Library / Tipiṭaka / ติปิฎก • Tipiṭaka / ปาจิตฺยาทิโยชนาปาฬิ • Pācityādiyojanāpāḷi

    ๑๖๑. มูลาทิเภสชฺชกถา

    161. Mūlādibhesajjakathā

    ๒๖๓. มูลเภสชฺชาทิวินิจฺฉโยปีติ ปิสโทฺท อจฺฉวสนฺติอาทีสุ วินิจฺฉยํ อเปกฺขติฯ อิธาติ เภสชฺชกฺขนฺธเกฯ ยํ ยนฺติ วินิจฺฉยํฯ ปิสนสิลาติ ปิสติ เอตฺถาติ ปิสนา, สาเยว สิลาติ ปิสนสิลาฯ อิมินา อจลํ หุตฺวา นิสีทตีติ นิสโทติ อตฺถํ ทเสฺสติฯ ปิสนโปตโกติ ปิสติ อเนนาติ ปิสโน, โสเยว โปตโกติ ปิสนโปตโก, อิมินา นิสทโต โปตโกติ นิสทโปตโกติ อตฺถํ ทเสฺสติฯ หิงฺคุชาติโยติ หิงฺคุกุลานิฯ

    263.Mūlabhesajjādivinicchayopīti pisaddo acchavasantiādīsu vinicchayaṃ apekkhati. Idhāti bhesajjakkhandhake. Yaṃ yanti vinicchayaṃ. Pisanasilāti pisati etthāti pisanā, sāyeva silāti pisanasilā. Iminā acalaṃ hutvā nisīdatīti nisadoti atthaṃ dasseti. Pisanapotakoti pisati anenāti pisano, soyeva potakoti pisanapotako, iminā nisadato potakoti nisadapotakoti atthaṃ dasseti. Hiṅgujātiyoti hiṅgukulāni.

    สามุทฺทนฺติ เอตฺถ สมุเทฺท สนฺติฎฺฐตีติ สามุทฺทนฺติ วจนตฺถํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘สมุทฺทตีเร’’ติอาทิฯ ‘‘ตีเร’’ติ อิมินา สมุเทฺทติ เอตฺถ สตฺตมีวิภตฺติยา สมีปเตฺถ ปวตฺตภาวํ ทเสฺสติฯ ปกติโลณนฺติ สภาวโลณํ, น ทพฺพสมฺภาเรหิ สทฺธิํ ปจิตนฺติ อโตฺถฯ ‘‘ปพฺพเต อุฎฺฐหตี’’ติ อิมินา สินฺธุนามเก ปพฺพเต อุฎฺฐหตีติ สินฺธวนฺติ อตฺถํ ทเสฺสติฯ อุพฺพิโต ภูมิโต อีรติ อุคฺคจฺฉตีติ อุพฺพิรนฺติ วจนตฺถํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ภูมิโต องฺกุรํ อุฎฺฐหตี’’ติฯ อิมินา อฎฺฐกถานเยน โอฎฺฐโช ตติยกฺขโรเยว ยุชฺชติ, โปตฺถเกสุ ปน จตุตฺถกฺขโรเยว ทิสฺสติฯ ‘‘อุพฺภิท’’นฺติปิ ปาโฐฯ พิลนฺติ โกฎฺฐาโสฯ ตสฺมา ทพฺพสมฺภาเรหิ พิเลหิ สทฺธิํ ปจิตํ พิลนฺติ อตฺถํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ทพฺพสมฺภาเรหิ สทฺธิํ ปจิต’’นฺติฯ อภิธาเน ปน (อภิธาเน ๔๖๑ คาถายํ) ‘‘พิลาล’’นฺติ ปาโฐ อตฺถิฯ นฺติ พิลํฯ

    Sāmuddanti ettha samudde santiṭṭhatīti sāmuddanti vacanatthaṃ dassento āha ‘‘samuddatīre’’tiādi. ‘‘Tīre’’ti iminā samuddeti ettha sattamīvibhattiyā samīpatthe pavattabhāvaṃ dasseti. Pakatiloṇanti sabhāvaloṇaṃ, na dabbasambhārehi saddhiṃ pacitanti attho. ‘‘Pabbate uṭṭhahatī’’ti iminā sindhunāmake pabbate uṭṭhahatīti sindhavanti atthaṃ dasseti. Ubbito bhūmito īrati uggacchatīti ubbiranti vacanatthaṃ dassento āha ‘‘bhūmito aṅkuraṃ uṭṭhahatī’’ti. Iminā aṭṭhakathānayena oṭṭhajo tatiyakkharoyeva yujjati, potthakesu pana catutthakkharoyeva dissati. ‘‘Ubbhida’’ntipi pāṭho. Bilanti koṭṭhāso. Tasmā dabbasambhārehi bilehi saddhiṃ pacitaṃ bilanti atthaṃ dassento āha ‘‘dabbasambhārehi saddhiṃ pacita’’nti. Abhidhāne pana (abhidhāne 461 gāthāyaṃ) ‘‘bilāla’’nti pāṭho atthi. Tanti bilaṃ.

    ๒๖๔. อสฺสาทีนํ กายคโนฺธ วิย กสฺสจิ กายคโนฺธ โหตีติ โยชนาฯ ตสฺสาปีติ ภิกฺขุโนปิฯ ปิสเทฺทน กณฺฑุวาพาธภิกฺขุอาทโยปิ สมฺปิเณฺฑติฯ ฉกณสทฺทสฺส อสฺสาทีนํ มเลปิ ปวตฺตนโต วุตฺตํ ‘‘โคมย’’นฺติฯ ปากติกจุณฺณมฺปีติ อปกฺกรชนจุณฺณมฺปิฯ เอตมฺปีติ ปากติกจุณฺณมฺปิฯ

    264. Assādīnaṃ kāyagandho viya kassaci kāyagandho hotīti yojanā. Tassāpīti bhikkhunopi. Pisaddena kaṇḍuvābādhabhikkhuādayopi sampiṇḍeti. Chakaṇasaddassa assādīnaṃ malepi pavattanato vuttaṃ ‘‘gomaya’’nti. Pākatikacuṇṇampīti apakkarajanacuṇṇampi. Etampīti pākatikacuṇṇampi.

    นฺติ อามกมํสํ, น ขาทีติ สมฺพโนฺธฯ นฺติ อามกโลหิตํ วา, น ปิวีติ สมฺพโนฺธฯ อมนุโสฺสติ มนุสฺสสทิโส ภูโตฯ นฺติ อามกมํสโลหิตํฯ

    Tanti āmakamaṃsaṃ, na khādīti sambandho. Tanti āmakalohitaṃ vā, na pivīti sambandho. Amanussoti manussasadiso bhūto. Tanti āmakamaṃsalohitaṃ.

    ๒๖๕. ‘‘อญฺชน’’นฺติ นามํ สามญฺญนฺติ อาห ‘‘อญฺชนนฺติ สพฺพสงฺคาหกวจนเมต’’นฺติฯ สพฺพสงฺคาหกวจนนฺติ สเพฺพสํ อญฺชนานํ สงฺคาหกวจนํฯ เอตนฺติ ‘‘อญฺชน’’นฺติ เอตํ วจนํฯ อญฺชติ จกฺขุํ มเกฺขติ อเนนาติ อญฺชนํ, อญฺชติ จกฺขุํ พฺยตฺตํ กโรตีติ วา อญฺชนํ, ตาลุโช ตติยกฺขโรฯ กปลฺลนฺติ กปเลฺล ปวตฺตํฯ กปาลญฺหิ ทีปสิขาย อุปริ นิกุชฺชิตฺวา ตตฺถ ปวตฺตํ มสิ ‘‘กปลฺล’’นฺติ วุจฺจติฯ ตมตฺถํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ทีปสิขโต คหิตมสี’’ติฯ อญฺชนูปปิสเนหีติ เอตฺถ อญฺชเนหิ สทฺธิํ อุปเนตุํ ปิสิตพฺพนฺติ อญฺชนูปปิสนนฺติ วจนตฺถํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘อญฺชเนน สทฺธิํ เอกโต ปิสิเตหี’’ติฯ ‘‘เอกโต’’ติ อิมินา ‘‘สทฺธิ’’นฺติ ปทเสฺสว อตฺถํ ทเสฺสติฯ หีติ สจฺจํฯ ยํกิญฺจิ อญฺชนูปปิสนํ จุณฺณํ น น วฎฺฎตีติ โยชนาฯ อถ วา น วฎฺฎติ น โหติ, วฎฺฎติเยวาติ โยชนาฯ อิมสฺมิํ นเย ‘‘น วฎฺฎตี’’ติ อาขฺยาตปทํ กิริยานฺตราเปกฺขตฺตา กตฺตา โหติฯ อาขฺยาเตสุปิ หิ กตฺตุตฺตญฺจ กมฺมตฺตญฺจ ลพฺภติฯ จนฺทนนฺติอาทีนิ สุวิเญฺญยฺยาเนวฯ

    265.‘‘Añjana’’nti nāmaṃ sāmaññanti āha ‘‘añjananti sabbasaṅgāhakavacanameta’’nti. Sabbasaṅgāhakavacananti sabbesaṃ añjanānaṃ saṅgāhakavacanaṃ. Etanti ‘‘añjana’’nti etaṃ vacanaṃ. Añjati cakkhuṃ makkheti anenāti añjanaṃ, añjati cakkhuṃ byattaṃ karotīti vā añjanaṃ, tālujo tatiyakkharo. Kapallanti kapalle pavattaṃ. Kapālañhi dīpasikhāya upari nikujjitvā tattha pavattaṃ masi ‘‘kapalla’’nti vuccati. Tamatthaṃ dassento āha ‘‘dīpasikhato gahitamasī’’ti. Añjanūpapisanehīti ettha añjanehi saddhiṃ upanetuṃ pisitabbanti añjanūpapisananti vacanatthaṃ dassento āha ‘‘añjanena saddhiṃ ekato pisitehī’’ti. ‘‘Ekato’’ti iminā ‘‘saddhi’’nti padasseva atthaṃ dasseti. ti saccaṃ. Yaṃkiñci añjanūpapisanaṃ cuṇṇaṃ na na vaṭṭatīti yojanā. Atha vā na vaṭṭati na hoti, vaṭṭatiyevāti yojanā. Imasmiṃ naye ‘‘na vaṭṭatī’’ti ākhyātapadaṃ kiriyāntarāpekkhattā kattā hoti. Ākhyātesupi hi kattuttañca kammattañca labbhati. Candanantiādīni suviññeyyāneva.

    อฎฺฐิมยนฺติ ปทสฺส อติพฺยาปิตโทสํ ปฎิกฺขิปโนฺต อาห ‘‘มนุสฺสฎฺฐิํ ฐเปตฺวา’’ติฯ สลากฎฺฐานิยนฺติ เอตฺถ สลากา ติฎฺฐนฺติ เอตฺถาติ สลากฎฺฐานิยนฺติ วจนตฺถํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘ยตฺถา’’ติอาทิฯ ตตฺถ ยตฺถาติ ยสฺมิํ สุสิรทณฺฑกาทิเกฯ สลากนฺติ อญฺชนิสลากํฯ โอทหนฺตีติ ฐเปนฺติฯ อํสพทฺธโกติ อํเส พทฺธติ อเนนาติ อํสพทฺธโกฯ ยมกนตฺถุกรณินฺติ นตฺถุ กรียติ อิมายาติ นตฺถุกรณี, ยมกา นตฺถุกรณี ยมกนตฺถุกรณีฯ

    Aṭṭhimayanti padassa atibyāpitadosaṃ paṭikkhipanto āha ‘‘manussaṭṭhiṃ ṭhapetvā’’ti. Salākaṭṭhāniyanti ettha salākā tiṭṭhanti etthāti salākaṭṭhāniyanti vacanatthaṃ dassento āha ‘‘yatthā’’tiādi. Tattha yatthāti yasmiṃ susiradaṇḍakādike. Salākanti añjanisalākaṃ. Odahantīti ṭhapenti. Aṃsabaddhakoti aṃse baddhati anenāti aṃsabaddhako. Yamakanatthukaraṇinti natthu karīyati imāyāti natthukaraṇī, yamakā natthukaraṇī yamakanatthukaraṇī.

    ๒๖๗. ตํ สพฺพํ เตลปากนฺติ สมฺพโนฺธฯ ‘‘อติ วิย ขิตฺตมชฺชานี’’ติ อิมินา อติ วิย ขิปียนฺติ ปกฺขิปียนฺตีติ อติขิตฺตานิ, ตานิเยว มชฺชานิ อติขิตฺตมชฺชานีติ วจนตฺถํ ทเสฺสติฯ

    267. Taṃ sabbaṃ telapākanti sambandho. ‘‘Ati viya khittamajjānī’’ti iminā ati viya khipīyanti pakkhipīyantīti atikhittāni, tāniyeva majjāni atikhittamajjānīti vacanatthaṃ dasseti.

    ปณฺณเสทนฺติ ปเณฺณหิ เสทํฯ องฺคารานนฺติ องฺคาเรหิฯ ตตฺถาติ เตสุ ปํสุวาลิกาทีสุฯ วาตหรณปณฺณานีติ วาตสฺส อปนยนานิ อุทฺทาลาทีนิ ปณฺณานิฯ ตตฺถาติ เตสุ ปเณฺณสุฯ นานาปณฺณภงฺคกุถิตนฺติ นานาปณฺณานิเยว ภญฺชิตพฺพเฎฺฐน นานาปณฺณภงฺคํ, เตน กุถิตํ นานาปณฺณภงฺคกุถิตํฯ อุโณฺหทกสฺสาติ อุโณฺหทเกนฯ ตตฺถาติ อุทกโกฎฺฐเกฯ

    Paṇṇasedanti paṇṇehi sedaṃ. Aṅgārānanti aṅgārehi. Tatthāti tesu paṃsuvālikādīsu. Vātaharaṇapaṇṇānīti vātassa apanayanāni uddālādīni paṇṇāni. Tatthāti tesu paṇṇesu. Nānāpaṇṇabhaṅgakuthitanti nānāpaṇṇāniyeva bhañjitabbaṭṭhena nānāpaṇṇabhaṅgaṃ, tena kuthitaṃ nānāpaṇṇabhaṅgakuthitaṃ. Uṇhodakassāti uṇhodakena. Tatthāti udakakoṭṭhake.

    ปเพฺพ ปเพฺพติ ผฬุมฺหิ ผฬุมฺหิฯ เยนาติ ปเชฺชนฯ ตํ ปชฺชํ อภิสงฺขริตุนฺติ โยชนาฯ ‘‘ปาทานํ สปฺปายเภสชฺช’’นฺติ อิมินา ปาทสฺส หิตํ ปชฺชนฺติ วจนตฺถํ ทเสฺสติฯ ติลกเกฺกนาติ เอตฺถ กกฺกสทฺทสฺส จุณฺณวาจกตฺตา ‘‘ปิเฎฺฐหี’’ติ วุตฺตํฯ กพเฬน ปกฺขิปนํ กพฬิกํฯ สตฺตุปิณฺฑสฺส ภตฺตกพฬสทิสตฺตา สตฺตุปิณฺฑนฺติ วุตฺตํฯ อาณิ วิยาติ ขีลา วิยฯ ขาเรนาติ โลณสกฺขริกมเยน ขาเรนฯ วิกาสํ รุนฺธตีติ วิกาสิกํ, เตลรุนฺธนปิโลติกํฯ วณกมฺมนฺติ วณสฺส, วเณ วา กมฺมํฯ

    Pabbe pabbeti phaḷumhi phaḷumhi. Yenāti pajjena. Taṃ pajjaṃ abhisaṅkharitunti yojanā. ‘‘Pādānaṃ sappāyabhesajja’’nti iminā pādassa hitaṃ pajjanti vacanatthaṃ dasseti. Tilakakkenāti ettha kakkasaddassa cuṇṇavācakattā ‘‘piṭṭhehī’’ti vuttaṃ. Kabaḷena pakkhipanaṃ kabaḷikaṃ. Sattupiṇḍassa bhattakabaḷasadisattā sattupiṇḍanti vuttaṃ. Āṇi viyāti khīlā viya. Khārenāti loṇasakkharikamayena khārena. Vikāsaṃ rundhatīti vikāsikaṃ, telarundhanapilotikaṃ. Vaṇakammanti vaṇassa, vaṇe vā kammaṃ.

    ๒๖๘. สปฺปทฎฺฐกาเลเยว กิํ สามํ คเหตฺวา ปริภุญฺชิตพฺพนฺติ อาห ‘‘น เกวล’’นฺติอาทิฯ อิทนฺติ มหาวิกฎํ, ปริภุญฺชีกพฺพนฺติ สมฺพโนฺธ ฯ อเญฺญสุ ปนาติ สปฺปทฎฺฐโต อเญฺญสุ ปนฯ สเจ ภูมิปโตฺต คูโถ โหติ, ปฎิคฺคเหตโพฺพติ โยชนาฯ

    268. Sappadaṭṭhakāleyeva kiṃ sāmaṃ gahetvā paribhuñjitabbanti āha ‘‘na kevala’’ntiādi. Idanti mahāvikaṭaṃ, paribhuñjīkabbanti sambandho . Aññesu panāti sappadaṭṭhato aññesu pana. Sace bhūmipatto gūtho hoti, paṭiggahetabboti yojanā.

    ๒๖๙. วสีกรณปานกสมุฎฺฐิตโรโคติ กนฺติภาวสงฺขาตํ วสํ กโรติ อเนนาติ วสีกรณํ, เภสชฺชํ, ปิวเต ปานํ, ตํเยว ปานกํ, วสีกรณสฺส ปานกํ วสีกรณปานกํ, เตน สมุฎฺฐิโต โรโค วสีกรณปานกสมุฎฺฐิตโรโคฯ อิมินา ฆรทินฺนกาพาโธติ เอตฺถ ฆรณิยา ทิเนฺนน วสีกรณปานเกน สมุฎฺฐิโต อาพาโธ ฆรทินฺนกาพาโธติ วจนตฺถํ ทเสฺสติฯ สีตาย อาโลเฬตพฺพนฺติ สีตาโลฬํ, อุทกํฯ สีตาสโทฺท นงฺคลเลขาสงฺขาตํ ผาลปทฺธติํ มุขฺยโต วทติ, ผาลปทฺธติกเร ผาเล ลคฺคมตฺติกํ อุปจารโต วทติฯ เตน วุตฺตํ ‘‘สีตาย อาโลเฬตพฺพ’’นฺติฯ อฎฺฐกถายมฺปิ ตมตฺถํ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘นงฺคเลนา’’ติอาทิฯ

    269.Vasīkaraṇapānakasamuṭṭhitarogoti kantibhāvasaṅkhātaṃ vasaṃ karoti anenāti vasīkaraṇaṃ, bhesajjaṃ, pivate pānaṃ, taṃyeva pānakaṃ, vasīkaraṇassa pānakaṃ vasīkaraṇapānakaṃ, tena samuṭṭhito rogo vasīkaraṇapānakasamuṭṭhitarogo. Iminā gharadinnakābādhoti ettha gharaṇiyā dinnena vasīkaraṇapānakena samuṭṭhito ābādho gharadinnakābādhoti vacanatthaṃ dasseti. Sītāya āloḷetabbanti sītāloḷaṃ, udakaṃ. Sītāsaddo naṅgalalekhāsaṅkhātaṃ phālapaddhatiṃ mukhyato vadati, phālapaddhatikare phāle laggamattikaṃ upacārato vadati. Tena vuttaṃ ‘‘sītāya āloḷetabba’’nti. Aṭṭhakathāyampi tamatthaṃ dassento āha ‘‘naṅgalenā’’tiādi.

    วิปกฺกคหณิโกติ วิเสเสน ปาจาปนคหณิโกฯ มุตฺตหรีตกนฺติ เอตฺถ ‘‘มุตฺต’’นฺติ สามญฺญโต วุเตฺตปิ โคมุตฺตเมว คเหตพฺพนฺติ ทเสฺสโนฺต อาห ‘‘โคมุตฺตปริภาวิตํ หรีตก’’นฺติฯ อิมินา มุเตฺตน ปริภาวิตํ หรีตกํ มุตฺตหรีตกนฺติ วจนตฺถํ ทเสฺสติฯ ตณฺฑุลกสโฎติ ตณฺฑุลโธวโนทกกสโฎ โธตสินิโทฺธ, โสว มุคฺคปจิตปานีโยติ โยชนาฯ ‘‘มํสรเสนา’’ติ อิมินา มํสรโส มํเสน ปฎิจฺฉาเทตพฺพนฺติ ปฎิจฺฉาทนียนฺติ วุจฺจตีติ ทเสฺสติฯ

    Vipakkagahaṇikoti visesena pācāpanagahaṇiko. Muttaharītakanti ettha ‘‘mutta’’nti sāmaññato vuttepi gomuttameva gahetabbanti dassento āha ‘‘gomuttaparibhāvitaṃ harītaka’’nti. Iminā muttena paribhāvitaṃ harītakaṃ muttaharītakanti vacanatthaṃ dasseti. Taṇḍulakasaṭoti taṇḍuladhovanodakakasaṭo dhotasiniddho, sova muggapacitapānīyoti yojanā. ‘‘Maṃsarasenā’’ti iminā maṃsaraso maṃsena paṭicchādetabbanti paṭicchādanīyanti vuccatīti dasseti.







    Related texts:



    ติปิฎก (มูล) • Tipiṭaka (Mūla) / วินยปิฎก • Vinayapiṭaka / มหาวคฺคปาฬิ • Mahāvaggapāḷi / ๑๖๑. มูลาทิเภสชฺชกถา • 161. Mūlādibhesajjakathā

    อฎฺฐกถา • Aṭṭhakathā / วินยปิฎก (อฎฺฐกถา) • Vinayapiṭaka (aṭṭhakathā) / มหาวคฺค-อฎฺฐกถา • Mahāvagga-aṭṭhakathā / ปญฺจเภสชฺชาทิกถา • Pañcabhesajjādikathā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / สารตฺถทีปนี-ฎีกา • Sāratthadīpanī-ṭīkā / ปญฺจเภสชฺชาทิกถาวณฺณนา • Pañcabhesajjādikathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วชิรพุทฺธิ-ฎีกา • Vajirabuddhi-ṭīkā / ปญฺจเภสชฺชาทิกถาวณฺณนา • Pañcabhesajjādikathāvaṇṇanā

    ฎีกา • Tīkā / วินยปิฎก (ฎีกา) • Vinayapiṭaka (ṭīkā) / วิมติวิโนทนี-ฎีกา • Vimativinodanī-ṭīkā / ปญฺจเภสชฺชาทิกถาวณฺณนา • Pañcabhesajjādikathāvaṇṇanā


    © 1991-2023 The Titi Tudorancea Bulletin | Titi Tudorancea® is a Registered Trademark | Terms of use and privacy policy
    Contact