Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi |
๕๐. มาตุฆาตกาทิวตฺถุกถา
50. Mātughātakādivatthukathā
๑๑๒. นิกฺขนฺตินฺติ เอตฺถ ‘‘อิมสฺส ปาปกมฺมสฺสา’’ติ ฉฎฺฐีโยคตฺตา ภาวเตฺถ ติปจฺจโยติ อาห ‘‘นิกฺขมน’’นฺติฯ อปวาหนนฺติ อปายปฎิสนฺธิวหนโต อปคมนํฯ เยนาติ มนุสฺสภูเตน เยน ชีวิตา โวโรปิตาติ สมฺพโนฺธฯ มนุสฺสิตฺถิภูตาติ มนุสฺสิตฺถี หุตฺวา ภูตา, มนุสฺสิตฺถีภาวํ วา ภูตา ปตฺตาฯ อิมินา ติรจฺฉานคติตฺถิอาทโย นิวเตฺตติฯ ‘‘ชนิกา’’ติ อิมินา โปสาวนิกมาตาทโย นิวเตฺตติฯ สยมฺปีติ เอตฺถ ปิสโทฺท น เกวลํ มาตาเยว, อถ โข ปุเตฺตนาปีติ ทเสฺสติฯ สตาติ สเนฺตนฯ มนุสฺสชาติเกเนว สตา มนุสฺสชาติโก เอว หุตฺวา โวโรปิตาติ โยชนาฯ อนนฺตเร ภเว ผลํ นิพฺพเตฺตตีติ อานนฺตริยํ, มาตุฆาตกกมฺมํ, เตน ชาติสามญฺญมฺปิ อชนิกํ ฆาเตโนฺต จ ชนิกมฺปิ ชาติเภทํ ฆาเตโนฺต จ น อนนฺตริโก โหติ, ตสฺส ปพฺพชฺชา จ อุปสมฺปทา จ น วาริตาติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘เยน ปนา’’ติอาทิฯ ตตฺถ โปเสติ วเทฺธตีติ โปสาปนิยา, สา เอว โปสาวนิกา ปการสฺส วการํ, ยการสฺส จ กการํ กตฺวา, โปสาวนิกา จ สา มาตา เจติ โปสาวนิกมาตาฯ อสฺสาติ ปุตฺตสฺสฯ อิทํ ปทํ ปุพฺพาปราเปกฺขํฯ ตตฺถ ปุพฺพปเท ภาวสมฺพโนฺธ, ปจฺฉิมปเท สามิสมฺพโนฺธฯ สพฺพถา เอเสว นโย โหตีติ อาห ‘‘สเจปี’’ติอาทิฯ เวสิยาติ อุปลกฺขณวเสน วุตฺตํ ฯ ยาย กายจิ อิตฺถิยา ปุตฺตสฺสาปิ คเหตพฺพตฺตาฯ ‘‘อยํ เม ปิตา’’ติ อชานนเมว หิ ปมาณํฯ อเนนาติ อิมินา ปุเตฺตนฯ ‘‘ปิตุฆาตโกเตฺวว สงฺขฺยํ คจฺฉตี’’ติ อิมินา มาตุฆาตเกปิ ‘‘อยํ เม มาตา’’ติ อชานิตฺวา ฆาเตโนฺตปิ มาตุฆาตโกเตฺวว สงฺขฺยํ คจฺฉตีติ ทเสฺสติฯ
112.Nikkhantinti ettha ‘‘imassa pāpakammassā’’ti chaṭṭhīyogattā bhāvatthe tipaccayoti āha ‘‘nikkhamana’’nti. Apavāhananti apāyapaṭisandhivahanato apagamanaṃ. Yenāti manussabhūtena yena jīvitā voropitāti sambandho. Manussitthibhūtāti manussitthī hutvā bhūtā, manussitthībhāvaṃ vā bhūtā pattā. Iminā tiracchānagatitthiādayo nivatteti. ‘‘Janikā’’ti iminā posāvanikamātādayo nivatteti. Sayampīti ettha pisaddo na kevalaṃ mātāyeva, atha kho puttenāpīti dasseti. Satāti santena. Manussajātikeneva satā manussajātiko eva hutvā voropitāti yojanā. Anantare bhave phalaṃ nibbattetīti ānantariyaṃ, mātughātakakammaṃ, tena jātisāmaññampi ajanikaṃ ghātento ca janikampi jātibhedaṃ ghātento ca na anantariko hoti, tassa pabbajjā ca upasampadā ca na vāritāti dassento āha ‘‘yena panā’’tiādi. Tattha poseti vaddhetīti posāpaniyā, sā eva posāvanikā pakārassa vakāraṃ, yakārassa ca kakāraṃ katvā, posāvanikā ca sā mātā ceti posāvanikamātā. Assāti puttassa. Idaṃ padaṃ pubbāparāpekkhaṃ. Tattha pubbapade bhāvasambandho, pacchimapade sāmisambandho. Sabbathā eseva nayo hotīti āha ‘‘sacepī’’tiādi. Vesiyāti upalakkhaṇavasena vuttaṃ . Yāya kāyaci itthiyā puttassāpi gahetabbattā. ‘‘Ayaṃ me pitā’’ti ajānanameva hi pamāṇaṃ. Anenāti iminā puttena. ‘‘Pitughātakotveva saṅkhyaṃ gacchatī’’ti iminā mātughātakepi ‘‘ayaṃ me mātā’’ti ajānitvā ghātentopi mātughātakotveva saṅkhyaṃ gacchatīti dasseti.
๑๑๔. สเงฺขเปน วุตฺตมตฺถํ วิตฺถาเรน ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘มนุสฺสชาติยํ หี’’ติอาทิฯ อปพฺพชิตนฺติ คิหิภูตํฯ ปพฺพชฺชา จสฺสาติ เอตฺถ จสเทฺทน อุปสมฺปทาปิ วาริตาติ ทเสฺสติฯ อสฺสาติ อรหนฺตฆาตกสฺสฯ อวเสสนฺติ อรหนฺตโต อวเสสํฯ อสฺสาติ อริยฆาตกสฺสฯ อานนฺตริโย น โหติ ติรจฺฉานคตตฺตา ปนสฺส ปพฺพชฺชา วาริตาติ อโตฺถ เนตโพฺพฯ เอตฺถาติ มาตุฆาตกาทิกเมฺมสุฯ วธายาติ ตทเตฺถ จตุตฺถีติ อาห ‘‘วธตฺถายา’’ติฯ ‘‘มาเรตุ’’นฺติ อิมินา ‘‘วธตฺถายา’’ติ เอตฺถ หนธาตุ หิํสนโตฺถติ ทเสฺสติฯ ‘‘นียนฺตี’’ติ อิมินา โอนียนฺตีติ เอตฺถ โอตฺยูปสโคฺค ธาตฺวตฺถานุวตฺตโกติ ทเสฺสติฯ ยํ ปน วจนํ วุตฺตนฺติ สมฺพโนฺธฯ ตสฺส วจนสฺส อโตฺถติ โยชนาฯ ‘‘สจา จ อิติ อยํ นิปาโต วุโตฺต’’ติ อิมินา ภยปีฬิตตฺตา จ นิรุตฺตีสุ อกุสลตฺตา จ ทวาภณเนน รวาภณเนน อยํ นิปาโต โจเรหิ วุโตฺตติ ทเสฺสติฯ ‘‘สเจ จ อิเจฺจว วา ปาโฐ’’ติ อิมินา เตหิ ตถา วุเตฺตปิ สงฺคีติกาเล วา โปตฺถการูฬฺหกาเล วา ยถาภูตํ สงฺคีตตฺตา, โปตฺถการูฬฺหตฺตา จ ยถาภูโต ปาโฐ อตฺถีติ ทเสฺสติฯ ตตฺถาติ เตสุ ปเทสุฯ นิทฺธารเณ ภุมฺมํฯ ตสฺสาติ ‘‘สจชฺช มย’’นฺติ ปาฐสฺสฯ ‘‘สเจ อชฺช มย’’นฺติ อิมินา เอการโลปสนฺธิํ ทเสฺสติฯ ‘‘สเจชฺช มย’’นฺติ อการโลปสนฺธินาปิ ปาโฐ อตฺถิฯ
114. Saṅkhepena vuttamatthaṃ vitthārena dassento āha ‘‘manussajātiyaṃ hī’’tiādi. Apabbajitanti gihibhūtaṃ. Pabbajjā cassāti ettha casaddena upasampadāpi vāritāti dasseti. Assāti arahantaghātakassa. Avasesanti arahantato avasesaṃ. Assāti ariyaghātakassa. Ānantariyo na hoti tiracchānagatattā panassa pabbajjā vāritāti attho netabbo. Etthāti mātughātakādikammesu. Vadhāyāti tadatthe catutthīti āha ‘‘vadhatthāyā’’ti. ‘‘Māretu’’nti iminā ‘‘vadhatthāyā’’ti ettha hanadhātu hiṃsanatthoti dasseti. ‘‘Nīyantī’’ti iminā onīyantīti ettha otyūpasaggo dhātvatthānuvattakoti dasseti. Yaṃ pana vacanaṃ vuttanti sambandho. Tassa vacanassa atthoti yojanā. ‘‘Sacā ca iti ayaṃ nipāto vutto’’ti iminā bhayapīḷitattā ca niruttīsu akusalattā ca davābhaṇanena ravābhaṇanena ayaṃ nipāto corehi vuttoti dasseti. ‘‘Sace ca icceva vā pāṭho’’ti iminā tehi tathā vuttepi saṅgītikāle vā potthakārūḷhakāle vā yathābhūtaṃ saṅgītattā, potthakārūḷhattā ca yathābhūto pāṭho atthīti dasseti. Tatthāti tesu padesu. Niddhāraṇe bhummaṃ. Tassāti ‘‘sacajja maya’’nti pāṭhassa. ‘‘Sace ajja maya’’nti iminā ekāralopasandhiṃ dasseti. ‘‘Sacejja maya’’nti akāralopasandhināpi pāṭho atthi.
๑๑๕. ปกตตฺตนฺติ ปกติยา สีลสงฺขาโต อตฺตา สภาโว เอติสฺสาติ ปกตตฺตา, ตํฯ กายสํสเคฺคน ภิกฺขุนีนํ ปาราชิกตฺตา วุตฺตํ ‘‘สีลวินาสํ ปาเปตี’’ติฯ อนิจฺฉมานํเยว ภิกฺขุนินฺติ สมฺพโนฺธฯ
115.Pakatattanti pakatiyā sīlasaṅkhāto attā sabhāvo etissāti pakatattā, taṃ. Kāyasaṃsaggena bhikkhunīnaṃ pārājikattā vuttaṃ ‘‘sīlavināsaṃ pāpetī’’ti. Anicchamānaṃyeva bhikkhuninti sambandho.
อิจฺฉมานนฺติ โอทาตวตฺถวสนํ อิจฺฉมานํฯ ยสฺมา อภิกฺขุนี โหติ, ตสฺมา ภิกฺขุนีทูสโก น โหตีติ โยชนาฯ สีลวิปนฺนํ ภิกฺขุนินฺติ สมฺพโนฺธฯ
Icchamānanti odātavatthavasanaṃ icchamānaṃ. Yasmā abhikkhunī hoti, tasmā bhikkhunīdūsako na hotīti yojanā. Sīlavipannaṃ bhikkhuninti sambandho.
โย เทวทโตฺต สงฺฆํ ภินฺทติ วิย, ภินฺทตีติ โยชนาฯ อุทฺธมฺมนฺติ ธมฺมโต วิรหิตํฯ อุพฺพินยนฺติ วินยโต วิรหิตํฯ จตุนฺนํ กมฺมานนฺติ อปโลกนาทีนํ จตุนฺนํ กมฺมานํฯ
Yo devadatto saṅghaṃ bhindati viya, bhindatīti yojanā. Uddhammanti dhammato virahitaṃ. Ubbinayanti vinayato virahitaṃ. Catunnaṃ kammānanti apalokanādīnaṃ catunnaṃ kammānaṃ.
โย เทวทโตฺต โลหิตํ อุปฺปาเทติ วิย, อุปฺปาเทตีติ โยชนาฯ ทุฎฺฐจิเตฺตนาติ เอตฺถ น ยํกิญฺจิ ทุฎฺฐจิตฺตํ ทุฎฺฐจิตฺตํ นาม, อถ โข วธกจิตฺตนฺติ อาห ‘‘วธกจิเตฺตนา’’ติฯ สรีเรติ สรีรพฺภนฺตเรฯ ตถาคตสฺส หิ อเภชฺชกายตฺตา ปรูปกฺกเมน จมฺมเจฺฉทํ กตฺวา โลหิตสฺส อุปฺปาทนํ นาม นตฺถิฯ โย ปน ชีวโก ผาสุํ กโรติ วิย, ผาสุํ กโรตีติ โยชนาฯ โลหิตญฺจาติ ปูติโลหิตญฺจฯ
Yo devadatto lohitaṃ uppādeti viya, uppādetīti yojanā. Duṭṭhacittenāti ettha na yaṃkiñci duṭṭhacittaṃ duṭṭhacittaṃ nāma, atha kho vadhakacittanti āha ‘‘vadhakacittenā’’ti. Sarīreti sarīrabbhantare. Tathāgatassa hi abhejjakāyattā parūpakkamena cammacchedaṃ katvā lohitassa uppādanaṃ nāma natthi. Yo pana jīvako phāsuṃ karoti viya, phāsuṃ karotīti yojanā. Lohitañcāti pūtilohitañca.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi
๕๐. มาตุฆาตกวตฺถุ • 50. Mātughātakavatthu
๕๒. อรหนฺตฆาตกวตฺถุ • 52. Arahantaghātakavatthu
๕๓. ภิกฺขุนีทูสกวตฺถุ • 53. Bhikkhunīdūsakavatthu
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / มาตุฆาตกาทิวตฺถุกถา • Mātughātakādivatthukathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / มาตุฆาตกาทิวตฺถุกถาวณฺณนา • Mātughātakādivatthukathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / มาตุฆาตกาทิวตฺถุกถาวณฺณนา • Mātughātakādivatthukathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / มาตุฆาตกาทิกถาวณฺณนา • Mātughātakādikathāvaṇṇanā