Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปฎิสมฺภิทามคฺค-อฎฺฐกถา • Paṭisambhidāmagga-aṭṭhakathā |
๑๐. มณฺฑเปยฺยกถา
10. Maṇḍapeyyakathā
มณฺฑเปยฺยกถาวณฺณนา
Maṇḍapeyyakathāvaṇṇanā
๒๓๘. อิทานิ ตสฺส มคฺคสฺส มณฺฑเปยฺยตฺตํ ทเสฺสเนฺตน กถิตาย ภควโต วจเนกเทสปุพฺพงฺคมาย มณฺฑเปยฺยกถาย อปุพฺพตฺถานุวณฺณนาฯ ตตฺถ มณฺฑเปยฺยนฺติ ยถา สมฺปนฺนํ นิมฺมลํ วิปฺปสนฺนํ สปฺปิ สปฺปิมโณฺฑติ วุจฺจติ, เอวํ วิปฺปสนฺนเฎฺฐน มโณฺฑ, ปาตพฺพเฎฺฐน เปยฺยํฯ ยญฺหิ ปิวิตฺวา อนฺตรวีถิยํ ปติตา วิสญฺญิโน อตฺตโน สาฎกาทีนมฺปิ อสฺสามิกา โหนฺติ, ตํ ปสนฺนมฺปิ น ปาตพฺพํฯ มยฺหํ ปน อิทํ สิกฺขตฺตยสงฺคหิตํ สาสนพฺรหฺมจริยํ สมฺปนฺนตฺตา นิมฺมลตฺตา วิปฺปสนฺนตฺตา มณฺฑญฺจ หิตสุขาวหตฺตา เปยฺยญฺจาติ มณฺฑเปยฺยนฺติ ทีเปติฯ มโณฺฑ เปโยฺย เอตฺถาติ มณฺฑเปยฺยํฯ กิํ ตํ? สาสนพฺรหฺมจริยํฯ กสฺมา สิกฺขตฺตยํ พฺรหฺมจริยํ นาม? อุตฺตมเฎฺฐน นิพฺพานํ พฺรหฺมํ นาม, สิกฺขตฺตยํ นิพฺพานตฺถาย ปวตฺตนโต พฺรหฺมตฺถาย จริยาติ พฺรหฺมจริยนฺติ วุจฺจติฯ สาสนพฺรหฺมจริยนฺติ ตํเยวฯ สตฺถา สมฺมุขีภูโตติ อิทเมตฺถ การณวจนํฯ ยสฺมา ปน สตฺถา สมฺมุขีภูโต, ตสฺมา วีริยปโยคํ กตฺวา ปิวเถตํ มณฺฑํฯ พาหิรกญฺหิ เภสชฺชมณฺฑํ เวชฺชสฺส อสมฺมุขา ปิวนฺตานํ ปมาณํ วา อุคฺคมนนิคฺคมนํ วา น ชานามาติ อาสงฺกา โหติฯ เวชฺชสฺส สมฺมุขา ปน เวโชฺช ชานิสฺสตีติ นิราสงฺกา ปิวนฺติฯ เอวเมวํ อมฺหากญฺจ ธมฺมสฺสามี สตฺถา สมฺมุขีภูโตติ วีริยํ กตฺวา ปิวถาติ มณฺฑปาเน สนฺนิโยเชติฯ ทิฎฺฐธมฺมิกสมฺปรายิกปรมเตฺถหิ ยถารหํ อนุสาสตีติ สตฺถาฯ อปิจ ‘‘สตฺถา ภควา สตฺถวาโห’’ติอาทินา (มหานิ. ๑๙๐) นิเทฺทสนเยนเปตฺถ อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ สนฺทิสฺสมาโน มุโข ภูโตติ สมฺมุขีภูโตฯ
238. Idāni tassa maggassa maṇḍapeyyattaṃ dassentena kathitāya bhagavato vacanekadesapubbaṅgamāya maṇḍapeyyakathāya apubbatthānuvaṇṇanā. Tattha maṇḍapeyyanti yathā sampannaṃ nimmalaṃ vippasannaṃ sappi sappimaṇḍoti vuccati, evaṃ vippasannaṭṭhena maṇḍo, pātabbaṭṭhena peyyaṃ. Yañhi pivitvā antaravīthiyaṃ patitā visaññino attano sāṭakādīnampi assāmikā honti, taṃ pasannampi na pātabbaṃ. Mayhaṃ pana idaṃ sikkhattayasaṅgahitaṃ sāsanabrahmacariyaṃ sampannattā nimmalattā vippasannattā maṇḍañca hitasukhāvahattā peyyañcāti maṇḍapeyyanti dīpeti. Maṇḍo peyyo etthāti maṇḍapeyyaṃ. Kiṃ taṃ? Sāsanabrahmacariyaṃ. Kasmā sikkhattayaṃ brahmacariyaṃ nāma? Uttamaṭṭhena nibbānaṃ brahmaṃ nāma, sikkhattayaṃ nibbānatthāya pavattanato brahmatthāya cariyāti brahmacariyanti vuccati. Sāsanabrahmacariyanti taṃyeva. Satthāsammukhībhūtoti idamettha kāraṇavacanaṃ. Yasmā pana satthā sammukhībhūto, tasmā vīriyapayogaṃ katvā pivathetaṃ maṇḍaṃ. Bāhirakañhi bhesajjamaṇḍaṃ vejjassa asammukhā pivantānaṃ pamāṇaṃ vā uggamananiggamanaṃ vā na jānāmāti āsaṅkā hoti. Vejjassa sammukhā pana vejjo jānissatīti nirāsaṅkā pivanti. Evamevaṃ amhākañca dhammassāmī satthā sammukhībhūtoti vīriyaṃ katvā pivathāti maṇḍapāne sanniyojeti. Diṭṭhadhammikasamparāyikaparamatthehi yathārahaṃ anusāsatīti satthā. Apica ‘‘satthā bhagavā satthavāho’’tiādinā (mahāni. 190) niddesanayenapettha attho veditabbo. Sandissamāno mukho bhūtoti sammukhībhūto.
มณฺฑเปยฺยนิเทฺทเส ติธตฺตมโณฺฑติ ติธาภาโว ติธตฺตํฯ ติธเตฺตน มโณฺฑ ติธตฺตมโณฺฑ, ติวิเธน มโณฺฑติ อโตฺถฯ สตฺถริ สมฺมุขีภูเตติ อิทํ สพฺพาการปริปุณฺณมณฺฑตฺตยทสฺสนตฺถํ วุตฺตํฯ ปรินิพฺพุเตปิ ปน สตฺถริ เอกเทเสน มณฺฑตฺตยํ ปวตฺตติเยวฯ เตเนว จสฺส นิเทฺทเส ‘‘สตฺถริ สมฺมุขีภูเต’’ติ อวตฺวา กตโม เทสนามโณฺฑติอาทิ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ
Maṇḍapeyyaniddese tidhattamaṇḍoti tidhābhāvo tidhattaṃ. Tidhattena maṇḍo tidhattamaṇḍo, tividhena maṇḍoti attho. Satthari sammukhībhūteti idaṃ sabbākāraparipuṇṇamaṇḍattayadassanatthaṃ vuttaṃ. Parinibbutepi pana satthari ekadesena maṇḍattayaṃ pavattatiyeva. Teneva cassa niddese ‘‘satthari sammukhībhūte’’ti avatvā katamo desanāmaṇḍotiādi vuttanti veditabbaṃ.
เทสนามโณฺฑติ ธมฺมเทสนา เอว มโณฺฑฯ ปฎิคฺคหมโณฺฑติ เทสนาปฎิคฺคาหโก เอว มโณฺฑฯ พฺรหฺมจริยมโณฺฑติ มคฺคพฺรหฺมจริยเมว มโณฺฑฯ
Desanāmaṇḍoti dhammadesanā eva maṇḍo. Paṭiggahamaṇḍoti desanāpaṭiggāhako eva maṇḍo. Brahmacariyamaṇḍoti maggabrahmacariyameva maṇḍo.
อาจิกฺขนาติ เทเสตพฺพานํ สจฺจาทีนํ อิมานิ นามานีติ นามวเสน กถนาฯ เทสนาติ ทสฺสนาฯ ปญฺญาปนาติ ชานาปนา, ญาณมุเข ฐปนา วาฯ อาสนํ ฐเปโนฺต หิ ‘‘อาสนํ ปญฺญาเปตี’’ติ วุจฺจติฯ ปฎฺฐปนาติ ปญฺญาปนา, ปวตฺตนาติ อโตฺถ, ญาณมุเข ฐปนา วาฯ วิวรณาติ วิวฎกรณํ, วิวริตฺวา ทสฺสนาติ อโตฺถฯ วิภชนาติ วิภาคกิริยา, วิภาคโต ทสฺสนาติ อโตฺถฯ อุตฺตานีกมฺมนฺติ ปากฎภาวกรณํฯ อถ วา อาจิกฺขนาติ เทสนาทีนํ ฉนฺนํ ปทานํ มูลปทํฯ เทสนาทีนิ ฉ ปทานิ ตสฺส อตฺถวิวรณตฺถํ วุตฺตานิฯ ตตฺถ เทสนาติ อุคฺฆฎิตญฺญูนํ วเสน สเงฺขปโต ปฐมํ อุเทฺทสวเสน เทสนาฯ อุคฺฆฎิตญฺญู หิ สเงฺขเปน วุตฺตํ ปฐมํ วุตฺตญฺจ ปฎิวิชฺฌนฺติฯ ปญฺญาปนาติ วิปญฺจิตญฺญูนํ วเสน เตสํ จิตฺตโตสเนน พุทฺธินิสาเนน จ ปฐมํ สงฺขิตฺตสฺส วิตฺถารโต นิเทฺทสวเสน ปญฺญาปนาฯ ปฎฺฐปนาติ เตสํเยว นิทฺทิฎฺฐสฺส นิเทฺทสสฺส ปฎินิเทฺทสวเสน วิตฺถารตรวจเนน ปญฺญาปนาฯ วิวรณาติ นิทฺทิฎฺฐสฺสาปิ ปุนปฺปุนํ วจเนน วิวรณาฯ วิภชนาติ ปุนปฺปุนํ วุตฺตสฺสาปิ วิภาคกรเณน วิภชนาฯ อุตฺตานีกมฺมนฺติ วิวฎสฺส วิตฺถารตรวจเนน, วิภตฺตสฺส จ นิทสฺสนวจเนน อุตฺตานีกรณํฯ อยํ เทสนา เนยฺยานมฺปิ ปฎิเวธาย โหติฯ เยวาปนเญฺญปิ เกจีติ ปิยงฺกรมาตาทิกา วินิปาติกา คหิตาฯ วิญฺญาตาโรติ ปฎิเวธวเสน โลกุตฺตรธมฺมํ วิญฺญาตาโรฯ เอเต หิ ภิกฺขุอาทโย ปฎิเวธวเสน ธมฺมเทสนํ ปฎิคฺคณฺหนฺตีติ ปฎิคฺคหาฯ อยเมวาติอาทีนิ ปฐมญาณนิเทฺทเส วุตฺตตฺถานิฯ อริยมโคฺค นิพฺพาเนน สํสนฺทนโต พฺรหฺมตฺถาย จริยาติ พฺรหฺมจริยนฺติ วุจฺจติฯ
Ācikkhanāti desetabbānaṃ saccādīnaṃ imāni nāmānīti nāmavasena kathanā. Desanāti dassanā. Paññāpanāti jānāpanā, ñāṇamukhe ṭhapanā vā. Āsanaṃ ṭhapento hi ‘‘āsanaṃ paññāpetī’’ti vuccati. Paṭṭhapanāti paññāpanā, pavattanāti attho, ñāṇamukhe ṭhapanā vā. Vivaraṇāti vivaṭakaraṇaṃ, vivaritvā dassanāti attho. Vibhajanāti vibhāgakiriyā, vibhāgato dassanāti attho. Uttānīkammanti pākaṭabhāvakaraṇaṃ. Atha vā ācikkhanāti desanādīnaṃ channaṃ padānaṃ mūlapadaṃ. Desanādīni cha padāni tassa atthavivaraṇatthaṃ vuttāni. Tattha desanāti ugghaṭitaññūnaṃ vasena saṅkhepato paṭhamaṃ uddesavasena desanā. Ugghaṭitaññū hi saṅkhepena vuttaṃ paṭhamaṃ vuttañca paṭivijjhanti. Paññāpanāti vipañcitaññūnaṃ vasena tesaṃ cittatosanena buddhinisānena ca paṭhamaṃ saṅkhittassa vitthārato niddesavasena paññāpanā. Paṭṭhapanāti tesaṃyeva niddiṭṭhassa niddesassa paṭiniddesavasena vitthārataravacanena paññāpanā. Vivaraṇāti niddiṭṭhassāpi punappunaṃ vacanena vivaraṇā. Vibhajanāti punappunaṃ vuttassāpi vibhāgakaraṇena vibhajanā. Uttānīkammanti vivaṭassa vitthārataravacanena, vibhattassa ca nidassanavacanena uttānīkaraṇaṃ. Ayaṃ desanā neyyānampi paṭivedhāya hoti. Yevāpanaññepi kecīti piyaṅkaramātādikā vinipātikā gahitā. Viññātāroti paṭivedhavasena lokuttaradhammaṃ viññātāro. Ete hi bhikkhuādayo paṭivedhavasena dhammadesanaṃ paṭiggaṇhantīti paṭiggahā. Ayamevātiādīni paṭhamañāṇaniddese vuttatthāni. Ariyamaggo nibbānena saṃsandanato brahmatthāya cariyāti brahmacariyanti vuccati.
๒๓๙. อิทานิ อธิโมกฺขมโณฺฑติอาทีหิ ตสฺมิํ มคฺคกฺขเณ วิชฺชมานานิ อินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคงฺคานิ มณฺฑเปยฺยวิธาเน โยเชตฺวา ทเสฺสติฯ ตตฺถ อธิโมกฺขมโณฺฑติ อธิโมกฺขสงฺขาโต มโณฺฑฯ กสโฎติ ปสาทวิรหิโต อาวิโลฯ ฉเฑฺฑตฺวาติ สมุเจฺฉทวเสน ปหายฯ สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิโมกฺขมณฺฑํ ปิวตีติ มณฺฑเปยฺยนฺติ สทฺธินฺทฺริยโต อธิโมกฺขมณฺฑสฺส อนญฺญเตฺตปิ สติ อญฺญํ วิย กตฺวา โวหารวเสน วุจฺจติ, ยถา โลเก นิสทโปตโก นิสทโปตสรีรสฺส อนญฺญเตฺตปิ สติ นิสทโปตสฺส สรีรนฺติ วุจฺจติ, ยถา จ ปาฬิยํ ‘‘ผุสิตตฺต’’นฺติอาทีสุ ธมฺมโต อนโญฺญปิ ภาโว อโญฺญ วิย วุโตฺต, ยถา จ อฎฺฐกถายํ ‘‘ผุสนลกฺขโณ ผโสฺส’’ติอาทีสุ (ธ. ส. อฎฺฐ. ๑ ธมฺมุเทฺทสวาร ผสฺสปญฺจมกราสิวณฺณนา) ธมฺมโต อนญฺญมฺปิ ลกฺขณํ อญฺญํ วิย วุตฺตํ, เอวมิทนฺติ เวทิตพฺพํ ฯ ปิวตีติ เจตฺถ ตํสมงฺคิปุคฺคโลติ วุตฺตํ โหติฯ ตํสมงฺคิปุคฺคโล ตํ มณฺฑํ ปิวตีติ กตฺวา เตน ปุคฺคเลน โส มโณฺฑ ปาตพฺพโต มณฺฑเปยฺยํ นาม โหตีติ วุตฺตํ โหติฯ ‘‘มณฺฑเปโยฺย’’ติ จ วตฺตเพฺพ ‘‘มณฺฑเปยฺย’’นฺติ ลิงฺควิปลฺลาโส กโตฯ เสสานมฺปิ อิมินา นเยน อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ อปุเพฺพสุ ปน ปริฬาโหติ ปีณนลกฺขณาย ปีติยา ปฎิปโกฺข กิเลสสนฺตาโปฯ ทุฎฺฐุลฺลนฺติ อุปสมปฎิปโกฺข กิเลสวเสน โอฬาริกภาโว อสนฺตภาโวฯ อปฺปฎิสงฺขาติ ปฎิสงฺขานปฎิปโกฺข กิเลสวเสน อสมวาหิตภาโวฯ
239. Idāni adhimokkhamaṇḍotiādīhi tasmiṃ maggakkhaṇe vijjamānāni indriyabalabojjhaṅgamaggaṅgāni maṇḍapeyyavidhāne yojetvā dasseti. Tattha adhimokkhamaṇḍoti adhimokkhasaṅkhāto maṇḍo. Kasaṭoti pasādavirahito āvilo. Chaḍḍetvāti samucchedavasena pahāya. Saddhindriyassa adhimokkhamaṇḍaṃ pivatīti maṇḍapeyyanti saddhindriyato adhimokkhamaṇḍassa anaññattepi sati aññaṃ viya katvā vohāravasena vuccati, yathā loke nisadapotako nisadapotasarīrassa anaññattepi sati nisadapotassa sarīranti vuccati, yathā ca pāḷiyaṃ ‘‘phusitatta’’ntiādīsu dhammato anaññopi bhāvo añño viya vutto, yathā ca aṭṭhakathāyaṃ ‘‘phusanalakkhaṇo phasso’’tiādīsu (dha. sa. aṭṭha. 1 dhammuddesavāra phassapañcamakarāsivaṇṇanā) dhammato anaññampi lakkhaṇaṃ aññaṃ viya vuttaṃ, evamidanti veditabbaṃ . Pivatīti cettha taṃsamaṅgipuggaloti vuttaṃ hoti. Taṃsamaṅgipuggalo taṃ maṇḍaṃ pivatīti katvā tena puggalena so maṇḍo pātabbato maṇḍapeyyaṃ nāma hotīti vuttaṃ hoti. ‘‘Maṇḍapeyyo’’ti ca vattabbe ‘‘maṇḍapeyya’’nti liṅgavipallāso kato. Sesānampi iminā nayena attho veditabbo. Apubbesu pana pariḷāhoti pīṇanalakkhaṇāya pītiyā paṭipakkho kilesasantāpo. Duṭṭhullanti upasamapaṭipakkho kilesavasena oḷārikabhāvo asantabhāvo. Appaṭisaṅkhāti paṭisaṅkhānapaṭipakkho kilesavasena asamavāhitabhāvo.
๒๔๐. ปุน อเญฺญน ปริยาเยน มณฺฑเปยฺยวิธิํ นิทฺทิสิตุกาโม อตฺถิ มโณฺฑติอาทิมาหฯ ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺมิํ สทฺธินฺทฺริเยฯ อตฺถรโสติอาทีสุ สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิมุจฺจนํ อโตฺถ, สทฺธินฺทฺริยํ ธโมฺม, ตเทว นานากิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา วิมุตฺติ, ตสฺส อตฺถสฺส สมฺปตฺติ อตฺถรโสฯ ตสฺส ธมฺมสฺส สมฺปตฺติ ธมฺมรโสฯ ตสฺสา วิมุตฺติยา สมฺปตฺติ วิมุตฺติรโสฯ อถ วา อตฺถปฎิลาภรติ อตฺถรโส, ธมฺมปฎิลาภรติ ธมฺมรโส, วิมุตฺติปฎิลาภรติ วิมุตฺติรโสฯ รตีติ จ ตํสมฺปยุตฺตา, ตทารมฺมณา วา ปีติฯ อิมินา นเยน เสสปเทสุปิ อโตฺถ เวทิตโพฺพฯ อิมสฺมิํ ปริยาเย มณฺฑสฺส เปยฺยํ มณฺฑเปยฺยนฺติ อโตฺถ วุโตฺต โหติฯ
240. Puna aññena pariyāyena maṇḍapeyyavidhiṃ niddisitukāmo atthi maṇḍotiādimāha. Tattha tatthāti tasmiṃ saddhindriye. Attharasotiādīsu saddhindriyassa adhimuccanaṃ attho, saddhindriyaṃ dhammo, tadeva nānākilesehi vimuttattā vimutti, tassa atthassa sampatti attharaso. Tassa dhammassa sampatti dhammaraso. Tassā vimuttiyā sampatti vimuttiraso. Atha vā atthapaṭilābharati attharaso, dhammapaṭilābharati dhammaraso, vimuttipaṭilābharati vimuttiraso. Ratīti ca taṃsampayuttā, tadārammaṇā vā pīti. Iminā nayena sesapadesupi attho veditabbo. Imasmiṃ pariyāye maṇḍassa peyyaṃ maṇḍapeyyanti attho vutto hoti.
เอวํ อินฺทฺริยาทิโพธิปกฺขิยธมฺมปฎิปาฎิยา อินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคมคฺคงฺคานํ วเสน มณฺฑเปยฺยํ ทเสฺสตฺวา ปุน อเนฺต ฐิตํ พฺรหฺมจริยมณฺฑํ ทเสฺสโนฺต มคฺคสฺส ปธานตฺตา มคฺคํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา อุปฺปฎิปาฎิวเสน มคฺคงฺคโพชฺฌงฺคพลอินฺทฺริยานิ ทเสฺสสิ ฯ อาธิปเตยฺยเฎฺฐน อินฺทฺริยา มโณฺฑติอาทโย ยถาโยคํ โลกิยโลกุตฺตรา มณฺฑาฯ ตํ เหฎฺฐา วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํฯ ตถเฎฺฐน สจฺจา มโณฺฑติ เอตฺถ ปน ทุกฺขสมุทยานํ มณฺฑตฺตาภาวา มหาหตฺถิปทสุเตฺต (ม. นิ. ๑.๓๐๐) วิย สจฺจญาณานิ สจฺจาติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ
Evaṃ indriyādibodhipakkhiyadhammapaṭipāṭiyā indriyabalabojjhaṅgamaggaṅgānaṃ vasena maṇḍapeyyaṃ dassetvā puna ante ṭhitaṃ brahmacariyamaṇḍaṃ dassento maggassa padhānattā maggaṃ pubbaṅgamaṃ katvā uppaṭipāṭivasena maggaṅgabojjhaṅgabalaindriyāni dassesi . Ādhipateyyaṭṭhena indriyā maṇḍotiādayo yathāyogaṃ lokiyalokuttarā maṇḍā. Taṃ heṭṭhā vuttanayena veditabbaṃ. Tathaṭṭhena saccā maṇḍoti ettha pana dukkhasamudayānaṃ maṇḍattābhāvā mahāhatthipadasutte (ma. ni. 1.300) viya saccañāṇāni saccāti vuttanti veditabbaṃ.
สทฺธมฺมปฺปกาสินิยา ปฎิสมฺภิทามคฺค-อฎฺฐกถาย
Saddhammappakāsiniyā paṭisambhidāmagga-aṭṭhakathāya
มณฺฑเปยฺยกถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Maṇḍapeyyakathāvaṇṇanā niṭṭhitā.
นิฎฺฐิตา จ มหาวคฺควณฺณนาฯ
Niṭṭhitā ca mahāvaggavaṇṇanā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ปฎิสมฺภิทามคฺคปาฬิ • Paṭisambhidāmaggapāḷi / ๑๐. มณฺฑเปยฺยกถา • 10. Maṇḍapeyyakathā