Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā |
[๑๑๔] ๔. มิตจินฺตีชาตกวณฺณนา
[114] 4. Mitacintījātakavaṇṇanā
พหุจินฺตี อปฺปจินฺตีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต เทฺว มหลฺลกเตฺถเร อารพฺภ กเถสิฯ เต กิร ชนปเท เอกสฺมิํ อรญฺญาวาเส วสฺสํ วสิตฺวา ‘‘สตฺถุ ทสฺสนตฺถาย คจฺฉิสฺสามา’’ติ ปาเถยฺยํ สเชฺชตฺวา ‘‘อชฺช คจฺฉาม, เสฺว คจฺฉามา’’ติ มาสํ อติกฺกาเมตฺวา ปุน ปาเถยฺยํ สเชฺชตฺวา ตเถว มาสํ, ปุน มาสนฺติ เอวํ อตฺตโน กุสีตภาเวน เจว นิวาสฎฺฐาเน จ อเปกฺขาย ตโย มาเส อติกฺกาเมตฺวา ตโต นิกฺขมฺม เชตวนํ คนฺตฺวา สภาคฎฺฐาเน ปตฺตจีวรํ ปฎิสาเมตฺวา สตฺถารํ ปสฺสิํสุฯ อถ เน ภิกฺขู ปุจฺฉิํสุ ‘‘จิรํ โว, อาวุโส, พุทฺธุปฎฺฐานํ อกโรนฺตานํ, กสฺมา เอวํ จิรายิตฺถา’’ติ? เต ตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อถ เนสํ โส อาลสิยกุสีตภาโว ภิกฺขุสเงฺฆ ปากโฎ ชาโตฯ ธมฺมสภายมฺปิ เตสํ ภิกฺขูนเมว อาลสิยภาวํ นิสฺสาย กถํ สมุฎฺฐาเปสุํฯ สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุเตฺต เต ปโกฺกสาเปตฺวา ‘‘สจฺจํ กิร ตุเมฺห, ภิกฺขเว, อลสา กุสีตา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘สจฺจํ, ภเนฺต’’ติ วุเตฺต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนเวเต อลสา, ปุเพฺพปิ อลสา เจว นิวาสฎฺฐาเน จ สาลยา สาเปกฺขา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ
Bahucintī appacintīti idaṃ satthā jetavane viharanto dve mahallakatthere ārabbha kathesi. Te kira janapade ekasmiṃ araññāvāse vassaṃ vasitvā ‘‘satthu dassanatthāya gacchissāmā’’ti pātheyyaṃ sajjetvā ‘‘ajja gacchāma, sve gacchāmā’’ti māsaṃ atikkāmetvā puna pātheyyaṃ sajjetvā tatheva māsaṃ, puna māsanti evaṃ attano kusītabhāvena ceva nivāsaṭṭhāne ca apekkhāya tayo māse atikkāmetvā tato nikkhamma jetavanaṃ gantvā sabhāgaṭṭhāne pattacīvaraṃ paṭisāmetvā satthāraṃ passiṃsu. Atha ne bhikkhū pucchiṃsu ‘‘ciraṃ vo, āvuso, buddhupaṭṭhānaṃ akarontānaṃ, kasmā evaṃ cirāyitthā’’ti? Te tamatthaṃ ārocesuṃ. Atha nesaṃ so ālasiyakusītabhāvo bhikkhusaṅghe pākaṭo jāto. Dhammasabhāyampi tesaṃ bhikkhūnameva ālasiyabhāvaṃ nissāya kathaṃ samuṭṭhāpesuṃ. Satthā āgantvā ‘‘kāya nuttha, bhikkhave, etarahi kathāya sannisinnā’’ti pucchitvā ‘‘imāya nāmā’’ti vutte te pakkosāpetvā ‘‘saccaṃ kira tumhe, bhikkhave, alasā kusītā’’ti pucchitvā ‘‘saccaṃ, bhante’’ti vutte ‘‘na, bhikkhave, idānevete alasā, pubbepi alasā ceva nivāsaṭṭhāne ca sālayā sāpekkhā’’ti vatvā atītaṃ āhari.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต พาราณสินทิยํ ตโย มจฺฉา อเหสุํ, พหุจินฺตี, อปฺปจินฺตี, มิตจินฺตีติ เตสํ นามานิฯ เต อรญฺญโต มนุสฺสปถํ อาคมิํสุฯ ตตฺถ มิตจินฺตี อิตเร เทฺว เอวมาห ‘‘อยํ มนุสฺสปโถ นาม สาสโงฺก สปฺปฎิภโย, เกวฎฺฎา นานปฺปการานิ ชาลกุมินาทีนิ ขิปิตฺวา มเจฺฉ คณฺหนฺติ, มยํ อรญฺญเมว คจฺฉามา’’ติฯ อิตเร เทฺว ชนา อลสตาย เจว อามิสคิทฺธตาย จ ‘‘อชฺช คจฺฉาม, เสฺว คจฺฉามา’’ติ ตโย มาเส อติกฺกาเมสุํฯ อถ เกวฎฺฎา นทิยํ ชาลํ ขิปิํสุฯ พหุจินฺตี จ อปฺปจินฺตี จ โคจรํ คณฺหนฺตา ปุรโต คจฺฉนฺติฯ เต อตฺตโน อนฺธพาลตาย ชาลคนฺธํ อสลฺลเกฺขตฺวา ชาลกุจฺฉิเมว ปวิสิํสุฯ มิตจินฺตี ปจฺฉโต อาคจฺฉโนฺต ชาลคนฺธํ สลฺลเกฺขตฺวา เตสญฺจ ชาลกุจฺฉิํ ปวิฎฺฐภาวํ ญตฺวา ‘‘อิเมสํ กุสีตานํ อนฺธพาลานํ ชีวิตทานํ ทสฺสามี’’ติ จิเนฺตตฺวา พหิปเสฺสน ชาลกุจฺฉิฎฺฐานํ คนฺตฺวา ชาลกุจฺฉิํ ผาเลตฺวา นิกฺขนฺตสทิโส หุตฺวา อุทกํ อาลุเฬโนฺต ชาลสฺส ปุรโต ปติตฺวา ปุน ชาลกุจฺฉิํ ปวิสิตฺวา ปจฺฉิมภาเคน ผาเลตฺวา นิกฺขนฺตสทิโส อุทกํ อาลุเฬโนฺต ปจฺฉิมภาเค ปติฯ เกวฎฺฎา ‘‘มจฺฉา ชาลํ ผาเลตฺวา คตา’’ติ มญฺญมานา ชาลโกฎิยํ คเหตฺวา อุกฺขิปิํสุฯ เต เทฺวปิ มจฺฉา ชาลโต มุจฺจิตฺวา อุทเก ปติํสุฯ อิติ เตหิ มิตจินฺติํ นิสฺสาย ชีวิตํ ลทฺธํฯ
Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bārāṇasinadiyaṃ tayo macchā ahesuṃ, bahucintī, appacintī, mitacintīti tesaṃ nāmāni. Te araññato manussapathaṃ āgamiṃsu. Tattha mitacintī itare dve evamāha ‘‘ayaṃ manussapatho nāma sāsaṅko sappaṭibhayo, kevaṭṭā nānappakārāni jālakuminādīni khipitvā macche gaṇhanti, mayaṃ araññameva gacchāmā’’ti. Itare dve janā alasatāya ceva āmisagiddhatāya ca ‘‘ajja gacchāma, sve gacchāmā’’ti tayo māse atikkāmesuṃ. Atha kevaṭṭā nadiyaṃ jālaṃ khipiṃsu. Bahucintī ca appacintī ca gocaraṃ gaṇhantā purato gacchanti. Te attano andhabālatāya jālagandhaṃ asallakkhetvā jālakucchimeva pavisiṃsu. Mitacintī pacchato āgacchanto jālagandhaṃ sallakkhetvā tesañca jālakucchiṃ paviṭṭhabhāvaṃ ñatvā ‘‘imesaṃ kusītānaṃ andhabālānaṃ jīvitadānaṃ dassāmī’’ti cintetvā bahipassena jālakucchiṭṭhānaṃ gantvā jālakucchiṃ phāletvā nikkhantasadiso hutvā udakaṃ āluḷento jālassa purato patitvā puna jālakucchiṃ pavisitvā pacchimabhāgena phāletvā nikkhantasadiso udakaṃ āluḷento pacchimabhāge pati. Kevaṭṭā ‘‘macchā jālaṃ phāletvā gatā’’ti maññamānā jālakoṭiyaṃ gahetvā ukkhipiṃsu. Te dvepi macchā jālato muccitvā udake patiṃsu. Iti tehi mitacintiṃ nissāya jīvitaṃ laddhaṃ.
สตฺถา อิมํ อตีตํ อาหริตฺวา อภิสมฺพุโทฺธ หุตฺวา อิมํ คาถมาห –
Satthā imaṃ atītaṃ āharitvā abhisambuddho hutvā imaṃ gāthamāha –
๑๑๔.
114.
‘‘พหุจินฺตี อปฺปจินฺตี, อุโภ ชาเล อพชฺฌเร;
‘‘Bahucintī appacintī, ubho jāle abajjhare;
มิตจินฺตี ปโมเจสิ, อุโภ ตตฺถ สมาคตา’’ติฯ
Mitacintī pamocesi, ubho tattha samāgatā’’ti.
ตตฺถ พหุจินฺตีติ พหุจินฺตนตาย วิตกฺกพหุลตาย เอวํลทฺธนาโมฯ อิตเรสุปิ ทฺวีสุ อยเมว นโยฯ อุโภ ตตฺถ สมาคตาติ มิตจินฺติํ นิสฺสาย ลทฺธชีวิตา ตตฺถ อุทเก ปุน อุโภปิ ชนา มิตจินฺตินา สทฺธิํ สมาคตาติ อโตฺถฯ
Tattha bahucintīti bahucintanatāya vitakkabahulatāya evaṃladdhanāmo. Itaresupi dvīsu ayameva nayo. Ubho tattha samāgatāti mitacintiṃ nissāya laddhajīvitā tattha udake puna ubhopi janā mitacintinā saddhiṃ samāgatāti attho.
เอวํ สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา สจฺจานิ ปกาเสตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ, สจฺจปริโยสาเน มหลฺลกา ภิกฺขู โสตาปตฺติผเล ปติฎฺฐหิํสุฯ ตทา พหุจินฺตี จ อปฺปจินฺตี จ อิเม เทฺว อเหสุํ, มิตจินฺตี ปน อหเมว อโหสินฺติฯ
Evaṃ satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā saccāni pakāsetvā jātakaṃ samodhānesi, saccapariyosāne mahallakā bhikkhū sotāpattiphale patiṭṭhahiṃsu. Tadā bahucintī ca appacintī ca ime dve ahesuṃ, mitacintī pana ahameva ahosinti.
มิตจินฺตีชาตกวณฺณนา จตุตฺถาฯ
Mitacintījātakavaṇṇanā catutthā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๑๑๔. มิตจินฺติชาตกํ • 114. Mitacintijātakaṃ