Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / องฺคุตฺตรนิกาย • Aṅguttaranikāya |
๙. เมตฺตสุตฺตํ
9. Mettasuttaṃ
๖๒. 1 ‘‘มา , ภิกฺขเว, ปุญฺญานํ ภายิตฺถฯ สุขเสฺสตํ, ภิกฺขเว , อธิวจนํ ยทิทํ ปุญฺญานิ 2ฯ อภิชานามิ โข ปนาหํ 3, ภิกฺขเว, ทีฆรตฺตํ กตานํ ปุญฺญานํ ทีฆรตฺตํ อิฎฺฐํ 4 กนฺตํ มนาปํ วิปากํ ปจฺจนุภูตํฯ สตฺต วสฺสานิ เมตฺตํ จิตฺตํ ภาเวสิํ ฯ สตฺต วสฺสานิ เมตฺตํ จิตฺตํ ภาเวตฺวา สตฺต สํวฎฺฎวิวฎฺฎกเปฺป นยิมํ โลกํ ปุนาคมาสิํฯ สํวฎฺฎมาเน สุทาหํ 5, ภิกฺขเว, โลเก อาภสฺสรูปโค โหมิ, วิวฎฺฎมาเน โลเก สุญฺญํ พฺรหฺมวิมานํ อุปปชฺชามิฯ
62.6 ‘‘Mā , bhikkhave, puññānaṃ bhāyittha. Sukhassetaṃ, bhikkhave , adhivacanaṃ yadidaṃ puññāni 7. Abhijānāmi kho panāhaṃ 8, bhikkhave, dīgharattaṃ katānaṃ puññānaṃ dīgharattaṃ iṭṭhaṃ 9 kantaṃ manāpaṃ vipākaṃ paccanubhūtaṃ. Satta vassāni mettaṃ cittaṃ bhāvesiṃ . Satta vassāni mettaṃ cittaṃ bhāvetvā satta saṃvaṭṭavivaṭṭakappe nayimaṃ lokaṃ punāgamāsiṃ. Saṃvaṭṭamāne sudāhaṃ 10, bhikkhave, loke ābhassarūpago homi, vivaṭṭamāne loke suññaṃ brahmavimānaṃ upapajjāmi.
‘‘ตตฺร สุทํ, ภิกฺขเว, พฺรหฺมา โหมิ มหาพฺรหฺมา อภิภู อนภิภูโต อญฺญทตฺถุทโส วสวตฺตีฯ ฉตฺติํสกฺขตฺตุํ โข ปนาหํ, ภิกฺขเว, สโกฺก อโหสิํ เทวานมิโนฺท; อเนกสตกฺขตฺตุํ ราชา อโหสิํ จกฺกวตฺตี ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรโนฺต วิชิตาวี ชนปทตฺถาวริยปฺปโตฺต สตฺตรตนสมนฺนาคโตฯ ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, อิมานิ สตฺต รตนานิ อเหสุํ, เสยฺยถิทํ – จกฺกรตนํ, หตฺถิรตนํ, อสฺสรตนํ, มณิรตนํ, อิตฺถิรตนํ, คหปติรตนํ, ปริณายกรตนเมว สตฺตมํฯ ปโรสหสฺสํ โข ปน เม, ภิกฺขเว, ปุตฺตา อเหสุํ สูรา วีรงฺครูปา ปรเสนปฺปมทฺทนาฯ โส อิมํ ปถวิํ สาครปริยนฺตํ อทเณฺฑน อสเตฺถน ธเมฺมน อภิวิชิย อชฺฌาวสิ’’นฺติ 11ฯ
‘‘Tatra sudaṃ, bhikkhave, brahmā homi mahābrahmā abhibhū anabhibhūto aññadatthudaso vasavattī. Chattiṃsakkhattuṃ kho panāhaṃ, bhikkhave, sakko ahosiṃ devānamindo; anekasatakkhattuṃ rājā ahosiṃ cakkavattī dhammiko dhammarājā cāturanto vijitāvī janapadatthāvariyappatto sattaratanasamannāgato. Tassa mayhaṃ, bhikkhave, imāni satta ratanāni ahesuṃ, seyyathidaṃ – cakkaratanaṃ, hatthiratanaṃ, assaratanaṃ, maṇiratanaṃ, itthiratanaṃ, gahapatiratanaṃ, pariṇāyakaratanameva sattamaṃ. Parosahassaṃ kho pana me, bhikkhave, puttā ahesuṃ sūrā vīraṅgarūpā parasenappamaddanā. So imaṃ pathaviṃ sāgarapariyantaṃ adaṇḍena asatthena dhammena abhivijiya ajjhāvasi’’nti 12.
เมตฺตํ จิตฺตํ วิภาเวตฺวา, สตฺต วสฺสานิ ภิกฺขโว 15;
Mettaṃ cittaṃ vibhāvetvā, satta vassāni bhikkhavo 16;
สตฺตสํวฎฺฎวิวฎฺฎกเปฺป , นยิมํ โลกํ ปุนาคมิํ 17ฯ
Sattasaṃvaṭṭavivaṭṭakappe , nayimaṃ lokaṃ punāgamiṃ 18.
‘‘สํวฎฺฎมาเน โลกมฺหิ, โหมิ อาภสฺสรูปโค;
‘‘Saṃvaṭṭamāne lokamhi, homi ābhassarūpago;
วิวฎฺฎมาเน โลกสฺมิํ, สุญฺญพฺรหฺมูปโค อหุํฯ
Vivaṭṭamāne lokasmiṃ, suññabrahmūpago ahuṃ.
‘‘สตฺตกฺขตฺตุํ มหาพฺรหฺมา, วสวตฺตี ตทา อหุํ;
‘‘Sattakkhattuṃ mahābrahmā, vasavattī tadā ahuṃ;
ฉตฺติํสกฺขตฺตุํ เทวิโนฺท, เทวรชฺชมการยิํฯ
Chattiṃsakkhattuṃ devindo, devarajjamakārayiṃ.
‘‘อทเณฺฑน อสเตฺถน, วิเชยฺย ปถวิํ อิมํ;
‘‘Adaṇḍena asatthena, vijeyya pathaviṃ imaṃ;
‘‘ธเมฺมน รชฺชํ กาเรตฺวา, อสฺมิํ ปถวิมณฺฑเล;
‘‘Dhammena rajjaṃ kāretvā, asmiṃ pathavimaṇḍale;
มหทฺธเน มหาโภเค, อเฑฺฒ อชายิหํ กุเลฯ
Mahaddhane mahābhoge, aḍḍhe ajāyihaṃ kule.
พุทฺธา สงฺคาหกา โลเก, เตหิ เอตํ สุเทสิตํฯ
Buddhā saṅgāhakā loke, tehi etaṃ sudesitaṃ.
โก สุตฺวา นปฺปสีเทยฺย, อปิ กณฺหาภิชาติโยฯ
Ko sutvā nappasīdeyya, api kaṇhābhijātiyo.
สทฺธโมฺม ครุกาตโพฺพ, สรํ พุทฺธานสาสน’’นฺติฯ นวมํ;
Saddhammo garukātabbo, saraṃ buddhānasāsana’’nti. navamaṃ;
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / องฺคุตฺตรนิกาย (อฎฺฐกถา) • Aṅguttaranikāya (aṭṭhakathā) / ๙. เมตฺตสุตฺตวณฺณนา • 9. Mettasuttavaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / องฺคุตฺตรนิกาย (ฎีกา) • Aṅguttaranikāya (ṭīkā) / ๙. เมตฺตสุตฺตวณฺณนา • 9. Mettasuttavaṇṇanā