Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มิลินฺทปญฺหปาฬิ • Milindapañhapāḷi |
มิลินฺทปญฺหปุจฺฉาวิสชฺชนา
Milindapañhapucchāvisajjanā
เถโร อาห ‘‘ชานาสิ โข, มหาราช, สมฺปติ กา เวลา’’ติ? ‘‘อาม, ภเนฺต, ชานามิ ‘สมฺปติ ปฐโม ยาโม อติกฺกโนฺต, มชฺฌิโม ยาโม ปวตฺตติ, อุกฺกา ปทีปียนฺติ, จตฺตาริ ปฎากานิ อาณตฺตานิ คมิสฺสนฺติ ภณฺฑโต ราชเทยฺยานี’’’ติฯ
Thero āha ‘‘jānāsi kho, mahārāja, sampati kā velā’’ti? ‘‘Āma, bhante, jānāmi ‘sampati paṭhamo yāmo atikkanto, majjhimo yāmo pavattati, ukkā padīpīyanti, cattāri paṭākāni āṇattāni gamissanti bhaṇḍato rājadeyyānī’’’ti.
โยนกา เอวมาหํสุ ‘‘กโลฺลสิ, มหาราช, ปณฺฑิโต เถโร’’ติฯ ‘‘อาม, ภเณ, ปณฺฑิโต เถโร, เอทิโส อาจริโย ภเวยฺย มาทิโส จ อเนฺตวาสี, นจิรเสฺสว ปณฺฑิโต ธมฺมํ อาชาเนยฺยา’’ติฯ ตสฺส ปญฺหเวยฺยากรเณน ตุโฎฺฐ ราชา เถรํ นาคเสนํ สตสหสฺสคฺฆนเกน กมฺพเลน อจฺฉาเทตฺวา ‘‘ภเนฺต นาคเสน, อชฺชตเคฺค เต อฎฺฐสตํ ภตฺตํ ปญฺญเปมิ, ยํ กิญฺจิ อเนฺตปุเร กปฺปิยํ, เตน จ ปวาเรมี’’ติ อาหฯ อลํ มหาราช ชีวามี’’ติฯ ‘‘ชานามิ, ภเนฺต นาคเสน, ชีวสิ, อปิ จ อตฺตานญฺจ รกฺข, มมญฺจ รกฺขาหี’’ติฯ ‘‘กถํ อตฺตานํ รกฺขสิ, ‘นาคเสโน มิลินฺทํ ราชานํ ปสาเทติ, น จ กิญฺจิ อลภี’ติ ปราปวาโท 1 อาคเจฺฉยฺยาติ, เอวํ อตฺตานํ รกฺขฯ กถํ มมํ รกฺขสิ, ‘มิลิโนฺท ราชา ปสโนฺน ปสนฺนาการํ น กโรตี’ติ ปราปวาโท อาคเจฺฉยฺยาติ, เอวํ มมํ รกฺขาหี’’ติฯ ‘‘ตถา โหตุ, มหาราชา’’ติฯ ‘‘เสยฺยถาปิ, ภเนฺต, สีโห มิคราชา สุวณฺณปญฺชเร ปกฺขิโตฺตปิ พหิมุโข เยว โหติ, เอวเมว โข อหํ, ภเนฺต, กิญฺจาปิ อคารํ อชฺฌาวสามิ พหิมุโข เยว ปน อจฺฉามิฯ สเจ อหํ, ภเนฺต, อคารสฺมา อนาคาริยํ ปพฺพเชยฺยํ, น จิรํ ชีเวยฺยํ, พหู เม ปจฺจตฺถิกา’’ติฯ
Yonakā evamāhaṃsu ‘‘kallosi, mahārāja, paṇḍito thero’’ti. ‘‘Āma, bhaṇe, paṇḍito thero, ediso ācariyo bhaveyya mādiso ca antevāsī, nacirasseva paṇḍito dhammaṃ ājāneyyā’’ti. Tassa pañhaveyyākaraṇena tuṭṭho rājā theraṃ nāgasenaṃ satasahassagghanakena kambalena acchādetvā ‘‘bhante nāgasena, ajjatagge te aṭṭhasataṃ bhattaṃ paññapemi, yaṃ kiñci antepure kappiyaṃ, tena ca pavāremī’’ti āha. Alaṃ mahārāja jīvāmī’’ti. ‘‘Jānāmi, bhante nāgasena, jīvasi, api ca attānañca rakkha, mamañca rakkhāhī’’ti. ‘‘Kathaṃ attānaṃ rakkhasi, ‘nāgaseno milindaṃ rājānaṃ pasādeti, na ca kiñci alabhī’ti parāpavādo 2 āgaccheyyāti, evaṃ attānaṃ rakkha. Kathaṃ mamaṃ rakkhasi, ‘milindo rājā pasanno pasannākāraṃ na karotī’ti parāpavādo āgaccheyyāti, evaṃ mamaṃ rakkhāhī’’ti. ‘‘Tathā hotu, mahārājā’’ti. ‘‘Seyyathāpi, bhante, sīho migarājā suvaṇṇapañjare pakkhittopi bahimukho yeva hoti, evameva kho ahaṃ, bhante, kiñcāpi agāraṃ ajjhāvasāmi bahimukho yeva pana acchāmi. Sace ahaṃ, bhante, agārasmā anāgāriyaṃ pabbajeyyaṃ, na ciraṃ jīveyyaṃ, bahū me paccatthikā’’ti.
อถ โข อายสฺมา นาคเสโน มิลินฺทสฺส รโญฺญ ปญฺหํ วิสเชฺชตฺวา อุฎฺฐายาสนา สงฺฆารามํ อคมาสิฯ อจิรปกฺกเนฺต จ อายสฺมเนฺต นาคเสเน มิลินฺทสฺส รโญฺญ เอตทโหสิ ‘‘กิํ มยา ปุจฺฉิตํ, กิํ ภทเนฺตน นาคเสเนน วิสชฺชิต’’นฺติ? อถ โข มิลินฺทสฺส รโญฺญ เอตทโหสิ ‘‘สพฺพํ มยา สุปุจฺฉิตํ, สพฺพํ ภทเนฺตน นาคเสเนน สุวิสชฺชิต’’นฺติฯ อายสฺมโตปิ นาคเสนสฺส สงฺฆารามคตสฺส เอตทโหสิ ‘‘กิํ มิลิเนฺทน รญฺญา ปุจฺฉิตํ, กิํ มยา วิสชฺชิต’’นฺติฯ อถ โข อายสฺมโต นาคเสนสฺส เอตทโหสิ ‘‘สพฺพํ มิลิเนฺทน รญฺญา สุปุจฺฉิตํ, สพฺพํ มยา สุวิสชฺชิต’’นฺติฯ
Atha kho āyasmā nāgaseno milindassa rañño pañhaṃ visajjetvā uṭṭhāyāsanā saṅghārāmaṃ agamāsi. Acirapakkante ca āyasmante nāgasene milindassa rañño etadahosi ‘‘kiṃ mayā pucchitaṃ, kiṃ bhadantena nāgasenena visajjita’’nti? Atha kho milindassa rañño etadahosi ‘‘sabbaṃ mayā supucchitaṃ, sabbaṃ bhadantena nāgasenena suvisajjita’’nti. Āyasmatopi nāgasenassa saṅghārāmagatassa etadahosi ‘‘kiṃ milindena raññā pucchitaṃ, kiṃ mayā visajjita’’nti. Atha kho āyasmato nāgasenassa etadahosi ‘‘sabbaṃ milindena raññā supucchitaṃ, sabbaṃ mayā suvisajjita’’nti.
อถ โข อายสฺมา นาคเสโน ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน มิลินฺทสฺส รโญฺญ นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญเตฺต อาสเน นิสีทิฯ อถ โข มิลิโนฺท ราชา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิ, เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข มิลิโนฺท ราชา อายสฺมนฺตํ นาคเสนํ เอตทโวจ –
Atha kho āyasmā nāgaseno tassā rattiyā accayena pubbaṇhasamayaṃ nivāsetvā pattacīvaramādāya yena milindassa rañño nivesanaṃ tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā paññatte āsane nisīdi. Atha kho milindo rājā āyasmantaṃ nāgasenaṃ abhivādetvā ekamantaṃ nisīdi, ekamantaṃ nisinno kho milindo rājā āyasmantaṃ nāgasenaṃ etadavoca –
‘‘มา โข ภทนฺตสฺส เอวํ อโหสิ ‘นาคเสโน มยา ปญฺหํ ปุจฺฉิโต’ติ เตเนว โสมนเสฺสน ตํ รตฺตาวเสสํ วีตินาเมสีติ น เต เอวํ ทฎฺฐพฺพํฯ ตสฺส มยฺหํ, ภเนฺต, ตํ รตฺตาวเสสํ เอตทโหสิ ‘กิํ มยา ปุจฺฉิตํ, กิํ ภทเนฺตน วิสชฺชิต’นฺติ, ‘สพฺพํ มยา สุปุจฺฉิตํ, สพฺพํ ภทเนฺตน สุวิสชฺชิต’’’นฺติฯ
‘‘Mā kho bhadantassa evaṃ ahosi ‘nāgaseno mayā pañhaṃ pucchito’ti teneva somanassena taṃ rattāvasesaṃ vītināmesīti na te evaṃ daṭṭhabbaṃ. Tassa mayhaṃ, bhante, taṃ rattāvasesaṃ etadahosi ‘kiṃ mayā pucchitaṃ, kiṃ bhadantena visajjita’nti, ‘sabbaṃ mayā supucchitaṃ, sabbaṃ bhadantena suvisajjita’’’nti.
เถโรปิ เอวมาห – ‘‘มา โข มหาราชสฺส เอวํ อโหสิ ‘มิลินฺทสฺส รโญฺญ มยา ปโญฺห วิสชฺชิโต’ติ เตเนว โสมนเสฺสน ตํ รตฺตาวเสสํ วีตินาเมสีติ น เต เอวํ ทฎฺฐพฺพํฯ ตสฺส มยฺหํ, มหาราช, ตํ รตฺตาวเสสํ เอตทโหสิ ‘กิํ มิลิเนฺทน รญฺญา ปุจฺฉิตํ, กิํ มยา วิสชฺชิต’นฺติ, ‘สพฺพํ มิลิเนฺทน รญฺญา สุปุจฺฉิตํ, สพฺพํ มยา สุวิสชฺชิต’’’นฺติ อิติห เต มหานาคา อญฺญมญฺญสฺส สุภาสิตํ สมนุโมทิํสูติฯ
Theropi evamāha – ‘‘mā kho mahārājassa evaṃ ahosi ‘milindassa rañño mayā pañho visajjito’ti teneva somanassena taṃ rattāvasesaṃ vītināmesīti na te evaṃ daṭṭhabbaṃ. Tassa mayhaṃ, mahārāja, taṃ rattāvasesaṃ etadahosi ‘kiṃ milindena raññā pucchitaṃ, kiṃ mayā visajjita’nti, ‘sabbaṃ milindena raññā supucchitaṃ, sabbaṃ mayā suvisajjita’’’nti itiha te mahānāgā aññamaññassa subhāsitaṃ samanumodiṃsūti.
มิลินฺทปญฺหปุจฺฉาวิสชฺชนา นิฎฺฐิตาฯ
Milindapañhapucchāvisajjanā niṭṭhitā.
Footnotes: