Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อุทานปาฬิ • Udānapāḷi |
๔. เมฆิยวโคฺค
4. Meghiyavaggo
๑. เมฆิยสุตฺตํ
1. Meghiyasuttaṃ
๓๑. เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา จาลิกายํ วิหรติ จาลิเก ปพฺพเตฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา เมฆิโย ภควโต อุปฎฺฐาโก โหติฯ อถ โข อายสฺมา เมฆิโย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฎฺฐาสิฯ เอกมนฺตํ ฐิโต โข อายสฺมา เมฆิโย ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิจฺฉามหํ, ภเนฺต, ชนฺตุคามํ ปิณฺฑาย ปวิสิตุ’’นฺติฯ ‘‘ยสฺสทานิ ตฺวํ, เมฆิย, กาลํ มญฺญสี’’ติฯ
31. Evaṃ me sutaṃ – ekaṃ samayaṃ bhagavā cālikāyaṃ viharati cālike pabbate. Tena kho pana samayena āyasmā meghiyo bhagavato upaṭṭhāko hoti. Atha kho āyasmā meghiyo yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ aṭṭhāsi. Ekamantaṃ ṭhito kho āyasmā meghiyo bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘icchāmahaṃ, bhante, jantugāmaṃ piṇḍāya pavisitu’’nti. ‘‘Yassadāni tvaṃ, meghiya, kālaṃ maññasī’’ti.
อถ โข อายสฺมา เมฆิโย ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ชนฺตุคามํ ปิณฺฑาย ปาวิสิฯ ชนฺตุคาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฎิกฺกโนฺต เยน กิมิกาฬาย นทิยา ตีรํ เตนุปสงฺกมิฯ 1 อทฺทสา โข อายสฺมา เมฆิโย 2 กิมิกาฬาย นทิยา ตีเร ชงฺฆาวิหารํ 3 อนุจงฺกมมาโน อนุวิจรมาโน 4 อมฺพวนํ ปาสาทิกํ มนุญฺญํ รมณียํฯ ทิสฺวานสฺส เอตทโหสิ – ‘‘ปาสาทิกํ วติทํ อมฺพวนํ มนุญฺญํ 5 รมณียํฯ อลํ วติทํ กุลปุตฺตสฺส ปธานตฺถิกสฺส ปธานายฯ สเจ มํ ภควา อนุชาเนยฺย, อาคเจฺฉยฺยาหํ อิมํ อมฺพวนํ ปธานายา’’ติฯ
Atha kho āyasmā meghiyo pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya jantugāmaṃ piṇḍāya pāvisi. Jantugāme piṇḍāya caritvā pacchābhattaṃ piṇḍapātapaṭikkanto yena kimikāḷāya nadiyā tīraṃ tenupasaṅkami. 6 Addasā kho āyasmā meghiyo 7 kimikāḷāya nadiyā tīre jaṅghāvihāraṃ 8 anucaṅkamamāno anuvicaramāno 9 ambavanaṃ pāsādikaṃ manuññaṃ ramaṇīyaṃ. Disvānassa etadahosi – ‘‘pāsādikaṃ vatidaṃ ambavanaṃ manuññaṃ 10 ramaṇīyaṃ. Alaṃ vatidaṃ kulaputtassa padhānatthikassa padhānāya. Sace maṃ bhagavā anujāneyya, āgaccheyyāhaṃ imaṃ ambavanaṃ padhānāyā’’ti.
อถ โข อายสฺมา เมฆิโย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อายสฺมา เมฆิโย ภควนฺตํ เอตทโวจ –
Atha kho āyasmā meghiyo yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho āyasmā meghiyo bhagavantaṃ etadavoca –
‘‘อิธาหํ, ภเนฺต, ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย ชนฺตุคามํ ปิณฺฑาย ปาวิสิํฯ ชนฺตุคาเม ปิณฺฑาย จริตฺวา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฎิกฺกโนฺต เยน กิมิกาฬาย นทิยา ตีรํ เตนุปสงฺกมิํ 11ฯ อทฺทสํ โข อหํ, ภเนฺต 12, กิมิกาฬาย นทิยา ตีเร ชงฺฆาวิหารํ อนุจงฺกมมาโน อนุวิจรมาโน 13 อมฺพวนํ ปาสาทิกํ มนุญฺญํ รมณียํฯ ทิสฺวาน เม เอตทโหสิ – ‘ปาสาทิกํ วติทํ อมฺพวนํ มนุญฺญํ รมณียํฯ อลํ วติทํ กุลปุตฺตสฺส ปธานตฺถิกสฺส ปธานายฯ สเจ มํ ภควา อนุชาเนยฺย, อาคเจฺฉยฺยาหํ อิมํ อมฺพวนํ ปธานายา’ติฯ สเจ มํ, ภเนฺต, ภควา อนุชานาติ 14, คเจฺฉยฺยาหํ ตํ อมฺพวนํ ปธานายา’’ติฯ
‘‘Idhāhaṃ, bhante, pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya jantugāmaṃ piṇḍāya pāvisiṃ. Jantugāme piṇḍāya caritvā pacchābhattaṃ piṇḍapātapaṭikkanto yena kimikāḷāya nadiyā tīraṃ tenupasaṅkamiṃ 15. Addasaṃ kho ahaṃ, bhante 16, kimikāḷāya nadiyā tīre jaṅghāvihāraṃ anucaṅkamamāno anuvicaramāno 17 ambavanaṃ pāsādikaṃ manuññaṃ ramaṇīyaṃ. Disvāna me etadahosi – ‘pāsādikaṃ vatidaṃ ambavanaṃ manuññaṃ ramaṇīyaṃ. Alaṃ vatidaṃ kulaputtassa padhānatthikassa padhānāya. Sace maṃ bhagavā anujāneyya, āgaccheyyāhaṃ imaṃ ambavanaṃ padhānāyā’ti. Sace maṃ, bhante, bhagavā anujānāti 18, gaccheyyāhaṃ taṃ ambavanaṃ padhānāyā’’ti.
เอวํ วุเตฺต, ภควา อายสฺมนฺตํ เมฆิยํ เอตทโวจ – ‘‘อาคเมหิ ตาว, เมฆิย, เอกกมฺหิ 19 ตาว, ยาว อโญฺญปิ โกจิ ภิกฺขุ อาคจฺฉตี’’ติฯ
Evaṃ vutte, bhagavā āyasmantaṃ meghiyaṃ etadavoca – ‘‘āgamehi tāva, meghiya, ekakamhi 20 tāva, yāva aññopi koci bhikkhu āgacchatī’’ti.
ทุติยมฺปิ โข อายสฺมา เมฆิโย ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ภควโต, ภเนฺต, นตฺถิ กิญฺจิ อุตฺตริ 21 กรณียํ, นตฺถิ กตสฺส วา ปติจโยฯ มยฺหํ โข ปน, ภเนฺต, อตฺถิ อุตฺตริ กรณียํ, อตฺถิ กตสฺส ปติจโยฯ สเจ มํ ภควา อนุชานาติ, คเจฺฉยฺยาหํ ตํ อมฺพวนํ ปธานายา’’ติฯ ทุติยมฺปิ โข ภควา อายสฺมนฺตํ เมฆิยํ เอตทโวจ – ‘‘อาคเมหิ ตาว, เมฆิย, เอกกมฺหิ ตาว, ยาว อโญฺญปิ โกจิ ภิกฺขุ อาคจฺฉตี’’ติฯ
Dutiyampi kho āyasmā meghiyo bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘bhagavato, bhante, natthi kiñci uttari 22 karaṇīyaṃ, natthi katassa vā paticayo. Mayhaṃ kho pana, bhante, atthi uttari karaṇīyaṃ, atthi katassa paticayo. Sace maṃ bhagavā anujānāti, gaccheyyāhaṃ taṃ ambavanaṃ padhānāyā’’ti. Dutiyampi kho bhagavā āyasmantaṃ meghiyaṃ etadavoca – ‘‘āgamehi tāva, meghiya, ekakamhi tāva, yāva aññopi koci bhikkhu āgacchatī’’ti.
ตติยมฺปิ โข อายสฺมา เมฆิโย ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ภควโต, ภเนฺต, นตฺถิ กิญฺจิ อุตฺตริ กรณียํ, นตฺถิ กตสฺส วา ปติจโยฯ มยฺหํ โข ปน, ภเนฺต, อตฺถิ อุตฺตริ กรณียํ, อตฺถิ กตสฺส ปติจโยฯ สเจ มํ ภควา อนุชานาติ, คเจฺฉยฺยาหํ ตํ อมฺพวนํ ปธานายา’’ติฯ ‘‘ปธานนฺติ โข, เมฆิย, วทมานํ กินฺติ วเทยฺยาม? ยสฺสทานิ ตฺวํ, เมฆิย, กาลํ มญฺญสี’’ติฯ
Tatiyampi kho āyasmā meghiyo bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘bhagavato, bhante, natthi kiñci uttari karaṇīyaṃ, natthi katassa vā paticayo. Mayhaṃ kho pana, bhante, atthi uttari karaṇīyaṃ, atthi katassa paticayo. Sace maṃ bhagavā anujānāti, gaccheyyāhaṃ taṃ ambavanaṃ padhānāyā’’ti. ‘‘Padhānanti kho, meghiya, vadamānaṃ kinti vadeyyāma? Yassadāni tvaṃ, meghiya, kālaṃ maññasī’’ti.
อถ โข อายสฺมา เมฆิโย อุฎฺฐายาสนา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา เยน ตํ อมฺพวนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ตํ อมฺพวนํ อโชฺฌคาเหตฺวา 23 อญฺญตรสฺมิํ รุกฺขมูเล ทิวาวิหารํ นิสีทิฯ อถ โข อายสฺมโต เมฆิยสฺส ตสฺมิํ อมฺพวเน วิหรนฺตสฺส เยภุเยฺยน ตโย ปาปกา อกุสลา วิตกฺกา สมุทาจรนฺติ, เสยฺยถิทํ – กามวิตโกฺก, พฺยาปาทวิตโกฺก, วิหิํสาวิตโกฺก 24ฯ
Atha kho āyasmā meghiyo uṭṭhāyāsanā bhagavantaṃ abhivādetvā padakkhiṇaṃ katvā yena taṃ ambavanaṃ tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā taṃ ambavanaṃ ajjhogāhetvā 25 aññatarasmiṃ rukkhamūle divāvihāraṃ nisīdi. Atha kho āyasmato meghiyassa tasmiṃ ambavane viharantassa yebhuyyena tayo pāpakā akusalā vitakkā samudācaranti, seyyathidaṃ – kāmavitakko, byāpādavitakko, vihiṃsāvitakko 26.
อถ โข อายสฺมโต เมฆิยสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อจฺฉริยํ วต โภ, อพฺภุตํ วต โภ! สทฺธาย จ วตมฺหา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตาฯ อถ จ ปนิเมหิ ตีหิ ปาปเกหิ อกุสเลหิ วิตเกฺกหิ อนฺวาสตฺตา, เสยฺยถิทํ – กามวิตเกฺกน, พฺยาปาทวิตเกฺกน, วิหิํสาวิตเกฺกน’’ฯ
Atha kho āyasmato meghiyassa etadahosi – ‘‘acchariyaṃ vata bho, abbhutaṃ vata bho! Saddhāya ca vatamhā agārasmā anagāriyaṃ pabbajitā. Atha ca panimehi tīhi pāpakehi akusalehi vitakkehi anvāsattā, seyyathidaṃ – kāmavitakkena, byāpādavitakkena, vihiṃsāvitakkena’’.
อถ โข อายสฺมา เมฆิโย สายนฺหสมยํ ปฎิสลฺลานา วุฎฺฐิโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข อายสฺมา เมฆิโย ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อิธ มยฺหํ, ภเนฺต, ตสฺมิํ อมฺพวเน วิหรนฺตสฺส เยภุเยฺยน ตโย ปาปกา อกุสลา วิตกฺกา สมุทาจรนฺติ, เสยฺยถิทํ – กามวิตโกฺก, พฺยาปาทวิตโกฺก, วิหิํสาวิตโกฺก ฯ ตสฺส มยฺหํ, ภเนฺต, เอตทโหสิ – ‘อจฺฉริยํ วต, โภ, อพฺภุตํ วต, โภ! สทฺธาย จ วตมฺหา อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชิตาฯ อถ จ ปนิเมหิ ตีหิ ปาปเกหิ อกุสเลหิ วิตเกฺกหิ อนฺวาสตฺตา, เสยฺยถิทํ – กามวิตเกฺกน, พฺยาปาทวิตเกฺกน, วิหิํสาวิตเกฺกน’’’ฯ
Atha kho āyasmā meghiyo sāyanhasamayaṃ paṭisallānā vuṭṭhito yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavantaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho āyasmā meghiyo bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘idha mayhaṃ, bhante, tasmiṃ ambavane viharantassa yebhuyyena tayo pāpakā akusalā vitakkā samudācaranti, seyyathidaṃ – kāmavitakko, byāpādavitakko, vihiṃsāvitakko . Tassa mayhaṃ, bhante, etadahosi – ‘acchariyaṃ vata, bho, abbhutaṃ vata, bho! Saddhāya ca vatamhā agārasmā anagāriyaṃ pabbajitā. Atha ca panimehi tīhi pāpakehi akusalehi vitakkehi anvāsattā, seyyathidaṃ – kāmavitakkena, byāpādavitakkena, vihiṃsāvitakkena’’’.
‘‘อปริปกฺกาย , เมฆิย, เจโตวิมุตฺติยา ปญฺจ ธมฺมา ปริปากาย สํวตฺตนฺติฯ กตเม ปญฺจ?
‘‘Aparipakkāya , meghiya, cetovimuttiyā pañca dhammā paripākāya saṃvattanti. Katame pañca?
‘‘อิธ, เมฆิย, ภิกฺขุ กลฺยาณมิโตฺต โหติ กลฺยาณสหาโย กลฺยาณสมฺปวโงฺกฯ อปริปกฺกาย, เมฆิย, เจโตวิมุตฺติยา อยํ ปฐโม ธโมฺม ปริปากาย สํวตฺตติฯ
‘‘Idha, meghiya, bhikkhu kalyāṇamitto hoti kalyāṇasahāyo kalyāṇasampavaṅko. Aparipakkāya, meghiya, cetovimuttiyā ayaṃ paṭhamo dhammo paripākāya saṃvattati.
‘‘ปุน จปรํ, เมฆิย, ภิกฺขุ สีลวา โหติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหรติ อาจารโคจรสมฺปโนฺน, อณุมเตฺตสุ วเชฺชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุฯ อปริปกฺกาย, เมฆิย, เจโตวิมุตฺติยา อยํ ทุติโย ธโมฺม ปริปากาย สํวตฺตติฯ
‘‘Puna caparaṃ, meghiya, bhikkhu sīlavā hoti, pātimokkhasaṃvarasaṃvuto viharati ācāragocarasampanno, aṇumattesu vajjesu bhayadassāvī, samādāya sikkhati sikkhāpadesu. Aparipakkāya, meghiya, cetovimuttiyā ayaṃ dutiyo dhammo paripākāya saṃvattati.
‘‘ปุน จปรํ, เมฆิย, ภิกฺขุ ยายํ กถา อภิสเลฺลขิกา เจโตวิวรณสปฺปายา เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมาย อภิญฺญาย สโมฺพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ, เสยฺยถิทํ – อปฺปิจฺฉกถา, สนฺตุฎฺฐิกถา, ปวิเวกกถา, อสํสคฺคกถา, วีริยารมฺภกถา, สีลกถา, สมาธิกถา, ปญฺญากถา, วิมุตฺติกถา, วิมุตฺติญาณทสฺสนกถา; เอวรูปาย กถาย นิกามลาภี โหติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภีฯ อปริปากาย, เมฆิย, เจโตวิมุตฺติยา อยํ ตติโย ธโมฺม ปริปากาย สํวตฺตติฯ
‘‘Puna caparaṃ, meghiya, bhikkhu yāyaṃ kathā abhisallekhikā cetovivaraṇasappāyā ekantanibbidāya virāgāya nirodhāya upasamāya abhiññāya sambodhāya nibbānāya saṃvattati, seyyathidaṃ – appicchakathā, santuṭṭhikathā, pavivekakathā, asaṃsaggakathā, vīriyārambhakathā, sīlakathā, samādhikathā, paññākathā, vimuttikathā, vimuttiñāṇadassanakathā; evarūpāya kathāya nikāmalābhī hoti akicchalābhī akasiralābhī. Aparipākāya, meghiya, cetovimuttiyā ayaṃ tatiyo dhammo paripākāya saṃvattati.
‘‘ปุน จปรํ , เมฆิย, ภิกฺขุ อารทฺธวีริโย วิหรติ, อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย 27, ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธเมฺมสุฯ อปริปกฺกาย, เมฆิย, เจโตวิมุตฺติยา อยํ จตุโตฺถ ธโมฺม ปริปากาย สํวตฺตติฯ
‘‘Puna caparaṃ , meghiya, bhikkhu āraddhavīriyo viharati, akusalānaṃ dhammānaṃ pahānāya, kusalānaṃ dhammānaṃ upasampadāya 28, thāmavā daḷhaparakkamo anikkhittadhuro kusalesu dhammesu. Aparipakkāya, meghiya, cetovimuttiyā ayaṃ catuttho dhammo paripākāya saṃvattati.
‘‘ปุน จปรํ, เมฆิย, ภิกฺขุ ปญฺญวา โหติ อุทยตฺถคามินิยา ปญฺญาย สมนฺนาคโต อริยาย นิเพฺพธิกาย สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยาฯ อปริปกฺกาย, เมฆิย, เจโตวิมุตฺติยา อยํ ปญฺจโม ธโมฺม ปริปากาย สํวตฺตติฯ อปริปกฺกาย, เมฆิย, เจโตวิมุตฺติยา อิเม ปญฺจ ธมฺมา ปริปากาย สํวตฺตนฺติฯ
‘‘Puna caparaṃ, meghiya, bhikkhu paññavā hoti udayatthagāminiyā paññāya samannāgato ariyāya nibbedhikāya sammā dukkhakkhayagāminiyā. Aparipakkāya, meghiya, cetovimuttiyā ayaṃ pañcamo dhammo paripākāya saṃvattati. Aparipakkāya, meghiya, cetovimuttiyā ime pañca dhammā paripākāya saṃvattanti.
‘‘กลฺยาณมิตฺตเสฺสตํ , เมฆิย, ภิกฺขุโน ปาฎิกงฺขํ กลฺยาณสหายสฺส กลฺยาณสมฺปวงฺกสฺส ยํ สีลวา ภวิสฺสติ, ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต วิหริสฺสติ, อาจารโคจรสมฺปโนฺน, อณุมเตฺตสุ วเชฺชสุ ภยทสฺสาวี, สมาทาย สิกฺขิสฺสติ สิกฺขาปเทสุฯ
‘‘Kalyāṇamittassetaṃ , meghiya, bhikkhuno pāṭikaṅkhaṃ kalyāṇasahāyassa kalyāṇasampavaṅkassa yaṃ sīlavā bhavissati, pātimokkhasaṃvarasaṃvuto viharissati, ācāragocarasampanno, aṇumattesu vajjesu bhayadassāvī, samādāya sikkhissati sikkhāpadesu.
‘‘กลฺยาณมิตฺตเสฺสตํ , เมฆิย, ภิกฺขุโน ปาฎิกงฺขํ กลฺยาณสหายสฺส กลฺยาณสมฺปวงฺกสฺส ยํ ยายํ กถา อภิสเลฺลขิกา เจโตวิวรณสปฺปายา เอกนฺตนิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย อุปสมาย อภิญฺญาย สโมฺพธาย นิพฺพานาย สํวตฺตติ, เสยฺยถิทํ – อปฺปิจฺฉกถา, สนฺตุฎฺฐิกถา, ปวิเวกกถา, อสํสคฺคกถา, วีริยารมฺภกถา, สีลกถา, สมาธิกถา, ปญฺญากถา, วิมุตฺติกถา, วิมุตฺติญาณทสฺสนกถา; เอวรูปาย กถาย นิกามลาภี ภวิสฺสติ อกิจฺฉลาภี อกสิรลาภีฯ
‘‘Kalyāṇamittassetaṃ , meghiya, bhikkhuno pāṭikaṅkhaṃ kalyāṇasahāyassa kalyāṇasampavaṅkassa yaṃ yāyaṃ kathā abhisallekhikā cetovivaraṇasappāyā ekantanibbidāya virāgāya nirodhāya upasamāya abhiññāya sambodhāya nibbānāya saṃvattati, seyyathidaṃ – appicchakathā, santuṭṭhikathā, pavivekakathā, asaṃsaggakathā, vīriyārambhakathā, sīlakathā, samādhikathā, paññākathā, vimuttikathā, vimuttiñāṇadassanakathā; evarūpāya kathāya nikāmalābhī bhavissati akicchalābhī akasiralābhī.
‘‘กลฺยาณมิตฺตเสฺสตํ, เมฆิย, ภิกฺขุโน ปาฎิกงฺขํ กลฺยาณสหายสฺส กลฺยาณสมฺปวงฺกสฺส ยํ อารทฺธวีริโย วิหริสฺสติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย, ถามวา ทฬฺหปรกฺกโม อนิกฺขิตฺตธุโร กุสเลสุ ธเมฺมสุฯ
‘‘Kalyāṇamittassetaṃ, meghiya, bhikkhuno pāṭikaṅkhaṃ kalyāṇasahāyassa kalyāṇasampavaṅkassa yaṃ āraddhavīriyo viharissati akusalānaṃ dhammānaṃ pahānāya, kusalānaṃ dhammānaṃ upasampadāya, thāmavā daḷhaparakkamo anikkhittadhuro kusalesu dhammesu.
‘‘กลฺยาณมิตฺตเสฺสตํ, เมฆิย, ภิกฺขุโน ปาฎิกงฺขํ กลฺยาณสหายสฺส กลฺยาณสมฺปวงฺกสฺส ยํ ปญฺญวา ภวิสฺสติ, อุทยตฺถคามินิยา ปญฺญาย สมนฺนาคโต อริยาย นิเพฺพธิกาย สมฺมา ทุกฺขกฺขยคามินิยาฯ
‘‘Kalyāṇamittassetaṃ, meghiya, bhikkhuno pāṭikaṅkhaṃ kalyāṇasahāyassa kalyāṇasampavaṅkassa yaṃ paññavā bhavissati, udayatthagāminiyā paññāya samannāgato ariyāya nibbedhikāya sammā dukkhakkhayagāminiyā.
‘‘เตน จ ปน, เมฆิย, ภิกฺขุนา อิเมสุ ปญฺจสุ ธเมฺมสุ ปติฎฺฐาย จตฺตาโร ธมฺมา อุตฺตริ ภาเวตพฺพา – อสุภา ภาเวตพฺพา ราคสฺส ปหานาย, เมตฺตา ภาเวตพฺพา พฺยาปาทสฺส ปหานาย, อานาปานสฺสติ ภาเวตพฺพา วิตกฺกุปเจฺฉทาย, อนิจฺจสญฺญา ภาเวตพฺพา อสฺมิมานสมุคฺฆาตายฯ อนิจฺจสญฺญิโน หิ, เมฆิย, อนตฺตสญฺญา สณฺฐาติ, อนตฺตสญฺญี อสฺมิมานสมุคฺฆาตํ ปาปุณาติ ทิเฎฺฐว ธเมฺม นิพฺพาน’’นฺติฯ
‘‘Tena ca pana, meghiya, bhikkhunā imesu pañcasu dhammesu patiṭṭhāya cattāro dhammā uttari bhāvetabbā – asubhā bhāvetabbā rāgassa pahānāya, mettā bhāvetabbā byāpādassa pahānāya, ānāpānassati bhāvetabbā vitakkupacchedāya, aniccasaññā bhāvetabbā asmimānasamugghātāya. Aniccasaññino hi, meghiya, anattasaññā saṇṭhāti, anattasaññī asmimānasamugghātaṃ pāpuṇāti diṭṭheva dhamme nibbāna’’nti.
อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
Atha kho bhagavā etamatthaṃ viditvā tāyaṃ velāyaṃ imaṃ udānaṃ udānesi –
‘‘ขุทฺทา วิตกฺกา สุขุมา วิตกฺกา,
‘‘Khuddā vitakkā sukhumā vitakkā,
เอเต อวิทฺวา มนโส วิตเกฺก,
Ete avidvā manaso vitakke,
หุรา หุรํ ธาวติ ภนฺตจิโตฺตฯ
Hurā huraṃ dhāvati bhantacitto.
‘‘เอเต จ วิทฺวา มนโส วิตเกฺก,
‘‘Ete ca vidvā manaso vitakke,
อาตาปิโย สํวรตี สตีมา;
Ātāpiyo saṃvaratī satīmā;
อนุคเต มนโส อุปฺปิลาเว,
Anugate manaso uppilāve,
อเสสเมเต ปชหาสิ พุโทฺธ’’ติฯ ปฐมํ;
Asesamete pajahāsi buddho’’ti. paṭhamaṃ;
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / อุทาน-อฎฺฐกถา • Udāna-aṭṭhakathā / ๑. เมฆิยสุตฺตวณฺณนา • 1. Meghiyasuttavaṇṇanā