Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā)

    ๗. มเชฺฌสุตฺตวณฺณนา

    7. Majjhesuttavaṇṇanā

    ๖๑. สตฺตเม ปารายเน เมเตฺตยฺยปเญฺหติ ปารายนสมาคมมฺหิ เมเตฺตยฺยมาณวสฺส ปเญฺหฯ อุโภเนฺต วิทิตฺวานาติ เทฺว อเนฺต เทฺว โกฎฺฐาเส ชานิตฺวาฯ มเชฺฌ มนฺตา น ลิปฺปตีติ มนฺตา วุจฺจติ ปญฺญา, ตาย อุโภ อเนฺต วิทิตฺวา มเชฺฌ น ลิปฺปติ, เวมเชฺฌฎฺฐาเน น ลิปฺปติฯ สิพฺพนิมจฺจคาติ สิพฺพนิสงฺขาตํ ตณฺหํ อตีโตฯ ผโสฺสติ ผสฺสวเสน นิพฺพตฺตตฺตา อยํ อตฺตภาโวฯ เอโก อโนฺตติ อยเมโก โกฎฺฐาโสฯ ผสฺสสมุทโยติ ผโสฺส สมุทโย อสฺสาติ ผสฺสสมุทโย, อิมสฺมิํ อตฺตภาเว กตกมฺมผสฺสปจฺจยา นิพฺพโตฺต อนาคตตฺตภาโวฯ ทุติโย อโนฺตติ ทุติโย โกฎฺฐาโสฯ ผสฺสนิโรโธติ นิพฺพานํฯ มเชฺฌติ สิพฺพินิตณฺหํ เฉตฺวา ทฺวิธากรณเฎฺฐน นิพฺพานํ มเชฺฌ นาม โหติฯ ตณฺหา หิ นํ สิพฺพตีติ ตณฺหา นํ อตฺตภาวทฺวยสงฺขาตํ ผสฺสญฺจ ผสฺสสมุทยญฺจ สิพฺพติ ฆเฎฺฎติฯ กิํ การณา? ตสฺส ตเสฺสว ภวสฺส อภินิพฺพตฺติยาฯ ยทิ หิ ตณฺหา น สิเพฺพยฺย, ตสฺส ตสฺส ภวสฺส นิพฺพตฺติ น ภเวยฺยฯ อิมสฺมิํ ฐาเน โกฎิมชฺฌิกูปมํ คณฺหนฺติฯ ทฺวินฺนญฺหิ กณฺฑานํ เอกโต กตฺวา มเชฺฌ สุเตฺตน สํสิพฺพิตานํ โกฎิ มชฺฌนฺติ วุจฺจติฯ สุเตฺต ฉิเนฺน อุโภ กณฺฑานิ อุภโต ปตนฺติฯ เอวเมตฺถ กณฺฑทฺวยํ วิย วุตฺตปฺปการา เทฺว อนฺตา, สิพฺพิตฺวา ฐิตสุตฺตํ วิย ตณฺหา, สุเตฺต ฉิเนฺน กณฺฑทฺวยสฺส อุภโตปตนํ วิย ตณฺหาย นิรุทฺธาย อนฺตทฺวยํ นิรุทฺธเมว โหติฯ เอตฺตาวตาติ เอตฺตเกน อิมินา อุโภ อเนฺต วิทิตฺวา ตณฺหาย มเชฺฌ อนุปลิตฺตภาเวน อภิเญฺญยฺยํ จตุสจฺจธมฺมํ อภิชานาติ นาม, ตีรณปริญฺญาย จ ปหานปริญฺญาย จ ปริชานิตพฺพํ โลกิยสจฺจทฺวยํ ปริชานาติ นามฯ ทิเฎฺฐว ธเมฺมติ อิมสฺมิํเยว อตฺตภาเวฯ ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหตีติ วฎฺฎทุกฺขสฺส โกฎิกโร ปริเจฺฉทปริวฎุมกโร โหติ นามฯ

    61. Sattame pārāyane metteyyapañheti pārāyanasamāgamamhi metteyyamāṇavassa pañhe. Ubhonte viditvānāti dve ante dve koṭṭhāse jānitvā. Majjhe mantā na lippatīti mantā vuccati paññā, tāya ubho ante viditvā majjhe na lippati, vemajjheṭṭhāne na lippati. Sibbanimaccagāti sibbanisaṅkhātaṃ taṇhaṃ atīto. Phassoti phassavasena nibbattattā ayaṃ attabhāvo. Eko antoti ayameko koṭṭhāso. Phassasamudayoti phasso samudayo assāti phassasamudayo, imasmiṃ attabhāve katakammaphassapaccayā nibbatto anāgatattabhāvo. Dutiyo antoti dutiyo koṭṭhāso. Phassanirodhoti nibbānaṃ. Majjheti sibbinitaṇhaṃ chetvā dvidhākaraṇaṭṭhena nibbānaṃ majjhe nāma hoti. Taṇhā hinaṃ sibbatīti taṇhā naṃ attabhāvadvayasaṅkhātaṃ phassañca phassasamudayañca sibbati ghaṭṭeti. Kiṃ kāraṇā? Tassa tasseva bhavassa abhinibbattiyā. Yadi hi taṇhā na sibbeyya, tassa tassa bhavassa nibbatti na bhaveyya. Imasmiṃ ṭhāne koṭimajjhikūpamaṃ gaṇhanti. Dvinnañhi kaṇḍānaṃ ekato katvā majjhe suttena saṃsibbitānaṃ koṭi majjhanti vuccati. Sutte chinne ubho kaṇḍāni ubhato patanti. Evamettha kaṇḍadvayaṃ viya vuttappakārā dve antā, sibbitvā ṭhitasuttaṃ viya taṇhā, sutte chinne kaṇḍadvayassa ubhatopatanaṃ viya taṇhāya niruddhāya antadvayaṃ niruddhameva hoti. Ettāvatāti ettakena iminā ubho ante viditvā taṇhāya majjhe anupalittabhāvena abhiññeyyaṃ catusaccadhammaṃ abhijānāti nāma, tīraṇapariññāya ca pahānapariññāya ca parijānitabbaṃ lokiyasaccadvayaṃ parijānāti nāma. Diṭṭhevadhammeti imasmiṃyeva attabhāve. Dukkhassantakaro hotīti vaṭṭadukkhassa koṭikaro paricchedaparivaṭumakaro hoti nāma.

    ทุติยวาเร ติณฺณํ กณฺฑานํ วเสน อุปมา เวทิตพฺพาฯ ติณฺณญฺหิ กณฺฑานํ สุเตฺตน สํสิพฺพิตานํ สุเตฺต ฉิเนฺน ตีณิ กณฺฑานิ ตีสุ ฐาเนสุ ปตนฺติ, เอวเมตฺถ กณฺฑตฺตยํ วิย อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนา ขนฺธา, สุตฺตํ วิย ตณฺหาฯ สา หิ อตีตํ ปจฺจุปฺปเนฺนน, ปจฺจุปฺปนฺนญฺจ อนาคเตน สทฺธิํ สํสิพฺพติฯ สุเตฺต ฉิเนฺน กณฺฑตฺตยสฺส ตีสุ ฐาเนสุ ปตนํ วิย ตณฺหาย นิรุทฺธาย อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนา ขนฺธา นิรุทฺธาว โหนฺติฯ

    Dutiyavāre tiṇṇaṃ kaṇḍānaṃ vasena upamā veditabbā. Tiṇṇañhi kaṇḍānaṃ suttena saṃsibbitānaṃ sutte chinne tīṇi kaṇḍāni tīsu ṭhānesu patanti, evamettha kaṇḍattayaṃ viya atītānāgatapaccuppannā khandhā, suttaṃ viya taṇhā. Sā hi atītaṃ paccuppannena, paccuppannañca anāgatena saddhiṃ saṃsibbati. Sutte chinne kaṇḍattayassa tīsu ṭhānesu patanaṃ viya taṇhāya niruddhāya atītānāgatapaccuppannā khandhā niruddhāva honti.

    ตติยวาเร อทุกฺขมสุขา มเชฺฌติ ทฺวินฺนํ เวทนานํ อนฺตรฎฺฐกภาเวน มเชฺฌฯ สุขญฺหิ ทุกฺขสฺส, ทุกฺขํ วา สุขสฺส อนฺตรํ นาม นตฺถิฯ ตณฺหา สิพฺพินีติ เวทนาสุ นนฺทิราโค เวทนานํ อุปเจฺฉทํ นิวาเรตีติ ตา สิพฺพติ นามฯ

    Tatiyavāre adukkhamasukhā majjheti dvinnaṃ vedanānaṃ antaraṭṭhakabhāvena majjhe. Sukhañhi dukkhassa, dukkhaṃ vā sukhassa antaraṃ nāma natthi. Taṇhā sibbinīti vedanāsu nandirāgo vedanānaṃ upacchedaṃ nivāretīti tā sibbati nāma.

    จตุตฺถวาเร วิญฺญาณํ มเชฺฌติ ปฎิสนฺธิวิญฺญาณมฺปิ เสสวิญฺญาณมฺปิ นามรูปปจฺจยสมุทาคตตฺตา นามรูปานํ มเชฺฌ นามฯ

    Catutthavāre viññāṇaṃ majjheti paṭisandhiviññāṇampi sesaviññāṇampi nāmarūpapaccayasamudāgatattā nāmarūpānaṃ majjhe nāma.

    ปญฺจมวาเร วิญฺญาณํ มเชฺฌติ กมฺมวิญฺญาณํ มเชฺฌ, อชฺฌตฺติกายตเนสุ วา มนายตเนน กมฺมสฺส คหิตตฺตา อิธ ยํกิญฺจิ วิญฺญาณํ มเชฺฌ นาม, มโนทฺวาเร วา อาวชฺชนสฺส อชฺฌตฺติกายตนนิสฺสิตตฺตา ชวนวิญฺญาณํ มเชฺฌ นามฯ

    Pañcamavāre viññāṇaṃ majjheti kammaviññāṇaṃ majjhe, ajjhattikāyatanesu vā manāyatanena kammassa gahitattā idha yaṃkiñci viññāṇaṃ majjhe nāma, manodvāre vā āvajjanassa ajjhattikāyatananissitattā javanaviññāṇaṃ majjhe nāma.

    ฉฎฺฐวาเร สกฺกาโยติ เตภูมกวฎฺฎํฯ สกฺกายสมุทโยติ สมุทยสจฺจํฯ สกฺกายนิโรโธติ นิโรธสจฺจํฯ ปริยาเยนาติ เตน เตน การเณเนวฯ เสสํ สพฺพตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํฯ

    Chaṭṭhavāre sakkāyoti tebhūmakavaṭṭaṃ. Sakkāyasamudayoti samudayasaccaṃ. Sakkāyanirodhoti nirodhasaccaṃ. Pariyāyenāti tena tena kāraṇeneva. Sesaṃ sabbattha vuttanayeneva veditabbaṃ.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya / ๗. มเชฺฌสุตฺตํ • 7. Majjhesuttaṃ

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๗. มเชฺฌสุตฺตวณฺณนา • 7. Majjhesuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact