Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā)

    ๒. มาลุกฺยปุตฺตสุตฺตวณฺณนา

    2. Mālukyaputtasuttavaṇṇanā

    ๙๕. อปสาเทตีติ ตเชฺชติฯ อุสฺสาเทตีติ อุกฺกํเสติฯ อยํ กิร เถโร มาลุกฺยปุโตฺตฯ ปมชฺชิตฺวาติ โยนิโสมนสิการสฺส อนนุยุชฺชเนน ปมชฺชิตฺวาฯ

    95.Apasādetīti tajjeti. Ussādetīti ukkaṃseti. Ayaṃ kira thero mālukyaputto. Pamajjitvāti yonisomanasikārassa ananuyujjanena pamajjitvā.

    ยตฺราติ ปจฺจตฺตํ วจนาลงฺกาเรฯ นามาติ อสมฺภาวเน อปสาทนปเกฺข, อุสฺสาทนปเกฺข ปน สมฺภาวเนฯ กิํ ชาตนฺติ กิํ เตน มหลฺลกภาเวน ชาตนฺติ มหลฺลกภาวํ ติณายปิ อมญฺญมาโน วทติฯ เตนาห ‘‘ยทิ…เป.… อนุคฺคณฺหโนฺต’’ติฯ อนุคฺคณฺหโนฺตติ อจิเนฺตโนฺตฯ มาทิสานํ ภควโต โอวาโท อุปการาวโหติ เอตรหิ โอวาทญฺจ ปสํสโนฺต

    Yatrāti paccattaṃ vacanālaṅkāre. Nāmāti asambhāvane apasādanapakkhe, ussādanapakkhe pana sambhāvane. Kiṃ jātanti kiṃ tena mahallakabhāvena jātanti mahallakabhāvaṃ tiṇāyapi amaññamāno vadati. Tenāha ‘‘yadi…pe… anuggaṇhanto’’ti. Anuggaṇhantoti acintento. Mādisānaṃ bhagavato ovādo upakārāvahoti etarahi ovādañca pasaṃsanto.

    ‘‘อทิฎฺฐา อทิฎฺฐปุพฺพา’’ติอาทินา ปริกปฺปวเสน วุตฺตนิทสฺสนํ ‘‘ยถา เอเตสุ ฉนฺทาทโย น โหนฺติ, เอวมิตเรสุปิ ปริญฺญาเตสู’’ติ นยปฎิปชฺชนตฺถํ, เตสมฺปิ อิเมหิ สมาเนตพฺพตฺตาฯ เตน วุตฺตํ ‘‘สุปินกูปมา กามา’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๓๔; ๒.๔๖; ปาจิ. ๔๑๗; จูฬว. ๖๕)ฯ

    ‘‘Adiṭṭhā adiṭṭhapubbā’’tiādinā parikappavasena vuttanidassanaṃ ‘‘yathā etesu chandādayo na honti, evamitaresupi pariññātesū’’ti nayapaṭipajjanatthaṃ, tesampi imehi samānetabbattā. Tena vuttaṃ ‘‘supinakūpamā kāmā’’ti (ma. ni. 1.234; 2.46; pāci. 417; cūḷava. 65).

    จกฺขุวิญฺญาเณน ทิเฎฺฐ ทิฎฺฐมตฺตนฺติ จกฺขุวิญฺญาณสฺส รูปายตนํ ยตฺตโก คหณากาโร, ตตฺตกํฯ กิตฺตกํ ปมาณนฺติ อตฺตสํเวทิยํ ปรสฺส น ทิสิตพฺพํ, กปฺปนามตฺตํ รูปํฯ เตนาห ‘‘จกฺขุวิญฺญาณํ หี’’ติอาทิฯ รูเปติ รูปายตเนฯ รูปมตฺตเมวาติ นีลาทิเภทํ รูปายตนมตฺตํ, น นีลาทิฯ วิเสสนิวตฺตนโตฺถ หิ อยํ มตฺต-สโทฺทฯ ยทิ เอวํ, เอว-กาโร กิมตฺถิโย? จกฺขุวิญฺญาณญฺหิ รูปายตเน ลพฺภมานมฺปิ นีลาทิวิเสสํ ‘‘อิทํ นีลํ นาม, อิทํ ปีตํ นามา’’ติ น คณฺหาติฯ กุโต นิจฺจานิจฺจาทิสภาวตฺถนฺติ สํหิตสฺสปิ นิวตฺตนตฺถํ เอวการคฺคหณํฯ เตนาห ‘‘น นิจฺจาทิสภาว’’นฺติฯ เสสวิญฺญาเณหิปีติ ชวนวิญฺญาเณหิปิฯ

    Cakkhuviññāṇena diṭṭhe diṭṭhamattanti cakkhuviññāṇassa rūpāyatanaṃ yattako gahaṇākāro, tattakaṃ. Kittakaṃ pamāṇanti attasaṃvediyaṃ parassa na disitabbaṃ, kappanāmattaṃ rūpaṃ. Tenāha ‘‘cakkhuviññāṇaṃ hī’’tiādi. Rūpeti rūpāyatane. Rūpamattamevāti nīlādibhedaṃ rūpāyatanamattaṃ, na nīlādi. Visesanivattanattho hi ayaṃ matta-saddo. Yadi evaṃ, eva-kāro kimatthiyo? Cakkhuviññāṇañhi rūpāyatane labbhamānampi nīlādivisesaṃ ‘‘idaṃ nīlaṃ nāma, idaṃ pītaṃ nāmā’’ti na gaṇhāti. Kuto niccāniccādisabhāvatthanti saṃhitassapi nivattanatthaṃ evakāraggahaṇaṃ. Tenāha ‘‘na niccādisabhāva’’nti. Sesaviññāṇehipīti javanaviññāṇehipi.

    ทิฎฺฐํ นาม จกฺขุวิญฺญาณํ รูปายตนสฺส ทสฺสนนฺติ กตฺวาฯ เตนาห ‘‘รูเป รูปวิชานน’’นฺติฯ จกฺขุวิญฺญาณมตฺตเมวาติ ยตฺตกํ จกฺขุวิญฺญาณํ รูปายตเน คหณมตฺตํ, ตํมตฺตเมว เม สพฺพํ จิตฺตํ ภวิสฺสตีติ อโตฺถฯ ‘‘ราคาทิรเหนา’’ติ วา ปาโฐฯ ทิฎฺฐํ นาม ปทตฺถโต จกฺขุวิญฺญาเณน ทิฎฺฐํ รูปํฯ ตเตฺถวาติ จกฺขุวิญฺญาเณน ทิฎฺฐมเตฺต รูเปฯ จิตฺตตฺตยํ ทิฎฺฐมตฺตํ นาม จกฺขุวิญฺญาณํ วิย ราคาทิวิรเหน ปวตฺตนโตฯ เตนาห ‘‘ยถา ต’’นฺติ อาทิฯ

    Diṭṭhaṃ nāma cakkhuviññāṇaṃ rūpāyatanassa dassananti katvā. Tenāha ‘‘rūpe rūpavijānana’’nti. Cakkhuviññāṇamattamevāti yattakaṃ cakkhuviññāṇaṃ rūpāyatane gahaṇamattaṃ, taṃmattameva me sabbaṃ cittaṃ bhavissatīti attho. ‘‘Rāgādirahenā’’ti vā pāṭho. Diṭṭhaṃ nāma padatthato cakkhuviññāṇena diṭṭhaṃ rūpaṃ. Tatthevāti cakkhuviññāṇena diṭṭhamatte rūpe. Cittattayaṃ diṭṭhamattaṃ nāma cakkhuviññāṇaṃ viya rāgādivirahena pavattanato. Tenāha ‘‘yathā ta’’nti ādi.

    มโนทฺวาราวชฺชเนน วิญฺญาตารมฺมณํ วิญฺญาตนฺติ อธิเปฺปตํ ราคาทิวิรเหน วิเญฺญยฺยโตฯ เตนาห ‘‘ยถา อาวชฺชเนนา’’ติอาทิฯ

    Manodvārāvajjanenaviññātārammaṇaṃ viññātanti adhippetaṃ rāgādivirahena viññeyyato. Tenāha ‘‘yathā āvajjanenā’’tiādi.

    ตทาติ ตสฺมิํ กาเล, น ตโต ปฎฺฐายาติ อยเมตฺถ อโตฺถติ ทเสฺสติฯ ‘‘ทิฎฺฐมตฺต’’นฺติอาทินา เยสํ ราคาทีนํ นิวตฺตนํ อธิเปฺปตํ, เต ‘‘เตนา’’ติ เอตฺถ ต-สเทฺทน ปจฺจามสียนฺตีติ ‘‘เตน ราเคน วา รโตฺต’’ติอาทิ วุตฺตํฯ ตตฺถาติ วิสเย ภุมฺมํ, วิสยภาโว จ วิสยินา สมฺพนฺธวเสน อิจฺฉิตโพฺพติ วุตฺตํ ‘‘ปฎิพโทฺธ’’ติอาทิฯ

    Tadāti tasmiṃ kāle, na tato paṭṭhāyāti ayamettha atthoti dasseti. ‘‘Diṭṭhamatta’’ntiādinā yesaṃ rāgādīnaṃ nivattanaṃ adhippetaṃ, te ‘‘tenā’’ti ettha ta-saddena paccāmasīyantīti ‘‘tena rāgena vā ratto’’tiādi vuttaṃ. Tatthāti visaye bhummaṃ, visayabhāvo ca visayinā sambandhavasena icchitabboti vuttaṃ ‘‘paṭibaddho’’tiādi.

    สตีติ รูปสฺส ยถาสภาวสลฺลกฺขณา สติ มุฎฺฐา ปิยนิมิตฺตมนสิกาเรน อนุปฺปชฺชนโต น ทิสฺสติ นปฺปวตฺตติฯ อโชฺฌสาติ อโชฺฌสายฯ คิลิตฺวา ปรินิฎฺฐเปตฺวา อตฺตนิยกรเณนฯ

    Satīti rūpassa yathāsabhāvasallakkhaṇā sati muṭṭhā piyanimittamanasikārena anuppajjanato na dissati nappavattati. Ajjhosāti ajjhosāya. Gilitvā pariniṭṭhapetvā attaniyakaraṇena.

    อภิชฺฌา จ วิเหสา จาติ กรณเตฺถ ปจฺจตฺตวจนนฺติ อาห – ‘‘อภิชฺฌาย จ วิเหสาย จา’’ติฯ อตฺถวเสน วิภตฺติปริณาโมติ อาห – ‘‘อภิชฺฌาวิเหสาหี’’ติฯ อาจินนฺตสฺสาติ วเฑฺฒนฺตสฺสฯ ปฎิสฺสโตติ ปติสฺสโต สพฺพตฺถ สติยา ยุโตฺตฯ เสวโต จาปีติ เอตฺถ -สโทฺท อปิ-สโทฺท จ นิปาตมตฺตนฺติ ‘‘เสวนฺตสฺส’’อิเจฺจว อโตฺถ วุโตฺตฯ

    Abhijjhā ca vihesā cāti karaṇatthe paccattavacananti āha – ‘‘abhijjhāya ca vihesāya cā’’ti. Atthavasena vibhattipariṇāmoti āha – ‘‘abhijjhāvihesāhī’’ti. Ācinantassāti vaḍḍhentassa. Paṭissatoti patissato sabbattha satiyā yutto. Sevato cāpīti ettha ca-saddo api-saddo ca nipātamattanti ‘‘sevantassa’’icceva attho vutto.

    มาลุกฺยปุตฺตสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Mālukyaputtasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๒. มาลุกฺยปุตฺตสุตฺตํ • 2. Mālukyaputtasuttaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๒. มาลุกฺยปุตฺตสุตฺตวณฺณนา • 2. Mālukyaputtasuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact