Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เนตฺติปฺปกรณ-ฎีกา • Nettippakaraṇa-ṭīkā |
มิสฺสกหารสมฺปาตวณฺณนา
Missakahārasampātavaṇṇanā
อิทานิ ยสฺมา สุเตฺตสุ หารานํ โยชนานยทสฺสนตฺตา หารสมฺปาตเทสนา หารวิภงฺคเทสนา วิย น หารสรูปมตฺตทสฺสนตฺตา, ตสฺมา เปฎโกปเทเส อาคตนยานุสาเรน อปเรหิ วิปริยาเยหิ หารสมฺปาตโยชนาวิธิํ ทเสฺสโนฺต ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ วิชฺชาวิชฺชาย กุสลากุสลจิตฺตปฺปวตฺติยา อโลภาโทสโลภโทสาปิ ปรมฺปรภาเวน ปวตฺตนฺติ นิทานภาวโตติ ทเสฺสโนฺต ‘‘ฉ ธมฺมา…เป.… มูลานี’’ติ อาหฯ ยถา จ นิทานภาเวน ปุพฺพงฺคมตา, เอวํ อตฺตโน วเสวตฺตเนนาปิ ปุพฺพงฺคมตา ลพฺภเตวาติ วุตฺตํ ‘‘สาธิปติกานํ อธิปติ, สพฺพจิตฺตุปฺปาทานํ อินฺทฺริยานี’’ติฯ อโลภสฺสาติ อโลภยุตฺตสฺส จิตฺตุปฺปาทสฺสฯ เนกฺขมฺมจฺฉเนฺทนาติ กุสลจฺฉเนฺทนฯ เนกฺขมฺมสโทฺท ปพฺพชฺชาทีสุ นิรุโฬฺหฯ วุตฺตญฺหิ –
Idāni yasmā suttesu hārānaṃ yojanānayadassanattā hārasampātadesanā hāravibhaṅgadesanā viya na hārasarūpamattadassanattā, tasmā peṭakopadese āgatanayānusārena aparehi vipariyāyehi hārasampātayojanāvidhiṃ dassento ‘‘apicā’’tiādimāha. Tattha vijjāvijjāya kusalākusalacittappavattiyā alobhādosalobhadosāpi paramparabhāvena pavattanti nidānabhāvatoti dassento ‘‘cha dhammā…pe… mūlānī’’ti āha. Yathā ca nidānabhāvena pubbaṅgamatā, evaṃ attano vasevattanenāpi pubbaṅgamatā labbhatevāti vuttaṃ ‘‘sādhipatikānaṃ adhipati, sabbacittuppādānaṃ indriyānī’’ti. Alobhassāti alobhayuttassa cittuppādassa. Nekkhammacchandenāti kusalacchandena. Nekkhammasaddo pabbajjādīsu niruḷho. Vuttañhi –
‘‘ปพฺพชฺชา ปฐมํ ฌานํ, นิพฺพานญฺจ วิปสฺสนา;
‘‘Pabbajjā paṭhamaṃ jhānaṃ, nibbānañca vipassanā;
สเพฺพปิ กุสลา ธมฺมา, ‘เนกฺขมฺม’นฺติ ปวุจฺจเร’’ติฯ (อิติวุ. อฎฺฐ. ๑๐๙; ที. นิ. ฎี. ๒.๓๕๙; อ. นิ. ฎี. ๒.๒.๖๖) –
Sabbepi kusalā dhammā, ‘nekkhamma’nti pavuccare’’ti. (itivu. aṭṭha. 109; dī. ni. ṭī. 2.359; a. ni. ṭī. 2.2.66) –
เตสุ อิธ กุสลา ธมฺมา อธิเปฺปตาฯ เตน วุตฺตํ ‘‘กุสลจฺฉเนฺทนา’’ติฯ เนกฺขมฺมจฺฉเนฺทน อุปนิสฺสยภูเตน, น อธิปติภูเตนฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – อโลภปฺปธาโน เจ จิตฺตุปฺปาโท โหติ, เนกฺขมฺมจฺฉเนฺทน อุปนิสฺสยภูเตน มโน ตสฺส ปุพฺพงฺคโม โหติฯ เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโยฯ
Tesu idha kusalā dhammā adhippetā. Tena vuttaṃ ‘‘kusalacchandenā’’ti. Nekkhammacchandena upanissayabhūtena, na adhipatibhūtena. Idaṃ vuttaṃ hoti – alobhappadhāno ce cittuppādo hoti, nekkhammacchandena upanissayabhūtena mano tassa pubbaṅgamo hoti. Sesapadadvayepi eseva nayo.
ยทเคฺคน เตสํ ธมฺมานํ มโน ปุพฺพงฺคมํ, ตทเคฺคน เตสํ เชฎฺฐํ, ปธานญฺจาติ วุตฺตํ ‘‘มโนเสฎฺฐาติ มโน เตสํ ธมฺมาน’’นฺติอาทิฯ มโนมยตา มเนน กตาทิภาโว, โส จ มนสฺส เตสํ สหชาตาทินา ปจฺจยภาโว เอวาติ วุตฺตํ ‘‘มโนมยาติ…เป.… ปจฺจโย’’ติฯ เต ปนาติ เอตฺถ ปน-สโทฺท วิเสสตฺถทีปโก, เตเนตํ ทเสฺสติ – ยทิปิ เตสํ ธมฺมานํ ฉนฺทาทโยปิ ปจฺจยา เอว, อินฺทฺริยาทิปจฺจเยน ปน สวิเสสํ ปจฺจยภูตสฺส มนเสฺสว วเสเนว วุตฺตํ ‘‘มโนมยา’’ติฯ ตตฺถ ฉนฺทสมุทานีตาติ ยถาวุตฺตเนกฺขมฺมาทิฉเนฺทน สมฺมา อุทฺธมุทฺธํ นีตา, ตโต สมุทาคตาติ อโตฺถฯ ตโต เอว เนกฺขมฺมวิตกฺกาทิโต สมุปฺปนฺนตฺตา อนาวิลสงฺกปฺปสมุฎฺฐานาฯ ตชฺชามโนวิญฺญาณธาตุสมฺผเสฺสน สหาธิฎฺฐานโต ผสฺสสโมธานาฯ ‘‘ผุโฎฺฐ, ภิกฺขเว, เวเทติ, ผุโฎฺฐ สญฺชานาติ, ผุโฎฺฐ เจเตตี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๙๓) หิ วุตฺตํฯ อิทํ มโนกมฺมนฺติ กายงฺควาจงฺคโจปนํ อกตฺวา สทฺธาสมนฺนาคเตน ปสเนฺนน มนสา ปวตฺตํ อิทํ กุสลํ มโนกมฺมํฯ ตํ ปน อนภิชฺฌาสหคตํ, อพฺยาปาทสหคตํ, สมฺมาทิฎฺฐิสหคตนฺติ ติวิธํ โหติฯ
Yadaggena tesaṃ dhammānaṃ mano pubbaṅgamaṃ, tadaggena tesaṃ jeṭṭhaṃ, padhānañcāti vuttaṃ ‘‘manoseṭṭhāti mano tesaṃ dhammāna’’ntiādi. Manomayatā manena katādibhāvo, so ca manassa tesaṃ sahajātādinā paccayabhāvo evāti vuttaṃ ‘‘manomayāti…pe… paccayo’’ti. Te panāti ettha pana-saddo visesatthadīpako, tenetaṃ dasseti – yadipi tesaṃ dhammānaṃ chandādayopi paccayā eva, indriyādipaccayena pana savisesaṃ paccayabhūtassa manasseva vaseneva vuttaṃ ‘‘manomayā’’ti. Tattha chandasamudānītāti yathāvuttanekkhammādichandena sammā uddhamuddhaṃ nītā, tato samudāgatāti attho. Tato eva nekkhammavitakkādito samuppannattā anāvilasaṅkappasamuṭṭhānā. Tajjāmanoviññāṇadhātusamphassena sahādhiṭṭhānato phassasamodhānā. ‘‘Phuṭṭho, bhikkhave, vedeti, phuṭṭho sañjānāti, phuṭṭho cetetī’’ti (saṃ. ni. 4.93) hi vuttaṃ. Idaṃ manokammanti kāyaṅgavācaṅgacopanaṃ akatvā saddhāsamannāgatena pasannena manasā pavattaṃ idaṃ kusalaṃ manokammaṃ. Taṃ pana anabhijjhāsahagataṃ, abyāpādasahagataṃ, sammādiṭṭhisahagatanti tividhaṃ hoti.
