Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / วิมานวตฺถุปาฬิ • Vimānavatthupāḷi |
๙. มฎฺฐกุณฺฑลีวิมานวตฺถุ
9. Maṭṭhakuṇḍalīvimānavatthu
๑๒๐๗.
1207.
พาหา ปคฺคยฺห กนฺทสิ, วนมเชฺฌ กิํ ทุกฺขิโต ตุว’’นฺติฯ
Bāhā paggayha kandasi, vanamajjhe kiṃ dukkhito tuva’’nti.
๑๒๐๘.
1208.
‘‘โสวณฺณมโย ปภสฺสโร, อุปฺปโนฺน รถปญฺชโร มม;
‘‘Sovaṇṇamayo pabhassaro, uppanno rathapañjaro mama;
ตสฺส จกฺกยุคํ น วินฺทามิ, เตน ทุเกฺขน ชหามิ 5 ชีวิต’’นฺติฯ
Tassa cakkayugaṃ na vindāmi, tena dukkhena jahāmi 6 jīvita’’nti.
๑๒๐๙.
1209.
‘‘โสวณฺณมยํ มณิมยํ, โลหิตกมยํ 7 อถ รูปิยมยํ;
‘‘Sovaṇṇamayaṃ maṇimayaṃ, lohitakamayaṃ 8 atha rūpiyamayaṃ;
อาจิกฺข 9 เม ภทฺทมาณว, จกฺกยุคํ ปฎิปาทยามิ เต’’ติฯ
Ācikkha 10 me bhaddamāṇava, cakkayugaṃ paṭipādayāmi te’’ti.
๑๒๑๐.
1210.
โส มาณโว ตสฺส ปาวทิ, ‘‘จนฺทิมสูริยา อุภเยตฺถ ทิสฺสเร;
So māṇavo tassa pāvadi, ‘‘candimasūriyā ubhayettha dissare;
โสวณฺณมโย รโถ มม, เตน จกฺกยุเคน โสภตี’’ติฯ
Sovaṇṇamayo ratho mama, tena cakkayugena sobhatī’’ti.
๑๒๑๑.
1211.
‘‘พาโล โข ตฺวํ อสิ มาณว, โย ตฺวํ ปตฺถยเส อปตฺถิยํ;
‘‘Bālo kho tvaṃ asi māṇava, yo tvaṃ patthayase apatthiyaṃ;
มญฺญามิ ตุวํ มริสฺสสิ, น หิ ตฺวํ ลจฺฉสิ จนฺทิมสูริเย’’ติฯ
Maññāmi tuvaṃ marissasi, na hi tvaṃ lacchasi candimasūriye’’ti.
๑๒๑๒.
1212.
‘‘คมนาคมนมฺปิ ทิสฺสติ, วณฺณธาตุ อุภยตฺถ วีถิยา;
‘‘Gamanāgamanampi dissati, vaṇṇadhātu ubhayattha vīthiyā;
เปโต 11 กาลกโต น ทิสฺสติ, โก นิธ กนฺทตํ พาลฺยตโร’’ติฯ
Peto 12 kālakato na dissati, ko nidha kandataṃ bālyataro’’ti.
๑๒๑๓.
1213.
‘‘สจฺจํ โข วเทสิ มาณว, อหเมว กนฺทตํ พาลฺยตโร;
‘‘Saccaṃ kho vadesi māṇava, ahameva kandataṃ bālyataro;
จนฺทํ วิย ทารโก รุทํ, เปตํ กาลกตาภิปตฺถยิ’’นฺติฯ
Candaṃ viya dārako rudaṃ, petaṃ kālakatābhipatthayi’’nti.
๑๒๑๔.
1214.
‘‘อาทิตฺตํ วต มํ สนฺตํ, ฆตสิตฺตํว ปาวกํ;
‘‘Ādittaṃ vata maṃ santaṃ, ghatasittaṃva pāvakaṃ;
วารินา วิย โอสิญฺจํ, สพฺพํ นิพฺพาปเย ทรํฯ
Vārinā viya osiñcaṃ, sabbaṃ nibbāpaye daraṃ.
๑๒๑๕.
1215.
โย เม โสกปเรตสฺส, ปุตฺตโสกํ อปานุทิฯ
Yo me sokaparetassa, puttasokaṃ apānudi.
๑๒๑๖.
1216.
‘‘สฺวาหํ อพฺพูฬฺหสโลฺลสฺมิ, สีติภูโตสฺมิ นิพฺพุโต;
‘‘Svāhaṃ abbūḷhasallosmi, sītibhūtosmi nibbuto;
น โสจามิ น โรทามิ, วต สุตฺวาน มาณวาติฯ
Na socāmi na rodāmi, vata sutvāna māṇavāti.
๑๒๑๗.
1217.
โก วา ตฺวํ กสฺส วา ปุโตฺต, กถํ ชาเนมุ ตํ มย’’นฺติฯ
Ko vā tvaṃ kassa vā putto, kathaṃ jānemu taṃ maya’’nti.
๑๒๑๘.
1218.
‘‘ยญฺจ 17 กนฺทสิ ยญฺจ โรทสิ, ปุตฺตํ อาฬาหเน สยํ ทหิตฺวา;
‘‘Yañca 18 kandasi yañca rodasi, puttaṃ āḷāhane sayaṃ dahitvā;
สฺวาหํ กุสลํ กริตฺวา กมฺมํ, ติทสานํ สหพฺยตํ คโต’’ติ 19ฯ
Svāhaṃ kusalaṃ karitvā kammaṃ, tidasānaṃ sahabyataṃ gato’’ti 20.
๑๒๑๙.
1219.
‘‘อปฺปํ วา พหุํ วา นาทฺทสาม, ทานํ ททนฺตสฺส สเก อคาเร;
‘‘Appaṃ vā bahuṃ vā nāddasāma, dānaṃ dadantassa sake agāre;
อุโปสถกมฺมํ วา 21 ตาทิสํ, เกน กเมฺมน คโตสิ เทวโลก’’นฺติฯ
Uposathakammaṃ vā 22 tādisaṃ, kena kammena gatosi devaloka’’nti.
๑๒๒๐.
1220.
‘‘อาพาธิโกหํ ทุกฺขิโต คิลาโน, อาตุรรูโปมฺหิ สเก นิเวสเน;
‘‘Ābādhikohaṃ dukkhito gilāno, āturarūpomhi sake nivesane;
พุทฺธํ วิคตรชํ วิติณฺณกงฺขํ, อทฺทกฺขิํ สุคตํ อโนมปญฺญํฯ
Buddhaṃ vigatarajaṃ vitiṇṇakaṅkhaṃ, addakkhiṃ sugataṃ anomapaññaṃ.
๑๒๒๑ .
1221.
‘‘สฺวาหํ มุทิตมโน ปสนฺนจิโตฺต, อญฺชลิํ อกริํ ตถาคตสฺส;
‘‘Svāhaṃ muditamano pasannacitto, añjaliṃ akariṃ tathāgatassa;
ตาหํ กุสลํ กริตฺวาน กมฺมํ, ติทสานํ สหพฺยตํ คโต’’ติฯ
Tāhaṃ kusalaṃ karitvāna kammaṃ, tidasānaṃ sahabyataṃ gato’’ti.
๑๒๒๒.
1222.
‘‘อจฺฉริยํ วต อพฺภุตํ วต, อญฺชลิกมฺมสฺส อยมีทิโส วิปาโก;
‘‘Acchariyaṃ vata abbhutaṃ vata, añjalikammassa ayamīdiso vipāko;
อหมฺปิ มุทิตมโน ปสนฺนจิโตฺต, อเชฺชว พุทฺธํ สรณํ วชามี’’ติฯ
Ahampi muditamano pasannacitto, ajjeva buddhaṃ saraṇaṃ vajāmī’’ti.
๑๒๒๓.
1223.
‘‘อเชฺชว พุทฺธํ สรณํ วชาหิ, ธมฺมญฺจ สงฺฆญฺจ ปสนฺนจิโตฺต;
‘‘Ajjeva buddhaṃ saraṇaṃ vajāhi, dhammañca saṅghañca pasannacitto;
ตเถว สิกฺขาย ปทานิ ปญฺจ, อขณฺฑผุลฺลานิ สมาทิยสฺสุฯ
Tatheva sikkhāya padāni pañca, akhaṇḍaphullāni samādiyassu.
๑๒๒๔.
1224.
‘‘ปาณาติปาตา วิรมสฺสุ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยสฺสุ;
‘‘Pāṇātipātā viramassu khippaṃ, loke adinnaṃ parivajjayassu;
อมชฺชโป มา จ มุสา ภณาหิ, สเกน ทาเรน จ โหหิ ตุโฎฺฐ’’ติฯ
Amajjapo mā ca musā bhaṇāhi, sakena dārena ca hohi tuṭṭho’’ti.
๑๒๒๕.
1225.
‘‘อตฺถกาโมสิ เม ยกฺข, หิตกาโมสิ เทวเต;
‘‘Atthakāmosi me yakkha, hitakāmosi devate;
กโรมิ ตุยฺหํ วจนํ, ตฺวํสิ อาจริโย มมาติฯ
Karomi tuyhaṃ vacanaṃ, tvaṃsi ācariyo mamāti.
๑๒๒๖.
1226.
‘‘อุเปมิ สรณํ พุทฺธํ, ธมฺมญฺจาปิ อนุตฺตรํ;
‘‘Upemi saraṇaṃ buddhaṃ, dhammañcāpi anuttaraṃ;
สงฺฆญฺจ นรเทวสฺส, คจฺฉามิ สรณํ อหํฯ
Saṅghañca naradevassa, gacchāmi saraṇaṃ ahaṃ.
๑๒๒๗.
1227.
‘‘ปาณาติปาตา วิรมามิ ขิปฺปํ, โลเก อทินฺนํ ปริวชฺชยามิ;
‘‘Pāṇātipātā viramāmi khippaṃ, loke adinnaṃ parivajjayāmi;
อมชฺชโป โน จ มุสา ภณามิ, สเกน ทาเรน จ โหมิ ตุโฎฺฐ’’ติฯ
Amajjapo no ca musā bhaṇāmi, sakena dārena ca homi tuṭṭho’’ti.
มฎฺฐกุณฺฑลีวิมานํ นวมํฯ
Maṭṭhakuṇḍalīvimānaṃ navamaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / วิมานวตฺถุ-อฎฺฐกถา • Vimānavatthu-aṭṭhakathā / ๙. มฎฺฐกุณฺฑลีวิมานวณฺณนา • 9. Maṭṭhakuṇḍalīvimānavaṇṇanā