Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā |
[๑๙๗] ๗. มิตฺตามิตฺตชาตกวณฺณนา
[197] 7. Mittāmittajātakavaṇṇanā
น นํ อุมฺหยเต ทิสฺวาติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต อญฺญตรํ ภิกฺขุํ อารพฺภ กเถสิฯ อญฺญตโร ภิกฺขุ ‘‘มยา คหิเต มยฺหํ อุปชฺฌาโย น กุชฺฌิสฺสตี’’ติ อุปชฺฌาเยน ฐปิตํ วิสฺสาเสน เอกํ วตฺถขณฺฑํ คเหตฺวา อุปาหนตฺถวิกํ กตฺวา ปจฺฉา อุปชฺฌายํ อาปุจฺฉิฯ อถ ตํ อุปชฺฌาโย ‘‘กิํการณา คณฺหี’’ติ วตฺวา ‘‘มยา คหิเต น กุชฺฌิสฺสตีติ ตุมฺหากํ วิสฺสาเสนา’’ติ วุเตฺต ‘‘โก มยา สทฺธิํ ตุยฺหํ วิสฺสาโส นามา’’ติ วตฺวา กุโทฺธ อุฎฺฐหิตฺวา ปหริฯ ตสฺส สา กิริยา ภิกฺขูสุ ปากฎา ชาตาฯ อเถกทิวสํ ภิกฺขู ธมฺมสภายํ กถํ สมุฎฺฐาเปสุํ – ‘‘อาวุโส, อสุโก กิร ทหโร อุปชฺฌายสฺส วิสฺสาเสน วตฺถขณฺฑํ คเหตฺวา อุปาหนตฺถวิกํ อกาสิฯ อถ นํ อุปชฺฌาโย ‘โก มยา สทฺธิํ ตุยฺหํ วิสฺสาโส นามา’ติ วตฺวา กุโทฺธ อุฎฺฐหิตฺวา ปหรี’’ติฯ สตฺถา อาคนฺตฺวา ‘‘กาย นุตฺถ, ภิกฺขเว, เอตรหิ กถาย สนฺนิสินฺนา’’ติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อิมาย นามา’’ติ วุเตฺต ‘‘น, ภิกฺขเว, อิทาเนเวส ภิกฺขุ อตฺตโน สทฺธิวิหาริเกน สทฺธิํ อวิสฺสาสิโก, ปุเพฺพปิ อวิสฺสาสิโกเยวา’’ติ วตฺวา อตีตํ อาหริฯ
Na naṃ umhayate disvāti idaṃ satthā jetavane viharanto aññataraṃ bhikkhuṃ ārabbha kathesi. Aññataro bhikkhu ‘‘mayā gahite mayhaṃ upajjhāyo na kujjhissatī’’ti upajjhāyena ṭhapitaṃ vissāsena ekaṃ vatthakhaṇḍaṃ gahetvā upāhanatthavikaṃ katvā pacchā upajjhāyaṃ āpucchi. Atha taṃ upajjhāyo ‘‘kiṃkāraṇā gaṇhī’’ti vatvā ‘‘mayā gahite na kujjhissatīti tumhākaṃ vissāsenā’’ti vutte ‘‘ko mayā saddhiṃ tuyhaṃ vissāso nāmā’’ti vatvā kuddho uṭṭhahitvā pahari. Tassa sā kiriyā bhikkhūsu pākaṭā jātā. Athekadivasaṃ bhikkhū dhammasabhāyaṃ kathaṃ samuṭṭhāpesuṃ – ‘‘āvuso, asuko kira daharo upajjhāyassa vissāsena vatthakhaṇḍaṃ gahetvā upāhanatthavikaṃ akāsi. Atha naṃ upajjhāyo ‘ko mayā saddhiṃ tuyhaṃ vissāso nāmā’ti vatvā kuddho uṭṭhahitvā paharī’’ti. Satthā āgantvā ‘‘kāya nuttha, bhikkhave, etarahi kathāya sannisinnā’’ti pucchitvā ‘‘imāya nāmā’’ti vutte ‘‘na, bhikkhave, idānevesa bhikkhu attano saddhivihārikena saddhiṃ avissāsiko, pubbepi avissāsikoyevā’’ti vatvā atītaṃ āhari.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต กาสิรเฎฺฐ พฺราหฺมณกุเล นิพฺพตฺติตฺวา วยปฺปโตฺต อิสิปพฺพชฺชํ ปพฺพชิตฺวา อภิญฺญา จ สมาปตฺติโย จ นิพฺพเตฺตตฺวา คณสตฺถา หุตฺวา หิมวนฺตปเทเส วาสํ กเปฺปสิฯ ตสฺมิํ อิสิคเณ เอโก ตาปโส โพธิสตฺตสฺส วจนํ อกตฺวา เอกํ มตมาติกํ หตฺถิโปตกํ ปฎิชคฺคิฯ อถ นํ โส วุทฺธิปฺปโตฺต มาเรตฺวา อรญฺญํ ปาวิสิฯ ตสฺส สรีรกิจฺจํ กตฺวา อิสิคโณ โพธิสตฺตํ ปริวาเรตฺวา – ‘‘ภเนฺต, เกน นุ โก การเณน มิตฺตภาโว วา อมิตฺตภาโว วา สกฺกา ชานิตุ’’นฺติ ปุจฺฉิฯ โพธิสโตฺต ‘‘อิมินา จ อิมินา จ การเณนา’’ติ อาจิกฺขโนฺต อิมา คาถา อโวจ –
Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto kāsiraṭṭhe brāhmaṇakule nibbattitvā vayappatto isipabbajjaṃ pabbajitvā abhiññā ca samāpattiyo ca nibbattetvā gaṇasatthā hutvā himavantapadese vāsaṃ kappesi. Tasmiṃ isigaṇe eko tāpaso bodhisattassa vacanaṃ akatvā ekaṃ matamātikaṃ hatthipotakaṃ paṭijaggi. Atha naṃ so vuddhippatto māretvā araññaṃ pāvisi. Tassa sarīrakiccaṃ katvā isigaṇo bodhisattaṃ parivāretvā – ‘‘bhante, kena nu ko kāraṇena mittabhāvo vā amittabhāvo vā sakkā jānitu’’nti pucchi. Bodhisatto ‘‘iminā ca iminā ca kāraṇenā’’ti ācikkhanto imā gāthā avoca –
๙๓.
93.
‘‘น นํ อุมฺหยเต ทิสฺวา, น จ นํ ปฎินนฺทติ;
‘‘Na naṃ umhayate disvā, na ca naṃ paṭinandati;
จกฺขูนิ จสฺส น ททาติ, ปฎิโลมญฺจ วตฺตติฯ
Cakkhūni cassa na dadāti, paṭilomañca vattati.
๙๔.
94.
‘‘เอเต ภวนฺติ อาการา, อมิตฺตสฺมิํ ปติฎฺฐิตา;
‘‘Ete bhavanti ākārā, amittasmiṃ patiṭṭhitā;
เยหิ อมิตฺตํ ชาเนยฺย, ทิสฺวา สุตฺวา จ ปณฺฑิโต’’ติฯ
Yehi amittaṃ jāneyya, disvā sutvā ca paṇḍito’’ti.
ตตฺถ น นํ อุมฺหยเต ทิสฺวาติ โย หิ ยสฺส อมิโตฺต โหติ, โส ตํ ปุคฺคลํ ทิสฺวา น อุมฺหยเต, หสิตํ น กโรติ, ปหฎฺฐาการํ น ทเสฺสติฯ น จ นํ ปฎินนฺทตีติ ตสฺส วจนํ สุตฺวาปิ ตํ ปุคฺคลํ น ปฎินนฺทติ, สาธุ สุภาสิตนฺติ น จานุโมทติฯ จกฺขูนิ จสฺส น ททาตีติ จกฺขุนา จกฺขุํ อาหจฺจ ปฎิมุโข หุตฺวา น โอโลเกติ, อญฺญโต จกฺขูนิ หรติฯ ปฎิโลมญฺจ วตฺตตีติ ตสฺส กายกมฺมมฺปิ วจีกมฺมมฺปิ น โรเจติ, ปฎิโลมคาหํ คณฺหาติ ปจฺจนีกคาหํฯ อาการาติ การณานิฯ เยหิ อมิตฺตนฺติ เยหิ การเณหิ ตานิ การณานิ ทิสฺวา สุตฺวา จ ปณฺฑิโต ปุคฺคโล ‘‘อยํ เม อมิโตฺต’’ติ ชาเนยฺย, ตโต วิปรีเตหิ ปน มิตฺตภาโว ชานิตโพฺพติฯ
Tattha na naṃ umhayate disvāti yo hi yassa amitto hoti, so taṃ puggalaṃ disvā na umhayate, hasitaṃ na karoti, pahaṭṭhākāraṃ na dasseti. Naca naṃ paṭinandatīti tassa vacanaṃ sutvāpi taṃ puggalaṃ na paṭinandati, sādhu subhāsitanti na cānumodati. Cakkhūni cassa na dadātīti cakkhunā cakkhuṃ āhacca paṭimukho hutvā na oloketi, aññato cakkhūni harati. Paṭilomañca vattatīti tassa kāyakammampi vacīkammampi na roceti, paṭilomagāhaṃ gaṇhāti paccanīkagāhaṃ. Ākārāti kāraṇāni. Yehi amittanti yehi kāraṇehi tāni kāraṇāni disvā sutvā ca paṇḍito puggalo ‘‘ayaṃ me amitto’’ti jāneyya, tato viparītehi pana mittabhāvo jānitabboti.
เอวํ โพธิสโตฺต มิตฺตามิตฺตภาวการณานิ อาจิกฺขิตฺวา พฺรหฺมวิหาเร ภาเวตฺวา พฺรหฺมโลกูปโค อโหสิฯ
Evaṃ bodhisatto mittāmittabhāvakāraṇāni ācikkhitvā brahmavihāre bhāvetvā brahmalokūpago ahosi.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา หตฺถิโปสกตาปโส สทฺธิวิหาริโก อโหสิ, หตฺถี อุปชฺฌาโย, อิสิคโณ พุทฺธปริสา, คณสตฺถา ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ
Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā hatthiposakatāpaso saddhivihāriko ahosi, hatthī upajjhāyo, isigaṇo buddhaparisā, gaṇasatthā pana ahameva ahosi’’nti.
มิตฺตามิตฺตชาตกวณฺณนา สตฺตมาฯ
Mittāmittajātakavaṇṇanā sattamā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๑๙๗. มิตฺตามิตฺตชาตกํ • 197. Mittāmittajātakaṃ