ภาสตีติ อวิสํวาทนาทินา วาจงฺคโจปนาวเสน ปวเตฺตนฺติยา วจีวิญฺญตฺติยา สาเธตพฺพํ สาเธตีติ อโตฺถ, เตน กายทฺวารโต ปวตฺตกุสลวจีกมฺมมฺปิ สงฺคหิตํ โหติฯ ตถา หิ วกฺขติ ‘‘วจีวิญฺญตฺติวิปฺผารโต, ตถา สาทิยนโต จ ภาสตี’’ติฯ สพฺพมฺปิ วจีกมฺมํ สจฺจาทิวเสน จตุพฺพิธํฯ กโรตีติ อตฺตโน, ปเรสญฺจ หิตาหิตานิ การณาการเณหิ กายงฺคโจปนาวเสน ปวเตฺตนฺติยา กายวิญฺญตฺติยา สาเธตพฺพํ สาเธตีติ อโตฺถ, เตน วจีทฺวารโต ปวตฺตกุสลกายกมฺมมฺปิ สงฺคหิตํ โหติฯ ตถา จ วกฺขติ ‘‘กายวิญฺญตฺติวิปฺผารโต, ตถา สาทิยนโต จ กโรตี’’ติ (เนตฺติ. อฎฺฐ. ๗๖ มิสฺสกหารสมฺปาตวณฺณนา)ฯ กมฺมปถวเสน คยฺหมาเน ปาณาติปาตาทิวเสน ตํ ติวิธํ โหติฯ เตนาห ‘‘อิติ ทสกุสลกมฺมปถาทสฺสิตา’’ติฯ ทสปุญฺญกิริยวตฺถุวเสนาปิ คาถาย อโตฺถ ยุชฺชติฯ ตถา หิ วกฺขติ ‘‘โส ปสนฺนจิโตฺต’’ติอาทิฯ ภาสติ วา กโรติ วา เกวลํ มนสา ปวตฺตตีติ อนิยมโตฺถ วา-สโทฺทฯ ตถา เจว สํวณฺณิตํฯ
Bhāsatīti avisaṃvādanādinā vācaṅgacopanāvasena pavattentiyā vacīviññattiyā sādhetabbaṃ sādhetīti attho, tena kāyadvārato pavattakusalavacīkammampi saṅgahitaṃ hoti. Tathā hi vakkhati ‘‘vacīviññattivipphārato, tathā sādiyanato ca bhāsatī’’ti. Sabbampi vacīkammaṃ saccādivasena catubbidhaṃ. Karotīti attano, paresañca hitāhitāni kāraṇākāraṇehi kāyaṅgacopanāvasena pavattentiyā kāyaviññattiyā sādhetabbaṃ sādhetīti attho, tena vacīdvārato pavattakusalakāyakammampi saṅgahitaṃ hoti. Tathā ca vakkhati ‘‘kāyaviññattivipphārato, tathā sādiyanato ca karotī’’ti (netti. aṭṭha. 76 missakahārasampātavaṇṇanā). Kammapathavasena gayhamāne pāṇātipātādivasena taṃ tividhaṃ hoti. Tenāha ‘‘iti dasakusalakammapathādassitā’’ti. Dasapuññakiriyavatthuvasenāpi gāthāya attho yujjati. Tathā hi vakkhati ‘‘so pasannacitto’’tiādi. Bhāsati vā karoti vā kevalaṃ manasā pavattatīti aniyamattho vā-saddo. Tathā ceva saṃvaṇṇitaṃ.
ทสวิธสฺส กุสลกมฺมสฺสาติ ทสวิธสฺส กุสลกมฺมปถกมฺมสฺส, วกฺขมานนเยน วา ทสปุญฺญกิริยวตฺถุสงฺขาตสฺส กุสลกมฺมสฺสฯ นนุ ตตฺถ ทานาทิมยํ ติวิธเมว ปุญฺญกิริยวตฺถุ วุตฺตนฺติ? สจฺจํ, ตํ ปน อิตเรสํ ตทโนฺตคธตฺตาฯ
Dasavidhassa kusalakammassāti dasavidhassa kusalakammapathakammassa, vakkhamānanayena vā dasapuññakiriyavatthusaṅkhātassa kusalakammassa. Nanu tattha dānādimayaṃ tividhameva puññakiriyavatthu vuttanti? Saccaṃ, taṃ pana itaresaṃ tadantogadhattā.
‘‘สุขมเนฺวตี’’ติ สเงฺขเปน วุตฺตํ สุขานุคมํ วิตฺถาเรน ทเสฺสโนฺต ‘‘อิธสฺสุ ปุริโส’’ติอาทิมาหฯ ตตฺถ เอวํ สนฺตนฺติ เอวํ ภูตํ, อปฺปหีนานุสโย หุตฺวา สุขเวทนียผสฺสสมฺภูตนฺติ อโตฺถฯ
‘‘Sukhamanvetī’’ti saṅkhepena vuttaṃ sukhānugamaṃ vitthārena dassento ‘‘idhassu puriso’’tiādimāha. Tattha evaṃ santanti evaṃ bhūtaṃ, appahīnānusayo hutvā sukhavedanīyaphassasambhūtanti attho.
ตตฺถ ‘‘ยํ มโน’’ติอาทินา คาถาตฺถวเสน จตุสจฺจํ นิทฺธาเรติฯ อาทิโต ววตฺถาปิเตสุ ขนฺธาทีสุ ขนฺธมุเขน สจฺจานํ กถิตตฺตา สตฺตานํ ภินฺนรุจิภาวโต นานานเยหิ วิปสฺสนาภูมิโกสลฺลตฺถํ, ปุพฺพาปรสมฺพนฺธทสฺสนตฺถญฺจ เอวํ วุตฺตํ ‘‘เอวํ…เป.… นิทฺธาเรตพฺพานี’’ติฯ สจฺจมุเขน อสฺสาทาทิเก นิทฺธาเรตฺวา เทสนาหารสมฺปาตํ โยเชตุํ ‘‘ตตฺถ สมุทเยนา’’ติอาทิมาห, ตํ วุตฺตนยเมวฯ ยเญฺหตฺถ อญฺญมฺปิ อตฺถโต น วิภตฺตํ, ตํ เหฎฺฐา วุตฺตนยตฺตา, อุตฺตานตฺถตฺตา จาติ เวทิตพฺพํฯ
Tattha ‘‘yaṃ mano’’tiādinā gāthātthavasena catusaccaṃ niddhāreti. Ādito vavatthāpitesu khandhādīsu khandhamukhena saccānaṃ kathitattā sattānaṃ bhinnarucibhāvato nānānayehi vipassanābhūmikosallatthaṃ, pubbāparasambandhadassanatthañca evaṃ vuttaṃ ‘‘evaṃ…pe… niddhāretabbānī’’ti. Saccamukhena assādādike niddhāretvā desanāhārasampātaṃ yojetuṃ ‘‘tattha samudayenā’’tiādimāha, taṃ vuttanayameva. Yañhettha aññampi atthato na vibhattaṃ, taṃ heṭṭhā vuttanayattā, uttānatthattā cāti veditabbaṃ.
มนนลกฺขเณติ มนนลกฺขณเหตุฯ ‘‘มนนลกฺขเณนา’’ติ วา ปาโฐฯ อีหาภาวโต พฺยาปาราภาวโตฯ เยน ปสาเทน สมนฺนาคตตฺตา มโน ‘‘ปสโนฺน’’ติ วุโตฺต, ตสฺส ปสาทสฺส กิจฺจํ มเน อาโรเปตฺวา อาห ‘‘อกาลุสิยโต, อารมฺมณสฺส โอกปฺปนโต จ ปสเนฺนนา’’ติฯ ตถา สาทิยนโตติ วาจาย วตฺตพฺพํ อวตฺวาว ผสฺสสาทิยนโต อนุชานโตฯ ทุติเย ตถา สาทิยนโตติ กาเยน กาตพฺพํ ยถา กตํ โหติ, ตถา วาจาย สํวิธานโตฯ ตถา ปสุตตฺตาติ ยถา สุขมเนฺวติ, ตถา อุปจิตตฺตา เอวาติ อโตฺถฯ ตโตติ ตโต การณา, มนสา ปสเนฺนน, ภาสเนน, กรเณน จ เหตุนาติ วุตฺตํ โหติฯ อนญฺญตฺถาติ เอตสฺมิํ ปน อเตฺถฯ ตโตติ ตโต เอวฯ โย หิ ปสนฺนมโน เตน ยํ ภาสนํ, กรณญฺจ, ตโต เอว นํ สุขมเนฺวตีติ วุตฺตํ โหติฯ สาตภาวโตติ สาตเวทนาภาวโตฯ อิฎฺฐภาวโตติ มนาปภาวโตฯ กมฺมโต วิปากุปฺปตฺติผลทานสมตฺถภาเวน กมฺมสฺส นิพฺพตฺตตฺตา วิปากเสฺสว อนิพฺพตฺตตฺตาติ อาห ‘‘กตู…เป.… อเนฺวตีติ วุตฺต’’นฺติ การณายตฺต วุตฺติโตติ กตภาวเหตุกตฺตา กมฺมสฺสาติ อธิปฺปาโยฯ อสงฺกนฺติโตติ ยสฺมิํ สนฺตาเน กมฺมํ นิพฺพตฺตํ, ตทญฺญสนฺตานา สงฺกมนโตฯ
Mananalakkhaṇeti mananalakkhaṇahetu. ‘‘Mananalakkhaṇenā’’ti vā pāṭho. Īhābhāvato byāpārābhāvato. Yena pasādena samannāgatattā mano ‘‘pasanno’’ti vutto, tassa pasādassa kiccaṃ mane āropetvā āha ‘‘akālusiyato, ārammaṇassa okappanato ca pasannenā’’ti. Tathā sādiyanatoti vācāya vattabbaṃ avatvāva phassasādiyanato anujānato. Dutiye tathā sādiyanatoti kāyena kātabbaṃ yathā kataṃ hoti, tathā vācāya saṃvidhānato. Tathā pasutattāti yathā sukhamanveti, tathā upacitattā evāti attho. Tatoti tato kāraṇā, manasā pasannena, bhāsanena, karaṇena ca hetunāti vuttaṃ hoti. Anaññatthāti etasmiṃ pana atthe. Tatoti tato eva. Yo hi pasannamano tena yaṃ bhāsanaṃ, karaṇañca, tato eva naṃ sukhamanvetīti vuttaṃ hoti. Sātabhāvatoti sātavedanābhāvato. Iṭṭhabhāvatoti manāpabhāvato. Kammato vipākuppattiphaladānasamatthabhāvena kammassa nibbattattā vipākasseva anibbattattāti āha ‘‘katū…pe… anvetīti vutta’’nti kāraṇāyatta vuttitoti katabhāvahetukattā kammassāti adhippāyo. Asaṅkantitoti yasmiṃ santāne kammaṃ nibbattaṃ, tadaññasantānā saṅkamanato.
อาธิปจฺจโยคโตติ สหชาตาธิปติวเสน อาธิปจฺจยุตฺตตฺตาฯ สหชาตธมฺมานญฺหิ ตํสมฺปยุตฺตสฺส มนสฺส วเสน ปุพฺพงฺคมตา อิธาธิเปฺปตาฯ ตโต เอวาติ อาธิปจฺจโยคโต เอวฯ มนสฺสาติ อุปโยคเตฺถ สามิวจนํฯ เตสํ ธมฺมานนฺติ สมฺพโนฺธฯ กุสลภาโว ยุชฺชติ ปสาทสฺส โยนิโสมนสิการเหตุกตฺตา ฯ นนุ วิภชฺชพฺยากรเณสุ เตสํ สาวกานํ สทฺธา อุปฺปชฺชตีติ? นายํ สทฺธา, ตทาการา ปน อกุสลา ธมฺมา ตถา วุจฺจนฺตีติ เวทิตพฺพํฯ ตถา หิ วกฺขติ ‘‘นายํ ปสาโท’’ติอาทิ (เนตฺติ. อฎฺฐ. ๗๖ มิสฺสกหารสมฺปาตวณฺณนา)ฯ สุขํ อเนฺวตีติ ยุชฺชติ กมฺมสฺส ผลทาเน สมตฺถภาวโตฯ ยถา หิ กตํ กมฺมํ ผลทานสมตฺถํ โหติ, ตถา กตํ อุปจิตนฺติ วุจฺจตีติฯ
Ādhipaccayogatoti sahajātādhipativasena ādhipaccayuttattā. Sahajātadhammānañhi taṃsampayuttassa manassa vasena pubbaṅgamatā idhādhippetā. Tato evāti ādhipaccayogato eva. Manassāti upayogatthe sāmivacanaṃ. Tesaṃ dhammānanti sambandho. Kusalabhāvo yujjati pasādassa yonisomanasikārahetukattā . Nanu vibhajjabyākaraṇesu tesaṃ sāvakānaṃ saddhā uppajjatīti? Nāyaṃ saddhā, tadākārā pana akusalā dhammā tathā vuccantīti veditabbaṃ. Tathā hi vakkhati ‘‘nāyaṃ pasādo’’tiādi (netti. aṭṭha. 76 missakahārasampātavaṇṇanā). Sukhaṃ anvetīti yujjati kammassa phaladāne samatthabhāvato. Yathā hi kataṃ kammaṃ phaladānasamatthaṃ hoti, tathā kataṃ upacitanti vuccatīti.
มโนปวิจารา อิธ เนกฺขมฺมสิตา โสมนสฺสูปวิจารา, อุเปกฺขูปวิจารา จ เวทิตพฺพา กุสลาธิการตฺตาฯ เต ปน ยสฺมา จิตฺตํ นิสฺสาเยว ปวตฺตนฺติ, นานิสฺสาย, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘มโน มโนปวิจารานํ ปทฎฺฐาน’’นฺติฯ กุสลปกฺขสฺส ปทฎฺฐานนฺติ เอตฺถ กุสโล ตาว ผโสฺส กุสลสฺส เวทนากฺขนฺธสฺส สญฺญากฺขนฺธสฺส สงฺขารกฺขนฺธสฺส สหชาตาทินา ปจฺจโย โหติฯ ‘‘ผุโฎฺฐ, ภิกฺขเว, เวเทติ, ผุโฎฺฐ สญฺชานาติ, ผุโฎฺฐ เจเตตี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๙๓) วุตฺตํฯ เอวํ เวทนาทีนมฺปิ เวทิตพฺพํฯ สทฺธาทีนมฺปิ ปจฺจยภาเว วตฺตพฺพเมว นตฺถิฯ สพฺพสฺสาติ จตุภูมกสฺสฯ กามาวจรา หิ กุสลา ธมฺมา ยถารหํ จตุภูมกสฺสาปิ กุสลสฺส ปจฺจยา โหนฺติ, เอวํ อิตรภูมกาปิฯ
Manopavicārā idha nekkhammasitā somanassūpavicārā, upekkhūpavicārā ca veditabbā kusalādhikārattā. Te pana yasmā cittaṃ nissāyeva pavattanti, nānissāya, tasmā vuttaṃ ‘‘mano manopavicārānaṃ padaṭṭhāna’’nti. Kusalapakkhassa padaṭṭhānanti ettha kusalo tāva phasso kusalassa vedanākkhandhassa saññākkhandhassa saṅkhārakkhandhassa sahajātādinā paccayo hoti. ‘‘Phuṭṭho, bhikkhave, vedeti, phuṭṭho sañjānāti, phuṭṭho cetetī’’ti (saṃ. ni. 4.93) vuttaṃ. Evaṃ vedanādīnampi veditabbaṃ. Saddhādīnampi paccayabhāve vattabbameva natthi. Sabbassāti catubhūmakassa. Kāmāvacarā hi kusalā dhammā yathārahaṃ catubhūmakassāpi kusalassa paccayā honti, evaṃ itarabhūmakāpi.
‘‘ปสเนฺนน มนสา ภาสตี’’ติ วุตฺตตฺตา วิเสสโต สมฺมาวาจาปจฺจยํ ภาสนํ อิธาธิเปฺปตนฺติ วุตฺตํ ‘‘ภาสตีติ สมฺมาวาจา’’ติฯ ตตฺถายมธิปฺปาโย ‘‘ภาสตีติ ยมิทํ ปทํ, อิมินา สมฺมาวาจา คหิตา โหตี’’ติฯ กโรตีติ สมฺมากมฺมโนฺตติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ สุปริสุเทฺธ กายวจีกเมฺม ฐิตสฺส อาชีวปาริสุทฺธิ, น อิตรสฺสาติ วุตฺตํ ‘‘เต สมฺมาอาชีวสฺส ปทฎฺฐาน’’นฺติฯ ตตฺถ เตติ สมฺมาวาจากมฺมนฺตาฯ ยสฺมา ปน อาชีวฎฺฐมเก สีเล ปติฎฺฐิตสฺส อุปฺปนฺนานุปฺปนฺนานํ อกุสลธมฺมานํ ปหานานุปฺปาทนานิ, อนุปฺปนฺนุปฺปนฺนานํ กุสลธมฺมานํ อุปฺปาทนปาริปูริยา จ สมฺภวนฺติ, ตถา สมฺมาวายาเม ฐิตเสฺสว กายาทีสุ สุภสญฺญาทิวิทฺธํสินี สมฺมาสติ สมฺภวติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สมฺมาอาชีโว…เป.…ปทฎฺฐาน’’นฺติฯ เชฎฺฐกสีลํ ปาติโมกฺขสํวโร, สทฺธาสาธโน จ โสติ อาห ‘‘ตํ สีลสฺส ปทฎฺฐาน’’นฺติฯ
‘‘Pasannena manasā bhāsatī’’ti vuttattā visesato sammāvācāpaccayaṃ bhāsanaṃ idhādhippetanti vuttaṃ ‘‘bhāsatīti sammāvācā’’ti. Tatthāyamadhippāyo ‘‘bhāsatīti yamidaṃ padaṃ, iminā sammāvācā gahitā hotī’’ti. Karotīti sammākammantoti etthāpi eseva nayo. Suparisuddhe kāyavacīkamme ṭhitassa ājīvapārisuddhi, na itarassāti vuttaṃ ‘‘te sammāājīvassa padaṭṭhāna’’nti. Tattha teti sammāvācākammantā. Yasmā pana ājīvaṭṭhamake sīle patiṭṭhitassa uppannānuppannānaṃ akusaladhammānaṃ pahānānuppādanāni, anuppannuppannānaṃ kusaladhammānaṃ uppādanapāripūriyā ca sambhavanti, tathā sammāvāyāme ṭhitasseva kāyādīsu subhasaññādividdhaṃsinī sammāsati sambhavati, tasmā vuttaṃ ‘‘sammāājīvo…pe…padaṭṭhāna’’nti. Jeṭṭhakasīlaṃ pātimokkhasaṃvaro, saddhāsādhano ca soti āha ‘‘taṃ sīlassa padaṭṭhāna’’nti.
เตสนฺติ กายวจีกมฺมานํฯ กมฺมปจฺจยตายาติ กุสลกมฺมเหตุกตายฯ
Tesanti kāyavacīkammānaṃ. Kammapaccayatāyāti kusalakammahetukatāya.
ปทโตฺถ จ วุตฺตนเยนาติ ‘‘มนนโต อารมฺมณวิชานนโต’’ติอาทินาฯ
Padattho ca vuttanayenāti ‘‘mananato ārammaṇavijānanato’’tiādinā.
อยํ อาวโฎฺฎติ อยํ สภาควิสภาคธมฺมาวฎฺฎนวเสน อาวโฎฺฎฯ เอตฺถ หิ กุสลมูลสมฺมตฺตมคฺคาทินิทฺธารณา สภาคธมฺมาวฎฺฎนาฯ อวิชฺชาภวตณฺหานํ นิทฺธารณา วิสภาคธมฺมาวฎฺฎนาฯ
Ayaṃāvaṭṭoti ayaṃ sabhāgavisabhāgadhammāvaṭṭanavasena āvaṭṭo. Ettha hi kusalamūlasammattamaggādiniddhāraṇā sabhāgadhammāvaṭṭanā. Avijjābhavataṇhānaṃ niddhāraṇā visabhāgadhammāvaṭṭanā.
