Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā)

    ๕. มารธีตุสุตฺตวณฺณนา

    5. Māradhītusuttavaṇṇanā

    ๑๖๑. จิเนฺตสีติ โสกวสิโก หุตฺวา จินฺตยิฯ คณิการหตฺถินิโยติ ทีปกกเรณุโยฯ เอกสตํ เอกสตนฺติ เอกสตํ เอกสตํ ปเจฺจกํ สตํ สตนฺติ อโตฺถฯ เตนาห ‘‘เอเกกํ สตํ สตํ กตฺวา’’ติฯ กุมาริวณฺณสตนฺติ กุมาริตฺถีนํ อตฺตภาวานํ สตํฯ ตา กิร ปฐมํ กญฺญารูเปน อตฺตานํ ทเสฺสสุํฯ อนุปคตปุปฺผานญฺหิ สมญฺญา กญฺญาติฯ ปุน ยถาวุตฺตกุมาริรูเปน อุปคตปุปฺผา หิ กุมารีฯ ปุน วธุการูเปนฯ ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อวิชาตวณฺณสต’’นฺติ ฯ ตติยวาเร ยุวติรูเปนฯ วิชาตา หิ อิตฺถี อนติกฺกนฺตมชฺฌิมวยา ยุวตีฯ เอตฺตาวตา พาลา ตรุณี โปรีติ ติวิธาสุ อิตฺถีสุ ปุริมา เทฺว ทสฺสิตา, ปริโยสานวาเรสุ มนุสฺสชาติกานํ มนุสฺสิตฺถิโยว รุจฺจนฺตีติ เตน มนุสฺสรูเปน ตา อตฺตานํ ทเสฺสสุํฯ

    161.Cintesīti sokavasiko hutvā cintayi. Gaṇikārahatthiniyoti dīpakakareṇuyo. Ekasataṃ ekasatanti ekasataṃ ekasataṃ paccekaṃ sataṃ satanti attho. Tenāha ‘‘ekekaṃ sataṃ sataṃ katvā’’ti. Kumārivaṇṇasatanti kumāritthīnaṃ attabhāvānaṃ sataṃ. Tā kira paṭhamaṃ kaññārūpena attānaṃ dassesuṃ. Anupagatapupphānañhi samaññā kaññāti. Puna yathāvuttakumārirūpena upagatapupphā hi kumārī. Puna vadhukārūpena. Taṃ sandhāya vuttaṃ ‘‘avijātavaṇṇasata’’nti . Tatiyavāre yuvatirūpena. Vijātā hi itthī anatikkantamajjhimavayā yuvatī. Ettāvatā bālā taruṇī porīti tividhāsu itthīsu purimā dve dassitā, pariyosānavāresu manussajātikānaṃ manussitthiyova ruccantīti tena manussarūpena tā attānaṃ dassesuṃ.

    อตฺถสฺส ปตฺตินฺติ เอกนฺตโต หิตานุปฺปตฺติํฯ หทยสฺส สนฺตินฺติ ปรมจิตฺตุปสมํฯ กิเลสเสนนฺติ กามคุณสงฺขาตํ ปฐมํ กิเลสเสนํฯ สา หิ กิเลสเสนา อจฺฉราสงฺฆาตสภาวาปิ ปฎิปตฺถยมานา ปิยายิตพฺพอิจฺฉิตพฺพรูปภาวโต ปิยรูปสาตรูปา นาม อตฺตโน กิจฺจวเสนฯ เอโก อหํ ฌายโนฺตติ คณสงฺคณิกาย กิเลสสงฺคณิกาย จ อภาวโต เอโก อสหาโย อหํ ลกฺขณูปนิชฺฌาเนน นิชฺฌายโนฺตฯ อนุพุชฺฌินฺติ อนุกฺกเมน มคฺคปฎิปาฎิยา พุชฺฌิํ ปฎิพุชฺฌิํฯ ตสฺมาติ ยถาวุตฺตวิเวกสุขสมธิคมนิมิตฺตํฯ อกรเณนาติ มิตฺตสนฺถวสฺส อกรเณนฯ สกฺขีติ สกฺขิภาโวฯ

    Atthassa pattinti ekantato hitānuppattiṃ. Hadayassa santinti paramacittupasamaṃ. Kilesasenanti kāmaguṇasaṅkhātaṃ paṭhamaṃ kilesasenaṃ. Sā hi kilesasenā accharāsaṅghātasabhāvāpi paṭipatthayamānā piyāyitabbaicchitabbarūpabhāvato piyarūpasātarūpā nāma attano kiccavasena. Eko ahaṃ jhāyantoti gaṇasaṅgaṇikāya kilesasaṅgaṇikāya ca abhāvato eko asahāyo ahaṃ lakkhaṇūpanijjhānena nijjhāyanto. Anubujjhinti anukkamena maggapaṭipāṭiyā bujjhiṃ paṭibujjhiṃ. Tasmāti yathāvuttavivekasukhasamadhigamanimittaṃ. Akaraṇenāti mittasanthavassa akaraṇena. Sakkhīti sakkhibhāvo.

    กตเมน วิหาเรนาติ ฌานสมาปตฺตีนํ กตเมน วิหาเรนฯ อิธ ทุติยปทสฺส อโตฺถ วิสฺสชฺชนคาถาวณฺณนายเมว อาวิ ภวิสฺสติฯ อนามเนฺตน ‘‘ตํ ปุคฺคล’’นฺติ สมฺมุขา ฐิตมฺปิ ภควนฺตํ อสมฺมุขา วิย กตฺวา วทติ, กถํ ตฺวนฺติ อโตฺถฯ

    Katamenavihārenāti jhānasamāpattīnaṃ katamena vihārena. Idha dutiyapadassa attho vissajjanagāthāvaṇṇanāyameva āvi bhavissati. Anāmantena ‘‘taṃ puggala’’nti sammukhā ṭhitampi bhagavantaṃ asammukhā viya katvā vadati, kathaṃ tvanti attho.

    ‘‘อวิตกฺกฌายี’’ติ วกฺขมานตฺตา อยเมเวตฺถ กายปสฺสทฺธิ เวทิตพฺพาติ อาห ‘‘จตุตฺถชฺฌาเนน อสฺสาสปสฺสาสกายสฺส ปสฺสทฺธตฺตา ปสฺสทฺธกาโย’’ติฯ ปุญฺญาภิสงฺขาราทิเก กมฺมาภิสงฺขาเรฯ กามาลยาทีนํ อภาวโต อนาลโยฯ น สรตีติ น สวติฯ ราควเสน หิ สตฺตา สํสารมนุสวนฺติฯ น ถิโนติ น ถินมิทฺธจิโตฺตฯ โมหวเสน หิ สตฺตา ถินมิทฺธํ อาปชฺชนฺตีติฯ ทิยฑฺฒกิเลสสหสฺสนฺติ ขุทฺทกวตฺถุวิภเงฺค (วิภ. ๘๔๒, ๙๗๖) อาคเตสุ อฎฺฐสุ กิเลสสเตสุ อฎฺฐสตํ ตณฺหาวิจริตานิ อปเนตฺวา เสสา ปญฺญาสาธิกํ สตํ กิเลสา, เต พฺรหฺมชาเล (ที. นิ. ๑.๓๑) อาคตาหิ ทฺวาสฎฺฐิยา ทิฎฺฐีหิ สห ปญฺจปญฺญาสาธิกํ สตฺตสตํ โหติ; ตา จ อุปฺปนฺนานุปฺปนฺนภาเวน ทิคุณิตา ทิยฑฺฒกิเลสสหสฺสํ ทสาธิกํ โหติ; ตํ อปฺปกํ ปน อูนมธิกํ วา คณนุปคํ น โหตีติ ‘‘ทิยฑฺฒกิเลสสหสฺส’’นฺติ วุตฺตํฯ อิตเรสํ อตีตาทิภาวามสนโต อคฺคหณํ ปหานสฺส อธิเปฺปตตฺตาฯ อยเมตฺถ สเงฺขโป, วิตฺถาโร ปน อภิธมฺมฎีกายํ (ธ. ส. อนุฎี. นิทานกถาวณฺณนา) วุตฺตนเยน เวทิตโพฺพฯ ปฐมปเทนาติ ‘‘น กุปฺปตี’’ติ อิมินา ปเทนฯ ทุติเยนาติ ‘‘น สรตี’’ติ ปเทนฯ ตติเยนาติ ‘‘น ถิโน’’ติ ปเทนฯ นีวรณปฺปหาเนน ขีณาสวตํ ทเสฺสติ, อนวเสสโต นีวรณานํ อจฺจนฺตปฺปหานํ อธิเปฺปตํฯ

    ‘‘Avitakkajhāyī’’ti vakkhamānattā ayamevettha kāyapassaddhi veditabbāti āha ‘‘catutthajjhānena assāsapassāsakāyassa passaddhattā passaddhakāyo’’ti. Puññābhisaṅkhārādike kammābhisaṅkhāre. Kāmālayādīnaṃ abhāvato anālayo. Na saratīti na savati. Rāgavasena hi sattā saṃsāramanusavanti. Na thinoti na thinamiddhacitto. Mohavasena hi sattā thinamiddhaṃ āpajjantīti. Diyaḍḍhakilesasahassanti khuddakavatthuvibhaṅge (vibha. 842, 976) āgatesu aṭṭhasu kilesasatesu aṭṭhasataṃ taṇhāvicaritāni apanetvā sesā paññāsādhikaṃ sataṃ kilesā, te brahmajāle (dī. ni. 1.31) āgatāhi dvāsaṭṭhiyā diṭṭhīhi saha pañcapaññāsādhikaṃ sattasataṃ hoti; tā ca uppannānuppannabhāvena diguṇitā diyaḍḍhakilesasahassaṃ dasādhikaṃ hoti; taṃ appakaṃ pana ūnamadhikaṃ vā gaṇanupagaṃ na hotīti ‘‘diyaḍḍhakilesasahassa’’nti vuttaṃ. Itaresaṃ atītādibhāvāmasanato aggahaṇaṃ pahānassa adhippetattā. Ayamettha saṅkhepo, vitthāro pana abhidhammaṭīkāyaṃ (dha. sa. anuṭī. nidānakathāvaṇṇanā) vuttanayena veditabbo. Paṭhamapadenāti ‘‘na kuppatī’’ti iminā padena. Dutiyenāti ‘‘na saratī’’ti padena. Tatiyenāti ‘‘na thino’’ti padena. Nīvaraṇappahānena khīṇāsavataṃ dasseti, anavasesato nīvaraṇānaṃ accantappahānaṃ adhippetaṃ.

    ปญฺจทฺวาริกกิเลโสฆํ ติโณฺณติ ฉนฺนํ ทฺวารานํ วเสน ปวตฺตนกิเลโสฆํ ตริตฺวา ฐิโตฯ กาโมฆทิโฎฺฐฆภโวฆฎฺฐกิเลสภาวโต ‘‘ปโญฺจฆคฺคหเณน วา ปโญฺจรมฺภาคิยานิ สํโยชนานิ เวทิตพฺพานี’’ติ อาหฯ รูปราคาทโย วิเสสโต น ปญฺจทฺวาริกาติ วุตฺตํ ‘‘ฉฎฺฐคฺคหเณน ปญฺจุทฺธมฺภาคิยานิ เวทิตพฺพานี’’ติฯ

    Pañcadvārikakilesoghaṃ tiṇṇoti channaṃ dvārānaṃ vasena pavattanakilesoghaṃ taritvā ṭhito. Kāmoghadiṭṭhoghabhavoghaṭṭhakilesabhāvato ‘‘pañcoghaggahaṇena vā pañcorambhāgiyāni saṃyojanāni veditabbānī’’ti āha. Rūparāgādayo visesato na pañcadvārikāti vuttaṃ ‘‘chaṭṭhaggahaṇena pañcuddhambhāgiyāni veditabbānī’’ti.

    มจฺจุราชสฺสาติ สมฺพเนฺธ สามิวจนนฺติ ทเสฺสโนฺต ‘‘มจฺจุราชสฺส หตฺถโต’’ติ อาหฯ นยมานานนฺติ อนาทเร สามิวจนนฺติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘นยมาเนสู’’ติฯ

    Maccurājassāti sambandhe sāmivacananti dassento ‘‘maccurājassa hatthato’’ti āha. Nayamānānanti anādare sāmivacananti katvā vuttaṃ ‘‘nayamānesū’’ti.

    อูหจฺจาติ พุทฺธํ นิสฺสายฯ ‘‘อิทมโวจา’’ติ เทสนํ นิฎฺฐาเปตฺวาติ เอเตน สํยุเตฺตสุ อยํ นิคมนปาฬิ, เหฎฺฐา อนาคตนยตฺตา ปน เกสุจิ โปตฺถเกสุ น ลิขียตีติ ทเสฺสติฯ ททฺทลฺลมานาติ ชชฺชการสฺส หิ ททฺทการํ กตฺวา นิเทฺทโสฯ เตนาห ‘‘อติวิย ชลมานา’’ติฯ นีหรีติ ตาสํ กายวจีวิการํ น มนสิกโรโนฺต ติณายปิ อมญฺญมาโนว อนเปเกฺขเนว นีหริฯ ผลโต ภฎฺฐนฺติ ผลสิปาฎิกโต ภฎฺฐํฯ กุณฺฑติณาทิคจฺฉตูลํ โปฎกิตูลํ

    Ūhaccāti buddhaṃ nissāya. ‘‘Idamavocā’’ti desanaṃ niṭṭhāpetvāti etena saṃyuttesu ayaṃ nigamanapāḷi, heṭṭhā anāgatanayattā pana kesuci potthakesu na likhīyatīti dasseti. Daddallamānāti jajjakārassa hi daddakāraṃ katvā niddeso. Tenāha ‘‘ativiya jalamānā’’ti. Nīharīti tāsaṃ kāyavacīvikāraṃ na manasikaronto tiṇāyapi amaññamānova anapekkheneva nīhari. Phalato bhaṭṭhanti phalasipāṭikato bhaṭṭhaṃ. Kuṇḍatiṇādigacchatūlaṃ poṭakitūlaṃ.

    มารธีตุสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Māradhītusuttavaṇṇanā niṭṭhitā.

    ตติยวคฺควณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Tatiyavaggavaṇṇanā niṭṭhitā.

    สารตฺถปฺปกาสินิยา สํยุตฺตนิกาย-อฎฺฐกถาย

    Sāratthappakāsiniyā saṃyuttanikāya-aṭṭhakathāya

    มารสํยุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตาฯ

    Mārasaṃyuttavaṇṇanāya līnatthappakāsanā samattā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya / ๕. มารธีตุสุตฺตํ • 5. Māradhītusuttaṃ

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๕. มารธีตุสุตฺตวณฺณนา • 5. Māradhītusuttavaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact