Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya

    ๒. มาลุกฺยปุตฺตสุตฺตํ

    2. Mālukyaputtasuttaṃ

    ๙๕. อถ โข อายสฺมา มาลุกฺยปุโตฺต 1 เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ…เป.… เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อายสฺมา มาลุกฺยปุโตฺต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สาธุ เม, ภเนฺต, ภควา สํขิเตฺตน ธมฺมํ เทเสตุ, ยมหํ ภควโต ธมฺมํ สุตฺวา เอโก วูปกโฎฺฐ อปฺปมโตฺต อาตาปี ปหิตโตฺต วิหเรยฺย’’นฺติฯ

    95. Atha kho āyasmā mālukyaputto 2 yena bhagavā tenupasaṅkami…pe… ekamantaṃ nisinno kho āyasmā mālukyaputto bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘sādhu me, bhante, bhagavā saṃkhittena dhammaṃ desetu, yamahaṃ bhagavato dhammaṃ sutvā eko vūpakaṭṭho appamatto ātāpī pahitatto vihareyya’’nti.

    ‘‘เอตฺถ ทานิ, มาลุกฺยปุตฺต, กิํ ทหเร ภิกฺขู วกฺขาม! ยตฺร หิ นาม ตฺวํ, ภิกฺขุ, ชิโณฺณ วุโทฺธ มหลฺลโก อทฺธคโต วโยอนุปฺปโตฺต สํขิเตฺตน โอวาทํ ยาจสี’’ติฯ

    ‘‘Ettha dāni, mālukyaputta, kiṃ dahare bhikkhū vakkhāma! Yatra hi nāma tvaṃ, bhikkhu, jiṇṇo vuddho mahallako addhagato vayoanuppatto saṃkhittena ovādaṃ yācasī’’ti.

    ‘‘กิญฺจาปาหํ, ภเนฺต, ชิโณฺณ วุโทฺธ มหลฺลโก อทฺธคโต วโยอนุปฺปโตฺตฯ เทเสตุ เม, ภเนฺต , ภควา สํขิเตฺตน ธมฺมํ, เทเสตุ สุคโต สํขิเตฺตน ธมฺมํ, อเปฺปว นามาหํ ภควโต ภาสิตสฺส อตฺถํ อาชาเนยฺยํฯ อเปฺปว นามาหํ ภควโต ภาสิตสฺส ทายาโท อสฺส’’นฺติฯ

    ‘‘Kiñcāpāhaṃ, bhante, jiṇṇo vuddho mahallako addhagato vayoanuppatto. Desetu me, bhante , bhagavā saṃkhittena dhammaṃ, desetu sugato saṃkhittena dhammaṃ, appeva nāmāhaṃ bhagavato bhāsitassa atthaṃ ājāneyyaṃ. Appeva nāmāhaṃ bhagavato bhāsitassa dāyādo assa’’nti.

    ‘‘ตํ กิํ มญฺญสิ, มาลุกฺยปุตฺต, เย เต จกฺขุวิเญฺญยฺยา รูปา อทิฎฺฐา อทิฎฺฐปุพฺพา, น จ ปสฺสสิ, น จ เต โหติ ปเสฺสยฺยนฺติ? อตฺถิ เต ตตฺถ ฉโนฺท วา ราโค วา เปมํ วา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภเนฺต’’ฯ

    ‘‘Taṃ kiṃ maññasi, mālukyaputta, ye te cakkhuviññeyyā rūpā adiṭṭhā adiṭṭhapubbā, na ca passasi, na ca te hoti passeyyanti? Atthi te tattha chando vā rāgo vā pemaṃ vā’’ti? ‘‘No hetaṃ, bhante’’.

    ‘‘เย เต โสตวิเญฺญยฺยา สทฺทา อสฺสุตา อสฺสุตปุพฺพา, น จ สุณาสิ, น จ เต โหติ สุเณยฺยนฺติ? อตฺถิ เต ตตฺถ ฉโนฺท วา ราโค วา เปมํ วา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภเนฺต’’ฯ

    ‘‘Ye te sotaviññeyyā saddā assutā assutapubbā, na ca suṇāsi, na ca te hoti suṇeyyanti? Atthi te tattha chando vā rāgo vā pemaṃ vā’’ti? ‘‘No hetaṃ, bhante’’.

    ‘‘เย เต ฆานวิเญฺญยฺยา คนฺธา อฆายิตา อฆายิตปุพฺพา, น จ ฆายสิ, น จ เต โหติ ฆาเยยฺยนฺติ? อตฺถิ เต ตตฺถ ฉโนฺท วา ราโค วา เปมํ วา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภเนฺต’’ฯ

    ‘‘Ye te ghānaviññeyyā gandhā aghāyitā aghāyitapubbā, na ca ghāyasi, na ca te hoti ghāyeyyanti? Atthi te tattha chando vā rāgo vā pemaṃ vā’’ti? ‘‘No hetaṃ, bhante’’.

    ‘‘เย เต ชิวฺหาวิเญฺญยฺยา รสา อสายิตา อสายิตปุพฺพา, น จ สายสิ, น จ เต โหติ สาเยยฺยนฺติ? อตฺถิ เต ตตฺถ ฉโนฺท วา ราโค วา เปมํ วา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภเนฺต’’ฯ

    ‘‘Ye te jivhāviññeyyā rasā asāyitā asāyitapubbā, na ca sāyasi, na ca te hoti sāyeyyanti? Atthi te tattha chando vā rāgo vā pemaṃ vā’’ti? ‘‘No hetaṃ, bhante’’.

    ‘‘เย เต กายวิเญฺญยฺยา โผฎฺฐพฺพา อสมฺผุฎฺฐา อสมฺผุฎฺฐปุพฺพา, น จ ผุสสิ, น จ เต โหติ ผุเสยฺยนฺติ? อตฺถิ เต ตตฺถ ฉโนฺท วา ราโค วา เปมํ วา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภเนฺต’’ฯ

    ‘‘Ye te kāyaviññeyyā phoṭṭhabbā asamphuṭṭhā asamphuṭṭhapubbā, na ca phusasi, na ca te hoti phuseyyanti? Atthi te tattha chando vā rāgo vā pemaṃ vā’’ti? ‘‘No hetaṃ, bhante’’.

    ‘‘เย เต มโนวิเญฺญยฺยา ธมฺมา อวิญฺญาตา อวิญฺญาตปุพฺพา, น จ วิชานาสิ, น จ เต โหติ วิชาเนยฺยนฺติ? อตฺถิ เต ตตฺถ ฉโนฺท วา ราโค วา เปมํ วา’’ติ? ‘‘โน เหตํ, ภเนฺต’’ฯ

    ‘‘Ye te manoviññeyyā dhammā aviññātā aviññātapubbā, na ca vijānāsi, na ca te hoti vijāneyyanti? Atthi te tattha chando vā rāgo vā pemaṃ vā’’ti? ‘‘No hetaṃ, bhante’’.

    ‘‘เอตฺถ จ เต, มาลุกฺยปุตฺต, ทิฎฺฐสุตมุตวิญฺญาตเพฺพสุ ธเมฺมสุ ทิเฎฺฐ ทิฎฺฐมตฺตํ ภวิสฺสติ, สุเต สุตมตฺตํ ภวิสฺสติ, มุเต มุตมตฺตํ ภวิสฺสติ, วิญฺญาเต วิญฺญาตมตฺตํ ภวิสฺสติฯ ยโต โข เต, มาลุกฺยปุตฺต, ทิฎฺฐสุตมุตวิญฺญาตเพฺพสุ ธเมฺมสุ ทิเฎฺฐ ทิฎฺฐมตฺตํ ภวิสฺสติ, สุเต สุตมตฺตํ ภวิสฺสติ , มุเต มุตมตฺตํ ภวิสฺสติ, วิญฺญาเต วิญฺญาตมตฺตํ ภวิสฺสติ; ตโต ตฺวํ, มาลุกฺยปุตฺต, น เตนฯ ยโต ตฺวํ, มาลุกฺยปุตฺต, น เตน; ตโต ตฺวํ, มาลุกฺยปุตฺต , น ตตฺถฯ ยโต ตฺวํ, มาลุกฺยปุตฺต, น ตตฺถ; ตโต ตฺวํ, มาลุกฺยปุตฺต, เนวิธ, น หุรํ, น อุภยมนฺตเรนฯ เอเสวโนฺต ทุกฺขสฺสา’’ติฯ

    ‘‘Ettha ca te, mālukyaputta, diṭṭhasutamutaviññātabbesu dhammesu diṭṭhe diṭṭhamattaṃ bhavissati, sute sutamattaṃ bhavissati, mute mutamattaṃ bhavissati, viññāte viññātamattaṃ bhavissati. Yato kho te, mālukyaputta, diṭṭhasutamutaviññātabbesu dhammesu diṭṭhe diṭṭhamattaṃ bhavissati, sute sutamattaṃ bhavissati , mute mutamattaṃ bhavissati, viññāte viññātamattaṃ bhavissati; tato tvaṃ, mālukyaputta, na tena. Yato tvaṃ, mālukyaputta, na tena; tato tvaṃ, mālukyaputta , na tattha. Yato tvaṃ, mālukyaputta, na tattha; tato tvaṃ, mālukyaputta, nevidha, na huraṃ, na ubhayamantarena. Esevanto dukkhassā’’ti.

    ‘‘อิมสฺส ขฺวาหํ, ภเนฺต, ภควตา สํขิเตฺตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามิ –

    ‘‘Imassa khvāhaṃ, bhante, bhagavatā saṃkhittena bhāsitassa vitthārena atthaṃ ājānāmi –

    ‘‘รูปํ ทิสฺวา สติ มุฎฺฐา, ปิยํ นิมิตฺตํ มนสิ กโรโต;

    ‘‘Rūpaṃ disvā sati muṭṭhā, piyaṃ nimittaṃ manasi karoto;

    สารตฺตจิโตฺต เวเทติ, ตญฺจ อโชฺฌส 3 ติฎฺฐติฯ

    Sārattacitto vedeti, tañca ajjhosa 4 tiṭṭhati.

    ‘‘ตสฺส วฑฺฒนฺติ เวทนา, อเนกา รูปสมฺภวา;

    ‘‘Tassa vaḍḍhanti vedanā, anekā rūpasambhavā;

    อภิชฺฌา จ วิเหสา จ, จิตฺตมสฺสูปหญฺญติ;

    Abhijjhā ca vihesā ca, cittamassūpahaññati;

    เอวํ อาจินโต ทุกฺขํ, อารา นิพฺพานมุจฺจติฯ

    Evaṃ ācinato dukkhaṃ, ārā nibbānamuccati.

    ‘‘สทฺทํ สุตฺวา สติ มุฎฺฐา, ปิยํ นิมิตฺตํ มนสิ กโรโต;

    ‘‘Saddaṃ sutvā sati muṭṭhā, piyaṃ nimittaṃ manasi karoto;

    สารตฺตจิโตฺต เวเทติ, ตญฺจ อโชฺฌส ติฎฺฐติฯ

    Sārattacitto vedeti, tañca ajjhosa tiṭṭhati.

    ‘‘ตสฺส วฑฺฒนฺติ เวทนา, อเนกา สทฺทสมฺภวา;

    ‘‘Tassa vaḍḍhanti vedanā, anekā saddasambhavā;

    อภิชฺฌา จ วิเหสา จ, จิตฺตมสฺสูปหญฺญติ;

    Abhijjhā ca vihesā ca, cittamassūpahaññati;

    เอวํ อาจินโต ทุกฺขํ, อารา นิพฺพานมุจฺจติฯ

    Evaṃ ācinato dukkhaṃ, ārā nibbānamuccati.

    ‘‘คนฺธํ ฆตฺวา สติ มุฎฺฐา, ปิยํ นิมิตฺตํ มนสิ กโรโต;

    ‘‘Gandhaṃ ghatvā sati muṭṭhā, piyaṃ nimittaṃ manasi karoto;

    สารตฺตจิโตฺต เวเทติ, ตญฺจ อโชฺฌส ติฎฺฐติฯ

    Sārattacitto vedeti, tañca ajjhosa tiṭṭhati.

    ‘‘ตสฺส วฑฺฒนฺติ เวทนา, อเนกา คนฺธสมฺภวา;

    ‘‘Tassa vaḍḍhanti vedanā, anekā gandhasambhavā;

    อภิชฺฌา จ วิเหสา จ, จิตฺตมสฺสูปหญฺญติ;

    Abhijjhā ca vihesā ca, cittamassūpahaññati;

    เอวํ อาจินโต ทุกฺขํ, อารา นิพฺพานมุจฺจติฯ

    Evaṃ ācinato dukkhaṃ, ārā nibbānamuccati.

    ‘‘รสํ โภตฺวา สติ มุฎฺฐา, ปิยํ นิมิตฺตํ มนสิ กโรโต;

    ‘‘Rasaṃ bhotvā sati muṭṭhā, piyaṃ nimittaṃ manasi karoto;

    สารตฺตจิโตฺต เวเทติ, ตญฺจ อโชฺฌส ติฎฺฐติฯ

    Sārattacitto vedeti, tañca ajjhosa tiṭṭhati.

    ‘‘ตสฺส วฑฺฒนฺติ เวทนา, อเนกา รสสมฺภวา;

    ‘‘Tassa vaḍḍhanti vedanā, anekā rasasambhavā;

    อภิชฺฌา จ วิเหสา จ, จิตฺตมสฺสูปหญฺญติ;

    Abhijjhā ca vihesā ca, cittamassūpahaññati;

    เอวํ อาจินโต ทุกฺขํ, อารา นิพฺพานมุจฺจติฯ

    Evaṃ ācinato dukkhaṃ, ārā nibbānamuccati.

    ‘‘ผสฺสํ ผุสฺส สติ มุฎฺฐา, ปิยํ นิมิตฺตํ มนสิ กโรโต;

    ‘‘Phassaṃ phussa sati muṭṭhā, piyaṃ nimittaṃ manasi karoto;

    สารตฺตจิโตฺต เวเทติ, ตญฺจ อโชฺฌส ติฎฺฐติฯ

    Sārattacitto vedeti, tañca ajjhosa tiṭṭhati.

    ‘‘ตสฺส วฑฺฒนฺติ เวทนา, อเนกา ผสฺสสมฺภวา;

    ‘‘Tassa vaḍḍhanti vedanā, anekā phassasambhavā;

    อภิชฺฌา จ วิเหสา จ, จิตฺตมสฺสูปหญฺญติ;

    Abhijjhā ca vihesā ca, cittamassūpahaññati;

    เอวํ อาจินโต ทุกฺขํ, อารา นิพฺพานมุจฺจติฯ

    Evaṃ ācinato dukkhaṃ, ārā nibbānamuccati.

    ‘‘ธมฺมํ ญตฺวา สติ มุฎฺฐา, ปิยํ นิมิตฺตํ มนสิ กโรโต;

    ‘‘Dhammaṃ ñatvā sati muṭṭhā, piyaṃ nimittaṃ manasi karoto;

    สารตฺตจิโตฺต เวเทติ, ตญฺจ อโชฺฌส ติฎฺฐติฯ

    Sārattacitto vedeti, tañca ajjhosa tiṭṭhati.

    ‘‘ตสฺส วฑฺฒนฺติ เวทนา, อเนกา ธมฺมสมฺภวา;

    ‘‘Tassa vaḍḍhanti vedanā, anekā dhammasambhavā;

    อภิชฺฌา จ วิเหสา จ, จิตฺตมสฺสูปหญฺญติ;

    Abhijjhā ca vihesā ca, cittamassūpahaññati;

    เอวํ อาจินโต ทุกฺขํ, อารา นิพฺพานมุจฺจติฯ

    Evaṃ ācinato dukkhaṃ, ārā nibbānamuccati.

    ‘‘น โส รชฺชติ รูเปสุ, รูปํ ทิสฺวา ปฎิสฺสโต;

    ‘‘Na so rajjati rūpesu, rūpaṃ disvā paṭissato;

    วิรตฺตจิโตฺต เวเทติ, ตญฺจ นาโชฺฌส ติฎฺฐติฯ

    Virattacitto vedeti, tañca nājjhosa tiṭṭhati.

    ‘‘ยถาสฺส ปสฺสโต รูปํ, เสวโต จาปิ เวทนํ;

    ‘‘Yathāssa passato rūpaṃ, sevato cāpi vedanaṃ;

    ขียติ โนปจียติ, เอวํ โส จรตี สโต;

    Khīyati nopacīyati, evaṃ so caratī sato;

    เอวํ อปจินโต ทุกฺขํ, สนฺติเก นิพฺพานมุจฺจติฯ

    Evaṃ apacinato dukkhaṃ, santike nibbānamuccati.

    ‘‘น โส รชฺชติ สเทฺทสุ, สทฺทํ สุตฺวา ปฎิสฺสโต;

    ‘‘Na so rajjati saddesu, saddaṃ sutvā paṭissato;

    วิรตฺตจิโตฺต เวเทติ, ตญฺจ นาโชฺฌส ติฎฺฐติฯ

    Virattacitto vedeti, tañca nājjhosa tiṭṭhati.

    ‘‘ยถาสฺส สุณโต สทฺทํ, เสวโต จาปิ เวทนํ;

    ‘‘Yathāssa suṇato saddaṃ, sevato cāpi vedanaṃ;

    ขียติ โนปจียติ, เอวํ โส จรตี สโต;

    Khīyati nopacīyati, evaṃ so caratī sato;

    เอวํ อปจินโต ทุกฺขํ, สนฺติเก นิพฺพานมุจฺจติฯ

    Evaṃ apacinato dukkhaṃ, santike nibbānamuccati.

    ‘‘น โส รชฺชติ คเนฺธสุ, คนฺธํ ฆตฺวา ปฎิสฺสโต;

    ‘‘Na so rajjati gandhesu, gandhaṃ ghatvā paṭissato;

    วิรตฺตจิโตฺต เวเทติ, ตญฺจ นาโชฺฌส ติฎฺฐติฯ

    Virattacitto vedeti, tañca nājjhosa tiṭṭhati.

    ‘‘ยถาสฺส ฆายโต คนฺธํ, เสวโต จาปิ เวทนํ;

    ‘‘Yathāssa ghāyato gandhaṃ, sevato cāpi vedanaṃ;

    ขียติ โนปจียติ, เอวํ โส จรตี สโต;

    Khīyati nopacīyati, evaṃ so caratī sato;

    เอวํ อปจินโต ทุกฺขํ, สนฺติเก นิพฺพานมุจฺจติฯ

    Evaṃ apacinato dukkhaṃ, santike nibbānamuccati.

    ‘‘น โส รชฺชติ รเสสุ, รสํ โภตฺวา ปฎิสฺสโต;

    ‘‘Na so rajjati rasesu, rasaṃ bhotvā paṭissato;

    วิรตฺตจิโตฺต เวเทติ, ตญฺจ นาโชฺฌส ติฎฺฐติฯ

    Virattacitto vedeti, tañca nājjhosa tiṭṭhati.

    ‘‘ยถาสฺส สายโต รสํ, เสวโต จาปิ เวทนํ;

    ‘‘Yathāssa sāyato rasaṃ, sevato cāpi vedanaṃ;

    ขียติ โนปจียติ, เอวํ โส จรตี สโต;

    Khīyati nopacīyati, evaṃ so caratī sato;

    เอวํ อปจินโต ทุกฺขํ, สนฺติเก นิพฺพานมุจฺจติฯ

    Evaṃ apacinato dukkhaṃ, santike nibbānamuccati.

    ‘‘น โส รชฺชติ ผเสฺสสุ, ผสฺสํ ผุสฺส ปฎิสฺสโต;

    ‘‘Na so rajjati phassesu, phassaṃ phussa paṭissato;

    วิรตฺตจิโตฺต เวเทติ, ตญฺจ นาโชฺฌส ติฎฺฐติฯ

    Virattacitto vedeti, tañca nājjhosa tiṭṭhati.

    ‘‘ยถาสฺส ผุสโต ผสฺสํ, เสวโต จาปิ เวทนํ;

    ‘‘Yathāssa phusato phassaṃ, sevato cāpi vedanaṃ;

    ขียติ โนปจียติ, เอวํ โส จรตี สโต;

    Khīyati nopacīyati, evaṃ so caratī sato;

    เอวํ อปจินโต ทุกฺขํ, สนฺติเก นิพฺพานมุจฺจติฯ

    Evaṃ apacinato dukkhaṃ, santike nibbānamuccati.

    ‘‘น โส รชฺชติ ธเมฺมสุ, ธมฺมํ ญตฺวา ปฎิสฺสโต;

    ‘‘Na so rajjati dhammesu, dhammaṃ ñatvā paṭissato;

    วิรตฺตจิโตฺต เวเทติ, ตญฺจ นาโชฺฌส ติฎฺฐติฯ

    Virattacitto vedeti, tañca nājjhosa tiṭṭhati.

    ‘‘ยถาสฺส ชานโต ธมฺมํ, เสวโต จาปิ เวทนํ;

    ‘‘Yathāssa jānato dhammaṃ, sevato cāpi vedanaṃ;

    ขียติ โนปจียติ, เอวํ โส จรตี สโต;

    Khīyati nopacīyati, evaṃ so caratī sato;

    เอวํ อปจินโต ทุกฺขํ, สนฺติเก นิพฺพานมุจฺจตี’’ติฯ

    Evaṃ apacinato dukkhaṃ, santike nibbānamuccatī’’ti.

    ‘‘อิมสฺส ขฺวาหํ, ภเนฺต, ภควตา สํขิเตฺตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานามี’’ติฯ ‘‘สาธุ สาธุ, มาลุกฺยปุตฺต! สาธุ โข ตฺวํ, มาลุกฺยปุตฺต, มยา สํขิเตฺตน ภาสิตสฺส วิตฺถาเรน อตฺถํ อาชานาสิ –

    ‘‘Imassa khvāhaṃ, bhante, bhagavatā saṃkhittena bhāsitassa evaṃ vitthārena atthaṃ ājānāmī’’ti. ‘‘Sādhu sādhu, mālukyaputta! Sādhu kho tvaṃ, mālukyaputta, mayā saṃkhittena bhāsitassa vitthārena atthaṃ ājānāsi –

    ‘‘รูปํ ทิสฺวา สติ มุฎฺฐา, ปิยํ นิมิตฺตํ มนสิ กโรโต;

    ‘‘Rūpaṃ disvā sati muṭṭhā, piyaṃ nimittaṃ manasi karoto;

    สารตฺตจิโตฺต เวเทติ, ตญฺจ อโชฺฌส ติฎฺฐติฯ

    Sārattacitto vedeti, tañca ajjhosa tiṭṭhati.

    ‘‘ตสฺส วฑฺฒนฺติ เวทนา, อเนกา รูปสมฺภวา;

    ‘‘Tassa vaḍḍhanti vedanā, anekā rūpasambhavā;

    อภิชฺฌา จ วิเหสา จ, จิตฺตมสฺสูปหญฺญติ;

    Abhijjhā ca vihesā ca, cittamassūpahaññati;

    เอวํ อาจินโต ทุกฺขํ, อารา นิพฺพานมุจฺจติฯ…เป.…ฯ

    Evaṃ ācinato dukkhaṃ, ārā nibbānamuccati.…pe….

    ‘‘น โส รชฺชติ ธเมฺมสุ, ธมฺมํ ญตฺวา ปฎิสฺสโต;

    ‘‘Na so rajjati dhammesu, dhammaṃ ñatvā paṭissato;

    วิรตฺตจิโตฺต เวเทติ, ตญฺจ นาโชฺฌส ติฎฺฐติฯ

    Virattacitto vedeti, tañca nājjhosa tiṭṭhati.

    ‘‘ยถาสฺส วิชานโต ธมฺมํ, เสวโต จาปิ เวทนํ;

    ‘‘Yathāssa vijānato dhammaṃ, sevato cāpi vedanaṃ;

    ขียติ โนปจียติ, เอวํ โส จรตี สโต;

    Khīyati nopacīyati, evaṃ so caratī sato;

    เอวํ อปจินโต ทุกฺขํ, สนฺติเก นิพฺพานมุจฺจตี’’ติฯ

    Evaṃ apacinato dukkhaṃ, santike nibbānamuccatī’’ti.

    ‘‘อิมสฺส โข, มาลุกฺยปุตฺต, มยา สํขิเตฺตน ภาสิตสฺส เอวํ วิตฺถาเรน อโตฺถ ทฎฺฐโพฺพ’’ติฯ

    ‘‘Imassa kho, mālukyaputta, mayā saṃkhittena bhāsitassa evaṃ vitthārena attho daṭṭhabbo’’ti.

    อถ โข อายสฺมา มาลุกฺยปุโตฺต ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา อุฎฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ปกฺกามิฯ อถ โข อายสฺมา มาลุกฺยปุโตฺต เอโก วูปกโฎฺฐ อปฺปมโตฺต อาตาปี ปหิตโตฺต วิหรโนฺต นจิรเสฺสว – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิเฎฺฐว ธเมฺม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหาสิฯ ‘‘ขีณา ชาติ, วุสิตํ พฺรหฺมจริยํ, กตํ กรณียํ, นาปรํ อิตฺถตฺตายา’’ติ อพฺภญฺญาสิฯ อญฺญตโร จ ปนายสฺมา มาลุกฺยปุโตฺต อรหตํ อโหสีติฯ ทุติยํฯ

    Atha kho āyasmā mālukyaputto bhagavato bhāsitaṃ abhinanditvā anumoditvā uṭṭhāyāsanā bhagavantaṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā pakkāmi. Atha kho āyasmā mālukyaputto eko vūpakaṭṭho appamatto ātāpī pahitatto viharanto nacirasseva – yassatthāya kulaputtā sammadeva agārasmā anagāriyaṃ pabbajanti tadanuttaraṃ brahmacariyapariyosānaṃ diṭṭheva dhamme sayaṃ abhiññā sacchikatvā upasampajja vihāsi. ‘‘Khīṇā jāti, vusitaṃ brahmacariyaṃ, kataṃ karaṇīyaṃ, nāparaṃ itthattāyā’’ti abbhaññāsi. Aññataro ca panāyasmā mālukyaputto arahataṃ ahosīti. Dutiyaṃ.







    Footnotes:
    1. มาลุงฺกฺยปุโตฺต (สี.)
    2. māluṅkyaputto (sī.)
    3. อโชฺฌสาย (สี.)
    4. ajjhosāya (sī.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๒. มาลุกฺยปุตฺตสุตฺตวณฺณนา • 2. Mālukyaputtasuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๒. มาลุกฺยปุตฺตสุตฺตวณฺณนา • 2. Mālukyaputtasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact