Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เปตวตฺถุปาฬิ • Petavatthupāḷi |
๓. มตฺตาเปติวตฺถุ
3. Mattāpetivatthu
๑๓๔.
134.
‘‘นคฺคา ทุพฺพณฺณรูปาสิ, กิสา ธมนิสนฺถตา;
‘‘Naggā dubbaṇṇarūpāsi, kisā dhamanisanthatā;
อุปฺผาสุลิเก กิสิเก, กา นุ ตฺวํ อิธ ติฎฺฐสี’’ติฯ
Upphāsulike kisike, kā nu tvaṃ idha tiṭṭhasī’’ti.
๑๓๕.
135.
‘‘อหํ มตฺตา ตุวํ ติสฺสา, สปตฺตี เต ปุเร อหุํ;
‘‘Ahaṃ mattā tuvaṃ tissā, sapattī te pure ahuṃ;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติฯ
Pāpakammaṃ karitvāna, petalokaṃ ito gatā’’ti.
๑๓๖.
136.
‘‘กิํ นุ กาเยน วาจาย, มนสา ทุกฺกฎํ กตํ;
‘‘Kiṃ nu kāyena vācāya, manasā dukkaṭaṃ kataṃ;
กิสฺส กมฺมวิปาเกน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติฯ
Kissa kammavipākena, petalokaṃ ito gatā’’ti.
๑๓๗.
137.
ตาหํ ทุรุตฺตํ วตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’’ติฯ
Tāhaṃ duruttaṃ vatvāna, petalokaṃ ito gatā’’ti.
๑๓๘.
138.
อญฺญญฺจ โข ตํ ปุจฺฉามิ, เกนาสิ ปํสุกุนฺถิตา’’ติฯ
Aññañca kho taṃ pucchāmi, kenāsi paṃsukunthitā’’ti.
๑๓๙.
139.
‘‘สีสํนฺหาตา ตุวํ อาสิ, สุจิวตฺถา อลงฺกตา;
‘‘Sīsaṃnhātā tuvaṃ āsi, sucivatthā alaṅkatā;
๑๔๐.
140.
‘‘ตสฺสา เม เปกฺขมานาย, สามิเกน สมนฺตยิ;
‘‘Tassā me pekkhamānāya, sāmikena samantayi;
ตโต เม อิสฺสา วิปุลา, โกโธ เม สมชายถฯ
Tato me issā vipulā, kodho me samajāyatha.
๑๔๑.
141.
ตสฺส กมฺมวิปาเกน, เตนมฺหิ ปํสุกุนฺถิตา’’ติฯ
Tassa kammavipākena, tenamhi paṃsukunthitā’’ti.
๑๔๒.
142.
‘‘สจฺจํ อหมฺปิ ชานามิ, ปํสุนา มํ ตฺวโมกิริ;
‘‘Saccaṃ ahampi jānāmi, paṃsunā maṃ tvamokiri;
อญฺญญฺจ โข ตํ ปุจฺฉามิ, เกน ขชฺชสิ กจฺฉุยา’’ติฯ
Aññañca kho taṃ pucchāmi, kena khajjasi kacchuyā’’ti.
๑๔๓.
143.
‘‘เภสชฺชหารี อุภโย, วนนฺตํ อคมิมฺหเส;
‘‘Bhesajjahārī ubhayo, vanantaṃ agamimhase;
ตฺวญฺจ เภสชฺชมาหริ, อหญฺจ กปิกจฺฉุโนฯ
Tvañca bhesajjamāhari, ahañca kapikacchuno.
๑๔๔.
144.
‘‘ตสฺสา ตฺยาชานมานาย, เสยฺยํ ตฺยาหํ สโมกิริํ;
‘‘Tassā tyājānamānāya, seyyaṃ tyāhaṃ samokiriṃ;
ตสฺส กมฺมวิปาเกน, เตน ขชฺชามิ กจฺฉุยา’’ติฯ
Tassa kammavipākena, tena khajjāmi kacchuyā’’ti.
๑๔๕.
145.
‘‘สจฺจํ อหมฺปิ ชานามิ, เสยฺยํ เม ตฺวํ สโมกิริ;
‘‘Saccaṃ ahampi jānāmi, seyyaṃ me tvaṃ samokiri;
อญฺญญฺจ โข ตํ ปุจฺฉามิ, เกนาสิ นคฺคิยา ตุว’’นฺติฯ
Aññañca kho taṃ pucchāmi, kenāsi naggiyā tuva’’nti.
๑๔๖.
146.
‘‘สหายานํ สมโย อาสิ, ญาตีนํ สมิตี อหุ;
‘‘Sahāyānaṃ samayo āsi, ñātīnaṃ samitī ahu;
ตฺวญฺจ อามนฺติตา อาสิ, สสามินี โน จ โข อหํฯ
Tvañca āmantitā āsi, sasāminī no ca kho ahaṃ.
๑๔๗.
147.
‘‘ตสฺสา ตฺยาชานมานาย, ทุสฺสํ ตฺยาหํ อปานุทิํ;
‘‘Tassā tyājānamānāya, dussaṃ tyāhaṃ apānudiṃ;
ตสฺส กมฺมวิปาเกน, เตนมฺหิ นคฺคิยา อห’’นฺติฯ
Tassa kammavipākena, tenamhi naggiyā aha’’nti.
๑๔๘.
148.
‘‘สจฺจํ อหมฺปิ ชานามิ, ทุสฺสํ เม ตฺวํ อปานุทิ;
‘‘Saccaṃ ahampi jānāmi, dussaṃ me tvaṃ apānudi;
อญฺญญฺจ โข ตํ ปุจฺฉามิ, เกนาสิ คูถคนฺธินี’’ติฯ
Aññañca kho taṃ pucchāmi, kenāsi gūthagandhinī’’ti.
๑๔๙.
149.
‘‘ตว คนฺธญฺจ มาลญฺจ, ปจฺจคฺฆญฺจ วิเลปนํ;
‘‘Tava gandhañca mālañca, paccagghañca vilepanaṃ;
ตสฺส กมฺมวิปาเกน, เตนมฺหิ คูถคนฺธินี’’ติฯ
Tassa kammavipākena, tenamhi gūthagandhinī’’ti.
๑๕๐.
150.
‘‘สจฺจํ อหมฺปิ ชานามิ, ตํ ปาปํ ปกตํ ตยา;
‘‘Saccaṃ ahampi jānāmi, taṃ pāpaṃ pakataṃ tayā;
อญฺญญฺจ โข ตํ ปุจฺฉามิ, เกนาสิ ทุคฺคตา ตุว’’นฺติฯ
Aññañca kho taṃ pucchāmi, kenāsi duggatā tuva’’nti.
๑๕๑.
151.
‘‘อุภินฺนํ สมกํ อาสิ, ยํ เคเห วิชฺชเต ธนํ;
‘‘Ubhinnaṃ samakaṃ āsi, yaṃ gehe vijjate dhanaṃ;
สเนฺตสุ เทยฺยธเมฺมสุ, ทีปํ นากาสิมตฺตโน;
Santesu deyyadhammesu, dīpaṃ nākāsimattano;
ตสฺส กมฺมวิปาเกน, เตนมฺหิ ทุคฺคตา อหํฯ
Tassa kammavipākena, tenamhi duggatā ahaṃ.
๑๕๒.
152.
‘‘ตเทว มํ ตฺวํ อวจ, ‘ปาปกมฺมํ นิเสวสิ;
‘‘Tadeva maṃ tvaṃ avaca, ‘pāpakammaṃ nisevasi;
น หิ ปาเปหิ กเมฺมหิ, สุลภา โหติ สุคฺคตี’’’ติฯ
Na hi pāpehi kammehi, sulabhā hoti suggatī’’’ti.
๑๕๓.
153.
‘‘วามโต มํ ตฺวํ ปเจฺจสิ, อโถปิ มํ อุสูยสิ;
‘‘Vāmato maṃ tvaṃ paccesi, athopi maṃ usūyasi;
ปสฺส ปาปานํ กมฺมานํ, วิปาโก โหติ ยาทิโสฯ
Passa pāpānaṃ kammānaṃ, vipāko hoti yādiso.
๑๕๔.
154.
เต อเญฺญ ปริจาเรนฺติ, น โภคา โหนฺติ สสฺสตาฯ
Te aññe paricārenti, na bhogā honti sassatā.
๑๕๕.
155.
‘‘อิทานิ ภูตสฺส ปิตา, อาปณา เคหเมหิติ;
‘‘Idāni bhūtassa pitā, āpaṇā gehamehiti;
อเปฺปว เต ทเท กิญฺจิ, มา สุ ตาว อิโต อคา’’ติฯ
Appeva te dade kiñci, mā su tāva ito agā’’ti.
๑๕๖.
156.
‘‘นคฺคา ทุพฺพณฺณรูปามฺหิ, กิสา ธมนิสนฺถตา;
‘‘Naggā dubbaṇṇarūpāmhi, kisā dhamanisanthatā;
โกปีนเมตํ อิตฺถีนํ, มา มํ ภูตปิตาทฺทสา’’ติฯ
Kopīnametaṃ itthīnaṃ, mā maṃ bhūtapitāddasā’’ti.
๑๕๗.
157.
เยน ตฺวํ สุขิตา อสฺส, สพฺพกามสมิทฺธินี’’ติฯ
Yena tvaṃ sukhitā assa, sabbakāmasamiddhinī’’ti.
๑๕๘.
158.
‘‘จตฺตาโร ภิกฺขู สงฺฆโต, จตฺตาโร ปน ปุคฺคลา;
‘‘Cattāro bhikkhū saṅghato, cattāro pana puggalā;
อฎฺฐ ภิกฺขู โภชยิตฺวา, มม ทกฺขิณมาทิส;
Aṭṭha bhikkhū bhojayitvā, mama dakkhiṇamādisa;
ตทาหํ สุขิตา เหสฺสํ, สพฺพกามสมิทฺธินี’’ติฯ
Tadāhaṃ sukhitā hessaṃ, sabbakāmasamiddhinī’’ti.
๑๕๙.
159.
สาธูติ สา ปฎิสฺสุตฺวา, โภชยิตฺวาฎฺฐ ภิกฺขโว;
Sādhūti sā paṭissutvā, bhojayitvāṭṭha bhikkhavo;
วเตฺถหจฺฉาทยิตฺวาน, ตสฺสา ทกฺขิณมาทิสีฯ
Vatthehacchādayitvāna, tassā dakkhiṇamādisī.
๑๖๐.
160.
สมนนฺตรานุทฺทิเฎฺฐ , วิปาโก อุทปชฺชถ;
Samanantarānuddiṭṭhe , vipāko udapajjatha;
โภชนจฺฉาทนปานียํ, ทกฺขิณาย อิทํ ผลํฯ
Bhojanacchādanapānīyaṃ, dakkhiṇāya idaṃ phalaṃ.
๑๖๑.
161.
ตโต สุทฺธา สุจิวสนา, กาสิกุตฺตมธารินี;
Tato suddhā sucivasanā, kāsikuttamadhārinī;
วิจิตฺตวตฺถาภรณา, สปตฺติํ อุปสงฺกมิฯ
Vicittavatthābharaṇā, sapattiṃ upasaṅkami.
๑๖๒.
162.
‘‘อภิกฺกเนฺตน วเณฺณน, ยา ตฺวํ ติฎฺฐสิ เทวเต;
‘‘Abhikkantena vaṇṇena, yā tvaṃ tiṭṭhasi devate;
โอภาเสนฺตี ทิสา สพฺพา, โอสธี วิย ตารกาฯ
Obhāsentī disā sabbā, osadhī viya tārakā.
๑๖๓.
163.
‘‘เกน เตตาทิโส วโณฺณ, เกน เต อิธ มิชฺฌติ;
‘‘Kena tetādiso vaṇṇo, kena te idha mijjhati;
อุปฺปชฺชนฺติ จ เต โภคา, เย เกจิ มนโส ปิยาฯ
Uppajjanti ca te bhogā, ye keci manaso piyā.
๑๖๔.
164.
‘‘ปุจฺฉามิ ตํ เทวิ มหานุภาเว, มนุสฺสภูตา กิมกาสิ ปุญฺญํ;
‘‘Pucchāmi taṃ devi mahānubhāve, manussabhūtā kimakāsi puññaṃ;
เกนาสิ เอวํ ชลิตานุภาวา, วโณฺณ จ เต สพฺพทิสา ปภาสตี’’ติฯ
Kenāsi evaṃ jalitānubhāvā, vaṇṇo ca te sabbadisā pabhāsatī’’ti.
๑๖๕.
165.
‘‘อหํ มตฺตา ตุวํ ติสฺสา, สปตฺตี เต ปุเร อหุํ;
‘‘Ahaṃ mattā tuvaṃ tissā, sapattī te pure ahuṃ;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตาฯ
Pāpakammaṃ karitvāna, petalokaṃ ito gatā.
๑๖๖.
166.
‘‘ตว ทิเนฺนน ทาเนน, โมทามิ อกุโตภยา;
‘‘Tava dinnena dānena, modāmi akutobhayā;
จีรํ ชีวาหิ ภคินิ, สห สเพฺพหิ ญาติภิ;
Cīraṃ jīvāhi bhagini, saha sabbehi ñātibhi;
อโสกํ วิรชํ ฐานํ, อาวาสํ วสวตฺตินํฯ
Asokaṃ virajaṃ ṭhānaṃ, āvāsaṃ vasavattinaṃ.
๑๖๗.
167.
‘‘อิธ ธมฺมํ จริตฺวาน, ทานํ ทตฺวาน โสภเน;
‘‘Idha dhammaṃ caritvāna, dānaṃ datvāna sobhane;
วิเนยฺย มเจฺฉรมลํ สมูลํ, อนินฺทิตา สคฺคมุเปหิ ฐาน’’นฺติฯ
Vineyya maccheramalaṃ samūlaṃ, aninditā saggamupehi ṭhāna’’nti.
มตฺตาเปติวตฺถุ ตติยํฯ
Mattāpetivatthu tatiyaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / เปตวตฺถุ-อฎฺฐกถา • Petavatthu-aṭṭhakathā / ๓. มตฺตาเปติวตฺถุวณฺณนา • 3. Mattāpetivatthuvaṇṇanā