Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / สํยุตฺตนิกาย • Saṃyuttanikāya

    ๗. โมคฺคลฺลานสุตฺตํ

    7. Moggallānasuttaṃ

    ๔๑๖. อถ โข วจฺฉโคโตฺต ปริพฺพาชโก เยนายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมตา มหาโมคฺคลฺลาเนน สทฺธิํ สโมฺมทิฯ สโมฺมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข วจฺฉโคโตฺต ปริพฺพาชโก อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ เอตทโวจ –

    416. Atha kho vacchagotto paribbājako yenāyasmā mahāmoggallāno tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā āyasmatā mahāmoggallānena saddhiṃ sammodi. Sammodanīyaṃ kathaṃ sāraṇīyaṃ vītisāretvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho vacchagotto paribbājako āyasmantaṃ mahāmoggallānaṃ etadavoca –

    ‘‘กิํ นุ โข, โภ โมคฺคลฺลาน, สสฺสโต โลโก’’ติ? ‘‘อพฺยากตํ โข เอตํ, วจฺฉ, ภควตา – ‘สสฺสโต โลโก’’’ติฯ ‘‘กิํ ปน, โภ โมคฺคลฺลาน, อสสฺสโต โลโก’’ติ? ‘‘เอตมฺปิ โข, วจฺฉ, อพฺยากตํ ภควตา – ‘อสสฺสโต โลโก’’’ติฯ ‘‘กิํ นุ โข, โภ โมคฺคลฺลาน, อนฺตวา โลโก’’ติ? ‘‘อพฺยากตํ โข เอตํ, วจฺฉ, ภควตา – ‘อนฺตวา โลโก’’’ติฯ ‘‘กิํ ปน, โภ โมคฺคลฺลาน, อนนฺตวา โลโก’’ติ? ‘‘เอตมฺปิ โข, วจฺฉ, อพฺยากตํ ภควตา – ‘อนนฺตวา โลโก’’’ติฯ ‘‘กิํ นุ โข, โภ โมคฺคลฺลาน, ตํ ชีวํ ตํ สรีร’’นฺติ? ‘‘อพฺยากตํ โข เอตํ, วจฺฉ, ภควตา – ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’’’นฺติฯ ‘‘กิํ ปน, โภ โมคฺคลฺลาน, อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีร’’นฺติ? ‘‘เอตมฺปิ โข, วจฺฉ, อพฺยากตํ ภควตา – ‘อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีร’’’นฺติฯ ‘‘กิํ นุ โข, โภ โมคฺคลฺลาน, โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ? ‘‘อพฺยากตํ โข เอตํ, วจฺฉ, ภควตา – ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’’ติฯ ‘‘กิํ ปน, โภ โมคฺคลฺลาน, น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ? ‘‘เอตมฺปิ โข, วจฺฉ, อพฺยากตํ ภควตา – ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’’ติฯ ‘‘กิํ นุ โข, โภ โมคฺคลฺลาน, โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ? ‘‘อพฺยากตํ โข เอตํ, วจฺฉ, ภควตา – ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’’ติฯ ‘‘กิํ ปน, โภ โมคฺคลฺลาน, เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ? ‘‘เอตมฺปิ โข, วจฺฉ, อพฺยากตํ ภควตา – ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’’ติฯ

    ‘‘Kiṃ nu kho, bho moggallāna, sassato loko’’ti? ‘‘Abyākataṃ kho etaṃ, vaccha, bhagavatā – ‘sassato loko’’’ti. ‘‘Kiṃ pana, bho moggallāna, asassato loko’’ti? ‘‘Etampi kho, vaccha, abyākataṃ bhagavatā – ‘asassato loko’’’ti. ‘‘Kiṃ nu kho, bho moggallāna, antavā loko’’ti? ‘‘Abyākataṃ kho etaṃ, vaccha, bhagavatā – ‘antavā loko’’’ti. ‘‘Kiṃ pana, bho moggallāna, anantavā loko’’ti? ‘‘Etampi kho, vaccha, abyākataṃ bhagavatā – ‘anantavā loko’’’ti. ‘‘Kiṃ nu kho, bho moggallāna, taṃ jīvaṃ taṃ sarīra’’nti? ‘‘Abyākataṃ kho etaṃ, vaccha, bhagavatā – ‘taṃ jīvaṃ taṃ sarīra’’’nti. ‘‘Kiṃ pana, bho moggallāna, aññaṃ jīvaṃ aññaṃ sarīra’’nti? ‘‘Etampi kho, vaccha, abyākataṃ bhagavatā – ‘aññaṃ jīvaṃ aññaṃ sarīra’’’nti. ‘‘Kiṃ nu kho, bho moggallāna, hoti tathāgato paraṃ maraṇā’’ti? ‘‘Abyākataṃ kho etaṃ, vaccha, bhagavatā – ‘hoti tathāgato paraṃ maraṇā’’’ti. ‘‘Kiṃ pana, bho moggallāna, na hoti tathāgato paraṃ maraṇā’’ti? ‘‘Etampi kho, vaccha, abyākataṃ bhagavatā – ‘na hoti tathāgato paraṃ maraṇā’’’ti. ‘‘Kiṃ nu kho, bho moggallāna, hoti ca na ca hoti tathāgato paraṃ maraṇā’’ti? ‘‘Abyākataṃ kho etaṃ, vaccha, bhagavatā – ‘hoti ca na ca hoti tathāgato paraṃ maraṇā’’’ti. ‘‘Kiṃ pana, bho moggallāna, neva hoti na na hoti tathāgato paraṃ maraṇā’’ti? ‘‘Etampi kho, vaccha, abyākataṃ bhagavatā – ‘neva hoti na na hoti tathāgato paraṃ maraṇā’’’ti.

    ‘‘โก นุ โข, โภ โมคฺคลฺลาน, เหตุ โก ปจฺจโย, เยน อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ เอวํ ปุฎฺฐานํ เอวํ เวยฺยากรณํ โหติ – สสฺสโต โลโกติ วา, อสสฺสโต โลโกติ วา, อนฺตวา โลโกติ วา, อนนฺตวา โลโกติ วา, ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติ วา, อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีรนฺติ วา, โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ วา, น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ วา, โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ วา, เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ วา? โก ปน, โภ โมคฺคลฺลาน, เหตุ โก ปจฺจโย, เยน สมณสฺส โคตมสฺส เอวํ ปุฎฺฐสฺส น เอวํ เวยฺยากรณํ โหติ – สสฺสโต โลโกติปิ, อสสฺสโต โลโกติปิ, อนฺตวา โลโกติปิ, อนนฺตวา โลโกติปิ, ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติปิ, อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีรนฺติปิ, โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติปิ, น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติปิ, โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติปิ, เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติปี’’ติ?

    ‘‘Ko nu kho, bho moggallāna, hetu ko paccayo, yena aññatitthiyānaṃ paribbājakānaṃ evaṃ puṭṭhānaṃ evaṃ veyyākaraṇaṃ hoti – sassato lokoti vā, asassato lokoti vā, antavā lokoti vā, anantavā lokoti vā, taṃ jīvaṃ taṃ sarīranti vā, aññaṃ jīvaṃ aññaṃ sarīranti vā, hoti tathāgato paraṃ maraṇāti vā, na hoti tathāgato paraṃ maraṇāti vā, hoti ca na ca hoti tathāgato paraṃ maraṇāti vā, neva hoti na na hoti tathāgato paraṃ maraṇāti vā? Ko pana, bho moggallāna, hetu ko paccayo, yena samaṇassa gotamassa evaṃ puṭṭhassa na evaṃ veyyākaraṇaṃ hoti – sassato lokotipi, asassato lokotipi, antavā lokotipi, anantavā lokotipi, taṃ jīvaṃ taṃ sarīrantipi, aññaṃ jīvaṃ aññaṃ sarīrantipi, hoti tathāgato paraṃ maraṇātipi, na hoti tathāgato paraṃ maraṇātipi, hoti ca na ca hoti tathāgato paraṃ maraṇātipi, neva hoti na na hoti tathāgato paraṃ maraṇātipī’’ti?

    ‘‘อญฺญติตฺถิยา โข, วจฺฉ, ปริพฺพาชกา จกฺขุํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสนฺติ…เป.… ชิวฺหํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสนฺติ…เป.… มนํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสนฺติฯ ตสฺมา อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ เอวํ ปุฎฺฐานํ เอวํ เวยฺยากรณํ โหติ – สสฺสโต โลโกติ วา…เป.… เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติ วาฯ ตถาคโต จ โข, วจฺฉ, อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ จกฺขุํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ…เป.… ชิวฺหํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ…เป.… มนํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติฯ ตสฺมา ตถาคตสฺส เอวํ ปุฎฺฐสฺส น เอวํ เวยฺยากรณํ โหติ – สสฺสโต โลโกติปิ…เป.… เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณาติปี’’ติฯ

    ‘‘Aññatitthiyā kho, vaccha, paribbājakā cakkhuṃ ‘etaṃ mama, esohamasmi, eso me attā’ti samanupassanti…pe… jivhaṃ ‘etaṃ mama, esohamasmi, eso me attā’ti samanupassanti…pe… manaṃ ‘etaṃ mama, esohamasmi, eso me attā’ti samanupassanti. Tasmā aññatitthiyānaṃ paribbājakānaṃ evaṃ puṭṭhānaṃ evaṃ veyyākaraṇaṃ hoti – sassato lokoti vā…pe… neva hoti na na hoti tathāgato paraṃ maraṇāti vā. Tathāgato ca kho, vaccha, arahaṃ sammāsambuddho cakkhuṃ ‘netaṃ mama, nesohamasmi, na meso attā’ti samanupassati…pe… jivhaṃ ‘netaṃ mama, nesohamasmi, na meso attā’ti samanupassati…pe… manaṃ ‘netaṃ mama, nesohamasmi, na meso attā’ti samanupassati. Tasmā tathāgatassa evaṃ puṭṭhassa na evaṃ veyyākaraṇaṃ hoti – sassato lokotipi…pe… neva hoti na na hoti tathāgato paraṃ maraṇātipī’’ti.

    อถ โข วจฺฉโคโตฺต ปริพฺพาชโก อุฎฺฐายาสนา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สโมฺมทิฯ สโมฺมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสิโนฺน โข วจฺฉโคโตฺต ปริพฺพาชโก ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กิํ นุ โข, โภ โคตม, สสฺสโต โลโก’’ติ? อพฺยากตํ โข เอตํ, วจฺฉ, มยา – ‘สสฺสโต โลโก’ติ…เป.…ฯ ‘‘กิํ ปน, โภ โคตม, เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ? ‘‘เอตมฺปิ โข, วจฺฉ, อพฺยากตํ มยา – ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’’ติฯ

    Atha kho vacchagotto paribbājako uṭṭhāyāsanā yena bhagavā tenupasaṅkami; upasaṅkamitvā bhagavatā saddhiṃ sammodi. Sammodanīyaṃ kathaṃ sāraṇīyaṃ vītisāretvā ekamantaṃ nisīdi. Ekamantaṃ nisinno kho vacchagotto paribbājako bhagavantaṃ etadavoca – ‘‘kiṃ nu kho, bho gotama, sassato loko’’ti? Abyākataṃ kho etaṃ, vaccha, mayā – ‘sassato loko’ti…pe…. ‘‘Kiṃ pana, bho gotama, neva hoti na na hoti tathāgato paraṃ maraṇā’’ti? ‘‘Etampi kho, vaccha, abyākataṃ mayā – ‘neva hoti na na hoti tathāgato paraṃ maraṇā’’’ti.

    ‘‘โก นุ โข, โภ โคตม, เหตุ โก ปจฺจโย, เยน อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ เอวํ ปุฎฺฐานํ เอวํ เวยฺยากรณํ โหติ – ‘สสฺสโต โลโก’ติ วา…เป.… ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วา? โก ปน, โภ โคตม, เหตุ โก ปจฺจโย, เยน โภโต โคตมสฺส เอวํ ปุฎฺฐสฺส น เอวํ เวยฺยากรณํ โหติ – ‘สสฺสโต โลโก’ติปิ…เป.… ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปี’’ติ?

    ‘‘Ko nu kho, bho gotama, hetu ko paccayo, yena aññatitthiyānaṃ paribbājakānaṃ evaṃ puṭṭhānaṃ evaṃ veyyākaraṇaṃ hoti – ‘sassato loko’ti vā…pe… ‘neva hoti na na hoti tathāgato paraṃ maraṇā’ti vā? Ko pana, bho gotama, hetu ko paccayo, yena bhoto gotamassa evaṃ puṭṭhassa na evaṃ veyyākaraṇaṃ hoti – ‘sassato loko’tipi…pe… ‘neva hoti na na hoti tathāgato paraṃ maraṇā’tipī’’ti?

    ‘‘อญฺญติตฺถิยา โข, วจฺฉ, ปริพฺพาชกา จกฺขุํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ , เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสนฺติ…เป.… ชิวฺหํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสนฺติ…เป.… มนํ ‘เอตํ มม, เอโสหมสฺมิ, เอโส เม อตฺตา’ติ สมนุปสฺสนฺติฯ ตสฺมา อญฺญติตฺถิยานํ ปริพฺพาชกานํ เอวํ ปุฎฺฐานํ เอวํ เวยฺยากรณํ โหติ – ‘สสฺสโต โลโก’ติ วา…เป.… ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติ วาฯ ตถาคโต จ โข, วจฺฉ, อรหํ สมฺมาสมฺพุโทฺธ จกฺขุํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ…เป.… ชิวฺหํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติ…เป.… มนํ ‘เนตํ มม, เนโสหมสฺมิ, น เมโส อตฺตา’ติ สมนุปสฺสติฯ ตสฺมา ตถาคตสฺส เอวํ ปุฎฺฐสฺส น เอวํ เวยฺยากรณํ โหติ – ‘สสฺสโต โลโก’ติปิ, ‘อสสฺสโต โลโก’ติปิ, ‘อนฺตวา โลโก’ติปิ, ‘อนนฺตวา โลโก’ติปิ, ‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’นฺติปิ, ‘อญฺญํ ชีวํ อญฺญํ สรีร’นฺติปิ, ‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ, ‘น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ, ‘โหติ จ น จ โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปิ, ‘เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’ติปี’’ติฯ

    ‘‘Aññatitthiyā kho, vaccha, paribbājakā cakkhuṃ ‘etaṃ mama, esohamasmi , eso me attā’ti samanupassanti…pe… jivhaṃ ‘etaṃ mama, esohamasmi, eso me attā’ti samanupassanti…pe… manaṃ ‘etaṃ mama, esohamasmi, eso me attā’ti samanupassanti. Tasmā aññatitthiyānaṃ paribbājakānaṃ evaṃ puṭṭhānaṃ evaṃ veyyākaraṇaṃ hoti – ‘sassato loko’ti vā…pe… ‘neva hoti na na hoti tathāgato paraṃ maraṇā’ti vā. Tathāgato ca kho, vaccha, arahaṃ sammāsambuddho cakkhuṃ ‘netaṃ mama, nesohamasmi, na meso attā’ti samanupassati…pe… jivhaṃ ‘netaṃ mama, nesohamasmi, na meso attā’ti samanupassati…pe… manaṃ ‘netaṃ mama, nesohamasmi, na meso attā’ti samanupassati. Tasmā tathāgatassa evaṃ puṭṭhassa na evaṃ veyyākaraṇaṃ hoti – ‘sassato loko’tipi, ‘asassato loko’tipi, ‘antavā loko’tipi, ‘anantavā loko’tipi, ‘taṃ jīvaṃ taṃ sarīra’ntipi, ‘aññaṃ jīvaṃ aññaṃ sarīra’ntipi, ‘hoti tathāgato paraṃ maraṇā’tipi, ‘na hoti tathāgato paraṃ maraṇā’tipi, ‘hoti ca na ca hoti tathāgato paraṃ maraṇā’tipi, ‘neva hoti na na hoti tathāgato paraṃ maraṇā’tipī’’ti.

    ‘‘อจฺฉริยํ, โภ โคตม, อพฺภุตํ, โภ โคตม! ยตฺร หิ นาม สตฺถุ จ 1 สาวกสฺส จ อเตฺถน อโตฺถ พฺยญฺชเนน พฺยญฺชนํ สํสนฺทิสฺสติ สเมสฺสติ น วิโรธยิสฺสติ, ยทิทํ อคฺคปทสฺมิํฯ อิทานาหํ, โภ โคตม, สมณํ มหาโมคฺคลฺลานํ อุปสงฺกมิตฺวา เอตมตฺถํ อปุจฺฉิํฯ สมโณปิ เม โมคฺคลฺลาโน เอเตหิ ปเทหิ เอเตหิ พฺยญฺชเนหิ ตมตฺถํ พฺยากาสิ, เสยฺยถาปิ ภวํ โคตโมฯ อจฺฉริยํ, โภ โคตม, อพฺภุตํ, โภ โคตม ! ยตฺร หิ นาม สตฺถุ จ สาวกสฺส จ อเตฺถน อโตฺถ พฺยญฺชเนน พฺยญฺชนํ สํสนฺทิสฺสติ สเมสฺสติ น วิโรธยิสฺสติ, ยทิทํ อคฺคปทสฺมิ’’นฺติฯ สตฺตมํฯ

    ‘‘Acchariyaṃ, bho gotama, abbhutaṃ, bho gotama! Yatra hi nāma satthu ca 2 sāvakassa ca atthena attho byañjanena byañjanaṃ saṃsandissati samessati na virodhayissati, yadidaṃ aggapadasmiṃ. Idānāhaṃ, bho gotama, samaṇaṃ mahāmoggallānaṃ upasaṅkamitvā etamatthaṃ apucchiṃ. Samaṇopi me moggallāno etehi padehi etehi byañjanehi tamatthaṃ byākāsi, seyyathāpi bhavaṃ gotamo. Acchariyaṃ, bho gotama, abbhutaṃ, bho gotama ! Yatra hi nāma satthu ca sāvakassa ca atthena attho byañjanena byañjanaṃ saṃsandissati samessati na virodhayissati, yadidaṃ aggapadasmi’’nti. Sattamaṃ.







    Footnotes:
    1. สตฺถุสฺส จ (สี. ปี.), สตฺถุ เจว (เขมาสุเตฺต)
    2. satthussa ca (sī. pī.), satthu ceva (khemāsutte)



    Related texts:



    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / สุตฺตปิฎก (อฎฺฐกถา) • Suttapiṭaka (aṭṭhakathā) / สํยุตฺตนิกาย (อฎฺฐกถา) • Saṃyuttanikāya (aṭṭhakathā) / ๓-๘. ปฐมสาริปุตฺตโกฎฺฐิกสุตฺตาทิวณฺณนา • 3-8. Paṭhamasāriputtakoṭṭhikasuttādivaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / สุตฺตปิฎก (ฎีกา) • Suttapiṭaka (ṭīkā) / สํยุตฺตนิกาย (ฎีกา) • Saṃyuttanikāya (ṭīkā) / ๓-๘. ปฐมสาริปุตฺตโกฎฺฐิกสุตฺตาทิวณฺณนา • 3-8. Paṭhamasāriputtakoṭṭhikasuttādivaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact