Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๗. มเชฺฌสุตฺตํ
7. Majjhesuttaṃ
๖๑. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา พาราณสิยํ วิหรติ อิสิปตเน มิคทาเยฯ เตน โข ปน สมเยน สมฺพหุลานํ เถรานํ ภิกฺขูนํ ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฎิกฺกนฺตานํ มณฺฑลมาเฬ สนฺนิสินฺนานํ สนฺนิปติตานํ อยมนฺตรากถา อุทปาทิ – ‘‘วุตฺตมิทํ, อาวุโส, ภควตา ปารายเน เมเตฺตยฺยปเญฺห –
61. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā bārāṇasiyaṃ viharati isipatane migadāye. Tena kho pana samayena sambahulānaṃ therānaṃ bhikkhūnaṃ pacchābhattaṃ piṇḍapātapaṭikkantānaṃ maṇḍalamāḷe sannisinnānaṃ sannipatitānaṃ ayamantarākathā udapādi – ‘‘vuttamidaṃ, āvuso, bhagavatā pārāyane metteyyapañhe –
ตํ พฺรูมิ มหาปุริโสติ, โสธ สิพฺพินิ 5 มจฺจคา’’ติฯ
Taṃ brūmi mahāpurisoti, sodha sibbini 6 maccagā’’ti.
‘‘กตโม นุ โข, อาวุโส, เอโก อโนฺต, กตโม ทุติโย อโนฺต, กิํ มเชฺฌ, กา สิพฺพินี’’ติ? เอวํ วุเตฺต อญฺญตโร ภิกฺขุ เถเร ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘ผโสฺส โข, อาวุโส, เอโก อโนฺต, ผสฺสสมุทโย ทุติโย อโนฺต , ผสฺสนิโรโธ มเชฺฌ, ตณฺหา สิพฺพินี; ตณฺหา หิ นํ สิพฺพติ ตสฺส ตเสฺสว ภวสฺส อภินิพฺพตฺติยาฯ เอตฺตาวตา โข, อาวุโส, ภิกฺขุ อภิเญฺญยฺยํ อภิชานาติ, ปริเญฺญยฺยํ ปริชานาติ, อภิเญฺญยฺยํ อภิชานโนฺต 7 ปริเญฺญยฺยํ ปริชานโนฺต 8 ทิเฎฺฐว ธเมฺม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหตี’’ติฯ
‘‘Katamo nu kho, āvuso, eko anto, katamo dutiyo anto, kiṃ majjhe, kā sibbinī’’ti? Evaṃ vutte aññataro bhikkhu there bhikkhū etadavoca – ‘‘phasso kho, āvuso, eko anto, phassasamudayo dutiyo anto , phassanirodho majjhe, taṇhā sibbinī; taṇhā hi naṃ sibbati tassa tasseva bhavassa abhinibbattiyā. Ettāvatā kho, āvuso, bhikkhu abhiññeyyaṃ abhijānāti, pariññeyyaṃ parijānāti, abhiññeyyaṃ abhijānanto 9 pariññeyyaṃ parijānanto 10 diṭṭheva dhamme dukkhassantakaro hotī’’ti.
เอวํ วุเตฺต อญฺญตโร ภิกฺขุ เถเร ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘อตีตํ โข, อาวุโส, เอโก อโนฺต, อนาคตํ ทุติโย อโนฺต, ปจฺจุปฺปนฺนํ มเชฺฌ, ตณฺหา สิพฺพินี; ตณฺหา หิ นํ สิพฺพติ ตสฺส ตเสฺสว ภวสฺส อภินิพฺพตฺติยาฯ เอตฺตาวตา โข, อาวุโส, ภิกฺขุ อภิเญฺญยฺยํ อภิชานาติ, ปริเญฺญยฺยํ ปริชานาติ, อภิเญฺญยฺยํ อภิชานโนฺต, ปริเญฺญยฺยํ ปริชานโนฺต ทิเฎฺฐว ธเมฺม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหตี’’ติฯ
Evaṃ vutte aññataro bhikkhu there bhikkhū etadavoca – ‘‘atītaṃ kho, āvuso, eko anto, anāgataṃ dutiyo anto, paccuppannaṃ majjhe, taṇhā sibbinī; taṇhā hi naṃ sibbati tassa tasseva bhavassa abhinibbattiyā. Ettāvatā kho, āvuso, bhikkhu abhiññeyyaṃ abhijānāti, pariññeyyaṃ parijānāti, abhiññeyyaṃ abhijānanto, pariññeyyaṃ parijānanto diṭṭheva dhamme dukkhassantakaro hotī’’ti.
เอวํ วุเตฺต อญฺญตโร ภิกฺขุ เถเร ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘สุขา, อาวุโส, เวทนา เอโก อโนฺต, ทุกฺขา เวทนา ทุติโย อโนฺต, อทุกฺขมสุขา เวทนา มเชฺฌ, ตณฺหา สิพฺพินี; ตณฺหา หิ นํ สิพฺพติ ตสฺส ตเสฺสว ภวสฺส อภินิพฺพตฺติยาฯ เอตฺตาวตา โข, อาวุโส, ภิกฺขุ อภิเญฺญยฺยํ อภิชานาติ, ปริเญฺญยฺยํ ปริชานาติ, อภิเญฺญยฺยํ อภิชานโนฺต, ปริเญฺญยฺยํ ปริชานโนฺต ทิเฎฺฐว ธเมฺม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหตี’’ติฯ
Evaṃ vutte aññataro bhikkhu there bhikkhū etadavoca – ‘‘sukhā, āvuso, vedanā eko anto, dukkhā vedanā dutiyo anto, adukkhamasukhā vedanā majjhe, taṇhā sibbinī; taṇhā hi naṃ sibbati tassa tasseva bhavassa abhinibbattiyā. Ettāvatā kho, āvuso, bhikkhu abhiññeyyaṃ abhijānāti, pariññeyyaṃ parijānāti, abhiññeyyaṃ abhijānanto, pariññeyyaṃ parijānanto diṭṭheva dhamme dukkhassantakaro hotī’’ti.
เอวํ วุเตฺต อญฺญตโร ภิกฺขุ เถเร ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘นามํ โข, อาวุโส, เอโก อโนฺต, รูปํ ทุติโย อโนฺต, วิญฺญาณํ มเชฺฌ, ตณฺหา สิพฺพินี; ตณฺหา หิ นํ สิพฺพติ ตสฺส ตเสฺสว ภวสฺส อภินิพฺพตฺติยาฯ เอตฺตาวตา โข, อาวุโส, ภิกฺขุ อภิเญฺญยฺยํ อภิชานาติ, ปริเญฺญยฺยํ ปริชานาติ, อภิเญฺญยฺยํ อภิชานโนฺต ปริเญฺญยฺยํ ปริชานโนฺต ทิเฎฺฐว ธเมฺม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหตี’’ติฯ
Evaṃ vutte aññataro bhikkhu there bhikkhū etadavoca – ‘‘nāmaṃ kho, āvuso, eko anto, rūpaṃ dutiyo anto, viññāṇaṃ majjhe, taṇhā sibbinī; taṇhā hi naṃ sibbati tassa tasseva bhavassa abhinibbattiyā. Ettāvatā kho, āvuso, bhikkhu abhiññeyyaṃ abhijānāti, pariññeyyaṃ parijānāti, abhiññeyyaṃ abhijānanto pariññeyyaṃ parijānanto diṭṭheva dhamme dukkhassantakaro hotī’’ti.
เอวํ วุเตฺต อญฺญตโร ภิกฺขุ เถเร ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘ฉ โข, อาวุโส, อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ เอโก อโนฺต, ฉ พาหิรานิ อายตนานิ ทุติโย อโนฺต, วิญฺญาณํ มเชฺฌ, ตณฺหา สิพฺพินี; ตณฺหา หิ นํ สิพฺพติ ตสฺส ตเสฺสว ภวสฺส อภินิพฺพตฺติยาฯ เอตฺตาวตา โข อาวุโส , ภิกฺขุ อภิเญฺญยฺยํ อภิชานาติ, ปริเญฺญยฺยํ ปริชานาติ, อภิเญฺญยฺยํ อภิชานโนฺต ปริเญฺญยฺยํ ปริชานโนฺต ทิเฎฺฐว ธเมฺม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหตี’’ติฯ
Evaṃ vutte aññataro bhikkhu there bhikkhū etadavoca – ‘‘cha kho, āvuso, ajjhattikāni āyatanāni eko anto, cha bāhirāni āyatanāni dutiyo anto, viññāṇaṃ majjhe, taṇhā sibbinī; taṇhā hi naṃ sibbati tassa tasseva bhavassa abhinibbattiyā. Ettāvatā kho āvuso , bhikkhu abhiññeyyaṃ abhijānāti, pariññeyyaṃ parijānāti, abhiññeyyaṃ abhijānanto pariññeyyaṃ parijānanto diṭṭheva dhamme dukkhassantakaro hotī’’ti.
เอวํ วุเตฺต อญฺญตโร ภิกฺขุ เถเร ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘สกฺกาโย โข, อาวุโส, เอโก อโนฺต, สกฺกายสมุทโย ทุติโย อโนฺต, สกฺกายนิโรโธ มเชฺฌ, ตณฺหา สิพฺพินี; ตณฺหา หิ นํ สิพฺพติ ตสฺส ตเสฺสว ภวสฺส อภินิพฺพตฺติยาฯ เอตฺตาวตา โข, อาวุโส, ภิกฺขุ อภิเญฺญยฺยํ อภิชานาติ, ปริเญฺญยฺยํ ปริชานาติ, อภิเญฺญยฺยํ อภิชานโนฺต ปริเญฺญยฺยํ ปริชานโนฺต 11 ทิเฎฺฐว ธเมฺม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหตี’’ติฯ
Evaṃ vutte aññataro bhikkhu there bhikkhū etadavoca – ‘‘sakkāyo kho, āvuso, eko anto, sakkāyasamudayo dutiyo anto, sakkāyanirodho majjhe, taṇhā sibbinī; taṇhā hi naṃ sibbati tassa tasseva bhavassa abhinibbattiyā. Ettāvatā kho, āvuso, bhikkhu abhiññeyyaṃ abhijānāti, pariññeyyaṃ parijānāti, abhiññeyyaṃ abhijānanto pariññeyyaṃ parijānanto 12 diṭṭheva dhamme dukkhassantakaro hotī’’ti.
เอวํ วุเตฺต อญฺญตโร ภิกฺขุ เถเร ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘พฺยากตํ โข, อาวุโส, อเมฺหหิ สเพฺพเหว ยถาสกํ ปฎิภานํฯ อายามาวุโส, เยน ภควา เตนุปสงฺกมิสฺสาม; อุปสงฺกมิตฺวา ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสฺสามฯ ยถา โน ภควา พฺยากริสฺสติ ตถา นํ ธาเรสฺสามา’’ติฯ ‘‘เอวมาวุโส’’ติ โข เถรา ภิกฺขู ตสฺส ภิกฺขุโน ปจฺจโสฺสสุํฯ อถ โข เถรา ภิกฺขู เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุ ฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เถรา ภิกฺขู ยาวตโก อโหสิ สเพฺพเหว สทฺธิํ กถาสลฺลาโป, ตํ สพฺพํ ภควโต อาโรเจสุํฯ ‘‘กสฺส นุ โข, ภเนฺต, สุภาสิต’’นฺติ? ‘‘สเพฺพสํ โว, ภิกฺขเว, สุภาสิตํ ปริยาเยน, อปิ จ ยํ มยา สนฺธาย ภาสิตํ ปารายเน เมเตฺตยฺยปเญฺห –
Evaṃ vutte aññataro bhikkhu there bhikkhū etadavoca – ‘‘byākataṃ kho, āvuso, amhehi sabbeheva yathāsakaṃ paṭibhānaṃ. Āyāmāvuso, yena bhagavā tenupasaṅkamissāma; upasaṅkamitvā bhagavato etamatthaṃ ārocessāma. Yathā no bhagavā byākarissati tathā naṃ dhāressāmā’’ti. ‘‘Evamāvuso’’ti kho therā bhikkhū tassa bhikkhuno paccassosuṃ. Atha kho therā bhikkhū yena bhagavā tenupasaṅkamiṃsu; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdiṃsu . Ekamantaṃ nisinnā kho therā bhikkhū yāvatako ahosi sabbeheva saddhiṃ kathāsallāpo, taṃ sabbaṃ bhagavato ārocesuṃ. ‘‘Kassa nu kho, bhante, subhāsita’’nti? ‘‘Sabbesaṃ vo, bhikkhave, subhāsitaṃ pariyāyena, api ca yaṃ mayā sandhāya bhāsitaṃ pārāyane metteyyapañhe –
‘‘โย อุโภเนฺต วิทิตฺวาน, มเชฺฌ มนฺตา น ลิปฺปติ;
‘‘Yo ubhonte viditvāna, majjhe mantā na lippati;
ตํ พฺรูมิ มหาปุริโสติ, โสธ สิพฺพินิมจฺจคา’’ติฯ
Taṃ brūmi mahāpurisoti, sodha sibbinimaccagā’’ti.
‘‘ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภเนฺต’’ติ โข เถรา ภิกฺขู ภควโต ปจฺจโสฺสสุํฯ ภควา เอตทโวจ – ‘‘ผโสฺส โข, ภิกฺขเว, เอโก อโนฺต , ผสฺสสมุทโย ทุติโย อโนฺต, ผสฺสนิโรโธ มเชฺฌ, ตณฺหา สิพฺพินี; ตณฺหา หิ นํ สิพฺพติ ตสฺส ตเสฺสว ภวสฺส อภินิพฺพตฺติยาฯ เอตฺตาวตา โข, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อภิเญฺญยฺยํ อภิชานาติ, ปริเญฺญยฺยํ ปริชานาติ, อภิเญฺญยฺยํ อภิชานโนฺต ปริเญฺญยฺยํ ปริชานโนฺต ทิเฎฺฐว ธเมฺม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหตี’’ติฯ สตฺตมํฯ
‘‘Taṃ suṇātha, sādhukaṃ manasi karotha; bhāsissāmī’’ti. ‘‘Evaṃ, bhante’’ti kho therā bhikkhū bhagavato paccassosuṃ. Bhagavā etadavoca – ‘‘phasso kho, bhikkhave, eko anto , phassasamudayo dutiyo anto, phassanirodho majjhe, taṇhā sibbinī; taṇhā hi naṃ sibbati tassa tasseva bhavassa abhinibbattiyā. Ettāvatā kho, bhikkhave, bhikkhu abhiññeyyaṃ abhijānāti, pariññeyyaṃ parijānāti, abhiññeyyaṃ abhijānanto pariññeyyaṃ parijānanto diṭṭheva dhamme dukkhassantakaro hotī’’ti. Sattamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๗. มเชฺฌสุตฺตวณฺณนา • 7. Majjhesuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๗. มเชฺฌสุตฺตวณฺณนา • 7. Majjhesuttavaṇṇanā