วิภตฺติหาเร ปทฎฺฐานภูมิวิภาคา วุตฺตนยา, สุวิเญฺญยฺยา จาติ ธมฺมวิภาคเมว ทเสฺสโนฺต ‘‘นยิท’’นฺติอาทิมาหฯ ตตฺถ ‘‘นยิทํ ยถารุตวเสน คเหตพฺพ’’นฺติ สุตฺตสฺส เนยฺยตฺถตํ วตฺวา ‘‘โยหี’’ติอาทินา ตํ วิวรติฯ ‘‘ทุกฺขเมว อเนฺวตี’’ติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ ยตฺถ กตฺถจิ หิเตสิตา กุสลเมวาติ? นยิทมีทิสํ สนฺธาย วุตฺตํ, อธมฺมํ ปน ธโมฺมติ, ธมฺมญฺจ ปน อธโมฺมติ ทีปเนน โลกสฺส สพฺพานตฺถพีชภูเตสุ สกลหิตสุขุปายปฎิเกฺขปเกสุ ติตฺถกเรสุ อสนฺตคุณสมฺภาวนวเสน ปวตฺตมิจฺฉาธิโมกฺขํ สนฺธาย วุตฺตํฯ โย หิ โลเก อปฺปมตฺตกมฺปิ ปุญฺญํ กาตุกามํ ปาปิกํ ทิฎฺฐิํ นิสฺสาย ปฎิพาหติ, โสปิ คารโยฺห, กิมงฺคํ ปน อริยวินเย สมฺมาปฎิปตฺติํ ปฎิพาหเนฺตสูติ ทุกฺขผลาว ตตฺถ สมฺภาวนาปสํสา ปยิรุปาสนาฯ ตถา หิ วุตฺตํ – ‘‘น โข อหํ, โมฆปุริส, อรหตฺตสฺส มจฺฉรายามิ, อปิจ ตุเยฺหเวตํ ปาปกํ ทิฎฺฐิคตํ…เป.… ทีฆรตฺตํ อหิตาย ทุกฺขาย สํวตฺตตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๗), ‘‘โย นินฺทิยํ ปสํสติ (สุ. นิ. ๖๖๓; สํ. นิ. ๑.๑๘๐, ๑๘๑; อ. นิ. ๔.๓; เนตฺติ. ๙๒), สพฺพสฺสาปิ อนตฺถสฺส มูลํ พาลูปเสวนา’’ติ จฯ
Vibhattihāre padaṭṭhānabhūmivibhāgā vuttanayā, suviññeyyā cāti dhammavibhāgameva dassento ‘‘nayida’’ntiādimāha. Tattha ‘‘nayidaṃ yathārutavasena gahetabba’’nti suttassa neyyatthataṃ vatvā ‘‘yohī’’tiādinā taṃ vivarati. ‘‘Dukkhameva anvetī’’ti kasmā vuttaṃ, nanu yattha katthaci hitesitā kusalamevāti? Nayidamīdisaṃ sandhāya vuttaṃ, adhammaṃ pana dhammoti, dhammañca pana adhammoti dīpanena lokassa sabbānatthabījabhūtesu sakalahitasukhupāyapaṭikkhepakesu titthakaresu asantaguṇasambhāvanavasena pavattamicchādhimokkhaṃ sandhāya vuttaṃ. Yo hi loke appamattakampi puññaṃ kātukāmaṃ pāpikaṃ diṭṭhiṃ nissāya paṭibāhati, sopi gārayho, kimaṅgaṃ pana ariyavinaye sammāpaṭipattiṃ paṭibāhantesūti dukkhaphalāva tattha sambhāvanāpasaṃsā payirupāsanā. Tathā hi vuttaṃ – ‘‘na kho ahaṃ, moghapurisa, arahattassa maccharāyāmi, apica tuyhevetaṃ pāpakaṃ diṭṭhigataṃ…pe… dīgharattaṃ ahitāya dukkhāya saṃvattatī’’ti (dī. ni. 3.7), ‘‘yo nindiyaṃ pasaṃsati (su. ni. 663; saṃ. ni. 1.180, 181; a. ni. 4.3; netti. 92), sabbassāpi anatthassa mūlaṃ bālūpasevanā’’ti ca.
อิทญฺหิ สุตฺตนฺติ ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา…เป.…ปท’’นฺติ (ธ. ป. ๑, ๒) ปฐมํ คาถํ สนฺธาย วทติฯ เอตสฺสาติ สํวณฺณิยมานสุตฺตสฺสฯ
Idañhi suttanti ‘‘manopubbaṅgamā…pe…pada’’nti (dha. pa. 1, 2) paṭhamaṃ gāthaṃ sandhāya vadati. Etassāti saṃvaṇṇiyamānasuttassa.
กิจฺจปญฺญตฺตีติ อธิปติปจฺจยสงฺขาตสฺส กิจฺจสฺส ปญฺญาปนํฯ ปธานปญฺญตฺตีติ ปธานภาวสฺส ปญฺญาปนาฯ สหชาตปญฺญตฺตีติ เตสํ ธมฺมานํ มนสา สหภาวปญฺญาปนาฯ
Kiccapaññattīti adhipatipaccayasaṅkhātassa kiccassa paññāpanaṃ. Padhānapaññattīti padhānabhāvassa paññāpanā. Sahajātapaññattīti tesaṃ dhammānaṃ manasā sahabhāvapaññāpanā.
มหาภูตาตีติ อิติสโทฺท อาทิอโตฺถ, เตน มหาภูตาวินาภาวี สโพฺพ รูปธโมฺม สงฺคยฺหติฯ
Mahābhūtātīti itisaddo ādiattho, tena mahābhūtāvinābhāvī sabbo rūpadhammo saṅgayhati.
‘‘มโนปุพฺพงฺคมา’’ติ สมาสปเท ‘‘มโน’’ติ ปทํ ตทวยวมตฺตนฺติ อาห ‘‘เนว ปทสุทฺธี’’ติฯ เตเนวาห ‘‘มโนปุพฺพงฺคมาติ ปทสุทฺธี’’ติฯ ‘‘ฉายาว อนปายินี’’ติ อิทํ สุขานุคมสฺส อุทาหรณมตฺตํ, น ยถาธิเปฺปตตฺถปริสมาปนํฯ ‘‘สุขมเนฺวตี’’ติ ปน ยถาธิเปฺปตตฺถปริสมาปนนฺติ วุตฺตํ ‘‘ปทสุทฺธิ เจว อารมฺภสุทฺธิ จา’’ติฯ
‘‘Manopubbaṅgamā’’ti samāsapade ‘‘mano’’ti padaṃ tadavayavamattanti āha ‘‘neva padasuddhī’’ti. Tenevāha ‘‘manopubbaṅgamāti padasuddhī’’ti. ‘‘Chāyāva anapāyinī’’ti idaṃ sukhānugamassa udāharaṇamattaṃ, na yathādhippetatthaparisamāpanaṃ. ‘‘Sukhamanvetī’’ti pana yathādhippetatthaparisamāpananti vuttaṃ ‘‘padasuddhi ceva ārambhasuddhi cā’’ti.
เอกตฺตตาติ มโนปุพฺพงฺคมาทิสามญฺญํ สนฺธาย วทติฯ เอวํ เสเสสุปิฯ เวมตฺตตา ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา’’ติอาทินา สามญฺญโต วุตฺตธเมฺม ปสาโท ธารณาย นิวเตฺตตฺวา ปสนฺนสงฺขาเต วิเสเส อวฎฺฐาปนโตฯ เสเสสุปิ เอเสว นโยฯ ปสาโท สิเนหสภาโว, อสฺสทฺธิยํ วิย ลูขสภาวํ โทสํ วิโนเทตีติ อาห ‘‘พฺยาปาทวิกฺขมฺภนโต’’ติฯ พหิทฺธาติ สเทฺธยฺยวตฺถุํ สนฺธายาหฯ โอกปฺปนโตติ อารมฺมณํ อนุปวิสิตฺวา อนุปกฺขนฺทิตฺวา สทฺทหนโตฯ
Ekattatāti manopubbaṅgamādisāmaññaṃ sandhāya vadati. Evaṃ sesesupi. Vemattatā ‘‘manopubbaṅgamā’’tiādinā sāmaññato vuttadhamme pasādo dhāraṇāya nivattetvā pasannasaṅkhāte visese avaṭṭhāpanato. Sesesupi eseva nayo. Pasādo sinehasabhāvo, assaddhiyaṃ viya lūkhasabhāvaṃ dosaṃ vinodetīti āha ‘‘byāpādavikkhambhanato’’ti. Bahiddhāti saddheyyavatthuṃ sandhāyāha. Okappanatoti ārammaṇaṃ anupavisitvā anupakkhanditvā saddahanato.
เทยฺยธมฺมาทโยติ เอตฺถ อาทิสเทฺทน สํเวคหิโรตฺตปฺปกสิณมณฺฑลาทโย สงฺคยฺหนฺติฯ อิฎฺฐารมฺมณาทโยติ อาทิสเทฺทน อิฎฺฐมชฺฌตฺตารมฺมณา, ทฺวารธมฺมา, มนสิกาโรติ เอวมาทีนํ สงฺคโห ทฎฺฐโพฺพฯ ตถา ผโสฺสติ ยถา เวทนาทีนํ อิฎฺฐารมฺมณาทโย ปจฺจโย, เอวํ ผโสฺสปีติ ปจฺจยตาสามญฺญเมว อุปสํหรติ ตถา-สโทฺทฯ เวทนาทีนนฺติ หิ เวทนาทโย ตโย ขนฺธา คหิตาฯ วิญฺญาณสฺส เวทนาทโยติ นามรูปํ สนฺธาย วทติฯ
Deyyadhammādayoti ettha ādisaddena saṃvegahirottappakasiṇamaṇḍalādayo saṅgayhanti. Iṭṭhārammaṇādayoti ādisaddena iṭṭhamajjhattārammaṇā, dvāradhammā, manasikāroti evamādīnaṃ saṅgaho daṭṭhabbo. Tathā phassoti yathā vedanādīnaṃ iṭṭhārammaṇādayo paccayo, evaṃ phassopīti paccayatāsāmaññameva upasaṃharati tathā-saddo. Vedanādīnanti hi vedanādayo tayo khandhā gahitā. Viññāṇassa vedanādayoti nāmarūpaṃ sandhāya vadati.
‘‘สีลมยสฺส อโทโส ปทฎฺฐาน’’นฺติ วุตฺตํ ขนฺติปธานตฺตา สีลสฺสฯ อธิฎฺฐาตีติ อนุยุญฺชติ อุปฺปาเทติฯ โสติ เอวํ กุสลจิตฺตํ ภาเวโนฺตฯ ‘‘อนุปฺปนฺนาน’’นฺติอาทินา ภาวนาปหานสมาโรปนานิ ทเสฺสโนฺต นิเพฺพธภาคิยวเสน คาถาย อตฺถํ วิจินิตฺวา สมาโรเปติ, เอวมฺปิ สกฺกา โยเชตุนฺติ วาสนาภาคิยวเสน ปทฎฺฐานนิเทฺทเส อุทาหรียติฯ
‘‘Sīlamayassa adoso padaṭṭhāna’’nti vuttaṃ khantipadhānattā sīlassa. Adhiṭṭhātīti anuyuñjati uppādeti. Soti evaṃ kusalacittaṃ bhāvento. ‘‘Anuppannāna’’ntiādinā bhāvanāpahānasamāropanāni dassento nibbedhabhāgiyavasena gāthāya atthaṃ vicinitvā samāropeti, evampi sakkā yojetunti vāsanābhāgiyavasena padaṭṭhānaniddese udāharīyati.
เอวํ ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา’’ติ คาถาย วเสน หารสมฺปาตโยชนาวิธิํ ทเสฺสตฺวา อิทานิ คาถานฺตเรน ทเสฺสตุํ ‘‘ตถา ททโต ปุญฺญ’’นฺติอาทิมาหฯ ตตฺถ ภาวนามยนฺติ ปญฺญาภาวนามยํฯ
Evaṃ ‘‘manopubbaṅgamā dhammā’’ti gāthāya vasena hārasampātayojanāvidhiṃ dassetvā idāni gāthāntarena dassetuṃ ‘‘tathā dadato puñña’’ntiādimāha. Tattha bhāvanāmayanti paññābhāvanāmayaṃ.
‘‘อโลโภ กุสลมูล’’นฺติอาทิ ทานาทีนํ อโลภาทิปธานตฺตา วุตฺตํ, สพฺพตฺถ จ ‘‘วุตฺต’’นฺติ ปทํ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํฯ เตสนฺติ ราคาทีนํฯ นิสฺสรณนฺติ จ ปรินิพฺพานเมว สนฺธาย วทติฯ
‘‘Alobho kusalamūla’’ntiādi dānādīnaṃ alobhādipadhānattā vuttaṃ, sabbattha ca ‘‘vutta’’nti padaṃ ānetvā yojetabbaṃ. Tesanti rāgādīnaṃ. Nissaraṇanti ca parinibbānameva sandhāya vadati.
ปริจฺจาคสีโล อโลภชฺฌาสโย กาเมสุ อาทีนวทสฺสาวี สมฺมเทว สีลํ ปริปูเรตีติ อาห ‘‘ททโต…เป.… ปทฎฺฐาน’’นฺติฯ อิธ โอฬาริกา นาม กิเลสา วีติกฺกมาวตฺถานํ, ตปฺปหานํ ตทงฺคปฺปหาเนน เวทิตพฺพํฯ มชฺฌิมานนฺติ ปริยุฎฺฐานาวตฺถานํฯ สุขุมานนฺติ อนุสยาวตฺถานํฯ กตาวีภูมิ นฺติ ขีณาสวภูมิํฯ
Pariccāgasīlo alobhajjhāsayo kāmesu ādīnavadassāvī sammadeva sīlaṃ paripūretīti āha ‘‘dadato…pe… padaṭṭhāna’’nti. Idha oḷārikā nāma kilesā vītikkamāvatthānaṃ, tappahānaṃ tadaṅgappahānena veditabbaṃ. Majjhimānanti pariyuṭṭhānāvatthānaṃ. Sukhumānanti anusayāvatthānaṃ. Katāvībhūmi nti khīṇāsavabhūmiṃ.
ททโตติ มคฺคสหคเตน อโลเภน สเทวกสฺส โลกสฺส อภยทานํ ททโตฯ ปุญฺญนฺติ โลกุตฺตรกุสลํฯ สํยมโตติ มคฺคปริยาปเนฺนหิ สมฺมาวาจากมฺมนฺตาชีเวหิ ทิเฎฺฐกฎฺฐาทิสํกิเลสโต มคฺคสํยเมน สํยมนฺตสฺสฯ เวรนฺติ ปาณาติปาตาทิปาปํฯ กุสโลติ มคฺคสมฺมาทิฎฺฐิยา กุสโล วิจกฺขโณฯ ชหาติ ปาปกนฺติ เตหิ เตหิ มเคฺคหิ ตํ ตํ ปหาตพฺพํ ปาปธมฺมํ โอธิโส ชหาติ สมุจฺฉินฺทติฯ เตนาห ‘‘มโคฺค วุโตฺต’’ติฯ
Dadatoti maggasahagatena alobhena sadevakassa lokassa abhayadānaṃ dadato. Puññanti lokuttarakusalaṃ. Saṃyamatoti maggapariyāpannehi sammāvācākammantājīvehi diṭṭhekaṭṭhādisaṃkilesato maggasaṃyamena saṃyamantassa. Veranti pāṇātipātādipāpaṃ. Kusaloti maggasammādiṭṭhiyā kusalo vicakkhaṇo. Jahāti pāpakanti tehi tehi maggehi taṃ taṃ pahātabbaṃ pāpadhammaṃ odhiso jahāti samucchindati. Tenāha ‘‘maggo vutto’’ti.
‘‘ททโต’’ติอาทินา ปุเพฺพ อวิภาเคน กุสลมูลานิ อุทฺธฎานีติ อิทานิ วิภาเคน ตานิ อุทฺธรโนฺต ‘‘โลกิยกุสลมูล’’นฺติอาทิมาหฯ
‘‘Dadato’’tiādinā pubbe avibhāgena kusalamūlāni uddhaṭānīti idāni vibhāgena tāni uddharanto ‘‘lokiyakusalamūla’’ntiādimāha.
ปุถุชฺชนภูมิ เสกฺขภูมิ ทสฺสิตา ปหานสฺส วิปฺปกตภาวทีปนโตฯ อเสกฺขภูมิ ทสฺสิตา อนุปาทาปรินิพฺพานทีปนโตฯ
Puthujjanabhūmi sekkhabhūmi dassitā pahānassa vippakatabhāvadīpanato. Asekkhabhūmi dassitā anupādāparinibbānadīpanato.
สคฺคคามินี ปฎิปทา ปุพฺพภาคปฺปฎิปตฺติฯ
Saggagāminī paṭipadā pubbabhāgappaṭipatti.
ปุเญฺญ กถิเต ปุญฺญผลมฺปิ กถิตเมว โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ททโต…เป.… เทสนมาหา’’ติฯ สจฺจกมฺมฎฺฐาเนน วินา สํกิเลสปฺปหานํ นตฺถีติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘กุสโล…เป.… เทสนมาหา’’ติฯ
Puññe kathite puññaphalampi kathitameva hotīti vuttaṃ ‘‘dadato…pe… desanamāhā’’ti. Saccakammaṭṭhānena vinā saṃkilesappahānaṃ natthīti dassento āha ‘‘kusalo…pe… desanamāhā’’ti.
เวรสโทฺท อทินฺนาทานาทิปาปธเมฺมสุปิ นิรุโฬฺหติ วุตฺตํ ‘‘เอวํ สพฺพานิปิ สิกฺขาปทานิ วิตฺถาเรตพฺพานี’’ติฯ เทฺวปิ วิมุตฺติโย เสกฺขาเสกฺขวิมุตฺติโย, สอุปาทิเสสอนุปาทิเสสวิมุตฺติโย จฯ ตถา หิ วกฺขติ ‘‘นิพฺพุโตติ เทฺว นิพฺพานธาตุโย’’ติอาทิ (เนตฺติ. อฎฺฐ. ๗๖)ฯ
Verasaddo adinnādānādipāpadhammesupi niruḷhoti vuttaṃ ‘‘evaṃ sabbānipi sikkhāpadāni vitthāretabbānī’’ti. Dvepi vimuttiyo sekkhāsekkhavimuttiyo, saupādisesaanupādisesavimuttiyo ca. Tathā hi vakkhati ‘‘nibbutoti dve nibbānadhātuyo’’tiādi (netti. aṭṭha. 76).
การณูปจาเรน, การณคฺคหเณน วา ผลํ คหิตนฺติ อาห ‘‘เทฺว สุคติโย’’ติอาทิฯ วฎฺฎวิวฎฺฎสมฺปตฺติโย อิมิสฺสา เทสนาย ผลํ, ตสฺส ทานํ สีลํ ภาวนา อุปาโย, ‘‘สมฺปตฺติทฺวยํ อิจฺฉเนฺตน ทานาทีสุ อปฺปมเตฺตน ภวิตพฺพ’’นฺติ อยเมตฺถ ภควโต อาณตฺตีติ อิมมตฺถํ สนฺธายาห ‘‘ผลาทีนิ ยถารหํ เวทิตพฺพานี’’ติฯ
Kāraṇūpacārena, kāraṇaggahaṇena vā phalaṃ gahitanti āha ‘‘dve sugatiyo’’tiādi. Vaṭṭavivaṭṭasampattiyo imissā desanāya phalaṃ, tassa dānaṃ sīlaṃ bhāvanā upāyo, ‘‘sampattidvayaṃ icchantena dānādīsu appamattena bhavitabba’’nti ayamettha bhagavato āṇattīti imamatthaṃ sandhāyāha ‘‘phalādīni yathārahaṃ veditabbānī’’ti.
วิจโยติ วิจยหารสมฺปาโต, โส วุจฺจตีติ อโตฺถฯ เอส นโย อิโต ปเรสุปิฯ ‘‘ติวิธมฺปิ ทานมย’’นฺติอาทินา ปทตฺถวิจยํ ทเสฺสติ, เตน อสฺสาทาทโย, อิตเร จ วิจยหารปทตฺถา อตฺถโต วิจิตา เอว โหนฺตีติฯ รูปาทิอารมฺมณสฺส ปริจฺจาโค วุโตฺตติ สมฺพโนฺธฯ สโพฺพติ สกโล อนวเสสโต กิจฺจสฺส วุตฺตตฺตาฯ
Vicayoti vicayahārasampāto, so vuccatīti attho. Esa nayo ito paresupi. ‘‘Tividhampi dānamaya’’ntiādinā padatthavicayaṃ dasseti, tena assādādayo, itare ca vicayahārapadatthā atthato vicitā eva hontīti. Rūpādiārammaṇassa pariccāgo vuttoti sambandho. Sabboti sakalo anavasesato kiccassa vuttattā.
ทานาภิรตสฺส จาคาธิฎฺฐานํ ปาริปูริํ คจฺฉตีติ วุตฺตํ ‘‘ททโต…เป.… ปทฎฺฐาน’’นฺติฯ วิรติสเจฺจ, วจีสเจฺจ จ ติฎฺฐโต สจฺจาธิฎฺฐานํ ปาริปูริํ คจฺฉตีติ วุตฺตํ ‘‘สํยม…เป.… ปทฎฺฐาน’’นฺติฯ โกสลฺลโยคโต จ ปาปปฺปหานโต จ ปญฺญาปาริปูริํ คจฺฉตีติ วุตฺตํ ‘‘กุสโล…เป.… ปทฎฺฐาน’’นฺติฯ อนวเสสราคาทีสุ ปหีเนสุ อุปสโม อุปฎฺฐิโต นาม โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ราค…เป.… ปทฎฺฐาน’’นฺติฯ
Dānābhiratassa cāgādhiṭṭhānaṃ pāripūriṃ gacchatīti vuttaṃ ‘‘dadato…pe… padaṭṭhāna’’nti. Viratisacce, vacīsacce ca tiṭṭhato saccādhiṭṭhānaṃ pāripūriṃ gacchatīti vuttaṃ ‘‘saṃyama…pe… padaṭṭhāna’’nti. Kosallayogato ca pāpappahānato ca paññāpāripūriṃ gacchatīti vuttaṃ ‘‘kusalo…pe… padaṭṭhāna’’nti. Anavasesarāgādīsu pahīnesu upasamo upaṭṭhito nāma hotīti vuttaṃ ‘‘rāga…pe… padaṭṭhāna’’nti.
กุสโลติ ปุคฺคลาธิฎฺฐาเนน โกสลฺลสมฺมาทิฎฺฐิ วุตฺตาติ อาห ‘‘กุสโล…เป.… มคฺคงฺคาทิภาเวน เอกลกฺขณตฺตา’’ติฯ อาทิสเทฺทน โพธิปกฺขิยภาวาทิํ สงฺคณฺหาติฯ เขเปตพฺพภาเวนาติ ปหาตพฺพภาเวนฯ
Kusaloti puggalādhiṭṭhānena kosallasammādiṭṭhi vuttāti āha ‘‘kusalo…pe… maggaṅgādibhāvena ekalakkhaṇattā’’ti. Ādisaddena bodhipakkhiyabhāvādiṃ saṅgaṇhāti. Khepetabbabhāvenāti pahātabbabhāvena.
อเวรตนฺติ อสปตฺตตํฯ กุสลธเมฺมหีติ อนวชฺชธเมฺมหิ, ผลนิพฺพาเนหีติ อธิปฺปาโยฯ ทานสฺส มหปฺผลตา, สีลาทิคุเณหิ สตฺถุ อนุตฺตรทกฺขิเณยฺยภาโว, อนุปาทาปรินิพฺพานนฺติ อิเมสํ ปจฺจเวกฺขณา อิมสฺส ทานสฺส นิทานนฺติ อยมโตฺถ ปาฬิยํ นิรุโฬฺหวฯ นิพฺพจนนิทานสนฺธโย สุวิเญฺญยฺยาวาติ อาห ‘‘นิพฺพจนนิทานสนฺธโย วตฺตพฺพา’’ติฯ
Averatanti asapattataṃ. Kusaladhammehīti anavajjadhammehi, phalanibbānehīti adhippāyo. Dānassa mahapphalatā, sīlādiguṇehi satthu anuttaradakkhiṇeyyabhāvo, anupādāparinibbānanti imesaṃ paccavekkhaṇā imassa dānassa nidānanti ayamattho pāḷiyaṃ niruḷhova. Nibbacananidānasandhayo suviññeyyāvāti āha ‘‘nibbacananidānasandhayo vattabbā’’ti.
ปฎิปกฺขนิเทฺทเสน สมุทโยติ เทสนตฺถํ ปฎิปกฺขนิเทฺทสเนน นิทฺธาริโต อยํ มจฺฉริยาทิสํกิเลสปกฺขิโก สมุทโยฯ อโลเภน…เป.… ทานาทีหีติ เยหิ อโลภาทีหิ ทานาทโย ธมฺมา สมฺภวนฺติ, ตานิ ทานาทิคฺคหเณเนว คหิตานีติ กุสลมูลานิ นิทฺธาเรติ ‘‘อิมานิ ตีณิ กุสลานี’’ติฯ เตสนฺติ กุสลมูลานํฯ
Paṭipakkhaniddesena samudayoti desanatthaṃ paṭipakkhaniddesanena niddhārito ayaṃ macchariyādisaṃkilesapakkhiko samudayo. Alobhena…pe… dānādīhīti yehi alobhādīhi dānādayo dhammā sambhavanti, tāni dānādiggahaṇeneva gahitānīti kusalamūlāni niddhāreti ‘‘imāni tīṇi kusalānī’’ti. Tesanti kusalamūlānaṃ.
ภยเหตุ เทติ ปณฺณาการาทิวเสนฯ ราคเหตุ เทติ สภาควตฺถุสฺสฯ อามิสกิญฺจิกฺขเหตุ เทติ ลญฺชาทิวเสนฯ อนุกมฺปโนฺต วา กรุณาเขเตฺตฯ อปจยมาโน คุณเขเตฺต, อุปการเขเตฺต วาฯ ภยูปรโตติ ภเยน โอรโตฯ เตน ตถารูเปน สํยเมน เวรํ น จิยเตวฯ เอวํ สพฺพสฺส อกุสลสฺส ปาปโก วิปาโกติ โยชนาฯ
Bhayahetu deti paṇṇākārādivasena. Rāgahetu deti sabhāgavatthussa. Āmisakiñcikkhahetu deti lañjādivasena. Anukampanto vā karuṇākhette. Apacayamāno guṇakhette, upakārakhette vā. Bhayūparatoti bhayena orato. Tena tathārūpena saṃyamena veraṃ na ciyateva. Evaṃ sabbassa akusalassa pāpako vipākoti yojanā.
‘‘ททโต’’ติอาทินา ยถา ทานปฎิเกฺขเปน ปริวตฺตนํ ทสฺสิตํ, เอวํ ปหานปฎิเกฺขเปนปิ ปริวตฺตนํ ทเสฺสตพฺพนฺติ วุตฺตํ ‘‘อกุสโล ปน น ชหาตี’’ติฯ
‘‘Dadato’’tiādinā yathā dānapaṭikkhepena parivattanaṃ dassitaṃ, evaṃ pahānapaṭikkhepenapi parivattanaṃ dassetabbanti vuttaṃ ‘‘akusalo pana na jahātī’’ti.
กมฺมผลํ สทฺทหโนฺต ทานกิริยายํ ปทหโนฺต เยน วิธินา ทานํ ทาตพฺพํ, ตตฺถ สติํ อุปฎฺฐเปโนฺต จิตฺตํ สมาทหโนฺต สมฺมาทิฎฺฐิํ ปุรกฺขโรโนฺต ทาเน สมฺมาปฎิปโนฺน โหตีติ อาห ‘‘ทานํ นาม…เป.… โหตี’’ติฯ
Kammaphalaṃ saddahanto dānakiriyāyaṃ padahanto yena vidhinā dānaṃ dātabbaṃ, tattha satiṃ upaṭṭhapento cittaṃ samādahanto sammādiṭṭhiṃ purakkharonto dāne sammāpaṭipanno hotīti āha ‘‘dānaṃ nāma…pe… hotī’’ti.
ภาวนาปหานสมาโรปนานิ ปาฬิยํ สรูปโต วิญฺญายนฺตีติ ปทฎฺฐานเววจนสมาโรปนานิ ทเสฺสตุํ ‘‘ตํ สีลสฺส ปทฎฺฐาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ, ตํ สุวิเญฺญยฺยํฯ อญฺญญฺจ ยเทตฺถ อตฺถโต น วิภตฺตํ, ตํ วุตฺตนยตฺตา, อุตฺตานตฺถตฺตา จาติ เวทิตพฺพํฯ
Bhāvanāpahānasamāropanāni pāḷiyaṃ sarūpato viññāyantīti padaṭṭhānavevacanasamāropanāni dassetuṃ ‘‘taṃ sīlassa padaṭṭhāna’’ntiādi vuttaṃ, taṃ suviññeyyaṃ. Aññañca yadettha atthato na vibhattaṃ, taṃ vuttanayattā, uttānatthattā cāti veditabbaṃ.
หารสมฺปาตวารวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Hārasampātavāravaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / ขุทฺทกนิกาย (อฎฺฐกถา) • Khuddakanikāya (aṭṭhakathā) / เนตฺติปฺปกรณ-อฎฺฐกถา • Nettippakaraṇa-aṭṭhakathā / มิสฺสกหารสมฺปาตวณฺณนา • Missakahārasampātavaṇṇanā