Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi |
๑๖๑. มูลาทิเภสชฺชกถา
161. Mūlādibhesajjakathā
๒๖๓. เตน โข ปน สมเยน คิลานานํ ภิกฺขูนํ มูเลหิ เภสเชฺชหิ อโตฺถ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ , ภิกฺขเว, มูลานิ เภสชฺชานิ – หลิทฺทิํ, สิงฺคิเวรํ, วจํ, วจตฺถํ 1, อติวิสํ, กฎุกโรหิณิํ, อุสีรํ, ภทฺทมุตฺตกํ, ยานิ วา ปนญฺญานิปิ อตฺถิ มูลานิ เภสชฺชานิ, เนว ขาทนีเย ขาทนียตฺถํ ผรนฺติ, น โภชนีเย โภชนียตฺถํ ผรนฺติ, ตานิ – ปฎิคฺคเหตฺวา ยาวชีวํ ปริหริตุํ; สติ ปจฺจเย ปริภุญฺชิตุํฯ อสติ ปจฺจเย ปริภุญฺชนฺตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสาติฯ
263. Tena kho pana samayena gilānānaṃ bhikkhūnaṃ mūlehi bhesajjehi attho hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi , bhikkhave, mūlāni bhesajjāni – haliddiṃ, siṅgiveraṃ, vacaṃ, vacatthaṃ 2, ativisaṃ, kaṭukarohiṇiṃ, usīraṃ, bhaddamuttakaṃ, yāni vā panaññānipi atthi mūlāni bhesajjāni, neva khādanīye khādanīyatthaṃ pharanti, na bhojanīye bhojanīyatthaṃ pharanti, tāni – paṭiggahetvā yāvajīvaṃ pariharituṃ; sati paccaye paribhuñjituṃ. Asati paccaye paribhuñjantassa āpatti dukkaṭassāti.
เตน โข ปน สมเยน คิลานานํ ภิกฺขูนํ มูเลหิ เภสเชฺชหิ ปิเฎฺฐหิ อโตฺถ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, นิสทํ นิสทโปตกนฺติฯ
Tena kho pana samayena gilānānaṃ bhikkhūnaṃ mūlehi bhesajjehi piṭṭhehi attho hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, nisadaṃ nisadapotakanti.
เตน โข ปน สมเยน คิลานานํ ภิกฺขูนํ กสาเวหิ เภสเชฺชหิ อโตฺถ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กสาวานิ 3 เภสชฺชานิ – นิมฺพกสาวํ, กุฎชกสาวํ, ปโฎลกสาวํ, ผคฺควกสาวํ, นตฺตมาลกสาวํ, ยานิ วา ปนญฺญานิปิ อตฺถิ กสาวานิ เภสชฺชานิ เนว ขาทนีเย ขาทนียตฺถํ ผรนฺติ, น โภชนีเย โภชนียตฺถํ ผรนฺติ, ตานิ – ปฎิคฺคเหตฺวา ยาวชีวํ ปริหริตุํ; สติ ปจฺจเย ปริภุญฺชิตุํฯ อสติ ปจฺจเย ปริภุญฺชนฺตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสาติฯ
Tena kho pana samayena gilānānaṃ bhikkhūnaṃ kasāvehi bhesajjehi attho hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, kasāvāni 4 bhesajjāni – nimbakasāvaṃ, kuṭajakasāvaṃ, paṭolakasāvaṃ, phaggavakasāvaṃ, nattamālakasāvaṃ, yāni vā panaññānipi atthi kasāvāni bhesajjāni neva khādanīye khādanīyatthaṃ pharanti, na bhojanīye bhojanīyatthaṃ pharanti, tāni – paṭiggahetvā yāvajīvaṃ pariharituṃ; sati paccaye paribhuñjituṃ. Asati paccaye paribhuñjantassa āpatti dukkaṭassāti.
เตน โข ปน สมเยน คิลานานํ ภิกฺขูนํ ปเณฺณหิ เภสเชฺชหิ อโตฺถ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว , ปณฺณานิ เภสชฺชานิ – นิมฺพปณฺณํ, กุฎชปณฺณํ, ปโฎลปณฺณํ, สุลสิปณฺณํ, กปฺปาสปณฺณํ, ยานิ วา ปนญฺญานิปิ อตฺถิ ปณฺณานิ เภสชฺชานิ, เนว ขาทนีเย ขาทนียตฺถํ ผรนฺติ, น โภชนีเย โภชนียตฺถํ ผรนฺติ…เป.…ฯ
Tena kho pana samayena gilānānaṃ bhikkhūnaṃ paṇṇehi bhesajjehi attho hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave , paṇṇāni bhesajjāni – nimbapaṇṇaṃ, kuṭajapaṇṇaṃ, paṭolapaṇṇaṃ, sulasipaṇṇaṃ, kappāsapaṇṇaṃ, yāni vā panaññānipi atthi paṇṇāni bhesajjāni, neva khādanīye khādanīyatthaṃ pharanti, na bhojanīye bhojanīyatthaṃ pharanti…pe….
เตน โข ปน สมเยน คิลานานํ ภิกฺขูนํ ผเลหิ เภสเชฺชหิ อโตฺถ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ผลานิ เภสชฺชานิ – พิลงฺคํ, ปิปฺปลิํ, มริจํ, หรีตกํ, วิภีตกํ, อามลกํ, โคฎฺฐผลํ 5, ยานิ วา ปนญฺญานิปิ อตฺถิ ผลานิ เภสชฺชานิ, เนว ขาทนีเย ขาทนียตฺถํ ผรนฺติ, น โภชนีเย โภชนียตฺถํ ผรนฺติ…เป.…ฯ
Tena kho pana samayena gilānānaṃ bhikkhūnaṃ phalehi bhesajjehi attho hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, phalāni bhesajjāni – bilaṅgaṃ, pippaliṃ, maricaṃ, harītakaṃ, vibhītakaṃ, āmalakaṃ, goṭṭhaphalaṃ 6, yāni vā panaññānipi atthi phalāni bhesajjāni, neva khādanīye khādanīyatthaṃ pharanti, na bhojanīye bhojanīyatthaṃ pharanti…pe….
เตน โข ปน สมเยน คิลานานํ ภิกฺขูนํ ชตูหิ เภสเชฺชหิ อโตฺถ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ชตูนิ เภสชฺชานิ – หิงฺคุํ, หิงฺคุชตุํ, หิงฺคุสิปาฎิกํ, ตกํ, ตกปตฺติํ, ตกปณฺณิํ , สชฺชุลสํ, ยานิ วา ปนญฺญานิปิ อตฺถิ ชตูนิ เภสชฺชานิ, เนว ขาทนีเย ขาทนียตฺถํ ผรนฺติ…เป.…ฯ
Tena kho pana samayena gilānānaṃ bhikkhūnaṃ jatūhi bhesajjehi attho hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, jatūni bhesajjāni – hiṅguṃ, hiṅgujatuṃ, hiṅgusipāṭikaṃ, takaṃ, takapattiṃ, takapaṇṇiṃ , sajjulasaṃ, yāni vā panaññānipi atthi jatūni bhesajjāni, neva khādanīye khādanīyatthaṃ pharanti…pe….
เตน โข ปน สมเยน คิลานานํ ภิกฺขูนํ โลเณหิ เภสเชฺชหิ อโตฺถ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โลณานิ เภสชฺชานิ – สามุทฺทํ, กาฬโลณํ, สินฺธวํ, อุพฺภิทํ 7, พิลํ 8, ยานิ วา ปนญฺญานิปิ อตฺถิ โลณานิ เภสชฺชานิ, เนว ขาทนีเย ขาทนียตฺถํ ผรนฺติ, น โภชนีเย โภชนียตฺถํ ผรนฺติ, ตานิ – ปฎิคฺคเหตฺวา ยาวชีวํ ปริหริตุํ; สติ ปจฺจเย ปริภุญฺชิตุํฯ อสติ ปจฺจเย ปริภุญฺชนฺตสฺส อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสาติฯ
Tena kho pana samayena gilānānaṃ bhikkhūnaṃ loṇehi bhesajjehi attho hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, loṇāni bhesajjāni – sāmuddaṃ, kāḷaloṇaṃ, sindhavaṃ, ubbhidaṃ 9, bilaṃ 10, yāni vā panaññānipi atthi loṇāni bhesajjāni, neva khādanīye khādanīyatthaṃ pharanti, na bhojanīye bhojanīyatthaṃ pharanti, tāni – paṭiggahetvā yāvajīvaṃ pariharituṃ; sati paccaye paribhuñjituṃ. Asati paccaye paribhuñjantassa āpatti dukkaṭassāti.
๒๖๔. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต อานนฺทสฺส อุปชฺฌายสฺส อายสฺมโต เพลฎฺฐสีสสฺส ถุลฺลกจฺฉาพาโธ โหติฯ ตสฺส ลสิกาย จีวรานิ กาเย ลคฺคนฺติ, ตานิ ภิกฺขู อุทเกน เตเมตฺวา เตเมตฺวา อปกฑฺฒนฺติฯ อทฺทสา โข ภควา เสนาสนจาริกํ อาหิณฺฑโนฺต เต ภิกฺขู ตานิ จีวรานิ อุทเกน เตเมตฺวา เตเมตฺวา อปกฑฺฒเนฺต, ทิสฺวาน เยน เต ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา เต ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘กิํ อิมสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อาพาโธ’’ติ? ‘‘อิมสฺส, ภเนฺต, อายสฺมโต ถุลฺลกจฺฉาพาโธ, ลสิกาย จีวรานิ กาเย ลคฺคนฺติ, ตานิ มยํ อุทเกน เตเมตฺวา เตเมตฺวา อปกฑฺฒามา’’ติ ฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยสฺส กณฺฑุ วา, ปิฬกา วา, อสฺสาโว วา, ถุลฺลกจฺฉุ วา อาพาโธ, กาโย วา ทุคฺคโนฺธ, จุณฺณานิ เภสชฺชานิ; อคิลานสฺส ฉกณํ มตฺติกํ รชนนิปฺปกฺกํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุทุกฺขลํ มุสล’’นฺติฯ
264. Tena kho pana samayena āyasmato ānandassa upajjhāyassa āyasmato belaṭṭhasīsassa thullakacchābādho hoti. Tassa lasikāya cīvarāni kāye lagganti, tāni bhikkhū udakena temetvā temetvā apakaḍḍhanti. Addasā kho bhagavā senāsanacārikaṃ āhiṇḍanto te bhikkhū tāni cīvarāni udakena temetvā temetvā apakaḍḍhante, disvāna yena te bhikkhū tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā te bhikkhū etadavoca – ‘‘kiṃ imassa, bhikkhave, bhikkhuno ābādho’’ti? ‘‘Imassa, bhante, āyasmato thullakacchābādho, lasikāya cīvarāni kāye lagganti, tāni mayaṃ udakena temetvā temetvā apakaḍḍhāmā’’ti . Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, yassa kaṇḍu vā, piḷakā vā, assāvo vā, thullakacchu vā ābādho, kāyo vā duggandho, cuṇṇāni bhesajjāni; agilānassa chakaṇaṃ mattikaṃ rajananippakkaṃ. Anujānāmi, bhikkhave, udukkhalaṃ musala’’nti.
เตน โข ปน สมเยน คิลานานํ ภิกฺขูนํ จุเณฺณหิ เภสเชฺชหิ จาลิเตหิ อโตฺถ โหติ ฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จุณฺณจาลินินฺติฯ สเณฺหหิ อโตฺถ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ทุสฺสจาลินินฺติฯ
Tena kho pana samayena gilānānaṃ bhikkhūnaṃ cuṇṇehi bhesajjehi cālitehi attho hoti . Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, cuṇṇacālininti. Saṇhehi attho hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, dussacālininti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺส ภิกฺขุโน อมนุสฺสิกาพาโธ โหติฯ ตํ อาจริยุปชฺฌายา อุปฎฺฐหนฺตา นาสกฺขิํสุ อโรคํ กาตุํฯ โส สูกรสูนํ คนฺตฺวา อามกมํสํ ขาทิ, อามกโลหิตํ ปิวิ ฯ ตสฺส โส อมนุสฺสิกาพาโธ ปฎิปฺปสฺสมฺภิฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ ฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อมนุสฺสิกาพาเธ อามกมํสํ อามกโลหิตนฺติฯ
Tena kho pana samayena aññatarassa bhikkhuno amanussikābādho hoti. Taṃ ācariyupajjhāyā upaṭṭhahantā nāsakkhiṃsu arogaṃ kātuṃ. So sūkarasūnaṃ gantvā āmakamaṃsaṃ khādi, āmakalohitaṃ pivi . Tassa so amanussikābādho paṭippassambhi. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ . Anujānāmi, bhikkhave, amanussikābādhe āmakamaṃsaṃ āmakalohitanti.
