Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / จริยาปิฎก-อฎฺฐกถา • Cariyāpiṭaka-aṭṭhakathā

    ๕. มหิํสราชจริยาวณฺณนา

    5. Mahiṃsarājacariyāvaṇṇanā

    ๓๗. ปญฺจเม มหิํโส ปวนจารโกติ มหาวนจารี วนมหิํโส ยทา โหมีติ โยชนาฯ ปวฑฺฒกาโยติ วยสมฺปตฺติยา องฺคปจฺจงฺคานญฺจ ถูลภาเวน อภิวฑฺฒกาโยฯ พลวาติ มหาพโล ถามสมฺปโนฺนฯ มหโนฺตติ วิปุลสรีโรฯ หตฺถิกลภปฺปมาโณ กิร ตทา โพธิสตฺตสฺส กาโย โหติฯ ภีมทสฺสโนติ มหาสรีรตาย วนมหิํสชาติตาย จ สีลํ อชานนฺตานํ ภยํ ชนนโต ภยานกทสฺสโนฯ

    37. Pañcame mahiṃso pavanacārakoti mahāvanacārī vanamahiṃso yadā homīti yojanā. Pavaḍḍhakāyoti vayasampattiyā aṅgapaccaṅgānañca thūlabhāvena abhivaḍḍhakāyo. Balavāti mahābalo thāmasampanno. Mahantoti vipulasarīro. Hatthikalabhappamāṇo kira tadā bodhisattassa kāyo hoti. Bhīmadassanoti mahāsarīratāya vanamahiṃsajātitāya ca sīlaṃ ajānantānaṃ bhayaṃ jananato bhayānakadassano.

    ๓๘. ปพฺภาเรติ โอลมฺพกสิลากุจฺฉิยํฯ ทกาสเยติ ชลาสยสมีเปฯ โหเตตฺถ ฐานนฺติ เอตฺถ มหาวเน โย โกจิ ปเทโส วนมหิํสานํ ติฎฺฐนฎฺฐานํ โหติฯ ตหิํ ตหินฺติ ตตฺถ ตตฺถฯ

    38.Pabbhāreti olambakasilākucchiyaṃ. Dakāsayeti jalāsayasamīpe. Hotettha ṭhānanti ettha mahāvane yo koci padeso vanamahiṃsānaṃ tiṭṭhanaṭṭhānaṃ hoti. Tahiṃ tahinti tattha tattha.

    ๓๙. วิจรโนฺตติ วิหารผาสุกํ วีมํสิตุํ วิจรโนฺตฯ ฐานํ อทฺทส ภทฺทกนฺติ เอวํ วิจรโนฺต ตสฺมิํ มหารเญฺญ ภทฺทกํ มยฺหํ ผาสุกํ รุกฺขมูลฎฺฐานํ อทฺทกฺขิํฯ ทิสฺวา จ ตํ ฐานํ อุปคนฺตฺวาน, ติฎฺฐามิ จ สยามิ จ โคจรํ คเหตฺวา ทิวา ตํ รุกฺขมูลฎฺฐานํ คนฺตฺวา ฐานสยเนหิ วีตินาเมมีติ ทเสฺสติฯ

    39.Vicarantoti vihāraphāsukaṃ vīmaṃsituṃ vicaranto. Ṭhānaṃ addasa bhaddakanti evaṃ vicaranto tasmiṃ mahāraññe bhaddakaṃ mayhaṃ phāsukaṃ rukkhamūlaṭṭhānaṃ addakkhiṃ. Disvā ca taṃ ṭhānaṃ upagantvāna, tiṭṭhāmi ca sayāmi ca gocaraṃ gahetvā divā taṃ rukkhamūlaṭṭhānaṃ gantvā ṭhānasayanehi vītināmemīti dasseti.

    ๔๐. ตทา กิร โพธิสโตฺต หิมวนฺตปฺปเทเส มหิํสโยนิยํ นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปโตฺต ถามสมฺปโนฺน มหาสรีโร หตฺถิกลภปฺปมาโณ ปพฺพตปาทปพฺภารคิริทุคฺควนฆฎาทีสุ วิจรโนฺต เอกํ ผาสุกํ มหารุกฺขมูลํ ทิสฺวา โคจรํ คเหตฺวา ทิวา ตตฺถ วสติฯ อเถโก โลลมกฺกโฎ รุกฺขา โอตริตฺวา มหาสตฺตสฺส ปิฎฺฐิํ อภิรุหิตฺวา อุจฺจารปสฺสาวํ กตฺวา สิเงฺคสุ คณฺหิตฺวา โอลมฺพโนฺต นงฺคุเฎฺฐ คเหตฺวา โทลายโนฺต กีฬิฯ โพธิสโตฺต ขนฺติเมตฺตานุทฺทยสมฺปทาย ตํ ตสฺส อนาจารํ น มนสากาสิฯ มกฺกโฎ ปุนปฺปุนํ ตเถว กโรติฯ เตน วุตฺตํ ‘‘อเถตฺถ กปิ มาคนฺตฺวา’’ติอาทิฯ

    40. Tadā kira bodhisatto himavantappadese mahiṃsayoniyaṃ nibbattitvā vayappatto thāmasampanno mahāsarīro hatthikalabhappamāṇo pabbatapādapabbhāragiriduggavanaghaṭādīsu vicaranto ekaṃ phāsukaṃ mahārukkhamūlaṃ disvā gocaraṃ gahetvā divā tattha vasati. Atheko lolamakkaṭo rukkhā otaritvā mahāsattassa piṭṭhiṃ abhiruhitvā uccārapassāvaṃ katvā siṅgesu gaṇhitvā olambanto naṅguṭṭhe gahetvā dolāyanto kīḷi. Bodhisatto khantimettānuddayasampadāya taṃ tassa anācāraṃ na manasākāsi. Makkaṭo punappunaṃ tatheva karoti. Tena vuttaṃ ‘‘athettha kapi māgantvā’’tiādi.

    ตตฺถ กปิ มาคนฺตฺวาติ กปิ อาคนฺตฺวา, ม-กาโร ปทสนฺธิกโรฯ ปาโปติ ลามโกฯ อนริโยติ อนเย อิริยเนน อเย จ น อิริยเนน อนริโย, นิหีนาจาโรติ อโตฺถฯ ลหูติ โลโลฯ ขเนฺธติ ขนฺธปฺปเทเสฯ มุเตฺตตีติ ปสฺสาวํ กโรติฯ โอหเทตีติ กรีสํ โอสฺสชฺชติฯ นฺติ ตํ มํ, ตทา มหิํสภูตํ มํฯ

    Tattha kapi māgantvāti kapi āgantvā, ma-kāro padasandhikaro. Pāpoti lāmako. Anariyoti anaye iriyanena aye ca na iriyanena anariyo, nihīnācāroti attho. Lahūti lolo. Khandheti khandhappadese. Muttetīti passāvaṃ karoti. Ohadetīti karīsaṃ ossajjati. Tanti taṃ maṃ, tadā mahiṃsabhūtaṃ maṃ.

    ๔๑. สกิมฺปิ ทิวสนฺติ เอกทิวสมฺปิ ทูเสติ มํ สพฺพกาลมฺปิฯ เตนาห ‘‘ทูเสติ มํ สพฺพกาล’’นฺติฯ น เกวลญฺจ ทุติยตติยจตุตฺถทิวสมตฺตํ, อถ โข สพฺพกาลมฺปิ มํ ปสฺสาวาทีหิ ทูเสติฯ ยทา ยทา มุตฺตาทีนิ กาตุกาโม, ตทา ตทา มยฺหเมว อุปริ กโรตีติ ทเสฺสติฯ อุปทฺทุโตติ พาธิโต, เตน สิเงฺคสุ โอลมฺพนาทินา มุตฺตาทิอสุจิมกฺขเณน ตสฺส จ อปหรณตฺถํ อเนกวารํ สิงฺคโกฎีหิ วาลเคฺคน จ อเนกวารํ กทฺทมปํสุมิสฺสกํ อุทกํ สิญฺจิตฺวา โธวเนน จ นิปฺปีฬิโต โหมีติ อโตฺถฯ

    41.Sakimpidivasanti ekadivasampi dūseti maṃ sabbakālampi. Tenāha ‘‘dūseti maṃ sabbakāla’’nti. Na kevalañca dutiyatatiyacatutthadivasamattaṃ, atha kho sabbakālampi maṃ passāvādīhi dūseti. Yadā yadā muttādīni kātukāmo, tadā tadā mayhameva upari karotīti dasseti. Upaddutoti bādhito, tena siṅgesu olambanādinā muttādiasucimakkhaṇena tassa ca apaharaṇatthaṃ anekavāraṃ siṅgakoṭīhi vālaggena ca anekavāraṃ kaddamapaṃsumissakaṃ udakaṃ siñcitvā dhovanena ca nippīḷito homīti attho.

    ๔๒. ยโกฺขติ ตสฺมิํ รุเกฺข อธิวตฺถา เทวตาฯ มํ อิทมพฺรวีติ รุกฺขกฺขเนฺธ ฐตฺวา ‘‘มหิํสราช, กสฺมา อิมสฺส ทุฎฺฐมกฺกฎสฺส อวมานํ สหสี’’ติ อิมมตฺถํ ปกาเสโนฺต นาเสเหตํ ฉวํ ปาปํ , สิเงฺคหิ จ ขุเรหิ จาติ อิทํ วจนํ มํ อภาสิฯ

    42.Yakkhoti tasmiṃ rukkhe adhivatthā devatā. Maṃ idamabravīti rukkhakkhandhe ṭhatvā ‘‘mahiṃsarāja, kasmā imassa duṭṭhamakkaṭassa avamānaṃ sahasī’’ti imamatthaṃ pakāsento nāsehetaṃ chavaṃ pāpaṃ, siṅgehi ca khurehi cāti idaṃ vacanaṃ maṃ abhāsi.

    ๔๓. เอวํ วุเตฺต ตทา ยเกฺขติ ตทา ตสฺมิํ กาเล ตสฺมิํ ยเกฺข เอวํ วุเตฺต สติฯ อหํ ตํ อิทมพฺรวินฺติ อหํ ตํ ยกฺขํ อิทํ อิทานิ วกฺขมานํ อพฺรวิํ อภาสิํฯ กุณเปนาติ กิเลสาสุจิปคฺฆรเณน สุจิชาติกานํ สาธูนํ ปรมชิคุจฺฉนียตาย อติทุคฺคนฺธวายเนน จ กุณปสทิสตาย กุณเปนฯ ปาเปนาติ ปาณาติปาตปาเปนฯ อนริเยนาติ อนริยานํ อสาธูนํ มาควิกเนสาทาทีนํ หีนปุริสานํ ธมฺมตฺตา อนริเยน, กิํ เกน การเณน, ตฺวํ เทวเต มํ มเกฺขสิ, อยุตฺตํ ตยา วุตฺตํ มํ ปาเป นิโยเชนฺติยาติ ทเสฺสติฯ

    43.Evaṃ vutte tadā yakkheti tadā tasmiṃ kāle tasmiṃ yakkhe evaṃ vutte sati. Ahaṃ taṃ idamabravinti ahaṃ taṃ yakkhaṃ idaṃ idāni vakkhamānaṃ abraviṃ abhāsiṃ. Kuṇapenāti kilesāsucipaggharaṇena sucijātikānaṃ sādhūnaṃ paramajigucchanīyatāya atiduggandhavāyanena ca kuṇapasadisatāya kuṇapena. Pāpenāti pāṇātipātapāpena. Anariyenāti anariyānaṃ asādhūnaṃ māgavikanesādādīnaṃ hīnapurisānaṃ dhammattā anariyena, kiṃ kena kāraṇena, tvaṃ devate maṃ makkhesi, ayuttaṃ tayā vuttaṃ maṃ pāpe niyojentiyāti dasseti.

    ๔๔. อิทานิ ตสฺมิํ ปาปธเมฺม อาทีนวํ ปกาเสโนฺต ‘‘ยทิห’’นฺติอาทิมาหฯ ตสฺสโตฺถ – ภเทฺท เทวเต, อหํ ตสฺส ยทิ กุเชฺฌยฺยํ, ตโตปิ ลามกตโร ภเวยฺยํฯ เยน หิ อธมฺมจรเณน โส พาลมกฺกโฎ นิหีโน นาม ชาโต, สเจ ปนาหํ ตโตปิ พลวตรํ ปาปธมฺมํ จเรยฺยํ, นนุ เตน ตโต ปาปตโร ภเวยฺยํ, อฎฺฐานเญฺจตํ ยทิหํ อิธโลกปรโลกํ ตทุตฺตริ จ ชานิตฺวา ฐิโต เอกเนฺตเนว ปรหิตาย ปฎิปโนฺน เอวรูปํ ปาปธมฺมํ จเรยฺยนฺติฯ กิญฺจ ภิโยฺย – สีลญฺจ เม ปภิเชฺชยฺยาติ อหเญฺจว โข ปน เอวรูปํ ปาปํ กเรยฺยํ, มยฺหํ สีลปารมี ขณฺฑิตา สิยาฯ วิญฺญู จ ครเหยฺยุ มนฺติ ปณฺฑิตา จ เทวมนุสฺสา มํ ครเหยฺยุํ ‘‘ปสฺสถ, โภ, อยํ โพธิสโตฺต โพธิปริเยสนํ จรมาโน เอวรูปํ ปาปํ อกาสี’’ติฯ

    44. Idāni tasmiṃ pāpadhamme ādīnavaṃ pakāsento ‘‘yadiha’’ntiādimāha. Tassattho – bhadde devate, ahaṃ tassa yadi kujjheyyaṃ, tatopi lāmakataro bhaveyyaṃ. Yena hi adhammacaraṇena so bālamakkaṭo nihīno nāma jāto, sace panāhaṃ tatopi balavataraṃ pāpadhammaṃ careyyaṃ, nanu tena tato pāpataro bhaveyyaṃ, aṭṭhānañcetaṃ yadihaṃ idhalokaparalokaṃ taduttari ca jānitvā ṭhito ekanteneva parahitāya paṭipanno evarūpaṃ pāpadhammaṃ careyyanti. Kiñca bhiyyo – sīlañca me pabhijjeyyāti ahañceva kho pana evarūpaṃ pāpaṃ kareyyaṃ, mayhaṃ sīlapāramī khaṇḍitā siyā. Viññū ca garaheyyu manti paṇḍitā ca devamanussā maṃ garaheyyuṃ ‘‘passatha, bho, ayaṃ bodhisatto bodhipariyesanaṃ caramāno evarūpaṃ pāpaṃ akāsī’’ti.

    ๔๕. หีฬิตา ชีวิตา วาปีติ วา-สโทฺท อวธารเณฯ เอวํ วิญฺญูหิ หีฬิตา ครหิตา ชีวิตาปิ ปริสุเทฺธน ปริสุทฺธสีเลน หุตฺวา มตํ วา มรณเมว วรํ อุตฺตมํ เสโยฺยฯ กฺยาหํ ชีวิตเหตุปิ , กาหามิ ปรเหฐนนฺติ เอวํ ชานโนฺต จ อหํ มยฺหํ ชีวิตนิมิตฺตมฺปิ ปรสตฺตวิหิํสนํ กิํ กาหามิ กิํ กริสฺสามิ, เอตสฺส กรเณ การณํ นตฺถีติ อโตฺถฯ

    45.Hīḷitā jīvitā vāpīti -saddo avadhāraṇe. Evaṃ viññūhi hīḷitā garahitā jīvitāpi parisuddhena parisuddhasīlena hutvā mataṃ vā maraṇameva varaṃ uttamaṃ seyyo. Kyāhaṃ jīvitahetupi, kāhāmi paraheṭhananti evaṃ jānanto ca ahaṃ mayhaṃ jīvitanimittampi parasattavihiṃsanaṃ kiṃ kāhāmi kiṃ karissāmi, etassa karaṇe kāraṇaṃ natthīti attho.

    อยํ ปน อเญฺญปิ มํ วิย มญฺญมาโน เอวํ อนาจารํ กริสฺสติ, ตโต เยสํ จณฺฑมหิํสานํ เอวํ กริสฺสติ, เต เอว เอตํ วธิสฺสนฺติ, สา เอตสฺส อเญฺญหิ มารณา มยฺหํ ทุกฺขโต จ ปาณาติปาตโต จ มุตฺติ ภวิสฺสตีติ อาหฯ เตน วุตฺตํ –

    Ayaṃ pana aññepi maṃ viya maññamāno evaṃ anācāraṃ karissati, tato yesaṃ caṇḍamahiṃsānaṃ evaṃ karissati, te eva etaṃ vadhissanti, sā etassa aññehi māraṇā mayhaṃ dukkhato ca pāṇātipātato ca mutti bhavissatīti āha. Tena vuttaṃ –

    ๔๖.

    46.

    ‘‘มเมวายํ มญฺญมาโน, อเญฺญเปวํ กริสฺสติ;

    ‘‘Mamevāyaṃ maññamāno, aññepevaṃ karissati;

    เตว ตสฺส วธิสฺสนฺติ, สา เม มุตฺติ ภวิสฺสตี’’ติฯ

    Teva tassa vadhissanti, sā me mutti bhavissatī’’ti.

    ตตฺถ มเมวายนฺติ มํ วิย อยํฯ อเญฺญปีติ อเญฺญสมฺปิฯ เสสํ วุตฺตตฺถเมวฯ

    Tattha mamevāyanti maṃ viya ayaṃ. Aññepīti aññesampi. Sesaṃ vuttatthameva.

    ๔๗. หีนมชฺฌิมอุกฺกเฎฺฐติ หีเน จ มชฺฌิเม จ อุกฺกเฎฺฐ จ นิมิตฺตภูเตฯ สหโนฺต อวมานิตนฺติ วิภาคํ อกตฺวา เตหิ ปวตฺติตํ อวมานํ ปริภวํ สหโนฺต ขมโนฺตฯ เอวํ ลภติ สปฺปโญฺญติ เอวํ หีนาทีสุ วิภาคํ อกตฺวา ขนฺติเมตฺตานุทฺทยํ อุปฎฺฐเปตฺวา ตทปราธํ สหโนฺต สีลาทิปารมิโย พฺรูเหตฺวา มนสา ยถาปตฺถิตํ ยถิจฺฉิตํ สพฺพญฺญุตญฺญาณํ ลภติ ปฎิวิชฺฌติ, ตสฺส ตํ น ทูเรติฯ

    47.Hīnamajjhimaukkaṭṭheti hīne ca majjhime ca ukkaṭṭhe ca nimittabhūte. Sahanto avamānitanti vibhāgaṃ akatvā tehi pavattitaṃ avamānaṃ paribhavaṃ sahanto khamanto. Evaṃ labhati sappaññoti evaṃ hīnādīsu vibhāgaṃ akatvā khantimettānuddayaṃ upaṭṭhapetvā tadaparādhaṃ sahanto sīlādipāramiyo brūhetvā manasā yathāpatthitaṃ yathicchitaṃ sabbaññutaññāṇaṃ labhati paṭivijjhati, tassa taṃ na dūreti.

    เอวํ มหาสโตฺต อตฺตโน อชฺฌาสยํ ปกาเสโนฺต เทวตาย ธมฺมํ เทเสสิฯ โส กติปาหจฺจเยน อญฺญตฺถ คโตฯ อโญฺญ จณฺฑมหิํโส นิวาสผาสุตาย ตํ ฐานํ คนฺตฺวา อฎฺฐาสิฯ ทุฎฺฐมกฺกโฎ ‘‘โส เอว อย’’นฺติ สญฺญาย ตสฺส ปิฎฺฐิํ อภิรุหิตฺวา ตเถว อนาจารํ อกาสิฯ อถ นํ โส วิธุนโนฺต ภูมิยํ ปาเตตฺวา สิเงฺคน หทเย วิชฺฌิตฺวา ปาเทหิ มทฺทิตฺวา สญฺจุเณฺณสิฯ

    Evaṃ mahāsatto attano ajjhāsayaṃ pakāsento devatāya dhammaṃ desesi. So katipāhaccayena aññattha gato. Añño caṇḍamahiṃso nivāsaphāsutāya taṃ ṭhānaṃ gantvā aṭṭhāsi. Duṭṭhamakkaṭo ‘‘so eva aya’’nti saññāya tassa piṭṭhiṃ abhiruhitvā tatheva anācāraṃ akāsi. Atha naṃ so vidhunanto bhūmiyaṃ pātetvā siṅgena hadaye vijjhitvā pādehi madditvā sañcuṇṇesi.

    ตทา สีลวา มหิํสราชา โลกนาโถฯ

    Tadā sīlavā mahiṃsarājā lokanātho.

    ตสฺส อิธาปิ เหฎฺฐา วุตฺตนเยเนว ยถารหํ เสสปารมิโย นิทฺธาเรตพฺพาฯ ตถา หตฺถินาค- (จริยา. ๒.๑ อาทโย) ภูริทตฺต- (จริยา. ๒.๑๑ อาทโย) จเมฺปยฺยนาคราช- (จริยา. ๒.๒๐ อาทโย) จริยาสุ วิย อิธ มหาสตฺตสฺส คุณานุภาวา เวทิตพฺพาฯ

    Tassa idhāpi heṭṭhā vuttanayeneva yathārahaṃ sesapāramiyo niddhāretabbā. Tathā hatthināga- (cariyā. 2.1 ādayo) bhūridatta- (cariyā. 2.11 ādayo) campeyyanāgarāja- (cariyā. 2.20 ādayo) cariyāsu viya idha mahāsattassa guṇānubhāvā veditabbā.

    มหิํสราชจริยาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Mahiṃsarājacariyāvaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / จริยาปิฎกปาฬิ • Cariyāpiṭakapāḷi / ๕. มหิํสราชจริยา • 5. Mahiṃsarājacariyā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact