Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / เถรีคาถา-อฎฺฐกถา • Therīgāthā-aṭṭhakathā |
๖. มิตฺตากาฬีเถรีคาถาวณฺณนา
6. Mittākāḷītherīgāthāvaṇṇanā
สทฺธาย ปพฺพชิตฺวานาติอาทิกา มิตฺตากาฬิยา เถริยา คาถาฯ อยมฺปิ ปุริมพุเทฺธสุ กตาธิการา ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิวฎฺฎูปนิสฺสยํ กุสลํ อุปจินนฺตี อิมสฺมิํ พุทฺธุปฺปาเท กุรุรเฎฺฐ กมฺมาสธมฺมนิคเม พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วิญฺญุตํ ปตฺตา มหาสติปฎฺฐานเทสนาย ปฎิลทฺธสทฺธา ภิกฺขุนีสุ ปพฺพชิตฺวา สตฺต สํวจฺฉรานิ ลาภสกฺการคิทฺธิกา หุตฺวา สมณธมฺมํ กโรนฺตี ตตฺถ ตตฺถ วิจริตฺวา อปรภาเค โยนิโส อุมฺมุชฺชนฺตี สํเวคชาตา หุตฺวา วิปสฺสนํ ปฎฺฐเปตฺวา น จิรเสฺสว สห ปฎิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปตฺวา อตฺตโน ปฎิปตฺติํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา อุทานวเสน –
Saddhāyapabbajitvānātiādikā mittākāḷiyā theriyā gāthā. Ayampi purimabuddhesu katādhikārā tattha tattha bhave vivaṭṭūpanissayaṃ kusalaṃ upacinantī imasmiṃ buddhuppāde kururaṭṭhe kammāsadhammanigame brāhmaṇakule nibbattitvā viññutaṃ pattā mahāsatipaṭṭhānadesanāya paṭiladdhasaddhā bhikkhunīsu pabbajitvā satta saṃvaccharāni lābhasakkāragiddhikā hutvā samaṇadhammaṃ karontī tattha tattha vicaritvā aparabhāge yoniso ummujjantī saṃvegajātā hutvā vipassanaṃ paṭṭhapetvā na cirasseva saha paṭisambhidāhi arahattaṃ patvā attano paṭipattiṃ paccavekkhitvā udānavasena –
๙๒.
92.
‘‘สทฺธาย ปพฺพชิตฺวาน, อคารสฺมานคาริยํ;
‘‘Saddhāya pabbajitvāna, agārasmānagāriyaṃ;
วิจริํหํ เตน เตน, ลาภสกฺการอุสฺสุกาฯ
Vicariṃhaṃ tena tena, lābhasakkāraussukā.
๙๓.
93.
‘‘ริญฺจิตฺวา ปรมํ อตฺถํ, หีนมตฺถํ อเสวิหํ;
‘‘Riñcitvā paramaṃ atthaṃ, hīnamatthaṃ asevihaṃ;
กิเลสานํ วสํ คนฺตฺวา, สามญฺญตฺถํ น พุชฺฌิหํฯ
Kilesānaṃ vasaṃ gantvā, sāmaññatthaṃ na bujjhihaṃ.
๙๔.
94.
‘‘ตสฺสา เม อหุ สํเวโค, นิสินฺนาย วิหารเก;
‘‘Tassā me ahu saṃvego, nisinnāya vihārake;
อุมฺมคฺคปฎิปนฺนามฺหิ, ตณฺหาย วสมาคตาฯ
Ummaggapaṭipannāmhi, taṇhāya vasamāgatā.
๙๕.
95.
‘‘อปฺปกํ ชีวิตํ มยฺหํ, ชรา พฺยาธิ จ มทฺทติ;
‘‘Appakaṃ jīvitaṃ mayhaṃ, jarā byādhi ca maddati;
ปุรายํ ภิชฺชติ กาโย, น เม กาโล ปมชฺชิตุํฯ
Purāyaṃ bhijjati kāyo, na me kālo pamajjituṃ.
๙๖.
96.
‘‘ยถาภูตมเวกฺขนฺตี, ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ;
‘‘Yathābhūtamavekkhantī, khandhānaṃ udayabbayaṃ;
วิมุตฺตจิตฺตา อุฎฺฐาสิํ, กตํ พุทฺธสฺส สาสน’’นฺติฯ – อิมา คาถา อภาสิ;
Vimuttacittā uṭṭhāsiṃ, kataṃ buddhassa sāsana’’nti. – imā gāthā abhāsi;
ตตฺถ วิจริํหํ เตน เตน, ลาภสกฺการอุสฺสุกาติ ลาเภ จ สกฺกาเร จ อุสฺสุกา ยุตฺตปฺปยุตฺตา หุตฺวา เตน เตน พาหุสจฺจธมฺมกถาทินา ลาภุปฺปาทเหตุนา วิจริํ อหํฯ
Tattha vicariṃhaṃ tena tena, lābhasakkāraussukāti lābhe ca sakkāre ca ussukā yuttappayuttā hutvā tena tena bāhusaccadhammakathādinā lābhuppādahetunā vicariṃ ahaṃ.
ริญฺจิตฺวา ปรมํ อตฺถนฺติ ฌานวิปสฺสนามคฺคผลาทิํ อุตฺตมํ อตฺถํ ชหิตฺวา ฉเฑฺฑตฺวาฯ หีนมตฺถํ อเสวิหนฺติ จตุปจฺจยสงฺขาตอามิสภาวโต หีนํ ลามกํ อตฺถํ อโยนิโส ปริเยสนาย ปฎิเสวิํ อหํฯ กิเลสานํ วสํ คนฺตฺวาติ มานมทตณฺหาทีนํ กิเลสานํ วสํ อุปคนฺตฺวา สามญฺญตฺถํ สมณกิจฺจํ น พุชฺฌิํ น ชานิํ อหํฯ
Riñcitvā paramaṃ atthanti jhānavipassanāmaggaphalādiṃ uttamaṃ atthaṃ jahitvā chaḍḍetvā. Hīnamatthaṃ asevihanti catupaccayasaṅkhātaāmisabhāvato hīnaṃ lāmakaṃ atthaṃ ayoniso pariyesanāya paṭiseviṃ ahaṃ. Kilesānaṃ vasaṃ gantvāti mānamadataṇhādīnaṃ kilesānaṃ vasaṃ upagantvā sāmaññatthaṃ samaṇakiccaṃ na bujjhiṃ na jāniṃ ahaṃ.
นิสินฺนาย วิหารเกติ มม วสนกโอวรเก นิสินฺนาย อหุ สํเวโคฯ กถนฺติ เจ, อาห ‘‘อุมฺมคฺคปฎิปนฺนามฺหี’’ติฯ ตตฺถ อุมฺมคฺคปฎิปนฺนามฺหีติ ยาวเทว อนุปาทาย ปรินิพฺพานตฺถมิทํ สาสนํ, ตตฺถ สาสเน ปพฺพชิตฺวา กมฺมฎฺฐานํ อมนสิกโรนฺตี ตสฺส อุมฺมคฺคปฎิปนฺนา อมฺหีติฯ ตณฺหาย วสมาคตาติ ปจฺจยุปฺปาทนตณฺหาย วสํ อุปคตาฯ
Nisinnāyavihāraketi mama vasanakaovarake nisinnāya ahu saṃvego. Kathanti ce, āha ‘‘ummaggapaṭipannāmhī’’ti. Tattha ummaggapaṭipannāmhīti yāvadeva anupādāya parinibbānatthamidaṃ sāsanaṃ, tattha sāsane pabbajitvā kammaṭṭhānaṃ amanasikarontī tassa ummaggapaṭipannā amhīti. Taṇhāya vasamāgatāti paccayuppādanataṇhāya vasaṃ upagatā.
อปฺปกํ ชีวิตํ มยฺหนฺติ ปริจฺฉินฺนกาลา วชฺชิตโต พหูปทฺทวโต จ มม ชีวิตํ อปฺปกํ ปริตฺตํ ลหุกํฯ ชรา พฺยาธิ จ มทฺทตีติ ตญฺจ สมนฺตโต อาปติตฺวา นิโปฺปเถนฺตา ปพฺพตา วิย ชรา พฺยาธิ จ มทฺทติ นิมฺมถติฯ ‘‘มทฺทเร’’ติปิ ปาโฐฯ ปุรายํ ภิชฺชติ กาโยติ อยํ กาโย ภิชฺชติ ปุราฯ ยสฺมา ตสฺส เอกํสิโก เภโท, ตสฺมา น เม กาโล ปมชฺชิตุํ อยํ กาโล อฎฺฐกฺขณวชฺชิโต นวโม ขโณ, โส ปมชฺชิตุํ น ยุโตฺตติ ตสฺสาหุํ สํเวโคติ โยชนาฯ
Appakaṃ jīvitaṃ mayhanti paricchinnakālā vajjitato bahūpaddavato ca mama jīvitaṃ appakaṃ parittaṃ lahukaṃ. Jarā byādhi ca maddatīti tañca samantato āpatitvā nippothentā pabbatā viya jarā byādhi ca maddati nimmathati. ‘‘Maddare’’tipi pāṭho. Purāyaṃ bhijjati kāyoti ayaṃ kāyo bhijjati purā. Yasmā tassa ekaṃsiko bhedo, tasmā na me kālo pamajjituṃ ayaṃ kālo aṭṭhakkhaṇavajjito navamo khaṇo, so pamajjituṃ na yuttoti tassāhuṃ saṃvegoti yojanā.
ยถาภูตมเวกฺขนฺตีติ เอวํ ชาตสํเวคา วิปสฺสนํ ปฎฺฐเปตฺวา อนิจฺจาทิมนสิกาเรน ยถาภูตมเวกฺขนฺตีฯ กิํ อเวกฺขนฺตีติ อาห ‘‘ขนฺธานํ อุทยพฺพย’’นฺติฯ ‘‘อวิชฺชาสมุทยา รูปสมุทโย’’ติอาทินา (ปฎิ. ม. ๑.๕๐) สมปญฺญาสปฺปเภทานํ ปญฺจนฺนํ อุปาทานกฺขนฺธานํ อุปฺปาทนิโรธญฺจ อุทยพฺพยานุปสฺสนาย อเวกฺขนฺตี วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา มคฺคปฎิปาฎิยา สพฺพโส กิเลเสหิ จ ภเวหิ จ วิมุตฺตจิตฺตา อุฎฺฐาสิํ, อุภโต อุฎฺฐาเนน มเคฺคน ภวตฺตยโต จาติ วุฎฺฐิตา อโหสิํฯ เสสํ วุตฺตนยเมวฯ
Yathābhūtamavekkhantīti evaṃ jātasaṃvegā vipassanaṃ paṭṭhapetvā aniccādimanasikārena yathābhūtamavekkhantī. Kiṃ avekkhantīti āha ‘‘khandhānaṃ udayabbaya’’nti. ‘‘Avijjāsamudayā rūpasamudayo’’tiādinā (paṭi. ma. 1.50) samapaññāsappabhedānaṃ pañcannaṃ upādānakkhandhānaṃ uppādanirodhañca udayabbayānupassanāya avekkhantī vipassanaṃ ussukkāpetvā maggapaṭipāṭiyā sabbaso kilesehi ca bhavehi ca vimuttacittā uṭṭhāsiṃ, ubhato uṭṭhānena maggena bhavattayato cāti vuṭṭhitā ahosiṃ. Sesaṃ vuttanayameva.
มิตฺตากาฬีเถรีคาถาวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Mittākāḷītherīgāthāvaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / เถรีคาถาปาฬิ • Therīgāthāpāḷi / ๖. มิตฺตากาฬีเถรีคาถา • 6. Mittākāḷītherīgāthā