๒๖๕. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺส ภิกฺขุโน จกฺขุโรคาพาโธ โหติฯ ตํ ภิกฺขู ปริคฺคเหตฺวา อุจฺจารมฺปิ ปสฺสาวมฺปิ นิกฺขาเมนฺติฯ อทฺทสา โข ภควา เสนาสนจาริกํ อาหิณฺฑโนฺต เต ภิกฺขู ตํ ภิกฺขุํ ปริคฺคเหตฺวา อุจฺจารมฺปิ ปสฺสาวมฺปิ นิกฺขาเมเนฺต, ทิสฺวาน เยน เต ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา เต ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘กิํ อิมสฺส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อาพาโธ’’ติ? ‘‘อิมสฺส, ภเนฺต, อายสฺมโต จกฺขุโรคาพาโธฯ อิมํ มยํ ปริคฺคเหตฺวา อุจฺจารมฺปิ ปสฺสาวมฺปิ นิกฺขาเมมา’’ติฯ อถ โข ภควา เอตสฺมิํ นิทาเน เอตสฺมิํ ปกรเณ ธมฺมิํ กถํ กตฺวา ภิกฺขู อามเนฺตสิ – ‘‘อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อญฺชนํ – กาฬญฺชนํ, รสญฺชนํ, โสตญฺชนํ, เครุกํ, กปลฺล’’นฺติฯ อญฺชนูปปิสเนหิ อโตฺถ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จนฺทนํ, ตครํ, กาฬานุสาริยํ, ตาลีสํ, ภทฺทมุตฺตกนฺติฯ เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ปิฎฺฐานิ อญฺชนานิ จรุเกสุปิ 11 สราวเกสุปิ นิกฺขิปนฺติ; ติณจุเณฺณหิปิ ปํสุเกหิปิ โอกิริยนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อญฺชนินฺติฯ
265. Tena kho pana samayena aññatarassa bhikkhuno cakkhurogābādho hoti. Taṃ bhikkhū pariggahetvā uccārampi passāvampi nikkhāmenti. Addasā kho bhagavā senāsanacārikaṃ āhiṇḍanto te bhikkhū taṃ bhikkhuṃ pariggahetvā uccārampi passāvampi nikkhāmente, disvāna yena te bhikkhū tenupasaṅkami, upasaṅkamitvā te bhikkhū etadavoca – ‘‘kiṃ imassa, bhikkhave, bhikkhuno ābādho’’ti? ‘‘Imassa, bhante, āyasmato cakkhurogābādho. Imaṃ mayaṃ pariggahetvā uccārampi passāvampi nikkhāmemā’’ti. Atha kho bhagavā etasmiṃ nidāne etasmiṃ pakaraṇe dhammiṃ kathaṃ katvā bhikkhū āmantesi – ‘‘anujānāmi, bhikkhave, añjanaṃ – kāḷañjanaṃ, rasañjanaṃ, sotañjanaṃ, gerukaṃ, kapalla’’nti. Añjanūpapisanehi attho hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, candanaṃ, tagaraṃ, kāḷānusāriyaṃ, tālīsaṃ, bhaddamuttakanti. Tena kho pana samayena bhikkhū piṭṭhāni añjanāni carukesupi 12 sarāvakesupi nikkhipanti; tiṇacuṇṇehipi paṃsukehipi okiriyanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, añjaninti.
เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อุจฺจาวจา อญฺชนิโย ธาเรนฺติ – โสวณฺณมยํ, รูปิยมยํฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – ‘‘เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโน’’ติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ น, ภิกฺขเว, อุจฺจาวจา อญฺชนี ธาเรตพฺพาฯ โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฎฺฐิมยํ, ทนฺตมยํ, วิสาณมยํ, นฬมยํ, เวฬุมยํ, กฎฺฐมยํ, ชตุมยํ, ผลมยํ, โลหมยํ, สงฺขนาภิมยนฺติฯ
Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū uccāvacā añjaniyo dhārenti – sovaṇṇamayaṃ, rūpiyamayaṃ. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – ‘‘seyyathāpi gihī kāmabhogino’’ti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Na, bhikkhave, uccāvacā añjanī dhāretabbā. Yo dhāreyya, āpatti dukkaṭassa. Anujānāmi, bhikkhave, aṭṭhimayaṃ, dantamayaṃ, visāṇamayaṃ, naḷamayaṃ, veḷumayaṃ, kaṭṭhamayaṃ, jatumayaṃ, phalamayaṃ, lohamayaṃ, saṅkhanābhimayanti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺชนิโย อปารุตา โหนฺติ, ติณจุเณฺณหิปิ ปํสุเกหิปิ โอกิริยนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อปิธานนฺติฯ อปิธานํ นิปตติ ฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สุตฺตเกน พนฺธิตฺวา อญฺชนิยา พนฺธิตุนฺติฯ อญฺชนี ผลติ 13ฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สุตฺตเกน สิเพฺพตุนฺติฯ
Tena kho pana samayena añjaniyo apārutā honti, tiṇacuṇṇehipi paṃsukehipi okiriyanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, apidhānanti. Apidhānaṃ nipatati . Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, suttakena bandhitvā añjaniyā bandhitunti. Añjanī phalati 14. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, suttakena sibbetunti.
เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู องฺคุลิยา อญฺชนฺติ, อกฺขีนิ ทุกฺขานิ โหนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อญฺชนิสลากนฺติฯ
Tena kho pana samayena bhikkhū aṅguliyā añjanti, akkhīni dukkhāni honti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, añjanisalākanti.
เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อุจฺจาวจา อญฺชนิสลากาโย ธาเรนฺติ – โสวณฺณมยํ รูปิยมยํฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ, ‘‘เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโน’’ติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ น, ภิกฺขเว, อุจฺจาวจา อญฺชนิสลากา ธาเรตพฺพาฯ โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฎฺฐิมยํ…เป.… สงฺขนาภิมยนฺติฯ
Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū uccāvacā añjanisalākāyo dhārenti – sovaṇṇamayaṃ rūpiyamayaṃ. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti, ‘‘seyyathāpi gihī kāmabhogino’’ti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Na, bhikkhave, uccāvacā añjanisalākā dhāretabbā. Yo dhāreyya, āpatti dukkaṭassa. Anujānāmi, bhikkhave, aṭṭhimayaṃ…pe… saṅkhanābhimayanti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺชนิสลากา ภูมิยํ ปติตา ผรุสา โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ ฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สลากฐานิยนฺติ 15ฯ
Tena kho pana samayena añjanisalākā bhūmiyaṃ patitā pharusā hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ . Anujānāmi, bhikkhave, salākaṭhāniyanti 16.
เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู อญฺชนิมฺปิ อญฺชนิสลากมฺปิ หเตฺถน ปริหรนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อญฺชนิตฺถวิกนฺติฯ อํสพทฺธโก น โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อํสพทฺธกํ พนฺธนสุตฺตกนฺติฯ
Tena kho pana samayena bhikkhū añjanimpi añjanisalākampi hatthena pariharanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, añjanitthavikanti. Aṃsabaddhako na hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, aṃsabaddhakaṃ bandhanasuttakanti.
๒๖๖. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต ปิลินฺทวจฺฉสฺส สีสาภิตาโป โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มุทฺธนิ เตลกนฺติฯ นกฺขมนิโย โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, นตฺถุกมฺมนฺติฯ นตฺถุ คลติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, นตฺถุกรณินฺติฯ
266. Tena kho pana samayena āyasmato pilindavacchassa sīsābhitāpo hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, muddhani telakanti. Nakkhamaniyo hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, natthukammanti. Natthu galati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, natthukaraṇinti.
เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อุจฺจาวจา นตฺถุกรณิโย ธาเรนฺติ – โสวณฺณมยํ รูปิยมยํฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ, ‘‘เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโน’’ติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ น, ภิกฺขเว, อุจฺจาวจา นตฺถุกรณี ธาเรตพฺพาฯ โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฎฺฐิมยํ…เป.… สงฺขนาภิมยนฺติฯ นตฺถุํ วิสมํ อาสิญฺจนฺติ 17ฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว , ยมกนตฺถุกรณินฺติฯ นกฺขมนิโย โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ธูมํ ปาตุนฺติฯ ตเญฺญว วฎฺฎิํ อาลิเมฺปตฺวา ปิวนฺติ , กโณฺฐ ทหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ธูมเนตฺตนฺติฯ
Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū uccāvacā natthukaraṇiyo dhārenti – sovaṇṇamayaṃ rūpiyamayaṃ. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti, ‘‘seyyathāpi gihī kāmabhogino’’ti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Na, bhikkhave, uccāvacā natthukaraṇī dhāretabbā. Yo dhāreyya, āpatti dukkaṭassa. Anujānāmi, bhikkhave, aṭṭhimayaṃ…pe… saṅkhanābhimayanti. Natthuṃ visamaṃ āsiñcanti 18. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave , yamakanatthukaraṇinti. Nakkhamaniyo hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, dhūmaṃ pātunti. Taññeva vaṭṭiṃ ālimpetvā pivanti , kaṇṭho dahati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, dhūmanettanti.
เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อุจฺจาวจานิ ธูมเนตฺตานิ ธาเรนฺติ – โสวณฺณมยํ รูปิยมยํฯ มนุสฺสา อุชฺฌายนฺติ ขิยฺยนฺติ วิปาเจนฺติ – เสยฺยถาปิ คิหี กามโภคิโนติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ น, ภิกฺขเว, อุจฺจาวจานิ ธูมเนตฺตานิ ธาเรตพฺพานิฯ โย ธาเรยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฎสฺสฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อฎฺฐิมยํ…เป.… สงฺขนาภิมยนฺติฯ
Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū uccāvacāni dhūmanettāni dhārenti – sovaṇṇamayaṃ rūpiyamayaṃ. Manussā ujjhāyanti khiyyanti vipācenti – seyyathāpi gihī kāmabhoginoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Na, bhikkhave, uccāvacāni dhūmanettāni dhāretabbāni. Yo dhāreyya, āpatti dukkaṭassa. Anujānāmi, bhikkhave, aṭṭhimayaṃ…pe… saṅkhanābhimayanti.
เตน โข ปน สมเยน ธูมเนตฺตานิ อปารุตานิ โหนฺติ, ปาณกา ปวิสนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อปิธานนฺติฯ
Tena kho pana samayena dhūmanettāni apārutāni honti, pāṇakā pavisanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, apidhānanti.
เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขู ธูมเนตฺตานิ หเตฺถน ปริหรนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ธูมเนตฺตถวิกนฺติฯ เอกโต ฆํสิยนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยมกถวิกนฺติฯ อํสพทฺธโก น โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อํสพทฺธกํ พนฺธนสุตฺตกนฺติฯ
Tena kho pana samayena bhikkhū dhūmanettāni hatthena pariharanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, dhūmanettathavikanti. Ekato ghaṃsiyanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, yamakathavikanti. Aṃsabaddhako na hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, aṃsabaddhakaṃ bandhanasuttakanti.
๒๖๗. เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต ปิลินฺทวจฺฉสฺส วาตาพาโธ โหติฯ เวชฺชา เอวมาหํสุ – ‘‘เตลํ ปจิตพฺพ’’นฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เตลปากนฺติฯ ตสฺมิํ โข ปน เตลปาเก มชฺชํ ปกฺขิปิตพฺพํ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เตลปาเก มชฺชํ ปกฺขิปิตุนฺติฯ
267. Tena kho pana samayena āyasmato pilindavacchassa vātābādho hoti. Vejjā evamāhaṃsu – ‘‘telaṃ pacitabba’’nti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, telapākanti. Tasmiṃ kho pana telapāke majjaṃ pakkhipitabbaṃ hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, telapāke majjaṃ pakkhipitunti.
เตน โข ปน สมเยน ฉพฺพคฺคิยา ภิกฺขู อติปกฺขิตฺตมชฺชานิ 19 เตลานิ ปจนฺติ, ตานิ ปิวิตฺวา มชฺชนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ น, ภิกฺขเว, อติปกฺขิตฺตมชฺชํ เตลํ ปาตพฺพํฯ โย ปิเวยฺย, ยถาธโมฺม กาเรตโพฺพฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยสฺมิํ เตลปาเก มชฺชสฺส น วโณฺณ น คโนฺธ น รโส ปญฺญายติ, เอวรูปํ มชฺชปกฺขิตฺตํ เตลํ ปาตุนฺติฯ
Tena kho pana samayena chabbaggiyā bhikkhū atipakkhittamajjāni 20 telāni pacanti, tāni pivitvā majjanti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Na, bhikkhave, atipakkhittamajjaṃ telaṃ pātabbaṃ. Yo piveyya, yathādhammo kāretabbo. Anujānāmi, bhikkhave, yasmiṃ telapāke majjassa na vaṇṇo na gandho na raso paññāyati, evarūpaṃ majjapakkhittaṃ telaṃ pātunti.
เตน โข ปน สมเยน ภิกฺขูนํ พหุํ อติปกฺขิตฺตมชฺชํ เตลํ ปกฺกํ โหติฯ อถ โข ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘กถํ นุ โข อติปกฺขิตฺตมเชฺช เตเล ปฎิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อพฺภญฺชนํ อธิฎฺฐาตุนฺติฯ
Tena kho pana samayena bhikkhūnaṃ bahuṃ atipakkhittamajjaṃ telaṃ pakkaṃ hoti. Atha kho bhikkhūnaṃ etadahosi – ‘‘kathaṃ nu kho atipakkhittamajje tele paṭipajjitabba’’nti? Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, abbhañjanaṃ adhiṭṭhātunti.
เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต ปิลินฺทวจฺฉสฺส พหุตรํ เตลํ ปกฺกํ โหติ, เตลภาชนํ น วิชฺชติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ตีณิ ตุมฺพานิ – โลหตุมฺพํ, กฎฺฐตุมฺพํ, ผลตุมฺพนฺติฯ
Tena kho pana samayena āyasmato pilindavacchassa bahutaraṃ telaṃ pakkaṃ hoti, telabhājanaṃ na vijjati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, tīṇi tumbāni – lohatumbaṃ, kaṭṭhatumbaṃ, phalatumbanti.
เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต ปิลินฺทวจฺฉสฺส องฺควาโต โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, เสทกมฺมนฺติฯ นกฺขมนิโย โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สมฺภารเสทนฺติฯ นกฺขมนิโย โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มหาเสทนฺติฯ นกฺขมนิโย โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ภโงฺคทกนฺติฯ นกฺขมนิโย โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อุทกโกฎฺฐกนฺติฯ
Tena kho pana samayena āyasmato pilindavacchassa aṅgavāto hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, sedakammanti. Nakkhamaniyo hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, sambhārasedanti. Nakkhamaniyo hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, mahāsedanti. Nakkhamaniyo hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, bhaṅgodakanti. Nakkhamaniyo hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, udakakoṭṭhakanti.
เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต ปิลินฺทวจฺฉสฺส ปพฺพวาโต โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โลหิตํ โมเจตุนฺติฯ นกฺขมนิโย โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โลหิตํ โมเจตฺวา วิสาเณน คาเหตุนฺติ 21ฯ
Tena kho pana samayena āyasmato pilindavacchassa pabbavāto hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, lohitaṃ mocetunti. Nakkhamaniyo hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, lohitaṃ mocetvā visāṇena gāhetunti 22.
เตน โข ปน สมเยน อายสฺมโต ปิลินฺทวจฺฉสฺส ปาทา ผลิตา 23 โหนฺติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปาทพฺภญฺชนนฺติฯ นกฺขมนิโย โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปชฺชํ อภิสงฺขริตุนฺติฯ
Tena kho pana samayena āyasmato pilindavacchassa pādā phalitā 24 honti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, pādabbhañjananti. Nakkhamaniyo hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, pajjaṃ abhisaṅkharitunti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺส ภิกฺขุโน คณฺฑาพาโธ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สตฺถกมฺมนฺติฯ กสาโวทเกน อโตฺถ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กสาโวทกนฺติฯ ติลกเกฺกน อโตฺถ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ติลกกฺกนฺติฯ กพฬิกาย อโตฺถ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กพฬิกนฺติฯ วณพนฺธนโจเฬน อโตฺถ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วณพนฺธนโจฬนฺติฯ วโณ กณฺฑุวติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สาสปกุเฎฺฎน 25 โผสิตุนฺติฯ วโณ กิลิชฺชิตฺถฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ , ภิกฺขเว, ธูมํ กาตุนฺติฯ วฑฺฒมํสํ วุฎฺฐาติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, โลณสกฺขริกาย ฉินฺทิตุนฺติฯ วโณ น รุหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วณเตลนฺติฯ เตลํ คลติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ , ภิกฺขเว, วิกาสิกํ สพฺพํ วณปฎิกมฺมนฺติฯ
Tena kho pana samayena aññatarassa bhikkhuno gaṇḍābādho hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, satthakammanti. Kasāvodakena attho hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, kasāvodakanti. Tilakakkena attho hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, tilakakkanti. Kabaḷikāya attho hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, kabaḷikanti. Vaṇabandhanacoḷena attho hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, vaṇabandhanacoḷanti. Vaṇo kaṇḍuvati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, sāsapakuṭṭena 26 phositunti. Vaṇo kilijjittha. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi , bhikkhave, dhūmaṃ kātunti. Vaḍḍhamaṃsaṃ vuṭṭhāti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, loṇasakkharikāya chinditunti. Vaṇo na ruhati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, vaṇatelanti. Telaṃ galati. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi , bhikkhave, vikāsikaṃ sabbaṃ vaṇapaṭikammanti.
๒๖๘. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ อหินา ทโฎฺฐ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, จตฺตาริ มหาวิกฎานิ ทาตุํ – คูถํ, มุตฺตํ, ฉาริกํ, มตฺติกนฺติฯ อถ โข ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘อปฺปฎิคฺคหิตานิ นุ โข อุทาหุ ปฎิคฺคเหตพฺพานี’’ติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สติ กปฺปิยการเก ปฎิคฺคหาเปตุํ, อสติ กปฺปิยการเก สามํ คเหตฺวา ปริภุญฺชิตุนฺติฯ
268. Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu ahinā daṭṭho hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, cattāri mahāvikaṭāni dātuṃ – gūthaṃ, muttaṃ, chārikaṃ, mattikanti. Atha kho bhikkhūnaṃ etadahosi – ‘‘appaṭiggahitāni nu kho udāhu paṭiggahetabbānī’’ti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, sati kappiyakārake paṭiggahāpetuṃ, asati kappiyakārake sāmaṃ gahetvā paribhuñjitunti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตเรน ภิกฺขุนา วิสํ ปีตํ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ ภิกฺขเว คูถํ ปาเยตุนฺติฯ อถ โข ภิกฺขูนํ เอตทโหสิ – ‘‘อปฺปฎิคฺคหิตํ นุ โข อุทาหุ ปฎิคฺคเหตโพฺพ’’ติ? ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ยํ กโรโนฺต ปฎิคฺคณฺหาติ, เสฺวว ปฎิคฺคโห กโต, น ปุน 27 ปฎิคฺคเหตโพฺพติฯ
Tena kho pana samayena aññatarena bhikkhunā visaṃ pītaṃ hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi bhikkhave gūthaṃ pāyetunti. Atha kho bhikkhūnaṃ etadahosi – ‘‘appaṭiggahitaṃ nu kho udāhu paṭiggahetabbo’’ti? Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, yaṃ karonto paṭiggaṇhāti, sveva paṭiggaho kato, na puna 28 paṭiggahetabboti.
๒๖๙. เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺส ภิกฺขุโน ฆรทินฺนกาพาโธ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, สีตาโลฬิํ ปาเยตุนฺติฯ
269. Tena kho pana samayena aññatarassa bhikkhuno gharadinnakābādho hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, sītāloḷiṃ pāyetunti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ ทุฎฺฐคหณิโก โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อามิสขารํ ปาเยตุนฺติฯ
Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu duṭṭhagahaṇiko hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, āmisakhāraṃ pāyetunti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺส ภิกฺขุโน ปณฺฑุโรคาพาโธ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ ฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, มุตฺตหรีตกํ ปาเยตุนฺติฯ
Tena kho pana samayena aññatarassa bhikkhuno paṇḍurogābādho hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ . Anujānāmi, bhikkhave, muttaharītakaṃ pāyetunti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตรสฺส ภิกฺขุโน ฉวิโทสาพาโธ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, คนฺธาเลปํ กาตุนฺติฯ
Tena kho pana samayena aññatarassa bhikkhuno chavidosābādho hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, gandhālepaṃ kātunti.
เตน โข ปน สมเยน อญฺญตโร ภิกฺขุ อภิสนฺนกาโย โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ ฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, วิเรจนํ ปาตุนฺติฯ อจฺฉกญฺชิยา อโตฺถ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อจฺฉกญฺชินฺติฯ อกฎยูเสน อโตฺถ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, อกฎยูสนฺติฯ กฎากเฎน อโตฺถ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, กฎากฎนฺติฯ ปฎิจฺฉาทนีเยน อโตฺถ โหติฯ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํฯ อนุชานามิ, ภิกฺขเว, ปฎิจฺฉาทนียนฺติฯ
Tena kho pana samayena aññataro bhikkhu abhisannakāyo hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ . Anujānāmi, bhikkhave, virecanaṃ pātunti. Acchakañjiyā attho hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, acchakañjinti. Akaṭayūsena attho hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, akaṭayūsanti. Kaṭākaṭena attho hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, kaṭākaṭanti. Paṭicchādanīyena attho hoti. Bhagavato etamatthaṃ ārocesuṃ. Anujānāmi, bhikkhave, paṭicchādanīyanti.
มูลาทิเภสชฺชกถา นิฎฺฐิตาฯ
Mūlādibhesajjakathā niṭṭhitā.
Footnotes:
Related texts:
อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / ปญฺจเภสชฺชาทิกถา • Pañcabhesajjādikathā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ปญฺจเภสชฺชาทิกถาวณฺณนา • Pañcabhesajjādikathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ปญฺจเภสชฺชาทิกถาวณฺณนา • Pañcabhesajjādikathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ปญฺจเภสชฺชาทิกถาวณฺณนา • Pañcabhesajjādikathāvaṇṇanā
ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi / ๑๖๑. มูลาทิเภสชฺชกถา • 161. Mūlādibhesajjakathā