Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ชาตก-อฎฺฐกถา • Jātaka-aṭṭhakathā |
[๔๗๓] ๑๐. มิตฺตามิตฺตชาตกวณฺณนา
[473] 10. Mittāmittajātakavaṇṇanā
กานิ กมฺมานีติ อิทํ สตฺถา เชตวเน วิหรโนฺต โกสลรโญฺญ อตฺถจรกํ อมจฺจํ อารพฺภ กเถสิฯ โส กิร รโญฺญ พหูปกาโร อโหสิฯ อถสฺส ราชา อติเรกสมฺมานํ กาเรสิฯ อวเสสา นํ อสหมานา ‘‘เทว, อสุโก นาม อมโจฺจ ตุมฺหากํ อนตฺถการโก’’ติ ปริภินฺทิํสุฯ ราชา ตํ ปริคฺคณฺหโนฺต กิญฺจิ โทสํ อทิสฺวา ‘‘อหํ อิมสฺส กิญฺจิ โทสํ น ปสฺสามิ, กถํ นุ โข สกฺกา มยา อิมสฺส มิตฺตภาวํ วา อมิตฺตภาวํ วา ชานิตุ’’นฺติ จิเนฺตตฺวา ‘‘อิมํ ปญฺหํ ฐเปตฺวา ตถาคตํ อโญฺญ ชานิตุํ น สกฺขิสฺสติ, คนฺตฺวา ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ ภุตฺตปาตราโส สตฺถารํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘ภเนฺต, กถํ นุ โข สกฺกา ปุริเสน อตฺตโน มิตฺตภาวํ วา อมิตฺตภาวํ วา ชานิตุ’’นฺติ ปุจฺฉิฯ อถ นํ สตฺถา ‘‘ปุเพฺพปิ มหาราช, ปณฺฑิตา อิมํ ปญฺหํ จิเนฺตตฺวา ปณฺฑิเต ปุจฺฉิตฺวา เตหิ กถิตวเสน ญตฺวา อมิเตฺต วเชฺชตฺวา มิเตฺต เสวิํสู’’ติ วตฺวา เตน ยาจิโต อตีตํ อาหริฯ
Kāni kammānīti idaṃ satthā jetavane viharanto kosalarañño atthacarakaṃ amaccaṃ ārabbha kathesi. So kira rañño bahūpakāro ahosi. Athassa rājā atirekasammānaṃ kāresi. Avasesā naṃ asahamānā ‘‘deva, asuko nāma amacco tumhākaṃ anatthakārako’’ti paribhindiṃsu. Rājā taṃ pariggaṇhanto kiñci dosaṃ adisvā ‘‘ahaṃ imassa kiñci dosaṃ na passāmi, kathaṃ nu kho sakkā mayā imassa mittabhāvaṃ vā amittabhāvaṃ vā jānitu’’nti cintetvā ‘‘imaṃ pañhaṃ ṭhapetvā tathāgataṃ añño jānituṃ na sakkhissati, gantvā pucchissāmī’’ti bhuttapātarāso satthāraṃ upasaṅkamitvā ‘‘bhante, kathaṃ nu kho sakkā purisena attano mittabhāvaṃ vā amittabhāvaṃ vā jānitu’’nti pucchi. Atha naṃ satthā ‘‘pubbepi mahārāja, paṇḍitā imaṃ pañhaṃ cintetvā paṇḍite pucchitvā tehi kathitavasena ñatvā amitte vajjetvā mitte seviṃsū’’ti vatvā tena yācito atītaṃ āhari.
อตีเต พาราณสิยํ พฺรหฺมทเตฺต รชฺชํ กาเรเนฺต โพธิสโตฺต ตสฺส อตฺถธมฺมานุสาสโก อมโจฺจ อโหสิฯ ตทา พาราณสิรโญฺญ เอกํ อตฺถจรกํ อมจฺจํ เสสา ปริภินฺทิํสุฯ ราชา ตสฺส โทสํ อปสฺสโนฺต ‘‘กถํ นุ โข สกฺกา มิตฺตํ วา อมิตฺตํ วา ญาตุ’’นฺติ มหาสตฺตํ ปุจฺฉโนฺต ปฐมํ คาถมาห –
Atīte bārāṇasiyaṃ brahmadatte rajjaṃ kārente bodhisatto tassa atthadhammānusāsako amacco ahosi. Tadā bārāṇasirañño ekaṃ atthacarakaṃ amaccaṃ sesā paribhindiṃsu. Rājā tassa dosaṃ apassanto ‘‘kathaṃ nu kho sakkā mittaṃ vā amittaṃ vā ñātu’’nti mahāsattaṃ pucchanto paṭhamaṃ gāthamāha –
๑๒๑.
121.
‘‘กานิ กมฺมานิ กุพฺพานํ, กถํ วิญฺญู ปรกฺกเม;
‘‘Kāni kammāni kubbānaṃ, kathaṃ viññū parakkame;
อมิตฺตํ ชาเนยฺย เมธาวี, ทิสฺวา สุตฺวา จ ปณฺฑิโต’’ติฯ
Amittaṃ jāneyya medhāvī, disvā sutvā ca paṇḍito’’ti.
ตสฺสโตฺถ – กานิ กมฺมานิ กโรนฺตํ เมธาวี ปณฺฑิโต ปุริโส จกฺขุนา ทิสฺวา วา โสเตน สุตฺวา วา ‘‘อยํ มยฺหํ อมิโตฺต’’ติ ชาเนยฺย, ตสฺส ชานนตฺถาย กถํ วิญฺญู ปรกฺกเมยฺยาติฯ
Tassattho – kāni kammāni karontaṃ medhāvī paṇḍito puriso cakkhunā disvā vā sotena sutvā vā ‘‘ayaṃ mayhaṃ amitto’’ti jāneyya, tassa jānanatthāya kathaṃ viññū parakkameyyāti.
อถสฺส อมิตฺตลกฺขณํ กเถโนฺต อาห –
Athassa amittalakkhaṇaṃ kathento āha –
๑๒๒.
122.
‘‘น นํ อุมฺหยเต ทิสฺวา, น จ นํ ปฎินนฺทติ;
‘‘Na naṃ umhayate disvā, na ca naṃ paṭinandati;
จกฺขูนิ จสฺส น ททาติ, ปฎิโลมญฺจ วตฺตติฯ
Cakkhūni cassa na dadāti, paṭilomañca vattati.
๑๒๓.
123.
‘‘อมิเตฺต ตสฺส ภชติ, มิเตฺต ตสฺส น เสวติ;
‘‘Amitte tassa bhajati, mitte tassa na sevati;
วณฺณกาเม นิวาเรติ, อโกฺกสเนฺต ปสํสติฯ
Vaṇṇakāme nivāreti, akkosante pasaṃsati.
๑๒๔.
124.
‘‘คุยฺหญฺจ ตสฺส นกฺขาติ, ตสฺส คุยฺหํ น คูหติ;
‘‘Guyhañca tassa nakkhāti, tassa guyhaṃ na gūhati;
กมฺมํ ตสฺส น วเณฺณติ, ปญฺญสฺส นปฺปสํสติฯ
Kammaṃ tassa na vaṇṇeti, paññassa nappasaṃsati.
๑๒๕.
125.
‘‘อภเว นนฺทติ ตสฺส, ภเว ตสฺส น นนฺทติ;
‘‘Abhave nandati tassa, bhave tassa na nandati;
อเจฺฉรํ โภชนํ ลทฺธา, ตสฺส นุปฺปชฺชเต สติ;
Accheraṃ bhojanaṃ laddhā, tassa nuppajjate sati;
ตโต นํ นานุกมฺปติ, อโห โสปิ ลเภยฺยิโตฯ
Tato naṃ nānukampati, aho sopi labheyyito.
๑๒๖.
126.
‘‘อิเจฺจเต โสฬสาการา, อมิตฺตสฺมิํ ปติฎฺฐิตา;
‘‘Iccete soḷasākārā, amittasmiṃ patiṭṭhitā;
เยหิ อมิตฺตํ ชาเนยฺย, ทิสฺวา สุตฺวา จ ปณฺฑิโต’’ติฯ
Yehi amittaṃ jāneyya, disvā sutvā ca paṇḍito’’ti.
มหาสโตฺต อิมา ปญฺจ คาถา วตฺวาน ปุน –
Mahāsatto imā pañca gāthā vatvāna puna –
๑๒๗.
127.
‘‘กานิ กมฺมานิ กุพฺพานํ, กถํ วิญฺญู ปรกฺกเม;
‘‘Kāni kammāni kubbānaṃ, kathaṃ viññū parakkame;
มิตฺตํ ชาเนยฺย เมธาวี, ทิสฺวา สุตฺวา จ ปณฺฑิโต’’ติฯ –
Mittaṃ jāneyya medhāvī, disvā sutvā ca paṇḍito’’ti. –
อิมาย คาถาย มิตฺตลกฺขณํ ปุโฎฺฐ เสสคาถา อภาสิ –
Imāya gāthāya mittalakkhaṇaṃ puṭṭho sesagāthā abhāsi –
๑๒๘.
128.
‘‘ปวุตฺถํ ตสฺส สรติ, อาคตํ อภินนฺทติ;
‘‘Pavutthaṃ tassa sarati, āgataṃ abhinandati;
ตโต เกลายิโต โหติ, วาจาย ปฎินนฺทติฯ
Tato kelāyito hoti, vācāya paṭinandati.
๑๒๙.
129.
‘‘มิเตฺต ตเสฺสว ภชติ, อมิเตฺต ตสฺส น เสวติ;
‘‘Mitte tasseva bhajati, amitte tassa na sevati;
อโกฺกสเนฺต นิวาเรติ, วณฺณกาเม ปสํสติฯ
Akkosante nivāreti, vaṇṇakāme pasaṃsati.
๑๓๐.
130.
‘‘คุยฺหญฺจ ตสฺส อกฺขาติ, ตสฺส คุยฺหญฺจ คูหติ;
‘‘Guyhañca tassa akkhāti, tassa guyhañca gūhati;
กมฺมญฺจ ตสฺส วเณฺณติ, ปญฺญํ ตสฺส ปสํสติฯ
Kammañca tassa vaṇṇeti, paññaṃ tassa pasaṃsati.
๑๓๑.
131.
‘‘ภเว จ นนฺทติ ตสฺส, อภเว ตสฺส น นนฺทติ;
‘‘Bhave ca nandati tassa, abhave tassa na nandati;
อเจฺฉรํ โภชนํ ลทฺธา, ตสฺส อุปฺปชฺชเต สติ;
Accheraṃ bhojanaṃ laddhā, tassa uppajjate sati;
ตโต นํ อนุกมฺปติ, อโห โสปิ ลเภยฺยิโตฯ
Tato naṃ anukampati, aho sopi labheyyito.
๑๓๒.
132.
‘‘อิเจฺจเต โสฬสาการา, มิตฺตสฺมิํ สุปฺปติฎฺฐิตา;
‘‘Iccete soḷasākārā, mittasmiṃ suppatiṭṭhitā;
เยหิ มิตฺตญฺจ ชาเนยฺย, ทิสฺวา สุตฺวา จ ปณฺฑิโต’’ติฯ
Yehi mittañca jāneyya, disvā sutvā ca paṇḍito’’ti.
ตตฺถ น นํ อุมฺหยเต ทิสฺวาติ ตํ มิตฺตํ มิตฺตปติรูปโก ทิสฺวา สิตํ น กโรติ, ปหฎฺฐาการํ น ทเสฺสติฯ น จ นํ ปฎินนฺทตีติ ตสฺส กถํ ปคฺคณฺหโนฺต น ปฎินนฺทติ น ตุสฺสติฯ จกฺขูนิ จสฺส น ททาตีติ โอโลเกนฺตํ น โอโลเกติฯ ปฎิโลมญฺจาติ ตสฺส กถํ ปฎิปฺผรติ ปฎิสตฺตุ โหติฯ วณฺณกาเมติ ตสฺส วณฺณํ ภณเนฺตฯ นกฺขาตีติ อตฺตโน คุยฺหํ ตสฺส น อาจิกฺขติฯ กมฺมํ ตสฺสาติ เตน กตกมฺมํ น วณฺณยติฯ ปญฺญสฺสาติ อสฺส ปญฺญํ นปฺปสํสติ, ญาณสมฺปทํ น ปสํสติฯ อภเวติ อวฑฺฒิยํฯ ตสฺส นุปฺปชฺชเต สตีติ ตสฺส มิตฺตปติรูปกสฺส ‘‘มม มิตฺตสฺสปิ อิโต ทสฺสามี’’ติ สติ น อุปฺปชฺชติฯ นานุกมฺปตีติ มุทุจิเตฺตน น จิเนฺตติฯ ลเภยฺยิโตติ ลเภยฺย อิโตฯ อาการาติ การณานิฯ ปวุตฺถนฺติ วิเทสคตํ ฯ เกลายิโตติ เกลายติ มมายติ ปเตฺถติ ปิเหติ อิจฺฉตีติ อโตฺถฯ วาจายาติ มธุรวจเนน ตํ สมุทาจรโนฺต ปฎินนฺทติ ตุสฺสติฯ เสสํ วุตฺตปฎิปกฺขนเยน เวทิตพฺพํฯ ราชา มหาสตฺตสฺส กถาย อตฺตมโน หุตฺวา ตสฺส มหนฺตํ ยสํ อทาสิฯ
Tattha na naṃ umhayate disvāti taṃ mittaṃ mittapatirūpako disvā sitaṃ na karoti, pahaṭṭhākāraṃ na dasseti. Na ca naṃ paṭinandatīti tassa kathaṃ paggaṇhanto na paṭinandati na tussati. Cakkhūni cassa na dadātīti olokentaṃ na oloketi. Paṭilomañcāti tassa kathaṃ paṭippharati paṭisattu hoti. Vaṇṇakāmeti tassa vaṇṇaṃ bhaṇante. Nakkhātīti attano guyhaṃ tassa na ācikkhati. Kammaṃ tassāti tena katakammaṃ na vaṇṇayati. Paññassāti assa paññaṃ nappasaṃsati, ñāṇasampadaṃ na pasaṃsati. Abhaveti avaḍḍhiyaṃ. Tassa nuppajjate satīti tassa mittapatirūpakassa ‘‘mama mittassapi ito dassāmī’’ti sati na uppajjati. Nānukampatīti muducittena na cinteti. Labheyyitoti labheyya ito. Ākārāti kāraṇāni. Pavutthanti videsagataṃ . Kelāyitoti kelāyati mamāyati pattheti piheti icchatīti attho. Vācāyāti madhuravacanena taṃ samudācaranto paṭinandati tussati. Sesaṃ vuttapaṭipakkhanayena veditabbaṃ. Rājā mahāsattassa kathāya attamano hutvā tassa mahantaṃ yasaṃ adāsi.
สตฺถา อิมํ ธมฺมเทสนํ อาหริตฺวา ‘‘เอวํ, มหาราช, ปุเพฺพเปส ปโญฺห สมุฎฺฐหิ, ปณฺฑิตาว นํ กถยิํสุ, อิเมหิ ทฺวตฺติํสาย อากาเรหิ มิตฺตามิโตฺต ชานิตโพฺพ’’ติ วตฺวา ชาตกํ สโมธาเนสิ – ‘‘ตทา ราชา อานโนฺท อโหสิ, ปณฺฑิตามโจฺจ ปน อหเมว อโหสิ’’นฺติฯ
Satthā imaṃ dhammadesanaṃ āharitvā ‘‘evaṃ, mahārāja, pubbepesa pañho samuṭṭhahi, paṇḍitāva naṃ kathayiṃsu, imehi dvattiṃsāya ākārehi mittāmitto jānitabbo’’ti vatvā jātakaṃ samodhānesi – ‘‘tadā rājā ānando ahosi, paṇḍitāmacco pana ahameva ahosi’’nti.
มิตฺตามิตฺตชาตกวณฺณนา ทสมาฯ
Mittāmittajātakavaṇṇanā dasamā.
ชาตกุทฺทานํ –
Jātakuddānaṃ –
กุณาลํ ภทฺทสาลญฺจ, สมุทฺทวาณิช ปณฺฑิตํ;
Kuṇālaṃ bhaddasālañca, samuddavāṇija paṇḍitaṃ;
ชนสนฺธํ มหากณฺหํ, โกสิยํ สิริมนฺตกํฯ
Janasandhaṃ mahākaṇhaṃ, kosiyaṃ sirimantakaṃ.
ปทุมํ มิตฺตามิตฺตญฺจ, อิเจฺจเต ทส ชาตเก;
Padumaṃ mittāmittañca, iccete dasa jātake;
สงฺคายิํสุ มหาเถรา, ทฺวาทสมฺหิ นิปาตเกฯ
Saṅgāyiṃsu mahātherā, dvādasamhi nipātake.
ทฺวาทสกนิปาตวณฺณนา นิฎฺฐิตาฯ
Dvādasakanipātavaṇṇanā niṭṭhitā.
Related texts:
ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / สุตฺตปิฎก • Suttapiṭaka / ขุทฺทกนิกาย • Khuddakanikāya / ชาตกปาฬิ • Jātakapāḷi / ๔๗๓. มิตฺตามิตฺตชาตกํ • 473. Mittāmittajātakaṃ