Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปญฺจปกรณ-อฎฺฐกถา • Pañcapakaraṇa-aṭṭhakathā

    ฯ นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสฯ

    Namo tassa bhagavato arahato sammāsambuddhassa

    อภิธมฺมปิฎเก

    Abhidhammapiṭake

    ปุคฺคลปญฺญตฺติ-อฎฺฐกถา

    Puggalapaññatti-aṭṭhakathā

    นิปุณตฺถํ ปกรณํ, ธาตุเภทปฺปกาสโน;

    Nipuṇatthaṃ pakaraṇaṃ, dhātubhedappakāsano;

    สตฺถา ธาตุกถํ นาม, เทสยิตฺวา สุราลเยฯ

    Satthā dhātukathaṃ nāma, desayitvā surālaye.

    อนนฺตรํ ตสฺส ชิโน, ปญฺญตฺติเภททีปนํ;

    Anantaraṃ tassa jino, paññattibhedadīpanaṃ;

    อาห ปุคฺคลปญฺญตฺติํ, ยํ โลเก อคฺคปุคฺคโลฯ

    Āha puggalapaññattiṃ, yaṃ loke aggapuggalo.

    ตสฺสา สํวณฺณโนกาโส, ยสฺมา ทานิ อุปาคโต;

    Tassā saṃvaṇṇanokāso, yasmā dāni upāgato;

    ตสฺมา นํ วณฺณยิสฺสามิ, ตํ สุณาถ สมาหิตาติฯ

    Tasmā naṃ vaṇṇayissāmi, taṃ suṇātha samāhitāti.

    ๑. มาติกาวณฺณนา

    1. Mātikāvaṇṇanā

    . ปญฺญตฺติโย – ขนฺธปญฺญตฺติ…เป.… ปุคฺคลปญฺญตฺตีติ อยํ ตาว ปุคฺคลปญฺญตฺติยา อุเทฺทโสฯ ตตฺถ ฉาติ คณนปริเจฺฉโทฯ เตน เย ธเมฺม อิธ ปญฺญเปตุกาโม เตสํ คณนวเสน สํเขปโต ปญฺญตฺติปริเจฺฉทํ ทเสฺสติฯ ปญฺญตฺติโยติ ปริจฺฉินฺนธมฺมนิทสฺสนํฯ ตตฺถ ‘‘อาจิกฺขติ เทเสติ ปญฺญเปติ ปฎฺฐเปตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๒๐) อาคตฎฺฐาเน ปญฺญาปนา ทสฺสนา ปกาสนา ปญฺญตฺติ นามฯ ‘‘สุปญฺญตฺตํ มญฺจปีฐ’’นฺติ (ปารา. ๒๖๙) อาคตฎฺฐาเน ฐปนา นิกฺขิปนา ปญฺญตฺติ นามฯ อิธ อุภยมฺปิ วฎฺฎติฯ ฉ ปญฺญตฺติโยติ หิ ฉ ปญฺญาปนา, ฉ ทสฺสนา ปกาสนาติปิ; ฉ ฐปนา นิกฺขิปนาติปิ อิธ อธิเปฺปตเมวฯ นามปญฺญตฺติ หิ เต เต ธเมฺม ทเสฺสติปิ, เตน เตน โกฎฺฐาเสน ฐเปติปิฯ

    1. Chapaññattiyo – khandhapaññatti…pe… puggalapaññattīti ayaṃ tāva puggalapaññattiyā uddeso. Tattha chāti gaṇanaparicchedo. Tena ye dhamme idha paññapetukāmo tesaṃ gaṇanavasena saṃkhepato paññattiparicchedaṃ dasseti. Paññattiyoti paricchinnadhammanidassanaṃ. Tattha ‘‘ācikkhati deseti paññapeti paṭṭhapetī’’ti (saṃ. ni. 2.20) āgataṭṭhāne paññāpanā dassanā pakāsanā paññatti nāma. ‘‘Supaññattaṃ mañcapīṭha’’nti (pārā. 269) āgataṭṭhāne ṭhapanā nikkhipanā paññatti nāma. Idha ubhayampi vaṭṭati. Cha paññattiyoti hi cha paññāpanā, cha dassanā pakāsanātipi; cha ṭhapanā nikkhipanātipi idha adhippetameva. Nāmapaññatti hi te te dhamme dassetipi, tena tena koṭṭhāsena ṭhapetipi.

    ขนฺธปญฺญตฺตีติอาทิ ปน สํเขปโต ตาสํ ปญฺญตฺตีนํ สรูปทสฺสนํฯ ตตฺถ ขนฺธานํ ‘ขนฺธา’ติ ปญฺญาปนา ทสฺสนา ปกาสนา ฐปนา นิกฺขิปนา ขนฺธปญฺญตฺติ นามฯ อายตนานํ อายตนานีติ, ธาตูนํ ธาตุโยติ, สจฺจานํ สจฺจานีติ, อินฺทฺริยานํ อินฺทฺริยานีติ, ปุคฺคลานํ ปุคฺคลาติ ปญฺญาปนา ทสฺสนา ปกาสนา ฐปนา นิกฺขิปนา ปุคฺคลปญฺญตฺติ นามฯ

    Khandhapaññattītiādi pana saṃkhepato tāsaṃ paññattīnaṃ sarūpadassanaṃ. Tattha khandhānaṃ ‘khandhā’ti paññāpanā dassanā pakāsanā ṭhapanā nikkhipanā khandhapaññatti nāma. Āyatanānaṃ āyatanānīti, dhātūnaṃ dhātuyoti, saccānaṃ saccānīti, indriyānaṃ indriyānīti, puggalānaṃ puggalāti paññāpanā dassanā pakāsanā ṭhapanā nikkhipanā puggalapaññatti nāma.

    ปาฬิมุตฺตเกน ปน อฎฺฐกถานเยน อปราปิ ฉ ปญฺญตฺติโย – วิชฺชมานปญฺญตฺติ, อวิชฺชมานปญฺญตฺติ, วิชฺชมาเนน อวิชฺชมานปญฺญตฺติ, อวิชฺชมาเนน วิชฺชมานปญฺญตฺติ, วิชฺชมาเนน วิชฺชมานปญฺญตฺติ, อวิชฺชมาเนน อวิชฺชมานปญฺญตฺตีติฯ ตตฺถ กุสลากุสลเสฺสว สจฺจิกฎฺฐปรมตฺถวเสน วิชฺชมานสฺส สโต สมฺภูตสฺส ธมฺมสฺส ปญฺญาปนา วิชฺชมานปญฺญตฺติ นามฯ ตถา อวิชฺชมานสฺส โลกนิรุตฺติมตฺตสิทฺธสฺส อิตฺถิปุริสาทิกสฺส ปญฺญาปนา อวิชฺชมานปญฺญตฺติ นามฯ สพฺพากาเรนปิ อนุปลพฺภเนยฺยสฺส วาจาวตฺถุมตฺตเสฺสว ปญฺจมสจฺจาทิกสฺส ติตฺถิยานํ อณุปกติปุริสาทิกสฺส วา ปญฺญาปนาปิ อวิชฺชมานปญฺญตฺติเยวฯ สา ปน สาสนาวจรา น โหตีติ อิธ น คหิตาฯ อิติ อิเมสํ วิชฺชมานาวิชฺชมานานํ วิกปฺปนวเสน เสสา เวทิตพฺพาฯ ‘เตวิโชฺช’, ‘ฉฬภิโญฺญ’ติอาทีสุ หิ ติโสฺส วิชฺชา ฉ อภิญฺญา จ วิชฺชมานา, ปุคฺคโล อวิชฺชมาโนฯ ตสฺมา ติโสฺส วิชฺชา อสฺสาติ เตวิโชฺช, ฉ อภิญฺญา อสฺสาติ ฉฬภิโญฺญติ เอวํ วิชฺชมาเนน อวิชฺชมานสฺส ปญฺญาปนโต เอวรูปา วิชฺชมาเนน อวิชฺชมานปญฺญตฺติ นามฯ ‘อิตฺถิรูปํ’, ‘ปุริสรูป’นฺติอาทีสุ ปน อิตฺถิปุริสา อวิชฺชมานา, รูปํ วิชฺชมานํฯ ตสฺมา อิตฺถิยา รูปํ อิตฺถิรูปํ, ปุริสสฺส รูปํ ปุริสรูปนฺติ เอวํ อวิชฺชมาเนน วิชฺชมานสฺส ปญฺญาปนโต เอวรูปา อวิชฺชมาเนน วิชฺชมานปญฺญตฺติ นามฯ จกฺขุสมฺผโสฺส, โสตสมฺผโสฺสติอาทีสุ จกฺขุโสตาทโยปิ ผโสฺสปิ วิชฺชมาโนเยวฯ ตสฺมา จกฺขุมฺหิ สมฺผโสฺส, จกฺขุโต ชาโต สมฺผโสฺส, จกฺขุสฺส วา ผลภูโต สมฺผโสฺส จกฺขุสมฺผโสฺสติ เอวํ วิชฺชมาเนน วิชฺชมานสฺส ปญฺญาปนโต เอวรูปา วิชฺชมาเนน วิชฺชมานปญฺญตฺติ นามฯ ขตฺติยปุโตฺต, พฺราหฺมณปุโตฺต, เสฎฺฐิปุโตฺตติอาทีสุ ขตฺติยาทโยปิ อวิชฺชมานา, ปุโตฺตปิฯ ตสฺมา ขตฺติยสฺส ปุโตฺต ขตฺติยปุโตฺตติ เอวํ อวิชฺชมาเนน อวิชฺชมานสฺส ปญฺญาปนโต เอวรูปา อวิชฺชมาเนน อวิชฺชมานปญฺญตฺติ นามฯ ตาสุ อิมสฺมิํ ปกรเณ ปุริมา ติโสฺสว ปญฺญตฺติโย ลพฺภนฺติฯ ‘‘ขนฺธปญฺญตฺติ…เป.… อินฺทฺริยปญฺญตฺตี’’ติ อิมสฺมิญฺหิ ฐาเน วิชฺชมานเสฺสว ปญฺญาปิตตฺตา วิชฺชมานปญฺญตฺติ ลพฺภติฯ ‘‘ปุคฺคลปญฺญตฺตี’’ติ ปเท อวิชฺชมานปญฺญตฺติฯ ปรโต ปน ‘เตวิโชฺช’, ‘ฉฬภิโญฺญ’ติอาทีสุ วิชฺชมาเนน อวิชฺชมานปญฺญตฺติ ลพฺภตีติฯ

    Pāḷimuttakena pana aṭṭhakathānayena aparāpi cha paññattiyo – vijjamānapaññatti, avijjamānapaññatti, vijjamānena avijjamānapaññatti, avijjamānena vijjamānapaññatti, vijjamānena vijjamānapaññatti, avijjamānena avijjamānapaññattīti. Tattha kusalākusalasseva saccikaṭṭhaparamatthavasena vijjamānassa sato sambhūtassa dhammassa paññāpanā vijjamānapaññatti nāma. Tathā avijjamānassa lokaniruttimattasiddhassa itthipurisādikassa paññāpanā avijjamānapaññatti nāma. Sabbākārenapi anupalabbhaneyyassa vācāvatthumattasseva pañcamasaccādikassa titthiyānaṃ aṇupakatipurisādikassa vā paññāpanāpi avijjamānapaññattiyeva. Sā pana sāsanāvacarā na hotīti idha na gahitā. Iti imesaṃ vijjamānāvijjamānānaṃ vikappanavasena sesā veditabbā. ‘Tevijjo’, ‘chaḷabhiñño’tiādīsu hi tisso vijjā cha abhiññā ca vijjamānā, puggalo avijjamāno. Tasmā tisso vijjā assāti tevijjo, cha abhiññā assāti chaḷabhiññoti evaṃ vijjamānena avijjamānassa paññāpanato evarūpā vijjamānena avijjamānapaññatti nāma. ‘Itthirūpaṃ’, ‘purisarūpa’ntiādīsu pana itthipurisā avijjamānā, rūpaṃ vijjamānaṃ. Tasmā itthiyā rūpaṃ itthirūpaṃ, purisassa rūpaṃ purisarūpanti evaṃ avijjamānena vijjamānassa paññāpanato evarūpā avijjamānena vijjamānapaññatti nāma. Cakkhusamphasso, sotasamphassotiādīsu cakkhusotādayopi phassopi vijjamānoyeva. Tasmā cakkhumhi samphasso, cakkhuto jāto samphasso, cakkhussa vā phalabhūto samphasso cakkhusamphassoti evaṃ vijjamānena vijjamānassa paññāpanato evarūpā vijjamānena vijjamānapaññatti nāma. Khattiyaputto, brāhmaṇaputto, seṭṭhiputtotiādīsu khattiyādayopi avijjamānā, puttopi. Tasmā khattiyassa putto khattiyaputtoti evaṃ avijjamānena avijjamānassa paññāpanato evarūpā avijjamānena avijjamānapaññatti nāma. Tāsu imasmiṃ pakaraṇe purimā tissova paññattiyo labbhanti. ‘‘Khandhapaññatti…pe… indriyapaññattī’’ti imasmiñhi ṭhāne vijjamānasseva paññāpitattā vijjamānapaññatti labbhati. ‘‘Puggalapaññattī’’ti pade avijjamānapaññatti. Parato pana ‘tevijjo’, ‘chaḷabhiñño’tiādīsu vijjamānena avijjamānapaññatti labbhatīti.

    อฎฺฐกถามุตฺตเกน ปน อาจริยนเยน อปราปิ ฉ ปญฺญตฺติโย – อุปาทาปญฺญตฺติ, อุปนิธาปญฺญตฺติ, สโมธานปญฺญตฺติ, อุปนิกฺขิตฺตปญฺญตฺติ, ตชฺชาปญฺญตฺติ, สนฺตติปญฺญตฺตีติ ฯ ตตฺถ โย รูปเวทนาทีหิ เอกเตฺตน วา อญฺญเตฺตน วา รูปเวทนาทโย วิย สจฺจิกฎฺฐปรมเตฺถน อนุปลพฺภสภาโวปิ รูปเวทนาทิเภเท ขเนฺธ อุปาทาย นิสฺสาย การณํ กตฺวา สมฺมโต สโตฺตฯ ตานิ ตานิ องฺคานิ อุปาทาย รโถ เคหํ มุฎฺฐิ อุทฺธนนฺติ จ; เต เตเยว รูปาทโย อุปาทาย ฆโฎ ปโฎ; จนฺทสูริยปริวตฺตาทโย อุปาทาย กาโล, ทิสา; ตํ ตํ ภูตนิมิตฺตเญฺจว ภาวนานิสํสญฺจ อุปาทาย นิสฺสาย การณํ กตฺวา สมฺมตํ เตน เตนากาเรน อุปฎฺฐิตํ อุคฺคหนิมิตฺตํ ปฎิภาคนิมิตฺตนฺติ อยํ เอวรูปา อุปาทาปญฺญตฺติ นามฯ ปญฺญเปตพฺพเฎฺฐน เจสา ปญฺญตฺติ นาม, น ปญฺญาปนเฎฺฐนฯ ยา ปน ตสฺสตฺถสฺส ปญฺญาปนา, อยํ อวิชฺชมานปญฺญตฺติเยวฯ

    Aṭṭhakathāmuttakena pana ācariyanayena aparāpi cha paññattiyo – upādāpaññatti, upanidhāpaññatti, samodhānapaññatti, upanikkhittapaññatti, tajjāpaññatti, santatipaññattīti . Tattha yo rūpavedanādīhi ekattena vā aññattena vā rūpavedanādayo viya saccikaṭṭhaparamatthena anupalabbhasabhāvopi rūpavedanādibhede khandhe upādāya nissāya kāraṇaṃ katvā sammato satto. Tāni tāni aṅgāni upādāya ratho gehaṃ muṭṭhi uddhananti ca; te teyeva rūpādayo upādāya ghaṭo paṭo; candasūriyaparivattādayo upādāya kālo, disā; taṃ taṃ bhūtanimittañceva bhāvanānisaṃsañca upādāya nissāya kāraṇaṃ katvā sammataṃ tena tenākārena upaṭṭhitaṃ uggahanimittaṃ paṭibhāganimittanti ayaṃ evarūpā upādāpaññatti nāma. Paññapetabbaṭṭhena cesā paññatti nāma, na paññāpanaṭṭhena. Yā pana tassatthassa paññāpanā, ayaṃ avijjamānapaññattiyeva.

    ยา ปฐมทุติยาทีนิ อุปนิธาย ทุติยํ ตติยนฺติอาทิกา, อญฺญมญฺญญฺจ อุปนิธาย ทีฆํ รสฺสํ, ทูรํ, สนฺติกนฺติอาทิกา ปญฺญาปนา; อยํ อุปนิธาปญฺญตฺติ นามฯ อปิเจสา อุปนิธาปญฺญตฺติ – ตทญฺญาเปกฺขูปนิธา, หตฺถคตูปนิธา, สมฺปยุตฺตูปนิธา, สมาโรปิตูปนิธา, อวิทูรคตูปนิธา , ปฎิภาคูปนิธา, ตพฺพหุลูปนิธา, ตพฺพิสิฎฺฐูปนิธาติอาทินา เภเทน อเนกปฺปการาฯ

    Yā paṭhamadutiyādīni upanidhāya dutiyaṃ tatiyantiādikā, aññamaññañca upanidhāya dīghaṃ rassaṃ, dūraṃ, santikantiādikā paññāpanā; ayaṃ upanidhāpaññatti nāma. Apicesā upanidhāpaññatti – tadaññāpekkhūpanidhā, hatthagatūpanidhā, sampayuttūpanidhā, samāropitūpanidhā, avidūragatūpanidhā , paṭibhāgūpanidhā, tabbahulūpanidhā, tabbisiṭṭhūpanidhātiādinā bhedena anekappakārā.

    ตตฺถ ทุติยํ ตติยนฺติอาทิกาว ตทญฺญํ อเปกฺขิตฺวา วุตฺตตาย ตทญฺญาเปกฺขูปนิธา นามฯ ฉตฺตปาณิ, สตฺถปาณีติอาทิกา หตฺถคตํ อุปนิธาย วุตฺตตาย หตฺถคตูปนิธา นามฯ กุณฺฑลี, สิขรี, กิริฎีติอาทิกา สมฺปยุตฺตํ อุปนิธาย วุตฺตตาย สมฺปยุตฺตูปนิธา นามฯ ธญฺญสกฎํ, สปฺปิกุโมฺภติอาทิกา สมาโรปิตํ อุปนิธาย วุตฺตตาย สมาโรปิตูปนิธา นามฯ อินฺทสาลคุหา, ปิยงฺคุคุหา, เสรีสกนฺติอาทิกา อวิทูรคตํ อุปนิธาย วุตฺตตาย อวิทูรคตูปนิธา นามฯ สุวณฺณวโณฺณ, อุสภคามีติอาทิกา ปฎิภาคํ อุปนิธาย วุตฺตตาย ปฎิภาคูปนิธา นามฯ ปทุมสฺสโร, พฺราหฺมณคาโมติอาทิกา ตพฺพหุลํ อุปนิธาย วุตฺตตาย ตพฺพหุลูปนิธา นามฯ มณิกฎกํ, วชิรกฎกนฺติอาทิกา ตพฺพิสิฎฺฐํ อุปนิธาย วุตฺตตาย ตพฺพิสิฎฺฐูปนิธา นามฯ

    Tattha dutiyaṃ tatiyantiādikāva tadaññaṃ apekkhitvā vuttatāya tadaññāpekkhūpanidhā nāma. Chattapāṇi, satthapāṇītiādikā hatthagataṃ upanidhāya vuttatāya hatthagatūpanidhā nāma. Kuṇḍalī, sikharī, kiriṭītiādikā sampayuttaṃ upanidhāya vuttatāya sampayuttūpanidhā nāma. Dhaññasakaṭaṃ, sappikumbhotiādikā samāropitaṃ upanidhāya vuttatāya samāropitūpanidhā nāma. Indasālaguhā, piyaṅguguhā, serīsakantiādikā avidūragataṃ upanidhāya vuttatāya avidūragatūpanidhā nāma. Suvaṇṇavaṇṇo, usabhagāmītiādikā paṭibhāgaṃ upanidhāya vuttatāya paṭibhāgūpanidhā nāma. Padumassaro, brāhmaṇagāmotiādikā tabbahulaṃ upanidhāya vuttatāya tabbahulūpanidhā nāma. Maṇikaṭakaṃ, vajirakaṭakantiādikā tabbisiṭṭhaṃ upanidhāya vuttatāya tabbisiṭṭhūpanidhā nāma.

    ยา ปน เตสํ เตสํ สโมธานมเปกฺขิตฺวา ติทณฺฑํ, อฎฺฐปทํ, ธญฺญราสิ, ปุปฺผราสีติอาทิกา ปญฺญาปนา, อยํ สโมธานปญฺญตฺติ นามฯ ยา ปุริมสฺส ปุริมสฺส อุปนิกฺขิปิตฺวา เทฺว, ตีณิ, จตฺตารีติอาทิกา ปญฺญาปนา, อยํ อุปนิกฺขิตฺตปญฺญตฺติ นามฯ ยา ตํ ตํ ธมฺมสภาวํ อเปกฺขิตฺวา ปถวี, เตโช, กกฺขฬตา, อุณฺหตาติอาทิกา ปญฺญาปนา, อยํ ตชฺชาปญฺญตฺติ นามฯ ยา ปน สนฺตติวิเจฺฉทาภาวํ อเปกฺขิตฺวา อาสีติโก, นาวุติโกติอาทิกา ปญฺญาปนา, อยํ สนฺตติปญฺญตฺติ นามฯ เอตาสุ ปน ตชฺชาปญฺญตฺติ วิชฺชมานปญฺญตฺติเยวฯ เสสา อวิชฺชมานปกฺขเญฺจว, อวิชฺชมาเนน อวิชฺชมานปกฺขญฺจ ภชนฺติฯ

    Yā pana tesaṃ tesaṃ samodhānamapekkhitvā tidaṇḍaṃ, aṭṭhapadaṃ, dhaññarāsi, puppharāsītiādikā paññāpanā, ayaṃ samodhānapaññatti nāma. Yā purimassa purimassa upanikkhipitvā dve, tīṇi, cattārītiādikā paññāpanā, ayaṃ upanikkhittapaññatti nāma. Yā taṃ taṃ dhammasabhāvaṃ apekkhitvā pathavī, tejo, kakkhaḷatā, uṇhatātiādikā paññāpanā, ayaṃ tajjāpaññatti nāma. Yā pana santativicchedābhāvaṃ apekkhitvā āsītiko, nāvutikotiādikā paññāpanā, ayaṃ santatipaññatti nāma. Etāsu pana tajjāpaññatti vijjamānapaññattiyeva. Sesā avijjamānapakkhañceva, avijjamānena avijjamānapakkhañca bhajanti.

    อฎฺฐกถามุตฺตเกน อาจริยนเยเนว อปราปิ ฉ ปญฺญตฺติโย – กิจฺจปญฺญตฺติ, สณฺฐานปญฺญตฺติ, ลิงฺคปญฺญตฺติ, ภูมิปญฺญตฺติ, ปจฺจตฺตปญฺญตฺติ, อสงฺขตปญฺญตฺตีติฯ ตตฺถ ภาณโก, ธมฺมกถิโกติอาทิกา กิจฺจวเสน ปญฺญาปนา กิจฺจปญฺญตฺติ นามฯ กิโส, ถูโล, ปริมณฺฑโล, จตุรโสฺสติอาทิกา สณฺฐานวเสน ปญฺญาปนา สณฺฐานปญฺญตฺติ นามฯ อิตฺถี, ปุริโสติอาทิกา ลิงฺควเสน ปญฺญาปนา ลิงฺคปญฺญติ นามฯ กามาวจรา, รูปาวจรา, อรูปาวจรา, โกสลกา, มาธุราติอาทิกา ภูมิวเสน ปญฺญาปนา ภูมิปญฺญตฺติ นามฯ ติโสฺส , นาโค, สุมโนติอาทิกา ปจฺจตฺตนามกรณมตฺตวเสน ปญฺญาปนา ปจฺจตฺตปญฺญตฺติ นามฯ นิโรโธ, นิพฺพานนฺติอาทิกา อสงฺขตธมฺมสฺส ปญฺญาปนา อสงฺขตปญฺญตฺติ นามฯ ตตฺถ เอกจฺจา ภูมิปญฺญตฺติ อสงฺขตปญฺญตฺติ จ วิชฺชมานปญฺญตฺติเยว, กิจฺจปญฺญตฺติ วิชฺชมาเนน อวิชฺชมานปกฺขํ ภชติฯ เสสา อวิชฺชมานปญฺญตฺติโย นามฯ

    Aṭṭhakathāmuttakena ācariyanayeneva aparāpi cha paññattiyo – kiccapaññatti, saṇṭhānapaññatti, liṅgapaññatti, bhūmipaññatti, paccattapaññatti, asaṅkhatapaññattīti. Tattha bhāṇako, dhammakathikotiādikā kiccavasena paññāpanā kiccapaññatti nāma. Kiso, thūlo, parimaṇḍalo, caturassotiādikā saṇṭhānavasena paññāpanā saṇṭhānapaññatti nāma. Itthī, purisotiādikā liṅgavasena paññāpanā liṅgapaññati nāma. Kāmāvacarā, rūpāvacarā, arūpāvacarā, kosalakā, mādhurātiādikā bhūmivasena paññāpanā bhūmipaññatti nāma. Tisso , nāgo, sumanotiādikā paccattanāmakaraṇamattavasena paññāpanā paccattapaññatti nāma. Nirodho, nibbānantiādikā asaṅkhatadhammassa paññāpanā asaṅkhatapaññatti nāma. Tattha ekaccā bhūmipaññatti asaṅkhatapaññatti ca vijjamānapaññattiyeva, kiccapaññatti vijjamānena avijjamānapakkhaṃ bhajati. Sesā avijjamānapaññattiyo nāma.

    . อิทานิ ยาสํ ปญฺญตฺตีนํ อุเทฺทสวาเร สเงฺขปโต สรูปทสฺสนํ กตํ, สเงฺขปโตเยว ตาว ตาสํ วตฺถุํ วิภชิตฺวา ทสฺสนวเสน ตา ทเสฺสตุํ กิตฺตาวตาติอาทิมาหฯ ตตฺถ ปุจฺฉาย ตาว เอวมโตฺถ เวทิตโพฺพ – ยา อยํ ขนฺธานํ ‘ขนฺธา’ติ ปญฺญาปนา, ทสฺสนา, ฐปนา, สา กิตฺตเกน โหตีติ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉาฯ ปรโต กิตฺตาวตา อายตนานนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโยฯ วิสฺสชฺชเนปิ เอวมโตฺถ เวทิตโพฺพ – ยตฺตเกน ปญฺญาปเนน สเงฺขปโต ปญฺจกฺขนฺธาติ วา ปเภทโต ‘‘รูปกฺขโนฺธ…เป.… วิญฺญาณกฺขโนฺธ’’ติ วา; ตตฺราปิ รูปกฺขโนฺธ กามาวจโร, เสสา จตุภูมิกาติ วา เอวรูปํ ปญฺญาปนํ โหติ; เอตฺตเกน ขนฺธานํ ‘ขนฺธา’ติ ปญฺญตฺติ โหติฯ

    2. Idāni yāsaṃ paññattīnaṃ uddesavāre saṅkhepato sarūpadassanaṃ kataṃ, saṅkhepatoyeva tāva tāsaṃ vatthuṃ vibhajitvā dassanavasena tā dassetuṃ kittāvatātiādimāha. Tattha pucchāya tāva evamattho veditabbo – yā ayaṃ khandhānaṃ ‘khandhā’ti paññāpanā, dassanā, ṭhapanā, sā kittakena hotīti kathetukamyatāpucchā. Parato kittāvatā āyatanānantiādīsupi eseva nayo. Vissajjanepi evamattho veditabbo – yattakena paññāpanena saṅkhepato pañcakkhandhāti vā pabhedato ‘‘rūpakkhandho…pe… viññāṇakkhandho’’ti vā; tatrāpi rūpakkhandho kāmāvacaro, sesā catubhūmikāti vā evarūpaṃ paññāpanaṃ hoti; ettakena khandhānaṃ ‘khandhā’ti paññatti hoti.

    . ตถา ยตฺตเกน ปญฺญาปเนน สเงฺขปโต ทฺวาทสายตนานีติ วา, ปเภทโต ‘‘จกฺขายตนํ…เป.… ธมฺมายตน’’นฺติ วา; ตตฺราปิ ทสายตนา กามาวจรา , ทฺวายตนา จตุภูมิกาติ วา, เอวรูปํ ปญฺญาปนํ โหติ; เอตฺตเกน อายตนานํ อายตนานีติ ปญฺญตฺติ โหติฯ

    3. Tathā yattakena paññāpanena saṅkhepato dvādasāyatanānīti vā, pabhedato ‘‘cakkhāyatanaṃ…pe… dhammāyatana’’nti vā; tatrāpi dasāyatanā kāmāvacarā , dvāyatanā catubhūmikāti vā, evarūpaṃ paññāpanaṃ hoti; ettakena āyatanānaṃ āyatanānīti paññatti hoti.

    . ยตฺตเกน ปญฺญาปเนน สเงฺขปโต อฎฺฐารส ธาตุโยติ วา , ปเภทโต ‘‘จกฺขุธาตุ…เป.… มโนวิญฺญาณธาตู’’ติ วา; ตตฺราปิ โสฬส ธาตุโย กามาวจรา, เทฺว ธาตุโย จตุภูมิกาติ วา เอวรูปํ ปญฺญาปนํ โหติ; เอตฺตเกน ธาตูนํ ธาตูติ ปญฺญตฺติ โหติฯ

    4. Yattakena paññāpanena saṅkhepato aṭṭhārasa dhātuyoti vā , pabhedato ‘‘cakkhudhātu…pe… manoviññāṇadhātū’’ti vā; tatrāpi soḷasa dhātuyo kāmāvacarā, dve dhātuyo catubhūmikāti vā evarūpaṃ paññāpanaṃ hoti; ettakena dhātūnaṃ dhātūti paññatti hoti.

    . ยตฺตเกน ปญฺญาปเนน สเงฺขปโต จตฺตาริ สจฺจานีติ วา, ปเภทโต ‘‘ทุกฺขสจฺจํ…เป.… นิโรธสจฺจ’’นฺติ วา; ตตฺราปิ เทฺว สจฺจา โลกิยา, เทฺว สจฺจา โลกุตฺตราติ วา เอวรูปํ ปญฺญาปนํ โหติ; เอตฺตเกน สจฺจานํ ‘สจฺจานี’ติ ปญฺญตฺติ โหติฯ

    5. Yattakena paññāpanena saṅkhepato cattāri saccānīti vā, pabhedato ‘‘dukkhasaccaṃ…pe… nirodhasacca’’nti vā; tatrāpi dve saccā lokiyā, dve saccā lokuttarāti vā evarūpaṃ paññāpanaṃ hoti; ettakena saccānaṃ ‘saccānī’ti paññatti hoti.

    . ยตฺตเกน ปญฺญาปเนน สเงฺขปโต พาวีสตินฺทฺริยานีติ วา, ปเภทโต ‘‘จกฺขุนฺทฺริยํ…เป.… อญฺญาตาวินฺทฺริย’’นฺติ วา; ตตฺราปิ ทสินฺทฺริยานิ กามาวจรานิ, นวินฺทฺริยานิ มิสฺสกานิ, ตีณิ อินฺทฺริยานิ โลกุตฺตรานีติ วา เอวรูปํ ปญฺญาปนํ โหติ; เอตฺตเกน อินฺทฺริยานํ อินฺทฺริยานีติ ปญฺญตฺติ โหติฯ เอตฺตาวตา สเงฺขปโต วตฺถุํ วิภชิตฺวา ทสฺสนวเสน ปญฺจ ปญฺญตฺติโย ทสฺสิตา โหนฺติฯ

    6. Yattakena paññāpanena saṅkhepato bāvīsatindriyānīti vā, pabhedato ‘‘cakkhundriyaṃ…pe… aññātāvindriya’’nti vā; tatrāpi dasindriyāni kāmāvacarāni, navindriyāni missakāni, tīṇi indriyāni lokuttarānīti vā evarūpaṃ paññāpanaṃ hoti; ettakena indriyānaṃ indriyānīti paññatti hoti. Ettāvatā saṅkhepato vatthuṃ vibhajitvā dassanavasena pañca paññattiyo dassitā honti.

    . อิทานิ วิตฺถารโต วตฺถุํ วิภชิตฺวา ทสฺสนวเสน ปุคฺคลปญฺญตฺติํ ทเสฺสตุํ สมยวิมุโตฺต อสมยวิมุโตฺตติอาทิมาหฯ สมฺมาสมฺพุเทฺธน หิ ติเล วิสารยมาเนน วิย, วาเก หีรยมาเนน วิย จ, เหฎฺฐา วิภงฺคปฺปกรเณ อิมาสํ ปญฺจนฺนํ ปญฺญตฺตีนํ วตฺถุภูตา ขนฺธาทโย นิปฺปเทเสน กถิตาติ เตน เต อิธ เอกเทเสเนว กเถสิฯ ฉฎฺฐา ปุคฺคลปญฺญตฺติ เหฎฺฐา อกถิตาวฯ อิธาปิ อุเทฺทสวาเร เอกเทเสเนว กถิตา; ตสฺมา ตํ วิตฺถารโต กเถตุกาโม สมยวิมุโตฺต อสมยวิมุโตฺตติ เอกกโต ปฎฺฐาย ยาว ทสกา มาติกํ ฐเปสีติฯ

    7. Idāni vitthārato vatthuṃ vibhajitvā dassanavasena puggalapaññattiṃ dassetuṃ samayavimutto asamayavimuttotiādimāha. Sammāsambuddhena hi tile visārayamānena viya, vāke hīrayamānena viya ca, heṭṭhā vibhaṅgappakaraṇe imāsaṃ pañcannaṃ paññattīnaṃ vatthubhūtā khandhādayo nippadesena kathitāti tena te idha ekadeseneva kathesi. Chaṭṭhā puggalapaññatti heṭṭhā akathitāva. Idhāpi uddesavāre ekadeseneva kathitā; tasmā taṃ vitthārato kathetukāmo samayavimutto asamayavimuttoti ekakato paṭṭhāya yāva dasakā mātikaṃ ṭhapesīti.

    มาติกาวณฺณนาฯ

    Mātikāvaṇṇanā.







    Related texts:



    ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-มูลฎีกา • Pañcapakaraṇa-mūlaṭīkā / ๑. มาติกาวณฺณนา • 1. Mātikāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / อภิธมฺมปิฎก (ฎีกา) • Abhidhammapiṭaka (ṭīkā) / ปญฺจปกรณ-อนุฎีกา • Pañcapakaraṇa-anuṭīkā / ๑. มาติกาวณฺณนา • 1. Mātikāvaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact