Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā)

    ๒. มาลุกฺยปุตฺตสุตฺตวณฺณนา

    2. Mālukyaputtasuttavaṇṇanā

    ๙๕. ทุติเย มาลุกฺยปุโตฺตติ มาลุกฺยพฺราหฺมณิยา ปุโตฺตฯ เอตฺถาติ เอตสฺมิํ ตว โอวาทายาจเนฯ อิมินา เถรํ อปสาเทติปิ อุสฺสาเทติปิฯ กถํ? อยํ กิร ทหรกาเล รูปาทีสุ ปมชฺชิตฺวา ปจฺฉา มหลฺลกกาเล อรญฺญวาสํ ปเตฺถโนฺต กมฺมฎฺฐานํ ยาจติฯ อถ ภควา ‘‘เอตฺถ ทหเร กิํ วกฺขาม? มาลุกฺยปุโตฺต วิย ตุเมฺหปิ ตรุณกาเล ปมชฺชิตฺวา มหลฺลกกาเล อรญฺญํ ปวิสิตฺวา สมณธมฺมํ กเรยฺยาถา’’ติ อิมินา อธิปฺปาเยน ภณโนฺต เถรํ อปสาเทติ นามฯ

    95. Dutiye mālukyaputtoti mālukyabrāhmaṇiyā putto. Etthāti etasmiṃ tava ovādāyācane. Iminā theraṃ apasādetipi ussādetipi. Kathaṃ? Ayaṃ kira daharakāle rūpādīsu pamajjitvā pacchā mahallakakāle araññavāsaṃ patthento kammaṭṭhānaṃ yācati. Atha bhagavā ‘‘ettha dahare kiṃ vakkhāma? Mālukyaputto viya tumhepi taruṇakāle pamajjitvā mahallakakāle araññaṃ pavisitvā samaṇadhammaṃ kareyyāthā’’ti iminā adhippāyena bhaṇanto theraṃ apasādeti nāma.

    ยสฺมา ปน เถโร มหลฺลกกาเลปิ อรญฺญํ ปวิสิตฺวา สมณธมฺมํ กาตุกาโม, ตสฺมา ภควา ‘‘เอตฺถ ทหเร กิํ วกฺขาม? อยํ อมฺหากํ มาลุกฺยปุโตฺต มหลฺลกกาเลปิ อรญฺญํ ปวิสิตฺวา สมณธมฺมํ กตฺตุกาโม กมฺมฎฺฐานํ ยาจติ, ตุเมฺห นาม ตรุณกาเลปิ วีริยํ น กโรถา’’ติ อิมินา อธิปฺปาเยน ภณโนฺต เถรํ อุสฺสาเทติ นามฯ

    Yasmā pana thero mahallakakālepi araññaṃ pavisitvā samaṇadhammaṃ kātukāmo, tasmā bhagavā ‘‘ettha dahare kiṃ vakkhāma? Ayaṃ amhākaṃ mālukyaputto mahallakakālepi araññaṃ pavisitvā samaṇadhammaṃ kattukāmo kammaṭṭhānaṃ yācati, tumhe nāma taruṇakālepi vīriyaṃ na karothā’’ti iminā adhippāyena bhaṇanto theraṃ ussādeti nāma.

    ยตฺร หิ นามาติ โย นามฯ กิญฺจาปาหนฺติ กิญฺจาปิ ‘‘อหํ มหลฺลโก’’ติ ญาตํฯ ยทิ อหํ มหลฺลโก, มหลฺลโก สมาโนปิ สกฺขิสฺสามิ สมณธมฺมํ กาตุํ, เทเสตุ เม, ภเนฺต, ภควาติ อธิปฺปาเยน มหลฺลกภาวํ อนุคฺคณฺหโนฺต โอวาทญฺจ ปสํสโนฺต เอวมาหฯ

    Yatra hi nāmāti yo nāma. Kiñcāpāhanti kiñcāpi ‘‘ahaṃ mahallako’’ti ñātaṃ. Yadi ahaṃ mahallako, mahallako samānopi sakkhissāmi samaṇadhammaṃ kātuṃ, desetu me, bhante, bhagavāti adhippāyena mahallakabhāvaṃ anuggaṇhanto ovādañca pasaṃsanto evamāha.

    อทิฎฺฐา อทิฎฺฐปุพฺพาติ อิมสฺมิํ อตฺตภาเว อทิฎฺฐา อตีเตปิ อทิฎฺฐปุพฺพาฯ น จ ปสฺสสีติ เอตรหิปิ น ปสฺสสิฯ น จ เต โหติ ปเสฺสยฺยนฺติ เอวํ สมนฺนาหาโรปิ เต ยตฺถ นตฺถิ, อปิ นุ เต ตตฺถ ฉนฺทาทโย อุปฺปเชฺชยฺยุนฺติ ปุจฺฉติฯ

    Adiṭṭhā adiṭṭhapubbāti imasmiṃ attabhāve adiṭṭhā atītepi adiṭṭhapubbā. Na ca passasīti etarahipi na passasi. Na ca te hoti passeyyanti evaṃ samannāhāropi te yattha natthi, api nu te tattha chandādayo uppajjeyyunti pucchati.

    ทิเฎฺฐ ทิฎฺฐมตฺตนฺติ รูปายตเน จกฺขุวิญฺญาเณน ทิเฎฺฐ ทิฎฺฐมตฺตํ ภวิสฺสติฯ จกฺขุวิญฺญาณญฺหิ รูเป รูปมตฺตเมว ปสฺสติ, น นิจฺจาทิสภาวํ, อิติ เสสวิญฺญาเณหิปิ เม เอตฺถ ทิฎฺฐมตฺตเมว จิตฺตํ ภวิสฺสตีติ อโตฺถฯ อถ วา ทิเฎฺฐ ทิฎฺฐํ นาม จกฺขุวิญฺญาณํ, รูเป รูปวิชานนนฺติ อโตฺถฯ มตฺตาติ ปมาณํ, ทิฎฺฐํ มตฺตา อสฺสาติ ทิฎฺฐมตฺตํ, จิตฺตํ, จกฺขุวิญฺญาณมตฺตเมว เม จิตฺตํ ภวิสฺสตีติ อโตฺถฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา อาปาถคตรูเป จกฺขุวิญฺญาณํ น รชฺชติ น ทุสฺสติ น มุยฺหติ, เอวํ ราคาทิวิรเหน จกฺขุวิญฺญาณมตฺตเมว ชวนํ ภวิสฺสติ, จกฺขุวิญฺญาณปมาเณเนว ชวนํ ฐเปสฺสามีติฯ อถ วา ทิฎฺฐํ นาม จกฺขุวิญฺญาเณน ทิฎฺฐรูปํ, ทิเฎฺฐ ทิฎฺฐมตฺตํ นาม ตเตฺถว อุปฺปนฺนํ สมฺปฎิจฺฉนสนฺตีรณโวฎฺฐพฺพนสงฺขาตํ จิตฺตตฺตยํฯ ยถา ตํ น รชฺชติ, น ทุสฺสติ, น มุยฺหติ, เอวํ อาปาถคเต รูเป เตเนว สมฺปฎิจฺฉนาทิปฺปมาเณน ชวนํ อุปฺปาเทสฺสามิ, นาหํ ตํ ปมาณํ อติกฺกมิตฺวา รชฺชนาทิวเสน อุปฺปชฺชิตุํ ทสฺสามีติ อยเมตฺถ อโตฺถฯ เอเสว นโย สุตมุเตสุ

    Diṭṭhe diṭṭhamattanti rūpāyatane cakkhuviññāṇena diṭṭhe diṭṭhamattaṃ bhavissati. Cakkhuviññāṇañhi rūpe rūpamattameva passati, na niccādisabhāvaṃ, iti sesaviññāṇehipi me ettha diṭṭhamattameva cittaṃ bhavissatīti attho. Atha vā diṭṭhe diṭṭhaṃ nāma cakkhuviññāṇaṃ, rūpe rūpavijānananti attho. Mattāti pamāṇaṃ, diṭṭhaṃ mattā assāti diṭṭhamattaṃ, cittaṃ, cakkhuviññāṇamattameva me cittaṃ bhavissatīti attho. Idaṃ vuttaṃ hoti – yathā āpāthagatarūpe cakkhuviññāṇaṃ na rajjati na dussati na muyhati, evaṃ rāgādivirahena cakkhuviññāṇamattameva javanaṃ bhavissati, cakkhuviññāṇapamāṇeneva javanaṃ ṭhapessāmīti. Atha vā diṭṭhaṃ nāma cakkhuviññāṇena diṭṭharūpaṃ, diṭṭhe diṭṭhamattaṃ nāma tattheva uppannaṃ sampaṭicchanasantīraṇavoṭṭhabbanasaṅkhātaṃ cittattayaṃ. Yathā taṃ na rajjati, na dussati, na muyhati, evaṃ āpāthagate rūpe teneva sampaṭicchanādippamāṇena javanaṃ uppādessāmi, nāhaṃ taṃ pamāṇaṃ atikkamitvā rajjanādivasena uppajjituṃ dassāmīti ayamettha attho. Eseva nayo sutamutesu.

    วิญฺญาเต วิญฺญาตมตฺตนฺติ เอตฺถ ปน วิญฺญาตํ นาม มโนทฺวาราวชฺชเนน วิญฺญาตารมฺมณํ, ตสฺมิํ วิญฺญาเต วิญฺญาตมตฺตนฺติ อาวชฺชนปมาณํฯ ยถา อาวชฺชเนน น รชฺชติ น ทุสฺสติ น มุยฺหติ, เอวํ รชฺชนาทิวเสน อุปฺปชฺชิตุํ อทตฺวา อาวชฺชนปมาเณเนว จิตฺตํ ฐเปสฺสามีติ อยเมตฺถ อโตฺถฯ

    Viññāte viññātamattanti ettha pana viññātaṃ nāma manodvārāvajjanena viññātārammaṇaṃ, tasmiṃ viññāte viññātamattanti āvajjanapamāṇaṃ. Yathā āvajjanena na rajjati na dussati na muyhati, evaṃ rajjanādivasena uppajjituṃ adatvā āvajjanapamāṇeneva cittaṃ ṭhapessāmīti ayamettha attho.

    ยโตติ ยทาฯ ตโตติ ตทาฯ น เตนาติ เตน ราเคน วา รโตฺต, โทเสน วา ทุโฎฺฐ, โมเหน วา มูโฬฺห น ภวิสฺสติฯ ตโต ตฺวํ มาลุกฺยปุตฺต น ตตฺถาติ ยทา ตฺวํ เตน ราเคน วา โทสโมเหหิ วา รโตฺต วา ทุโฎฺฐ วา มูโฬฺห วา น ภวิสฺสสิ, ตทา ตฺวํ น ตตฺถ ตสฺมิํ ทิเฎฺฐ วา สุตมุตวิญฺญาเต วา ปฎิพโทฺธ อลฺลีโน ปติฎฺฐิโต นาม ภวิสฺสสิฯ เนวิธาติอาทิ วุตฺตตฺถเมวฯ

    Yatoti yadā. Tatoti tadā. Na tenāti tena rāgena vā ratto, dosena vā duṭṭho, mohena vā mūḷho na bhavissati. Tato tvaṃ mālukyaputta na tatthāti yadā tvaṃ tena rāgena vā dosamohehi vā ratto vā duṭṭho vā mūḷho vā na bhavissasi, tadā tvaṃ na tattha tasmiṃ diṭṭhe vā sutamutaviññāte vā paṭibaddho allīno patiṭṭhito nāma bhavissasi. Nevidhātiādi vuttatthameva.

    สติ มุฎฺฐาติ สติ นฎฺฐาฯ ตญฺจ อโชฺฌสาติ ตํ อารมฺมณํ คิลิตฺวาฯ อภิชฺฌา จ วิเหสา จาติ อภิชฺฌาย จ วิหิํสาย จฯ อถ วา ‘‘ตสฺส วฑฺฒนฺตี’’ติ ปเทนาปิ สทฺธิํ โยเชตพฺพํ, อภิชฺฌา จ วิเหสา จาติ อิเมปิ เทฺว ธมฺมา ตสฺส วฑฺฒนฺตีติ อโตฺถฯ

    Sati muṭṭhāti sati naṭṭhā. Tañca ajjhosāti taṃ ārammaṇaṃ gilitvā. Abhijjhā ca vihesā cāti abhijjhāya ca vihiṃsāya ca. Atha vā ‘‘tassa vaḍḍhantī’’ti padenāpi saddhiṃ yojetabbaṃ, abhijjhā ca vihesā cāti imepi dve dhammā tassa vaḍḍhantīti attho.

    จิตฺตมสฺสูปหญฺญตีติ อภิชฺฌาวิเหสาหิ อสฺส จิตฺตํ อุปหญฺญติฯ อาจินโตติ อาจินนฺตสฺสฯ อารา นิพฺพาน วุจฺจตีติ เอวรูปสฺส ปุคฺคลสฺส นิพฺพานํ นาม ทูเร ปวุจฺจติฯ ฆตฺวาติ ฆายิตฺวาฯ โภตฺวาติ ภุตฺวา สายิตฺวา เลหิตฺวาฯ ผุสฺสาติ ผุสิตฺวาฯ ปฎิสฺสโตติ ปฎิสฺสติสงฺขาตาย สติยา ยุโตฺตฯ เสวโต จาปิ เวทนนฺติ จตุมคฺคสมฺปยุตฺตํ นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรเวทนํ เสวนฺตสฺสฯ ขียตีติ ขยํ คจฺฉติฯ กิํ ตํ? ทุกฺขมฺปิ กิเลสชาตมฺปิฯ อญฺญตโรติ อสีติยา มหาสาวกานํ อพฺภนฺตโร เอโกฯ อิติ อิมสฺมิํ สุเตฺต คาถาหิปิ วฎฺฎวิวฎฺฎเมว กถิตํฯ

    Cittamassūpahaññatīti abhijjhāvihesāhi assa cittaṃ upahaññati. Ācinatoti ācinantassa. Ārā nibbāna vuccatīti evarūpassa puggalassa nibbānaṃ nāma dūre pavuccati. Ghatvāti ghāyitvā. Bhotvāti bhutvā sāyitvā lehitvā. Phussāti phusitvā. Paṭissatoti paṭissatisaṅkhātāya satiyā yutto. Sevato cāpi vedananti catumaggasampayuttaṃ nibbattitalokuttaravedanaṃ sevantassa. Khīyatīti khayaṃ gacchati. Kiṃ taṃ? Dukkhampi kilesajātampi. Aññataroti asītiyā mahāsāvakānaṃ abbhantaro eko. Iti imasmiṃ sutte gāthāhipi vaṭṭavivaṭṭameva kathitaṃ.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๒. มาลุกฺยปุตฺตสุตฺตํ • 2. Mālukyaputtasuttaṃ

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๒. มาลุกฺยปุตฺตสุตฺตวณฺณนา • 2. Mālukyaputtasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact