Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อิติวุตฺตกปาฬิ • Itivuttakapāḷi |
๒. เมตฺตสุตฺตํ
2. Mettasuttaṃ
๒๒. วุตฺตเญฺหตํ ภควตา, วุตฺตมรหตาติ เม สุตํ –
22. Vuttañhetaṃ bhagavatā, vuttamarahatāti me sutaṃ –
‘‘มา, ภิกฺขเว, ปุญฺญานํ ภายิตฺถ ฯ สุขเสฺสตํ, ภิกฺขเว, อธิวจนํ อิฎฺฐสฺส กนฺตสฺส ปิยสฺส มนาปสฺส ยทิทํ ปุญฺญานิ 1ฯ อภิชานามิ โข ปนาหํ, ภิกฺขเว, ทีฆรตฺตํ กตานํ ปุญฺญานํ อิฎฺฐํ กนฺตํ ปิยํ มนาปํ วิปากํ ปจฺจนุภูตํฯ สตฺต วสฺสานิ เมตฺตจิตฺตํ ภาเวตฺวา สตฺต สํวฎฺฎวิวฎฺฎกเปฺป นยิมํ โลกํ ปุนราคมาสิํฯ สํวฎฺฎมาเน สุทํ, ภิกฺขเว, กเปฺป อาภสฺสรูปโค โหมิ; วิวฎฺฎมาเน กเปฺป สุญฺญํ พฺรหฺมวิมานํ อุปปชฺชามิฯ
‘‘Mā, bhikkhave, puññānaṃ bhāyittha . Sukhassetaṃ, bhikkhave, adhivacanaṃ iṭṭhassa kantassa piyassa manāpassa yadidaṃ puññāni 2. Abhijānāmi kho panāhaṃ, bhikkhave, dīgharattaṃ katānaṃ puññānaṃ iṭṭhaṃ kantaṃ piyaṃ manāpaṃ vipākaṃ paccanubhūtaṃ. Satta vassāni mettacittaṃ bhāvetvā satta saṃvaṭṭavivaṭṭakappe nayimaṃ lokaṃ punarāgamāsiṃ. Saṃvaṭṭamāne sudaṃ, bhikkhave, kappe ābhassarūpago homi; vivaṭṭamāne kappe suññaṃ brahmavimānaṃ upapajjāmi.
‘‘ตตฺร สุทํ, ภิกฺขเว, พฺรหฺมา โหมิ มหาพฺรหฺมา อภิภู อนภิภูโต อญฺญทตฺถุทโส วสวตฺตีฯ ฉตฺติํสกฺขตฺตุํ โข ปนาหํ, ภิกฺขเว, สโกฺก อโหสิํ เทวานมิโนฺท; อเนกสตกฺขตฺตุํ ราชา อโหสิํ จกฺกวตฺตี ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรโนฺต วิชิตาวี ชนปทตฺถาวริยปฺปโตฺต สตฺตรตนสมนฺนาคโตฯ โก ปน วาโท ปเทสรชฺชสฺส!
‘‘Tatra sudaṃ, bhikkhave, brahmā homi mahābrahmā abhibhū anabhibhūto aññadatthudaso vasavattī. Chattiṃsakkhattuṃ kho panāhaṃ, bhikkhave, sakko ahosiṃ devānamindo; anekasatakkhattuṃ rājā ahosiṃ cakkavattī dhammiko dhammarājā cāturanto vijitāvī janapadatthāvariyappatto sattaratanasamannāgato. Ko pana vādo padesarajjassa!
‘‘ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ – ‘กิสฺส นุ โข เม อิทํ กมฺมสฺส ผลํ, กิสฺส กมฺมสฺส วิปาโก, เยนาหํ เอตรหิ เอวํมหิทฺธิโก เอวํมหานุภาโว’ติ? ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ – ‘ติณฺณํ โข เม อิทํ กมฺมานํ ผลํ, ติณฺณํ กมฺมานํ วิปาโก, เยนาหํ เอตรหิ เอวํมหิทฺธิโก เอวํมหานุภาโวติ, เสยฺยถิทํ 3 – ทานสฺส, ทมสฺส, สญฺญมสฺสา’’’ติฯ เอตมตฺถํ ภควา อโวจฯ ตเตฺถตํ อิติ วุจฺจติ –
‘‘Tassa mayhaṃ, bhikkhave, etadahosi – ‘kissa nu kho me idaṃ kammassa phalaṃ, kissa kammassa vipāko, yenāhaṃ etarahi evaṃmahiddhiko evaṃmahānubhāvo’ti? Tassa mayhaṃ, bhikkhave, etadahosi – ‘tiṇṇaṃ kho me idaṃ kammānaṃ phalaṃ, tiṇṇaṃ kammānaṃ vipāko, yenāhaṃ etarahi evaṃmahiddhiko evaṃmahānubhāvoti, seyyathidaṃ 4 – dānassa, damassa, saññamassā’’’ti. Etamatthaṃ bhagavā avoca. Tatthetaṃ iti vuccati –
‘‘ปุญฺญเมว โส สิเกฺขยฺย, อายตคฺคํ สุขุทฺรยํ;
‘‘Puññameva so sikkheyya, āyataggaṃ sukhudrayaṃ;
ทานญฺจ สมจริยญฺจ, เมตฺตจิตฺตญฺจ ภาวเยฯ
Dānañca samacariyañca, mettacittañca bhāvaye.
อยมฺปิ อโตฺถ วุโตฺต ภควตา, อิติ เม สุตนฺติฯ ทุติยํฯ
Ayampi attho vutto bhagavatā, iti me sutanti. Dutiyaṃ.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / อิติวุตฺตก-อฎฺฐกถา • Itivuttaka-aṭṭhakathā / ๒. เมตฺตสุตฺตวณฺณนา • 2. Mettasuttavaṇṇanā