Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรคาถา-อฎฺฐกถา • Theragāthā-aṭṭhakathā

    ๘. เมณฺฑสิรเตฺถรคาถาวณฺณนา

    8. Meṇḍasirattheragāthāvaṇṇanā

    อเนกชาติสํสารนฺติ อายสฺมโต เมณฺฑสิรเตฺถรสฺส คาถาฯ กา อุปฺปตฺติ? โสปิ กิร ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิกาโร ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฎฺฎูปนิสฺสยานิ ปุญฺญานิ กโรโนฺต อิโต เอกนวุเต กเปฺป พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปโตฺต กาเม ปหาย อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา มหตา อิสิคเณน สทฺธิํ หิมวเนฺต วสโนฺต สตฺถารํ ทิสฺวา ปสนฺนมานโส อิสิคเณน ปทุมานิ อาหราเปตฺวา สตฺถุ ปุปฺผปูชํ กตฺวา สาวเก อปฺปมาทปฎิปตฺติยํ โอวทิตฺวา กาลํ กตฺวา เทวโลเก นิพฺพโตฺต อปราปรํ สํสรโนฺต อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท สาเกเต คหปติกุเล นิพฺพตฺติ, ตสฺส เมณฺฑสริกฺขสีสตาย เมณฺฑสิโรเตฺวว สมญฺญา อโหสิฯ โส ภควติ สาเกเต อญฺชนวเน วิหรเนฺต สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ปฎิลทฺธสโทฺธ ปพฺพชิตฺวา สมถวิปสฺสนาสุ กมฺมํ กโรโนฺต ฉฬภิโญฺญ อโหสิฯ เตว วุตฺตํ อปทาเน (อป. เถร ๑.๑๓.๙๗-๑๐๕) –

    Anekajātisaṃsāranti āyasmato meṇḍasirattherassa gāthā. Kā uppatti? Sopi kira purimabuddhesu katādhikāro tattha tattha bhave vivaṭṭūpanissayāni puññāni karonto ito ekanavute kappe brāhmaṇakule nibbattitvā vayappatto kāme pahāya isipabbajjaṃ pabbajitvā mahatā isigaṇena saddhiṃ himavante vasanto satthāraṃ disvā pasannamānaso isigaṇena padumāni āharāpetvā satthu pupphapūjaṃ katvā sāvake appamādapaṭipattiyaṃ ovaditvā kālaṃ katvā devaloke nibbatto aparāparaṃ saṃsaranto imasmiṃ buddhuppāde sākete gahapatikule nibbatti, tassa meṇḍasarikkhasīsatāya meṇḍasirotveva samaññā ahosi. So bhagavati sākete añjanavane viharante satthāraṃ upasaṅkamitvā paṭiladdhasaddho pabbajitvā samathavipassanāsu kammaṃ karonto chaḷabhiñño ahosi. Teva vuttaṃ apadāne (apa. thera 1.13.97-105) –

    ‘‘หิมวนฺตสฺสาวิทูเร, โคตโม นาม ปพฺพโต;

    ‘‘Himavantassāvidūre, gotamo nāma pabbato;

    นานารุเกฺขหิ สญฺฉโนฺน, มหาภูตคณาลโยฯ

    Nānārukkhehi sañchanno, mahābhūtagaṇālayo.

    ‘‘เวมชฺฌมฺหิ จ ตสฺสาสิ, อสฺสโม อภินิมฺมิโต;

    ‘‘Vemajjhamhi ca tassāsi, assamo abhinimmito;

    ปุรกฺขโต สสิเสฺสหิ, วสามิ อสฺสเม อหํฯ

    Purakkhato sasissehi, vasāmi assame ahaṃ.

    ‘‘อายนฺตุ เม สิสฺสคณา, ปทุมํ อาหรนฺตุ เม;

    ‘‘Āyantu me sissagaṇā, padumaṃ āharantu me;

    พุทฺธปูชํ กริสฺสามิ, ทฺวิปทินฺทสฺส ตาทิโนฯ

    Buddhapūjaṃ karissāmi, dvipadindassa tādino.

    ‘‘เอวนฺติ เต ปฎิสฺสุตฺวา, ปทุมํ อาหริํสุ เม;

    ‘‘Evanti te paṭissutvā, padumaṃ āhariṃsu me;

    ตถา นิมิตฺตํ กตฺวาหํ, พุทฺธสฺส อภิโรปยิํฯ

    Tathā nimittaṃ katvāhaṃ, buddhassa abhiropayiṃ.

    ‘‘สิเสฺส ตทา สมาเนตฺวา, สาธุกํ อนุสาสหํ;

    ‘‘Sisse tadā samānetvā, sādhukaṃ anusāsahaṃ;

    มา โข ตุเมฺห ปมชฺชิตฺถ, อปฺปมาโท สุขาวโหฯ

    Mā kho tumhe pamajjittha, appamādo sukhāvaho.

    ‘‘เอวํ สมนุสาสิตฺวา, เต สิเสฺส วจนกฺขเม;

    ‘‘Evaṃ samanusāsitvā, te sisse vacanakkhame;

    อปฺปมาทคุเณ ยุโตฺต, ตทา กาลงฺกโต อหํฯ

    Appamādaguṇe yutto, tadā kālaṅkato ahaṃ.

    ‘‘เอกนวุติโต กเปฺป, ยํ ปุปฺผมภิโรปยิํ;

    ‘‘Ekanavutito kappe, yaṃ pupphamabhiropayiṃ;

    ทุคฺคติํ นาภิชานามิ, พุทฺธปูชายิทํ ผลํฯ

    Duggatiṃ nābhijānāmi, buddhapūjāyidaṃ phalaṃ.

    ‘‘เอกปญฺญาสกปฺปมฺหิ , ราชา อาสิํ ชลุตฺตโม;

    ‘‘Ekapaññāsakappamhi , rājā āsiṃ jaluttamo;

    สตฺตรตนสมฺปโนฺน, จกฺกวตฺตี มหพฺพโลฯ

    Sattaratanasampanno, cakkavattī mahabbalo.

    ‘‘กิเลสา ฌาปิตา มยฺหํ…เป.… กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ

    ‘‘Kilesā jhāpitā mayhaṃ…pe… kataṃ buddhassa sāsana’’nti.

    โส อตฺตโน ปุเพฺพนิวาสํ อนุสฺสรโนฺต –

    So attano pubbenivāsaṃ anussaranto –

    ๗๘.

    78.

    ‘‘อเนกชาติสํสารํ, สนฺธาวิสฺสํ อนิพฺพิสํ;

    ‘‘Anekajātisaṃsāraṃ, sandhāvissaṃ anibbisaṃ;

    ตสฺส เม ทุกฺขชาตสฺส, ทุกฺขกฺขโนฺธ อปรโทฺธ’’ติฯ – คาถํ อภาสิ;

    Tassa me dukkhajātassa, dukkhakkhandho aparaddho’’ti. – gāthaṃ abhāsi;

    ตตฺถ อเนกชาติสํสารนฺติ อเนกชาติสตสหสฺสสงฺขฺยํ อิทํ สํสารวฎฺฎํ, อทฺธุโน อธิเปฺปตตฺตา อจฺจนฺตสํโยเคกวจนํฯ สนฺธาวิสฺสนฺติ สํสริํ, อปราปรํ จวนุปฺปชฺชนวเสน ปริพฺภมิํฯ อนิพฺพิสนฺติ ตสฺส นิวตฺตกญาณํ อวินฺทโนฺต อลภโนฺตฯ ตสฺส เมติ เอวํ สํสรนฺตสฺส เมฯ ทุกฺขชาตสฺสาติ ชาติอาทิวเสน อุปฺปนฺนทุกฺขสฺส, ติสฺสนฺนํ วา ทุกฺขตานํ วเสน ทุกฺขสภาวสฺสฯ ทุกฺขกฺขโนฺธติ กมฺมกิเลสวิปากวฎฺฎปฺปกาโร ทุกฺขราสิฯ อปรโทฺธติ อรหตฺตมคฺคปฺปตฺติโต ปฎฺฐาย ปริพฺภโฎฺฐ จุโต น อภินิพฺพตฺติสฺสติฯ ‘‘อปรโฎฺฐ’’ติ วา ปาโฐ, อปคตสมิทฺธิโต สมุจฺฉินฺนการณตฺตา อปคโตติ อโตฺถฯ อิทเมว จ เถรสฺส อญฺญาพฺยากรณํ อโหสิฯ

    Tattha anekajātisaṃsāranti anekajātisatasahassasaṅkhyaṃ idaṃ saṃsāravaṭṭaṃ, addhuno adhippetattā accantasaṃyogekavacanaṃ. Sandhāvissanti saṃsariṃ, aparāparaṃ cavanuppajjanavasena paribbhamiṃ. Anibbisanti tassa nivattakañāṇaṃ avindanto alabhanto. Tassa meti evaṃ saṃsarantassa me. Dukkhajātassāti jātiādivasena uppannadukkhassa, tissannaṃ vā dukkhatānaṃ vasena dukkhasabhāvassa. Dukkhakkhandhoti kammakilesavipākavaṭṭappakāro dukkharāsi. Aparaddhoti arahattamaggappattito paṭṭhāya paribbhaṭṭho cuto na abhinibbattissati. ‘‘Aparaṭṭho’’ti vā pāṭho, apagatasamiddhito samucchinnakāraṇattā apagatoti attho. Idameva ca therassa aññābyākaraṇaṃ ahosi.

    เมณฺฑสิรเตฺถรคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ

    Meṇḍasirattheragāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรคาถาปาฬิ • Theragāthāpāḷi / ๘. เมณฺฑสิรเตฺถรคาถา • 8. Meṇḍasirattheragāthā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact