํ วิชานาติฯ ตสฺมา อิเม ธมฺมา สํสฎฺฐา โน วิสํสฎฺฐาฯ น จ ลพฺภา อิเมสํ ธมฺมานํ วินิพฺภุชิตฺวา วินิพฺภุชิตฺวา นานากรณํ ปญฺญาเปตุ’’นฺติฯ

    ‘‘Yā cāvuso, vedanā yā ca saññā yañca viññāṇaṃ – ime dhammā saṃsaṭṭhā udāhu visaṃsaṭṭhā? Labbhā ca panimesaṃ dhammānaṃ vinibbhujitvā vinibbhujitvā nānākaraṇaṃ paññāpetu’’nti? ‘‘Yā cāvuso, vedanā yā ca saññā yañca viññāṇaṃ – ime dhammā saṃsaṭṭhā, no visaṃsaṭṭhā. Na ca labbhā imesaṃ dhammānaṃ vinibbhujitvā vinibbhujitvā nānākaraṇaṃ paññāpetuṃ. Yaṃ hāvuso 6, vedeti taṃ sañjānāti, yaṃ sañjānāti taṃ vijānāti. Tasmā ime dhammā saṃsaṭṭhā no visaṃsaṭṭhā. Na ca labbhā imesaṃ dhammānaṃ vinibbhujitvā vinibbhujitvā nānākaraṇaṃ paññāpetu’’nti.

    ๔๕๑. ‘‘นิสฺสเฎฺฐน หาวุโส 7, ปญฺจหิ อินฺทฺริเยหิ ปริสุเทฺธน มโนวิญฺญาเณน กิํ เนยฺย’’นฺติ?

    451. ‘‘Nissaṭṭhena hāvuso 8, pañcahi indriyehi parisuddhena manoviññāṇena kiṃ neyya’’nti?

    ‘‘นิสฺสเฎฺฐน อาวุโส, ปญฺจหิ อินฺทฺริเยหิ ปริสุเทฺธน มโนวิญฺญาเณน ‘อนโนฺต อากาโส’ติ อากาสานญฺจายตนํ เนยฺยํ, ‘อนนฺตํ วิญฺญาณ’นฺติ วิญฺญาณญฺจายตนํ เนยฺยํ, ‘นตฺถิ กิญฺจี’ติ อากิญฺจญฺญายตนํ เนยฺย’’นฺติฯ

    ‘‘Nissaṭṭhena āvuso, pañcahi indriyehi parisuddhena manoviññāṇena ‘ananto ākāso’ti ākāsānañcāyatanaṃ neyyaṃ, ‘anantaṃ viññāṇa’nti viññāṇañcāyatanaṃ neyyaṃ, ‘natthi kiñcī’ti ākiñcaññāyatanaṃ neyya’’nti.

    ‘‘เนยฺยํ ปนาวุโส, ธมฺมํ เกน ปชานาตี’’ติ?

    ‘‘Neyyaṃ panāvuso, dhammaṃ kena pajānātī’’ti?

    ‘‘เนยฺยํ โข, อาวุโส, ธมฺมํ ปญฺญาจกฺขุนา ปชานาตี’’ติฯ

    ‘‘Neyyaṃ kho, āvuso, dhammaṃ paññācakkhunā pajānātī’’ti.

    ‘‘ปญฺญา ปนาวุโส, กิมตฺถิยา’’ติ?

    ‘‘Paññā panāvuso, kimatthiyā’’ti?

    ‘‘ปญฺญา โข, อาวุโส, อภิญฺญตฺถา ปริญฺญตฺถา ปหานตฺถา’’ติฯ

    ‘‘Paññā kho, āvuso, abhiññatthā pariññatthā pahānatthā’’ti.

    ๔๕๒. ‘‘กติ ปนาวุโส, ปจฺจยา สมฺมาทิฎฺฐิยา อุปฺปาทายา’’ติ?

    452. ‘‘Kati panāvuso, paccayā sammādiṭṭhiyā uppādāyā’’ti?

    ‘‘เทฺว โข, อาวุโส, ปจฺจยา สมฺมาทิฎฺฐิยา อุปฺปาทาย – ปรโต จ โฆโส, โยนิโส จ มนสิกาโรฯ อิเม โข, อาวุโส, เทฺว ปจฺจยา สมฺมาทิฎฺฐิยา อุปฺปาทายา’’ติฯ

    ‘‘Dve kho, āvuso, paccayā sammādiṭṭhiyā uppādāya – parato ca ghoso, yoniso ca manasikāro. Ime kho, āvuso, dve paccayā sammādiṭṭhiyā uppādāyā’’ti.

    ‘‘กติหิ ปนาวุโส, อเงฺคหิ อนุคฺคหิตา สมฺมาทิฎฺฐิ เจโตวิมุตฺติผลา จ โหติ เจโตวิมุตฺติผลานิสํสา จ, ปญฺญาวิมุตฺติผลา จ โหติ ปญฺญาวิมุตฺติผลานิสํสา จา’’ติ?

    ‘‘Katihi panāvuso, aṅgehi anuggahitā sammādiṭṭhi cetovimuttiphalā ca hoti cetovimuttiphalānisaṃsā ca, paññāvimuttiphalā ca hoti paññāvimuttiphalānisaṃsā cā’’ti?

    ‘‘ปญฺจหิ โข, อาวุโส, อเงฺคหิ อนุคฺคหิตา สมฺมาทิฎฺฐิ เจโตวิมุตฺติผลา จ โหติ เจโตวิมุตฺติผลานิสํสา จ, ปญฺญาวิมุตฺติผลา จ โหติ ปญฺญาวิมุตฺติผลานิสํสา จฯ อิธาวุโส, สมฺมาทิฎฺฐิ สีลานุคฺคหิตา จ โหติ, สุตานุคฺคหิตา จ โหติ, สากจฺฉานุคฺคหิตา จ โหติ, สมถานุคฺคหิตา จ โหติ, วิปสฺสนานุคฺคหิตา จ โหติฯ อิเมหิ โข, อาวุโส, ปญฺจหเงฺคหิ อนุคฺคหิตา สมฺมาทิฎฺฐิ เจโตวิมุตฺติผลา จ โหติ เจโตวิมุตฺติผลานิสํสา จ, ปญฺญาวิมุตฺติผลา จ โหติ ปญฺญาวิมุตฺติผลานิสํสา จา’’ติฯ

    ‘‘Pañcahi kho, āvuso, aṅgehi anuggahitā sammādiṭṭhi cetovimuttiphalā ca hoti cetovimuttiphalānisaṃsā ca, paññāvimuttiphalā ca hoti paññāvimuttiphalānisaṃsā ca. Idhāvuso, sammādiṭṭhi sīlānuggahitā ca hoti, sutānuggahitā ca hoti, sākacchānuggahitā ca hoti, samathānuggahitā ca hoti, vipassanānuggahitā ca hoti. Imehi kho, āvuso, pañcahaṅgehi anuggahitā sammādiṭṭhi cetovimuttiphalā ca hoti cetovimuttiphalānisaṃsā ca, paññāvimuttiphalā ca hoti paññāvimuttiphalānisaṃsā cā’’ti.

    ๔๕๓. ‘‘กติ ปนาวุโส, ภวา’’ติ?

    453. ‘‘Kati panāvuso, bhavā’’ti?

    ‘‘ตโยเม, อาวุโส, ภวา – กามภโว , รูปภโว, อรูปภโว’’ติฯ

    ‘‘Tayome, āvuso, bhavā – kāmabhavo , rūpabhavo, arūpabhavo’’ti.

    ‘‘กถํ ปนาวุโส, อายติํ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ โหตี’’ติ?

    ‘‘Kathaṃ panāvuso, āyatiṃ punabbhavābhinibbatti hotī’’ti?

    ‘‘อวิชฺชานีวรณานํ โข, อาวุโส, สตฺตานํ ตณฺหาสํโยชนานํ ตตฺรตตฺราภินนฺทนา – เอวํ อายติํ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ โหตี’’ติฯ

    ‘‘Avijjānīvaraṇānaṃ kho, āvuso, sattānaṃ taṇhāsaṃyojanānaṃ tatratatrābhinandanā – evaṃ āyatiṃ punabbhavābhinibbatti hotī’’ti.

    ‘‘กถํ ปนาวุโส, อายติํ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ น โหตี’’ติ?

    ‘‘Kathaṃ panāvuso, āyatiṃ punabbhavābhinibbatti na hotī’’ti?

    ‘‘อวิชฺชาวิราคา โข, อาวุโส, วิชฺชุปฺปาทา ตณฺหานิโรธา – เอวํ อายติํ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ น โหตี’’ติฯ

    ‘‘Avijjāvirāgā kho, āvuso, vijjuppādā taṇhānirodhā – evaṃ āyatiṃ punabbhavābhinibbatti na hotī’’ti.

    ๔๕๔. ‘‘กตมํ ปนาวุโส, ปฐมํ ฌาน’’นฺติ?

    454. ‘‘Katamaṃ panāvuso, paṭhamaṃ jhāna’’nti?

    ‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ วิวิเจฺจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธเมฺมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ – อิทํ วุจฺจติ, อาวุโส, ปฐมํ ฌาน’’นฺติฯ

    ‘‘Idhāvuso, bhikkhu vivicceva kāmehi vivicca akusalehi dhammehi savitakkaṃ savicāraṃ vivekajaṃ pītisukhaṃ paṭhamaṃ jhānaṃ upasampajja viharati – idaṃ vuccati, āvuso, paṭhamaṃ jhāna’’nti.

    ‘‘ปฐมํ ปนาวุโส, ฌานํ กติองฺคิก’’นฺติ?

    ‘‘Paṭhamaṃ panāvuso, jhānaṃ katiaṅgika’’nti?

    ‘‘ปฐมํ โข, อาวุโส, ฌานํ ปญฺจงฺคิกํฯ อิธาวุโส, ปฐมํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส ภิกฺขุโน วิตโกฺก จ วตฺตติ, วิจาโร จ ปีติ จ สุขญฺจ จิเตฺตกคฺคตา จฯ ปฐมํ โข, อาวุโส, ฌานํ เอวํ ปญฺจงฺคิก’’นฺติฯ

    ‘‘Paṭhamaṃ kho, āvuso, jhānaṃ pañcaṅgikaṃ. Idhāvuso, paṭhamaṃ jhānaṃ samāpannassa bhikkhuno vitakko ca vattati, vicāro ca pīti ca sukhañca cittekaggatā ca. Paṭhamaṃ kho, āvuso, jhānaṃ evaṃ pañcaṅgika’’nti.

    ‘‘ปฐมํ ปนาวุโส, ฌานํ กตงฺควิปฺปหีนํ กตงฺคสมนฺนาคต’’นฺติ?

    ‘‘Paṭhamaṃ panāvuso, jhānaṃ kataṅgavippahīnaṃ kataṅgasamannāgata’’nti?

    ‘‘ปฐมํ โข, อาวุโส, ฌานํ ปญฺจงฺควิปฺปหีนํ, ปญฺจงฺคสมนฺนาคตํฯ อิธาวุโส, ปฐมํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส ภิกฺขุโน กามจฺฉโนฺท ปหีโน โหติ, พฺยาปาโท ปหีโน โหติ, ถีนมิทฺธํ ปหีนํ โหติ, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหีนํ โหติ, วิจิกิจฺฉา ปหีนา โหติ; วิตโกฺก จ วตฺตติ, วิจาโร จ ปีติ จ สุขญฺจ จิเตฺตกคฺคตา จฯ ปฐมํ โข, อาวุโส, ฌานํ เอวํ ปญฺจงฺควิปฺปหีนํ ปญฺจงฺคสมนฺนาคต’’นฺติฯ

    ‘‘Paṭhamaṃ kho, āvuso, jhānaṃ pañcaṅgavippahīnaṃ, pañcaṅgasamannāgataṃ. Idhāvuso, paṭhamaṃ jhānaṃ samāpannassa bhikkhuno kāmacchando pahīno hoti, byāpādo pahīno hoti, thīnamiddhaṃ pahīnaṃ hoti, uddhaccakukkuccaṃ pahīnaṃ hoti, vicikicchā pahīnā hoti; vitakko ca vattati, vicāro ca pīti ca sukhañca cittekaggatā ca. Paṭhamaṃ kho, āvuso, jhānaṃ evaṃ pañcaṅgavippahīnaṃ pañcaṅgasamannāgata’’nti.

    ๔๕๕. ‘‘ปญฺจิมานิ , อาวุโส, อินฺทฺริยานิ นานาวิสยานิ นานาโคจรานิ, น อญฺญมญฺญสฺส โคจรวิสยํ ปจฺจนุโภนฺติ, เสยฺยถิทํ – จกฺขุนฺทฺริยํ, โสตินฺทฺริยํ, ฆานินฺทฺริยํ, ชิวฺหินฺทฺริยํ, กายินฺทฺริยํฯ อิเมสํ โข, อาวุโส, ปญฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ นานาวิสยานํ นานาโคจรานํ, น อญฺญมญฺญสฺส โคจรวิสยํ ปจฺจนุโภนฺตานํ, กิํ ปฎิสรณํ, โก จ เนสํ โคจรวิสยํ ปจฺจนุโภตี’’ติ?

    455. ‘‘Pañcimāni , āvuso, indriyāni nānāvisayāni nānāgocarāni, na aññamaññassa gocaravisayaṃ paccanubhonti, seyyathidaṃ – cakkhundriyaṃ, sotindriyaṃ, ghānindriyaṃ, jivhindriyaṃ, kāyindriyaṃ. Imesaṃ kho, āvuso, pañcannaṃ indriyānaṃ nānāvisayānaṃ nānāgocarānaṃ, na aññamaññassa gocaravisayaṃ paccanubhontānaṃ, kiṃ paṭisaraṇaṃ, ko ca nesaṃ gocaravisayaṃ paccanubhotī’’ti?

    ‘‘ปญฺจิมานิ, อาวุโส, อินฺทฺริยานิ นานาวิสยานิ นานาโคจรานิ, น อญฺญมญฺญสฺส โคจรวิสยํ ปจฺจนุโภนฺติ, เสยฺยถิทํ – จกฺขุนฺทฺริยํ, โสตินฺทฺริยํ, ฆานินฺทฺริยํ, ชิวฺหินฺทฺริยํ, กายินฺทฺริยํฯ อิเมสํ โข, อาวุโส, ปญฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ นานาวิสยานํ นานาโคจรานํ, น อญฺญมญฺญสฺส โคจรวิสยํ ปจฺจนุโภนฺตานํ, มโน ปฎิสรณํ, มโน จ เนสํ โคจรวิสยํ ปจฺจนุโภตี’’ติฯ

    ‘‘Pañcimāni, āvuso, indriyāni nānāvisayāni nānāgocarāni, na aññamaññassa gocaravisayaṃ paccanubhonti, seyyathidaṃ – cakkhundriyaṃ, sotindriyaṃ, ghānindriyaṃ, jivhindriyaṃ, kāyindriyaṃ. Imesaṃ kho, āvuso, pañcannaṃ indriyānaṃ nānāvisayānaṃ nānāgocarānaṃ, na aññamaññassa gocaravisayaṃ paccanubhontānaṃ, mano paṭisaraṇaṃ, mano ca nesaṃ gocaravisayaṃ paccanubhotī’’ti.

    ๔๕๖. ‘‘ปญฺจิมานิ, อาวุโส, อินฺทฺริยานิ, เสยฺยถิทํ – จกฺขุนฺทฺริยํ, โสตินฺทฺริยํ, ฆานินฺทฺริยํ, ชิวฺหินฺทฺริยํ, กายินฺทฺริยํฯ อิมานิ โข, อาวุโส, ปญฺจินฺทฺริยานิ กิํ ปฎิจฺจ ติฎฺฐนฺตี’’ติ?

    456. ‘‘Pañcimāni, āvuso, indriyāni, seyyathidaṃ – cakkhundriyaṃ, sotindriyaṃ, ghānindriyaṃ, jivhindriyaṃ, kāyindriyaṃ. Imāni kho, āvuso, pañcindriyāni kiṃ paṭicca tiṭṭhantī’’ti?

    ‘‘ปญฺจิมานิ, อาวุโส, อินฺทฺริยานิ, เสยฺยถิทํ – จกฺขุนฺทฺริยํ, โสตินฺทฺริยํ, ฆานินฺทฺริยํ, ชิวฺหินฺทฺริยํ, กายินฺทฺริยํฯ อิมานิ โข, อาวุโส, ปญฺจินฺทฺริยานิ อายุํ ปฎิจฺจ ติฎฺฐนฺตี’’ติฯ

    ‘‘Pañcimāni, āvuso, indriyāni, seyyathidaṃ – cakkhundriyaṃ, sotindriyaṃ, ghānindriyaṃ, jivhindriyaṃ, kāyindriyaṃ. Imāni kho, āvuso, pañcindriyāni āyuṃ paṭicca tiṭṭhantī’’ti.

    ‘‘อายุ ปนาวุโส, กิํ ปฎิจฺจ ติฎฺฐตี’’ติ?

    ‘‘Āyu panāvuso, kiṃ paṭicca tiṭṭhatī’’ti?

    ‘‘อายุ อุสฺมํ ปฎิจฺจ ติฎฺฐตี’’ติฯ

    ‘‘Āyu usmaṃ paṭicca tiṭṭhatī’’ti.

    ‘‘อุสฺมา ปนาวุโส, กิํ ปฎิจฺจ ติฎฺฐตี’’ติ?

    ‘‘Usmā panāvuso, kiṃ paṭicca tiṭṭhatī’’ti?

    ‘‘อุสฺมา อายุํ ปฎิจฺจ ติฎฺฐตี’’ติฯ

    ‘‘Usmā āyuṃ paṭicca tiṭṭhatī’’ti.

    ‘‘อิทาเนว โข มยํ, อาวุโส, อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ภาสิตํ เอวํ อาชานาม – ‘อายุ อุสฺมํ ปฎิจฺจ ติฎฺฐตี’ติฯ อิทาเนว ปน มยํ, อาวุโส, อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ภาสิตํ เอวํ อาชานาม – ‘อุสฺมา อายุํ ปฎิจฺจ ติฎฺฐตี’ติฯ

    ‘‘Idāneva kho mayaṃ, āvuso, āyasmato sāriputtassa bhāsitaṃ evaṃ ājānāma – ‘āyu usmaṃ paṭicca tiṭṭhatī’ti. Idāneva pana mayaṃ, āvuso, āyasmato sāriputtassa bhāsitaṃ evaṃ ājānāma – ‘usmā āyuṃ paṭicca tiṭṭhatī’ti.

    ‘‘ยถา กถํ ปนาวุโส, อิมสฺส ภาสิตสฺส อโตฺถ ทฎฺฐโพฺพ’’ติ?

    ‘‘Yathā kathaṃ panāvuso, imassa bhāsitassa attho daṭṭhabbo’’ti?

    ‘‘เตน หาวุโส, อุปมํ เต กริสฺสามิ; อุปมายปิเธกเจฺจ วิญฺญู ปุริสา ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชานนฺติฯ เสยฺยถาปิ, อาวุโส, เตลปฺปทีปสฺส ฌายโต อจฺจิํ ปฎิจฺจ อาภา ปญฺญายติ, อาภํ ปฎิจฺจ อจฺจิ ปญฺญายติ; เอวเมว โข, อาวุโส, อายุ อุสฺมํ ปฎิจฺจ ติฎฺฐติ, อุสฺมา อายุํ ปฎิจฺจ ติฎฺฐตี’’ติฯ

    ‘‘Tena hāvuso, upamaṃ te karissāmi; upamāyapidhekacce viññū purisā bhāsitassa atthaṃ ājānanti. Seyyathāpi, āvuso, telappadīpassa jhāyato acciṃ paṭicca ābhā paññāyati, ābhaṃ paṭicca acci paññāyati; evameva kho, āvuso, āyu usmaṃ paṭicca tiṭṭhati, usmā āyuṃ paṭicca tiṭṭhatī’’ti.

    ๔๕๗. ‘‘เตว นุ โข, อาวุโส, อายุสงฺขารา, เต เวทนิยา ธมฺมา อุทาหุ อเญฺญ อายุสงฺขารา อเญฺญ เวทนิยา ธมฺมา’’ติ? ‘‘น โข , อาวุโส, เตว อายุสงฺขารา เต เวทนิยา ธมฺมาฯ เต จ หาวุโส, อายุสงฺขารา อภวิํสุ เต เวทนิยา ธมฺมา, น ยิทํ สญฺญาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺนสฺส ภิกฺขุโน วุฎฺฐานํ ปญฺญาเยถฯ ยสฺมา จ โข, อาวุโส, อเญฺญ อายุสงฺขารา อเญฺญ เวทนิยา ธมฺมา, ตสฺมา สญฺญาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺนสฺส ภิกฺขุโน วุฎฺฐานํ ปญฺญายตี’’ติฯ

    457. ‘‘Teva nu kho, āvuso, āyusaṅkhārā, te vedaniyā dhammā udāhu aññe āyusaṅkhārā aññe vedaniyā dhammā’’ti? ‘‘Na kho , āvuso, teva āyusaṅkhārā te vedaniyā dhammā. Te ca hāvuso, āyusaṅkhārā abhaviṃsu te vedaniyā dhammā, na yidaṃ saññāvedayitanirodhaṃ samāpannassa bhikkhuno vuṭṭhānaṃ paññāyetha. Yasmā ca kho, āvuso, aññe āyusaṅkhārā aññe vedaniyā dhammā, tasmā saññāvedayitanirodhaṃ samāpannassa bhikkhuno vuṭṭhānaṃ paññāyatī’’ti.

    ‘‘ยทา นุ โข, อาวุโส, อิมํ กายํ กติ ธมฺมา ชหนฺติ; อถายํ กาโย อุชฺฌิโต อวกฺขิโตฺต เสติ, ยถา กฎฺฐํ อเจตน’’นฺติ?

    ‘‘Yadā nu kho, āvuso, imaṃ kāyaṃ kati dhammā jahanti; athāyaṃ kāyo ujjhito avakkhitto seti, yathā kaṭṭhaṃ acetana’’nti?

    ‘‘ยทา โข, อาวุโส, อิมํ กายํ ตโย ธมฺมา ชหนฺติ – อายุ อุสฺมา จ วิญฺญาณํ; อถายํ กาโย อุชฺฌิโต อวกฺขิโตฺต เสติ, ยถา กฎฺฐํ อเจตน’’นฺติฯ

    ‘‘Yadā kho, āvuso, imaṃ kāyaṃ tayo dhammā jahanti – āyu usmā ca viññāṇaṃ; athāyaṃ kāyo ujjhito avakkhitto seti, yathā kaṭṭhaṃ acetana’’nti.

    ‘‘ยฺวายํ, อาวุโส, มโต กาลงฺกโต, โย จายํ ภิกฺขุ สญฺญาเวทยิตนิโรธํ สมาปโนฺน – อิเมสํ กิํ นานากรณ’’นฺติ?

    ‘‘Yvāyaṃ, āvuso, mato kālaṅkato, yo cāyaṃ bhikkhu saññāvedayitanirodhaṃ samāpanno – imesaṃ kiṃ nānākaraṇa’’nti?

    ‘‘ยฺวายํ, อาวุโส, มโต กาลงฺกโต ตสฺส กายสงฺขารา นิรุทฺธา ปฎิปฺปสฺสทฺธา , วจีสงฺขารา นิรุทฺธา ปฎิปฺปสฺสทฺธา, จิตฺตสงฺขารา นิรุทฺธา ปฎิปฺปสฺสทฺธา, อายุ ปริกฺขีโณ, อุสฺมา วูปสนฺตา, อินฺทฺริยานิ ปริภินฺนานิฯ โย จายํ ภิกฺขุ สญฺญาเวทยิตนิโรธํ สมาปโนฺน ตสฺสปิ กายสงฺขารา นิรุทฺธา ปฎิปฺปสฺสทฺธา, วจีสงฺขารา นิรุทฺธา ปฎิปฺปสฺสทฺธา, จิตฺตสงฺขารา นิรุทฺธา ปฎิปฺปสฺสทฺธา, อายุ น ปริกฺขีโณ, อุสฺมา อวูปสนฺตา, อินฺทฺริยานิ วิปฺปสนฺนานิฯ ยฺวายํ, อาวุโส, มโต กาลงฺกโต, โย จายํ ภิกฺขุ สญฺญาเวทยิตนิโรธํ สมาปโนฺน – อิทํ เนสํ นานากรณ’’นฺติฯ

    ‘‘Yvāyaṃ, āvuso, mato kālaṅkato tassa kāyasaṅkhārā niruddhā paṭippassaddhā , vacīsaṅkhārā niruddhā paṭippassaddhā, cittasaṅkhārā niruddhā paṭippassaddhā, āyu parikkhīṇo, usmā vūpasantā, indriyāni paribhinnāni. Yo cāyaṃ bhikkhu saññāvedayitanirodhaṃ samāpanno tassapi kāyasaṅkhārā niruddhā paṭippassaddhā, vacīsaṅkhārā niruddhā paṭippassaddhā, cittasaṅkhārā niruddhā paṭippassaddhā, āyu na parikkhīṇo, usmā avūpasantā, indriyāni vippasannāni. Yvāyaṃ, āvuso, mato kālaṅkato, yo cāyaṃ bhikkhu saññāvedayitanirodhaṃ samāpanno – idaṃ nesaṃ nānākaraṇa’’nti.

    ๔๕๘. ‘‘กติ ปนาวุโส, ปจฺจยา อทุกฺขมสุขาย เจโตวิมุตฺติยา สมาปตฺติยา’’ติ?

    458. ‘‘Kati panāvuso, paccayā adukkhamasukhāya cetovimuttiyā samāpattiyā’’ti?

    ‘‘จตฺตาโร โข, อาวุโส, ปจฺจยา อทุกฺขมสุขาย เจโตวิมุตฺติยา สมาปตฺติยาฯ อิธาวุโส, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุเพฺพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิํ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อิเม โข, อาวุโส, จตฺตาโร ปจฺจยา อทุกฺขมสุขาย เจโตวิมุตฺติยา สมาปตฺติยา’’ติฯ

    ‘‘Cattāro kho, āvuso, paccayā adukkhamasukhāya cetovimuttiyā samāpattiyā. Idhāvuso, bhikkhu sukhassa ca pahānā dukkhassa ca pahānā pubbeva somanassadomanassānaṃ atthaṅgamā adukkhamasukhaṃ upekkhāsatipārisuddhiṃ catutthaṃ jhānaṃ upasampajja viharati. Ime kho, āvuso, cattāro paccayā adukkhamasukhāya cetovimuttiyā samāpattiyā’’ti.

    ‘‘กติ ปนาวุโส, ปจฺจยา อนิมิตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา สมาปตฺติยา’’ติ?

    ‘‘Kati panāvuso, paccayā animittāya cetovimuttiyā samāpattiyā’’ti?

    ‘‘เทฺว โข, อาวุโส, ปจฺจยา อนิมิตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา สมาปตฺติยา – สพฺพนิมิตฺตานญฺจ อมนสิกาโร, อนิมิตฺตาย จ ธาตุยา มนสิกาโรฯ อิเม โข, อาวุโส, เทฺว ปจฺจยา อนิมิตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา สมาปตฺติยา’’ติฯ

    ‘‘Dve kho, āvuso, paccayā animittāya cetovimuttiyā samāpattiyā – sabbanimittānañca amanasikāro, animittāya ca dhātuyā manasikāro. Ime kho, āvuso, dve paccayā animittāya cetovimuttiyā samāpattiyā’’ti.

    ‘‘กติ ปนาวุโส, ปจฺจยา อนิมิตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา ฐิติยา’’ติ?

    ‘‘Kati panāvuso, paccayā animittāya cetovimuttiyā ṭhitiyā’’ti?

    ‘‘ตโย โข, อาวุโส, ปจฺจยา อนิมิตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา ฐิติยา – สพฺพนิมิตฺตานญฺจ อมนสิกาโร, อนิมิตฺตาย จ ธาตุยา มนสิกาโร, ปุเพฺพ จ อภิสงฺขาโรฯ อิเม โข, อาวุโส, ตโย ปจฺจยา อนิมิตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา ฐิติยา’’ติฯ

    ‘‘Tayo kho, āvuso, paccayā animittāya cetovimuttiyā ṭhitiyā – sabbanimittānañca amanasikāro, animittāya ca dhātuyā manasikāro, pubbe ca abhisaṅkhāro. Ime kho, āvuso, tayo paccayā animittāya cetovimuttiyā ṭhitiyā’’ti.

    ‘‘กติ ปนาวุโส, ปจฺจยา อนิมิตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา วุฎฺฐานายา’’ติ?

    ‘‘Kati panāvuso, paccayā animittāya cetovimuttiyā vuṭṭhānāyā’’ti?

    ‘‘เทฺว โข, อาวุโส, ปจฺจยา อนิมิตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา วุฎฺฐานาย – สพฺพนิมิตฺตานญฺจ มนสิกาโร, อนิมิตฺตาย จ ธาตุยา อมนสิกาโรฯ อิเม โข, อาวุโส, เทฺว ปจฺจยา อนิมิตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา วุฎฺฐานายา’’ติฯ

    ‘‘Dve kho, āvuso, paccayā animittāya cetovimuttiyā vuṭṭhānāya – sabbanimittānañca manasikāro, animittāya ca dhātuyā amanasikāro. Ime kho, āvuso, dve paccayā animittāya cetovimuttiyā vuṭṭhānāyā’’ti.

    ๔๕๙. ‘‘ยา จายํ, อาวุโส, อปฺปมาณา เจโตวิมุตฺติ, ยา จ อากิญฺจญฺญา เจโตวิมุตฺติ, ยา จ สุญฺญตา เจโตวิมุตฺติ, ยา จ อนิมิตฺตา เจโตวิมุตฺติ – อิเม ธมฺมา นานาตฺถา เจว นานาพฺยญฺชนา จ อุทาหุ เอกตฺถา พฺยญฺชนเมว นาน’’นฺติ?

    459. ‘‘Yā cāyaṃ, āvuso, appamāṇā cetovimutti, yā ca ākiñcaññā cetovimutti, yā ca suññatā cetovimutti, yā ca animittā cetovimutti – ime dhammā nānātthā ceva nānābyañjanā ca udāhu ekatthā byañjanameva nāna’’nti?

    ‘‘ยา จายํ, อาวุโส, อปฺปมาณา เจโตวิมุตฺติ, ยา จ อากิญฺจญฺญา เจโตวิมุตฺติ, ยา จ สุญฺญตา เจโตวิมุตฺติ, ยา จ อนิมิตฺตา เจโตวิมุตฺติ – อตฺถิ โข, อาวุโส, ปริยาโย ยํ ปริยายํ อาคมฺม อิเม ธมฺมา นานาตฺถา เจว นานาพฺยญฺชนา จ; อตฺถิ จ โข, อาวุโส, ปริยาโย ยํ ปริยายํ อาคมฺม อิเม ธมฺมา เอกตฺถา, พฺยญฺชนเมว นานํ’’ฯ

    ‘‘Yā cāyaṃ, āvuso, appamāṇā cetovimutti, yā ca ākiñcaññā cetovimutti, yā ca suññatā cetovimutti, yā ca animittā cetovimutti – atthi kho, āvuso, pariyāyo yaṃ pariyāyaṃ āgamma ime dhammā nānātthā ceva nānābyañjanā ca; atthi ca kho, āvuso, pariyāyo yaṃ pariyāyaṃ āgamma ime dhammā ekatthā, byañjanameva nānaṃ’’.

    ‘‘กตโม จาวุโส, ปริยาโย ยํ ปริยายํ อาคมฺม อิเม ธมฺมา นานาตฺถา เจว นานาพฺยญฺชนา จ’’?

    ‘‘Katamo cāvuso, pariyāyo yaṃ pariyāyaṃ āgamma ime dhammā nānātthā ceva nānābyañjanā ca’’?

    ‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํฯ อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ เมตฺตาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาพเชฺฌน ผริตฺวา วิหรติฯ กรุณาสหคเตน เจตสา…เป.… มุทิตาสหคเตน เจตสา… อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรติ, ตถา ทุติยํ, ตถา ตติยํ, ตถา จตุตฺถํฯ อิติ อุทฺธมโธ ติริยํ สพฺพธิ สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตํ โลกํ อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา วิปุเลน มหคฺคเตน อปฺปมาเณน อเวเรน อพฺยาพเชฺฌน ผริตฺวา วิหรติฯ อยํ วุจฺจตาวุโส, อปฺปมาณา เจโตวิมุตฺติ’’ฯ

    ‘‘Idhāvuso, bhikkhu mettāsahagatena cetasā ekaṃ disaṃ pharitvā viharati, tathā dutiyaṃ, tathā tatiyaṃ, tathā catutthaṃ. Iti uddhamadho tiriyaṃ sabbadhi sabbattatāya sabbāvantaṃ lokaṃ mettāsahagatena cetasā vipulena mahaggatena appamāṇena averena abyābajjhena pharitvā viharati. Karuṇāsahagatena cetasā…pe… muditāsahagatena cetasā… upekkhāsahagatena cetasā ekaṃ disaṃ pharitvā viharati, tathā dutiyaṃ, tathā tatiyaṃ, tathā catutthaṃ. Iti uddhamadho tiriyaṃ sabbadhi sabbattatāya sabbāvantaṃ lokaṃ upekkhāsahagatena cetasā vipulena mahaggatena appamāṇena averena abyābajjhena pharitvā viharati. Ayaṃ vuccatāvuso, appamāṇā cetovimutti’’.

    ‘‘กตมา จาวุโส, อากิญฺจญฺญา เจโตวิมุตฺติ’’?

    ‘‘Katamā cāvuso, ākiñcaññā cetovimutti’’?

    ‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพโส วิญฺญาณญฺจายตนํ สมติกฺกมฺม นตฺถิ กิญฺจีติ อากิญฺจญฺญายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยํ วุจฺจตาวุโส, อากิญฺจญฺญา เจโตวิมุตฺติ’’ฯ

    ‘‘Idhāvuso, bhikkhu sabbaso viññāṇañcāyatanaṃ samatikkamma natthi kiñcīti ākiñcaññāyatanaṃ upasampajja viharati. Ayaṃ vuccatāvuso, ākiñcaññā cetovimutti’’.

    ‘‘กตมา จาวุโส, สุญฺญตา เจโตวิมุตฺติ’’?

    ‘‘Katamā cāvuso, suññatā cetovimutti’’?

    ‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ อรญฺญคโต วา รุกฺขมูลคโต วา สุญฺญาคารคโต วา อิติ ปฎิสญฺจิกฺขติ – ‘สุญฺญมิทํ อเตฺตน วา อตฺตนิเยน วา’ติฯ อยํ วุจฺจตาวุโส, สุญฺญตา เจโตวิมุตฺติ’’ฯ

    ‘‘Idhāvuso, bhikkhu araññagato vā rukkhamūlagato vā suññāgāragato vā iti paṭisañcikkhati – ‘suññamidaṃ attena vā attaniyena vā’ti. Ayaṃ vuccatāvuso, suññatā cetovimutti’’.

    ‘‘กตมา จาวุโส, อนิมิตฺตา เจโตวิมุตฺติ’’?

    ‘‘Katamā cāvuso, animittā cetovimutti’’?

    ‘‘อิธาวุโส, ภิกฺขุ สพฺพนิมิตฺตานํ อมนสิการา อนิมิตฺตํ เจโตสมาธิํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อยํ วุจฺจตาวุโส, อนิมิตฺตา เจโตวิมุตฺติฯ อยํ โข, อาวุโส, ปริยาโย ยํ ปริยายํ อาคมฺม อิเม ธมฺมา นานาตฺถา เจว นานาพฺยญฺชนา จ’’ฯ

    ‘‘Idhāvuso, bhikkhu sabbanimittānaṃ amanasikārā animittaṃ cetosamādhiṃ upasampajja viharati. Ayaṃ vuccatāvuso, animittā cetovimutti. Ayaṃ kho, āvuso, pariyāyo yaṃ pariyāyaṃ āgamma ime dhammā nānātthā ceva nānābyañjanā ca’’.

    ‘‘กตโม จาวุโส, ปริยาโย ยํ ปริยายํ อาคมฺม อิเม ธมฺมา เอกตฺถา พฺยญฺชนเมว นานํ’’?

    ‘‘Katamo cāvuso, pariyāyo yaṃ pariyāyaṃ āgamma ime dhammā ekatthā byañjanameva nānaṃ’’?

    ‘‘ราโค โข, อาวุโส, ปมาณกรโณ, โทโส ปมาณกรโณ, โมโห ปมาณกรโณฯ เต ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายติํ อนุปฺปาทธมฺมาฯ ยาวตา โข, อาวุโส, อปฺปมาณา เจโตวิมุตฺติโย, อกุปฺปา ตาสํ เจโตวิมุตฺติ อคฺคมกฺขายติฯ สา โข ปนากุปฺปา เจโตวิมุตฺติ สุญฺญา ราเคน, สุญฺญา โทเสน, สุญฺญา โมเหนฯ ราโค โข, อาวุโส, กิญฺจโน, โทโส กิญฺจโน, โมโห กิญฺจโนฯ เต ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายติํ อนุปฺปาทธมฺมาฯ ยาวตา โข, อาวุโส, อากิญฺจญฺญา เจโตวิมุตฺติโย, อกุปฺปา ตาสํ เจโตวิมุตฺติ อคฺคมกฺขายติฯ สา โข ปนากุปฺปา เจโตวิมุตฺติ สุญฺญา ราเคน, สุญฺญา โทเสน , สุญฺญา โมเหนฯ ราโค โข, อาวุโส, นิมิตฺตกรโณ, โทโส นิมิตฺตกรโณ, โมโห นิมิตฺตกรโณฯ เต ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน ปหีนา อุจฺฉินฺนมูลา ตาลาวตฺถุกตา อนภาวํกตา อายติํ อนุปฺปาทธมฺมาฯ ยาวตา โข, อาวุโส, อนิมิตฺตา เจโตวิมุตฺติโย, อกุปฺปา ตาสํ เจโตวิมุตฺติ อคฺคมกฺขายติฯ สา โข ปนากุปฺปา เจโตวิมุตฺติ สุญฺญา ราเคน, สุญฺญา โทเสน, สุญฺญา โมเหนฯ อยํ โข, อาวุโส, ปริยาโย ยํ ปริยายํ อาคมฺม อิเม ธมฺมา เอกตฺถา พฺยญฺชนเมว นาน’’นฺติฯ

    ‘‘Rāgo kho, āvuso, pamāṇakaraṇo, doso pamāṇakaraṇo, moho pamāṇakaraṇo. Te khīṇāsavassa bhikkhuno pahīnā ucchinnamūlā tālāvatthukatā anabhāvaṃkatā āyatiṃ anuppādadhammā. Yāvatā kho, āvuso, appamāṇā cetovimuttiyo, akuppā tāsaṃ cetovimutti aggamakkhāyati. Sā kho panākuppā cetovimutti suññā rāgena, suññā dosena, suññā mohena. Rāgo kho, āvuso, kiñcano, doso kiñcano, moho kiñcano. Te khīṇāsavassa bhikkhuno pahīnā ucchinnamūlā tālāvatthukatā anabhāvaṃkatā āyatiṃ anuppādadhammā. Yāvatā kho, āvuso, ākiñcaññā cetovimuttiyo, akuppā tāsaṃ cetovimutti aggamakkhāyati. Sā kho panākuppā cetovimutti suññā rāgena, suññā dosena , suññā mohena. Rāgo kho, āvuso, nimittakaraṇo, doso nimittakaraṇo, moho nimittakaraṇo. Te khīṇāsavassa bhikkhuno pahīnā ucchinnamūlā tālāvatthukatā anabhāvaṃkatā āyatiṃ anuppādadhammā. Yāvatā kho, āvuso, animittā cetovimuttiyo, akuppā tāsaṃ cetovimutti aggamakkhāyati. Sā kho panākuppā cetovimutti suññā rāgena, suññā dosena, suññā mohena. Ayaṃ kho, āvuso, pariyāyo yaṃ pariyāyaṃ āgamma ime dhammā ekatthā byañjanameva nāna’’nti.

    อิทมโวจายสฺมา สาริปุโตฺตฯ อตฺตมโน อายสฺมา มหาโกฎฺฐิโก อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ภาสิตํ อภินนฺทีติฯ

    Idamavocāyasmā sāriputto. Attamano āyasmā mahākoṭṭhiko āyasmato sāriputtassa bhāsitaṃ abhinandīti.

    มหาเวทลฺลสุตฺตํ นิฎฺฐิตํ ตติยํฯ

    Mahāvedallasuttaṃ niṭṭhitaṃ tatiyaṃ.







    Footnotes:
    1. วินิพฺภุชฺชิตฺวา วินิพฺภุชฺชิตฺวา (ก.)
    2. ยญฺจาวุโส (สฺยา. กํ. ก.)
    3. vinibbhujjitvā vinibbhujjitvā (ka.)
    4. yañcāvuso (syā. kaṃ. ka.)
    5. ยญฺจาวุโส (สฺยา. กํ. ก.)
    6. yañcāvuso (syā. kaṃ. ka.)
    7. นิสฺสเฎฺฐน ปนาวุโส (?)
    8. nissaṭṭhena panāvuso (?)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / มชฺฌิมนิกาย (อฎฺฐกถา) • Majjhimanikāya (aṭṭhakathā) / ๓. มหาเวทลฺลสุตฺตวณฺณนา • 3. Mahāvedallasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / มชฺฌิมนิกาย (ฎีกา) • Majjhimanikāya (ṭīkā) / ๓. มหาเวทลฺลสุตฺตวณฺณนา • 3. Mahāvedallasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact