Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / อิติวุตฺตก-อฎฺฐกถา • Itivuttaka-aṭṭhakathā |
๓. ตติยวโคฺค
3. Tatiyavaggo
๑. มิจฺฉาทิฎฺฐิกสุตฺตวณฺณนา
1. Micchādiṭṭhikasuttavaṇṇanā
๗๐. ตติยวคฺคสฺส ปฐเม ทิฎฺฐา มยาติ มยา ทิฎฺฐา, มม สมนฺตจกฺขุนา ทิพฺพจกฺขุนา จาติ ทฺวีหิปิ จกฺขูหิ ทิฎฺฐา ปจฺจกฺขโต วิทิตาฯ เตน อนุสฺสวาทิํ ปฎิกฺขิปติ, อยญฺจ อโตฺถ อิทาเนว ปาฬิยํ อาคมิสฺสติฯ กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตาติ กายทุจฺจริเตน สมงฺคีภูตาฯ อริยานํ อุปวาทกาติ พุทฺธาทีนํ อริยานํ อนฺตมโส คิหิโสตาปนฺนานมฺปิ คุณปริธํสเนน อภูตพฺภกฺขาเนน อุปวาทกา อโกฺกสกา ครหกาฯ มิจฺฉาทิฎฺฐิกาติ วิปรีตทสฺสนาฯ มิจฺฉาทิฎฺฐิกมฺมสมาทานาติ มิจฺฉาทสฺสนเหตุ สมาทินฺนนานาวิธกมฺมา เย จ, มิจฺฉาทิฎฺฐิมูลเกสุ กายกมฺมาทีสุ อเญฺญปิ สมาทเปนฺติฯ เอตฺถ จ วจีมโนทุจฺจริตคฺคหเณเนว อริยูปวาทมิจฺฉาทิฎฺฐีสุ คหิตาสุ ปุนวจนํ มหาสาวชฺชภาวทสฺสนตฺถํ เนสํฯ มหาสาวโชฺช หิ อริยูปวาโท อานนฺตริยสทิโสฯ ยถาห –
70. Tatiyavaggassa paṭhame diṭṭhā mayāti mayā diṭṭhā, mama samantacakkhunā dibbacakkhunā cāti dvīhipi cakkhūhi diṭṭhā paccakkhato viditā. Tena anussavādiṃ paṭikkhipati, ayañca attho idāneva pāḷiyaṃ āgamissati. Kāyaduccaritena samannāgatāti kāyaduccaritena samaṅgībhūtā. Ariyānaṃ upavādakāti buddhādīnaṃ ariyānaṃ antamaso gihisotāpannānampi guṇaparidhaṃsanena abhūtabbhakkhānena upavādakā akkosakā garahakā. Micchādiṭṭhikāti viparītadassanā. Micchādiṭṭhikammasamādānāti micchādassanahetu samādinnanānāvidhakammā ye ca, micchādiṭṭhimūlakesu kāyakammādīsu aññepi samādapenti. Ettha ca vacīmanoduccaritaggahaṇeneva ariyūpavādamicchādiṭṭhīsu gahitāsu punavacanaṃ mahāsāvajjabhāvadassanatthaṃ nesaṃ. Mahāsāvajjo hi ariyūpavādo ānantariyasadiso. Yathāha –
‘‘เสยฺยถาปิ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ สีลสมฺปโนฺน, สมาธิสมฺปโนฺน, ปญฺญาสมฺปโนฺน, ทิเฎฺฐว ธเมฺม อญฺญํ อาราเธยฺย; เอวํสมฺปทมิทํ, สาริปุตฺต, วทามิ ตํ วาจํ อปฺปหาย, ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย, ตํ ทิฎฺฐิํ อปฺปฎินิสฺสชฺชิตฺวา ยถาภตํ นิกฺขิโตฺต เอวํ นิรเย’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๔๙)ฯ
‘‘Seyyathāpi, sāriputta, bhikkhu sīlasampanno, samādhisampanno, paññāsampanno, diṭṭheva dhamme aññaṃ ārādheyya; evaṃsampadamidaṃ, sāriputta, vadāmi taṃ vācaṃ appahāya, taṃ cittaṃ appahāya, taṃ diṭṭhiṃ appaṭinissajjitvā yathābhataṃ nikkhitto evaṃ niraye’’ti (ma. ni. 1.149).
