Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) |
๘. มลฺลิกาสุตฺตวณฺณนา
8. Mallikāsuttavaṇṇanā
๑๑๙. อฎฺฐเม อตฺถิ นุ โข เต มลฺลิเกติ กสฺมา ปุจฺฉติ? อยํ กิร มลฺลิกา ทุคฺคตมาลาการสฺส ธีตา, เอกทิวสํ อาปณโต ปูวํ คเหตฺวา ‘‘มาลารามํ คนฺตฺวาว ขาทิสฺสามี’’ติ คจฺฉนฺตี ปฎิปเถ ภิกฺขุสงฺฆปริวารํ ภควนฺตํ ภิกฺขาจารํ ปวิสนฺตํ ทิสฺวา ปสนฺนจิตฺตา ตํ ภควโต อทาสิฯ สตฺถา นิสีทนาการํ ทเสฺสสิฯ อานนฺทเตฺถโร จีวรํ ปญฺญาเปตฺวา อทาสิฯ ภควา ตตฺถ นิสีทิตฺวา ตํ ปูวํ ปริภุญฺชิตฺวา มุขํ วิกฺขาเลตฺวา สิตํ ปาตฺวากาสิฯ เถโร ‘‘อิมิสฺสา, ภเนฺต, โก วิปาโก ภวิสฺสตี’’ติ ปุจฺฉิฯ อานนฺท, อเชฺชสา ตถาคตสฺส ปฐมโภชนํ อทาสิ, อเชฺชว โกสลรโญฺญ อคฺคมเหสี ภวิสฺสตีติฯ ตํทิวสเมว จ ราชา กาสิคาเม ภาคิเนเยฺยน ยุเทฺธน ปราชิโต ปลายิตฺวา นครํ อาคจฺฉโนฺต มาลารามํ ปวิสิตฺวา พลกายสฺส อาคมนํ อาคเมสิฯ ตสฺส สา วตฺตํ อกาสิฯ โส ตาย วเตฺต ปสีทิตฺวา ตํ อเนฺตปูรํ อติหาราเปตฺวา ตํ อคฺคมเหสิฎฺฐาเน ฐเปสิฯ
119. Aṭṭhame atthi nu kho te malliketi kasmā pucchati? Ayaṃ kira mallikā duggatamālākārassa dhītā, ekadivasaṃ āpaṇato pūvaṃ gahetvā ‘‘mālārāmaṃ gantvāva khādissāmī’’ti gacchantī paṭipathe bhikkhusaṅghaparivāraṃ bhagavantaṃ bhikkhācāraṃ pavisantaṃ disvā pasannacittā taṃ bhagavato adāsi. Satthā nisīdanākāraṃ dassesi. Ānandatthero cīvaraṃ paññāpetvā adāsi. Bhagavā tattha nisīditvā taṃ pūvaṃ paribhuñjitvā mukhaṃ vikkhāletvā sitaṃ pātvākāsi. Thero ‘‘imissā, bhante, ko vipāko bhavissatī’’ti pucchi. Ānanda, ajjesā tathāgatassa paṭhamabhojanaṃ adāsi, ajjeva kosalarañño aggamahesī bhavissatīti. Taṃdivasameva ca rājā kāsigāme bhāgineyyena yuddhena parājito palāyitvā nagaraṃ āgacchanto mālārāmaṃ pavisitvā balakāyassa āgamanaṃ āgamesi. Tassa sā vattaṃ akāsi. So tāya vatte pasīditvā taṃ antepūraṃ atihārāpetvā taṃ aggamahesiṭṭhāne ṭhapesi.
อเถกทิวสํ จิเนฺตสิ – ‘‘มยา อิมิสฺสา ทุคฺคตกุลสฺส ธีตุยา มหนฺตํ อิสฺสริยํ ทินฺนํ, ยํนูนาหํ อิมํ ปุเจฺฉยฺยํ ‘โก เต ปิโย’ติ? สา ‘ตฺวํ เม, มหาราช, ปิโย’ติ วตฺวา ปุน มํ ปุจฺฉิสฺสติฯ อถสฺสาหํ ‘มยฺหมฺปิ ตฺวํเยว ปิยา’ติ วกฺขามี’’ติฯ อิติ โส อญฺญมญฺญํ วิสฺสาสชนนตฺถํ สโมฺมทนียํ กถํ กเถโนฺต ปุจฺฉติฯ สา ปน เทวี ปณฺฑิตา พุทฺธุปฎฺฐายิกา ธมฺมุปฎฺฐายิกา สงฺฆุปฎฺฐายิกา มหาปญฺญา , ตสฺมา เอวํ จิเนฺตสิ – ‘‘นายํ ปโญฺห รโญฺญ มุขํ โอโลเกตฺวา กเถตโพฺพ’’ติฯ สา สรเสเนว กเถตฺวา ราชานํ ปุจฺฉิฯ ราชา ตาย สรเสน กถิตตฺตา นิวตฺติตุํ อลภโนฺต สยมฺปิ สรเสเนว กเถตฺวา ‘‘สการณํ อิทํ, ตถาคตสฺส นํ อาโรเจสฺสามี’’ติ คนฺตฺวา ภควโต อาโรเจสิฯ เนวชฺฌคาติ นาธิคจฺฉติฯ เอวํ ปิโย ปุถุ อตฺตา ปเรสนฺติ ยถา เอกสฺส อตฺตา ปิโย, เอวํ ปเรสํ ปุถุสตฺตานมฺปิ อตฺตา ปิโยติ อโตฺถฯ อฎฺฐมํฯ
Athekadivasaṃ cintesi – ‘‘mayā imissā duggatakulassa dhītuyā mahantaṃ issariyaṃ dinnaṃ, yaṃnūnāhaṃ imaṃ puccheyyaṃ ‘ko te piyo’ti? Sā ‘tvaṃ me, mahārāja, piyo’ti vatvā puna maṃ pucchissati. Athassāhaṃ ‘mayhampi tvaṃyeva piyā’ti vakkhāmī’’ti. Iti so aññamaññaṃ vissāsajananatthaṃ sammodanīyaṃ kathaṃ kathento pucchati. Sā pana devī paṇḍitā buddhupaṭṭhāyikā dhammupaṭṭhāyikā saṅghupaṭṭhāyikā mahāpaññā , tasmā evaṃ cintesi – ‘‘nāyaṃ pañho rañño mukhaṃ oloketvā kathetabbo’’ti. Sā saraseneva kathetvā rājānaṃ pucchi. Rājā tāya sarasena kathitattā nivattituṃ alabhanto sayampi saraseneva kathetvā ‘‘sakāraṇaṃ idaṃ, tathāgatassa naṃ ārocessāmī’’ti gantvā bhagavato ārocesi. Nevajjhagāti nādhigacchati. Evaṃ piyo puthu attā paresanti yathā ekassa attā piyo, evaṃ paresaṃ puthusattānampi attā piyoti attho. Aṭṭhamaṃ.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๘. มลฺลิกาสุตฺตํ • 8. Mallikāsuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๘. มลฺลิกาสุตฺตวณฺณนา • 8. Mallikāsuttavaṇṇanā