Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) |
๕. มารธีตุสุตฺตวณฺณนา
5. Māradhītusuttavaṇṇanā
๑๖๑. ปญฺจเม อภาสิตฺวาติ เอตฺถ อ-กาโร นิปาตมตฺตํ, ภาสิตฺวาติ อโตฺถฯ อภาสยิตฺวาติปิ ปาโฐฯ อุปสงฺกมิํสูติ ‘‘โคปาลกทารกํ วิย ทณฺฑเกน ภูมิํ เลขํ ทตฺวา อติวิย ทุมฺมโน หุตฺวา นิสิโนฺนฯ ‘กินฺนุ โข การณ’นฺติ? ปุจฺฉิตฺวา, ชานิสฺสามา’’ติ อุปสงฺกมิํสุฯ
161. Pañcame abhāsitvāti ettha a-kāro nipātamattaṃ, bhāsitvāti attho. Abhāsayitvātipi pāṭho. Upasaṅkamiṃsūti ‘‘gopālakadārakaṃ viya daṇḍakena bhūmiṃ lekhaṃ datvā ativiya dummano hutvā nisinno. ‘Kinnu kho kāraṇa’nti? Pucchitvā, jānissāmā’’ti upasaṅkamiṃsu.
โสจสีติ จิเนฺตสิฯ อารญฺญมิว กุญฺชรนฺติ ยถา อรญฺญโต เปสิตคณิการหตฺถินิโย อารญฺญกํ กุญฺชรํ อิตฺถิกุตฺตทสฺสเนน ปโลเภตฺวา พนฺธิตฺวา อานยนฺติ, เอวํ อานยิสฺสามฯ มารเธยฺยนฺติ เตภูมกวฎฺฎํฯ
Socasīti cintesi. Āraññamiva kuñjaranti yathā araññato pesitagaṇikārahatthiniyo āraññakaṃ kuñjaraṃ itthikuttadassanena palobhetvā bandhitvā ānayanti, evaṃ ānayissāma. Māradheyyanti tebhūmakavaṭṭaṃ.
อุปสงฺกมิํสูติ – ‘‘ตุเมฺห โถกํ อธิวาเสถ, มยํ ตํ อาเนสฺสามา’’ติ ปิตรํ สมสฺสาเสตฺวา อุปสงฺกมิํสุฯ อุจฺจาวจาติ นานาวิธาฯ เอกสตํ เอกสตนฺติ เอเกกํ สตํ สตํ กตฺวาฯ กุมาริวณฺณสตนฺติ อิมินา นเยน กุมาริอตฺตภาวานํ สตํฯ
Upasaṅkamiṃsūti – ‘‘tumhe thokaṃ adhivāsetha, mayaṃ taṃ ānessāmā’’ti pitaraṃ samassāsetvā upasaṅkamiṃsu. Uccāvacāti nānāvidhā. Ekasataṃ ekasatanti ekekaṃ sataṃ sataṃ katvā. Kumārivaṇṇasatanti iminā nayena kumāriattabhāvānaṃ sataṃ.
อตฺถสฺส ปตฺติํ หทยสฺส สนฺตินฺติ, ทฺวีหิปิ ปเทหิ อรหตฺตเมว กเถสิฯ เสนนฺติ กิเลสเสนํฯ สา หิ ปิยรูปสาตรูปา นามฯ เอกาหํ ฌายนฺติ เอโก อหํ ฌายโนฺตฯ สุขมนุโพธินฺติ อรหตฺตสุขํ อนุพุชฺฌิํฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – ปิยรูปํ สาตรูปํ เสนํ ชินิตฺวา อหํ เอโก ฌายโนฺต ‘‘อตฺถสฺส ปตฺติํ หทยสฺส สนฺติ’’นฺติ สงฺขํ คตํ อรหตฺตสุขํ อนุพุชฺฌิํฯ ตสฺมา ชเนน มิตฺตสนฺถวํ น กโรมิ, เตเนว จ เม การเณน เกนจิ สทฺธิํ สกฺขี น สมฺปชฺชตีติฯ
Atthassapattiṃ hadayassa santinti, dvīhipi padehi arahattameva kathesi. Senanti kilesasenaṃ. Sā hi piyarūpasātarūpā nāma. Ekāhaṃ jhāyanti eko ahaṃ jhāyanto. Sukhamanubodhinti arahattasukhaṃ anubujjhiṃ. Idaṃ vuttaṃ hoti – piyarūpaṃ sātarūpaṃ senaṃ jinitvā ahaṃ eko jhāyanto ‘‘atthassa pattiṃ hadayassa santi’’nti saṅkhaṃ gataṃ arahattasukhaṃ anubujjhiṃ. Tasmā janena mittasanthavaṃ na karomi, teneva ca me kāraṇena kenaci saddhiṃ sakkhī na sampajjatīti.
กถํวิหารีพหุโลติ กตเมน วิหาเรน พหุลํ วิหรโนฺตฯ อลทฺธาติ อลภิตฺวาฯ โยติ นิปาตมตฺตํฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – กตเมน ฌาเนน พหุลํ ฌายนฺตํ ตํ ปุคฺคลํ กามสญฺญา อลภิตฺวาว ปริพาหิรา โหนฺตีติฯ
Kathaṃvihārībahuloti katamena vihārena bahulaṃ viharanto. Aladdhāti alabhitvā. Yoti nipātamattaṃ. Idaṃ vuttaṃ hoti – katamena jhānena bahulaṃ jhāyantaṃ taṃ puggalaṃ kāmasaññā alabhitvāva paribāhirā hontīti.
ปสฺสทฺธกาโยติ จตุตฺถชฺฌาเนน อสฺสาสปสฺสาสกายสฺส ปสฺสทฺธตฺตา ปสฺสทฺธกาโยฯ สุวิมุตฺตจิโตฺตติ อรหตฺตผลวิมุตฺติยา สุฎฺฐุ วิมุตฺตจิโตฺตฯ อสงฺขราโนติ ตโย กมฺมาภิสงฺขาเร อนภิสงฺขโรโนฺตฯ อโนโกติ อนาลโยฯ อญฺญาย ธมฺมนฺติ จตุสจฺจธมฺมํ ชานิตฺวาฯ อวิตกฺกฌายีติ อวิตเกฺกน จตุตฺถชฺฌาเนน ฌายโนฺตฯ น กุปฺปตีติอาทีสุ โทเสน น กุปฺปติ, ราเคน น สรติ, โมเหน น ถีโนฯ อิเมสุ ตีสุ มูลกิเลเสสุ คหิเตสุ ทิยฑฺฒกิเลสสหสฺสํ คหิตเมว โหติฯ ปฐมปเทน วา พฺยาปาทนีวรณํ คหิตํ, ทุติเยน กามจฺฉนฺทนีวรณํ, ตติเยน ถินํ อาทิํ กตฺวา เสสนีวรณานิฯ อิติ อิมินา นีวรณปฺปหาเนน ขีณาสวํ ทเสฺสติฯ
Passaddhakāyoti catutthajjhānena assāsapassāsakāyassa passaddhattā passaddhakāyo. Suvimuttacittoti arahattaphalavimuttiyā suṭṭhu vimuttacitto. Asaṅkharānoti tayo kammābhisaṅkhāre anabhisaṅkharonto. Anokoti anālayo. Aññāya dhammanti catusaccadhammaṃ jānitvā. Avitakkajhāyīti avitakkena catutthajjhānena jhāyanto. Na kuppatītiādīsu dosena na kuppati, rāgena na sarati, mohena na thīno. Imesu tīsu mūlakilesesu gahitesu diyaḍḍhakilesasahassaṃ gahitameva hoti. Paṭhamapadena vā byāpādanīvaraṇaṃ gahitaṃ, dutiyena kāmacchandanīvaraṇaṃ, tatiyena thinaṃ ādiṃ katvā sesanīvaraṇāni. Iti iminā nīvaraṇappahānena khīṇāsavaṃ dasseti.
ปโญฺจฆติโณฺณติ ปญฺจทฺวาริกํ กิเลโสฆํ ติโณฺณฯ ฉฎฺฐนฺติ มโนทฺวาริกมฺปิ ฉฎฺฐํ กิเลโสฆํ อตริฯ ปโญฺจฆคฺคหเณน วา ปโญฺจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ , ฉฎฺฐคฺคหเณน ปญฺจุทฺธมฺภาคิยานิ เวทิตพฺพานิฯ คณสงฺฆจารีติ คเณ จ สเงฺฆ จ จรตีติ สตฺถา คณสงฺฆจารี นามฯ อทฺธา จริสฺสนฺตีติ อเญฺญปิ สทฺธา พหุชนา เอกํเสน จริสฺสนฺติฯ อยนฺติ อยํ สตฺถาฯ อโนโกติ อนาลโยฯ
Pañcoghatiṇṇoti pañcadvārikaṃ kilesoghaṃ tiṇṇo. Chaṭṭhanti manodvārikampi chaṭṭhaṃ kilesoghaṃ atari. Pañcoghaggahaṇena vā pañcorambhāgiyāni saṃyojanāni , chaṭṭhaggahaṇena pañcuddhambhāgiyāni veditabbāni. Gaṇasaṅghacārīti gaṇe ca saṅghe ca caratīti satthā gaṇasaṅghacārī nāma. Addhā carissantīti aññepi saddhā bahujanā ekaṃsena carissanti. Ayanti ayaṃ satthā. Anokoti anālayo.
อเจฺฉชฺช เนสฺสตีติ อจฺฉินฺทิตฺวา นยิสฺสติ, มจฺจุราชสฺส หตฺถโต อจฺฉินฺทิตฺวา นิพฺพานปารํ นยิสฺสตีติ วุตฺตํ โหติฯ นยมานานนฺติ นยมาเนสุฯ
Acchejjanessatīti acchinditvā nayissati, maccurājassa hatthato acchinditvā nibbānapāraṃ nayissatīti vuttaṃ hoti. Nayamānānanti nayamānesu.
เสลํว สิรสูหจฺจ, ปาตาเล คาธเมสถาติ มหนฺตํ กูฎาคารปฺปมาณํ สิลํ สีเส ฐเปตฺวา ปาตาเล ปติฎฺฐคเวสนํ วิยฯ ขาณุํว อุรสาสชฺชาติ อุรสิ ขาณุํ ปหริตฺวา วิยฯ อเปถาติ อปคจฺฉถฯ อิมสฺมิํ ฐาเน สงฺคีติการา ‘‘อิทมโวจา’’ติ เทสนํ นิฎฺฐเปตฺวา ททฺทลฺลมานาติ คาถํ อาหํสุฯ ตตฺถ ททฺทลฺลมานาติ อติวิย ชลมานา โสภมานาฯ อาคญฺฉุนฺติ อาคตาฯ ปนุทีติ นีหริฯ ตูลํ ภฎฺฐํว มาลุโตติ ยถา ผลโต ภฎฺฐํ สิมฺพลิตูลํ วา โปฎกิตูลํ วา วาโต ปนุทติ นีหรติ, เอวํ ปนุทีติฯ ปญฺจมํฯ
Selaṃva sirasūhacca, pātāle gādhamesathāti mahantaṃ kūṭāgārappamāṇaṃ silaṃ sīse ṭhapetvā pātāle patiṭṭhagavesanaṃ viya. Khāṇuṃva urasāsajjāti urasi khāṇuṃ paharitvā viya. Apethāti apagacchatha. Imasmiṃ ṭhāne saṅgītikārā ‘‘idamavocā’’ti desanaṃ niṭṭhapetvā daddallamānāti gāthaṃ āhaṃsu. Tattha daddallamānāti ativiya jalamānā sobhamānā. Āgañchunti āgatā. Panudīti nīhari. Tūlaṃ bhaṭṭhaṃva mālutoti yathā phalato bhaṭṭhaṃ simbalitūlaṃ vā poṭakitūlaṃ vā vāto panudati nīharati, evaṃ panudīti. Pañcamaṃ.
ตติโย วโคฺคฯ
Tatiyo vaggo.
อิติ สารตฺถปฺปกาสินิยา
Iti sāratthappakāsiniyā
สํยุตฺตนิกาย-อฎฺฐกถาย
Saṃyuttanikāya-aṭṭhakathāya
มารสํยุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Mārasaṃyuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๕. มารธีตุสุตฺตํ • 5. Māradhītusuttaṃ
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๕. มารธีตุสุตฺตวณฺณนา • 5. Māradhītusuttavaṇṇanā