มิจฺฉาทิฎฺฐิโต จ มหาสาวชฺชตรํ นาม อญฺญํ นตฺถิฯ ยถาห –
Micchādiṭṭhito ca mahāsāvajjataraṃ nāma aññaṃ natthi. Yathāha –
‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อญฺญํ เอกธมฺมมฺปิ สมนุปสฺสามิ, ยํ เอวํ มหาสาวชฺชตรํ ยถยิทํ, ภิกฺขเว, มิจฺฉาทิฎฺฐิฯ มิจฺฉาทิฎฺฐิปรมานิ, ภิกฺขเว, วชฺชานี’’ติ (อ. นิ. ๑.๓๑๐)ฯ
‘‘Nāhaṃ, bhikkhave, aññaṃ ekadhammampi samanupassāmi, yaṃ evaṃ mahāsāvajjataraṃ yathayidaṃ, bhikkhave, micchādiṭṭhi. Micchādiṭṭhiparamāni, bhikkhave, vajjānī’’ti (a. ni. 1.310).
ตํ โข ปนาติอาทิ ยถาวุตฺตสฺส อตฺถสฺส อตฺตปจฺจกฺขภาวํ ทฬฺหตรํ กตฺวา ทเสฺสตุํ อารทฺธํฯ ตมฺปิ สุวิเญฺญยฺยเมวฯ
Taṃkho panātiādi yathāvuttassa atthassa attapaccakkhabhāvaṃ daḷhataraṃ katvā dassetuṃ āraddhaṃ. Tampi suviññeyyameva.
คาถาสุ มิจฺฉา มนํ ปณิธายาติ อภิชฺฌาทีนํ วเสน จิตฺตํ อโยนิโส ฐเปตฺวาฯ มิจฺฉา วาจญฺจ ภาสิยาติ มิจฺฉา มุสาวาทาทิวเสน วาจํ ภาสิตฺวาฯ มิจฺฉา กมฺมานิ กตฺวานาติ ปาณาติปาตาทิวเสน กายกมฺมานิ กตฺวาฯ อถ วา มิจฺฉา มนํ ปณิธายาติ มิจฺฉาทิฎฺฐิวเสน จิตฺตํ วิปรีตํ ฐเปตฺวาฯ เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโยฯ อิทานิสฺส ตถา ทุจฺจริตจรเณ การณํ ทเสฺสติ อปฺปสฺสุโตติ, อตฺตโน ปเรสญฺจ หิตาวเหน สุเตน วิรหิโตติ อโตฺถฯ อปุญฺญกโรติ ตโต เอว อริยธมฺมสฺส อโกวิทตาย กิพฺพิสการี ปาปธโมฺมฯ อปฺปสฺมิํ อิธ ชีวิเตติ อิธ มนุสฺสโลเก ชีวิเต อติปริเตฺตฯ ตถา จาห ‘‘โย จิรํ ชีวติ, โส วสฺสสตํ อปฺปํ วา ภิโยฺย’’ติ (ที. นิ. ๒.๙๓; สํ. นิ. ๑.๑๔๕), ‘‘อปฺปมายุ มนุสฺสาน’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๑๔๕; มหานิ. ๑๐) จฯ ตสฺมา พหุสฺสุโต สปฺปโญฺญ สีฆํ ปุญฺญานิ กตฺวา สคฺคูปโค นิพฺพานปติโฎฺฐ วา โหติฯ โย ปน อปฺปสฺสุโต อปุญฺญกโร, กายสฺส เภทา ทุปฺปโญฺญ นิรยํ โส อุปปชฺชตีติฯ
Gāthāsu micchā manaṃ paṇidhāyāti abhijjhādīnaṃ vasena cittaṃ ayoniso ṭhapetvā. Micchāvācañca bhāsiyāti micchā musāvādādivasena vācaṃ bhāsitvā. Micchā kammāni katvānāti pāṇātipātādivasena kāyakammāni katvā. Atha vā micchā manaṃ paṇidhāyāti micchādiṭṭhivasena cittaṃ viparītaṃ ṭhapetvā. Sesapadadvayepi eseva nayo. Idānissa tathā duccaritacaraṇe kāraṇaṃ dasseti appassutoti, attano paresañca hitāvahena sutena virahitoti attho. Apuññakaroti tato eva ariyadhammassa akovidatāya kibbisakārī pāpadhammo. Appasmiṃ idha jīviteti idha manussaloke jīvite atiparitte. Tathā cāha ‘‘yo ciraṃ jīvati, so vassasataṃ appaṃ vā bhiyyo’’ti (dī. ni. 2.93; saṃ. ni. 1.145), ‘‘appamāyu manussāna’’nti (saṃ. ni. 1.145; mahāni. 10) ca. Tasmā bahussuto sappañño sīghaṃ puññāni katvā saggūpago nibbānapatiṭṭho vā hoti. Yo pana appassuto apuññakaro, kāyassa bhedā duppañño nirayaṃ so upapajjatīti.
ปฐมสุตฺตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Paṭhamasuttavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / อิติวุตฺตกปาฬิ • Itivuttakapāḷi / ๑. มิจฺฉาทิฎฺฐิกสุตฺตํ • 1. Micchādiṭṭhikasuttaṃ