Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มิลินฺทปญฺหปาฬิ • Milindapañhapāḷi

    ๑๐. มกฺกฎงฺคปโญฺห

    10. Makkaṭaṅgapañho

    ๑๐. ‘‘ภเนฺต นาคเสน, ‘มกฺกฎสฺส เทฺว องฺคานิ คเหตพฺพานี’ติ ยํ วเทสิ, กตมานิ ตานิ เทฺว องฺคานิ คเหตพฺพานี’’ติ? ‘‘ยถา, มหาราช, มกฺกโฎ วาสมุปคจฺฉโนฺต ตถารูเป โอกาเส มหติมหารุเกฺข ปวิวิเตฺต สพฺพฎฺฐกสาเข 1 ภีรุตฺตาเณ วาสมุปคจฺฉติ, เอวเมว โข, มหาราช , โยคินา โยคาวจเรน ลชฺชิํ เปสลํ สีลวนฺตํ กลฺยาณธมฺมํ พหุสฺสุตํ ธมฺมธรํ วินยธรํ ปิยํ ครุภาวนียํ วตฺตารํ วจนกฺขมํ โอวาทกํ วิญฺญาปกํ สนฺทสฺสกํ สมาทปกํ สมุเตฺตชกํ สมฺปหํสกํ เอวรูปํ กลฺยาณมิตฺตํ อาจริยํ นิสฺสาย วิหริตพฺพํฯ อิทํ, มหาราช, มกฺกฎสฺส ปฐมํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ

    10. ‘‘Bhante nāgasena, ‘makkaṭassa dve aṅgāni gahetabbānī’ti yaṃ vadesi, katamāni tāni dve aṅgāni gahetabbānī’’ti? ‘‘Yathā, mahārāja, makkaṭo vāsamupagacchanto tathārūpe okāse mahatimahārukkhe pavivitte sabbaṭṭhakasākhe 2 bhīruttāṇe vāsamupagacchati, evameva kho, mahārāja , yoginā yogāvacarena lajjiṃ pesalaṃ sīlavantaṃ kalyāṇadhammaṃ bahussutaṃ dhammadharaṃ vinayadharaṃ piyaṃ garubhāvanīyaṃ vattāraṃ vacanakkhamaṃ ovādakaṃ viññāpakaṃ sandassakaṃ samādapakaṃ samuttejakaṃ sampahaṃsakaṃ evarūpaṃ kalyāṇamittaṃ ācariyaṃ nissāya viharitabbaṃ. Idaṃ, mahārāja, makkaṭassa paṭhamaṃ aṅgaṃ gahetabbaṃ.

    ‘‘ปุน จปรํ, มหาราช, มกฺกโฎ รุเกฺข เยว จรติ ติฎฺฐติ นิสีทติ, ยทิ นิทฺทํ โอกฺกมติ, ตเตฺถว รตฺติํ วาสมนุภวติฯ เอวเมว โข, มหาราช, โยคินา โยคาวจเรน ปวนาภิมุเขน ภวิตพฺพํ, ปวเน เยว ฐานจงฺกมนิสชฺชาสยนํ นิทฺทํ โอกฺกมิตพฺพํ, ตเตฺถว สติปฎฺฐานมนุภวิตพฺพํฯ อิทํ, มหาราช, มกฺกฎสฺส ทุติยํ องฺคํ คเหตพฺพํฯ ภาสิตเมฺปตํ, มหาราช, เถเรน สาริปุเตฺตน ธมฺมเสนาปตินา –

    ‘‘Puna caparaṃ, mahārāja, makkaṭo rukkhe yeva carati tiṭṭhati nisīdati, yadi niddaṃ okkamati, tattheva rattiṃ vāsamanubhavati. Evameva kho, mahārāja, yoginā yogāvacarena pavanābhimukhena bhavitabbaṃ, pavane yeva ṭhānacaṅkamanisajjāsayanaṃ niddaṃ okkamitabbaṃ, tattheva satipaṭṭhānamanubhavitabbaṃ. Idaṃ, mahārāja, makkaṭassa dutiyaṃ aṅgaṃ gahetabbaṃ. Bhāsitampetaṃ, mahārāja, therena sāriputtena dhammasenāpatinā –

    ‘‘‘จงฺกมโนฺตปิ ติฎฺฐโนฺต, นิสชฺชาสยเนน วา;

    ‘‘‘Caṅkamantopi tiṭṭhanto, nisajjāsayanena vā;

    ปวเน โสภเต ภิกฺขุ, ปวนนฺตํว วณฺณิต’’’นฺติฯ

    Pavane sobhate bhikkhu, pavanantaṃva vaṇṇita’’’nti.

    มกฺกฎงฺคปโญฺห ทสโมฯ

    Makkaṭaṅgapañho dasamo.

    คทฺรภวโคฺค ปฐโมฯ

    Gadrabhavaggo paṭhamo.

    ตสฺสุทฺทานํ –

    Tassuddānaṃ –

    คทฺรโภ เจว 3 กุกฺกุโฎ, กลโนฺท ทีปินิ ทีปิโก;

    Gadrabho ceva 4 kukkuṭo, kalando dīpini dīpiko;

    กุโมฺม วํโส จ จาโป จ, วายโส อถ มกฺกโฎติฯ

    Kummo vaṃso ca cāpo ca, vāyaso atha makkaṭoti.







    Footnotes:
    1. สพฺพตฺถกสาเข (สฺยา.), สพฺพฎฺฐสาเข (ก.)
    2. sabbatthakasākhe (syā.), sabbaṭṭhasākhe (ka.)
    3. โฆรสฺสโร จ (สี. สฺยา. ปี.)
    4. ghorassaro ca (sī. syā. pī.)

    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact