Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya

    ๔. มนาปทายีสุตฺตํ

    4. Manāpadāyīsuttaṃ

    ๔๔. เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฎาคารสาลายํฯ อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน อุคฺคสฺส คหปติโน เวสาลิกสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทิฯ อถ โข อุโคฺค คหปติ เวสาลิโก เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อุโคฺค คหปติ เวสาลิโก ภควนฺตํ เอตทโวจ –

    44. Ekaṃ samayaṃ bhagavā vesāliyaṃ viharati mahāvane kūṭāgārasālāyaṃ. Atha kho bhagavā pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya yena uggassa gahapatino vesālikassa nivesanaṃ tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā paññatte āsane nisīdi. Atha kho uggo gahapati vesāliko yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho uggo gahapati vesāliko bhagavantaṃ etadavoca –

    ‘‘สมฺมุขา เมตํ, ภเนฺต, ภควโต สุตํ สมฺมุขา ปฎิคฺคหิตํ – ‘มนาปทายี ลภเต มนาป’นฺติฯ มนาปํ เม, ภเนฺต, สาลปุปฺผกํ 1 ขาทนียํ; ตํ เม ภควา ปฎิคฺคณฺหาตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติฯ ปฎิคฺคเหสิ ภควา อนุกมฺปํ อุปาทายฯ

    ‘‘Sammukhā metaṃ, bhante, bhagavato sutaṃ sammukhā paṭiggahitaṃ – ‘manāpadāyī labhate manāpa’nti. Manāpaṃ me, bhante, sālapupphakaṃ 2 khādanīyaṃ; taṃ me bhagavā paṭiggaṇhātu anukampaṃ upādāyā’’ti. Paṭiggahesi bhagavā anukampaṃ upādāya.

    ‘‘สมฺมุขา เมตํ, ภเนฺต, ภควโต สุตํ สมฺมุขา ปฎิคฺคหิตํ – ‘มนาปทายี ลภเต มนาป’นฺติฯ มนาปํ เม, ภเนฺต, สมฺปนฺนโกลกํ สูกรมํสํ 3; ตํ เม ภควา ปฎิคฺคณฺหาตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติฯ ปฎิคฺคเหสิ ภควา อนุกมฺปํ อุปาทายฯ

    ‘‘Sammukhā metaṃ, bhante, bhagavato sutaṃ sammukhā paṭiggahitaṃ – ‘manāpadāyī labhate manāpa’nti. Manāpaṃ me, bhante, sampannakolakaṃ sūkaramaṃsaṃ 4; taṃ me bhagavā paṭiggaṇhātu anukampaṃ upādāyā’’ti. Paṭiggahesi bhagavā anukampaṃ upādāya.

    ‘‘สมฺมุขา เมตํ, ภเนฺต, ภควโต สุตํ สมฺมุขา ปฎิคฺคหิตํ – ‘มนาปทายี ลภเต มนาป’นฺติฯ มนาปํ เม, ภเนฺต, นิพฺพตฺตเตลกํ 5 นาลิยสากํ; ตํ เม ภควา ปฎิคฺคณฺหาตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติฯ ปฎิคฺคเหสิ ภควา อนุกมฺปํ อุปาทายฯ

    ‘‘Sammukhā metaṃ, bhante, bhagavato sutaṃ sammukhā paṭiggahitaṃ – ‘manāpadāyī labhate manāpa’nti. Manāpaṃ me, bhante, nibbattatelakaṃ 6 nāliyasākaṃ; taṃ me bhagavā paṭiggaṇhātu anukampaṃ upādāyā’’ti. Paṭiggahesi bhagavā anukampaṃ upādāya.

    ‘‘สมฺมุขา เมตํ, ภเนฺต, ภควโต สุตํ สมฺมุขา ปฎิคฺคหิตํ – ‘มนาปทายี ลภเต มนาป’นฺติฯ มนาโป เม, ภเนฺต, สาลีนํ โอทโน วิจิตกาฬโก 7 อเนกสูโป อเนกพฺยญฺชโน; ตํ เม ภควา ปฎิคฺคณฺหาตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติฯ ปฎิคฺคเหสิ ภควา อนุกมฺปํ อุปาทายฯ

    ‘‘Sammukhā metaṃ, bhante, bhagavato sutaṃ sammukhā paṭiggahitaṃ – ‘manāpadāyī labhate manāpa’nti. Manāpo me, bhante, sālīnaṃ odano vicitakāḷako 8 anekasūpo anekabyañjano; taṃ me bhagavā paṭiggaṇhātu anukampaṃ upādāyā’’ti. Paṭiggahesi bhagavā anukampaṃ upādāya.

    ‘‘สมฺมุขา เมตํ, ภเนฺต, ภควโต สุตํ สมฺมุขา ปฎิคฺคหิตํ – ‘มนาปทายี ลภเต มนาป’นฺติฯ มนาปานิ เม, ภเนฺต, กาสิกานิ วตฺถานิ; ตานิ เม ภควา ปฎิคฺคณฺหาตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติฯ ปฎิคฺคเหสิ ภควา อนุกมฺปํ อุปาทายฯ

    ‘‘Sammukhā metaṃ, bhante, bhagavato sutaṃ sammukhā paṭiggahitaṃ – ‘manāpadāyī labhate manāpa’nti. Manāpāni me, bhante, kāsikāni vatthāni; tāni me bhagavā paṭiggaṇhātu anukampaṃ upādāyā’’ti. Paṭiggahesi bhagavā anukampaṃ upādāya.

    ‘‘สมฺมุขา เมตํ, ภเนฺต, ภควโต สุตํ สมฺมุขา ปฎิคฺคหิตํ – ‘มนาปทายี ลภเต มนาป’นฺติ ฯ มนาโป เม, ภเนฺต, ปลฺลโงฺก โคนกตฺถโต ปฎลิกตฺถโต กทลิมิคปวรปจฺจตฺถรโณ 9 สอุตฺตรจฺฉโท อุภโตโลหิตกูปธาโนฯ อปิ จ, ภเนฺต, มยเมฺปตํ ชานาม – ‘เนตํ ภควโต กปฺปตี’ติฯ อิทํ เม, ภเนฺต, จนฺทนผลกํ อคฺฆติ อธิกสตสหสฺสํ; ตํ เม ภควา ปฎิคฺคณฺหาตุ อนุกมฺปํ อุปาทายา’’ติฯ ปฎิคฺคเหสิ ภควา อนุกมฺปํ อุปาทายฯ อถ โข ภควา อุคฺคํ คหปติํ เวสาลิกํ อิมินา อนุโมทนีเยน อนุโมทิ –

    ‘‘Sammukhā metaṃ, bhante, bhagavato sutaṃ sammukhā paṭiggahitaṃ – ‘manāpadāyī labhate manāpa’nti . Manāpo me, bhante, pallaṅko gonakatthato paṭalikatthato kadalimigapavarapaccattharaṇo 10 sauttaracchado ubhatolohitakūpadhāno. Api ca, bhante, mayampetaṃ jānāma – ‘netaṃ bhagavato kappatī’ti. Idaṃ me, bhante, candanaphalakaṃ agghati adhikasatasahassaṃ; taṃ me bhagavā paṭiggaṇhātu anukampaṃ upādāyā’’ti. Paṭiggahesi bhagavā anukampaṃ upādāya. Atha kho bhagavā uggaṃ gahapatiṃ vesālikaṃ iminā anumodanīyena anumodi –

    ‘‘มนาปทายี ลภเต มนาปํ,

    ‘‘Manāpadāyī labhate manāpaṃ,

    โย อุชฺชุภูเตสุ 11 ททาติ ฉนฺทสา;

    Yo ujjubhūtesu 12 dadāti chandasā;

    อจฺฉาทนํ สยนมนฺนปานํ 13,

    Acchādanaṃ sayanamannapānaṃ 14,

    นานาปฺปการานิ จ ปจฺจยานิฯ

    Nānāppakārāni ca paccayāni.

    ‘‘จตฺตญฺจ มุตฺตญฺจ อนุคฺคหีตํ 15,

    ‘‘Cattañca muttañca anuggahītaṃ 16,

    เขตฺตูปเม อรหเนฺต วิทิตฺวา;

    Khettūpame arahante viditvā;

    โส ทุจฺจชํ สปฺปุริโส จชิตฺวา,

    So duccajaṃ sappuriso cajitvā,

    มนาปทายี ลภเต มนาป’’นฺติฯ

    Manāpadāyī labhate manāpa’’nti.

    อถ โข ภควา อุคฺคํ คหปติํ เวสาลิกํ อิมินา อนุโมทนีเยน อนุโมทิตฺวา อุฎฺฐายาสนา ปกฺกามิฯ

    Atha kho bhagavā uggaṃ gahapatiṃ vesālikaṃ iminā anumodanīyena anumoditvā uṭṭhāyāsanā pakkāmi.

    อถ โข อุโคฺค คหปติ เวสาลิโก อปเรน สมเยน กาลมกาสิฯ กาลงฺกโต 17 จ อุโคฺค คหปติ เวสาลิโก อญฺญตรํ มโนมยํ กายํ อุปปชฺชิฯ เตน โข ปน สมเยน ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ อถ โข อุโคฺค เทวปุโตฺต อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวโณฺณ เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฎฺฐาสิฯ เอกมนฺตํ ฐิตํ โข อุคฺคํ เทวปุตฺตํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘กจฺจิ เต, อุคฺค, ยถาธิปฺปาโย’’ติ? ‘‘ตคฺฆ เม, ภควา, ยถาธิปฺปาโย’’ติฯ อถ โข ภควา อุคฺคํ เทวปุตฺตํ คาถาหิ อชฺฌภาสิ –

    Atha kho uggo gahapati vesāliko aparena samayena kālamakāsi. Kālaṅkato 18 ca uggo gahapati vesāliko aññataraṃ manomayaṃ kāyaṃ upapajji. Tena kho pana samayena bhagavā sāvatthiyaṃ viharati jetavane anāthapiṇḍikassa ārāme. Atha kho uggo devaputto abhikkantāya rattiyā abhikkantavaṇṇo kevalakappaṃ jetavanaṃ obhāsetvā yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ aṭṭhāsi. Ekamantaṃ ṭhitaṃ kho uggaṃ devaputtaṃ bhagavā etadavoca – ‘‘kacci te, ugga, yathādhippāyo’’ti? ‘‘Taggha me, bhagavā, yathādhippāyo’’ti. Atha kho bhagavā uggaṃ devaputtaṃ gāthāhi ajjhabhāsi –

    ‘‘มนาปทายี ลภเต มนาปํ,

    ‘‘Manāpadāyī labhate manāpaṃ,

    อคฺคสฺส ทาตา ลภเต ปุนคฺคํ;

    Aggassa dātā labhate punaggaṃ;

    วรสฺส ทาตา วรลาภิ โหติ,

    Varassa dātā varalābhi hoti,

    เสฎฺฐํ ทโท เสฎฺฐมุเปติ ฐานํฯ

    Seṭṭhaṃ dado seṭṭhamupeti ṭhānaṃ.

    ‘‘โย อคฺคทายี วรทายี, เสฎฺฐทายี จ โย นโร;

    ‘‘Yo aggadāyī varadāyī, seṭṭhadāyī ca yo naro;

    ทีฆายุ ยสวา โหติ, ยตฺถ ยตฺถูปปชฺชตี’’ติฯ จตุตฺถํ;

    Dīghāyu yasavā hoti, yattha yatthūpapajjatī’’ti. catutthaṃ;







    Footnotes:
    1. สาลิปุปฺผกํ (ก.)
    2. sālipupphakaṃ (ka.)
    3. สมฺปนฺนสูกรมํสํ (สี.), สมฺปนฺนวรสูกรมํสํ (สฺยา.)
    4. sampannasūkaramaṃsaṃ (sī.), sampannavarasūkaramaṃsaṃ (syā.)
    5. นิพทฺธเตลกํ (ปี. สี. อฎฺฐ.), นิพฺพฎฺฎเตลกํ (สฺยา. อฎฺฐ.)
    6. nibaddhatelakaṃ (pī. sī. aṭṭha.), nibbaṭṭatelakaṃ (syā. aṭṭha.)
    7. วิคตกาลโก (สฺยา. กํ. ปี. ก.)
    8. vigatakālako (syā. kaṃ. pī. ka.)
    9. กาทลิมิคปวรปจฺจตฺถรโณ (สี.)
    10. kādalimigapavarapaccattharaṇo (sī.)
    11. อุชุภูเตสุ (สฺยา. กํ. ปี.)
    12. ujubhūtesu (syā. kaṃ. pī.)
    13. สยนมถนฺนปานํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)
    14. sayanamathannapānaṃ (sī. syā. kaṃ. pī.)
    15. อนคฺคหีตํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)
    16. anaggahītaṃ (sī. syā. kaṃ. pī.)
    17. กาลกโต (สี. สฺยา. กํ. ปี.)
    18. kālakato (sī. syā. kaṃ. pī.)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๔. มนาปทายีสุตฺตวณฺณนา • 4. Manāpadāyīsuttavaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๔. มนาปทายีสุตฺตวณฺณนา • 4. Manāpadāyīsuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact